Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

ตำรวจไซเบอร์ ทลายแก๊ง ROMANCE SCAM รวบแล้ว 12 ราย ตุ๋นเหยื่อสูญเงินกว่า 36 ล้าน

สืบเนื่องจากมีคนร้ายใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ “Helen” โปรไฟล์เป็นรูปหญิงสวยชาวยุโรป ส่งข้อความมาหาผู้เสียหาย 

และพูดคุยจนสนิทสนมกันโดยสร้างเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายว่ามีความต้องการที่จะมาอยู่กินกันด้วยที่ไทยแต่ขอให้ผู้เสียหายรับพัสดุที่ตนจะส่งมายังประเทศไทยไว้ก่อน จากนั้นมีผู้ใช้ไลน์ “Fast Move Cargo” หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรแจ้งว่าถ้ารับพัสดุจะต้องมีใช้จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 36 ล้านบาทผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ นายธนวัฒน์ อายุ 20 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาตลิ่งชัน หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ

ต่อมาวันที่ (12 มิ.ย.66) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า นายธนวัฒน์ ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ ได้หลบหนีการจับกุมมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ย่านยานนาวา จึงได้นำกำลังทีมสืบสวนเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณวัดปริวาสราชสงคราม เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.วีระวิทธ์ ผลประสิทธิ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐกิตต์ บุญสันต์สุขศรี, พ.ต.ต.ศุภกิจ  สมรักษ์ สว.กก.3 บก.สอท.1, ร.ต.อ.ภูมิ มั่นเมือง รอง สว.กก.3 บก.สอท.1, ร.ต.อ.อนุสรณ์ กรอบเพ็ชร รอง สว.กก.3 บก.สอท.1 ดำเนินการจับกุม

ซีจีเอสร่วม มสส. จัดเสวนา 3 งานวิจัย 'พนัน' ชี้เด็กไทยแทงออนไลน์พุ่งกว่า 3 ล้านคน

ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาวิชาการ นำเสนอ 3 ผลงานวิจัย เรื่อง “เปิดพฤติกรรมเยาวชนไทย...รู้เท่าทันภัยพนัน ?” เมื่อวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2566  ณ โรงแรมแมนดาริน  สามย่าน กรุงเทพ โดยมี นายวิเชษฐ์  พิชัยรัตน์  สื่อมวลชนอาวุโส เป็นผู้ดำเนินรายการ

รศ.ดร.ณัฐนันท์  ศิริเจริญ   อาจารย์  คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ หัวหน้าทีมวิจัย เรื่อง การรู้เท่าทันสื่อชวนพนันออนไลน์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล  กล่าวว่าการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาสาเหตุ,แนวทางการรู้เท่าทันและข้อเสนอเชิง นโยบายในการรู้เท่าทันสื่อชวนพนันออนไลน์

โดยมีทั้งการสุ่มเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่และจบไปแล้วที่มีพฤติกรรมเล่นพนันออนไลน์ 12 คนและยังได้สอบถามนักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีใน มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนอีก 400 คน ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึง เดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมาพบว่าสาเหตุการเล่นพนันออนไลน์นั้นในด้านความรู้ยังไม่มีความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพียงพอไม่คิดว่าเป็นการเล่นพนันแต่เป็นเพียงเกมออนไลน์ที่มีเงินรางวัลและมีทัศนคติว่าเป็นเพียงการเสี่ยงโชคลุ้นรางวัล ตอบแทน ทำให้สนุกตื่นเต้น และสิ่งที่มีผลต่อพฤติกรรมการการเล่นพนันออนไลน์เพราะพบเห็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อน และ อยู่ในชุมชนที่เล่นพนันออนไลน์จึงมองว่าเป็นเรื่องปกติ

ส่วนการรู้เท่าทันสื่อชวนพนันออนไลน์นั้นนักศึกษาค่อนข้างรู้ดีว่าสื่อโฆษณาเกี่ยวกับการชวนเล่น พนันออนไลน์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เป็นเพียงข้อเสนอให้ผู้รับสารเลือกเองว่าจะเข้าไปเล่นหรือไม่ โดยไม่ได้บังคับขู่เข็ญ ดังนั้นการที่นักศึกษาจะเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ซึ่ง อาจอยู่ในรูปแบบของเกมก็เป็นเพียงความอยากลองอยากรู้ของตัวนักศึกษาคนนั้น และคิดว่านักศึกษามีอิสระที่จะคิดทำอะไรตามที่ตนเองคิดว่าจะได้เงินมา

