Friday, 9 May 2025
NewsFeed

‘เป้ย ปานวาด’ เผย!! ‘น้องปาลิน’ ได้กลับบ้านแล้ว หลังเข้ารับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์-ทอนซิลโต

(18 ก.ค. 66) หลังจากที่คุณแม่ยังสวย ‘เป้ย ปานวาด บุญยรัตกลิน’ ได้ออกมาเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าลูกสาวสุดทีรัก ‘น้องปาลิน’ ต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์และทอนซิลเป็นการด่วน

ล่าสุด ‘แม่เป้ย’ ก็ได้อัปเดตอาการของน้องปาลินและแจ้งข่าวดีว่าตอนนี้ ‘น้องปาลิน’ สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผ่านอินสตาแกรมพร้อมระบุแคปชันว่า "น้องได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เป้ยขอขอบคุณทุก ๆ คนจากใจนะคะ" ท่ามกลางพี่ ๆ ชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจน้องปาลินและคุณแม่เป้ยกันมากมาย

HP แบรนด์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก  เตรียมย้ายกำลังการผลิตคอมฯ บางส่วนออกจากจีนมายังไทย

(18 ก.ค. 66) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่จากสหรัฐอเมริกาอย่าง HP ล่าสุดได้เตรียมย้ายกำลังการผลิตสินค้าบางส่วนออกนอกประเทศจีน โดยย้ายมายังประเทศไทย เม็กซิโก เวียดนาม เนื่องจากต้องการให้ห่วงโซ่การผลิตของบริษัทไม่สะดุด

Nikkei Asia รายงานข่าวว่า HP ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้เตรียมย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย และประเทศเม็กซิโก และบริษัทยังเตรียมขยายกำลังการผลิตในประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน รวมถึงทั่วโลกหลังจากนี้

สื่อธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นได้รายงานว่า HP ได้ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในการย้ายฐานการผลิตมายัง 2 ประเทศนี้ โดยในประเทศไทย HP เตรียมที่จะผลิต Laptop สำหรับตลาดผู้บริโภค ขณะที่ Laptop ที่จำหน่ายให้กับองค์กรต่าง ๆ จะใช้ฐานการผลิตที่เม็กซิโก นอกจากประเทศไทยแล้ว HP ยังเตรียมย้ายกำลังการผลิตมายังเวียดนามในช่วงปีหน้าด้วย

ในปีที่ผ่านมา HP ได้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไปมากถึง 55.2 ล้านเครื่อง และในจำนวนดังกล่าวมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ผลิตนอกประเทศจีนอยู่ราว ๆ 3 ถึง 5 ล้านเครื่อง

สำหรับประเทศไทยนั้นมีซัพพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย ทำให้ HP ตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานการผลิตอีกแห่ง ขณะที่เม็กซิโกถือเป็นฐานการผลิตสินค้าสำคัญในอเมริกาเหนือ และยังมีข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดสำคัญของ HP เนื่องจากคำสั่งซื้อราวๆ 31% ขณะที่ตลาดในประเทศจีนนั้นมีสัดส่วนไม่ถึง 8% ของยอดขายของบริษัท เนื่องจากคู่แข่งอย่าง Lenovo รวมถึง Huawei ครองตลาดในประเทศจีนแทบเบ็ดเสร็จ

สาเหตุที่ทำให้ HP ต้องย้ายกำลังการผลิตบางส่วนออกนอกประเทศจีน บริษัทได้ให้เหตุผลเนื่องจากต้องการให้ห่วงโซ่การผลิตสินค้าของบริษัทมีความยืดหยุ่น เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของภาคการผลิต และต้องการที่จะตอบสนองลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลก

นอกจากผู้ผลิตอย่าง HP แล้ว Dell ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อีกรายก็ได้เตรียมที่จะย้ายกำลังการผลิต 20% ของสัดส่วนการผลิตทั้งหมดมายังประเทศเวียดนาม รวมถึงเปลี่ยนผ่านการผลิตสินค้าที่พึ่งพาชิปจากประเทศจีนด้วย ขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น เช่น Apple เองก็ตั้งเป้าที่จะกระจายกำลังการผลิตไปยังเวียดนามหรืออินเดียด้วย

