Monday, 19 May 2025
NewsFeed

ทัพกอล์ฟหญิงระดับโลก พร้อมเดินหน้าคว้าแชมป์รายการ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' อาฒยา ฐิติกุล, เนลลี่ คอร์ด้า, มินจี ลี และเหล่าโปรกอล์ฟหญิงระดับท็อปของโลกพร้อมนำทัพประชันวงสวิง

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ที่สองของปีนี้คับคั่งด้วยนักกอล์ฟฝีมือเยี่ยมของวงการกอล์ฟหญิงระดับโลก นำโดย 'จีน' อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟขวัญใจชาวไทยและมือ 4 ของโลก ซึ่งตั้งเป้าสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จเพื่อมอบรอยยิ้มให้กับแฟนกอล์ฟชาวไทยในการแข่งขันกอล์ฟยอดนิยมของฤดูกาล โดยเจ้าของแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์สองสมัยและผู้ครองตำแหน่ง Louise Suggs Rolex Rookie of the Year พร้อมนำทัพนักกอล์ฟไทยและต่างชาติร่วมประชันวงสวิงในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก เพื่อชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และรางวัลโฮลอินวัน รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV TECH มูลค่า 1,799,000 บาท

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ก้าวสู่ปีที่ 16 ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยปีนี้มีนักกอล์ฟดังเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคับคั่ง นำโดย ลิเดีย โค มือ 1 ของโลกจากนิวซีแลนด์ ร่วมด้วยเนลลี่ คอร์ด้า มือ 2 ของโลกจากสหรัฐฯ มินจี ลี มือ 3 ของโลกจากออสเตรเลีย จิน ยองโค มือ 5 ของโลกจากเกาหลีใต้ และ บรู๊ค เฮนเดอร์สัน มือ 6 ของโลกจากแคนาดาที่เพิ่งคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลในรายการ ฮิลตัน แกรนด์ วาเคชั่นส์ ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ในออร์แลนโด ฟลอริด้า เมื่อเดือนที่แล้ว 

'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เดินหน้าบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และของใช้จำเป็น รวมมูลค่า 177,500 บาท แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวมนวรา เพชรพลากร ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและผู้จัดการทั่วไปส่วนงานองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ มิสวินนี่ เฮง รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็มจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนมอบ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี

อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่นำไปบริจาคในครั้งนี้ ประกอบด้วย รถเข็นผู้ป่วย เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน โคมไฟส่องตรวจ เครื่องดูดเสมหะ รวมถึงของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อาทิ ระบบเครื่องเสียงสาธารณะ (PA) โต๊ะ ผ้าอ้อม แผ่นรองซับ ยาทากันยุง น้ำดื่ม และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน โดยเป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กที่รองรับผู้ป่วยจากชุมชนโดยรอบ มีคนไข้ราว 40 คนต่อวัน สำหรับทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และของใช้จำเป็นในครั้งนี้ รวบรวมจากค่าสมัครการแข่งขัน “Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers” ที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 9-10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามสยามคันทรีคลับ โรลลิ่ง ฮิลส์ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเฟ้นหานักกอล์ฟสาวไทยทั้งระดับอาชีพและสมัครเล่น 1 คน ร่วมดวลวงสวิงในการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 โดยผลการแข่งขัน ซิม -ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ นักกอล์ฟหน้าใหม่ของแอลพีจีเอ ทัวร์ คว้าตำแหน่งผู้ชนะ 

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยได้รับความสนใจจากแฟนกอล์ฟทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากความพร้อมในการจัดการแข่งขัน คณะผู้จัดงานยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์คืนสู่ชุมชนท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยการระดมทุนจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปใช้ในกิจกรรมการกุศล อาทิ กิจกรรม Charity Night ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อจัดประมูลไอเท็มส่วนตัวของนักกอล์ฟระดับโลก โดยนำรายได้บริจาคให้แก่ศิริราชมูลนิธิ รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ 

