Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

‘ณธีภัสร์’ สิ้นสมาชิกสภาพ ส.ส.ก้าวไกล จากคดีเมาแล้วขับ ด้าน ‘สภาฯ’ แจงจำนวนตัวเลข ส.ส.ล่าสุด เหลือ 499 คน

(27 มิ.ย. 66) ที่รัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงการปรับตัวเลข ส.ส.จาก 500 คน เหลือ 499 คนว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือถามไปยังศาลอาญามีนบุรี เพราะทราบจากข่าวว่า น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต้องคดีเมาแล้วขับ ซึ่งวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานฯ ได้รับหนังสือจากศาลอาญามีนบุรีแจ้งว่าคดีถึงที่สุดแล้ว ก็เท่ากับสิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.แล้ว ตามมาตรา 101 (13)

ดังนั้น จำนวน ส.ส. จึงลดลง ซึ่งทางสำนักงานฯ ได้แจ้งไปทางพรรคก้าวไกล และ น.ส.ณธีภัสร์ ให้ทราบ ซึ่งได้ประสานเป็นการภายในกับ น.ส.ณธีภัสร์ แล้ว ส่วนหนังสือแจ้งทางการจะเป็นวันนี้

ส่วนการเลื่อนบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทนนั้น นางพรพิศ กล่าวว่า จะต้องรอให้มีประธานสภา คนใหม่ก่อน และประธานสภา เลื่อนบัญชีของพรรคก้าวไกลขึ้นมาแทน โดยใช้เวลา 7 วัน

นางพรพิศ กล่าวต่อว่า สำหรับความพร้อมในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ซึ่งกำหนดการได้ลงมาแล้ว ดังนั้น ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ทางสำนักงานฯจะแจ้งทุกหน่วยงาน และสมาชิกรัฐสภา เพื่อให้ทราบรายละเอียดในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระราชินีฯจะเสด็จพระราชดำเนิน ที่โถงรัฐพิธีชั้น 11 อาคารรัฐสภา ในเวลา 17.00 น.

ส่วนการประชุมสภานัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาและรองประธานสภา 2 คน นางพรพิศ กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ได้ประสานกับทุกพรรคแล้ว ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันที่จะมีการประชุมสภานัดแรกในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.30 น. ยืนยันว่า ทางสภาฯ เราซักซ้อมความพร้อมตลอดเวลาในเรื่องเปิดพิธีประชุมรัฐสภา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะมีบุคคลต่างๆ เข้ามาร่วมงานจำนวนมาก จึงประสานเจ้าหน้าที่สภาฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เวิร์กฟรอมโฮม พร้อมขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้ามาสภาฯ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้

ส่วนวันที่ 4 ก.ค.ที่เปิดประชุมสภานัดแรก ทางสภามีความพร้อมในเรื่องของการลงคะแนน และขั้นตอนต่างๆ เพื่อเลือกประธานสภา โดยมีการซักซ้อมกับประธานสภาชั่วคราวที่อาวุโสสูงสุดเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับส.ส.บัญชีรายชื่อที่เลื่อนขึ้นมาแทนน.ส.ณธีภัสร์ คือ นายสุเทพ อู่อ้น ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 27

ไทยรับอานิสงส์ ต่างชาติจ่อย้ายฐานการผลิต หลังการแข่งขันเทคโนโลยี ‘จีน-สหรัฐฯ’ ยืดเยื้อ 

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย สถานการณ์การแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ยังคงยืดเยื้อ และคาดการณ์ว่าจะยังไม่สิ้นสุดในระยะเวลาใกล้นี้ ส่งผลให้บริษัทรายสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโลกเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนไปยังแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศคู่แข่งขันในสงครามเทคโนโลยี โดยมองว่า ‘ไทย’ จะได้รับอานิสงส์ หลังมีการวางตัวเป็นกลางระหว่างทั้งสองประเทศ 

นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจเข้าไปลงทุนของบริษัทต่างชาติในไทย พบว่า ปัจจัยด้านห่วงโซ่อุปทานของไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งยังสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากประเทศคู่แข่งยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีความไม่ซับซ้อนคล้ายคลึงกับไทย ในแง่ของการเป็นฐานการผลิตสินค้าแต่ละประเทศมีสินค้าที่คล้ายคลึงกัน หรือก็คือ เป็นฐานการผลิตสินค้าขั้นสุดท้ายที่ใช้ส่วนประกอบจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเหมาะแก่การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ขณะเดียวกัน ไทยมีโอกาสที่จะถูกเลือกเป็นประเทศปลายทางในการตั้งฐานการผลิต โดยหลายบริษัทมีแนวโน้มที่จะย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศคู่ขัดแย้งในสงครามเทคโนโลยีครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดกับกิจการของตน และไทยเองมีศักยภาพที่จะดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและเอกชนต้องเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยไปสู่อุตสาหกรรมการผลิต ที่มีความซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงให้ได้โดยเร็ว ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริงมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการควรวางแผนการกระจายความเสี่ยง กรณีห่วงโซ่อุปทานของโลกหยุดชะงัก โดยการจัดหาวัตถุดิบที่มาจากหลายแหล่ง ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้เร่งส่งเสริมให้เกิดพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ

‘ลุงป้อม’ แจงบินไปอังกฤษ แค่เรื่องสุขภาพ ปัดดีล ‘ทักษิณ’ บอกไม่ได้โทรคุย ไม่ได้เจอกัน 18 ปีแล้ว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีถูกจับตาในการเดินทางไปอังกฤษ ว่า ไปเรื่องสุขภาพ ดูแลร่างกายตัวเองส่วนไม่มีดีลลับหรือไปคบกับใครใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่พบ พบกับใครอ่ะ เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตนจะไปพบได้อย่างไรเล่าไม่เจอกัน 18 ปีแล้ว เมื่อถามต่อว่าไม่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธว่า ไม่มี โทรก็ไม่พูดกัน ไม่เคยพูดกัน

ส่วนกระแสข่าวหากมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี จะพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงตรงนั้น ต้องรอไปก่อน เมื่อถามถึงการประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐจะมีการกำชับอะไรหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ก็เรื่องทั่วๆไปของ ส.ส.ใหม่ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎของสภา ส่วนจะมีการพูดคุย ถึงการโหวตประธานสภาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธว่า ไม่ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เดี๋ยวพูดกันในพรรคอีก ก็ต้องดูว่ามติในพรรคเป็นอย่างไร ส่วนจะเป็นไปในรูปแบบฟรีโหวตหรือรูปแบบมติพรรค ยังไม่รู้เลย ต้องประชุมก่อน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่มีๆ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพล.อ.ประวิตร กับพรรคเพื่อไทย หากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีต้องฝ่าทางตันทางการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ ก่อนเดินขึ้นรถกลับทันที อย่างไรก็ตามท่าทีของพล.อ.ประวิตร ทั้งช่วงก่อนและหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีมีท่าทีที่ยิ้มแย้มอารมณ์ดี

🔍สุดยอด!! ซอยรมณีย์ ย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต ของประเทศไทย

🔍สุดยอด!! ซอยรมณีย์ ย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต ของประเทศไทย ติดอันดับ 19 The World's 20 Most Beautiful Streets (ถนนที่สวยที่สุดในโลก) ซึ่งเป็นซอยเล็ก ๆ ที่เชื่อมระหว่างถนนถลาง และถนนดีบุก เต็มไปด้วยตึกเก่าศิลปะชิโนโปรตุกีส อันเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของศิลปะแบบภูเก็ต มีร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก เกสท์เฮ้าส์ บางส่วนก็ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยด้วย ซอยรมณีย์จึงยังคงมีชีวิตชีวา มีสีสัน และมีเสน่ห์อยู่เสมอ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยออนไลน์ “แอบอ้าง ดร.ณัฐวุฒิ ให้ลงทุนซื้อหุ้นต่างประเทศ ได้เงินไป 6 ล้านบาท” และขอเชิญชวนประชาชนทำแบบทดสอบ วัดระดับ “วัคซีนไซเบอร์”

เนื่องจากในรอบสัปดาห์  มีการรับแจ้งความออนไลน์คดีแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนแล้วหลอกลวงให้ลงทุน สร้างความเสียหายกับพี่น้องประชาชน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.  หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงข่าวเตือนภัย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2566 เวลา 13.30 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.กล่าวว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 มิ.ย.2566)  มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่  อันดับ 1)  คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ   3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 4) คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) และ 5) คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับคดีออนไลน์ที่คนร้ายนำมาหลอกลวงซ้ำเติมประชาชนในช่วงนี้  คือ การแอบอ้าง อาจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ หลอกให้โอนเงินลงทุน  

ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องย้ำเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ จึงได้เชิญอาจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด   ผบก.ตอท.บช.สอท. กล่าวถึงรายละเอียดภัยออนไลน์ที่คนร้ายแอบอ้าง อาจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ หลอกให้โอนเงินลงทุน  “ซื้อหุ้นต่างประเทศ สูญเงิน 6 ล้าน”

โดยคนร้ายใช้วิธียิงโฆษณาใน Facebook โดยแอบอ้างใช้รูปและชื่อ ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ชักชวนให้ลงทุน มีผลตอบแทนสูงมาก เหยื่อหลงเชื่อ กดลิงก์เพิ่มเพื่อนไลน์ Open Chat ที่มีสมาชิกอยู่เป็นจำนวนมาก มีคนร้ายแอบอ้าง ดร.ณัฐวัฒิฯเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีคนร้ายอีกคนเป็นเลขา มีหน้าม้าส่วนหนึ่ง ที่เหลือเป็น Bot(โปรแกรมอัตโนมัติ) คนร้ายแนะนำให้เหยื่อลงทุนซื้อหุ้นไทย เหยื่อหลงเชื่อและได้เปิดพอร์ตหุ้นกับธนาคารหรือโบรกเกอร์ของจริง  แล้วเลือกซื้อหุ้นที่ถูกแนะนำ แต่ไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจากธนาคารหรือโบรกเกอร์แจ้งว่าหุ้นมีราคาต่ำเกินไป  คนร้ายที่เป็นเลขาจึงแนะนำให้ลงทุนซื้อหุ้นต่างประเทศ   ผ่านแพลตฟอร์มของคนร้าย   อ้างผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นไทย    

โดยให้กดลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอม(Taining)  จากนั้นแนะนำให้ลงทุนซื้อหุ้นให้ผลตอบแทน 25% และเร่งรัดให้รีบซื้อเป็นเงินหลัก 100,000 บาท หากเหยื่อลงทุนหลัก 10,000 บาท คนร้ายจะอ้างว่าเป็นการเสียโอกาส  เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีแรงหนุนขาขึ้น อีกทั้งคนร้ายมีข่าววงในว่าหากลงทุนช่วงนี้จะได้รับผลตอบแทนสูง เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีม้า เป็นการลงทุนครั้งแรก และส่งสลิปการโอนเงินในกลุ่มไลน์ คนร้ายที่เป็นเลขาแสดงให้เห็นในไลน์ว่าได้ลงทะเบียนรับแล้วและจะเป็นผู้กรอกเงินลงทุนในระบบเอง (ในระบบแสดงยอดเงินลงทุนและผลตอบแทนให้เหยื่อเห็นว่าได้กำไร) ต่อมาคนร้ายหลอกให้ลงทุนเพิ่ม  

โดยเอาผลตอบแทนสูงมาจูงใจ  และอ้างว่าจะทำให้หุ้นยกตัวสูงขึ้นด้วย ขณะเดียวกันจะมีหน้าม้าคอยแนะนำ  กดดันให้ลงทุนไปพร้อมๆ กัน และถ้าถอนการลงทุนเร็วเกินไป  จะทำให้คนอื่นไม่สามารถลงทุนต่อไปได้ เหยื่อหลงเชื่อลงทุนซื้อหุ้นเพิ่ม เมื่อเหยื่อกดถอนเงิน  คนร้ายจะอ้างว่าใส่เลขบัญชีผิด เขียนบันทึกช่วยจำไม่ถูกต้อง ใส่รหัสถอนเงินผิด กดถอนเงินยอดสูงเกินไปจนระบบล๊อค  ทุกครั้งที่อ้างจะให้โอนเงินเพิ่ม  และบอกว่าสามารถถอนคืนได้ทั้งหมด สุดท้ายเหยื่อเสียเงินไป 6 ล้านบาท

จุดสังเกต
1.  การโอนเงินลงทุนหรือทำภารกิจใดๆ ที่ใช้เงินน้อย  รายได้ดี  มีผลตอบแทนหรือค่าคอมมิชชันสูง  ไม่มีอยู่จริง หากผลตอบแทนหรือค่าคอมมิชชันสูงมากขนาดนี้  คนร้ายคงโอนเงินลงทุนหรือทำภารกิจด้วยตนเอง 