อย่างไรก็ดีบริษัทได้กล่าวว่ายังให้ความสำคัญกับฐานการผลิตในเมืองฉงชิ่งของจีนอยู่ โดยฐานการผลิตนี้เปิดตัวในช่วงปี 2008 และเป็นฮับในการผลิต Laptop สำคัญของบริษัทด้วย

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทหลายแห่งได้เตรียมการที่จะย้ายฐานการผลิต หรือแม้แต่ย้ายกำลังการผลิตออกนอกประเทศจีน หลังจากที่จีนได้ใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าทั่วโลก ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน และยังรวมถึงความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบกับการทำธุรกิจหลังจากนี้ได้

‘ดีเจเป้’ ปล่อยภาพร่วมเฟรม ‘เชียร์-ไฮโซบิ๊ก’  การันตีความรักแฮปปี้ ไม่ได้เลิกราตามข่าวลือ

ต้องบอกว่าเป็นประเด็นที่ทำเอาขาเมาท์ทั้งหลายฮือฮาตาลุกและสืบกันสนั่นเลยทีเดียวว่าคู่ไหน? หลังจากที่เพจดังอย่าง ‘เจ๊มอย 108’ ออกมาโพสต์ข้อความชวนเผือกว่า “มีคู่รักมาดเท่ เค้าอันฟอลกันอีกคู่ละนะ เนี่ยๆ จะมีคู่เลิกเงียบกันอีกละหรา ?”

ซึ่งหลังจากที่ได้เบาะแสดังกล่าวแล้วนั้น ก็ทำให้มีการพุ่งเป้าไปที่คู่ของนางเอกสาวสวยมาดเท่อย่าง ‘เชียร์ ฑิฆัมพร’ และแฟนหนุ่มนักธุรกิจอย่าง ‘ไฮโซบิ๊ก ธนพนธ์ เบญจรงคกุล’ เพราะสังเกตเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้มีการอัปเดตภาพคู่หวาน ๆ ให้ได้กดไลก์นานแล้ว อีกทั้งยังพบว่าสาวเชียร์ได้อัลฟอลโลว์หนุ่มบิ๊กแล้ว แต่ขณะที่ฝ่ายชายยังฟอลโลว์แฟนสาวอยู่

แต่ทว่าล่าสุด (18 ก.ค. 66) แฟน ๆ ต่างก็ใจชื้นไปตาม ๆ กัน หลังจากที่ทางด้าน ‘ดีเจเป้ วิศวะ’ ได้อัปเดตภาพสยบข่าวลือได้ดีไม่น้อย ด้วยการเผยภาพร่วมเฟรมกับ ‘เชียร์-ไฮโซบิ๊ก’, ‘ดีเจพุฒ-จุ๋ย วรัทยา’ และ ‘คิริน ไซมอน’ ลงอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมกับเขียนแคปชันบอกว่า “อุ้ยๆ เจอคู่รักมาดเท่ มาดูหนังเรื่องเดียวกันเลยคับ Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One”

ซึ่งหลังจากที่ได้เห็นโพสต์ดังกล่าวแล้วนั้น ก็ทำเอาเหล่าชาวเน็ตและแฟน ๆ แห่กดไลก์และคอมเมนต์กันสนั่น เช่น “สยบทุกข่าวลือในโพสต์นี้เลยค่ะ”, “ขอบคุณพี่เป้ตัวแทนหมู่บ้าน”, “ตัวแทนหมู่บ้าน”, “เหมือนเป็นยืนยัน”, “ขอบคุณพี่เป้”, “ชี้แจงหรออออ !!! น่ารักจังนะ”, “พี่เป้มาโปรด สบายใจ แยกย้าย”, “อุ๊ยๆๆ พี่เป้มาเฉลยแล้ว”, “เฮ้อออ..โล่งอกไปที ได้พี่เป้ มาโปรด”, “อุ๊ยๆๆๆ มีคนหน้าแหกจ้า”, “น่ารัก คู่รักมาดเท่”

และสำหรับกรณีที่พบว่าสาวเชียร์กดอัลฟอลโลว์อินสตาแกรมของแฟนนั้น ข่าวจากวงในก็เผยมาว่า เธอนั้นไม่ได้ฟอลโลว์ฝ่ายชายมาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนที่ไม่ได้เห็นรูปคู่ในช่วงนี้ก็เนื่องจากว่าทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างโฟกัสการทำงานและทำหน้าที่ของตัวเอง พร้อมกับยืนยันว่า ‘เชียร์-บิ๊ก’ ยังรักกันดี ไม่ได้เลิกราหรือมีปัญหาตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด

