Monday, 9 June 2025
จีน

ต่างชาติสัมผัส 'รถไฟจีน-ลาว' พาเข้างานแสดงสินค้าในคุนหมิง เปรียบเหมือนสะพานเชื่อมจีน-ลาว และโลกไว้ด้วยกัน

(ซินหัว) (15 ส.ค. 66) ที่คุนหมิง นายมูฮัมหมัด ฟาซเซิล แรบบี ชาวบังกลาเทศที่เดินทางจากลาวเข้าสู่จีนเมื่อไม่นานนี้ และเตรียมเดินทางสู่นครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เพื่อร่วมงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 และงานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกคุนหมิงแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 27 เปิดเผยว่าทางรถไฟจีน-ลาว เปรียบเหมือนสะพานเชื่อมการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและลาว รวมถึงจีนและโลก

ทางรถไฟจีน-ลาว ได้เปิดบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. เป็นต้นมา ซึ่งเกื้อหนุนการเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวสู่นครคุนหมิงของอวิ๋นหนาน เมืองเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 และงานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกคุนหมิงแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค. นี้

ข้อมูลจากสถานีผ่านแดนตำบลโม๋ฮันบนพรมแดนจีน-ลาว ระบุว่าสถานีฯ ได้ตรวจสอบรับรองรถไฟจีน-ลาว ที่ขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนทั้งหมด 246 เที่ยว รวมถึงผู้โดยสารขาเข้า-ขาออกจาก 53 ประเทศและภูมิภาค จำนวน 52,888 คน เมื่อนับถึงวันที่ 15 ส.ค.

สำหรับผู้โดยสารที่สื่อสารต่างภาษาสามารถใช้บริการเครื่องแปลภาษาอัจฉริยะที่สถานีฯ ซึ่งสามารถแปลภาษาต่างๆ แบบเรียลไทม์มากกว่า 70 ภาษา รวมถึงรองรับภาษาต่างๆ ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยในจีน แปลสลับระหว่างภาษาถิ่นกับภาษาจีนกลาง ภายใต้การผสานเทคโนโลยีวิเคราะห์ความหมายเชิงอัจฉริยะ โดยเครื่องแปลภาษานี้อำนวยความสะดวกแก่การสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารอย่างมาก

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ค่ายรถเมืองจีนเลือก ‘ไทย’ เป็นฐานผลิตใหญ่ ประเดิมลงทุนเฟสแรก 8.8 พันล้าน เดินหน้าดันไทยสู่ฮับ EV

(16 ส.ค. 66) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งเน้นให้ไทยเดินตามนโยบาย 30@30 คือการตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ.2030 หรือ พ.ศ. 2573 เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub) ซึ่งขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตรถ EV หลายสัญชาติ ได้ตัดสินใจเข้ามาสร้างโรงงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

“คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ได้รายงานผลสำเร็จของการเดินทางเข้าพบกับนาย Zhu Huarong ประธานกรรมการและคณะผู้บริหาร บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Changan Automobile) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน เมื่อเดือน มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้นำเสนอภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มาตรการสนับสนุน รวมทั้งให้ความมั่นใจเรื่องความต่อเนื่องของนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ทำให้รัฐบาลจีนเห็นชอบให้บริษัทดังกล่าวยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว โดยมีการลงทุนในเฟสแรกมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) กำลังการผลิตในระยะแรก 1 แสนคันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และตลาดอื่นๆ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยช่วงปลายปีนี้” สำนักนายกรัฐมนตรี เผย

สำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นอกจากจะมาตั้งฐานผลิตที่ประเทศไทยแล้ว บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิลยังมีแผนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งจะเป็นการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้ให้กับคนไทยอีกด้วย ซึ่งบริษัท ฉางอัน เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และเป็น 1 ใน 4 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

“การที่ บริษัท ฉางอัน ตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานการผลิต สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทย รวมถึงศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ ที่สนับสนุนการแข่งขันอันเป็นผลงานเชิงประจักษ์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเชื่อว่าจะผลักดันให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายการเป็นฮับ EV ได้ไม่ยาก ทั้งยังช่วยส่งเสริมลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ พลิกโฉมประเทศไทยตามกลยุทธ์ 3 แกนขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสำหรับอนาคต” สำนักนายกรัฐมนตรี เผย

