Monday, 9 June 2025
จีน

วิเคราะห์!! สหรัฐฯ ขอกลับเข้ายูเนสโก หวั่น!! จีนสยายอิทธิพลแทนที่

(9 ก.ค. 66) รายการ ‘คุยผ่าโลก’ ได้เชิญ ‘อาจารย์สุดาทิพย์ จารุจินดา-อินทร’ มาพูดถึงนัยยะสำคัญในการกลับมาเป็นสมาชิกองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ของสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการถอนตัวออกจากยูเนสโกมาแล้วถึง 2 ครั้ง กลับมาครั้งนี้จะมีความหมายอย่างไร มาฟังกันเลย…

“เหตุผลที่ทำให้อเมริกาทนไม่ได้ เพราะจีนแผ่ขยายอำนาจ ซึ่งหากจะให้เปรียบเปรยก็เหมือนกับว่า แม้แต่สนามหญ้าหน้าสำนักงานยูเนสโก จีนก็บลัฟเป็นเจ้าภาพ ฮุบเข้าไปขยายอาณาเขตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ถือเป็นการสู้กัน เพราะยูเนสโก มีทั้งด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษาวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ และตัววิทยาศาสตร์ 

"ทั้งนี้ ในส่วนของสหรัฐฯ นั้น ได้มีการถอนตัวมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมาจากการที่ ‘ยูเนสโก’ รับ ‘ปาเลสไตน์’ เข้ามาเป็นสมาชิกในสหประชาชาติ (UN) แม้เขาจะไม่ได้เป็น Full Member แต่ในส่วนยูเนสโกรับเป็น Full Member เลย ทำให้อเมริกาเดือดมาก รวมทั้งอิสราเอลก็โกรธมากเช่นกัน จึงทำให้อิสราเอลและอเมริกาถอนตัวทั้งคู่ อันนี้คือสาเหตุของการถอนตัวครั้งแรก แต่ในที่สุดภายหลังก็ได้ผันตัวกลับเข้าไป ส่วนอีกครั้งหนึ่งในสมัย ‘ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็ได้มีคำสั่งให้ถอนออกมาจาก ‘ทีพีพี’ และอเมริกาแทบจะถอนตัวจาก NATO และถอดยูเนสโกตามมาติดๆ

"ทว่า ตอนนี้ ‘จีน’ กับ ‘อเมริกา’ กำลังขับเคี่ยวกันในเรื่องเทคโนโลยี หรือ AI ซึ่งตรงนี้จะเป็นการได้ประโยชน์จากยูเนสโกที่จะส่งผลต่อประเทศจีน ทำให้อเมริกาปล่อยให้จีนแผ่บทบาทนี้ไม่ได้ จึงทำให้ต้องยอมเข้าไป ‘ยูเนสโก’ อีกครั้งหนึ่ง และล่าสุดเพิ่งมีการลงมติไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีทั้งหมด 132 เสียง ที่เห็นชอบ แต่ก็มีอีก 10 ประเทศที่ออกเสียงคัดค้าน ซึ่ง 1 ในนั้นมี ‘อินโดนีเซีย’ อีกด้วย ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามต่อไป โดยมีเวทียูเนสโกอีกหนึ่งพื้นที่ในการสู้รบกัน"

‘BVLGARI’ เกือบโดนแบน หลังเอ่ย ‘ไต้หวัน’ แยกออกมาจากประเทศจีน  ล่าสุดรีบออกมาขอโทษ พร้อมแจงเหตุ ‘พนง.กรอกข้อมูลผิด’

เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 66) งานนี้แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับเจ้าดังของโลกอย่าง ‘BVLGARI’ ส่อจุดกระแสโดนแบนจากชาวจีนอีกหนึ่ง ด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความอ่อนไหว จีน-ไต้หวัน

วันนี้กลายเป็นกระแสเดือดอย่างหนักในโลกออนไลน์จีน เมื่อมีข่าวนำเสนอว่า ในหน้าร้านค้าออนไลน์ของ ‘BVLGARI’ ได้มีการบอกสาขาของช็อป ‘BVLGARI’ ในประเทศต่างๆ อาทิเช่น ประเทศไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น อินเดีย สิงคโปร์