‘กบ สุวนันท์’ แชร์ภาพเชฟน้อย ‘น้องณดา-ณดล’ ปลื้มใจ!! คนนึงชอบทำเค้ก อีกคนชอบทำกับข้าว

(18 ก.ค. 66) ช่วงนี้ ‘น้องณดา’ และ ‘น้องณดล’ ลูกสาวลูกชายสุดที่รักของนางเอกในตำนานอย่าง ‘กบ สุวนันท์’ และ ‘บรู๊ค ดนุพร’ อยู่ในช่วงปิดเทอม งานนี้แม่กบและพ่อบรู๊ค ก็มักจะพาลูก ๆ ทั้ง 2 ไปหากิจกรรมทำสร้างเสริมประสบการณ์ความรู้

โดยล่าสุดได้พาลูก ๆ ไปลองเรียนทำเบเกอรี่ พร้อมแชร์ภาพน่ารัก ๆ บอกเล่าเรื่องราวผ่านไอจีให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันว่า…

“ทานข้าวเย็นกันมั้ยค้าา เด็กชายชอบทำกับข้าว เด็กสาวชอบทำเค้กค่าา วันนี้ณดาได้ทำเค้กกับพี่มะปรางด้วย ได้เค้กกลับบ้านกันคนละก้อน #ใครอ้วน #พ่อไงจะใครล่ะ #เชฟน้อยของแม่ #เลิฟยู”

‘ชัยวุฒิ’ เผย พปชร. ไม่คุยชง ‘บิ๊กป้อม’ ชิงนายกฯ ยัน!! ไร้สัญญาณ ‘พรรคร่วมรัฐบาลเดิม’ เสนอชื่อแข่ง

(18 ก.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตของรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง วันที่ 19 ก.ค.นี้ ว่า ต้องถามทางพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. มีชื่อชิงแคนดิเดตนายกฯ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบประเด็นดังกล่าว แต่ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันปั่นกระแส แต่ยืนยันว่าพรรค พปชร. ยังไม่มีการคุยเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามยํ้าว่า มีสัญญาณว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อนายกฯ แข่งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไรทั้งสิ้น โนคอมเมนต์

เมื่อถามว่า มองข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 41 การลงมติเลือกนายกฯ สามารถเสนอชื่อซ้ำได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตรงนี้เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งต้องให้ทางรัฐสภาเป็นผู้ตัดสิน พรรค พปชร.ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยจะเป็นแนวทางที่ดีของพรรค พปชร.หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แล้วตอนนี้ยังไม่เกิด ขอให้เกิดก่อนแล้วกัน 

เมื่อถามยํ้าว่า ส่วนตัวคิดอย่างไรกับนายเศรษฐา นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย ได้ติดต่อมาหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ไม่ได้โทรหาผม” 

เมื่อถามย้ำว่า ได้โทรหาพล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ไม่ทราบ ต้องไปถามพล.อ.ประวิตร ” 

‘แอฟ ทักษอร’ ตอบชัด สถานะหัวใจไม่ว่างแล้ว พร้อมเผยสเปกชายในฝัน ลั่น!! ไม่จำกัดอายุ

(18 ก.ค. 66) เป็นอีกหนึ่งสาวฮอตที่ถูกพูดถึงไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับนางเอกคุณแม่ลูกหนึ่ง ‘แอฟ ทักษอร’ ก่อนหน้านี้เจอชาวเน็ตจับตามองเรื่องความรัก ไม่ว่าจะเป็นกับนักแสดงหนุ่มรุ่นน้อง ‘ตี๋ ธนพล’ ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า ชอบทุกอย่างที่เป็นแอฟ ทั้งยังมีหนุ่ม ‘ทิม พิธา’ และพระเอกรุ่นน้องอย่าง ‘นนกุล ชานน’ ที่ถูกจับให้เป็นคู่จิ้นกับเจ้าตัว ซึ่งแอฟก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า สถานะกับหนุ่มๆ นั้นเป็นเพียงแค่เพื่อน พี่ น้อง กันเท่านั้น

