Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

เปิดประวัติ ‘อเล็กซานเดอร์ โซรอส’ ทายาทผู้รับช่วงต่อจาก ‘จอร์จ โซรอส’ พ่อมดแห่งโลกการเงิน

จอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงินโลกวัย 92 ปี ได้ประกาศวางมืออย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ และได้เลือก อเล็กซานเดอร์ โซรอส ลูกชายคนที่ 3 ของเขาเข้ามารับช่วงต่อ มูลนิธิ Open Society Foundations  มูลค่ามากกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ กองทุนที่ถูกใช้สนับสนุนองค์กรไม่แสวงกำไร และ สถาบันการศึกษามากกว่า 100 ล้านแห่งทั่วโลกที่มีพันธกิจในการขับเคลื่อนสังคม และการเมืองตามอุดมคติของจอร์จ โซรอส ที่หลายครั้งกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในหลายประเทศเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ จอร์จ โซรอส ได้วางแผนถ่ายทอดกิจการมูลนิธิให้กับทายาทคนหนึ่งของเขา และได้โดนทรัพย์สินจากครอบครัวโซรอส เข้ากองทุนในมูลนิธิ Open Society Foundations ไป 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2017 ที่ทำให้กลายเป็นกองทุนการกุศลที่มีมูลค่าสูงที่สุดกองหนึ่งของโลก และได้แต่งตั้ง อเล็กซานเดอร์ โซรอส ลูกชายนั่งในตำแหน่งประธานมูลนิธิแห่งนี้ ทำให้สังคมเริ่มเห็นภาพชัดแล้วว่า จอร์จ โซรอส ได้เลือกใครเป็นทายาทสืบทอดเจตนารมย์ต่อจากเขา 

จอร์จ โซรอส มีบุตรทั้งหมด 5 คน โดยลูก 3 คนแรกที่เกิดกับ แอนนาลีส วิทส์แชค ภรรยาคนแรกของเขา คือ โรเบิร์ต, แอนเดรีย และ โจนาธาน โซรอส แต่หลังจากที่เขาได้หย่าขาดกับนาง แอนนาลิส ในปี 1983 จอร์จ โซรอส ได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ ซูซาน เว็บเบอร์ และมีลูกด้วยกันอีก 2 คนคือ อเล็กซานเดอร์ และ เกรกอรี เจมส์ โซรอส

และในบรรดาลูกๆ ทั้ง 5 คนของ จอร์จ โซรอส อเล็กซานเดอร์ เป็นลูกชายที่มีความหลงใหลทางการเมืองสูงมากที่สุดคนหนึ่ง อเล็กซานเดอร์เคยให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเขามีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนทิศทางการเมืองแรงกว่าพ่อของเขาเสียอีก และยังบอกใบ้อีกด้วยว่าจะได้เห็นบทบาทด้านการเงินขององค์กรครอบครัวโซรอสในงานเลือกตั้งผู้นำสหรัฐในสมัยหน้า (2024) อย่างแน่นอน

อเล็กซานเดอร์ โซรอส เกิดที่นิวยอร์ค ในปี 1985 ปัจจุบันอายุ 37 ปี เขาจบปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ ที่ New York University  และเรียนจบระดับปริญญาเอกที่ University of California, Berkeley แล้วก็ทำงานในองค์กรด้านสังคมมาโดยตลอด และในทุนสนับสนุนกิจกรรมในการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิแรงงาน และ การเมืองสายเสรีนิยมแบบอเมริกัน 

เช่นเดียวกับจอร์จ โซรอส พ่อของเขา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้บริจาคเงินสนับสนุนพรรคเดโมแครตรายใหญ่ที่สุดของพรรค อเล็กซานเดอร์ โซรอส ก็ทุ่มเทให้กับกองทุนช่วยเหลือชุมชมชาวยิวในสหรัฐ อาทิ Jewsish Fund for Justice, Progressive Jewish Alliance และ Jewish Council for Education and Research ที่มักอยู่เบื้องหลังแคมเปญหาเสียงของพรรคเดโมแครต ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา 