และที่จุดประเด็นความไม่พอใจคือ ทางหน้าเพจร้านค้าออนไลน์ ได้เขียนว่ามีสาขาที่ เขตปกครองพิเศษประเทศจีนมาเก๊า (中国澳门特别行政区) และ เขตปกครองพิเศษประเทศจีนฮ่องกง (中国香港特别行政区)

แต่เมื่อไล่มาถึง ‘ไต้หวัน’ กลับเขียนสั้นๆว่า ‘ไต้หวัน’ (台湾) ไม่มีการใส่คำว่าประเทศจีนไต้หวัน ซึ่งนี่เองทำให้คนจีนจำนวนมากต่างไม่พอใจ เรียกว่าเดือดเลยทีเดียว ที่ทาง ‘BVLGARI’ จงใจจะแยกไต้หวันออกมาเป็นประเทศ ประเทศหนึ่ง

กระแสความไม่พอใจหนักถึงขนาดที่ว่าชาวโซเชียลจีนต่างเรียกร้องให้ทางแบรนด์ออกมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น หากไม่อย่างนั้นพวกตน จะขอแบนออกไปจากประเทศจีน ความคิดเห็นส่วนใหญ่ต่างพูดว่า ไม่อยากทำมาค้าขายที่จีนแล้วใช่ไหม รอดูได้เลย จบไม่สวยแน่ ๆ งานนี้ และมีอีกหลายเสียงออกมาร่วมประกาศจุดยืน ประเทศจีนมีเพียง 1 เดียว และออกมาขับไล่ ‘BVLGARI’ ออกจากประเทศจีน

ล่าสุด ‘BVLGARI’ ออกมาขอโทษแล้วค่ะ โดยกล่าวว่า ทางแบรนด์ได้ให้ความเคารพต่อหลักอธิปไตยและบูรณภาพของประเทศจีน และต้องขอโทษเป็นอย่างยิ่งต่อความผิดพลาด ที่ฝ่ายดูแลร้านค้าออนไลน์ลงข้อมูลระบุประเทศผิด และได้รีบดำเนินการติดต่อผู้เกี่ยวข้องให้แก้ไขแล้ว

‘นักธุรกิจไทย’ โกยยอดขาย ‘ตลาดนัดกลางคืน’ ในไหหลำ ปักหมุดแลนด์มาร์กแห่งใหม่ สวรรค์ของนักท่องเที่ยวขาชอป

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, ไห่โข่ว รายงานว่า ยามย่ำสู่ค่ำคืนหลังอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ตลาดนัดวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ‘ไป๋ซา เหมิน’ ในนครไห่โข่ว เมืองเอกของมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน กลับมีบรรยากาศคึกคักด้วยทัพนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของกันอย่างเพลิดเพลิน

ตลาดนัดกลางคืนไป๋ซาเหมินตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 60,000 ตารางเมตร เพิ่งเปิดต้อนรับผู้คนเมื่อราวหนึ่งเดือนก่อนด้วยแผงขายของกินและงานฝีมือทางวัฒนธรรมมากกว่า 600 แผง ซึ่งจากแผงขายของกินทั้งหมด 300 แผง เป็นของพ่อค้าแม่ขายชาวไทยมากกว่า 160 แผง

บรรดาคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาเยือนตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้ ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งใหม่ของไห่โข่วกันอย่างไม่ขาดสาย โดยมีนักท่องเที่ยวตบเท้าเข้าเดินซื้อของสูงถึงราว 800,000 คน ในช่วง 20 วันแรกของการเปิดตลาด

อริณธารัตน์ เทพวรรณ เจ้าของแผงขายอาหารไทยอย่างผัดไท ต้มยำกุ้ง และหมูกรอบ จำนวน 4 แผง สาละวนอยู่กับการทักทายลูกค้ามากหน้าหลายตา โดยเขาเผยว่า ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1,000-2,000 หยวน (ราว 5,000-10,000 บาท) ต่อวันต่อแผง