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ที่ตนเองต้องการและไม่ คิดว่าการใช้กฎหมายเข้ามาจัดการกับการเล่นพนันออนไลน์ของวัยรุ่นนักศึกษาจะได้ผล เพราะนักศึกษาไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรงหรือสร้างความเสียหายใดๆ เพียงแค่การเข้าไปเล่นเกมและหากฝีมือดี โชคดีก็ จะได้เงินรางวัลตอบแทนกลับมาเท่านั้น จึงไม่คิดว่าต้องเกรงกลัวกฎหมายรวมถึงคิดว่ามีการเก็บส่วยกับ เจ้าของเว็บพนัน จึงเชื่อว่าไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเพื่อติดตามจับกุมหรือลงโทษมากนัก

สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบายในการรู้เท่าทันสื่อชวนพนันออนไลน์เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อนักศึกษา ระบุว่าจะใช้รูปแบบการสอนจากครูอาจารย์นั้นไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก  เพราะอาจมีความรู้ในเรื่องพนันออนไลน์ไม่เท่ากับนักศึกษาด้วยซ้ำ ควรใช้การเรียนรู้ที่สนุกสนานผ่านเกมที่วัยรุ่นชอบเล่นกันและ เป็นการเรียนรู้สร้างความเข้าใจและความตระหนักในปัญหาการพนันออนไลน์ในรูปแบบของความบันเทิงจะดีกว่า  รวมทั้งควรให้คนที่เคยมีประสบการณ์จริงยิ่งถ้าเป็นคนดังหรือคนมีชื่อเสียงในสังคมในด้านต่างๆ มาพูดเล่าประสบการณ์จริงของตนเองและบอกถึงข้อดีข้อเสียและข้อควรระวังให้กับนักศึกษา น่าจะได้รับความสนใจและใส่ใจและน่าเชื่อถือรวมทั้งเรียนรู้แบบสนุกสนานมากกว่า ส่วนข้อเสนอเมื่อพบผู้ติดพนันสิ่ง ที่ควรทำคือนึกถึงสิ่งดีๆในตัวเขา

มีสติใจเย็นบอกว่าเขาจะต้องได้รับการช่วยเหลือ ดูแลด้านจิตใจเป็นพิเศษ จัดตารางเวลาการนอนและใช้อินเตอร์เน็ตที่เหมาะสม กำหนดขอบเขตการใช้เงิน เป็นต้น แต่สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ ตำหนิ บ่น ตัดออกจากครอบครัว คาดหวังว่าเขาจะหายจากการติดพนันในทันทีเมื่อหยุดเล่นพนัน รวมทั้งการใช้หนี้แทนหรือการประกันตัวเมื่อถูกดำเนินคดีและปิดบังหรือไม่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของตัวเองและครอบครัว

ผศ.ดร.ไพฑูรย์ สอนทน อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ หัวหน้าทีมวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเล่นพนันออนไลน์กับปัญหาการพนัน ของนักเรียนมัธยมศึกษา จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการวิจัยนอกจากต้องการดูความชุกของการเล่นพนันออนไลน์และออฟไลน์แล้วยังต้องการวัดทัศนคติต่อการเล่นพนันและภาวะซึมเศร้า รวมทั้งการ ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการเล่นพนันกับภาวะซึมเศร้า

โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงมัธยม 4 แห่งของจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ 1 แห่ง ขนาดใหญ่ 1 แห่ง ขนาดกลาง 1 แห่ง ขนาดเล็ก 1 แห่ง  จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 3,744 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 42.9 อายุ 14-15 ปี พบว่าทัศนคติในเรื่องการพนันน่าตกใจที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 50.1 มีทัศนคติที่ดีต่อการเล่นพนัน มองว่าการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ถือว่าเป็นการพนันมีคนเห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างยิ่งร้อยละ 33 แต่ก็มีคนไม่แน่ใจถึงร้อยละ 44.7 ส่วนการซื้อหวยใต้ดินไม่ถือเป็นการพนันมีคนไม่เห็นด้วยรวมร้อยละ 41.1

