Sunday, 15 June 2025
SPECIAL

รวบหนุ่มแสบ!! ตุ๋นเจ้าของโรงแรมดัง หลอกช่วยขายกิจการ เซ่นพิษโควิด-19 สูญเงินกว่า 33 ล้านบาท!!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม

ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชาติชาย ตันติวุฒิวร ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปชก.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา คือ

นายธีรเสฏฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”

พฤติการณ์ คือ ผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ได้ประกาศขายกิจการโรงแรม 3 แห่ง เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนด้านการเงินอย่างหนักในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อมา ได้มีนายหน้าติดต่อสอบถามเรื่องการซื้อขายกิจการโรงแรมกับผู้เสียหายและแนะนำให้รู้จักกับบุคคล  ใช้ชื่อ “ไบรอั้น” (ทราบชื่อภายหลัง คือ นายธีรเสฏฐ์ ผู้ต้องหา) โดยนายไบรอั้นอ้างว่าเป็นเลขาของนายทุนจาก ประเทศสิงคโปร์ สนใจจะซื้อกิจการโรงแรม 3 แห่ง ซึ่งผู้เสียหายได้พูดคุยกับนายไบรอั้นเรื่อยมาจนมีความสนิทสนมเชื่อใจ ต่อมา นายธีรเสฏฐ์ หรือไบรอั้น ได้ปลอมเป็นนายทุนชาวสิงคโปร์ ใช้ชื่อ MR.JANG (นายจาง) โทรศัพท์ติดต่อขอซื้อกิจการโรงแรมจากผู้เสียหายทั้งสิ้นกว่า 4.3 พันล้านบาท แต่เมื่อใกล้ถึงกำหนดการทำสัญญาซื้อขายนายธีรเสฏฐ์ฯ แจ้งว่าเงินสดจำนวนกว่า 6 พันล้านบาท ที่จะนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ติดปัญหาเรื่องภาษีอยู่ที่กรมสรรพากรทำให้ยังไม่สามารถนำเงินออกมาได้

โดยมีการแอบอ้างว่าเพื่อให้ธุรกิจการซื้อขายกิจการโรงแรมเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว จะต้องมีการจ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับบุคคลระดับสูงและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายราย และพูดจาหว่านล้อมผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีของนายธีรเสฏฐ์ฯ เพื่อจะได้นำเงินไปมอบให้ตามที่กล่าวอ้าง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้นำทั้งเงินสดไปให้ด้วยตนเองและโอนเงินเข้าบัญชีของนายธีรเสฏฐ์ฯ เรื่อยมา ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2563 ถึง กันยายน 2564 รวม 276 ครั้ง มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 32,810,000 บาท

แต่เมื่อผู้เสียหายพยายามถามถึงนายทุนชาวสิงคโปร์และบุคคลที่นายธีรเสฏฐ์ฯ กล่าวอ้างว่าจะพาไปพบนั้น กลับถูกนายธีรเสฏฐ์ฯบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ทำให้ผู้เสียหายเกิดความสงสัยเนื่องจากได้โอนเงินให้นายธีรเสฏฐ์ฯ ไปจำนวนหลายล้านบาทแต่ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการซื้อขายกิจการโรงแรมแต่อย่างใด จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ให้ช่วยสืบสวนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ชุดสืบสวน สตม. จึงได้ร่วมกันพิสูจน์ทราบจนพบว่า MR.JANG , ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และบุคคลระดับสูง และนายธีรเสฏฐ์หรือไบรอั้น คือบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งจะติดต่อผู้เสียหายทางโทรศัพท์และมีการปลอมเสียงเป็นบุคคลต่างๆ จากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ ที่ผู้เสียหายติดต่อกับบุคคลที่นายธีรเสฏฐ์ฯ กล่าวอ้างก็พบว่าผู้เปิดใช้หมายเลขโทรศัพท์คือนายธีรเสฏฐ์ฯ เช่นกัน ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกหลอกให้โอนเงิน และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน

 