Evergrand ยื่นล้มละลาย หลังผิดนัดชำระหนี้สูงถึง 12 ล้านลบ. เทียบเท่ากับ 2% ของ GDP จีน ส่อลุกลามทำ ศก.จีนถดถอย

Evergrand Group ยักษ์อสังหาฯ อันดับ 2 ของจีนประกาศล้มละลาย หลังผิดนัดชำระหนี้สูงถึง 12 ล้านล้านบาท เท่ากับ 2% ของ GDP จีน ส่อเกิดโดมิโน่วิกฤตอสังหาฯ ลุกลามทำเศรษฐกิจจีนถดถอย เพราะคิดเป็น 30% ของ GDP และบริษัทเหล่านี้หนี้สูงเกินกว่าจะชำระไหว

(18 ส.ค.66) Reporter Journey เผยว่า Evergrande Group บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ถูกยื่นฟ้องล้มละลายในศาลนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เนื่องจากประสบปัญหาจากการกู้ยืมอย่างหนักและผิดนัดชำระหนี้ในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจของจีน ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

Evergrande ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายในบทที่ 15 ซึ่งอนุญาตให้ศาลล้มละลายของสหรัฐเข้ามาแทรกแซงเมื่อคดีล้มละลายเกี่ยวข้องกับประเทศอื่น บทที่ 15 การล้มละลายมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างศาลสหรัฐ ลูกหนี้ และศาลของประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีล้มละลายข้ามพรมแดน

ผลกระทบจากกรณีของ Evergrande ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกมาช้านาน และคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 30% ของ GDP ของประเทศ แต่การผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande ในปี 2564 ได้ส่งคลื่นกระแทกไปยังตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน สร้างความเสียหายต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ และระบบเศรษฐกิจ การเงินโดยรวมในประเทศ

การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนเริ่มปราบปรามการกู้ยืมเงินมากเกินไปโดยนักพัฒนาเพื่อพยายามควบคุมราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น

นับตั้งแต่การล่มสลายของ Evergrande ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่หลายรายในจีน รวมถึง Kasia, Fantasia และ Shimao Group ได้ผิดนัดชำระหนี้ ล่าสุด Country Garden ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนอีกราย เตือนว่าจะ “พิจารณานำมาตรการจัดการหนี้ต่างๆ มาใช้” ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดเดาว่าบริษัทอาจเตรียมปรับโครงสร้างหนี้เนื่องจากประสบปัญหาในการระดมเงินสด

วิกฤตของภาคอสังหาฯ ของจีน กำลังส่งผลกระทบขยายตัวไปยังเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจีน โดยเฉพาะ Evergrande เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 1,300 โครงการในกว่า 280 เมือง ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทยังมีธุรกิจที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง รวมถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจดูแลสุขภาพ และธุรกิจสวนสนุก

Evergrande ประสบปัญหาในการชำระหนี้เงินกู้หลังจากผิดนัดชำระหนี้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2564 ภาระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 2.437 ล้านล้านหยวน หรือ 12 ล้านล้านบาท เมื่อสิ้นปีที่แล้ว นั่นคือประมาณ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั้งหมดของจีน

Evergrande ยังรายงานในตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนที่แล้วว่าได้สูญเสียเงินของผู้ถือหุ้น 81,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และ 2565

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดเผยแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ที่รอคอยมายาวนาน ซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ของจีน ผู้พัฒนากล่าวว่าได้บรรลุ "ข้อตกลงที่มีผลผูกพัน" กับผู้ถือหุ้นกู้ระหว่างประเทศในเงื่อนไขสำคัญของแผน

“การปรับโครงสร้างที่เสนอนี้จะช่วยบรรเทาแรงกดดันของบริษัทจากภาระหนี้นอกประเทศ และอำนวยความสะดวกในความพยายามของบริษัทในการกลับมาดำเนินการต่อและแก้ไขปัญหาบนภายใน”

ในฐานะส่วนหนึ่งของแผน Evergrande กล่าวว่า จะมุ่งเน้นไปที่การกลับมาดำเนินการตามปกติในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่จะต้องมีการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม 36,400 ล้านดอลลาร์ถึง 43,700 ล้านดอลลาร์ บริษัทยังเตือนด้วยว่ารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทมีความเสี่ยงที่จะปิดตัวลงโดยไม่มีเงินทุนใหม่

