Sunday, 15 June 2025
SPECIAL

ขอนแก่น – ชวนเที่ยวงานแสดงผ้าไหม OTOP มัดหมี่ - เบียนนาเล่ - ถักทอเส้นใยอีสานสู่สายใยโลก! Craft the world ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ  กำหนดจัดงานแสดงและจำหน่ายผ้าไหม OTOP  : มัดหมี่ เบียนนาเล่ 2021 Mudmee Biennale 2021 ถักทอเส้นใยอีสาน สู่สายใยโลก Craft the world  ในระหว่างวันที่ 23– 25 กันยายน 2564 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้น 2 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ การจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ระดับพรีเมี่ยม ของจังหวัดขอนแก่น กว่า 30  คูหา, การแสดงแฟชั่นโชว์ การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมการขาย, การจัดแสดงโชว์ผลงาน การประกวดผ้าไหม และผ้าไหมมัดหมี่ของจังหวัดขอนแก่น,  กิจกรรมเสวนาวิชาการ :การพัฒนาส่งเสริมผ้าไหม เพื่อการส่งออก สู่ตลาดโลก เป็นต้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้จัดให้มีการประกวดผ้าไหมในงานจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากไหมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การขับเคลื่อนเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่สู่สากล เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกาย สิ่งทอ และการอนุรักษ์ผ้าไทยให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ และเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ ปลุกกระแสเทรนด์ผ้าไหมให้ทันสมัย พร้อมดึงรายได้เข้าสู่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการเชิดชูเกียรติแก่ผู้สืบทอดภูมิปัญญาผ้าไหม โดยมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดขอนแก่น ส่งผ้าไหมมัดหมี่ เข้าประกวดทั้งหมด จำนวน 135 ผืน แยกตามประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 ผ้าไหมมัดหมี่แบบ 2 ตะกอหรือ 3 ตะกอ จำนวน 74 ผืน ประเภทที่ 2 ผ้าไหมมัดหมี่ลายประจำจังหวัด “แคนแก่นคูน” จำนวน 29 ผืน และประเภทที่ 3 ผ้าไหมมัดหมี่ลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” จำนวน 32 ผืน

"จากการประกวดฯ ส่งผลทำให้ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมจังหวัดขอนแก่น มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการผลิตผ้าไหม ให้มีขนาด สัดส่วน สีสัน ลวดลาย ที่เหมาะสมสวยงาม และตอบสนองประโยชน์การใช้สอยให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาด เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันตลอดจนมีการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การขับเคลื่อนเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่สู่สากล ตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป"

 

อยุธยา - “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่กรุงเก่า ตรวจความพร้อมพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำหลาก มั่นใจไม่เกิดมหาอุทกภัยซ้ำรอยปี 54 แน่นอน! พร้อมเร่ง 9 แผนหลักบรรเทาอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา

วันนี้ (22 กันยายน 2564) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของการบริหารจัดการน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยมี นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการน้ำรับน้ำหลากตามมาตรการ กอนช. และแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบในลุ่มน้ำเจ้าพระยา นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอแนวทางการจัดการและเตรียมพื้นที่รับน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ และนายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ที่ในขณะนี้มีปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น   ซึ่งกรมชลประทานได้เพิ่มอัตราการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 1,481 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายเขื่อนบางแห่งที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ  คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อยที่ ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีราษฎรประมาณ 602 ครัวเรือน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์น้ำท่วมเช่นนี้เป็นเรื่องปกติที่ชาวบ้านในพื้นที่รับรู้ว่าจะเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่ง กอนช. ได้ให้กรมชลประทานเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังยังจุดเสี่ยงล่วงหน้า พร้อมทั้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับความพร้อมของพื้นที่ลุ่มต่ำสำหรับรับน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดในพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นด่านหน้าก่อนมวลน้ำจะไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงรับน้ำหลากและเตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม และให้จังหวัดร่วมบูรณาการกับกรมชลประทานพิจารณาความเหมาะการรับน้ำหลากเข้าทุ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างทั้ง 10 แห่ง    

