Tuesday, 20 May 2025
NewsFeed

‘ปักกิ่ง’ ผุดบัตรสวัสดิการเวอร์ชันจีน แจก 200 บาท/เดือน ให้ผู้มีรายได้ต่ำ

ในบ้านเราต้องยอมรับว่า ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ตามสไตล์ ‘บิ๊กตู่โมเดล’ หรือตอนนี้บางคนอาจจะเรียกติดปากกันไปแล้วว่า ‘บัตรลุงตู่’ นั้น เป็นหนึ่งในมาตรการแก้ปัญหาที่รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันมีการลงทะเบียนสมบูรณ์แล้วราว 19 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยในสภาวะของแพง ทั้งอาหารเอย แก๊สหุงต้มเอย ได้ลดภาระค่าครองชีพ และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางสังคมอย่างทั่วถึง 

แนวคิดดังกล่าวค่อนข้างช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับการลงทะเบียนก่อนหน้ากว่า 10 ล้านคน ได้มีโอกาสลดภาระด้านค่าครองชีพลง และช่วยหมุนเศรษฐกิจไปในตัวได้ในระดับหนึ่ง จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต้นปีที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ นี้ พี่จีนของเรา กำลังเดินตามคอนเซปต์บัตรลุงตู่อยู่หรือไม่

Reporter Journey รายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปิดเผยตัวเลขราคาอาหารจากทางการจีน ว่า ราคาอาหารแพงขึ้นเฉลี่ย 6% โดยอาหารที่มีสัดส่วนราคาพุ่งมากที่สุดคือ เนื้อหมู ที่คนจีนนิยมบริโภคมากที่สุด รองลงมาคือ สารพัดผลไม้ที่ราคาปรับตัวแพงขึ้นตาม

แม้ 6% เป็นสัดส่วนที่ทั่วโลกก็เจอกันโดยปกติ ตั้งแต่เรื่องของสงครามรัสเซียยูเครนประมาณ 1 ปี แต่สำหรับจีนเอง มีปัจจัยภายในที่ประชาชนค่อนข้างกระอักกระอ่วนในเรื่องของการทำมาหากิน จากนโยบายโรคระบาดเป็นศูนย์ ที่เจอคนติดเชื้อที ปิดพื้นที่ไปที ทำให้รายได้ของภาคธุรกิจและบริษัทเข้ามาไม่ต่อเนื่อง

เรื่องนี้จึงถือเป็นตัวแปรกระทบต่อคนจีน ประกอบกับเจอเรื่องของเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ที่กำลังเป็นขาขึ้น จึงทำให้ จีนที่ยังไม่ฟื้น เหมือนเจอพิษซ้ำกรรมซัดกระหน่ำจากปัจจัยของโลกไปอีกคำรบ

ดังนั้นการอุดหนุนค่าใช้จ่าย โดยการ ‘โปรยเงิน’ จึงน่าเป็นทางเลือกหนึ่งของการช่วยเหลือ หลังจาก่อนหน้านี้ราวปี 2554 จีนเคยเปิดตัวโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ด้วยการมอบเงินสดให้กับผู้ยากไร้ที่ประสบอยู่ในสภาวะเงินเฟ้อ หรือราคาอาหารแตะระดับที่กำหนด ซึ่งแต่ละเมืองจะมีกำหนดมาตรฐานของตัวเอง เนื่องจากค่าครองชีพแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

‘บี พุทธิพงษ์’ พร้อมดัน ‘คนรุ่นใหม่’ สู่ถนนการเมือง พร้อมระบุสเป็กชัดเจน ต้อง ‘จงรักภักดี-เชิดชูสถาบัน’

(23 ก.พ.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวผ่านรายการ ‘พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ’ เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ต่อการส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ ว่า พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศอยากได้การเปลี่ยนแปลง อยากเห็นคนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาในแวดวงการเมือง เราพูดกันอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่เราจะมีนักการเมืองรุ่นใหม่ๆ หรือนักการเมืองน้ำดี เป็นสิ่งที่ตนได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ และเชื่อว่าเรื่องนี้อยู่ในใจคนทุกคน

