Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

‘นักเรียนไทย’ ยกพานใส่พวงมาลัย คลานเข่าขอขมาครูฝรั่งแล้ว หลังทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมจนทัวร์ลง ด้านครูไม่ติดใจ ให้อภัยเด็ก

(18 ก.ค. 66) เพิ่งเป็นกระแสไปไม่นานกับคลิปของนักเรียนมัธยมศึกษา ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านหนองจอกที่ แสดงกิริยาไม่เหมาะสม กับคุณครูภาษาอังกฤษซึ่งเป็นคนผิวดำระบุแคปชั่นว่า “ไม่อยากเรียนแหละ”

ในคลิปจะเห็นว่ามีนักเรียนหญิงคนหนึ่งยืนข้างหลังครู พร้อม ‘ทำท่าเหมือนจะต่อย’ เวลาครูหันหลังให้ มีกระทั่ง ‘ชูนิ้วกลางให้ครู’ จนกลายเป็นดรามากระฉ่อนไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก่อนคลิปดังกล่าวก็ได้ถูกลบออกไป พร้อมทั้งปิดแอคเคาต์ไปเลย

ล่าสุดหลังจากถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นักเรียนคนดังกล่าวได้โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า…

“วันนี้หนูได้เดินทางไปขอโทษขอขมาทิชเชอร์ที่โรงเรียนเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมาแล้วค่ะ หนูได้เข้าไปพูดคุยกับทางคุณครูและทิชเชอร์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ขอโทษ ทางทิชเชอร์ได้รับทราบและให้อภัยแล้วค่ะ”

“วันนี้ที่ไปไม่มีคลิปเพราะว่าไม่มีคนถ่ายให้ส่วนพรุ่งนี้ หนูจะเข้าไปขอโทษทีชเชอร์พร้อมเพื่อนๆอีกทีค่ะ หนูจะนำบทเรียนในครั้งนี้ไปปรับตัวเองใหม่ค่ะ” ซึ่งหลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็มีชาวเน็ตมากมายมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้

ตัวอย่างความคิดเห็น

“การให้อภัยมันเป็นเรื่องของครู ไม่ใช่ชาวเน็ต ส่วนเด็กจะสำนึกจริงไหมก็ต้องดูกันไป
เอาจริงป่ะถ้าเกิดว่ามันไม่มีใครเอาคลิปนั้นมาแฉก็คงไม่ขอโทษอ่ะ เพราะคลิปนั้นผ่านมาเป็นเดือนแล้วด้วย”
“ตั้งนานคิดไม่ได้ โดนทัวร์ลงคิดได้ว่าต้องขอโทษ”
“ขอโทษเพราะสังคมบังคับให้ขอโทษ”
“digital footprint ตลอดไปนะคะ แม้จะขอโทษแล้วอย่างเป็นทางการ แต่ก็จงรับผลของการกระทำตัวเอง”
“ทำผิดแล้วยอมรับผิดจริง ๆ อันนี้ก็ควรชื่นชมค่ะหลังจากนี้คือบทพิสูจน์ว่าสิ่งที่ทำมันจริงใจไหม”
“นี่ว่าคู่กรณีเขาให้อภัยแล้วก็ควรจบเรื่องได้แล้วอะ”
“ขอให้สำนึกได้จริงๆ และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนะคะ”

ปิดฉากรัก ‘อารีอานา กรานเด’ เลิกรากับสามี คาด!! แยกทางกันมาตั้งแต่เดือนมกราคม

(18 ก.ค. 66) ข่าวเปิดเผยว่า ‘อารีอานา กรานเด’ และสามีของเธอ ‘ดาลตัน โกเมซ’ น่าจะแยกทางกันมาตั้งแต่เดือนมกราคม และกำลังดำเนินเรื่องเพื่อขอหย่าร้าง… แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับทั้งคู่บอกกับ TMZ

ตามที่ TMZ รายงาน ‘อารีอานา กรานเด’ ไม่ได้สวมแหวนแต่งงานของเธอที่วิมเบิลดันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวยืนยันแล้วว่าเธอกำลังจะหย่าขาดจากสามีจริง ๆ TMZ ยังมีข้อมูลว่าทั้งสองพยายามจะกลับมาคืนดีกัน แต่ก็ล้มเหลว