โดยกำหนดให้ดำเนินการหลังวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ประกอบด้วย ทุ่งเชียงราก ทุ่งท่าวุ้ง  ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท–ป่าสัก ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งบางบาล-บ้านแพน ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด และทุ่งโครงการฯ โพธิ์พระยา รวมทั้งให้ปรับลดการระบายน้ำจากแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก พร้อมทั้งวางแผนเก็บน้ำสํารองทุกแหล่งทั้งผิวดินและใต้ดิน ไว้รองรับในช่วงฤดูแล้งหน้า

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกรมชลประทานเร่งดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ซึ่งเป็น 1 ใน 9 แผนหลักของการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายในปี 2566 ขณะเดียวกัน จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้และรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้การยอมรับและเกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนแผนงานด้านน้ำระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาด้านน้ำในพื้นที่ได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนด้วย

ด้าน นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ณ 20 ก.ย.64) มีปริมาณน้ำรวม 10,475 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 42 ของปริมาณความจุ หากเปรียบกับปริมาณน้ำในปี 2554 เกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ยังมีปริมาณน้ำน้อยกว่ามาก  ในครั้งนั้นปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักทั้ง 4 แห่ง รวมกันมากกว่า 22,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจากสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ผนวกกับการบูรณาการวางแผนบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ “กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ” ที่ได้กำหนด 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2564 พร้อมเตรียมแผนปฏิบัติการรับมืออย่างเข้มงวด ตลอดจนการวางแผนใช้พื้นที่ลุ่มต่ำในทุ่งเจ้าพระยารวมกับทุ่งบางระกำ เป็นพื้นที่รับน้ำหลาก ซึ่งในปีนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนในปี 2554 อย่างแน่นอน

 

ปทุมธานี - ศธ.จับมือ สพฐ. มรภ.วไลยอลงกรณ์ ประกาศเดินหน้าพลิกโฉมสร้างนวัตกรรมครูสู่นวัตกรรมนักเรียน จาก Passive Learning สู่ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ณ หอประชุมคุรุสภา กรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาได้จัดให้มีการประชุมทางวิชาการประกาศนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง “ประกาศเดินหน้าพลิกโฉมสร้างนวัตกรรมครูสู๋นวัตกรรมนักเรียน ก้าวข้ามสภาวะวิกฤต Covid -19 แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps” ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นผลสำเร็จของการดำเนินการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ โดยจัดให้มีการพัฒนาครูให้สามารถจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการพัฒนาการคิดขั้นสูงเชิงระบบที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมผ่านการ Coaching ของผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโรงเรียนต้นแบบภาคเหนือจำนวน 10 จังหวัด รวม 30 โรงเรียน จำแนกเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก 10 โรงเรียน โรงเรียนขนาดกลาง 10 โรงเรียน และโรงเรียนขนาดใหญ่ 10 โรงเรียน ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เกิดผลงานจากการปฏิบัติเป็นนวัตกรรมครูสู๋นวัตกรรมของนักเรียนจำนวนมากกว่า 1,500 นวัตกรรม และหวังให้เกิดคลื่นการพัฒนาการจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal อย่างกว้างขวางต่อไป

ในการนี้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความชื่นชมยินดีถึงผลสำเร็จของความพยายามในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติครั้งนี้ ที่มีความชัดเจนสะท้อนให้เห็นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ตอบสนองเจตนารมณ์ของมรัฐธรรมนูญ มาตรา 54, มาตรา 258 จ.(4) และนโยบายของรัฐบาลตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดให้ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความถนัดของผู้เรียนรายบุคคลตามหลักการพหุปัญญา และเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องขับเคลื่อนมากขึ้นกว่าเดิมโดยต้องเร่งดำเนินการให้เต็มกำลัง เพื่อให้เกิดผลจริงตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ ทรายแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่า ในการที่เราจะปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนที่จะจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning นั้น ครูจะต้องปรับบทบาทของตนเอง ในยุคปัจจุบัน ครูจะต้องมีบทบาทหน้าที่หลายอย่าง ครูต้องทำหน้าที่ Coaching ได้ ครูต้องเป็นต้นแบบเป็นตัวอย่าง ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ให้มากขึ้นยิ่งในยุค New Normal เช่น ครูจะต้องทำสื่อต่าง ๆ ขึ้นเองได้ เช่น vdo clip สื่อการเรียนการสอนให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้เรียนได้มากยิ่งขึ้น