ในปี 2012 อเล็กซานเดอร์ ได้ก่อตั้งมูลนิธิภายใต้ชื่อของตัวเอง Alexander Soros Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่มอบรางวัลให้แก่นักเคลื่อนไหวทางสังคม และสิ่งแวดล้อมในแต่ละปี ที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จนมาวันนี้ เขาได้รับช่วงต่อ Open Society Foundations หนึ่งในมูลนิธิที่มีกองทุนสนับสนุนมากที่สุดในโลก และ มีประเด็นขัดแย้งมากมายด้วยเช่นกัน 

ในปี 2018 Open Society ถูกบีบให้ย้ายสำนักงานออกจากกรุงบูดาเปสต์ ของฮังการี ไปยังกรุงเบอร์ลิน ในเยอรมันแทน หลังจากที่ข่าวความขัดแย้งกับ วิกเตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการีฝ่ายขวา ซึ่งเตรียมจะออกร่างกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศ ที่มักถูกเรียกว่าเป็นร่างกฎหมาย "Stop Soros Bill" นอกจากนี้ Open Society ยังถูกแทรกแซงจนต้องปิดสำนักงานในปากีสถาน และ ตุรกี เมื่อมีข่าวว่าสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในประเทศ

จึงเป็นที่น่าสนใจว่า กิจกรรมของ Open Society Foundations ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่รุ่นลูก อเล็กซานเดอร์ โซรอส ที่ได้ชื่อว่ามีไฟในการผลักดันกระแสการเมืองยิ่งกว่ารุ่นพ่อ จะสร้างความเปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่จอร์จ โซรอส มักถูกโจมตีมาตลอดชีวิตการทำงานของเขาหรือไม่

อนุพงษ์ แจง ปมหนี้รถไฟสายสีเขียว ชี้ ต้องรอรัฐบาลใหม่ เหตุ ครม. พิจารณาไม่ได้ เพราะติดระเบียบ กกต.

(13 มิ.ย. 66) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมจ่ายหนี้ 2 หมื่นล้านบาทให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘BTSC’ ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ทาง กทม. พยายามจะหาแนวทางที่จะดูแลเรื่องนี้อยู่หลังจากได้ทำเรื่องมาถึงคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. แต่ทาง ครม. คงไม่สามารถจะพิจารณาได้ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งคงจะต้องรอให้รัฐบาลใหม่พิจารณา

ทั้งนี้ ปัญหาหลักคือ จะทำวิธีใดก็ได้แต่ติดปัญหาเรื่องหนี้สินที่มีอยู่ จะใช้งบประมาณจากที่ไหน ซึ่ง กทม.คงไม่มี เมื่อไม่มีก็เหลือหนทางที่จะทำได้คือ ให้เอกชนทำ แต่ต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) พิจารณา ซึ่งต้องรออีกหลายปีกว่าจะทำได้ และกว่าจะเป็นสมบัติของ กทม. ก็ในปี 2573 ถึงจะเริ่มใช้ได้ และระหว่างนี้หนี้สินในแต่ละปีจะใช้เงินเท่าไหร่ ก็เหลือทางออกทางเดียวคือ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่จะพิจารณา

นอกจากนี้ ภาระหนักขณะนี้จึงตกอยู่กับบริษัทฯ เพราะยังต้องเดินรถให้บริการประชาชน ขณะเดียวกัน กทม. ก็ยังไม่มีความสามารถที่จะจ่ายเรื่องหนี้สิน แต่ก็คิดว่าทางผู้ว่าฯ กทม.ต้องมีการหาทางแก้ไขอยู่แล้ว

ทางด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องการแก้ปัญหาภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยกล่าวเพียงว่า “ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานเขาไปแก้ปัญหา”

‘ชมรมแพทย์ชนบท’ ขุดแผนปลุกผี itv โยง ‘ภูมิใจไทย’ ระบุ เป็นการดิ้นรนของขั้วอำนาจเก่า

วันที่ 13 มิ.ย. 2566 – ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า หรือนี่คือการดิ้นรนของขั้วอำนาจเก่า

ข้อเท็จจริงชัด ๆ คือ

1.ความเกี่ยวโยงของนิกม์กับภูมิใจไทยหลีกกันไม่พ้น
2.ความเกี่ยวโยงของชิโนไทยกับกัลฟ์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อินทัชที่ถือหุ้นใหญ่ไอทีวีอีกต่อก็เป็นข้อเท็จจริง
3.ทั้งภูมิใจไทยและชิโนไทยมี อนุทิน ชาญวีรกูล ในสมการ
4.หากก้าวไกลสะดุดเรื่องหุ้นไอทีวี พรรคภูมิใจไทยที่ความหวังเหือดแห้งริบหรี่ ก็จะมีโอกาสขึ้นมาในทันที
สังคมคลางแคลงใจ ทฤษฎีสมคบคิดหรือเปล่า? ต้องติดตาม