แต่ก็มีคนไม่แน่ใจถึงร้อยละ 47.8 อย่างไรก็ตามผลวิจัยยังพบข้อมูลที่น่าดีใจคือนักเรียนส่วนใหญ่เห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างยิ่งรวมกันถึงร้อยละ 62.10 หากจะห้ามเล่นการพนันอย่างสิ้นเชิงและยังพบว่านักเรียนร้อยละ 83.0 ไม่เคยเล่นพนันออนไลน์  รวมทั้งนักเรียนมองว่าตัวเองไม่มีปัญหาจากการพนันเลยถึงร้อยละ 89.2 ส่วนคนที่เล่นการพนันออนไลน์ร้อยละ 82.5 เล่น1-4 ครั้งต่อวัน เหตุผลในการเล่นร้อยละ 39.5 เพราะสะดวกเล่นได้ทุกที่  รองลงมา ร้อยละ 28 เพื่อนชวนเล่นเพื่อเข้ากลุ่ม ช่องทางในการเล่นผ่านไลน์ / แอพแชทต่างๆ และเล่นโดยตรงกับเว็บไซต์พนันพอๆกันที่ร้อยละ 54.8 ส่วนอุปกรณ์ที่ใช่เล่นส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือ

ด้านปัญหาและผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนนั้นพบว่านักเรียนที่มีความถี่ในการเล่นพนันออนไลน์เล่นเป็นบางครั้งมีความเสี่ยงต่อปัญหาการพนัน 3 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่เล่นการพนันออนไลน์ นักเรียนที่มีความถี่ในการเล่นพนันออนไลน์เล่นเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อปัญหาการพนัน 6 เท่าเมื่อเทียบผู้ไม่เล่นการพนันออนไลน์ ส่วนนักเรียนที่มีความถี่ในการเล่นพนันออฟไลน์  ไม่มีความเสี่ยงต่อปัญหาการพนัน และผู้ที่มีปัญหาการติดพนันมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า 3 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่มีปัญหาการพนัน ที่น่าตกใจคือเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาของจังหวัดเพชรบูรณ์  มีภาวะซึมเศร้าปานกลางถึงรุนแรง สูงถึงร้อยละ 29.7 และพบว่านักเรียนมีแนวโน้มที่จะเล่นการพนันเมื่อตนเองมีความรู้สึกเหงา เศร้าหรือมีปัญหาสุขภาพจิต นอกจากนั้นเมื่อดูผลกระทบต่อสุขภาพที่มีมากกว่าปัญหาการพนันพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพที่น่าตกใจคือมีนักเรียนถึงร้อยละ 53.6 ที่รับประทานอาหารหวาน / น้ำอัดลมบ่อยๆ นอกจากนั้นร้อยละ 17.8 ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 8.7 สูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 5.8 รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ร้อยละ 4.3 สูบบุหรี่มวน ร้อยละ 2.5 สูบกัญชา ผลวิจัยจึงชี้ชัดเจนว่าเด็กนักเรียนมีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างมากและขณะเดียวกันก็ยังมีความชุกในการเล่นพนันออนไลน์ ในระดับมัธยมศึกษาอยู่ในระดับสูงจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับนโยบายและปฏิบัติ หาแนวทางลดการ เข้าถึงและลดผลกระทบโดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า   อยากให้โรงเรียนเฝ้าระวังและคัดกรองปัญหาในเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
นายอุบล สวัสดิ์ผล หัวหน้าทีมวิจัยเรื่อง วัคซีนต้นกล้า..การพัฒนากระบวนการเรียนรู้เท่าทันการ พนันออนไลน์ในโรงเรียนกีฬา กล่าวว่าทีมวิจัยเลือกพื้นที่วิจัยแบบเจาะจงคือโรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้าซึ่งเป็นโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ผ่านแกนนำนักวิจัยสภานักเรียน 25 คน กลุ่มนักเรียน ม.1-ม.6 จำนวน 569 คนและครูแกนนำ 8 กลุ่มสาระ 20 คน

เพื่อศึกษามุมมอง สถานการณ์ พฤติกรรมและผลกระทบ รวมทั้งการทดลองกระบวนการเรียนรู้เท่าทันเพื่อวิเคราะห์เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การ ป้องกันและลดผลกระทบรวมทั้งการผลักดันให้เกินมาตรการหรือนโยบายโรงเรียนกีฬาปลอดพนัน โดยการหาวิธีการให้ความรู้เพื่อให้เด็กได้รู้เท่าทันการพนันการพนันออนไลน์ผ่านการตั้งคำถามหลัก 4 คำถามคือ หนึ่ง เมื่อได้ยินคำว่าพนันเรานึกถึงอะไร? สอง มีใครที่เกี่ยวข้องกับการพนันและเกี่ยวข้องอย่างไร?  สาม ผลที่เกิดขึ้นจากพนันออนไลน์และ สี่ ทำไมเราต้องรู้เท่าทันพนันออนไลน์ พบว่าประเด็นเรื่องทัศนคติเมื่อพูดถึงคำว่าเล่นพนันนักเรียนส่วนใหญ่ร้อยละ 44.3 นึกถึงพนันออนไลน์มากที่สุด ชนิดของพนันออนไลน์ที่คิดถึงมากที่สุดคือคำว่าสล็อต สล็อตPG บาคารา ไพ่ ยิงปลา เสือมังกร ไฮโล มีเพียงร้อยละ 24.5 ที่นึกถึงกฎหมาย ศีลธรรมและผลกระทบ  และมุมมองจากนักเรียนหลายคนในการสนทนากลุ่มย่อยเห็นว่าลอตเตอรี่ ไม่ใช่การพนันเพราะ ซื้อขายกันเป็นปกติ ขายเกินราคาก็ไม่ถูกตำรวจจับ