ล่าสุดสาว แอฟ ได้เป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘หอมปากหอมคอ’ EP.4 เผยถึงสเปกผู้ชายในตอนนี้ว่า “ไม่เคยมีสเปกเลย รู้สึกว่าเจอแล้วใช่ก็ใช่ ไม่ได้ตั้งไว้ว่าใครคือคนที่เราอยากคบด้วย แพ้ทางผู้ชายแบบสุภาพบุรุษ โรแมนติกได้ก็ดี หรือไม่ก็ได้ แต่ต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ ส่วนเรื่องอายุไม่ได้กำหนด เด็กสุดได้แบบไม่จำกัด (หัวเราะ) จริงๆ ต้องแล้วแต่ว่ามันได้แค่ไหน การคุยกับคนต้องได้อะไรสักอย่าง”

เมื่อถามว่า วันนี้มีคนคุยหรือยัง? แอฟ ตอบตามตรงว่า “มีคนคุยค่ะ จริงๆ ตลอดมาไม่เคยปิดกั้นเลย แต่แปลกมากที่เพื่อน และคนคุยเยอะกว่าตอนเด็กๆ มาก เหมือนพระเจ้าแกล้งกัน กลับมาคิดว่าจริงๆ เราอาจจะไม่ได้เปิดโอกาส เริ่มสตาร์ทตั้งแต่ตอน 29 จนตอนนี้อายุ 40 แล้ว รู้สึกมั่นใจจนถึงจุดที่มีความสุข รับฟังคนอื่นแบบเข้าใจมากขึ้น รู้สึกเบา เป็นเอเนอร์จี้ที่คนเข้าถึงง่าย ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องผู้ชายมาจีบ แต่พออยู่ในกอง บางคนก็มั่นใจที่จะคุยกับเรา”

‘มดดำ คชาภา’ มอบของขวัญสุดล้ำค่าให้ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ในวันเกิด ทั้งกอดทั้งหอมฟอดใหญ่!! พร้อมอวยพรซึ้ง “ขอบคุณชีวิตนี้ที่มีพี่” 

(18 ก.ค. 66) หวานชื่น!! วันเกิด ‘หนุ่ม กรรชัย’ หลัง ‘มดดำ คชาภา’ โพสต์อวยพรวันคล้ายวันเกิดพี่ชายสุดที่รัก วันที่ 18 กรกฎาคม โดยโพสต์คลิป มอบของขวัญพร้อมหอมแก้มพี่หนุ่มฟอดใหญ่ และเขียนข้อความอวยพรสุดหวานซึ้งว่า…

“Happy birthday @kanchai อยากแค่บอกพี่ว่ารักพี่มาก ถ้าไม่มีพี่หนุ่มกรรชัย ไม่มีมดดำ รักพี่มาก สุขสันต์วันเกิดนะ อย่ารีบแก่ อมตะ หนุ่มตลอดไป อยู่คู่กันอำมหิตแบบนี้ตลอดไป ขอให้กรรชัยเป็นกรรชัยมหาชน รักพี่นะ ปีนี้ด่าไม่ออกปากเบี้ยว ขอบคุณชีวิตนี้ที่มีกรรชัยในชีวิต รักพี่นะ”

โดยคลิปหวานชื่น ‘มดดำ’ อวยพรพี่ชาย ในวัย 54 พร้อมมอบกำไลให้ และสวมกอดหอมฟอดใหญ่ จนพี่ชายออกอาการเขินเลย ขณะที่คนบันเทิงและแฟนคลับก็เข้ามาร่วมอวยพรวันเกิดให้พี่หนุ่มกันรัว

‘ตร.’ รวบ!! ‘สาวแสบ’ หลอกรับจ้างกดบัตรคอนเสิร์ต ‘บิวกิ้น’ แฟนคลับรวมตัวแจ้งความ แค้นถูกตุ๋นชวดบัตร แถมไม่ได้เงินคืน 

(18 ก.ค. 66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผบก.สส., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ/ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รองผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ/ บก.สส.บช.น., สั่งการให้ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ/ บก.สส. นำโดย พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 2 จับกุมตัว ‘น.ส.ขวัญ’ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ที่ 21/2566 ลงวันที่ 11 ม.ค. 65 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