ชลบุรี - สโมสรโรตารี่ ร่วมอำเภอสัตหีบ ข้ามทะเลปลูกป่าเกาะพระสร้างความสมดุลให้ธรรมชาติ

วันนี้ (22 ก.ย.64) สโมสรโรตารี่ อีคลับ ดอลฟิน พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล โดย นายกชนัญดา กองพล นำคณะสโมสรโรตารี่ฯ เดินทางลงเรือที่ท่าเรือแหลมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  ข้ามทะเลไปที่เกาะพระ เพื่อทำกิจกรรมปลูกป่าโกงกาง ซึ่งเป็นโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเป็นหนึ่งในโครงการที่สโมสรโรตารี่ฯ ให้ความสำคัญ สโมสรโรตารี่ อีคลับ ดอลฟิน พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล จึงได้ร่วมกับสโมสรโรตารี อิสเทิร์นซีบอร์ด มาร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าโกงกางในครั้งนี้  และในวันนี้ได้รับเกียติจาก นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ และสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมปลูกป่าโกงกางที่เกาะพระแห่งนี้ด้วย

นายกชนัญดา กองพล กล่าวว่า กิจกรรมปลูกป่าโกงกางในครั้งนี้ ซึ่งเป็นโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเป็นหนึ่งในโครงการที่สโมสรโรฯ ให้ความสำคัญ สโมสรโรตารี่ อีคลับ ดอลฟิน พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล จึงได้ร่วมกับสโมสรโรตารี อิสเทิร์นซีบอร์ด มาร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าโกงกางในครั้งนี้  ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกับชายฝั่งทะเลซึ่งจะเป็นการป้องกันการกัดเซาะของกระแสน้ำทะเล และยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ อีกด้วย

 

 

ลำปาง - มทบ.32 ร่วมแสดงความยินดีกับท่าน ผจว.ลำปาง ในโอกาสไปรับตำแหน่งที่ จ.ปทุมธานี

ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น เพื่อเป็นการแสดงความยินดีและแสดงความผูกพันที่ได้รับความเมตตาและสนับสนุน/อนุเคราะห์ทั้งให้ความร่วมมืออย่างดีจากท่านณรงค์ศักดิ์ฯในห้วงเวลาที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. พลตรีอโณทัย  ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้นำคณะผู้บังคับบัญชาและหัวหน้ากองฝ่ายอำนวยการของหน่วย เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและขอบพระคุณท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์หน่วยเป็นอย่างดีในห้วงเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งท่านได้รับโปรดเกล้าฯ ไปดำรงแหน่งในพื้นที่อื่นต่อไป ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

ชลบุรี - ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบรางวัลเรือพร้อมรบสูงสุด และรางวัลบุคคลดีเด่นของกองเรือยุทธการ ประจำปีงบประมาณ 2564

วันที่ 20 ก.ย.64 พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการมอบรางวัลการแข่งขันเรือพร้อมรบสูงสุดของเรือในกองเรือยุทธการ และรางวัลบุคคลดีเด่น ของกองเรือยุทธการ ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงของกองเรือยุทธการร่วมในพิธี และร่วมแสดงความยินดี ณ ลานหน้ากองบัญชาการ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การแข่งขันเรือพร้อมรบสูงสุดประจำปีของกองเรือยุทธการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เรือในกองเรือยุทธการเกิดความตื่นตัวในการแข่งขัน เกิดการเตรียมความพร้อมของเรือในการปฏิบัติราชการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ทั้งด้านองค์บุคคล , องค์วัตถุ , องค์ยุทธวิธี ตลอดจนการสุขาภิบาลในเรือ โดยเรือที่ได้รับรางวัลแบ่งตามกลุ่ม ดังนี้