6 ค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่ของจีน เล็งตั้งฐานการผลิตในไทย หวังดันไทยสู่ Hub ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งภูมิภาคเอเชีย

หากพูดถึง ‘The Big 6’ แห่งอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ของจีน ต้องเอ่ยชื่อ BYD (Build Your Dreams), Chongqing Changan, JAC Motors, Jiangling Motors, Great Wall Motor และ Geely

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา ‘Geely’ ตามหลัง ‘Great Wall Motor’ เดินหน้ามาลงทุนธุรกิจ EV ในไทย

‘Geely’ หนึ่งในค่ายรถรายใหญ่ของจีน มีแผนเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ของไทย ประกอบด้วย การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งฐานการผลิตในไทย

Geely กำลังพิจารณาแผนการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยครั้งใหญ่ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็ก และรถกระบะไฟฟ้า ภายใต้ยี่ห้อ ‘Radar’ สอดคล้องกับ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คุณนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ที่เผยว่า ได้มีการหารือกับค่ายรถ EV จีนยักษ์ใหญ่ 6 บริษัท หรือ ‘The Big 6’

ได้แก่ ‘บีวายดี’ (BYD: Build Your Dreams), ‘ฉงชิ่ง ฉางอัน’ (Chongqing Changan), ‘เจเอซี มอเตอร์’ (JAC Motors), ‘เจียงหลิง มอเตอร์’ (Jiangling Motors), เกรต วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) และ ‘จีลี’ (Geely)

เลขาฯ BOI เสริมว่า ‘The Big’ ให้ความสนใจในนโยบายของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘มาตรการส่งเสริมการลงทุนในการตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และวางระบบห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการในภูมิภาค’

ก่อนหน้านี้ BYD (Build Your Dreams) และ Great Wall Motor ได้เดินตามแผนตั้งฐานการผลิต EV โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำลังพิจารณาการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทย

ตามมาด้วย Geely ซึ่งเป็นรายล่าสุด ต่อจาก Great Wall Motor ที่มีแผนลงทุน ‘ปักหมุด’ EV ในไทย มูลค่าระดับหลักพันล้านบาท สอดรับกับนโยบายการรักษาสถานะผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 10 ของโลกของไทย ซึ่งมุ่งหวังสานต่อความสำเร็จของ Hub รถยนต์เอเชียในอดีต และต่อยอดสู่การเป็นศูนย์ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ของภูมิภาค

ตามเป้าหมายปรับสัดส่วนการผลิตรถยนต์ 30% จากยอดการผลิตรถยนต์ 2.5 ล้านคันต่อปี ให้เป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Great Wall Motor ประกาศแผนลงทุน 30 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่แห่งใหม่ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นเล็กในไทย ในปีหน้า หรือ ปี ค.ศ. 2024

คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการบริษัท Great Wall Motor Thailand ระบุว่า บริษัทเเม่จากจีน กำลังพิจารณาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศไทย

“แผนการลงทุนที่ไทยจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงเรื่องการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาตราการเงินอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้า หรือการลดภาษีรถ EV” MD Great Wall Motor Thailand กล่าว

ในปี ค.ศ. 2022 รถยนต์ EV ยี่ห้อ ORA Good Cat ที่เป็นรถรุ่นเล็ก หรือ Compact Car ของ Great Wall Motor เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย โดยรุ่นที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 828,500 บาท ซึ่งราคานี้ได้รับการอุดหนุจากรัฐ 230,500 บาท

โดย Great Wall Motor ได้เข้ามาเริ่มต้นทำธุรกิจในประเทศไทยเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่ง Great Wall Motor วางแผนที่จะผลิตรถยนต์ EV ยี่ห้อ ORA Good Cat ในไทย ในปีหน้า หรือ ปี ค.ศ. 2024 ส่วนแผนการลงทุนสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ของ Great Wall Motor น่าจะใช้งบประมาณราว 500 ล้านบาท ถึง 1,000 ล้านบาท