2. ในการลงทุนหรือทำภารกิจ  คนร้ายให้เหยื่อกดลิงก์เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอมที่คนร้ายสร้างขึ้นมาให้เหมือนของจริง  และเมื่อเหยื่อโอนเงินทำภารกิจ ในระบบจะขึ้นยอดเงินแสดงให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นยอดเงินจริง ซึ่งความจริงแล้วเป็นเพียงตัวเลขในอากาศที่คนร้ายนำมาหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อเท่านั้น

3. บัญชีธนาคาร(บัญชีม้า) เป็นบัญชีบุคคลธรรมดา  ไม่ใช่บัญชีชื่อหน่วยงานหรือองค์กร
วิธีป้องกัน

       1. ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์โฆษณาแปลกปลอม หรือกดเพิ่มเพื่อนไลน์ในรูปแบบสแกน QR Code หรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID Line จากคนที่ไม่น่าเชื่อถือ
        2. หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store  เท่านั้น  อย่าเชื่อคำแนะนำของคนร้ายให้กดเข้าบราวเซอร์อื่น
       3. ควรลงทุนในบริษัทหรือผู้ให้บริการในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  https://www.set.or.th
อาจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  ได้มีคนร้ายแอบอ้างชื่อ โดยใช้ชื่อไลน์ว่า “ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์” “ดร.ณัฐวุฒิ”  “Dr.Nattawut” “DR.Wut” และ “Dr.Nat” แล้วเปิดกลุ่มไลน์ หรือไลน์ open chat ในชื่อต่างๆ เช่น Global Stock รวยหุ้นเด่น รวยหุ้นเด่น 2 เศรษฐีหุ้น เป็นต้น ดึงคนเข้าร่วมกลุ่ม แล้วหลอกลวงให้โอนเงิน 10,000 บาท บ้าง 100,000 บาท บ้าง อ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนหุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูง บางรายตกเป็นเหยื่อสูญเงิน 6 ล้านบาท และเหยื่อบางคนถูกหลอกก็ให้โอนเงินไปเทรดคริปโตเคอเรนซี อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูง จึงขอแจ้งเตือนว่าการกระทำดังกล่าว  เป็นการหลอกลวงของคนร้ายทั้งสิ้น ขอยืนยันว่าไม่เคยมีธุรกิจด้านการลงทุนดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากการชักชวนให้ประชาชนโอนเงินมาร่วมลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และคริปโตเคอเรนซี่ ต้องมีใบอนุญาตจัดการการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในกองทุนต่างประเทศ และสินทรัพย์ดิจิตอล

ซึ่ง ดร.ณัฐวุฒิฯ ไม่มีใบอนุญาตนี้แต่อย่างใด และก่อนจะโอนเงินให้เข้าใจก่อนว่าควรมีการยืนยันตัวตนว่าเป็น ดร.ณัฐวุฒิฯ จริงๆ หากให้โอนเงินในนามบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชื่อบัญชี ดร.ณัฐวุฒิฯ หรือบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ ดร.ณัฐวุฒิฯ เป็นประธาน ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นคนร้ายอย่างแน่นอน สำหรับช่องทาง official ติดต่อ ดร.ณัฐวุฒิฯ มีดังนี้ Facebook : http://fb.com/tontancorp Youtube : https://goo.gl/J9u1jm สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รายงานการแอบอ้างเป็น ดร.ณัฐวุฒิฯ ได้ที่ Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ

พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์  จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท. กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้จัดทำแบบทดสอบ วัดระดับ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 80 ข้อ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ตรวจสอบความรู้ด้านอาชญากรรมไซเบอร์ เมื่อทำการทดสอบเสร็จแล้ว ให้กดส่ง และกดขอดูคะแนนผลการทดสอบได้เลย  หากทำข้อใดผิด  จะมีการเฉลยข้อที่ถูกต้องให้เพื่อนำไปเป็นความรู้ต่อไป  หากพี่น้องประชาชนได้ทำการทดสอบความรู้ทั้ง 80 ข้อแล้ว  เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะมีภูมิคุ้มกันหรือมีวัคซีนไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน  จึงขอประชาชนสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ทดสอบความรู้ ตามแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ (สำหรับประชาชน) ได้ทั้ง QR Code และตามลิงก์นี้
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdXTV39hEH-GK-Tn4Fpmrpk3JLm-_djslp3ZvrV0i5gaQ-l-Q/viewform?pli=1


พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง  กล่าวเพิ่มเติมว่าแบบทดสอบ  วัคซีนไซเบอร์ ทั้ง 80 ข้อ   ได้รวบรวมมาจากกลโกงของคนร้ายและสิ่งที่ประชาชนควรรู้  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทำแบบทดสอบวัดความรู้ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์อีกทางหนึ่ง และขอให้บอกต่อเพื่อทำแบบทดสอบจะได้มีภูมิคุ้มกันภัยกันทุกคน สำหรับภัยออนไลน์ที่คนร้ายนำมาหลอกลวงเพื่อให้เหยื่อโอนเงินมาลงทุนนั้นมีหลายรูปแบบ  และคนร้ายได้พัฒนารูปแบบใหม่ๆ ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารถึงวิธีการของคนร้าย จุดสังเกต และวิธีป้องกัน จะได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ และหากต้องการลงทุนในการเทรดหุ้น ควรลงทุนในบริษัทหรือผู้ให้บริการในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  https://www.set.or.th  และเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ และเพจ เตือนภัยออนไลน์ หรือโทรสายด่วน 1441

รอง ผบ.ตร./ผอ.ศจร.ตร. สั่งการ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแข่งรถในทางผู้ขับขี่รถปอร์เช่ และมินิคูเปอร์ ที่ขับขี่เฉี่ยวชนจนเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง ล่าสุดแจ้งข้อหาเป็นที่เรียบร้อย

รอง ผบ.ตร./ผอ.ศจร.ตร. สั่งการ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแข่งรถในทางผู้ขับขี่รถปอร์เช่ และมินิคูเปอร์ ที่ขับขี่เฉี่ยวชนจนเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง ล่าสุดแจ้งข้อหาเป็นที่เรียบร้อย

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 กำชับให้ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงไปกำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง กรณีอุบัติเหตุรถมินิคูเปอร์เฉี่ยวชนกับรถเก๋งปอร์เช่ จนเสียหลักพุ่งเข้าร้านขายใบกระท่อม แล้วทับรถจักรยานยนต์เสียหายอีก 1 คัน บริเวณริมถนน 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ก่อนจะหมุนไปชนกับรถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ มีเด็กได้รับบาดเจ็บจำนวนมากพร้อมทั้งให้ดำเนินการตามกรอบของกฏหมายทุกมาตราที่เข้าข่ายกระทำผิดอย่างเคร่งครัด โปร่งใสตรงไปตรงมา เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะจนคดีถึงที่สุด นั้น
วานนี้ (26 มิ.ย.66) เวลา 18.00 น. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมพนักงานสอบสวน ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ขับขี่รถเก๋งยี่ห้อปอร์เช่ และผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อมินิคูเปอร์  ในความผิดฐาน “ขับรถแข่งขันในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือนร้อนของผู้อื่นและขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวและอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหายและมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและทรัพย์สินเสียหายและขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”ผู้ต้องหาทั้งสองรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และมีความเห็นทางคดี ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองต่อไป ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจาก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีความสำนึกผิดที่เป็นผู้กระทำให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น มีเด็ก ๆ ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยเบื้องต้นได้เข้าไปเยียวยาดูแลขวัญกำลังใจให้กับเด็ก ๆ ผู้ได้รับบาดเจ็บในส่วนหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ประกอบด้วยความผิด คือ  1. ฐานแข่งรถในทาง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ / 2. ผู้ใดขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (8) ประกอบมาตรา 158/1 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ / และ 3. ความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากมีทรัพย์สินเสียหายจากการที่รถยนต์เฉี่ยวชน ผู้ขับขี่จะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากโทษทางอาญาแล้วก็ยังต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้กับผู้เสียหายด้วย

พล.ต.ท.นิธิธรฯ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนั้น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศจร.ตร. สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ ที่สามารถพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้ขับขี่ทั้ง 2 คัน ที่เข้าข่ายเป็นกระกระทำความผิดฐานแข่งรถในทาง และความผิดฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนเพื่อจะได้มีพยานหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหากับ ผู้ต้องหาทั้งสองคนซึ่งเป็นฝ่ายกระทำผิด และจะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นทางคดี ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.รอย ฯ กำชับตำรวจให้พร้อมเป็นที่พึ่ง สร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือศรัทธาให้ประชาชน และบังคับใช้กฎหมายที่อย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำผิดในรายต่อๆ ไป

 

เปิดสถานะ ‘การเงิน-การคลังไทย’ แข็งแกร่ง  8 เดือนแรกปีงบฯ 66 จัดเก็บรายได้กว่า 1.22 แสน ลบ.