เดิมที อริณธารัตน์ทำธุรกิจคลินิกเสริมความงามในไทย และธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนมานานกว่า 18 ปี จนกระทั่งราวสามเดือนก่อน เขาได้ยินข่าวว่า ไห่หนานจะเปิดตลาดนานาชาติสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติ ซึ่งทำให้เขาสนใจและเริ่มพูดคุยกับเพื่อนในไทย

อริณธารัตน์บอกว่า พอรู้จักตลาดจีนมีขนาดใหญ่และคิดว่าเป็นโอกาสดีทางธุรกิจ จึงตัดสินใจมาเปิดแผงขายอาหารที่นี่ โดยแม้เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับไห่หนาน แต่เคยเดินทางไปหลายเมืองของจีน เช่น กว่างโจว เซี่ยเหมิน เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง เลยคิดว่าไห่หนานน่าจะเหมือนและเป็นตลาดใหญ่เช่นกัน

“ผมได้ยินว่า ไห่หนานเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่น ๆ และวันแรกที่มาถึงที่นี่ ผมรู้สึกว่าเหมือนอยู่กรุงเทพฯ เลย ทำให้คิดว่าเลือกถูกแล้ว” อริณธารัตน์กล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าตลาดแห่งนี้จะโด่งดังในจีน และทั่วโลกจนกลายเป็นแลนด์มาร์กห้ามพลาด

ด้าน อภิญญา ฉัติทิวาพร วัย 27 ปี ซึ่งทำธุรกิจเบเกอรีในไทย เจ้าของแผงขายชาไทยหลากหลายเมนูที่ตลาดนัดกลางคืนไป๋ซาเหมิน เผยว่าเธอตั้งใจมาสั่งสมประสบการณ์และเสาะหาโอกาสใหม่ในตลาดแห่งนี้ที่มีขนาดใหญ่มาก ทิวทัศน์สวยงาม ผู้คนเป็นมิตร และอากาศดี

กิตติศักดิ์ โอสถานันต์กุล ผู้จัดการกลุ่มผู้ค้าชาวไทยของตลาดนัดกลางคืนไป๋ซาเหมิน เปิดแผงขายอาหารของตัวเอง พร้อมกับช่วยเหลือผู้ค้าชาวไทยคนอื่นๆ ตั้งแต่งานเอกสาร การขอวีซ่า จนถึงหาที่พักอาศัย โดยเขามองว่าการทำธุรกิจที่ตลาดแห่งนี้เป็นโอกาสใหม่ในการบุกตลาดจีน

แม้การท่องเที่ยวของไห่หนานจะผันผวนตามฤดูกาล แต่กิตติศักดิ์ยังคงมองเชิงบวกและเฝ้ารอฤดูท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะแห่แหนกันมาที่นี่ รวมถึงวาดหวังขยับขยายธุรกิจไปยังการเปิดร้านนวดแผนไทยหรือร้านอาหารไทยในอนาคตข้างหน้าด้วย

เจิ้งซือซือ นักท่องเที่ยวจากมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน กล่าวว่าอาหารไทยที่ตลาดนัดแห่งนี้มีรสชาติเหมือนต้นตำรับ พอเจอคนขายที่พูดภาษาไทยก็เหมือนอยู่ประเทศไทย ที่นี่มอบประสบการณ์ยอดเยี่ยม และเดินเที่ยวเล่นได้อย่างสนุก

ความจริงใจ สำคัญ!! ‘หวังอี้’ กระตุ้นสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม  พาสัมพันธ์ ‘จีน-สหรัฐฯ’ กลับเส้นทางที่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ‘หวังอี้’ นักการทูตอาวุโสของจีน กล่าวว่าสหรัฐฯ ควรดำเนินการอันเป็นรูปธรรม เพื่อนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

‘หวัง’ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน ซึ่งพบปะกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ การประชุมนอกรอบของการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุฉันทมติผ่านการสื่อสารเชิงลึกและตรงไปตรงมาระหว่างการเยือนจีนของบลิงเคนเมื่อเดือนก่อน