ซึ่งทั้งหมดนี้ จะประกาศรายละเอียดให้ทราบในอีก 6 เดือนจากนี้ หรือในครึ่งปีหลังของปี ค.ศ. 2023 หรือไตรมาสที่ 3 ของปี ค.ศ. 2023

อย่างไรก็ดี แม้ว่า The Big 6 ทุกค่ายไล่ตั้งแต่ บีวายดี (BYD: Build Your Dreams), ฉงชิ่ง ฉางอัน (Chongqing Changan), เจเอซี มอเตอร์ (JAC Motors), เจียงหลิง มอเตอร์ (Jiangling Motors), เกรต วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) และ จีลี (Geely) จะลงทุนในไทยเป็นมูลค่าที่สูงมากเท่าไหร่ก็ตาม

ทว่า ค่ายรถเจ้าใหญ่ (เจ้าที่) ในไทย ยังคงเป็นบริษัทญี่ปุ่น เช่น TOYOTA, ISUZU, HONDA, NISSAN, MAZDA, MITSUBISHI

เรื่อง : ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน
 

แม็คโคร’ เตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ 15 มิ.ย. นี้ แต่ยังยืนยัน จะยังคงใช้แบรนด์ชื่อเดิม

วันที่ 13 มิ.ย. 2566 –  แม็คโคร ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ 15 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป แต่ยืนยันจะใช้แบรนด์ “แม็คโคร” เช่นเดิม

ก่อนหน้านี้ ได้มีรายงานข่าวว่า จะมีการประกาศให้ บริษัทสยามแม็คโคร อนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทและตราประทับจาก SIAM MAKRO เป็น CP AXTRA รวมทั้งชื่อย่อหลักทรัพย์จาก MAKRO เป็น CPAX

ขณะที่ผลกำไร ไตรมาสแรกของปี 66 นั้น แม็คโคร มีรายได้โตกว่า 1.2 แสนล้าน โดยมีกำไร 2 พันล้านบาท อานิสงส์เปิดประเทศดันการท่องเที่ยวฟื้น เศรษฐกิจขยับ พร้อมแผนเชิงรุก ขยายสาขา บุกช่องทางขายออนไลน์ และมีแผนการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง
 

นิวยอร์ก ครองแชมป์!!

นิวยอร์ก ครองแชมป์!! 

จากการสำรวจ ‘ค่าครองชีพ’ ครั้งล่าสุดของ ‘ECA International’ ที่ทำการจัดอันดับ 207 เมือง ใน 120 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ผลปรากฏว่า ฮ่องกงหลุดจากอันดับ 1 ในการเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ

หลังจากติดอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี โดยถูกนิวยอร์กแซงหน้าขึ้นแท่นมาเป็นอันดับ 1 ในปีนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าและค่าเช่าที่ที่สูงขึ้นอย่างมากนั่นเอง
 

โซเชียลแชร์ภาพเด็กนักเรียนตัวน้อยในชุดลูกเสือ พร้อมบอก “เห็นเด็กใส่แล้วนึกถึงพี่คิงเลย”

วันที่ (13 มิ.ย. 66) ได้มีการแชร์ภาพของเด็กชายวสุพล วงศ์จีนา โรงเรียนพุทธ​ศาสน์​โกศล วัดวังยาว อำเภอกุยบุรี​ จังหวัดประจวบคีรี​ขันธ์ ​ในชุดเครื่องแบบลูกเสือ พร้อมกล่าวว่า “เห็นเด็กใส่แล้วนึกถึงพี่คิงเลย” เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้เกิดกรณีการถกเถียงกันสนั่นโซเชียล หลัง ‘คิง ก่อนบ่าย’ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘ณภัทร คิงก่อนบ่าย ชุ่มจิตตรี’ แสดงความไม่เห็นด้วยกับกระแสการยกเลิกชุดลูกเสือ เพราะลูกเสือตรีบุญยิ่ง มีพระคุณต่อบ้านเกิดของตน พร้อมฝากคนรุ่นใหม่ให้ลองคิดทบทวนดูให้ดี ก่อนจะเปลี่ยนแปลงอะไร โดยระบุว่า…