ยอดจ่ายเงินเยียวยานักเรียนคนละ 2,000 บาท ใกล้ครบตามเป้า 11 ล้านคน ส่วนของการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมาก ล่าสุด พบผู้สมัครใจฉีดวัคซีนจำนวน 3.61 ล้านคน เตรียมพร้อมกลับสู่การเรียนรูปแบบปกติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้า การเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท โดยให้ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา 

ล่าสุดได้จ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 ล้านคน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80% โดยโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75% ที่เหลือได้ทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง 
 

ลำปาง - มทบ.32 นำจิตอาสาช่วยเหลือ เยี่ยมเยือนชุมชนมุสลิมลำปาง แสดงความรักความห่วงใย และบรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 28 กันยนยน 2564 เวลา 10.00 น. พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้ พันเอก กวิน ยาวิชัย รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 และวิทยากรจิตอาสา 904 เป็นผู้แทนหน่วย ร่วมกับประชาชนจิตอาสาจังหวัดลำปาง ร่วมกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือประชาชน  "มีแล้ว แบ่งปัน" มอบสิ่งของอุปโภค - บริโภค เยี่ยมเยือนให้กำลังใจ กับชุมชนมุสลิม ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ในพื้นทีเขตอำเภอเมือง และบ้านวังหม้อ ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง รวม 3 ครอบครัว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบในการดำรงชีวิตประจำวันเป็นจำนวนมาก ในการนี้ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำปาง ทุกพื้นที่ ทุกศาสนา จึงได้มอบหมายให้รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 และวิทยากรจิตอาสา 904 นำสิ่งของไปมอบให้การช่วยเหลือ เพื่อแสดงถึงความรักความห่วงใย และบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งสอบถามความเป็นอยู่และให้กำลังใจในการก้าวข้ามพ้นผ่านวิกฤตโควิด สร้างความปลาบปลื้มใจและอบอุ่นใจเกิดแก่ครอบครัวที่หน่วยได้เข้าให้ความช่วยเหลือ

 

กระทรวงศึกษาธิการได้ออกหลักเกณฑ์สำหรับการเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ที่มีความพร้อมและผ่านเกณฑ์การประเมิน ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยดำเนินการตามโครงการ Sandbox : Safety zone in School

 

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 20 กันยายน 2564 เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) เพื่อให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ใช้ประกอบในการพิจารณาการขออนุญาตใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาในการจัดการเรียนการสอน การสอน การฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

โดยกำหนดให้มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ระยะ คือ ระยะแรก สำหรับโรงเรียนพักนอน ซึ่งดำเนินการตามโครงการ Sandbox: Safety zone in School มาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 และระยะที่สอง สำหรับโรงเรียนประเภทไป-กลับ ที่มีความพร้อมและผ่านเกณฑ์การประเมิน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 

ซึ่งการจะเปิดโรงเรียนได้ ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินหลายด้าน เช่น ด้านกายภาพ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏิบัติ สำหรับสถานศึกษา ครู-บุคลากรต้องฉีดวัคซีนครบโดสไม่น้อยกว่า 85% ในขณะที่นักเรียน-ผู้ปกครอง ควรได้รับวัคซีนตามมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

โดยระหว่างการเปิดภาคเรียน ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite หรือ Online หรือแบบผสมผสานได้ ในห้องเรียนแต่ละห้องต้องมีนักเรียนไม่เกิน 25 คน และต้องเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ส่วนมาตรการอื่น ๆ มีตามประกาศดังต่อไปนี้

อยุธยา - ผู้ว่าฯ เปิดรพ.สนาม เยี่ยมชมอาคารสถานที่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อคนในภาคอุตสาหกรรมอยุธยา เฟส 1 เป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลพนักงานผู้ป่วยจากโควิด-19