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า จนวันนี้ตนได้มีโอกาสนำเสนอคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถจากหลากหลายสาขาวิชาชีพ ทั้งนักกฎหมาย นักการแพทย์ และนักการตลาด เป็นต้น กับพรรคภูมิใจไทย และพรรคภูมิใจไทยก็ให้โอกาสพวกเขามาเป็นทางเลือก มาเป็นนักการเมืองน้ำดีให้กับคน กทม. โดยบางคนเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลที่อยากจะทดแทนคุณแผ่นดินที่ให้โอกาสเขาได้ไปเล่าเรียนถึงต่างประเทศ

'กรมศุลฯ' จับมือ 'ตร.' เตรียมทำลายบุหรี่ไฟฟ้า ทลายโกดังสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่า 150 ล้านบาท!!

(23 ก.พ. 66) ที่อาคารสโมสร ศุลกากร กรมศุลกากร นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าของกลางที่คดีสิ้นสุด และผลการตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า พร้อมของกลาง น้ำยา-อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 72 ล้านบาท และสินค้าแบรนด์เนม อาทิ กระเป๋า, เสื้อผ้า, พรม, รองเท้า, น้ำหอม แบรนด์ดัง รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า...

คดีแรก คือ การระดมการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และทำลายของกลางในความผิดตามกฎหมายศุลกากรที่คดีสิ้นสุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ได้จับกุมและตรวจยึดสินค้าจากห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโกดัง ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยมาโดยตลอด และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งของกลางดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินและรอการทำลาย โดยของกลางที่นำไปทำลายครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 874,535 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 72,019,523.46 บาท

'ศักดิ์สยาม' ร่วมเปิดเส้นทางเดินรถเมล์ EV เพิ่ม 3 สาย ยกระดับการเดินทาง เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน

(23 ก.พ. 66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าอีก 3 สาย ประกอบด้วย สาย 3-36 ท่าเรือคลองเตย – ท่าเรือภาษีเจริญ สาย 3-44  ท่าเรือคลองเตย – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 3-55 ท่าเรือคลองเตย - พระราม 7 ภายใต้แนวคิด 'Thai Smile Bus Our Love Will Change The World รักเรารักษ์โลก' ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย คลองเตย กรุงเทพมหานคร

ในงานนี้ นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้ขอมอบความรักความปรารถนาดีให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร โดยการ เปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มไทย สมายล์ กรุ๊ป ให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100%

ซึ่งไทย สมายล์ กรุ๊ป มีเป้าหมายที่จะนำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการ รวมทั้งสิ้นกว่า 3,100 คัน นับว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดโลกร้อน และสามารถลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหาครและปริมณฑล ที่ปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

สมาคมนักเรียนไทย-จีน ผุด ‘YOUNG BRI’ โครงการเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีนให้เติบโต

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เผย ส่งท้ายเดือนแห่งความรัก แนะนำโครงการทัศนศึกษาเชิงปฏิบัติการ 'YOUNG BRI' ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียนไทย-จีน และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.พ. 66 

(23 ก.พ. 66) สำหรับงานดังกล่าว ได้มีพิธีเปิดซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. 66 เวลา 8.30 น. ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ โดย นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เป็นผู้กล่าวต้อนรับนักเรียนนักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ แนะนำที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกล่าวว่า 'YOUNG BRI' เป็นคำที่สื่อความหมายถึง 'คนรุ่นใหม่' และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม เทคโนโลยี ในระดับภูมิภาคที่คนไทยเรียกกันว่า 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' (BRI : Belt and Road Initiative : 一带一路)

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ยังกล่าวอีกว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็น "วัยรุ่นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ซึ่งในภายภาคหน้าก็จะเติบโตเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งตรงกับอุดมการณ์ของสมาคมฯ ที่ว่า "เราคืออนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน"

หลังจากนั้นคุณ Fan Xuewei อุปทูตประจําสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงาน โดยได้แนะนำประวัติความเป็นมา และประโยชน์ของ BRI ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาครบรอบ 10 ปีแล้ว ค้าขายและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม BCG Model รวมถึงผลประโยชน์ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่เอื้ออำนวยต่อห่วงโซ่การผลิต