สืบเนื่องจากผู้เสียหายให้การว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.65 เข้าไปในทวิตเตอร์เพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ตศิลปิน ‘บิวกิ้น’ พบผู้ใช้นามว่า ‘ร้านกดบัตรขข’ ลงโฆษณารับจ้างกดบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าว ซึ่งคิดค่าบริการ จำนวน 400 บาทต่อบัตร 1 ใบ จึงติดต่อว่าจ้างให้กดบัตรคอนเสิร์ตให้กับผู้เสียหาย ต่อมาวันที่ 27 ก.ค.65 ผู้ใช้นามทวิตเตอร์ว่า ‘ร้านกดบัตรขข’ ได้ตอบรับกดบัตรคอนเสิร์ตให้กับผู้เสียหาย โดยให้โอนเงินค่ารับกดบัตรเข้าบัญชีพร้อมเพย์ บัญชีชื่อบัญชี น.ส.ขวัญ ต่อมาผู้เสียหายจึงโอนเงิน 400 บาทไปยังบัญชีดังกล่าว ซึ่งตกลงกดบัตรคอนเสิร์ตในวันที่ 30 ก.ค.65 ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้เสียหายได้รับแจ้งว่ากดบัตรคอนเสิร์ตไม่ได้ จะโอนเงินคืนให้

ผู้เสียหายได้บอกหมายเลขบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินคืน แต่ไม่มีการโอนเงินคืนให้และปิดแอคเคาน์ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายแจ้งว่ามีผู้เสียหายอีก 10 กว่าคนที่ตนเองรู้จักเป็นแฟนคลับบิวกิ้นก็โดนเหมือนกัน แต่ไม่ได้แจ้งความ เพราะความเสียหายมูลค่าน้อย ส่วนกรณีนี้ผู้เสียหายติดใจ เพราะผิดหวังที่ไม่ได้ดูศิลปินที่ชื่นชอบ เราต้องมาเสียเงินออมเก็บไว้อีก และยังโกงในรูปแบบดังกล่าวรับกดบัตรคอนเสิร์ตจัสติน บีเบอร์ แต่ก็ไม่ได้บัตรเช่นกัน เคสคอนเสิร์ตจัสติน สน.โชคชัยอยู่ในระหว่างการทำสำนวน เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางยี่เรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าขอแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำผิด ว่าท่านไม่สามารถหลบรอดกฎหมาย และประชาชนหากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ ‘สืบสวนนครบาล IDMB’ ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

ขุนคลังมะกัน 'ติดดิน-ติดใจ' เมนูเห็ดในร้านพื้นเมืองของจีน คนจีนเห็นเป็นปลื้ม แต่สื่อตะวันตกหาว่าทำตัวด้อยค่าสหรัฐฯ

แม้ว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ วัย 76 ปี จะเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนอย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่ยังมีกระแสหนึ่งที่โด่งดัง ไม่เลือนหาย นั่นก็คือ รัฐมนตรีคลังหญิงคนนี้ได้ทำให้ เมนูเห็ดเจี้ยนโส่วชิง (见手青) หรือ เห็ดป่ายูนนาน ฮิตไปทั่วบ้าน ทั่วเมือง ลามข้ามทวีปไปสหรัฐอเมริกา จนทำให้หลายคนสนใจว่าเห็ดชนิดนี้ มีความพิเศษอย่างไร

ทำไม เจเน็ต เยลเลน ถึงชอบ และรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษหลังจากได้กินไปแล้ว?

ต้นกระแสเกิดจากบล็อกเกอร์สาวชื่อดังคนหนึ่งใน Weibo บังเอิญไปเจอ เจเน็ต เยลเลน พร้อมชาวคณะ เข้าไปรับประทานอาหารในร้านจีน สไตล์ยูนนานแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ที่ชื่อว่า อี่ จั้ว อี่ ว่าง (一坐一忘) ซึ่งเป็นอาหารจีนมื้อแรกที่ได้เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่งทีเดียว และสั่งอาหารพื้นเมืองยูนนานมาหลายอย่าง

ด้วยความอยากรู้ว่าอาคันตุกะคนสำคัญจากสหรัฐฯ จะสั่งอะไร เธอจึงแอบชำเลืองไปที่โต๊ะ และก็พบว่า เจเน็ต เยลเลน ชอบเมนูผัดเห็ดเจี้ยนโส่วชิงอย่างมาก และได้สั่งมาถึง 4 จาน ทำให้บล็อกเกอร์สาวจีนถึงกับประหลาดใจ