วันนี้ (28 ก.ย.64) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนาม เพื่อคนในภาคอุตสาหกรรมอยุธยา เฟส 1 พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ โดยมี นางสาวบงกช แจ่มทวี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ เป็นผู้กล่าวรายงานฯ และนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช. การช่าง จำกัด(มหาชน) ผู้สนับสนุนให้ใช้สถานที่ และผู้ร่วมสนับสนุนในการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีเปิดฯ จากนั้น ผู้ว่าฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมอาคารสถานที่รองรับผู้ป่วยและอาคารของแพทย์พยาบาลภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสถานประกอบการภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 100 แห่ง ได้ร่วมกันที่จะจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ขึ้นในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลพนักงานผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐที่ให้โรงงานอุตสาหกรรมจัดตั้งศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนามขึ้นในสถานประกอบการด้วย

นครนายก - ชุมชนไทยพวน ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง มิวเซียมปะพวนที่ปากพลี ร่วมแสดงความยินดี และแสดงมุทิตาจิต

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่วัดฝั่งคลอง ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ชุมชนไทยพวน ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง มิวเซียมปะพวนที่ปากพลี ร่วมแสดงความยินดี และแสดงมุทิตาจิต ดร.อนันต์ นาวิไล วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก,จ.ส.ต.สกล ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครนายก,นางสาวณัฐกฤตา มีกล้า ครู กศน.ตำบลท่าเรือ(กศน.อำเภอปากพลี)

โดยมีพระครูวิริยานุโยค เจ้าคระอำเภอปากพลี เจ้าอาวาสวัดฝั่งคลอง กล่าวสัมโมทนียกถางานมุทิตาจิต พร้อมมีอาจารย์สมชาย ธูปเงิน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอำเภอปากพลี, ว่าที่ รต.ชาติชาย ยอดมิ่ง ประธานชมรมส่งเสริการท่องเที่ยวชุมชนไทยพวน เป็นพิธีกร และแขกผู้มีเกียรติรวมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบพื้นบ้านไทยพวน พร้อมชมวีดีทัศน์นำเสนอผลงานความประทับใจและการเกษียณราชการทั้ง 3 ท่าน

ชลบุรี - สวนนงนุชพัทยาภูมิใจได้รับเกียรติเป็น 1 ใน “25 UNSEEN New Series” ชวนคนไทยไปเที่ยวพร้อมขยายแคมเปญฉีด2เข็มเที่ยวฟรี

ตามที่เพจ Amazing ไทยแลนด์ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 25 ภาพ ลงในอัลบั้ม 25 UNSEEN New Series ที่จะพาคุณไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทย ในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็น สวนนงนุชพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคตะวันออกที่ติด 1 ใน 25 UNSEEN  New Series โซนหุบเขาไดโนเสาร์

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า ทางสวนนงนุชพัทยานอกจากจะมีสวนสวยมากกว่า 40 สวน แล้วยังมีหุบเขาไดโนเสาร์ที่เป็นไฮไลท์ ซึ่งที่ผ่านมา สวนนงนุชพัทยาได้มีการพัฒนา และสร้างโซนไดโนเสาร์ เอเวอร์นิว( dinosaur avenue) ขึ้นมาใหม่โดยสร้างไดโนเสาร์ เพิ่มเติมอีก 41 ตัว 30 ชนิด ปัจจุบันมีจำนวนไดโนเสาร์มากกว่า 900 ตัว 320 ชนิดเพื่อเป็นการรณรงค์การท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย จึงขยายระยะเวลา สำหรับโปรโมชั่นฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เที่ยวชมสวนนงนุชพัทยาฟรีตั้งแต่ วันที่ 1-17 ตุลาคม 2564

นครนายก - เทศบาลเมืองนครนายก จัดโครงการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้ประชาชน รอบที่ 2 (เข็มที่ 1) จำนวน 600 คน ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชน

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่โรงพยาบาลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก ได้มอบหมายให้คณะเทศมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษาประชาชนที่เข้ารับบริการซีดวัคซีนชิโนฟาร์ม รอบที่ 2 (เข็มที่1)จำนวน 600 คน โดยมีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้วได้เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กรุงเทพฯ - ‘นิพนธ์’ ย้ำ 3 เรื่องหลัก! เร่งฉีดวัคซีนเมืองท่องเที่ยว - บริหารจัดการน้ำแก้อุทกภัย/ภัยแล้งพร้อมเร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ได้รับผลกระทบ - ลดสถิติการสูญเสียบนท้องถนน แก่ผู้บริหารก.มหาดไทย เตรียมพร้อมก่อนเริ่มปีงบ 65