ข่าวบอกว่าทั้งคู่ห่างกันมาพักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ ‘อารีอานา กรานเด’ เริ่มถ่ายทำ ‘Wicked’ และจริง ๆ น่าจะมีปัญหากันมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำไป

‘อารีอานา กรานเด’ เริ่มออกเดทกับตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ดาลตัน โกเมซ ในเดือนมกราคม 2020 และแต่งงานกันในพิธีส่วนตัวที่บ้านของเธอในมอนเตซิโต แคลิฟอร์เนีย ในปีต่อมา โดยในงานเธอสวมชุดของ Vera Wang ที่สั่งทำขึ้นเอง ภาพงานแต่งงานของเธอกลายเป็นหนึ่งในโพสต์ Instagram ที่มีผู้กดไลก์มากที่สุด โดยมียอดไลก์มากกว่า 25 ล้านครั้ง

‘อุ๊งอิ๊ง’ ชี้!! ‘เศรษฐา’ ตัวเลือกที่ดีที่สุด หาก ‘พิธา’ ชวดตำแหน่งนายกฯ โหวตรอบ 2

(18 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า หากโหวตนายกฯ รอบ 2 คะแนนไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็เป็นหน้าที่พรรคเพื่อไทย ว่า นายพิธา คงพูดไปตามระบบ แต่ขอให้ทำให้เต็มที่ก่อนในวันที่ 19 ก.ค. ยืนยันพรรคเพื่อไทย สนับสนุน แต่ที่สุดแล้วผลจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดู

เมื่อถามว่า หากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย มองว่าการเสนอนายพิธา เป็นญัตติซ้ำขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 อาจจะทำให้ต้องเสนอชื่ออื่น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่เราเตรียมการ คือ การโหวตให้นายพิธา แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 19 ก.ค. กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องคุยกันก่อน

ถามว่า ในส่วนของแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน ได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ หากถึงเวลาพรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อแคนดิเดต จะเป็นใคร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน อันนี้เป็นที่ชัดเจน แต่เราทำไปทีละขั้น”

ซักว่า หากนายกฯ เป็นนายเศรษฐาแล้ว น.ส.แพทองธาร จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดในส่วนของตัวเองไว้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรแคนดิเดตทั้ง 3 คนจะช่วยกันทำงาน ตอนนี้ที่กำลังเสนอชื่อนายพิธา เราก็ทำงานด้วยกันทั้ง 3 คน และทุกคนในพรรคยืนยันไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ช่วยกันได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ไม่สนับสนุนนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นการตกลงกันในพรรค ตนไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน แต่ตนสนับสนุนนายเศรษฐา

“ตอนนี้ประเทศชาติไม่ง่าย เพราะฉะนั้นเราคิดว่าตัวเลือกที่สุดกับประเทศ ณ ตอนนี้ คือคุณเศรษฐา ที่จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้าพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล แต่ถ้าไม่ได้เราก็ทำงานร่วมดันในการช่วยประเทศชาติ ทั้งนี้หากเป็นหัวหน้ารัฐบาลและต้องเลือกจากเรา เราก็มองว่าคือคุณเศรษฐา” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ถามย้ำว่า หากเป็นชื่อนายเศรษฐา จะพูดคุยกับส.ส.ได้ทั้งหมดหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้แน่นอน เพราะตนสนับสนุนอยู่เต็มที่ และตนก็มองตัวเองด้วยว่าเราพร้อมแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรหากถึงเวลาต้องลุยตนมีทีมที่ดี แต่ตอนนี้หากเป็นไปได้ก็มองว่านายเศรษฐา เป็นคนที่สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที และตนก็จะเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ว่ามีตรงไหนที่พัฒนาตัวเองได้ก็เป็นเรื่องดี

เมื่อถามว่า ท่าที ส.ว. หากยกมือสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องที่ 8 พรรคร่วม และกก.บห.คุยกันอีกดัน ตนไม่มีหน้าที่ตอบ และเราจะทำไปทีละขั้นตอน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวายและความไม่สบายใจของประชาชนด้วย