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖

วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุม
ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมี พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ หอประชุมกองทัพเรือ

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจจิตอาสาพระราชทานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนดำรงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย โดยให้ถือเป็นการช่วยเหลือสังคมและกล่อมเกลาให้กำลังพลได้รู้จักความเสียสละและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม โดยในวันนี้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ รวมถึงได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ของกองทัพ ดังนี้

กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงนโยบายการฝึกของกองทัพไทย พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ เพื่อให้ส่วนราชการในกองทัพไทยใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนการฝึก แผนงบประมาณประจำปี และพัฒนาระบบงานการฝึกของหน่วย โดยมีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนในทุกระดับ สาระสำคัญประกอบด้วย นโยบายทั่วไป และนโยบายเฉพาะ ซึ่งมีแผนงานการฝึก จำนวน ๔ ด้าน ได้แก่ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน

กองทัพบก ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกให้มีความพร้อมรบ (Combat Readiness) มีขีดความสามารถในการรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ และสามารถปฏิบัติการร่วมกับทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการฝึกที่สำคัญประกอบด้วย การฝึกตามวงรอบการฝึกประจำปีของกองทัพบก ซึ่งเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานให้กับกำลังพล เพื่อให้เกิดทักษะความชํานาญทั้งในระดับบุคคล และระดับหน่วย การฝึกร่วม ซึ่งเป็นการฝึกร่วมกับเหล่าทัพ และส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และความชำนาญในการปฏิบัติงาน รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในหลักนิยม ยุทธวิธี ขีดความสามารถ และความทันสมัยของยุทโธปกรณ์ในแต่ละกองทัพมิตรประเทศทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี 

กองทัพเรือ ได้รายงานผลการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔ ถึง ๖ มกราคม ๒๕๖๖ ในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้เข้ารับการฝึกฯ จากกองทัพเรือ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ มวลชน และนักท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ รวมทั้งสิ้น ๑,๓๒๐ คน ผลจากการฝึกฯ ในครั้งนี้ได้รับทราบถึงขีดความสามารถของกำลังทางเรือในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ทางทะเลและเกาะแก่ง อีกทั้งยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในขีดความสามารถของกันและกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติการร่วมกันในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงเกิดความมั่นใจในขีดความสามารถและความพร้อมของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือร่วมกับศูนย์อำนวยการร่วมในพื้นที่ โดยกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ไฟป่าและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติภารกิจในการบินกระจายเสียงในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง การบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า การบินสร้างแนวกันไฟเพื่อควบคุมไฟป่า การบินลำเลียงทางอากาศและส่งกลับ สายแพทย์ และการบินค้นหาและช่วยชีวิต นอกจากนี้ กองทัพอากาศ ยังมีโครงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและสลายหมอกควัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาเครื่องผสมสารยับยั้งไฟป่า สารยับยั้งไฟป่าสูตร ทอ.๑ ถุงบรรจุสารยับยั้งไฟป่าในกล่องอุปกรณ์ควบคุมไฟป่า บรรจุภัณฑ์ยับยั้งไฟป่าแบบติดตั้งอุปกรณ์ หน่วงเวลา สถานีระบบควบคุมภาคพื้น อากาศยานไร้คนขับโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อากาศยานไร้คนขับแบบ M Solar X การทำฝนหลวงเมฆอุ่น และพลุสารฝนหลวง เป็นต้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งตำรวจอำนวยความสะดวกส่ง 'ทับทิม' บินกลับอเมริกา หลังยินดีมอบตัวคดีชนแล้วหนีที่มิชิแกน

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุหญิงไทย ทราบชื่อต่อมาเป็น นางทับทิม ซู ฮาวสัน อายุ 57 ปี ขับรถยนต์ชน นายเบนจามิน เคเบิล อายุ 22 ปี จนเสียชีวิตที่เมืองมิชิแกน สหรัฐอเมริกา แล้วได้หลบหนีกลับมายังประเทศไทย และมีสื่อต่างประเทศได้นำเสนอข่าวว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ประสานแจ้งขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนมายังประเทศไทย และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เชิญตัว นางทับทิมฯ มาเปิดใจต่อสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว โดยยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องการเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น