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (vcs) โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญ พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว การผ่อนปรนมาตราการการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น การบริหารจัดการวัคซีนอยากให้เน้นการฉีดในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการรองรับนักท่องเที่ยว เช่น ผู้ให้บริการโรงแรม ขนส่งสาธารณะ ร้านอาหาร เป็นต้น ให้สำรวจกลุ่มคนกลุ่มนี้ ถ้าสามารถดูแลป้องกันก็จะลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการควบคุมโรค โดยไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 จากนักท่องเที่ยวมาสู่ประชาชน ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต้องไม่ได้รับเชื้อจากประชาชนด้วย

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ช่วงนี้ประเทศไทย เราได้มีบทเรียนหลายครั้ง โดยเฉพาะอุทกภัยปีที่ผ่านมาอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” อยากให้ทำความเข้าใจและแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรที่จะรักษาชีวิตประชาชนไว้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้ถอดบทเรียนจากครั้งที่แล้วที่เกิด “พายุโพดุล” ต้องมีการเตรียมแผนตามที่จะเผชิญเหตุไว้ การเตรียมการที่ดีตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดเหตุ การแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามเหตุข่าวสารข้อมูลให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อที่จะดูแลชีวิตและความปลอดภัยของประชาขนเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย การถอดบทเรียนจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ทำให้รู้ว่าหน่วยงานภาครัฐสามารถรับมือสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะเรื่องการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสามารถทำได้ทันท่วงที ทำให้ภัยพิบัติครั้งนี้สูญเสียทรัพย์สินและชีวิตไม่มากเท่ากับครั้งก่อนๆ การให้ข้อมูลข่าวสาร แจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานภาครัฐที่ทันสถานการณ์ ทำให้ลดการเกิดความเสียหายและสูญเสียได้

 

 

ชลบุรี - เกาะล้านเฮ! นายกเมืองพัทยา เตรียมบูสเตอร์วัคซีนโดส 3 สัปดาห์หน้า

ตามที่นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้พยายามผลักดันให้ประชาชนในเขตเมืองพัทยาได้รับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างครอบคลุม ทั้งวัคซีนจากส่วนกลางตามระบบที่รัฐจัดสรร และวัคซีนทางเลือกที่เมืองพัทยาจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจากจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย เพื่อให้เกิดระบบภูมิคุ้มกันหมู่ในเมืองท่องเที่ยว โดยประชาชนชาวเมืองพัทยาได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้ว 70% ของประชากร

ล่าสุด นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในส่วนของประชาชนชาวเมืองพัทยา ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนรวมทั้งชาวต่างชาติ แรงงานต่างด้าว และผู้อาศัยในเมืองพัทยา ก็จะทยอยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามการจัดสรรวัคซีนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และสำหรับประชาชนชาวเมืองพัทยา ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดส ก็มีแผนจะบูสเตอร์โดสที่ 3 เพื่อเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคด้วยเช่นกัน

‘สภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ’ เผยถึงบทวิเคราะห์ เห็นตรงโอกาสน้ำท่วมใหญ่เป็นได้น้อยมาก พื้นที่กรุงเทพและใกล้เคียง ยังไม่น่าห่วงว่าน้ำจะท่วมจากฝนที่ตกในรอบนี้ แต่อาจจะมีจากฝนที่ตกหนักเฉพาะจุดในพื้นที่ตัวเอง

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เผยถึงบทวิเคราะห์ว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ ซ้ำรอยปี 54 หรือไม่ ความว่า เหตุการณ์น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้เกิดกระแสว่า จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ซ้ำรอยปี 54 เกิดความวิตกกังวลในวงกว้าง !!!

มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะองค์เผยแพร่ข้อมูลความคิดเห็น เพื่อประโยชน์ในการรับรู้ข้อมูลล่วงเพื่อนำไปเป็นแนวทางการเตรียมการและบริหารความเสี่ยงล่วงหน้าในฐานะ “สภาเตือนภัย” !!!

นายปราโมทย์ ไม้กลัด รองปธ.กก.มูลนิธิ “สภาเตือนภัย” พิบัติแห่งชาติ อดีดอธิบดีกรมชลประทาน เห็นว่า ทั้งข้อมูลปริมาณฝน ปริมาณน้ำกักเก็บ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ในขณะนี้มีน้อยหากเปรียบเทียบกับในห้วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 54 จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดน้ำท่วมในกทม.ครั้งใหญ่เช่นปี 54 !!!

ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองปธ.กก.มูลนิธิ “สภาเตือนภัย” ให้ความเห็นว่า แม้ว่าขณะนี้แม้จะมีกรณีน้ำท่วมเกิดขึ้นในหลายจังหวัด แต่โอกาสน้ำท่วมกทม.เหมือนปี 54 มีโอกาสเป็นไปได้น้อย เว้นแต่จะมีน้ำระบายไม่ทันทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน !!!

ขณะที่ ดร.สุทัศ วีสกุล ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ หรือสสน. เห็นว่า ณ เวลานี้เมื่อ 54 เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิต์ มีน้ำเต็มความจุ 22,000 ล้าน.ลบ.ม. แต่ขณะมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณครึ่งเดียว หากมีพายุเข้ามาทั้ง 2 เขื่อนยังดักน้ำได้อีกมาก แม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังอยู่ในระดับต่ำ และมีการสร้างคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น คิดว่าปีนี้ จะไม่เกิดน้ำท่วมกทม.เหมือนปี 54 แน่นอน !!!

ดร.ณัฐ มาแจ้ง ม.เกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า น้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 ไหม ปี 54 กราฟน้ำท่วมมีฐานกว้างมากจึงทำให้มีน้ำเติมเข้าทุ่งเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากและนาน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่

ในขณะที่ปีนี้อีกไม่นาน (คาดว่า 1-3 สัปดาห์) อัตราการไหลที่นครสวรรค์จะคงที่และเริ่มลดลงเนื่องจากฝนจะลดลงในช่วงอาทิตย์ข้างหน้าทำให้มีน้ำเติมลงมาน้อยกว่าเดิมนั่นเอง

อธิบดี DSI “กรวัชร์” ลงพื้นที่แจ้งผลการสอบสวนคดีพิเศษ และให้กำลังใจ “นางมึนอ” ผู้เสียหายในคดีการหายตัวไปของ “นายพอละจี” หรือบิลลี่ รักจงเจริญ

วันพุธที่ 29 กันยายน 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางลงพื้นที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พบนางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของ บิลลี่ พอละจี แกนนำประชาชนชาวกระเหรี่ยง บ้านโป่งลึก บางกลอย เพื่อแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 13/2562 กรณี การหายตัวไปของนายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบสวนเสร็จสิ้นและสรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 4 คน ส่งพนักงานอัยการ ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคนในบางข้อหา ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ใน 4 ประเด็น ก่อนชี้ขาดความเห็นซึ่งพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

 

กาฬสินธุ์ - เตรียมรับมือมวลน้ำชีเพิ่มระดับสูงขึ้น เข้มป้องกันน้ำท่วม ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนระบายน้ำวังยาง พร้อมสั่งเฝ้าระวัง รับมวลน้ำจากจ.ชัยภูมิ และขอนแก่น คาดอีก 6 วันถึงพื้นที่!