หวังกล่าวว่า ฉันทมติสำคัญที่สุดคือ การกลับสู่วาระที่ผู้นำรัฐทั้งสองกำหนดไว้ในบาหลีของอินโดนีเซีย และการก้าวเดินหน้าสู่การกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

ฝ่ายสหรัฐฯ ควรพิจารณาปมปัญหาที่นำสู่ความยุ่งยากของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทำให้ฉันทมติที่บรรลุโดยประธานาธิบดีจีนและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ การประชุมในบาหลีสู่การดำเนินการอันเป็นรูปธรรม และทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยให้ไว้

การดำเนินการอันเป็นรูปธรรมจำเป็นต่อการขจัดอุปสรรค ทั้งที่คาดถึงและคาดไม่ถึง เพื่อสั่งสมแรงขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ

หวังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปรับใช้ทัศนคติอันสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับความเป็นจริง ตลอดจนทำงานร่วมกับจีนในทิศทางเดียวกัน เพื่อเดินหน้าการปรึกษาหารือหลักการชี้นำความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ขยับขยายช่องทางการสื่อสารทางการทูตและความมั่นคง ยกระดับประสิทธิภาพของการสื่อสาร และเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน

‘สายชาบู-สุกี้สไตล์จีน’ ระวัง!! ‘ไส้กรอกจีน’ เสี่ยงปนเปื้อนโรคระบาด หวั่นเชื้อแพร่กระจายสู่คน เตือน!! พบเห็นสินค้า รีบแจ้งเบาะแสด่วน

(16 ก.ค. 66) นับเป็นเมนูยอดฮิตในช่วงนี้ สำหรับสุกี้สไตล์จีน ชาบูหมาล่า ที่พบเห็นแทบทุกหัวมุมถนน และมีผู้คนต่อคิวยาวเหยียด โดยร้านเหล่านี้มักจะมีเนื้อสัตว์ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์แปรรูป และน้ำต่าง ๆ จากประเทศจีนประกอบอยู่ในเมนูด้วย

ล่าสุดทำให้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารประเภทนี้ตกใจไม่น้อย หลังเพจเฟซบุ๊ก ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ได้โพสต์ภาพ ไส้กรอกจำนวนมาก ในห่อสีแดง พร้อมระบุว่า “หากพบเห็นสินค้า หน้าตาแบบนี้ ที่ใดภายในประเทศไทย โปรดแจ้งเบาะแส”

โดยพบว่าภาพดังกล่าวเป็นปฏิบัติงานตรวจสอบ การลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 เวลา 21.00 น.สัมภาระเที่ยวบิน HU 7939 สายการบิน ไห่หนานแอร์ไลน์ ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติเหม่ยหลาน เมืองไหโข่ว ประเทศจีน สุนัขบีเกิล ตรวจพบไส้กรอกหมู จำนวน 100 แท่ง น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 2,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ เผยว่า ประเทศต้นทางมีโรคระบาด จึงไม่อนุญาตให้นำเข้า

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีความเสี่ยงในการนำโรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์สู่คน ที่อาจปนเปื้อนมา ให้มีการแพร่กระจายไปในที่ต่าง ๆ หากมีการนำขนส่งไปมา โดยไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐบาลที่ควบคุมเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายซากสัตว์

‘เบลล์ ขนิษฐา’ ปลื้ม!! ‘เพลงเทพบุตรใจหมา’ โด่งดังในจีน ชี้!! มีคนติดต่องาน-ซื้อลิขสิทธิ์-กำลังแปลเนื้อเป็นภาษาจีน

