สาธารณรัฐตุรกีแห่งไซปรัสเหนือ รัฐที่มีเพียงตุรกีเท่านั้นที่รับรองเอกราช!
เราท่านคงได้ยินชื่อประเทศไซปรัส หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐไซปรัส อันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันออก อยู่ทางใต้ของประเทศตุรกี ทางตะวันตกของประเทศซีเรีย และทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ
ไซปรัส ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกและชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกี โดยชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกมีอำนาจรัฐบาล แต่ถูกแทรกแซงจากประเทศตุรกี ทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นไซปรัสกรีกและไซปรัสตุรกี ซึ่งต่อมาไซปรัสตุรกีได้เข้าควบคุมพื้นที่ 36.2% ของเกาะไซปรัส
ส่วนสีแดงคือ พื้นที่ของสาธารณรัฐตุรกีแห่งไซปรัสเหนือ
ทางเหนือของไซปรัสทอดยาวจากปลายคาบสมุทร Karpass ทางตะวันออกเฉียงเหนือไปยังอ่าว Morphou แหลม Kormakitis และจุดตะวันตกสุดของเกาะ Kokkina exclave ทางทิศตะวันตก จุดใต้สุดของมันคือหมู่บ้าน Louroujina เขตกันชนภายใต้การควบคุมของสหประชาชาติ ทอดยาวระหว่างไซปรัสเหนือและส่วนที่เหลือของเกาะ และแบ่งกรุงนิโคเซีย ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะ และเป็นเมืองหลวงของทั้งสองฝ่าย
กองกำลังตุรกีในไซปรัสเหนือ พ.ศ. 2517
การทำรัฐประหารในไซปรัส เมื่อปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกอันเป็นชนส่วนใหญ่ซึ่งพยายามที่จะผนวกเกาะไซปรัสเข้ากับประเทศกรีซ กระตุ้นให้ตุรกีส่งกำลังทหารบุกโจมตีไซปรัส อันมีผลให้มีการขับไล่ประชากรชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกทางตอนเหนือ (พื้นที่ของชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกี) จำนวนมากต้องอพยพหนีลงทางใต้ และนำไปสู่การแยกตัวและการประกาศเอกราชฝ่ายเดียวโดยทางเหนือในปี พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) เนื่องจากไม่ได้รับการรับรองให้เป็นรัฐเอกราช ไซปรัสเหนือจึงต้องพึ่งพาตุรกีอย่างมากในทุก ๆ ด้าน โดยตุรกีให้การสนับสนุนไซปรัสเหนือทั้งทาง เศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร
ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในไซปรัสไม่ประสบผลสำเร็จ กองทัพตุรกียังคงกองกำลังขนาดใหญ่ในไซปรัสเหนือ ในขณะที่การปรากฏตัวของกองกำลังดังกล่าวได้รับการสนับสนุน และอนุมัติจากรัฐบาล TRNC สาธารณรัฐไซปรัส สหภาพยุโรปโดยรวม และประชาคมระหว่างประเทศถือว่า กองกำลังของตุรกีดังกล่าวเป็นกองกำลังยึดครอง และถูกประณามตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับ
ไซปรัสเหนือเป็นสาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดีที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานอิทธิพลที่หลากหลายและเศรษฐกิจที่ถูกครอบงำโดยภาคบริการ เศรษฐกิจมีการเติบโตในช่วงทศวรรษ 2000 และ 2010 โดย GNP ต่อหัวเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าในช่วงทศวรรษ 2000 แต่ถูกระงับด้วยการห้ามส่งสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการปิดท่าเรืออย่างเป็นทางการในไซปรัสเหนือ โดยสาธารณรัฐไซปรัส ภาษาราชการ คือ ภาษาเตอร์กิช มีการพูดภาษาถิ่นชัดเจน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบด้วยชาวมุสลิมสุหนี่ ขณะที่ทัศนคติทางศาสนาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง
ปี พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) ไซปรัสเหนือพยายามสถาปนาตนเองขึ้นเป็นรัฐเอกราช โดยเรียกพื้นที่ในการครอบครองว่า Turkish Republic of the Northern Cyprus (TRNC) แต่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลตุรกีแต่เพียงชาติเดียว ปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) สหประชาชาติได้ดำเนินความพยายามให้ไซปรัสกรีกและไซปรัสตุรกีเจรจาเพื่อการรวมประเทศแต่ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จจนทุกวันนี้
ไซปรัสเหนือเป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ของ ECO (องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Organization)) และ OIC (องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation)) ภายใต้ชื่อ "รัฐไซปรัสตุรกี" และของ PACE (สมัชชารัฐสภาแห่งสภายุโรป (Parliamentary Assembly of the Council of Europe)) ภายใต้ชื่อ "ชุมชนไซปรัสตุรกี"