“ครอบครัวผมไม่สามารถสนับสนุนให้มีการยกเลิกชุดลูกเสือได้จริง ๆ เพราะลูกเสือตรีบุญยิ่ง มีพระคุณต่อบ้านเกิดของผม

ผมเชื่อว่าคนอำเภอเมืองประจวบยังจำลูกเสือตรีบุญยิ่งได้ว่าเขาคือใคร และสร้างคุณประโยชน์​ให้กับอำเภอเมืองประจวบไว้อย่างไรหากใครยังไม่รู้​ ก็ลองไปศึกษา​ดู แล้วเราจะรู้คำตอบเอง และหากเข้ามาในเมืองประจวบคุณก็จะได้คำตอบเองว่าชื่อถนนแต่ละเส้น มีที่มาที่ไปอย่างไร พิทักษ์​ชาติ สละชีพ สู้ศึก

อย่างน้อยคนรุ่นใหม่​ก็ควรศึกษาไว้บ้าง เราจะได้มีเรื่องเล่าให้เพื่อนๆ หรือคนรุ่นหลังได้ฟัง สิ่งเหล่านี้เรารู้เอาไว้ ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียหายอะไร ดีกว่าเวลามีใครถามแล้วเราตอบอะไรไม่ได้เลย โพสต์​นี้เพื่อขอบคุณ​และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของลูกเสือตรีบุญยิ่ง ศิริเสถียรครับ #ลูกเสือ #ประจวบวิทยาลัย #วีรกรรม”

จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหลากหลายแง่มุม ถึงประเด็นการยกเลิกชุดลูกเสือ มุมหนึ่งก็มองว่าเป็นการลดภาระของพ่อแม่ผู้ปกครองในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องแบบชุดลูกเสือ ส่วนอีกแง่มุมหนึ่งก็มองว่าจะเป็นการด้อยค่าความสำคัญของชุดลูกเสือ ที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศไทย และยังมองว่า การแต่งกายตามระเบียบการเรียนการสอนนั้น มีความจำเป็นอย่างมากในการฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัย เพื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต
 

‘ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม’

‘ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม’ อดีต รมช.สาธารณสุข
เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 80 ปี

แวดวงสุขภาพเศร้า สูญเสีย ‘ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม’ ที่ปรึกษา สสส. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

(14 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย) ได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยครอบครัวได้แจ้งกำหนดการบำเพ็ญกุศล และ สวดพระอภิธรรม อุทิศ ณ ศาลา สิทธิสยามการ (ศาลา 4) วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ถ.สุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ในวันพฤหัสบดี 15 มิถุนายน 2566 ทั้งนี้ เวลา 13.00 น. พิธีรดน้ำศพ และ พิธีฌาปนกิจศพ (ดำเนินการภายในครอบครัว)

วันที่ 16-18 มิถุนายน 2566 เวลา 18.30 น. แสดงธรรมเทศนา และพิธีสวดพระอภิธรรม
วันจันทร์ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. แสดงธรรมเทศนา เวลา 11.00 น.สวดพระพุทธมนต์ และ ถวายภัตตาหารเพล เวลา 18.30 น. สวดพระอภิธรรม ครั้งที่ 1 เวลา 19.30 น. สวดพระอภิธรรม ครั้งที่ 2

ทั้งนี้ พลอยแพรว ศรีแสงนาม ลูกสาวฝาแฝดของ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ได้โพสต์แจ้งข่าวด้วยว่า…

“สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแจ้งข่าว คุณพ่อ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ได้จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้จัดให้มีงานบำเพ็ญกุศล และสวดอภิธรรม เป็นเวลา 5 คืนด้วยกันค่ะ”
 

ซีเค เจิง’ แจง ประเทศนี้ ไม่มีทางล้ม ต่อให้ซาอุฯ-จีน-รัสเซีย-อินเดีย มารวมกัน ก็ยังสู้ไม่ได้

ซีเค เจิง (CK Cheong) นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ได้โพสต์คลิปสั้นลง TikTok ช่องckfastwork กล่าวถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ามันไม่มีทางจะล้มลงได้ โดยได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวไว้ มีใจความว่า …