หลังจากที่มีการแชร์เรื่องราว และภาพถ่ายคณะของเจเน็ต เยลเลน ลงในเพจ Weibo ของเธอเพื่อเป็นหลักฐาน ก็มีชาวเน็ตจีนเข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก ว่าคณะรัฐมนตรีคลังจากสหรัฐฯ มีความติดดิน เลือกมาลองกินอาหารจีนพื้นเมืองในภัตตาคารระดับกลางๆ ทั่วไป เป็นมื้อแรกตั้งแต่มาเยือนจีน แถมใช้ตะเกียบเก่งเสียด้วย และยังทำให้เมนูเห็ดเจี้ยนโส่วชิง ที่ปกติก็ได้รับความนิยมในจีนอยู่แล้ว ดังยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับ เจี้ยน โส่ว ชิง เป็นเห็ดป่าชนิดหนึ่ง พบมากในมณฑลยูนนาน เป็นเห็ดขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ มืชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า 'Lanmaoa Asiatica' ผิวด้านนอกเป็นสีแดง ด้านในเป็นสีเหลือง แต่เมื่อใช้มือบีบ หรือ ทุบ เนื้อด้านในจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินคล้ำ ชาวจีนนิยมนำมาปรุงอาหารทั้งแบบสด และ แบบแห้ง

แต่เห็ดชนิดนี้ก็มีอันตรายในตัว เพราะ เจี้ยน โส่ว ชิง มีฤทธิ์คล้ายเห็ดเมา ที่อาจทำให้บางคนที่กินเข้าไป เกิดอาการประสาทหลอนได้ ซึ่งทางสมาคมพฤกษศาสตร์ยูนนาน ก็ได้ขึ้นทะเบียนเห็ดเจี้ยน โส่ว ชิง ในหมวดเห็ดมีพิษเช่นกัน

แต่เห็ดชนิดนี้ ก็ยังเป็นที่นิยม และ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามตลาดสดของจีน โดยทางจีนได้ให้ข้อมูลวิธีการบริโภคเห็ดเจี้ยน โส่ว ชิง อย่างปลอดภัย ตั้งแต่การเตรียมเห็ดเพื่อประกอบอาหาร และการปรุง โดยย้ำว่า เห็ดชนิดนี้ต้องบริโภคแบบปรุงสุกเท่านั้น

และเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่? สำนักข่าว CNN จึงได้ส่งทีมข่าวท้องถิ่นไปที่ร้านอาหาร อี่ จั้ว อี่ ว่าง เพื่อสอบถามถึงเมนูอาหารที่เจเน็ต เยลเลน และ ชาวคณะได้สั่งมารับประทานในวันนั้น และตั้งคำถามว่าได้เตือนให้ทราบถึงอันตรายของเห็ดชนิดนี้หรือไม่ โดยทางเจ้าของร้านกล่าวว่า ไม่ได้แจ้งว่าเห็ดชนิดนี้มีพิษ แต่ยืนยันว่า เมนูเห็ดทั้งหมดที่ขึ้นโต๊ะเสิร์ฟให้กับคณะของรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ปรุงสุกอย่างดีทุกจาน

แต่ก็ไม่วายที่สื่อตะวันตกจะตั้งข้อสงสัยว่า เจเน็ต เยลเลน ดูอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ เมื่อได้เจอหน้า ทักทายกับคณะรัฐมนตรีจีนที่มารับรอง ในขณะที่จับมือ เธอก็ยังคำนับแล้ว คำนับอีก จนมีชาวอเมริกันหลายคนไม่พอใจที่เห็นเจเน็ต เยลเลน แสดงความอ่อนน้อมกับจีนจนเกินงาม จนทำให้ฝ่ายสหรัฐฯ ดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

และสื่อตะวันตกบางสำนัก ยังโทษว่า อาจเป็นเพราะอาหารจานเห็ดยูนนานจะส่งผลต่ออากัปกริยาของรัฐมนตรีคลังหญิง ทำให้ขาดความนิ่ง และสุขุม สมตำแหน่งฐานะตัวแทนชาติมหาอำนาจอย่างที่ควรจะเป็น