(27 มิ.ย. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ฐานะการเงิน-การคลังของไทยมีความแข็งแกร่ง หลังรับทราบรายงานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 สูงกว่าประมาณการ และรายงานฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 เงินคงคลัง ณ เดือนพฤษภาคม 2566 มีจำนวนกว่า 2.57 แสนล้านบาท

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการคลังเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 - พฤษภาคม 2566) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 1,643,075 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 122,378 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.0 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.9 โดยหน่วยงานที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่…

(1.) กรมสรรพากร โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายตัวได้ดีตามเศรษฐกิจ 

(2.) ส่วนราชการอื่น เนื่องจากมีรายได้พิเศษจากการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนเป็นรายได้แผ่นดิน รายได้จากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล เงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืนของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และรายได้จากใบอนุญาตคลื่นความถี่วิทยุระบบ FM 

(3.) กรมศุลกากร เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าขยายตัวได้ดีประกอบกับมีการชำระอากรขาเข้าย้อนหลังตามคำพิพากษาคดี 

และ (4.) รัฐวิสาหกิจ เนื่องจากมีการนำส่งรายได้ที่เหลื่อมมาจากปีงบประมาณก่อนหน้า 

อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการจากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ หากไม่รวมรายได้พิเศษของส่วนราชการอื่นและกรมศุลกากร ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิสูงกว่าประมาณการ 69,248 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.5 

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รายงานฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 - พฤษภาคม 2566) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 1,569,515 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,221,328 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 384,243 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ เดือนพฤษภาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 256,857 ล้านบาท 

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีสัญญาณเป็นไปในทิศทางบวก สถานะการเงินการคลังของไทยแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพ โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนทิศทางการทำงานที่ถูกต้องของรัฐบาลภายใต้วินัยทางการเงินการคลังที่เคร่งครัด รวมถึงความมุ่งมั่นเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนตลอดมา โดยยึดหลักของความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน

‘ชมพู่ อารยา’ เล่านาทีหนีตาย กลางดึก  รีบใส่ กกน. คว้าพาสปอร์ต ทิ้งเพชรทิ้งเงิน

เกิดเหตุการณ์ระทึกในต่างแดนกับ ชมพู่ อารยา ขณะไปเฉิดฉายบนพรมแดงเทสกาลหนังเมืองคานส์ในรอบ 4 ปี กับเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 76 Festival de Cannes 2023 โชว์ลุกส์สวยแซ่บ 3 วัน 3 ลุกส์จัดเต็ม ขณะกลับเข้าห้องพักที่โรงแรมมีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นสุดระทึก 

โดยชมพู่เล่าว่า ขณะกำลังจะทิ้งตัวลงนอน เพราะงานจบแล้ว อาฟเตอร์ปาร์ตี้ไปมาหมดแล้ว รื้อผม ถอดกิ๊บ ล้างหน้าอะไรหมดแล้วทิ้งตัว เสียง Alarm (สัญญาณเตือนภัย) ก็ดัง เราก็ False Alarm (สัญญาณเตือนที่ผิดพลาด) หรือเปล่า แต่มันก็ไม่เงียบสักที เราจะเอาอะไรออกไปดี พลอย ชวพร เพื่อนสนิทก็บอก พาสปอร์ต

เราก็อยู่ในชุดนอนไม่ได้ใส่กางเกงใน เพราะกำลังจะทิ้งตัว เลยขอใส่กางเกงในก่อน ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรแต่เพื่อความอุ่นใจ แล้วใส่แจ๊กเก็ตคลุม เราจะใส่ตัวไหนไป เพราะดารานอนในโรงแรมเยอะ เผื่อเราลงไปเจอ แอล แฟนนิ่ง อะไรแบบนี้เพื่อนดารา ก็ถือตะกร้าเชี่ยนหมากเราใส่พาสปอร์ต 2 เล่ม

แล้วมานึกถึงฉากในหนัง คนไปรอกันหน้าโรงแรม แบบชุดนอนแล้ว เราใส่สูทมันไม่คือ เราก็เลยไปเปลี่ยนแล้วลงไป เราอยู่ชั้น 6 แต่เราก็มานึกถึง Ocean’s Eleven ที่โรงแรมดาดฟ้าเป็นเพนเฮาส์ที่เพชรยี่ห้อหนึ่งจะเหมาทุกปี จะมีเพชร มีเซฟ ซีอีโอก็นอนอยู่บนนั้น เรานึกว่าหรือมันมีการขโมยกัน มองขึ้นไปเห็นการ์ดยืนกันอยู่ ไม่มีใครลง แต่เราก็ลงวนไปเรื่อยๆ