ส่วนการรับรู้พฤติกรรมและการเข้าถึงการพนันของเด็กนักเรียนในโรงเรียนและชุมชนนั้นปรากฏว่ามี นักเรียนถึงร้อยละ 79.5 รู้ว่ามีการเล่นพนันในโรงเรียน เช่น ครูซื้อหวย ร้อยละ 78   รู้ว่ามีคนเล่นพนันในชุมชนเช่นป้าข้างบ้านเล่นไพ่ ลุงเล่นไฮโล ร้อยละ 53.4 เคยรับรู้ว่าผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวเล่นพนันเช่นพ่อ แม่ซื้อหวย พี่เล่นเกมออนไลน์ ส่วนการรู้จักการเล่นพนันส่วนใหญ่ร้อยละ 82.1รู้จากสื่อออนไลน์และเข้าถึงการพนันทั้งออฟไลน์และออนไลน์  ส่วนใหญ่จากช่องทางสื่อออนไลน์ถึงร้อยละ 82.7 สะท้อนให้เห็นชัดเจน ว่าสื่อออนไลน์มีอิทธิพลต่อนักเรียนระดับมัธยมมาก นักเรียนมีประสบการณ์เคยเล่นพนันออนไลน์มาหลายประเภททั้งหวยหุ้นไทยและต่างประเทศ ปลากัด แข่งม้า วัวชน ชนไก่ เหตุผลของการเล่นพนันออนไลน์ส่วน ใหญ่ร้อยละ 62.1  เห็นว่าสนุก เพลิดเพลิน ชอบ รู้สึกผ่อนคลาย รองลงมาร้อยละ 21.8 เพราะได้เงินจากการเล่นพนันออนไลน์  

ผลการวิจัยทำให้เห็นว่าพื้นฐานที่แตกต่างกันของนักเรียนทำให้การนิยามความหมาย การพนันจึงหลากหลาย รวมทั้งรายได้และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสารส่งผลให้มุมมองด้านทัศนคติ สถานการณ์การรับรู้ การเข้าถึง พฤติกรรมและผลกระทบจากพนันออนไลน์ มากกว่าการพนันปกติที่เด็กเคยมีประสบการณ์ในอดีต  จึงเสนอแนะว่าควรพัฒนาและจัดการเรียนรู้เพื่อเท่าทันพนันออนไลน์ด้วยเครื่องมือ แผนการเรียนรู้เท่าทันพนันออนไลน์ เป็นการสร้างวัคซีนให้กับนักเรียนที่ได้ผลเชิงประจักษ์ โดยนำกระบวนการกลุ่มเรียนรู้ภายใต้แนวคิด EF หรือ Executive Function คือ ความสามารถที่เกิดจากการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้คนเราสามารถควบคุมความคิด อารมณ์ พฤติกรรม มาใช้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนในทุกโรงเรียนซึ่งเป็นกระบวนการยับยั้งชั่งใจและสื่อที่ใช้ก็ควร ออกแบบและให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตัวเองในการเอาตัวรอดหรือการมีภูมิคุ้มกันในตัวเองด้วย

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีศูนย์ฯได้ทำการสำรวจการพนันออนไลน์ในกลุ่มคนอายุ 15-25 ปี พบว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีนักการพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก  โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนมีเวลาอยู่บ้านและเล่นอินเตอร์เน็ตมากขึ้น และเห็นการโฆษณาพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 44% เห็นแล้วอยากลอง 26% ลองเข้าไปดู 4% ทดลองเล่น และ 1% แชร์ข้อความโฆษณาไปยังสาธารณะ

ทำให้การโฆษณาพนันออนไลน์ขยายวงกว้างออกไปอีก เราพบว่าคนกลุ่มนี้เล่นการพนันงานเกือบ 3 ล้านคน เพราะเล่นง่าย เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา หาข้อมูลง่าย และคิดว่าสามารถควบคุมตัวเองได้ อยากเล่นหรืออยากหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ ประกอบกับบางคนเคยเห็น
 