ประเทศสหรัฐอเมริกา มันไม่มีทางจะล้ม อเมริกามี คำพูดคำหนึ่ง คำว่า Too Big To fail ใหญ่เกินไปจนล้มไม่ได้แล้ว เพราะถ้าอเมริกาล้ม ก็จะอุ้มทั้งโลกล้มไปด้วย นี่คือความเป็นจริง รัสเซีย อินเดีย จีนพยายามทำเงินเหรียญสกุลของตัวเอง สู้สหรัฐอเมริกา สู้ไม่ได้หรอก คนที่คิดว่าประเทศเหล่านี้จะสู้ได้ เขาเพ้อฝัน ขนาดอาวุธรวมกันทั้งโลกยังสู้อเมริกาไม่ได้เลย เศรษฐกิจตลาดหุ้นทั้งโลกสู้ตลาดหุ้นอเมริกาก็ยังสู้ไม่ได้เลย ตราสารหนี้ทั้งโลกรวมกันยังสู้ไม่ได้เลย สู้อเมริกาไม่ได้ คุณจะเอาอะไรไปสู้กับอเมริกา คุณไม่มีอาวุธ คุณไม่มีตลาดหุ้น คุณไม่มีตราสารหนี้

คุณจะล้มอเมริกาได้อย่างไร เงินของเราทุกคนกองอยู่ที่อเมริกา แล้วอเมริกาจะล้มได้อย่างไร น้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ครองโลกได้ก็จริง แต่มูลค่าของมันก็ยังสู้อเมริกาไม่ได้เลย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น บริษัทที่มีมูลค่า มากที่สุดอันดับ 2 ของโลกคือบริษัทน้ำมันของซาอุ แต่ที่มากกว่าบริษัทนั้นก็คือบริษัท Apple ที่เป็นแค่ 1 บริษัท ใน ตลาดหุ้นของอเมริกา แล้วคุณคิดว่าตลาดหุ้นอเมริกาใหญ่กว่า หรือตลาดน้ำมันของซาอุใหญ่กว่า อย่าไปบอกว่าอเมริกาจะแพ้ อเมริกาไม่มีวันแพ้ ผมไม่ได้เข้าข้างอเมริกา ผมพูดถึงความเป็นจริง คนที่บอกว่าซาอุ จีน รัสเซีย อินเดียมาร่วมกัน

แล้วจะล้มสหรัฐอเมริกา ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของซาอุยังใหญ่สู้กับเบอร์ 1 ในบริษัท ของตลาดหุ้นอเมริกาไม่ได้เลย และสิ่งที่พวกเขาใช้อยู่ทุกวัน นี้ Facebook Amazon Microsoft NVIDIA AI ชิพ ทุกอย่าง มันก็มาจากอเมริกาอยู่ดี แล้วเราจะล้มอเมริกาได้อย่างไร ไม่เอาน่า มันเพ้อฝัน เขาสามารถพยายามได้นะครับ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ซีเค เจิงกล่าวทิ้งท้าย

ตำรวจ ปส.(NSB) ทลายเครือข่ายยาเสพติดผ่านระบบขนส่งทางพัสดุรายใหญ่ ยึดไอซ์ได้กว่า 350 กก.

ตำรวจ ปส.(NSB) ทลายเครือข่ายยาเสพติดผ่านระบบขนส่งทางพัสดุรายใหญ่  ยึดไอซ์ได้กว่า 350 กก. มูลค่ามหาศาลและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดได้ 4 เครือข่ายเป็นยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด ไอซ์ 300 กก. คีตามีน 30 กก. ก่อนแพร่กระจายภายในประเทศ และส่งผ่านต่อไปต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส., พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์  รังไสย์  ผบก.ปส.3 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดตามนโยบาย ตร. ประกอบกับการเดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อย่างเข้มข้น ล่าสุดตำรวจ ปส.(NSB) สามารถทลาย 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 11 คน พร้อมของกลางไอซ์ 650 กก., ยาบ้า 12 ล้านเม็ด และคีตามีน 30 กก.
 