ซักว่า หาก ส.ว. ไม่เอา พรรคก้าวไกล เป็นไปได้หรือไม่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะไม่มีพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้กก.บห.พูดคุยกันก่อน เรื่องนี้มันอ่อนไหวมาก หากพูดอะไรออกไป ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบแบบนั้น และยังไม่ได้วางฉากทัศน์แบบนั้น

ถามว่า กรณีที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ยอมรับมีการพูดกับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้มีการเทียบเชิญร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกับตน

เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นไปได้หรือไม่หากการโหวตชื่อนายเศรษฐา แล้วพรรคชาติไทยพัฒนา มีความชัดเจนที่จะไม่เอาพรรคแก้ ม.112 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ต้องโฟกัสว่าเราจะจัดตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้เมื่อไร เพราะประเทศชาติต้องไปต่อได้แล้ว แต่เข้าใจว่ากฎกติกาไม่ปกติมีกับดักมากเราต้องผ่านตรงนี้ และโฟกัสที่ประเทศชาติกับประชาชนว่าเราจะพัฒนาต่อไปอย่างไร เพื่อให้ต่างชาติมีความมั่นใจและเข้ามาลงทุน

เมื่อถามอีกว่า หากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะออกหน้าประสานหาเสียงสนับสนุนเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงต้องดูตัวเลขเป็นหลัก เพราะหากไม่ถึง 376 ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ หากคิดว่าตนมีประโยชน์ตรงไหนตนก็พร้อมช่วย แต่ถึงอย่างไรวันพรุ่งนี้เราก็เต็มที่ในการโหวตให้กับนายพิธา ก็ขอให้มองทีละขั้นเนื่องจากไม่ทราบจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ถามถึงกรณีกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย กว่า 30 คน ไปพูดคุยกับกลุ่มรัฐบาลเดิม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเรื่องงูเห่านั้นไม่ใช่ แต่ไม่ทราบเรื่องตื้นลึกหนาบางว่าคุยอะไรกันไว้บ้าง แต่จากการพูดคุยส.ส.ในพรรคมันไม่ใช่แบบนั้น และมั่นใจในตัวส.ส.พรรคเพื่อไทย

ชื่นชม!! ‘พีรญา-พีรชยา พลับพลา’ คว้าเหรียญทอง จากการแข่งขันกระโดดเชือกชิงแชมป์โลก 2023

(18 ก.ค. 66) เพจ ‘Thai Jump Rope’ โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ 2 เด็กไทยสุดเก่ง ระบุว่า…

👍ขอแสดงความยินดีกับน้อง น.ส.พีรญา พลับพลา และ น.ส.พีรชยา พลับพลา ฝาแฝดไทยสุดเก่ง 🇹🇭
ที่คว้าเหรียญทอง 🥇ในการเเข่งขันในรายการ ‘Wheel Pair Freestyle’ หญิงล้วน ในรุ่น Junior World Jump Rope Championship 2023 ณ สหรัฐอเมริกา ได้เป็นผลสำเร็จ

‘สมโภชน์ อาหุนัย’ แห่ง EA คว้ารางวัล ‘นักบริหารดีเด่นแห่งปี 2566’ ควบรางวัล ‘นวัตกรรมยอดเยี่ยม’ จากผลิตภัณฑ์ MINE Mobility MT30

(18 ก.ค. 66) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA คว้า 2 รางวัล จากมูลนิธิเพื่อสังคมไทย มอบโล่เชิดชูเกียรติ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ในฐานะนักบริหารดีเด่นแห่งปี 2566 สาขาบริหารและพัฒนาองค์กร พร้อมมอบรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม จากผลงานผลิตภัณฑ์ MINE Mobility MT30 สำหรับองค์กรที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่น สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ นักบริหารดีเด่นแห่งปี 2566 สาขาบริหารและพัฒนาองค์กร จาก พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ โครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน

จากผลงานโดดเด่นของ นายสมโภชน์ อาหุนัย ผู้ก่อตั้ง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นธุรกิจจากผู้ผลิตพลังงานทดแทน เมื่อปี 2549 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2556 พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA มีการเติบโตต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา กว่า 15 ปี ที่ EA มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ ‘Green Product’ ขยายธุรกิจไบโอดีเซล, ธุรกิจโรงไฟฟ้า, ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานสะอาดให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและระดับสากล ทำให้องค์กรให้เติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘MISSION NO EMISSION’