พิษณุโลก แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” รุ่นที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2566

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 จัดการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” รุ่นที่ 3 ประจำปี 2566 เดินหน้าสร้างแกนนำประชาชนจิตอาสา ร่วมกันทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่หอประชุมเดชะตุงคะ ศูนย์ฝึกจิตอาสา ภาค 3 กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 เป็นประธาน  พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” (ภาค 3) รุ่นที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2566

มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม“หลักสูตรพื้นฐาน” (ภาค 3) รุ่นที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 200 คน ในระหว่างวันที่ 12-28 มิถุนายน 2566  โดยมี  นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และจิตอาสาพระราชทาน เข้าร่วมพิธีดังกล่าว 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 เพื่อผลิตจิตอาสา 904 ซึ่งมีหน้าที่เป็นแกนนำของประชาชนจิตอาสาในการสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชาติร่วมกันทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม รวมทั้งเป็นตัวอย่างในการปลูกฝังทัศนคติที่ดี และเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในเรื่องความเสียสละ ความมีระเบียบวินัย มีจิตสาธารณะ สร้างสรรค์สังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 

โดยระหว่างการฝึก ผู้เข้ารับการอบรมได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านสถานที่ฝึก ที่พัก วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ และอาหารพระราชทาน จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งภายหลังสำเร็จการอบรม จะได้รับพระราชทานใบประกาศนียบัตร พร้อมเครื่องหมายหลักสูตรจิตอาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” อันเป็นเครื่องหมายแสดงความสามารถ พร้อมจะเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าเพื่อทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติในอนาคต ปรีชา นุตจรัส นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

แยกลำสาลี’ พลิกโฉมใหม่ รถไฟฟ้า 2 สายมาบรรจบกัน อนาคตเตรียมสร้าง ‘สกายวอล์ค’ พร้อมสวนลอยฟ้า

เฟซบุ๊ก Bangkok Sightseeing ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ที่แยกลำสาลี โดยมีใจความว่า ...

ใครเลยจะคิดว่าแยกลำสาลี ที่หลายๆคนตั้งฉายาว่า "แยกลำสาหัส" จะพลิกโฉมไปได้ขนาดนี้ในวันที่มีรถไฟฟ้า 2 สายมาบรรจบกัน ด้านล่างลึกลงไปใต้ดิน คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านบนคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และอนาคตกำลังมีการก่อสร้างทางเดินหรือสกายวอล์คสวยๆพร้อมสวนลอยฟ้าเชื่อมไปถึงแยกบางกะปิและหน้าเดอะมอลล์ บางกะปิ สายไฟสายสื่อสารก็กำลังจะถูกนำลงใต้ดิน สังเกตุจากตู้ไฟที่ตั้งเรียงรายริมทางเท้าและเกาะกลางถนน นี่มันคือสวรรค์ของคนย่านนี้ชัด ๆ.

‘ใจสิงห์ ศิษย์นายกพันศักดิ์’ สอนท่ามวย ให้ทหารใหม่ ที่ จ.พิษณุโลก

เฟซบุ๊ก มวยสด.com ได้โพสต์ข้อความที่ ส.อ. สิทธิศักดิ์ จิตอิน หรือ ใจสิงห์  ศิษย์นายกพันศักดิ์ นักมวย ONE ลุมพินี ไปถ่ายทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทย ให้กับนายทหารใหม่ โดยมีใจความว่า ...

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 เวลา 1630 หน่วยฝึกทหารใหม่ ส.พัน. 4 พล.ร. 4 ทำการฝึกทักษะแม่ไม้มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ให้กับ น้องทหารใหม่ ผลัดที่ 1/66 โดยมี ส.อ. สิทธิศักดิ์ จิตอิน หรือ ใจสิงห์ ศิษย์นายกพันศักดิ์ นักมวย ONE ลุมพินี เพื่อให้ทหารใหม่มีความรู้ความเข้าใจทักษะแม่ไม้มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ ส.พัน.4 พล.ร.4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จังหวัดพิษณุโลก  

สำหรับ ใจสิงห์  ศิษย์นายกพันศักดิ์ นักมวย ONE ลุมพินี การชกล่าสุดบนเวที ONE ลุมพินี เอาชนะน็อกเอาต์ จาง จินฮู นักชกจากประเทศจีน  ไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66

หน้าร้อนดันโต!! CPALL รับอานิสงส์หน้าร้อน เครื่องดื่มขายดีกระฉูด หนุน Q2/66 ผงาด โบรกฯ แนะ!! ซื้อ เคาะเป้า 72 บ.