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.66 เวลาประมาณ 17.15 น. ตำรวจ ปส.3 จับกุม 3 ผู้ต้องหาคือ นายกฤษณ์, นายยิ่งยศ และนายบุญเลิศ หลังได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดซึ่งใช้วิธีการส่งพัสดุไปกับบริษัทขนส่งเอกชน กระทั่งทราบว่าจะมีการส่งยาเสพติดทางพัสดุจำนวนมากอีกครั้ง ตำรวจ ปส.3 จึงได้สืบสวนจับกุม โดยทราบว่า นายบุญเลิศ ได้นำยาเสพติดส่งพัสดุและระบุให้รถขนส่งนำยาเสพติดไปวางไว้หน้าบ้านเลขที่ 316 ซึ่งเป็นบ้านร้าง ภายในซอยอ่อนนุช 70/1 แยก 2  ต่อมาได้มีนายกฤษณ์ ได้ขับรถกระบะมาหยิบกล่องพัสดุทั้งหมดขึ้นใส่ท้ายรถ ส่วนนายยิ่งยศ เพื่อนร่วมแก๊งค์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนคอยคุ้มกัน ก่อนจะขับรถตามกันออกไป ตำรวจ ปส.3 จึงนำกำลังเข้าสกัดจับกุมนายกฤษณ์ และนายยิ่งยศ ได้ที่บริเวณถนนในซอยสุภาพงษ์ 3 แยก 8 ลานจอดรถข้างโรงแรมเดอะสปริง ต่อเนื่องบริเวณทางเข้าออกจากสันติภาพลานจอดรถซอยสุภาพงษ์ 3 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตรวจสอบพบ ไอซ์ซุกซ่อนในซองสีน้ำตาลห่อละประมาณ 20 กก. จำนวน 20 ห่อ น้ำหนักรวม 350 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถตู้ทึบที่ใช้ลำเลียงไอซ์มาส่งพัสดุ 1 คัน, รถกระบะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน จากนั้น ได้ติดตามจับกุมนายบุญเลิศ ได้ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ปส.3 ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
 
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.66 ตำรวจ ปส.3 ร่วมกับหน่วย AITF ประกอบด้วย ป.ป.ส., ศุลกากร และ ศรภ. จับกุมผู้ต้องหาชาวเวียดนาม คือ นายฟาน ทัน กวิ๊ และนายโฮ ตรุง เงียน โดยตำรวจ ปส.3 สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง เป็นผู้ว่าจ้างรถตู้รับจ้างให้ไปส่งที่โรงแรม ในซอยสุขุมวิท 24 จึงได้ติดตามและพบว่าทิ้งกล่องลังไม้บรรจุยาเสพติดไว้ที่โรงแรมดังกล่าว จึงเชื่อว่าอาจมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ ต่อมาตรวจสอบพบคีตามีนซุกซ่อนในโมเดลตุ๊กตา น้ำหนัก 29 กก. ซึ่งผู้ต้องหารับว่า เป็นยาเสพติดที่เตรียมจัดส่งไปต่างประเทศ และพบคีตามีน 143 กรัมและ เอ็กซ์ตาซี่ 150 กรัม พร้อมตรวจยึดเงินสด 51,000 บาท และสินค้าแบรนด์เนมกว่า 700,000 บาท จึงจับกุมผู้ต้องพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ปส.3 ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 13.40 น. ตำรวจ ปส. บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส. ร่วมจับกุมตัว นายชิตวร และนายพงษ์ศรี พร้อมยาเสพติดไอซ์ 300 กก.และยาบ้า 1,000,000 เม็ด ได้ที่บริเวณแยกเขาทราย ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร หลังสืบทราบว่าเครือข่ายนี้จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ทางภาคเหนือ จะมาส่งมอบให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี  จึงวางแผนจับกุม โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 13.40 น. ตำรวจ บก.สกส. ได้วางกำลังตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้พบรถกระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 2ฒช 24xx กทม. และรถกระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บม 10xx สุโขทัย ขับขี่ไปถึงแยกเขาทราย ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร มีพฤติการณ์น่าสงสัยและลักษณะตรงกับข้อมูลที่ได้รับ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจสอบรถกระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บม 10xx สุโขทัย ซึ่งมีนายชิตวร เป็นผู้ขับขี่ พบยาเสพติดไอซ์น้ำหนัก 300 กก. ซุกซ่อนอยู่ที่ท้ายกระบะ ซึ่งมีผ้าใบสีดําคลุมปดทับไว้และตรวจค้นพบยาบ้า จํานวน 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนบริเวณ   ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับของรถยนต์คันดังกล่าว