(17 ก.ค. 66) เบลล์ ขนิษฐา ภรรยาของก้อง ห้วยไร่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดดีใจเมื่อได้รู้ว่าเพลง เทพบุตรใจหมา ที่แต่งโดย ก้อง ห้วยไร่ กำลังโด่งดังมากที่ประเทศจีน โดยได้ระบุข้อความว่า "ใจฟูมากเลยค่ะ ที่ทราบว่าเพลงเทพบุตรใจหมากำลังดังมากที่จีน มีคนติดต่องานและลิขสิทธิ์มาทางผู้จัดการด้วย งื้อ แล้วคนจีนคงจะช็อกไปอีกเมื่อรู้ว่า คนแต่งเพลงนี้คือก้อง ห้วยไร่ พีกไปอีกคือเราเป็นสามีภรรยากัน""ตอนนี้อยู่ในขั้นแปลเนื้อเพลงเป็นภาษาจีน และกำลังเรียงร้อยถ้อยคำ สิเป็นหน้าเป็นตาหมู่บ้านแล้วสู ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำบุญอย่างเดียวค่ะตอนนี้ ส่งผลอ

หลีแนเด้อสาธุ เป็นกำลังใจให้แนเด้อพี่น้อง ฉันสิไห้ จู่ๆ ก็มาโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเตรียมใจเลย กำลังอึ้งๆ สึมๆ"

‘นครเซินเจิ้น’ นำร่องใช้ ‘กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัล’ ที่แรกในจีน รองรับการชำระเงินรอบด้าน เผย ยอดใช้งานทะลุ 35 ล้านใบแล้ว

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, เซินเจิ้น รายงานว่า มหานครเซินเจิ้นทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นเมืองนำร่องด้านการใช้สกุลเงินดิจิทัลแห่งแรกของจีน มีการเปิดใช้งาน ‘กระเป๋าเงินดิจิทัลของจีน’ หรือ ‘เงินหยวนดิจิทัล’ (e-CNY) จำนวน 35.94 ล้านใบ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 7.6 ล้านใบ

ธนาคารประชาชนจีน สาขากลางของเมืองเซินเจิ้น ระบุว่า ปัจจุบันกิจการในเซินเจิ้นมากกว่า 2.1 ล้านราย ได้รองรับการชำระเงินสกุลเหรินหมินปี้ (RMB) แบบดิจิทัล ครอบคลุม 6 ด้านหลัก ได้แก่ การบริโภคประจำวันในห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทางโดยรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน และค่าจอดรถและค่าเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ เซินเจิ้นได้ออกแผนงานในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเสนอการร่วมมือกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน เพื่อดำเนินงานนำร่องการชำระเงินด้วยสกุลเงินเหรินหมินปี้ข้ามพรมแดน ด้านเขตความร่วมมืออุตสาหกรรมการบริการสมัยใหม่เฉียนไห่ เซินเจิ้น-ฮ่องกง จะถูกสร้างเป็นเขตสาธิตการใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัลข้ามพรมแดน

‘จีน’ เผชิญสภาพอากาศผันผวน ร้อนทะลุ 52 องศาฯ หลังผ่านอากาศหนาว -50 องศาฯ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

(19 ก.ค. 66) เมืองซานเป่าในเขตปกครองตนเองชนชาติซินเจียงอุยกูร์ผจญอากาศร้อนถึง 52.2 องศาเซลเซียส ทั้งที่เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เพิ่งต่อสู้กับอุณหภูมิเย็นติดลบ 50 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่เดือนเมษายน หลายประเทศในเอเชียประสบปัญหาอากาศร้อนทำลายสถิติ ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการรับมือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศเปิดเผยว่า เป้าหมายของการรักษาภาวะโลกร้อนในระยะยาวให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม

อุณหภูมิที่สูงเป็นเวลานานในจีนได้สร้างความเสียหายการเพาะปลูก และก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภัยแล้วซ้ำรอยกับปีที่แล้ว ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี

ที่ผ่านมา จีนเผชิญกับอุณหภูมิที่แปรปรวนอย่างมากในแต่ละฤดูกาล อย่างไรก็ดี ความแปรปรวนนั้นเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเดือนมกราคม อุณหภูมิในเมืองโม่เหอในมณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือ ลดต่ำถึง -53 องศาเซลเซียส ทุบสถิติอากาศหนาวที่สุดของจีน

หลังจากนั้น ฝนตกหนักที่สุดในรอบทศวรรษได้พัดถล่มภาคกลางของจีน ทำลายล้างทุ่งข้าวสาลีในพื้นที่ที่เรียกว่ายุ้งฉางของประเทศ