🔴 (14 มิ.ย. 66) บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ ‘เพิ่มน้ำหนัก’ เข้าลงทุน CPALL โดยแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q2/66  เติบโตโดดเด่น โดยล่าสุด SSSG ยังบวกได้ 7-9% y-y จากการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่องและเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้เครื่องดื่มขายดี

🟢 นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากค่าไฟภาคธุรกิจที่เริ่มปรับลงในเดือน พ.ค. - ส.ค. 66 ส่งผลให้ลดแรงกดดันในด้านค่าใช้จ่าย

⚪ สำหรับแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังปี 66 คาดจะได้อานิสงส์ทางอ้อมจากการปรับโครงสร้างหนี้ Lotus’s ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่งผ่านมายังกำไรของ MAKRO ที่เร่งตัวขึ้น ดังนั้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 66 ที่ 1.7 หมื่นลบ. +30% y-y  แนะนำ ‘ซื้อ’ ราคาเป้าหมาย 72 บาท
 

โบว์ ณัฏฐา’ ชี้ มีความพยายาม เบนความสนใจ กรณีหุ้นไอทีวี ทั้งที่ ความจริงมีแค่ ไอทีวีเป็นสื่อ - พิธาถือหุ้น

วันนี้ (14 มิ.ย. 66) นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ที่ชื่อ ‘โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา - Nuttaa Mahattana’ เกี่ยวกับเรื่องที่ ไอทีวี ยังคงดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัท มีการส่งงบการเงินและเสียภาษีอยู่ โดยระบุว่า…

สิ่งที่ระบุในรายงานผู้ถือหุ้นไอทีวี เป็นความจริงเกี่ยวกับธุรกิจ คือบริษัทยังดำเนินการตามวัตถุประสงค์บริษัท ส่งงบการเงินและเสียภาษีอยู่ 

ซึ่งวัตถุประสงค์บริษัทมี 45 ข้อ ไอทีวีอาจไม่ได้ดำเนินการตามข้อ 40 ที่ว่าด้วยการประกอบการวิทยุโทรทัศน์ แต่ยังดำเนินการตามข้อ 41 ที่ว่าด้วยการผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตามที่ระบุในงบการเงินตั้งแต่ปี 65 

เรื่องทั้งหมดเป็นกิจการของบริษัทที่เกิดขึ้นตามปกตินานก่อนจะมีเรื่องการร้องเรียนคุณสมบัติคุณพิธาปมถือหุ้นสื่อ ก่อนคุณพิธาจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดทนายกฯของพรรคก้าวไกล ก่อนจะมีการเลือกตั้งและรู้ผลกัน

การพยายามสร้างทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานา คือความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาในคดีที่เกี่ยวกับคุณสมบัติ ส.ส. และแคนดิเดทนายกฯตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีแค่ …

- ไอทีวี เป็นสื่อฯหรือไม่?
- คุณพิธาถือหุ้นไอทีวีขณะสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่?
เท่านี้เอง.

‘แอร์ฯ สาว’ เผย 10 เรื่องจริง ชีวิตบนเครื่องบินของ ‘แอร์โฮสเตส’ ที่หลายคนมักเข้าใจผิด และบางเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!!

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ชื่อ ‘imearths’ ซึ่งผู้ใช้ติ๊กต็อกท่านนี้ มีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินหนึ่ง แต่ทำคลิปบอกเล่าประสบการณ์ พร้อมแชร์เรื่องจริง 10 เรื่อง เกี่ยวกับแอร์โฮสเตส ที่หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิด โดยระบุว่า… 

1.) หลายๆ คนมักเข้าใจผิด ว่าแอร์โฮสเตสมีหน้าที่เพียงแค่คอยเสิร์ฟอาหารให้ผู้โดยสารบนเครื่อง แต่จริงๆ แล้ว แอร์โฮสเตสมีหน้าที่หลักๆ คือ ‘safety’ หรือ การดูแลความปลอดภัย บนเครื่องบิน เช่น หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แอร์โฮสเตสมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลความปลอดภัย และความเรียบร้อยบนเครื่องบินก่อนเป็นอันดับแรก

2.) เล็บ / ผม ต้องถูกระเบียบ สีผมต้องเป็นสีที่ถูกระเบียบ ตามกฎของแต่ละหลายการบิน ซึ่งแต่ละสายการบิน จะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป ส่วนสีเล็บ สามารถทาเล็บหรือทำเล็บเจลสีอ่อนๆ ได้ (แล้วแต่กฎระเบียบของแต่ละหลายการบิน)