ประเภทเรือพร้อมรบสูงสุด กลุ่มเรือชั้น 1

          - ลำดับที่ 1 ได้แก่ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช

          - ลำดับที่ 2 ได้แก่ ร.ล.ตากสิน

          - ลำดับที่ 3 ได้แก่ ร.ล.นเรศวร

             ประเภทเรือพร้อมรบสูงสุด กลุ่มเรือชั้น 2 และชั้น 3

          - ลำดับที่ 1 ได้แก่ ร.ล.สงขลา

          - ลำดับที่ 2 ได้แก่ ร.ล.หนองสาหร่าย

ประเภทเรือเตรียมความพร้อมรบสูงสุด

          - ลำดับที่ 1 ได้แก่ ร.ล.สุโขทัย

          - ลำดับที่ 2 ได้แก่ ร.ล.สายบุรี

          - ลำดับที่ 3 ได้แก่ เรือ ต.115

สำหรับรางวัลบุคคลดีเด่นของกองเรือยุทธการมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกกำลังพลที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ และมีผลงานปรากฏเด่นชัดเป็นที่ประจักษ์ และเป็นประโยชน์ต่อกองเรือยุทธการ โดยมีกำลังพลที่ได้รับรางวัลแบ่งตามประเภท ดังนี้

ประเภทนายทหารสัญญาบัตร ได้แก่

          1. น.อ.เกรียงไกร  เพชรประไพ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบสภาพยุทโธปกรณ์ กองบัญชาการ กองเรือยุทธการ

          2. น.ท.นาวี  เหลืองพยุง หัวหน้าแผนกการรบผิวน้ำ กองฝึกปฏิบัติการทางเรือ กองการฝึกกองเรือยุทธการ

          3. น.ท.ศราวุธ  ทองยิ่ง หัวหน้าแผนกวิชาสามัญ กองฝึกเดินเรือ และการเรือ กองการฝึกกองเรือยุทธการ

          4. ว่าที่ น.ต.กุลวิณ  สุคนธมาน นายทหารยุทธการ แผนกยุทธการและสื่อสาร ร.ล.สายบุรี กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ

 

สุรินทร์ - ผบ.กกล.สุรนารี ตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ปราชญ์ชาวบ้าน หลังรับพ่อแม่พันธุ์ปลานิลจิตรลดา และเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน จากโครงการทหารพันธุ์ดี สู่ประชาชน ในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง

วันที่ 20 กันยายน 2564 พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย พันโทพงษ์พัฒน์  เตือนขุนทด  ผบ.ร.23 พัน.3 และเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ปราชญ์ชาวบ้านของ นางกุหลาบ พรมเดื่อ สมาชิกโครงการทหารพันธุ์ดี ศูนย์ผลิตพันธุ์ปลาน้ำจืด “พระราชทาน” เพื่อนช่วยเพื่อน พื้นที่อีสานใต้ ที่ได้รับพ่อแม่พันธุ์ปลานิลจิตรลดา และเมล็ดพันธุ์พืช พระราชทาน นำมาเพาะเลี้ยงด้วยวิธีการพื้นบ้านจนประสบผลสำเร็จ จนสามารถส่งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ปลา ต่อให้กับชาวบ้าน ในหมู่บ้านที่มีความสนใจ นำไปขยายผลต่อไปได้อีก เป็นจำนวนมาก

จากนั้นพลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีได้มอบ พ่อแม่พันธุ์ปลานิลจิตรลดาให้แก่นายทองม้วน ลาขุมเหล็ก และ นายวสันต์ แก้วมณี ชาวบ้านเขื่อนแก้ว ตำบลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ตกงานจากสถานการณ์โควิด และกลับมาอยู่ที่บ้าน และต้องการเลี้ยงปลาเพื่อเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าว่า นี้เป็นครั้งแรก ที่ชาวบ้านสามารถเพาะขยายพันธุ์ปลาเองได้ และแบ่งปันพ่อแม่พันธุ์ปลาให้กับผู้ที่มีความสนใจได้ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ที่ต้องการให้เกิดการแบ่งปัน และกระจายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านอาหารลด รายจ่าย ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 