สหรัฐฯ และจีนกำลังผลักดันความพยายามที่จะต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอีกครั้ง โดยนายจอห์น เคอร์รี ทูตพิเศษด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่งจะเข้าหารือกับผู้แทนฝ่ายจีนในสัปดาห์นี้

‘รถรางอัจฉริยะพลังไฮโดรเจน’ คันแรกของจีน เสร็จแล้ว!! เตรียมส่งออกสู่มาเลเซีย เพิ่มประสิทธิภาพการจราจรข้ามพรมแดน


เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, ฉางซา รายงานว่า รถรางอัจฉริยะพลังงานไฮโดรเจนที่พัฒนาโดยบริษัท ซีอาร์อาร์ซี จูโจว อิเล็กทริก โลโคโมทีฟ รีเสิร์ช อินสติทูท จำกัด (CRRC Zhuzhou Electric Locomotive Research Institute Co.) ออกจากสถานที่ผลิต ในเมืองจูโจว มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน และจะถูกส่งออกสู่มาเลเซียในอีกไม่กี่วันนี้ จากท่าเรือเซี่ยงไฮ้

รถรางอัจฉริยะคันนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับบริการขนส่งในพื้นที่เขตเมืองของเมืองกูชิง เมืองเอกของรัฐซาราวักในมาเลเซีย โดยเป็นรถรางที่ใช้ระบบไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจนคันแรก ซึ่งมีจุดแข็งด้านระยะการขับขี่ที่ยาวนานขึ้น ระยะเวลาการเติมเชื้อเพลิงสั้นลง อีกทั้งประหยัดพลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม

รถรางข้างต้นได้รับการปรับปรุงผ่านการออกแบบอัจฉริยะ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของมาเลเซียในการบรรลุระบบขนส่งสาธารณะอัจฉริยะที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยหลังจากส่งถึงมาเลเซียแล้ว รถรางดังกล่าวจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบในเมืองกูชิงเป็นเวลา 3 เดือน

ทั้งนี้ ความสำเร็จของการใช้งานรถรางอัจฉริยะในมาเลเซียจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองกูชิงอย่างมีประสิทธิภาพ นำพารูปแบบการเดินทางที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และทันสมัยสู่ท้องถิ่น ทั้งช่วยให้การผลิตอัจฉริยะของจีนสามารถส่งมอบบริการแก่กลุ่มประเทศตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
 

สตม.จับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดตามหมายจับทางการจีน หนีซุกไทย

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพรผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

จับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดตามหมายจับทางการจีน หนีซุกไทย สตม. ได้รับมอบหมายจาก ตร. ให้ดำเนินการกรณี สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย แจ้งข้อมูลนายป๋อเหวิน (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติด โดยสำนักงานศุลกากรปักกิ่งได้สืบทราบว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 นายป๋อเหวิน ได้ร่วมกับนางเหว่ย (นามสมมติ) หญิงชาวจีน ลักลอบนำเข้าเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนัก 3,311.3 กรัม โดยทางเรือ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกหมายจับนายป๋อเหวินและนางเหว่ย แต่นายป๋อเหวิน ได้หลบหนีออกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายป๋อเหวิน ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งหลังสุดเข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 15 วัน (VISA ON ARRIVAL) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ผบก.สส.สตม. จึงได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ นายป๋อเหวิน และได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามตัวนายป๋อเหวิน เพื่อนำตัวมาดำเนินการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร จึงได้ระดมกำลังสืบสวนติดตามหาตัวนายป๋อเหวิน ตามย่านที่พักอาศัย และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจีนทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ต่อมาสืบทราบว่านายป๋อเหวิน จะเดินทางออกจากประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 และงานตรวจคนเข้าเมืองขาออก ด่าน ตม.ทอ.สุวรณณภูมิ บก.ตม.2 เพื่อหาตัวนายป๋อเหวิน จนกระทั่งได้พบนายป๋อเหวินขณะรอรับการตรวจอนุญาตให้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร จึงได้แจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ได้รับทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top