และจับกุมนายพงษ์ศรี ซึ่งขับขี่รถกระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน  2ฒช 24xx กทม. ทำหน้าที่รถนําทางและสํารวจเส้นทาง จากนั้นได้ติดตามไปตรวจยึด รถกระบะมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บล 40xx พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายแย้ง (หลบหนี) ผู้ร่วมขบวนการยาเสพติด ได้จอดรถทิ้งไว้ ที่บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 ต.วังบ่อ อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์ ตำรวจ บก.สกส. จึงจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดําเนินคดี ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีและบุคคลในเครือข่ายนี้ต่อไป
 
คดีที่ 4 สืบเนื่องจากตำรวจ ปส.2 ได้จับกุมยาเสพติด ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อ่างทอง จากนั้นได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่าวันที่ 7 มิ.ย.66 เครือข่ายนี้จะนำยาเสพติดจำนวนมากไปส่งที่ จ.สระบุรี โดยมีนายบุญครอง และน.ส.ธิดา ซึ่งเป็นสามีภรรยา ได้ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์ ทะเบียน บจ 49xx บึงกาฬ ซุกซ่อนยาเสพติดที่กระบะท้ายบรรทุกยาบ้า จำนวน 19 กระสอบ มีการอำพรางโดยติดคอกเหล็กที่กระบะหลัง ในลักษณะที่ให้เห็นว่าเป็นการบรรทุกสิ่งของทั่วไป แล้วคลุมด้วยผ้ากันฝนและปกคลุมผ้าสแลนสีดำอีกชั้นหนึ่ง โดยขนยาเสพติดจาก อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร เพื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อรอส่งให้ลูกค้า โดยมี น.ส.บุหลัน และนายมะณูน      ใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 31xx นครพนม ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางจาก อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร  ตำรวจ ปส.2 ได้สืบสวนติดตามรถทั้ง 2 คัน โดยตลอด จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.45 น. ของวันที่ 7 มิ.ย.66 พบว่ารถคันหมายเลขทะเบียน บจ 49xx บึงกาฬ ซึ่งบรรทุกยาเสพติด มีนายบุญครอง เป็นผู้ขับขี่ และน.ส.ธิดา นั่งไปด้วย ได้เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันบางจาก ต.ขนงพระ อ.ปางช่อง จ.นครราชสีมา จึงได้แสดงตัวจับกุม  จากการตรวจค้นพบยาบ้า 19 กระสอบ จำนวน 10,000,000 ล้านเม็ด ในรถคันดังกล่าว

ขณะเดียวกันตำรวจ ปส.2 อีกชุด ซึ่งติดตามรถคันหมายเลขทะเบียน บธ 31xx นครพนม ได้จับกุมตัวนายมะณูน และ น.ส.บุหลัน ได้ที่บริเวณ ถ.มิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 พร้อมยาเสพติดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป 

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 17.00 น. ตำรวจ ปส.3 ได้ร่วมกันตรวจยึดยาเสพติด ยาบ้า 1,000,000 ล้านเม็ด ได้ที่บริเวณที่พักริมทาง กม.24 ต.ทุ่งขั่วพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยก่อนเกิดเหตุ ตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มลีซอ จะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากไปส่งให้ลูกค้า จึงเฝ้าติดตามจับกุม จนกระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเล็ต ทะเบียน ขห 79xx เชียงใหม่ ขับขี่ผ่านมาถึงที่เกิดเหตุ ท่าทางพิรุธน่าสงสัย  จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ปรากฏว่าผู้ขับขี่ได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนีลงข้างทาง ซึ่งเป็นพื้นที่เขาสูงชัน แล้วอาศัยความชำนาญพื้นที่ หลบหนีไปได้ ตำรวจ ปส.3 ได้ตรวจสอบพบยาบ้ารวม 500 มัด จำนวน 1,000,000 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารรถยนต์ และภายในฝากระโปรงท้ายของรถคันดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดยาเสพติดและรถของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องและติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

สำหรับเดือน พ.ค.66 ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมยาเสพติดรายสำคัญได้ 18 คดี ได้ผู้ต้องหา 54 คน ของกลางยาบ้า 20 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 220 กก., ไอซ์ 3,250 กก.โดยยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top