 

ชลบุรี - เมืองพัทยา ออกหน่วยเชิงรุกต่อเนื่อง เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน จำนวน 1,400 โดส

วันที่ 21 ก.ย.64 ที่โรงเรียนเมืองพัทยา 2 นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายวรพต พงษ์พาลี ผู้ช่วยเลขานุการ และคณะทำงาน เจ้าหน้าที่งานสาธารณสุขเมืองพัทยา แพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่ อสม.ได้ร่วมกันออกหน่วยเชิงรุก ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และประชากรแฝงจำนวน 1,400 โดส

โดยรองนายกเมืองพัทยา ได้กล่าวว่า การลงพื้นที่ฉีควัคซีนในวันนี้ เป็นสูตรฉีดวัคซีนไขว้ ซึ่งเข็มแรกจะเป็นซิโนแวค และเข็มต่อไปจะเป็นวัคซีนเเอสตร้าเซเนก้า เป็นการเก็บตกสำหรับผู้ที่รอวัคซีนทางเลือกและยังไม่ได้ฉีด เพื่อเตรียมความพร้อมหากจะต้องมีการเปิดเมือง 1 ตุลาคมนี้ และในวันพรุ่งนี้ ก็จะมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างต่อเนื่อง

 

สุโขทัย - ผู้ว่าฯสุโขทัย เร่งแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อน หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วม ถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร การสัญจรไม่สะดวก-เลี่ยงเดินทาง

ด้วยในพื้นที่สุโขทัยวันนี้ (21 ก.ย.) มีฝนตกฟ้าคะนองร้อยละ 80ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง เช่นที่อำเภอคีรีมาศ มีปริมาณน้ำตกในพื้นที่ถึง 107.2มม.ประกอบกับมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนนหลายสาย โดยเฉพาะที่ถนนสาย 101 สุโขทัย-กำแพงเพชร ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างขยายถนน มีน้ำท่วมขังบริเวณ ม.3 ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ ระยะทางประมาณ 500 ม. เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้สัญจรได้ใช้ทางเลี่ยงเข้าไปในหมู่บ้านเป็นการชั่วคราวและใช้รถแบ๊กโฮเปิดทางน้ำให้เพื่อให้น้ำไหลผ่านถนนได้

โดยนายวิรุฬ  พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายชูศักดิ์  คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัยเขต 2 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย

ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัยได้รายงานจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัย ส่งผลให้เกิดมีน้ำฝนสะสมในพื้นที่มีปริมาณมาก ประกอบกับอ่างเก็บน้ำแม่รำพัน อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย และอ่างเก็บน้ำแม่มอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง มีปริมาณน้ำเกินระบบเก็บกักไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้น ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมไหลเข้าสู่บ้านเรือนราษฎร

 