ตั้งแต่นั้นมาก็มีการระดมทุนเข้ามาบ้าง โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา NWTN บริษัทรถยนต์ในดูไบได้ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Evergrande เพื่อแลกกับสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 28%

‘หวังอี้’ เผย 'จีน' เล็งขยายความร่วมมือกับ 'ไทย' หลายด้าน เชื่อเสถียรภาพไทย แม้สถานการณ์ภายในจะมีการเปลี่ยนแปลง

(20 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.66) หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้พบปะกับดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

หวัง ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศหรือสถานการณ์ภายในประเทศของไทย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าไทยจะยังคงมีเสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน

จีนพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ กับไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สนับสนุนการเร่งสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และเส้นทางเชื่อมทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และร่วมพยายามปราบปรามกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม

นอกจากนั้น หวัง กล่าวถึงความพร้อมของจีนที่จะสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน สนับสนุนความเป็นกลางของอาเซียน และสนับสนุนความพยายามร่วมกันสร้างศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันจีนพร้อมทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเร่งการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ พยายามกำหนดกฎเกณฑ์ระดับภูมิภาคอันมีประสิทธิภาพและแก่นสารตั้งแต่ระยะแรก และสร้างทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ

หวัง ชี้ว่ากลุ่มประเทศในภูมิภาคควรป้องกันกองกำลังนอกภูมิภาคมายั่วยุการเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกและกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับสงครามเย็น ซึ่งจะบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพอันได้มาอย่างยากยิ่ง

ด้าน นายดอน กล่าวว่า ไทยยินดีเสริมสร้างการเสวนาหารือและการแลกเปลี่ยนกับจีน ส่งเสริมความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนการเชื่อมต่อทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และทำงานเพื่อการพัฒนาร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนในภูมิภาคในปัจจุบัน

'ต้มยำกุ้ง' เจิดจรัส!! งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ที่คุนหมิง หลังลูกค้าสอบถามถึงเครื่องปรุง 'ต้มยำกุ้ง' กันมากที่สุด

(20 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว เผย ณ พาวิลเลียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนหนึ่งของงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน 'จ้าวปิน' สาละวนอยู่กับการแนะนำสารพัดสินค้าเครื่องปรุงอาหารไทยแก่ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย โดยบรรดาลูกค้าสอบถามถึงเครื่องปรุง 'ต้มยำกุ้ง' กันมากที่สุด

กลุ่มผู้จัดแสดงสินค้าที่ 'พาวิลเลียนไทย' ส่วนย่อยของพาวิลเลียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พากันนำเสนอเครื่องปรุงต้มยำกุ้ง เพื่อช่วยให้คนรักอาหารไทยได้ลองลิ้มชิมรสชาติต้นตำรับได้ที่บ้าน โดยจ้าวเผยว่าเครื่องปรุงที่นำมาจำหน่ายผลิตในไทย และเขาเตรียมสินค้าสำหรับงานแสดงสินค้าฯ ในปีนี้มากถึง 18 ตัน

จ้าว ผู้บริหารบริษัท การค้านำเข้าและส่งออก บริษัท คุนหมิง สุวรรณภูมิ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับอาหารไทย เครื่องปรุง เครื่องดื่ม และอื่นๆ เผยว่าแต่ละปีบริษัทของเขาจัดจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารไทยเมนูต่างๆ สู่มณฑลอวิ๋นหนาน กุ้ยโจว และซื่อชวน (เสฉวน) คิดเป็นปริมาณมากกว่า 20 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องปรุงต้มยำกุ้ง

จ้าว เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าสินค้าไทยตั้งแต่ปี 2009 โดยตอนนั้นสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในระดับทั่วไป ยอดจำหน่ายไม่ได้หวือหวา รายการสินค้าไม่ได้มากมาย มีเพียงขนมขบเคี้ยว สบู่หอม หรือเครื่องเทศ สวนทางกับตอนนี้ที่อาหารไทยและสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับอย่างมากในจีน ทำให้มีสินค้าให้เลือกหลากหลายและยอดจำหน่ายเฟื่องฟู