ด้วยการบริหารตามแนวคิด วางแผนอย่างรอบคอบ วิเคราะห์ให้ลึก สร้างโอกาสทุกการเปลี่ยนแปลง จึงนำพาให้สามารถบริหารและพัฒนาองค์กร ให้เดินหน้าเป็น New Generation Company แม้เผชิญวิกฤตก็สามารถพลิกเป็นโอกาส พร้อมส่งเสริมให้พนักงานมีความมุ่งมั่น ท้าทายความสามารถและศักยภาพในทุกๆ สถานการณ์ สู่การสร้างแบรนด์คนไทยที่ภาคภูมิใจ และพัฒนาประเทศชาติที่ยั่งยืนในทุกมิติ

ขณะเดียวกัน EA ยังได้คว้ารางวัลในประเภทนวัตกรรมยอดเยี่ยม จากความสำเร็จของ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV Pick-up Truck MINE Mobility MT30 โดยมี นางสาววิมลมาศ วงศ์มกรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด บริษัทในกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA รับรางวัลอันทรงเกียรติ จากท่าน พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ เช่นเดียวกัน

ผลงานโดดเด่นของนวัตกรรม EV Pick-up Truck MINE Mobility MT30 รถกระบะไฟฟ้า 100% รุ่นแรกฝีมือไทย สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ด้วยเทคโนโลยี Ultra-fast Charge พร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด (Li-Ion Battery) 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผ่านมาตรฐานทดสอบความปลอดภัย UN R100 และมาตรฐานกันน้ำ IP67  มาพร้อมการออกแบบให้พื้นที่กระบะบรรทุกขนาดใหญ่พิเศษ พื้นเรียบเปิดได้ 3 ด้าน ยาว 2.5 เมตร ยาวกว่ากระบะตอนเดียวทั่วไป 18 ซม. ทำให้วางไม้กระดานได้เต็มแผ่น สามารถรองรับการบรรทุกได้ดี ช่วยประหยัดพลังงานและลดต้นทุนในภาคขนส่งเชิงพาณิชย์ ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด Respect Environment ตามกลยุทธ์ 5E ได้แก่

• Environment ตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะพาธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
• Energy Saving เป็น EV Truck พลังงานบริสุทธิ์ ช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

• Electric EV Truck ฝีมือคนไทย 100%
• Ease สะดวกในการบำรุงรักษาด้วยศูนย์บริการชั้นนำอย่าง Cockpit ที่มีจุดบริการกว่า 90 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

• Experience เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง เหมาะกับทุกธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพลิกโฉมอุตสาหกรรมใหม่ (New S Cuve) ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม 

‘เบส คำสิงห์’ อวดลุคแซ่บซี้ด แต่ไม่วายโดนชาวเน็ตดรามาใส่ วิจารณ์!! “แต่งเยอะไปเกือบเห็นแล้ว” งานนี้แฟนคลับออกโรงปกป้อง

(18 ก.ค. 66) บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่โสด สวย รวย และแซ่บมาก สำหรับสาวคนเก่งอย่าง ‘เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์’ ที่แม้จะปิดฉากรักหวานไปได้ไม่นานแต่สาวเจ้าก็ไม่เศร้าแถมยังมีแต่มุมสวย สดใส แถมแซ่บแบบเวอร์ ๆ มาให้แฟนคลับได้ฮือฮาตาลุกกันอยู่ต่อเนื่อง

อย่างล่าสุด สาวเจ้าก็เพิ่งจะอวดความสวยสับในลุคออกบูธขายของมาให้แฟน ๆ ได้ชมผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวในชุดท่อนบนบอดี้สูทสวมเสื้อคล้องคอเปลือยหลังและเว้าเอวลึกทั้ง 2 ข้าง โชว์ผิวขาวออร่าแสบตา แมทช์เข้ากับกางเกงยีนส์ตัวสวย พร้อมกับยืนโพสท่าโชว์หุ่นเป๊ะปังชวนมองสุด ๆ