3.) จะมีการเข้าห้องบรีฟตอบคำถาม เพื่อทดสอบความรู้ และทบทวนความจำในเรื่องของ safety ก่อนขึ้นบินทุกครั้ง ซึ่งหากตอบคำถามไม่ได้ ก็อาจถูก Off Road หรือ ‘ถูกถอดตารางบิน’ ได้ (แล้วแต่นโยบายของแต่ละสายการบิน)

4.) การบิน 4 แลนด์ VS 2 แลนด์ คืออะไร? คือ การขึ้น-ลงตามไฟล์บิน ยกตัวอย่างเช่น
การบิน 4 แลนด์ คือ บินระหว่างกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ (1), เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ (2), กรุงเทพฯ - ภูเก็ต (3) และภูเก็ต - กรุงเทพฯ (4) หรือก็คือการบินขึ้น-ลง 4 รอบนั่นเอง 
การบิน 2 แลนด์ คือ บินระหว่างกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ (1), เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ (2) หรือก็คือการบินขึ้น-ลง 2 รอบนั่นเอง

5.) การขึ้นบินในแต่ละครั้งค่อนข้างใช้เวลานาน บางไฟล์บิน อาจใช้เวลาร่วม 10 ชั่วโมง ดังนั้น การต้องห่างหายจากโลกโซเชียลไปมากกว่า 10 ชั่วโมงจึงถือเป็นเรื่องปกติของแอร์โฮสเตส

6.) นอนไม่เป็นเวลา เนื่องจากแต่ละไฟล์บินจะมีตารางขึ้นบินที่แตกต่างกันออกไป

7.) กินข้าวไม่เป็นเวลา เนื่องจากตารางการขึ้นบินแต่ละไฟล์มีเวลาที่แตกต่างกัน ภาระหน้าที่ที่แอร์โตสเตสก็มีมากน้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสายการบิน

8.) วันที่วุ่นวายที่สุด คือ วันที่ตารางการขึ้นบินออก เพราะจะเกิดการขอปรับเปลี่ยนตารางขึ้นบิน หรือขอแลกไฟล์บินกับเพื่อนๆ แอร์โอสเตสคนอื่นๆ

9.) แอร์โตสเตสสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ในราคาพิเศษ (ถูกกว่าปกติประมาณ 50%) ซึ่งเป็นสวัสดิการของแต่ละสายการบิน

10.) อาการปวดหลัง นับเป็นโรคยอดฮิตของแอร์โฮสเตส ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการที่แอร์โตสเตสต้องใส่ส้นสูงยืน เดิน นั่ง เพื่อให้บริการผู้โดยสารเป็นระยะเวลานาน
 

ผู้นำอิหร่าน พบ ผู้นำเวเนฯ ถกความร่วมมือทางการค้าครั้งใหม่ ยกระดับมูลค่าระหว่างประเทศเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญ

(14 มิ.ย. 66) ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน พบหารือกับประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ที่กรุงการากัส เมื่อวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยไรซีกล่าวในตอนหนึ่งว่า “เวเนซุเอลาและอิหร่านมีผลประโยชน์ร่วมกัน มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และมีศัตรูร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเวเนซุเอลากับอิหร่านไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ทางการทูต แต่เป็นความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ ขณะที่มาดูโรแสดงความชื่นชมอิหร่าน ในฐานะหนึ่งในประเทศอำนาจเกิดใหม่ที่สำคัญของโลก และเน้นย้ำว่าการผนึกกำลังร่วมกันเพื่อความแข็งแกร่ง”

สำหรับหนึ่งในเป้าหมายการเยือนเวเนซุเอลาของไรซีในครั้งนี้ คือการขยายโอกาสเพื่อส่งเสริมมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ปีละ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,560 ล้านบาท) เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 690,400 ล้านบาท) โดยผู้นำอิหร่านและผู้นำเวเนซุเอลาร่วมกันเป็นสักขีพยาน การลงนามในข้อตกลง 25 ฉบับ ครอบคลุมการยกระดับความร่วมมือ ตั้งแต่การศึกษา ไปจนถึงการสาธารณสุข และเหมืองแร่

ทั้งนี้ ไรซีนับเป็นผู้นำอิหร่านคนแรกในรอบเกือบ 7 ปี ที่เยือนเวเนซุเอลา ต่อจากประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี เมื่อเดือน กันยายน 2016 และหลังเสร็จสิ้นการเยือนกรุงการากัส ไรซีเตรียมเยือนคิวบา และนิการากัวเป็นจุดหมายต่อไป