อนึ่ง งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและการประสานงานเพื่อการพัฒนาร่วมกัน" ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค. มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์จากกว่า 85 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ จำนวนกว่า 30,000 ราย

สำหรับพาวิลเลียนไทยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้า 58 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 38 ราย และผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้าไทย 20 ราย ซึ่งนำเสนอสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ

รายงานระบุว่าเครื่องปรุงต้มยำกุ้งทุกรูปแบบกลายเป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายดีที่สุดในพาวิลเลียนไทย ดังเช่นชายแซ่หยางจากนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลซื่อชวน ซื้อเครื่องปรุงต้มยำกุ้งกระปุกใหญ่กลับบ้านถึง 3 กระปุก ขณะเดียวกันสินค้าอย่างเครื่องปรุงผัดไทและน้ำจิ้มสุกี้แบบไทยได้รับความสนใจจากลูกค้าเช่นกัน

อาหารไทยชื่อดังระดับโลกอย่างต้มยำกุ้งได้ส่งกลิ่นหอมขจรขจายทั่วงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ตอกย้ำวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ของอาหารไทย โดยสถิติจากเหม่ยถวนและเตี่ยนผิงระบุว่าช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กรกฎาคม) จำนวนร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนแพลตฟอร์มในจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับปี 2019

นครคุนหมิงมีร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 98 แห่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ขณะผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม เตี่ยนผิงในคุนหมิงค้นหาคำว่า "อาหารไทย" เพิ่มขึ้นร้อยละ 102 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเฉพาะความต้องการของคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 53 ของการค้นหาทั้งหมด

นอกจากนั้นความนิยมชมชอบต้มยำกุ้งยังก่อให้เกิดกระแสอาหารคาวหวานหลายเมนูที่มีรสชาติต้มยำกุ้งในจีน เช่น หม้อไฟต้มยำกุ้ง ซุปหม่าล่าต้มยำกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง รวมถึงความสนใจเมนูอื่นๆ อย่างข้าวเหนียวมะม่วง ปลานึ่งมะนาว และต้มเล้งแซ่บอีกด้วย

'จีน' ส่ง 'เกาเฟิน-12 04' ดาวเทียมสำรวจโลกดวงใหม่สู่วงโคจร ลุยภารกิจ 'สำรวจที่ดิน-วางแผนผังเมือง-รับมือภัยพิบัติ'

(21 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนได้ส่งดาวเทียมสำรวจโลกดวงใหม่ขึ้นสู่อวกาศจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

รายงานระบุว่า จรวดขนส่งลองมาร์ช-4ซี (Long March-4C) ซึ่งบรรทุกดาวเทียมเกาเฟิน-12 04 (Gaofen-12 04) ทะยานออกจากศูนย์ฯ ตอน 01.45 น. ตามเวลาปักกิ่ง และเข้าสู่วงโคจรที่กำหนดสำเร็จ

ดาวเทียมดวงนี้จะถูกใช้งานหลายด้าน อาทิ การสำรวจที่ดิน การวางผังเมือง การออกแบบโครงข่ายถนน การประเมินผลผลิตทางการเกษตร และการบรรเทาภัยพิบัติ

อนึ่ง การส่งดาวเทียมดวงนี้นับเป็นภารกิจที่ 484 ของจรวดขนส่งตระกูลลองมาร์ช

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 จีนได้ส่งดาวเทียมสำรวจโลกเกาเฟิน-12 03 (Gaofen-12 03) ขึ้นสู่อวกาศโดยจรวดขนส่งลองมาร์ช-4ซี (Long March-4C) เมื่อเวลา 23.46 น. ตามเวลาปักกิ่ง และเข้าสู่วงโคจรที่กำหนดสำเร็จไปแล้ว

'สีจิ้นผิง' เดินทางถึงแอฟริกาใต้ เข้าร่วมประชุมสุดยอด BRICS ด้าน 'ไซริล รามาโฟซา' ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ต้อนรับอย่างอบอุ่น

(22 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงนครโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ เมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS Summit) ครั้งที่ 15 และเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการ

ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ พร้อมด้วยนาเลดี แพนดอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศของแอฟริกาใต้ และโนซาซานา คลาริซ ดลามินี-ซูมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสตรี เยาวชน และคนพิการของแอฟริกาใต้ ได้ต้อนรับสีจิ้นผิงอย่างอบอุ่น ณ ท่าอากาศยานนานาชาติโออาร์ แทมโบ แห่งโจฮันเนสเบิร์ก