สงขลา – ‘นิพนธ์’ เปิดกิจกรรม "บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) จุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน" ร่วมเป็นต้นแบบการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า สนับสนุนการใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 กันยายน 2564 ที่อาคารอเนกประสงค์ การประปานครหลวง สํานักงานใหญ่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรม บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) จุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบวิถีใหม่ ปี 4 “บวร Online” โดยมี นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์  ที่ปรึกรมช.มท. นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ กรรมการ กปน. และ นายกวี  อารีกุล ผู้ว่าการ กปน. คณะผู้บริหาร กปน. และคณะผู้แทนหน่วยงานต้นแบบทางสังคม เข้าร่วมกิจกรรม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า กิจกรรม บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) จุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบวิถีใหม่ ปี 4 "บวร Online" เป็นโครงการที่การประปานครหลวงจัดขึ้น เพื่อประสานความร่วมมือของ หน่วยงานที่มีบทบาทสําคัญทางสังคม ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน และในปีนี้ ได้ขยายผลไปยัง กลุ่มเป้าหมายอสังหาริมทรัพย์ เช่นคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ในเขตพื้นที่ให้บริการทั้ง 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการประหยัดน้ํา ทั้งวิธีประหยัดน้ำในชีวิตประจําวัน การดูแลอุปกรณ์ใช้น้ำ การตรวจหาท่อแตกรั่วภายในอาคารที่พักอาศัย ประโยชน์ของการใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำที่ได้รับการรับรองฉลากประหยัดน้ำของการประปานครหลวง อันจะนําไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในชีวิตประจําวันช่วยลดการ สูญเสียน้ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาสังคม และช่วยให้พี่น้องประชาชนมีน้ำใช้อย่างยั่งยืน

 

สุโขทัย - เทศบาลศรีสัชสุโขทัย สืบสานทำบุญในวันธรรมสวนะ วัดเชิงคีรี ตามโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา

วันที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 08.00 น. นายสมศักดิ์ พุ่มชื่น นายกเทศมนตรีเมืองศรีสัชนาลัย พร้อมด้วย นายชยุต บัวมั่น ปลัดเทศบาล กองคลัง กองการศึกษา และกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แก่วัดเชิงคีรี ตามโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทำบุญในวันธรรมสวนะ ประจำปี 2564 ที่ดำเนินการต่อเนื่องทุกปี เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนสืบเนื่องคู่เมืองศรีสัชนาลัยต่อไป


สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

พิจิตร - 'สส.ภูดิทฯ' พรรคพลังประชารัฐ มอบถุงปันน้ำใจช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอดงเจริญ

ณ วัดห้วยพุก ตำบลห้วยพุก อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร  สส.ภูดิท อินสุวรรณ์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จังหวัดพิจิตร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงาน ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบนำถุงปันน้ำใจมอบให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าบ้านเรือน ในชุมชนตำบลห้วยพุก อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร กว่า 200 หลังคาเรือน โดยมีนายสิทธิพันธ์ บุตรศรี นายอำเภอดงเจริญ นายอัครชัย น้อยจันทร์ กำนันตำบลห้วยพุก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำในพื้นที่ร่วมกันมอบถุงปันน้ำใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

กาฬสินธุ์ – เทศบาลร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน อสม. ลงขันสร้างบ้าน มอบบ้านผู้หายป่วยโควิด-19

เทศบาลตำบลเขาพระนอน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน อสม. ร่วมบริจาคเงินสด สิ่งของ วัสดุอุปกรณ์ สำหรับสร้างบ้านให้ครอบครัวผู้หายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 และฐานะยากจน ซึ่งรักษาหายดีแล้ว ไม่มีที่อยู่อาศัย ก่อนนำเครื่องอุปโภค บริโภค มอบให้เป็นทุนเริ่มต้นชีวิตใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความปลาบปลื้มปิติ

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ที่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 8 บ้านนากุงใต้ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด เป็นประธานพิธีมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ โดยมีนายดนุพงษ์  ภูตรี นายกเทศมนตรีตำบลเขาพระนอน นายวัฒนา  แสนตรี กำนันตำบลเขาพระนอน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน อสม. ร่วมพิธี  ทุกคนที่ร่วมพิธีต่างปฏิบัติป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งคัด ทั้งจำกัดจำนวนคน ตรวจวัดอุณหภูมิ รักษาระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย 100% 

นายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่เทศบาลตำบลเขาพระนอน ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน อสม.ได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับครัวเรือนผู้ยากไร้ โดยเฉพาะครอบครัวผู้หายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้น เป็นการช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทรให้แก่กันและกัน ตามแนวทางโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน โดยสร้างบ้านได้อยู่อาศัย และสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ยากไร้ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ด้านนายวัฒนา แสนตรี กำนันตำบลเขาพระนอน กล่าวว่า บ้านที่ทำพิธีมอบในวันนี้เป็นครอบครัวของนายถวัลย์ สมคะเน อายุ 60 ปี และสมาชิกในครอบครัวรวม 6 คน เดิมไปทำงานในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงและติดเชื้อโควิด-19 จึงขอเดินทางกลับรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามสวนธรรมโชติปัญญาราม เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 จนกระทั่งหายดี แต่ครอบครัวนายถวัลย์ ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงได้ประสานกับเทศบาลตำบลเขาพระนอน และผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านใน ต.เขาพระนอน หาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวนี้

ขณะที่นายนายดนุพงษ์  ภูตรี นายกเทศมนตรีตำบลเขาพระนอนกล่าวว่า ทั้งนี้ ได้ร่วมกับพระครูปริยัติธรรมนุโยค เจ้าอาวาสวัดวารีราษฎร์หนองกุง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพุทธรักษา พร้อมชาวบ้าน อสม.มีมติร่วมแรงร่วมใจกันบริจาคเงินก่อสร้างบ้านให้ครอบครัวนายถวัลย์ ซึ่งใช้พื้นที่ของญาตินายถวัลย์ โดยเป็นบ้านชั้นเดียว พร้อมติดตั้งระบบสาธารณูปโภคทั้งระปา ไฟฟ้า รวมยอดบริจาค 35,000 บาท เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 กำหนดทำพิธีมอบบ้านในวันนี้

 

กรุงเทพฯ - วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต แจกถุงยังชีพให้กับ วินมอเตอร์ไซด์พื้นที่ท่าแร้ง เขตบางเขน จำนวน 1,500 ชุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนรามอินทรา ซอยวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สืบสานต่อยอดบูรพาจารย์ ผู้ก่อตั้งวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต หลวงพ่อใหญ่ พระครูภาวนาภิธาน วิ. แจกถุงยังชีพให้กับ วินมอเตอร์ไซด์พื้นที่ท่าแร้ง เขตบางเขน จำนวน 1,500 ชุด ซึ่งมีพระครูใบฎีกาสันติ กิตฺติโสภโน ผู้สนองงานเจ้าอาวาสฝ่ายเผยแพร่พระพุทธศาสนา  พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ และชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกันจัดโรงทานวัดห่วงใย วินมอเตอร์ไซด์ สายใยศรัทธา เพื่อปวงประชาเป็นสุข 

เนื่องในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ การดำเนินชีวิตประจำวัน และฐานะทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความยากลำบากในหมู่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือตกอยู่ในภาวะที่ต้องปรับรูปแบบการดำรงชีวิตอย่างกะทันหัน และส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนจำนวนมาก ทั้งทางตรง และทางอ้อม เนื่องจากหลายธุรกิจจำเป็นต้องหยุด ต้องปิด ไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ  ทางวัดและประชาชนที่มีจิตศรัทธา ร่วมกันแจกถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย ยารักษาทั่วไป  และบทสวดมนต์ ให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาส และยังสามารถดำรงชีพต่อไปได้ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบุญได้ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต


ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย รายงาน

สืบสวน ตม.1 จับหนุ่มแดนโสม Overstay ‘หนีคดีแฝงตัวหลอกสาวไทย กว่า 20 ราย’ มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิงสาวผู้เสียหายชาวไทย ว่าได้ถูกชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง หลอกลวงเอาทรัพย์สินแล้วหลบหนีหายไป โดยคาดว่าน่าจะได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเอาทรัพย์สินในลักษณะเช่นเดียวกัน กว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายและสืบสวนจนทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือนายคิม อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหายโดยเฉพาะหญิงชาวไทย ผ่านทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ โดยจะทำการตีสนิทจนเหยื่อตายใจและหลงเชื่อ และจะให้เหยื่อโอนเงินให้โดยผ่านบัญชีคนไทย ซึ่งทำกับเหยื่อซึ่งเป็นหญิงชาวไทยจำนวนกว่า 20 ราย นอกจากนี้

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top