ซึ่งงานนี้ต้องบอกเลยว่าใครผ่านมาเห็น เป็นต้องร้องอื้อหือฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว ขณะที่ทางด้านแฟน ๆ เองก็ไม่พลาดเข้ามากระหน่ำกดไลก์ให้รัว ๆ พร้อมกับสาดคอมเมนต์ชม สาดอิโมจิไฟลุกซูฮกดีกรีความแซ่บของสาวเบสกันสนั่น

แต่ทว่างานนี้ก็ไม่วายมีชาวเน็ตแอบดรามาเข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์ว่า “แต่งเยอะไปเกือบเห็นแล้ว แฟนคลับคงไม่ดรามาอันไหนที่เยอะก็ควรเตือนไม่ใช่อวย” ซึ่งหลังจากที่ได้เห็นข้อความวิจารณ์ดังกล่าวแล้ว บรรดาแฟน ๆ และชาวเน็ตหลายคนต่างก็ไม่รอช้าที่จะเข้ามาปกป้องและออกโรงโต้เดือดแทนสาวเบสกันยกใหญ่เลยทีเดียว

ครม.ไฟเขียว เห็นชอบร่างประกาศสลากฯ 3 ฉบับ คาด!! เริ่มจำหน่ายสลาก 3 หลักต้นปี 2567

(18 ก.ค. 66) พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศ รวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย 

1.ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (N3) พ.ศ. ….  
2.ร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) 
และ 3.ร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (N3)

ตามมติ ครม. ที่เห็นชอบในหลักการการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก ไปเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 66

สำหรับขั้นตอนภายหลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบแล้ว สำนักงานสลากฯ เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่อให้ ประธานกรรมการสลากรับทราบ และ ลงนามในประกาศ ให้มีผลบังคับใช้ โดยคาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก จะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2566 ขณะที่สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปี 2567 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน จัดเตรียมแนวทางดำเนินการให้มีความพร้อมมากที่สุด

“ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีความเห็นเพิ่มเติมจากร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศ เนื่องจากมีการสอบถามรายละเอียดเกือบทั้งหมดแล้ว ในคราวที่เห็นชอบเมื่อ วันที่ 14 มี.ค. 66 แต่ก็ได้เน้นย้ำให้ทำการสื่อสารกับสาธารณะให้ดี โดยเฉพาะสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบบใหม่” พ.ท.หนุน กล่าว

พ.ท.หนุน กล่าวว่า การกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) วิธีการจำหน่ายและการซื้อสลากยังเป็นรูปแบบเดิม ผู้ซื้อและตัวแทนจำหน่ายสลากเดิม จะไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแต่เป็นการปรับกระบวนการทำงานให้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อรองรับการจำหน่ายสลากดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป อีกทั้งไม่ต้องพิมพ์สลากเป็นแบบใบเพื่อมาสแกนเข้าระบบก่อน สามารถจำหน่ายสลากดิจิทัลได้ทันทีในจำนวนที่เหมาะสม โดยไม่มีกรอบดำเนินการ 100 ล้านใบเป็นตัวกำหนด เช่น ปัจจุบันขายสลากรูปแบบใบ 80.4 ล้านฉบับ และ ดิจิทัล 19.6 ล้านฉบับ ก็สามารถเพิ่มสลากดิจิทัลอีกได้ โดยไม่ต้องไปรอลดสัดส่วนสลากแบบใบอีกต่อไป

สำหรับการจำหน่ายสลากดิจิทัลจำหน่ายบนแอปพลิเคชันเป๋าตังในปี 2566 ยังเป็นไปตามแนวทางที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 ที่มีนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากฯ เป็นประธาน โดยคาดว่าจะจำหน่ายได้ไม่น้อยกว่า 25-30 ล้านใบต่องวด จากปัจจุบันอยู่ที่ 19.6 ล้านฉบับ ซึ่งจะพิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของผู้ซื้อ และความต้องการขายให้เหมาะสม

‘ก้าวไกล’ ชงแก้ กม. 2 ชุด ‘ปฏิรูปกองทัพ-ปิดช่องทุนผูกขาด’   หวัง ส.ส. ทุกพรรคเห็นพ้อง แก้ปัญหาที่กดทับประชาชน