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ผู้สื่อขาวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งพื้นที่พื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำชี ทำให้พื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งอยู่พื้นที่ท้ายน้ำและมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำชีต้องเฝ้าระวัง และเตรียมรับมวลน้ำที่จะไหลมา

ล่าสุดนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ วิสา นายอำเภออำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนระบายน้ำวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย  จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับปริมาณน้ำที่จะไหลมา โดยระดับน้ำในลำน้ำชีบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง ขณะนี้ประตูระบายน้ำของเขื่อนได้ทำการเปิดบานประตูทั้ง 6 บานในระดับสูงสุด เพื่อระบายน้ำในลำน้ำชี และลดผลกระทบที่จะได้รับจากการที่ลำน้ำชีมีปริมาณสูงขึ้น ซึ่งคาดว่ามวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และจ.มหาสารคาม จะเดินทางมาถึงบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยางในอีกประมาณ 6 วันข้างหน้า ทั้งนี้ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ในอำเภอที่มีพื้นที่ติดกับลำชีให้แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังและเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำที่จะสูงขึ้น

เพจ “AMD Redteam Thailand” ได้โพสต์ภาพพุทธศาสนิกชนถวายสังฆทานยุคใหม่แก่พระมหาสมปอง อุปกรณ์ไอทีราคาสูงหลักหมื่น ย้ำเจตนาดีไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เพื่อเพิ่มการไลฟ์ธรรมะให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2564 เพจ “AMD Redteam Thailand” ได้โพสต์ภาพพุทธศาสนิกชนได้นำสังฆทานยุคไอที โดยมี CPU ราคาประมาณ 30,000 บาท การ์ดจอคอมพิวเตอร์ ราคาประมาณ 17,000 บาท แก่ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต
พระลูกวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยมีเจตนาในการเพิ่มประสิทธิภาพในการไลฟ์ธรรมะให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น 

“การศึกษา” นับได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จำเป็นต้องปรับหลักสูตรและรูปแบบการสอนเป็นการเรียนออนไลน์ แต่ก็ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะมีความพร้อม

แต่การเรียนออนไลน์บนหลักสูตรการศึกษาของไทยนั้น นักเรียนจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่คุณครูสอนหรือไม่ หลักสูตรของไทยจริง ๆ แล้วมีการวางลักษณะ เนื้อหาการสอน ในรูปแบบการสอนต่อหน้า คุณครูพบปะกับนักเรียน (Onsite) ไม่ได้วางหลักสูตรมาในรูปแบบการเรียนออนไลน์ คุณครูต้องเปลี่ยนจากการสอนมาเป็น “การบรรยาย” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องย้อนกลับมาคิดว่าจริง ๆ แล้วหลักสูตรการศึกษาในแต่ละวิชานั้นเหมาะสมกับการเรียนในรูปแบบออนไลน์หรือเปล่า ? เราจะต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรหรือไม่ 

ผศ.ดร.สุทัศน์ จันบัวลา อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “หลักสูตรที่ใช้ในการสอนนั้น แท้จริงแล้วเป็นหลักสูตรที่ใช้สำหรับการเรียนต่อหน้า คุณครูสอนต่อหน้านักเรียน (Onsite) พอมีปัญหาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้วนั้น การที่เราเอาหลักสูตรที่ใช้ในห้องเรียนมาปรับใช้เป็นออนไลน์ ก็จะเกิดปัญหาทันที”

“ต้องมีกระบวนการปรับหลักสูตร นั่นคือต้องเปลี่ยน ต้องดีไซน์ ออกแบบการเรียนการสอนในแต่ละรายวิชาใหม่เลย จากโดยทั่วไปเป็นการเรียนการสอนในห้องเรียน มีการวัดผล คือ การสอบกลางภาคและปลายภาค แต่พอมาเป็นการสอนออนไลน์ เราก็ต้องมาปรับหมด อย่างการวัดผล การสอบจะมาใช้รูปแบบการวัดผลแบบที่ทำในห้องเรียนไม่ได้ การศึกษาไทยส่วนใหญ่มันแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน โดยที่หลักสูตรเป็นหลักสูตรที่ใช้ในห้องเรียน แต่ผลลัพธ์ไม่ต้องพูดถึงเพราะมันแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะหลักสูตรมันออกแบบให้เรียนในห้อง” 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top