วันนี้ (22 ก.พ.66) เวลาประมาณ 17.00 น. นางทับทิม ซู ฮาวสัน ได้พร้อมออกเดินทางกลับไปยังเมืองมิชิแกน สหรัฐอเมริกา โดยจะใช้เวลาเดินทาง 1 วัน โดยปลายทางจะมีเจ้าหน้าที่ FBI รอรับการมอบตัวดังกล่าว เบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกในเบื้องต้น และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในเบื้องต้น เพื่อให้นางทับทิมลดความกังวล และมีความพร้อมเดินทางไปมอบตัวดังกล่าว

3 สมาคมท้องถิ่น ผนึกกำลังก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งพัฒนาประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกมิติ

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา ที่ห้องประชุมใหญ่ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU)“ท้องถิ่นรวมพลังเป็นหนึ่ง ก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นกลไกพัฒนาประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกมิติ”

โดย 3 สมาคม องค์กรปกครองท้องถิ่น ประกอบด้วย นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และ ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) “ท้องถิ่นรวมพลังเป็นหนึ่ง ก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นกลไกพัฒนาประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกมิติ” ร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือและผนึกกำลังระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม มุ่งทำงานตอบสนองต่อเป้าหมายของประเทศ ร่วมมือทำหน้าที่เป็นกลไกและหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ หรือกิจกรรมสาธารณะในพื้นที่ สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลตามหลักการกระจายอำนาจเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล

ตร.คว้ารางวัล 1 ใน 5 หน่วยงาน ผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย กลุ่มหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ (Finalist Of Best Brand Performance On Social Media) จากการประกวด Thailand Social Award ครั้งที่ 11

วันนี้ (22 ก.พ.65) ที่ ณ ทรูไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยามชั้น 7 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมงานประกาศรางวัล Thailand Social Award ครั้งที่ 11 ซึ่งจัดโดย บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรางวัล 1 ใน 5 หน่วยงานที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย จากกลุ่มหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจทั้ง (Finalist Of Best Brand Performance On Social Media) โดยคำนวณคะแนนจากทั้ง 3 ช่องทางที่ ตร.ใช้ในการสื่อสารกับประชาชน ทั้ง Facebook : สำนักงานตำรวจแห่วชาติ Twitter : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และYoutube : Policetv UCI MEDIA

รางวัลผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย จากกลุ่มหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจทั้ง (Finalist Of Best Brand Performance On Social Media) พิจารณาจากหน่วยงานกว่า 3,000 หน่วย มีหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัล เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่วน ตร.ได้รับรางวัล 1 ใน 5 หน่วยงานยอดเยี่ยมร่วมกับ กรมควบคุมโรค  วุฒิสภา กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข

อลงกรณ์เผย 'ประเทศกานา' ชื่นชมโครงการพระราชดำริยกเป็นต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยืนยันกระทรวงเกษตรฯ.พร้อมขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับกานา

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ ดร.สิชา สิงห์สมบุญ กงสุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทย และคณะ โดยมี นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีและเกษตรกรรมยั่งยืน สำนักการเกษตรต่างประเทศ ผู้แทนกรมการข้าว กรมชลประทาน กรมประมง สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (112) สำหรับการประชุมหารือกันในวันนี้มีประเด็นหารือที่สำคัญ อาทิ เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ที่เป็นแนวทางการการปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ รวมถึงความร่วมมือในด้านอื่น ๆ

นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการหารือว่าประเทศกานามีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวและเพิ่มผลผลิตภายในประเทศมากขึ้น และมีความสนใจในแนวทางพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำการเกษตรแบบ BCG Model โดยเฉพาะข้าวรักษ์โลกที่ช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมี และยังเป็นแนวทางใหม่ของการทำการเกษตรโลก เนื่องจากกานามีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการเกษตร และแรงงานไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านเกษตร เกษตรกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบดั้งเดิม ยังไม่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากนัก ทำให้คุณภาพและปริมาณผลผลิตต่ำ

วิทยุทันสมัย!! ‘กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ’ พลิกโฉม NAVY TIME

กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือผนึกกำลัง THE STATES TIMES สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ ปรับรูปแบบรายการวิทยุ 'NAVY TIME’ ในคอนเซปต์ 'เรื่องดีดีประเทศไทยยามเช้า’ ทางสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือวังนันทอุทยาน (ส.ทร.วังนันทอุทยาน) FM93 เวลา 7-8 โมงเช้าทุกวัน จันทร์ ถึง อาทิตย์

พลเรือเอก อำนวย ทองรอด ประธานกรรมการบริหารกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ (ประธาน กบว.ทร.) พร้อมด้วยพลเรือโท ชยุต นาเวศภูติกร ผู้อำนวยการกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ เปิดเผยถึงแผนการปรับคอนเทนต์ รายการ  NAVY TIME ครั้งใหม่ ทั้งเนื้อหาและแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเข้าถึงที่มากกว่าเดิม ทาง ส.ทร.วังนันทอุทยาน คลื่น FM93 ด้วยการเขย่ารายการแรก 'NAVY TIME’ ปรับเนื้อหา สาระดีๆ สร้างแรงบันดาลใจ มุ่งเข้าหาประชาชนชาวไทยในยามเช้า

พลเรือเอก อำนวย กล่าวว่า “ปัจจุบันสื่อวิทยุยังเป็นช่องทางหลักที่พี่น้องชาวไทยทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดให้ความสนใจอยู่อย่างมาก ขณะที่กลุ่มคนเมืองมีการปรับพฤติกรรมโดยมุ่งไปที่คอนเทนต์ที่ตรงใจ และฟังจาก แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ วิทยุเพื่อความตระหนักรู้ ข้อมูลข่าวสาร ความมั่นคงของชาติทางทะเล รายงานข่าวอากาศและเทียบเวลามาตรฐาน ซึ่งมุ่งมั่นในการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาอันเป็นประโยชน์ รวมถึงเรื่องราวที่มีความทันสมัย ภายใต้ช่องทางรับฟัง/รับชมใหม่ๆ เพื่อขยายไปสู่ผู้ฟังทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมมือกับ THE STATES TIMES สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสำนักข่าวออนไลน์ที่มีการเติบโตสูงในช่วงที่ผ่านมา และมีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตคอนเทนต์ข่าวที่หลากหลาย ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจากกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ที่ต้องการนำสิ่งดีๆ มาสู่ผู้ฟัง พร้อมทั้งเป็นเพื่อน ทุกๆ ท่านตลอดวัน แค่หมุนคลื่น หรือคลิกฟัง/ชม ทาง ส.ทร.วังนันทอุทยาน FM93 ครับ” พลเรือเอก อำนวย ทิ้งท้าย

ปชป.เปิดแนวรุกภาคตะวันตก ! 'เฉลิมชัย-อลงกรณ์' นำทัพประชาธิปัตย์เปิดตัวผู้สมัครส.ส. เพชรบุรี 24 ก.พ. นี้เป็น จว.แรก มั่นใจปักธงสีฟ้าแม่พระธรณีทั้ง3เขต

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้(23 ก.พ.)ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าโดยจะส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตทุกจังหวัดซึ่งได้ทะยอยเปิดตัว ผู้สมัครส.ส. เป็นระยะ ๆ พร้อมกับประกาศนโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุดแรกไปแล้ว