(18 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา ส.ส. พรรคก้าวไกล นำโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ จำนวน 2 ชุด รวม 7 ฉบับ ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูปกองทัพ 5 ฉบับ และ ชุดกฎหมายปิดช่องทุนผูกขาด 2 ฉบับ โดยมีตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับเอกสาร

พริษฐ์ กล่าวว่า สาเหตุของการมีอยู่ของพรรคก้าวไกลคือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีการเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม มีระบบการบริหารราชการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ และมีสังคมที่เท่าเทียมและโอบรับความหลากหลาย เริ่มต้นจากการผลักดันนโยบายที่พรรคก้าวไกลได้ให้สัญญากับประชาชนในการเลือกตั้ง ผ่านสองกลไกสำคัญคือ กลไกฝ่ายบริหารและกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ

แม้การจัดตั้งรัฐบาลตามมติมหาชนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายผ่านกลไกฝ่ายบริหารยังไม่แล้วเสร็จ แต่พรรคก้าวไกลเราพร้อมเดินหน้าในการใช้กลไกนิติบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนนโยบายทันที ผ่านการเสนอชุดกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนและของประเทศ

ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลได้เตรียม ‘ชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศ’ ไว้ทั้งหมด 14 ชุด โดยวันนี้เป็นการยื่นร่างกฎหมาย 2 ชุดแรก รวมกันทั้งหมด 7 ฉบับ

ได้แก่ ชุดที่หนึ่ง ชุดกฎหมายปฏิรูปกองทัพ (Demilitarize) จำนวน 5 ฉบับ เพื่อทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ประกอบด้วย
(1) ร่าง พ.ร.บ. รับราชการทหาร เพื่อยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารในยามปกติ และเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ 100%
(2) ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อตัดอำนาจสภากลาโหม ให้พลเรือนอยู่เหนือกองทัพ
(3) ร่าง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสเรื่องภาระค่าใช้จ่ายและเงินนอกงบประมาณทั้งหมดของรัฐ
(4) ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิก พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เพื่อดำเนินการยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
(5) ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. เพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ

ชุดที่สอง ชุดกฎหมายปิดช่องทุนผูกขาด (Demonopolize) จำนวน 2 ฉบับ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม และยกระดับขีดความสามารถของเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย
(1) ร่าง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต หรือร่าง ‘สุราก้าวหน้า’ เพื่อปลดล็อกการผลิตสุราของผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน
(2) ร่าง พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า เพื่อสร้างกติกาแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม ปฏิรูปคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า และออกกฎ ‘คนฮั้ววงแตก’ ในการป้องกันการฮั้วประมูลของบางบริษัทที่ร่วมมือกันผูกขาดหรือลดการแข่งขัน

ส่วนชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศอีก 12 ชุด ที่พรรคก้าวไกลจะยื่นต่อสภาฯ หลังจากนี้ ประกอบด้วย ชุดกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น, ชุดกฎหมายปฏิรูประบบราชการ, ชุดกฎหมายป้องกันการทุจริต, ชุดกฎหมายยกระดับบริการสาธารณะ, ชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน, ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน, ชุดกฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อม, ชุดกฎหมายปฏิรูประบบภาษี, ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ, ชุดกฎหมายโอบรับความหลากหลาย, ชุดกฎหมายยุติความขัดแย้ง และชุดกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญ

พรรคก้าวไกลเชื่อว่าหากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ชุดกฎหมายดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม เป็นไปได้ โดยมีจุดเริ่มต้นที่สภาผู้แทนราษฎร

ไทยคว้าเจ้าภาพ ‘บิมสเทค รีทรีต’ ดันสร้างกลไกรับมือวิกฤต  หนุนความร่วมมือด้าน ‘การเกษตร-วัฒนธรรม-การทูต’ ให้ภูมิภาค

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 66 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข่าวว่า ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคอย่างไม่เป็นทางการ (BIMSTEC Retreat) ที่กรุงเทพ โดยประเทศสมาชิกบิมสเทคทั้ง 7 ประเทศ ได้แสดงความมุ่งมั่นอีกครั้งหนึ่งที่จะเสริมสร้างให้บิมสเทคเป็นประชาคมที่เข้มแข็ง ยืดหยุ่น และมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น

ในโอกาสนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุมดังกล่าวและประเทศสมาชิกที่เข้าร่วม ประกอบด้วย บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล และศรีลังกา

รัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคได้ชื่นชมว่าการประชุมครั้งนี้เป็นประโยชน์ และเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนความเห็นต่าง ๆ อย่างเป็นกันเอง รวมทั้งเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะส่งเสริมให้กรอบการดำเนินงานและกลไกความร่วมมือต่าง ๆ ของบิมสเทคมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อความเจริญเติบโตและความมั่งคั่งของภูมิภาค นอกจากนี้ ได้มีการหารือประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกันด้วย

ประเทศสมาชิกเห็นพ้องร่วมกันถึงความสำคัญของการสร้างกลไกในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เพื่อประสานงานในภาวะฉุกเฉินตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน และได้หารือในประเด็นสำคัญต่าง ๆ เกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข พลังงาน และการเงิน รวมถึงความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ได้มีการพิจารณาที่จะจัดตั้งระบบการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศสมาชิกบิมสเทค รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ

รัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทค ได้ย้ำถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการประสานงาน ในประเด็นระดับโลกและประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ ประกอบด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าบิมสเทค เทคโนโลยีด้านการเกษตร ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนเยาวชน และการฝึกอบรมด้านการทูต

รัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทครู้สึกยินดี เมื่อได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งคณะผู้ทรงคุณวุฒิว่าด้วยการกำหนดทิศทางของบิมสเทคในอนาคต เพื่อกำหนดแผนดำเนินการขององค์กร บนพื้นฐานของผลประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศสมาชิกและประชาชน

รัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เป็นประจำ โดยหากเป็นไปได้ จะจัดในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี ทั้งนี้ อินเดียได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทคครั้งต่อไปในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายน 2566

ทั้งนี้ ไทยเป็นประธานบิมสเทคหรือกรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล สำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) วาระปี 2565 – 2566 ภายใต้แนวคิดการเสริมสร้างบิมสเทคสู่การเป็นภูมิภาคที่มั่งคั่ง (Prosperous) ยั่งยืน ฟื้นคืน (Resilient) และเปิดกว้าง (Open) หรือ ‘PRO BIMSTEC’ ภายในปี ค.ศ. 2030

‘เอรูน่า คาเฟ่’ ร้านกาแฟ สไตล์คาวาอิ ย่านบางชัน  มีมุมถ่ายรูปเพียบ เครื่องดื่ม อาหาร ของหวาน จัดเต็ม

A'RUNA CAFE - アルナカフェ หรือ ร้าน เอรูน่า คาเฟ่ ร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น น่ารักสดใส มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก โซนหน้าร้านมีป้ายรถเมล์แบบญี่ปุ่น ไฟจราจร ทางม้าลาย สวนจำลองสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมสะพานน่ารักตะมุตะมิ เหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ ถ่ายรูปออกมาน่ารักสุดๆ

ส่วนด้านในแอร์เย็นฉ่ำ ตกแต่งมินิมอล โล่ง โปร่ง เน้นแสงจากธรรมชาติ นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปให้เรา ถ่ายกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ที่นี่ก็ยังมีอาหารหลากหลาย ให้เราอิ่มท้องอีกด้วย

ที่นี่เมนูมีให้เลือกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเดียว อาหารประเภทแกงกะหรี่ สลัด
เบเกอรี่ก็มีจัดเต็มตู้ไปหมด ไหนจะของทานเล่นอีกมากมาย เครื่องดื่มก็มีพร้อมเสริฟ มีทั้ง coffee/ non coffee เค้กโฮมเมดมีให้เลือกแบบเยอะมาก สายหวานถูกใจแน่นอน 

ใครกำลังมองหาร้านน่ารัก ไว้ถ่ายรูปอัพเดท ไม่ผิดหวังแน่นอน มาร้านเดียวได้ถ่ายรูป ได้กินอิ่ม ได้สนุกเพลิดเพลินกันทั้งวัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่อยู่ : ถ.ปัญญาอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพ
พิกัด : https://goo.gl/maps/TwV3LaRWNAefUnRFA
โทร : 098-551-1660
LINE : https://lin.ee/CGH3myU6

เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top