ประธานาธิบดีรามาโฟซาต้อนรับสีจิ้นผิงอย่างอบอุ่นสำหรับการเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการ สีจิ้นผิงกล่าวว่าเขาดีใจที่ได้เดินทางเยือนแอฟริกาใต้อีกครั้ง และหวังจะได้แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกกับรามาโฟซาในด้านการกระชับความสัมพันธ์จีน-แอฟริกาใต้ และประเด็นที่สนใจร่วมกัน

‘ลุงขับสามล้อไฟฟ้า’ ชน 'เฟอร์รารี่’ ราคา 22.5 ล้านบาท แต่คนขับใจดีให้จ่ายแค่ 950 บาท แม้ค่าซ่อมจะสูงก็ตาม

สปอร์ตและใจดี กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังเกิดเหตุลุงขับสามล้อไฟฟ้าชนรถยนต์สุดหรูสัญชาติอิตาลีอย่าง ‘เฟอร์รารี่’ (Ferrari) ซึ่งมีมูลค่าราว 4.5 ล้านหยวน (ประมาณ 22.5 ล้านบาท) ทว่าหนุ่มเจ้าของรถกลับยอมให้จ่ายแค่นี้

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.66) เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา บนถนนแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ขณะที่รถเฟอร์รารี่สีเหลืองกำลังจอดรอสัญญาณไฟจราจรอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีรถสามรถล้อไฟฟ้าขับมาขูดที่ด้านข้าง ทำให้บริเวณด้านข้างของรถและกระจกมองข้างเป็นรอยเสียหาย

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่หนุ่มแซ่กาน เจ้าของรถเฟอร์รารี่กำลังโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ลุงขับสามล้อไฟฟ้ากลับอาศัยจังหวะนั้นพยายามที่จะหลบหนี จนหนุ่มคนนี้ต้องตามไปหยุดไว้

เมื่อตำรวจมาถึงก็บอกให้ลุงขับสามล้อไฟฟ้ารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หนุ่มเจ้าของเฟอร์รารี่ก็ไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่และไม่ได้อยากใจร้ายกับลุง จึงรับคำขอโทษและขอให้ลุงจ่ายเงินชดเชยเพียง 190 หยวน (ประมาณ 950 บาท) เท่านั้น แม้ค่าซ่อมแซมรอยขีดข่วนจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 100,000 หยวน (ประมาณ 5 แสนบาท) ก็ตาม

หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างชื่นชมหนุ่มเจ้าของรถเฟอร์รารี่คนนี้ พร้อมคอมเมนต์ เช่น “นายกานใจดีมาก”, "ใจกว้างจริงๆ", "เจ้าของรถผู้ร่ำรวยและใจดี ขอให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงนะ", "เขาคงรู้และเข้าใจว่าลุงไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยได้มากกว่านี้..."และ"เห็นได้ชัดว่า นายกานไม่ต้องการเรียกร้องค่าชดเชยใดๆ จากคุณลุง เขาแค่หวังว่า คุณลุงจะได้รับบทเรียนจากการกระทำของตนเอง”

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของลุงขับสามล้อไฟฟ้า เช่น"ลุงขับสามล้อทำไมถูกต้อง", "ลุงทำผิดกฎจราจร"และ"เดี๋ยวนี้ผู้สูงอายุบางคนขับรถไม่สนใจอะไรเลย อย่าว่าแต่สัญญาณไฟจราจร บางทีแม้แต่ถนนก็ยังไม่ยอมมอง"

'ทุเรียนไทย' เนื้อหอม!! เฉิดฉายในงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 เบิกทางผู้ประกอบการไทย พาสินค้าสยามสู่ชาวจีนตอนใต้มากขึ้น

(22 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัว เผยว่า 'ทุเรียน' ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากประชาชนในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะกับ 'ทุเรียนไทย' ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชาวจีน และรวมถึงฝูงชนที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

เฉินเจี๋ย ผู้จัดแสดงสินค้าทุเรียนอบแห้งจากไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าสู่จีนในปัจจุบันนั้นปลอดภาษี ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของการทำธุรกิจในตลาดจีนอย่างมาก ขณะกลุ่มประเทศหุ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนยังช่วยมอบโอกาสทางธุรกิจอันดี