ลงไปจะถึงชั้นล่างอยู่แล้ว คนก็เดินสวนขึ้นมา คือ พวกที่ลงไปก่อนหน้าเรา แล้วก็บอก False Alarm ก็เดินกลับห้องไปนอน แล้วระหว่างทางลงไปจะถึงแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า เพชร เงิน อยู่ในเซฟหมดเลย ไม่ได้เอาออกมาเลย

‘กลุ่มพิราบขาว’ ยื่นศาล รธน. สอย ‘พิธา’ ปมคุณสมบัติ ด้าน ‘เสรี’ เย้ย มี ส.ว.หนุนนั่งนายกฯ ไม่เกิน 5 เสียง

(27 มิ.ย. 66) ที่รัฐสภา นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 ยื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.ในฐานะประธานกมธ.การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เพื่อขอให้ ส.ว.ร่วมกันลงชื่อร้องเรียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งอาจขัด พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส.มาตรา 42 (3) และกรณีโอนหุ้นให้กับบุคคลอื่นหลังวันเลือกตั้ง อาจเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

นายสมชาย กล่าวว่า ประเด็นหุ้นสื่อ ตนขอเรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายพิธา และไม่มีปัญหากับการเป็นนายกฯ ส่วนที่เสนอให้ ส.ว.เข้าชื่อเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธานั้น ในความเป็นส.ส.ของนายพิธา ส.ว.ไม่สามารถทำได้ แต่หากเป็นประเด็นของนายกฯ ส.ว.ทำได้

เมื่อถามถึงนายพิธา มั่นใจว่าจะได้รับเสียงโหวตจาก ส.ว.ให้เป็นนายกฯ นายสมชาย กล่าวว่า จากที่ตนพูดคุยกับ ส.ว.ที่ลงคะแนนเลือกตั้งให้พรรคก้าวไกล พบว่าไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคก้าวไกล เช่น การแก้ไขมาตรา 112 การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รวมถึงหมวด 1 หมวด 2 แต่เห็นด้วยกับบางนโยบาย ดังนั้น การลงมติเลือกของ ส.ว.ขอให้มั่นใจในดุลยพินิจ และวุฒิภาวะของ ส.ว.ที่จะพิจารณาในประเด็นสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ความสงบสุข

“ส.ว.ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล หรือคำนึงถึงการเปลี่ยนขั้วอำนาจ เปลี่ยนข้างหรือข้ามขั้วหรือไม่ แต่ประเด็นนายกฯ มีความเกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาล ต้องพิจารณาสิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดความกังวลในความมั่นคงของประเทศ และไม่นำไปสู่ปัญหาความไม่มั่นคง สำหรับบางนโยบายของพรรค พบว่าสุ่มเสี่ยง ดังนั้น ผมขอให้เอาออกเพื่อประโยชน์ของประเทศ” นายสมชาย กล่าว

ด้านนายเสรี กล่าวว่า เรื่องการถือหุ้นของนายพิธา อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กมธ.พัฒนาการเมือง วุฒิสภาอยู่แล้ว และในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 10.00 น. กมธ.จะไปมอบให้กับประธานกกต. ขอทราบความคืบหน้าการตรวจสอบนายพิธา ที่ถูกตรวจสอบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 กรณีรู้ตัวขัดคุณสมบัติ แต่ยังลงสมัครเลือกตั้ง และจะนำหลักฐานการถือครองหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา และข้อมูลการถือครองที่ดิน 14 ไร่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของนายพิธาไปยื่นต่อ กกต. โดยเห็นว่า กกต. ควรส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนจะมีการเลือกนายกฯ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับ ส.ว.ตัดสินใจ

นายเสรี กล่าวว่า หลังจากนี้ ส.ว.จะเข้าชื่อกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ส่งเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯของนายพิธา ที่ระบุต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 160 ที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามการถือครองหุ้นสื่อ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ในฐานะที่ ส.ว.ต้องมีส่วนร่วมเห็นชอบนายกฯ