ก่อนหน้านี้ ฮอสเซ็น อมิราบโดลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนเวเนซุเอลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง เพื่อต้านทานแรงกดดันจากภายนอก ขณะที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 อิหร่านส่งน้ำมันดิบทางเรือ 1.5 ล้านบาร์เรล เพื่อช่วยเหลือเวเนซุเอลา ซึ่งกำลังประสบกับวิกฤติเชื้อเพลิงในเวลานั้น ส่งผลให้สหรัฐฯ ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว
 

ผลรายงาน ชี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง ไม่คืบหน้า!! ลดการปล่อยมลพิษ ตั้งแต่ปี 2018

จากรายงานของ ESG Book ชี้ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ไม่ได้ดำเนินมาตรการอะไรเลยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อลดการปล่อยมลพิษ ที่เป็นตัวการสร้างความร้อนให้กับโลก และการกระทำเหล่านี้ ทำให้โลกยากต่อการหลีกเลี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างรุนแรง พร้อมเผยว่า บริษัทหลายแห่ง มีแนวโน้มการดำเนินงานที่มีส่วนช่วยให้เกิดภาวะโลกร้อนในระดับที่รุนแรง หรือ ปกปิดค่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด 

ผู้ให้บริการข้อมูลด้านความยั่งยืนชั้นนำ พบว่า มีความพยายามเพียง 22% ของบริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุด 500 แห่งของโลก มีการดำเนินการที่สอดคล้องไปกับ ‘ความตกลงปารีส’ ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งเป้าไปที่การควบคุมอุณหภูมิให้ไม่สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม (Pre-Industrial Levels) 

นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ วิเคราะห์ว่า การที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ นอกจากนี้ โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมรุนแรง ภัยแล้ง ไฟป่า และการขาดแคลนอาหารอาจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ทั้งนี้ ราว 45% ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความร้อนอย่างน้อย 2.7 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับความร้อนรุนแรง ที่อาจทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องเผชิญอากาศร้อนจัดจนเป็นอันตรายได้ 

‘ดาเนียล ไคลเออร์’ ประธานเจ้าหน้าที่ ESG Book กล่าวว่า ข้อมูลของพวกเขาสื่อความหมายอย่างชัดเจน ที่ผู้คนต้องเร่งดำเนินการมากขึ้น และต้องรีบจัดการอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในวิธีการดำเนินงานของเศรษฐกิจโลก มันก็ไม่ชัดเจนว่า เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้อย่างไร

ในการวิเคราะห์ของ ESG Book กำหนด ‘คะแนนอุณหภูมิ’ ให้กับบริษัทโดยอ้างอิงข้อมูลการปล่อยก๊าซที่รายงานต่อสาธารณะ และปัจจัยต่างๆ เช่น เป้าหมายการลดมลพิษ เพื่อพิจารณาการมีส่วนร่วมของริษัทในการบรรลุสู่เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ โดยการวิเคราะห์นี้ ครอบคลุมบริษัทในสหราชอาณาจักร จีน อินเดีย และสหภาพยุโรป ที่มีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.45 แสนล้านบาท 

โดยความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในสหรัฐฯ และจีนเริ่มดีขึ้น แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ โดยในสหรัฐฯ บริษัทที่ดำเนินตามความตกลงปารีสคิดเป็น 20% เพิ่มจาก 11% ในปี 2018 ส่วนในจีน บริษัทที่ดำเนินตามความตกลงปารีสคิดเป็น 12% เพิ่มจาก 3% ในปี 2018

นอกจากนี้ นักลงทุนสถาบัน (Institutional Investors) ก็มีบทบาทสำคัญในการควบคุมเงินทุนให้มุ่งสู่เทคโนโลยีหมุนเวียนมากขึ้น จากข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ คาดว่า การลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ จะแซงหน้าการลงทุนในการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในปีนี้

อย่างไรก็ตาม องค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ‘IEA’ คาดว่า จะมีเงินลงทุนมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.5 ล้านล้านบาท จะไหลไปสู่น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินในปีนี้

ทั้งนี้ รายงานชิ้นนี้ เป็นหนึ่งในชุดข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ให้เห็นว่า โลกอยู่ห่างออกไปจากเส้นทางที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ อย่าง Shell และ BP กำลังเปลี่ยนความสนใจหันมาสู่การผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล หลังจากผลกำไรพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการที่ราคาน้ำมัน และก๊าซพุ่งทะยาน

ไคลเออร์ กล่าวว่า การผสมผสานระหว่างนโยบายของรัฐบาลที่เข้มงวดมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะต้องนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top