ผลิตภัณฑ์ของเฉินสามารถเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็วผ่านทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งตอนนี้ขยับขยายเส้นทางการเดินรถถึงจังหวัดจันทบุรี ไม่ไกลจากสวนทุเรียนที่เขาร่วมมืออยู่ด้วย ทำให้ขนส่งผลิตภัณฑ์สดใหม่สู่ผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ 'ทุเรียน' เปรียบเป็นนามบัตรใบสำคัญของไทย ท่ามกลางการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เฟื่องฟูยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มบริษัททุเรียนไทยคาดหวังส่งออกผลิตภัณฑ์สู่จีนเพิ่มขึ้น

งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 ในนครคุนหมิง จึงเป็นโอกาสใหม่แก่จีนและกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังเช่น บริษัท จันทบุรี ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด ที่ปีนี้ส่งออกผลไม้แปรรูปสู่จีน 12 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในแง่ปริมาณ และร้อยละ 30 ในแง่มูลค่า เมื่อเทียบปีต่อปี

"งานแสดงสินค้าฯ ในคุนหมิงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคชาวจีนตอนใต้" วิชญะ พฤกษากิจ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ กล่าวทิ้งท้าย

‘BRICS’ รับสมาชิกใหม่ 6 ชาติ มี ‘ซาอุฯ-อิหร่าน’ ร่วมแจมด้วย หวังเปลี่ยนระเบียบโลก-ขึ้นแท่นมหาอำนาจใหม่ สู้โลกตะวันตก

(25 ส.ค. 66) บริกส์ (BRICS) กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เห็นพ้องกันในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) อ้าแขนต้อนรับ ซาอุดีอาระเบีย, อิหร่าน, เอธิโอเปีย, อียิปต์, อาร์เจนตินา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าเป็นรัฐสมาชิก ความเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายเร่งรัด ความพยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ที่พวกเขามองว่าเก่าเก็บล้าสมัยไปแล้ว

ในการตัดสินใจขยายขอบเขตของกลุ่ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี บรรดาพวกผู้นำบริกส์ยังได้เปิดประตูสำหรับการรับสมาชิกใหม่เพิ่มเติมในอนาคต ในขณะที่ยังมีอีกหลายสิบประเทศที่ส่งเสียงแสดงความสนใจเข้าร่วมกลุ่ม ที่พวกเขาหวังว่าจะสามารถทำให้เกิดการแข่งขันกันในระดับโลกอย่างเป็นธรรมกับผู้เล่นทุกราย

การขยายขอบเขตเศรษฐกิจเพิ่มเติมเข้าสู่ BRICS ซึ่งปัจจุบันชาติสมาชิกประกอบด้วย จีน ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก บราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ ยังเป็นการยกระดับความทะเยอทะยานอย่างเปิดเผย ของทางกลุ่มในการก้าวเป็นแชมป์เปี้ยนแห่งโลกใต้

“นี่คือการขยายจำนวนสมาชิกครั้งประวัติศาสตร์” สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าว “มันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบรรดาประเทศกลุ่มบริกส์ สำหรับความเป็นหนึ่งเดียวกันและความร่วมไม้ร่วมมือ กับบรรดาชาติกำลังพัฒนาในวงกว้าง”

6 ชาติว่าที่สมาชิกใหม่จะกลายมาเป็นรัฐสมาชิกกลุ่มบริกส์อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2024 จากการเปิดเผยของ ‘ซีริล รามาโฟซา’ ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ครั้งที่เขาเปิดเผยชื่อประเทศเหล่านี้ ระหว่างการประซัมมิตผู้นำกลุ่มบริกส์เป็นเวลา 3 วัน ที่เขาเป็นเจ้าภาพในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก

“บริกส์ได้เริ่มต้นปฐมบทใหม่ในความพยายามสร้างโลกที่ยุติธรรม โลกที่อยู่ร่วมกันและเต็มไปด้วยความรุ่งเรือง” รามาโฟซากล่าว “เรามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในขั้นแรกของกระบวนการขยายรับสมาชิก และขั้นอื่นๆ จะตามมาหลังจากนี้”