ดังนั้น เมื่อมีข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามย่อมยื่นตีความให้ตรวจสอบได้ โดยควรยื่นให้ตรวจสอบก่อนจะโหวตเลือกนายกฯ แต่จะมีผลทำให้การโหวตนายกฯ ต้องยุติก่อนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะพิจารณา หาก กกต.ไม่ยื่นตีความคุณสมบัติของนายพิธา ก่อนโหวตนายกฯ ก็อาจเป็นไปได้ที่ ส.ว.จะเข้าชื่อกันยื่นตีความคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯของนายพิธา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ส.ว.ยื่นตีความคุณสมบัตินายกฯ ของนายพิธา จะทำให้ปลุกกระแสสังคมออกมาต่อต้านหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า กระแสสังคมคือส่วนหนึ่ง ความถูกต้องคือส่วนหนึ่ง ถ้ากระแสสังคมไม่ถูกต้อง จะยึดอะไรระหว่างความถูกต้องกับกระแส ถ้ายึดแต่กระแสก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

เมื่อถามว่านายพิธามั่นใจว่ามีเสียง ส.ว.เพียงพอจะโหวตให้เป็นนายกฯนั้น นายเสรีกล่าวว่า หากเสียงมากพอ ก็เป็นนายกฯ ได้เลย แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่า ส.ว.คนใดสนับสนุน นอกจาก 17 คน ที่มีชื่อและหลายคนก็บอกว่าถูกเอาชื่อไปใส่ และหลายคนบอกว่า ถ้าได้เสียงข้างมากจะเลือกให้เป็นนายกฯ แต่ตอนนี้ทุกคนพูดตรงกันว่าถ้าเสียงข้างมาก แล้วยังไปแก้มาตรา 112 ก็จะไม่ลงคะแนนให้

“เท่าที่ทราบตอนนี้มี 5 คน ที่จะโหวตให้ ส่วนตนยืนยันมาตลอดว่าหากมีการแสดงออก หรือมีการกระทำไปในแนวทางที่แก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่โหวตให้แน่นอน ดังนั้น การลงมติในครั้งนี้ ถึงไม่เหมือนกับการเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 พร้อมยืนยัน ส.ว.มีอิสระในการตัดสินใจ ไม่มีใบสั่งจากใครนอกจากประชาชน” นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่า หากเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ มาจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สบายใจขึ้นในการโหวตให้เป็นนายกฯ หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องสบายใจหรือไม่สบายใจ แต่เป็นเรื่องที่ ส.ส.จะไปตกลงกันให้สบายใจ ไปจัดทัพรวบรวมเสียงกันมา เมื่อถึงตอนนั้น ส.ว.จะพิจารณาตามมาตรา 159 คือเลือกบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามย้ำว่า หากแนวโน้มเป็นแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย จะมีภาษีมากกว่านายพิธาหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นใคร เพราะพรรคเพื่อไทยมี 3 ชื่อ ก็ต้องดูว่าเสนอใคร ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงยังตอบไม่ได้ ต้องพิจารณาก่อนว่าบุคคลนั้นเหมาะสมหรือไม่ รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกัน

‘ปาล์มมี่’ ขึ้นแท่น ‘เซียนพระ’ คนใหม่ หลังส่งเข้าประกวด แล้วคว้ารางวัลชนะเลิศ

เป็นนักร้องไม่พอ ยังเป็นเซียนพระเครื่องด้วย สำหรับ “ปาล์มมี่ – อีฟ ปานเจริญ” นักร้องสาวมากความสามารถ ที่มักจะชอบไหว้พระทำบุญแล้ว

ล่าสุด เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ปาล์มมี่เผยอีกมุมที่หลายคนยังไม่รู้ ด้วยการไปลงประกวดพระเครื่อง แถมไม่ได้เข้าร่วมธรรมดา แต่คว้ารางวัลที่ 1 มาครองได้สำเร็จ
โดยนักร้องสาว ได้โพสต์ภาพกล่องพระเครื่อง ซึ่งเป็นเหรียญหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ที่มีสติ๊กเกอร์หมายเลข 1 ผ่านทางโซเชียลฯ ทุกช่องทาง พร้อมแคปชั่นแบบเขิน ๆ ว่า
“เลขหนึ่งไทยตรงหน้ากล่องนั้น..เขินนะคะเนี่ยย มาถึงจุดจุดนี้แล้วค่ะมิตรคะ #งานประกวดพระเครื่องศูนย์ราชการ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top