แต่ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากเห็ดมีพิษ หรือ คิดไปเอง ก็ต้องยอมรับว่า เจเน็ต เยลเลน ทำให้ เจี้ยนโส่วชิง เห็ดป่ายูนนานชนิดนี้ เป็นที่รู้จัก และโด่งดังอย่างมากทั้งในจีน และต่างประเทศ แม้บริบทที่ถกกันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ตาม

‘พระ-เณร’ สำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ ปลูกผักสวนครัวขาย  หาเงินจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ หลังชาวบ้านทำบุญน้อยลง

(18 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ หมู่ที่ 12 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์พร้อมด้วยพระลูกวัด ได้ใช้ที่ดินว่างข้างสำนักสงฆ์ฯ และข้างกุฎิพระ เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิด เช่น ตะไคร้ พริก มะเขือยาว มะเขือเปราะ ถั่วพู ถั่วฝักยาว บวบ และแตงกวา ซึ่งเป็นพืชอายุสั้น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว เพื่อนำออกจำหน่าย หารายได้มาจ่ายค่าน้ำค่าไฟของสำนักสงฆ์ฯ ซึ่งรวมกันไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน

สาเหตุเกิดจากเป็นสำนักสงฆ์ที่อยู่ห่างไกล ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพกรีดยางพารา ถ้าฝนตกชุก ตกบ่อย ก็จะขาดรายได้ จึงพากันเข้าวัดทำบุญน้อยลง กระทบถึงรายได้ที่ไม่เพียงพอของสำนักสงฆ์ด้วย พระสงฆ์สามเณรจึงต้องช่วยกันปลูกผักหารายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย

โดยเมื่อเก็บผลผลิตแล้วจะนำใส่ถุง ขายถุงละ 20 บาท เพื่อให้ชาวบ้านที่เดินทางไปทำบุญได้เลือกซื้อ แต่หากชาวบ้านคนไหนไม่มีเงิน ก็หยิบเอาไปกินฟรีได้หรือตามแต่กำลังศรัทธา ซึ่งถือเป็นประโยชน์ 3 ทางคือชาวบ้านได้ช่วยพระ พระได้ช่วยชาวบ้าน และพระได้ออกกำลังกายลดโรค ลดพุงไปในตัว

ซึ่งพืชผักทุกชนิดปลูกไม่เกิน 3 เดือนก็เก็บขายได้ ทั้งยังปลอดภัยจากการใช้สารเคมี เพราะมีการใช้กาวดักแมลง และใช้น้ำหมักชีวภาพ โดยผักที่เหลือจากที่วางขายที่สำนักสงฆ์แล้ว จะมีญาติโยมที่เป็นแม่ค้า นำออกไปช่วยเร่ขายตามบ้าน สร้างรายได้ 400-500 บาทต่อสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงคิดจะขยายพื้นที่ปลูกผักเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท จึงวอนผู้ใจบุญแวะอุดหนุนพืชผักปลอดภัยได้ทุกวัน หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่พระเคารพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 083 280 2764

ด้านพระธิติศักดิ์ สุธัมโม พระสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ กล่าวว่า ผักที่ปลูกมีแตงไข่เข้ ถั่วฝักยาว มะเขือ พริก ตะไคร้ บวบ โดยขายถุงละ 20 บาทเหมือนกันหมด ซึ่งเงินรายได้ส่วนนี้นำไปเสียค่าไฟทั้งนั้น ซึ่งค่าไฟประมาณ 5,000 กว่าบาทต่อเดือน แต่ไม่มีค้างจ่ายเพราะพระอาจารย์จะขอทุกวันพระหรือถ้าไปกิจนิมนต์ก็จะขอด้วย แต่ยังไม่พอ ซึ่งนอกจากจะหาค่าไฟให้วัดแล้ว ชาวบ้านก็ได้ทำบุญด้วยเท่ากับได้มาช่วยวัด ช่วยพัฒนาวัด และได้กินผักปลอดสารพิษ ถือเป็นรายได้ 2 ทางและได้ออกกำลังกาย ตามที่พระอาจารย์เคยสอนว่า กำจัดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตด้วยการออกกำลังกาย เพราะพระฉันของดี ๆ เยอะ จึงทำให้เกิดโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันต่าง ๆ จึงแก้ได้ด้วยการออกกำลังกาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top