การเชิญประเทศต่างๆ เข้ากลุ่ม สะท้อนถึงความปรารถนาของรัฐสมาชิกกลุ่มบริกส์แต่ละชาติ ที่ต้องการดึงพันธมิตรของตนเองเข้าร่วมกลุ่ม

‘ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา’ ประธานาธิบดีบราซิล ล็อบบี้ให้นับรวมอาร์เจนตินา ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนอียิปต์นั้นมีความใกล้ชิดทางการค้ากับรัสเซียและอินเดีย

ขณะเดียวกัน การเข้าร่วมของมหาอำนาจทางน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เน้นย้ำว่าพวกเขากำลังปลีกตัวออกจากวงโคจรของสหรัฐฯ และมีความทะเยอทะยานก้าวมาเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก ด้วยสิทธิของตนเอง

รัสเซียและอิหร่าน มีเหตุผลร่วมกันในการดิ้นรนต่อสู้กับมาตรการคว่ำบาตร และการโดดเดี่ยวทางการทูตที่นำโดยสหรัฐฯ ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ชาติมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามหลังมอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครน

“บริกส์ไม่ได้แข่งขันกับใคร” จากคำกล่าวในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเข้าร่วมประชุมแบบทางไกล สืบเนื่องจากหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ตามข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม “แต่ชัดเจนว่า กระบวนการนี้ของการปรากฏขึ้นมาของระเบียบโลกใหม่ ยังคงถูกต่อต้านอย่างดุเดือด”

จีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอธิโอเปีย และการเข้าร่วมของประเทศแห่งนี้ยังเป็นการดำเนินการตามความปรารถนาของแอฟริกาใต้ ที่ประสงค์เห็นแอฟริกามีสิทธิ์มีเสียงมากยิ่งขึ้นในกิจการต่างๆ ของโลก

ด้วย ‘อันโตนิโอ กูเตอร์เรส’ เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เข้าร่วมในการแถลงข่าวขยายจำนวนสมาชิกกลุ่มบริกส์ด้วยในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) มันสะท้อนอิทธิพลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของกลุ่มนี้ ในขณะที่กูเตอร์เรส ส่งเสียงเห็นด้วยกับเสียงเรียกร้องมาช้านานของกลุ่มบริกส์ ที่อยากให้มีการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก

เหล่าสมาชิกกลุ่มบริกส์ มีเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างมากในแง่ของขนาด และบ่อยครั้งรัฐบาลของพวกเขามีเป้าหมายในนโยบายต่างประเทศแตกต่างกัน เหล่านี้เป็นปัจจัยแทรกซ้อนต่อโมเดลการตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ของทางกลุ่ม

บริกส์ มีประชากรรวมกันคิดเป็น 40% ของประชากรโลก และมีเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของจีดีพีโลก อย่างไรก็ตาม ความแตกแยกภายในเป็นอุปสรรคขัดขวางความทะเยอทะยานของบริกส์มาช้านาน ที่ต้องการกลายมาเป็นผู้เล่นหลักในเวทีโลก

ยกตัวอย่างเช่น กรณีสมาชิกของกลุ่มเน้นย้ำความปรารถนาปลีกตัวเองออกจากดอลลาร์สหรัฐ แต่มันไม่เคยเป็นรูปธรรม ในขณะที่ ‘ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่’ (New Development Bank) ความสำเร็จที่เป็นรูปเป็นร่างที่สุดของพวกเขา เวลานี้กำลังประสบปัญหาในยามที่รัสเซีย ผู้ร่วมก่อตั้งกำลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตร

ประธานาธิบดีบราซิล ปฏิเสธความคิดที่ว่าทางกลุ่มกำลังหาทางเป็นคู่ขัดแย้งกับสหรัฐฯ และกลุ่ม 7 ชาติเศรษฐกิจชั้นนำของโลก (จี7) แต่ระหว่างออกเดินทางจากแอฟริกาใต้ในวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) เขาไม่เห็นจะมีประเด็นโต้เถียงใดๆ ในการดึงอิหร่าน คู่ปรับเก่าแก่ของสหรัฐฯ เข้าเป็นรัฐสมาชิก “เราไม่อาจปฏิเสธความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่านและประเทศอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องบุคคลที่บริหาร แต่มันอยู่ที่ความสำคัญของประเทศนั้นๆ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top