คุณ FAN XUEWEI ยังกล่าวอีกว่า "นักเรียน นักศึกษาที่รัก เยาวชนเป็นอนาคตและความหวังของการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศ ผมหวังว่าผ่านกิจกรรมในวันนี้และพรุ่งนี้ พวกคุณจะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน มีความเข้าใจเกี่ยวกับ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกิดความสนใจและติดตามข้อมูลการพัฒนาในจีน แนะนำความสำเร็จของความร่วมมือจีน-ไทยให้กับคุณครูและนักเรียนที่อยู่รอบตัวคุณ และร่วมเป็นพลังสำคัญที่ส่งต่อ “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน” จากรุ่นสู่รุ่น

กิจกรรมในวันแรก ได้รับการอำนวยการด้านสถานที่จากผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน คุณ Que Xiaohua ซึ่งได้กล่าวแนะนำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหมุดหมายของความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน-ไทย ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในภูมิภาค ASEAN ซึ่งในวันนี้ได้จัดเตรียมสถานที่และกิจกรรม workshop มากมายไว้รองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ชงชาจีน วาดภาพจีน พู่กันจีน กู่เจิง และการห่อเกี๊ยวแบบจีน

ในช่วงของกิจกรรมนั้น มีการแบ่งกลุ่ม Workshop 5 กลุ่ม เวียนตาม 5 ฐานกิจกรรม ทั้งการชงชาสไตล์มังกร อ้อนไปด้วยเสียงกู่เจิง ระเริงร่ายพู่กันจีน ห่อเกี๊ยวแล้วกิน ฟินไปด้วยภาพวาดลายจีน จบท้ายด้วยการพาทัวร์หอสมุดสุดอลังที่เคยปรากฏบนจอสีมาหลายเรื่องเลยทีเดียว 

ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.พ. 66 เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยี กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้มารู้จักกับเทคโนโลยี 5G แห่งโลกอนาคต สัมผัสความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน

ไทยดูดเงินลงทุนกลุ่มสร้างหนังจากต่างประเทศ หลัง ‘บิ๊กตู่’ สนับสนุนการถ่ายทำในไทยต่อเนื่อง

คณะผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เข้าพบ 'บิ๊กตู่' ขอบคุณการสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนสร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศ

(23 ก.พ. 66) ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำคณะผู้บริหารจากสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอบคุณที่สนับสนุนมาตรการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารจากกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า ยินดีที่มาตรการของรัฐบาลเห็นผลสำเร็จและเป็นรูปธรรม ซึ่งมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measure) เป็นมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและดำเนินการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ทั้งในด้านเป็นสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย รวมถึงบุคลากรในประเทศที่มีคุณภาพ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า มาตรการที่รัฐบาลสนับสนุน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และ Soft Power ของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมให้การสนับสนุนในส่วนที่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ โดยมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้วนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลคำนึงแล้วว่าจะช่วยสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศ ชุมชน และประชาชนท้องถิ่น อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ประกอบการฯ ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของไทยไม่ให้เสียหาย ฟื้นฟูภายหลังถ่ายทำ รวมถึงดูแลเรื่องภาพลักษณ์ ให้การถ่ายทำสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดี และชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ต่อยอดสู่ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนต่อไป

'ไทย-ลาว' หารือ พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมเสถียรภาพ กระชับความสัมพันธ์ครอบคลุมทุกมิติ

(23 ก.พ. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ พลตรีพันแสง บุนพัน รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพประชาชนลาว (เทียบเท่าผู้บัญชาการทหารบก) ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า ในศาลาว่าการกลาโหม

โดยพลเอกสนิธชนก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวต้อนรับ รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพประชาชนลาว ในโอกาสเดินทางเยือนไทย ในฐานะแขกของกองทับบก และยินดีที่จะได้ร่วมหารือ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น สำหรับความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศนั้น มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในทุกมิติ อาทิ ความร่วมมือในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี, ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน, การเสริมสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคและภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำรัฐบาล

'บิ๊กตู่' นำทัพ 'รทสช.' ปราศรัยใหญ่ที่โคราช 25 ก.พ.นี้ ชูนโยบาย 80 ข้อ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสาน

(23 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกำหนดการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ประตูสู่ภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 25 ก.พ.นี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนด คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง จะขึ้นเวทีปราศรัยด้วยนั้น

จากเดิมในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินไปศูนย์ผ้าไหม อ.ปักธงชัย เพื่อเป็นประธานทำพิธีปักธงชัยชนะ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ผ้าไหมและพบปะประชาชน อ.ปักธงชัย และเดินทางต่อไปยังศูนย์การศึกษาดินเผาด่านเกวียน เพื่อเยี่ยมชมศูนย์เครื่องปั้นดินเผาและพบปะประชาชน ก่อนสักการะ ศาลเจ้าปู่ย่า ที่สมาคมจีนหลักเสียงเซียงตึ้ง จ.นครราชสีมา และเป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงท้าวสุรนารี (ย่าโม) ก่อนที่เวลา 18.30 น. จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่

‘เศรษฐีรัสเซีย’ ตีตั๋วเข้าไทย ‘หลบหนาว-ลี้ภัยสงคราม’ แลนด์ดิ้ง ‘ภูเก็ต-พัทยา-เกาะสมุย’ ดันราคาอสังหาฯ พุ่ง

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘หรรสาระ By Jeans Aroonrat’ ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่ำ 3 เดือน มากสุด 1 ปี โดยระบุว่า…

หลังจากที่ผู้นำชาติอภิมหาอำนาจอย่าง ‘โจ ไบเดน’ และ ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ต่างลั่นกลองรบ เปิดฤกษ์สงครามยูเครน ปี 2 กันไปแล้ว ในลักษณะ ‘ไม่เจ๊ง เราไม่เลิก’

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สงครามคือความสูญเสีย แต่ในอีกมิติที่โลกของเราขับเคลื่อนด้วยระบบเศรษฐกิจนั้น เมื่อมีคนเสีย มันก็ย่อมมีคนได้ เพราะทรัพยากร เงินทุน เป็นสิ่งที่ถ่ายเทกันได้ตลอดเวลา และหนึ่งในประเทศที่มีคนมาเทส้มหล่นให้เป็นสวน เป็นไร่ ก็คือ ประเทศไทยของเรานั่นเอง

เพราะตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานับปี ‘ประเทศไทย’ กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ที่เศรษฐีรัสเซียหลายหมื่นคนเลือกที่จะลี้ภัยสงคราม หนีหนาว มาปักหลักอยู่กันยาว ๆ ซึ่งเมืองยอดฮิตที่เศรษฐีรัสเซียเลือกอยู่มากที่สุดก็คือ ภูเก็ต พัทยา และเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี)

แต่ถ้าแค่พูดลอย ๆ อาจจะไม่เห็นภาพ จึงต้องหยิบหลักฐานมายันกันตรง ๆ จากข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเมือง เฉพาะที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2022 จนถึงมกราคมปีนี้ (2023) มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามามากกว่า 2.3 แสนคน กลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของไทยไปแล้ว ณ เวลานี้

Ikar Airline สายการบินเช่าเหมาลำจากรัสเซียสู่ ภูเก็ต กระบี่ และ อู่ตะเภา มีนักท่องเที่ยวรัสเซียใช้บริการเต็มแทบทุกเที่ยวตั้งแต่ไทยเริ่มเปิดประเทศ นอกจากนี้ยังมีสายการบิน Siberia Airlines ที่เปิดเที่ยวบินจากรัสเซียไปภูเก็ตอีกสัปดาห์ละ 3 เที่ยว เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี Aeroflot ที่เป็นสายการบินหลักของรัสเซีย ที่ได้เพิ่มเที่ยวบินจากหลายเมืองในรัสเซียมายังประเทศไทย ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมั่นใจว่า ภายในปีนี้  2023 จะมีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเข้ามาบ้านเราไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน

และที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งคือ นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนไม่ได้มามือเปล่า เพราะพวกเขายังหอบเงินมาลงทุน จอง-เช่า-ซื้อ ที่พัก บ้าน คอนโด หรือ รีสอร์ท กันเป็นจำนวนมาก ทำราคาอสังหาริมทรัพย์ในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทยพุ่งเกือบ 3 เท่า จนบางเอเจนซี่ยอมลงทุนจ้างเซลส์ ที่ดูแลลูกค้าต่างชาติเป็นชาวรัสเซียเลยทีเดียว

โซเฟีย มาลีกราวาเรียล นายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากรัสเซียคนหนึ่ง ให้ข้อมูลแก่สำนักข่าวต่างประเทศว่า ตอนนี้ลูกค้าของเธอที่เป็นชาวรัสเซียส่วนใหญ่ เป็นคนหนุ่ม-สาว วัยกำลังทำงานช่วงอายุประมาณ 30-35 ปี และทุกคนล้วนมีฐานะ กำเงินมาเพื่อเช่าที่พักอยู่ยาว ๆ กันตั้งแต่ 3 เดือน จนถึง 1 ปีขึ้นไป

เหตุผลที่มาอยู่ไทยยาว เพราะหนีช่วงฤดูหนาวในรัสเซียก็ส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลหลัก ๆ เลยคือ หนีการเกณฑ์ทหารไปรบในสงครามยูเครน และหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ที่ทำให้พวกเขาต้องหนีมาพักผ่อน และมองหาแหล่งลงทุน ทำธุรกิจแห่งใหม่ ที่มั่นคงปลอดภัยกว่าในรัสเซียตอนนี้

ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เคยซบเซาในช่วงยุค Covid-19 กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ในปี 2022 ยอดขายคอนโดมิเนียมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ต เกือบ 40% เป็นของชาวรัสเซีย และเป็นชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากที่สุด ซึ่งมากกว่าชาวจีน ที่ตามมาเป็นที่ 2 หลายเท่าตัว

เจ้าของกิจการโรงแรมในหาดป่าตอง เล่าว่าตอนนี้ ลูกค้าโรงแรมมากว่า 90% เป็นหนุ่มสาวรัสเซีย แม้แต่รีสอร์ทระดับหรูหลายแห่งถูกจองเต็มยาวข้ามปีโดยกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย หลายคนนำเงินมาจองซื้อบ้าน ในโครงการที่ยังเพิ่งก่อสร้าง โดยวางแผนล่วงหน้าว่าหากสถานการณ์ที่รัสเซียยังไม่ดีขึ้น อาจต้องมาปักหลักอยู่ยาวในไทย

ว่าแต่…ทำไมเศรษฐีมีเงินชาวรัสเซีย ถึงเลือกที่จะมาอยู่พักใจกันที่ประเทศไทย แทนที่จะไปประเทศอื่น ๆ??

'เพื่อไทย' เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. อีก 16 คน ลั่น!! เลือกตั้งหนนี้ต้องชนะ 'แลนด์สไลด์'

(23 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส.พรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ จำนวน 16 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรค พท. ได้ประกาศกลยุทธ์และเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน ที่ต้องชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ให้ได้จำนวน ส.ส.มากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 250 คนขึ้นไปของสภาฯ เพื่อให้ได้อาณัติจากพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ขอขอบคุณว่าที่ผู้สมัครที่อาสาเข้ามาทำงานร่วมกันกับเรา หลังจากนี้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เปิดตัวไปแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาและฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ และเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกของพรรคต่อไป ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ได้เลือกตั้งแน่นอน พรรค พท. พร้อมทำหน้าที่ตรงนี้เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน

ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรค พท. ถือเป็นพรรคที่มีความพร้อมมากที่สุด เราเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เกือบครบทุกเขตแล้ว ยังเหลือบางเขตที่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้สมัครเยอะมาก ประมาณ 8-10 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ทั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและส.ส.ระบบเขต โดยเฉพาะ ส.ส.ระบบเขตมีความสำคัญมาก ที่จะยกมือโหวตนายกฯ จากพรรค พท. เพื่อชี้ชะตาอนาคตของประเทศชาติบ้านเมือง

“เราลำบากมา 8 ปี จะลำบากต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน เราเคยทำได้ เราทำมาแล้ว และเราจะทำอีก เราจะทำให้พี่น้องประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง” นายวิสุทธิ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top