สำหรับภาคกลางตะวันตกจะมีการเปิดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00-18.00 น. ที่สนามหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศโดยดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและตนจะเปิดแนวทางการทำงานการเมืองและการพัฒนามิติใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ "ก้าวใหม่เพชรบุรี ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์" พร้อมด้วยคำประกาศเจตนารมณ์ของ 4 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้แก่นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันเพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อจังหวัดเพชรบุรี และขอโอกาสให้อดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์คือนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี และส.ส. บัญชีรายชื่อ 6 สมัย  ดร.กัมพล สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 2 เพชรบุรี 3 สมัย และนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์และอดีต ส.ส.เขต 3 เพชรบุรี 4 สมัยลงสมัคร ส.ส.เขต1-2-3และ นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขอดีต ส.ส.เขต 1 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2สมัยลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้กลับมาเป็นปากเสียงและตัวแทนของคนเมืองเพชรฯ.อีกครั้งหนึ่งดังเช่นที่ผ่านมา

'ชูวิทย์' เร่งเดินหน้าปิดเกม 'สารวัตรซัว' แฉ!! ไม่เคยทำงาน แต่เบิกเบี้ยเลี้ยง-โอที

(22 ก.พ. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืน ซึ่งเป็นผู้ออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับ 'ทุนจีนสีเทา' และเว็บพนันออนไลน์จนแตกกระเจิง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' มีเนื้อหาดังนี้...

แนวรับพนันออนไลน์

หลังจากผมจัดลำดับประเภท 'พนันออนไลน์' โดยจำแนกเงินทุนหมุนเวียนของแต่ละเจ้า เกิดอาการวงแตกกระเจิงคนละทิศคนละทาง บรรดาโปรแกรมเมอร์ไปพักร้อนต่างประเทศกันเป็นแถว ต้องขออภัย ผมไม่ได้ 'ตีกิน' ระดับผมไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินพนันยังชีพ

แต่หากใครจะกิน 'ตามน้ำ' ผมก็รู้ว่ามันเป็น 'ธรรมเนียม' ไทย ๆ จะให้จัดการทีเดียวคงยาก เช่น ของไอ้ซัว ทำทั้งเว็บพนัน สล็อต คอลเซ็นเตอร์ มีในเครือข่ายประมาณ 300 เว็บ เอากันง่าย ๆ จ่ายเว็บละ 30,000-50,000 บาท แล้วแต่เว็บไหนเป็นที่นิยม เดือนนึงตกประมาณ 10 กว่าล้าน

ค่าธรรมเนียมนี้จ่ายถึงใคร แผนกใด แม้ไม่มีใบกำกับภาษีมาแสดง แต่รู้อยู่ว่าแบ่งกันอย่างไร ใครรับ? ซัวดูแลทุกเดือน จะยอมละชามข้าวเดือนละ 10 ล้านไหวหรือ?

“เดี๋ยวชูวิทย์ก็หมดแรงไปเอง”

นี่ไม่ใช่คำพูดที่ผมไปเสกสรรปั้นแต่ง แต่เป็นคำพูดของซัวส่งไลน์ผ่านคนใกล้ชิด ได้เห็นได้อ่านกับตา รู้ซึ้งว่าเกมนี้ไม่ธรรมดา แม้ผมจะเข้าวัยเลยเกษียณ แต่ยังมีเขี้ยวเล็บ แต่ก่อนสังคมไม่เคยได้ยินชื่อ 'สารวัตรซัว' ผมจี้เอามันมาขึ้นเขียงว่าเป็น 'นายตำรวจ' และเป็น 'นายบ่อน' ด้วย ควบสองตำแหน่งอย่างนี้ไม่ไหว จนท่าน ผบ.ตร. เด่นเห็นด้วยกับผม จัดการฟันให้ออกจากราชการทันที

ผมเพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า 'ซัว' ไม่เคยไปทำงานตำรวจ แต่ยังเสือกเบิกเบี้ยเลี้ยงโอทีอีกต่างหาก จะไปยกให้ใครไม่ทราบได้ แต่เป็นภาษีของประชาชนอย่างผมแน่นอน ที่ผมพูดเพราะไม่มีใครพูด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top