ไซปรัสเหนือมีพื้นที่ 3,355 ตารางกิโลเมตร (1,295 ตารางไมล์) ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของเกาะ 75 กิโลเมตร (47 ไมล์) ไปทางเหนือของไซปรัสเหนืออยู่ที่ตุรกีกับซีเรียนอน 97 กิโลเมตร (60.3 ไมล์) ไปทางทิศตะวันออก อยู่ระหว่างละติจูด 34° ถึง 36° N และลองจิจูด 32° ถึง 35° E
อ่าว Morphou
ชายฝั่งทางตอนเหนือของไซปรัสประกอบด้วยอ่าว 2 แห่ง ได้แก่ อ่าว Morphou และอ่าว Famagusta และมีแหลมสี่แห่ง ได้แก่ Cape Apostolos Andreas, Cape Kormakitis, Cape Zeytin และ Cape Kasa โดยมี Cape Apostolos Andreas เป็นจุดสิ้นสุดของคาบสมุทร Karpaz เทือกเขา Kyrenia ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทางตอนเหนือ และจุดที่สูงที่สุดในไซปรัสเหนือคือ Mount Selvili ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาที่มีความสูง 1,024 เมตร (3,360 ฟุต) ที่ราบ Mesaoria ซึ่งขยายจากเขต Güzelyurt ไปยังแนวชายฝั่งตะวันออก ที่ราบเมซาโอเรียประกอบด้วยทุ่งราบและเนินเขาเล็ก ๆ และข้ามด้วยลำธารตามฤดูกาลหลายสาย ภาคตะวันออกของที่ราบใช้สำหรับการเกษตรแบบแห้ง เช่น การเพาะปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ดังนั้น ส่วนใหญ่เป็นสีเขียวในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ในขณะที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลในฤดูร้อน 56.7% ของที่ดินในไซปรัสเหนือมีศักยภาพทางการเกษตร
ปัจจุบันไซปรัสเหนือแบ่งออกเป็นหกเขตได้แก่ : Lefkoşa, Gazimağusa, Girne, Güzelyurt, İskele และ Lefke โดยเขต Lefke ก่อตั้งขึ้นโดยแยกจาก Güzelyurt District ในปี พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016) นอกจากนี้ยังมีเขตย่อยอีก 12 ตำบลที่ถูกแบ่งระหว่างห้าเขตที่ใหญ่กว่า อำเภอ และเทศบาลอีกยี่สิบแปดแห่ง
การเมืองของไซปรัสเหนืออยู่รูปแบบของสาธารณรัฐประชาธิปไตยกึ่งตัวแทนกึ่งประธานาธิบดี โดยที่ประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และพรรคการเมืองระบบหลายพรรค รัฐบาลใช้อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติเป็นของทั้งรัฐบาลและสมัชชาแห่งสาธารณรัฐ ตุลาการเป็นอิสระจากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้ง มีวาระในการดำรงตำแหน่งเป็นเวลาห้าปี และประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือ Ersin Tatar นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ Ersan Saner สภานิติบัญญัติคือ สภาแห่งสาธารณรัฐ ซึ่งมีสมาชิก 50 คนมาจากการเลือกตั้งตามสัดส่วนจากหกเขตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) พรรคเอกภาพแห่งชาติฝ่ายขวาชนะได้ที่นั่งมากที่สุดในสมัชชา และรัฐบาลปัจจุบันเป็นพันธมิตรของพรรคเอกภาพแห่งชาติและพรรคประชาชนศูนย์กลาง
เนื่องจากไซปรัสเหนือถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ และพึ่งพาการสนับสนุนจากประเทศตุรกีอย่างมากมาย ตุรกีจึงมีอิทธิพลในระดับสูงต่อการเมืองของไซปรัสเหนือ สิ่งนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนระบุว่า ไซปรัสเหนือเป็นรัฐหุ่นเชิดของตุรกี อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ให้เห็นถึงลักษณะที่เป็นอิสระในการเลือกตั้ง และการแต่งตั้งในไซปรัสเหนือ และข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไซปรัสเหนือกับรัฐบาลตุรกี โดยสรุปว่า "รัฐหุ่นเชิด" ไม่ใช่คำอธิบายที่ถูกต้องสำหรับไซปรัสเหนือ
ไม่มีประเทศอื่นใดนอกจากตุรกีที่ให้รับรองอย่างเป็นทางการว่า ไซปรัสเหนือเป็นรัฐอธิปไตย สหประชาชาติระบุว่า ไซปรัสเหนือเป็นดินแดนของไซปรัสภายใต้การยึดครองของตุรกี ปากีสถานและบังกลาเทศได้ประกาศในเบื้องต้นว่า ให้การรับรองไซปรัสเหนือเป็นรัฐอธิปไตย แต่หลังจากไซปรัสเหนือประกาศเอกราชได้ไม่นาน ทั้งสองประเทศก็ถอนการรับรอง อันเป็นผลมาจาก แรงกดดันของสหรัฐฯ หลังจากสหประชาชาติถือว่า การประกาศนั้นผิดกฎหมาย โดยสหประชาชาติถือว่า การประกาศเอกราชโดยไซปรัสเหนือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
หลังจากการลงประชามติในเดือนเมษายน พ.ศ. 2547 เกี่ยวกับแผนการ Annan ของสหประชาชาติ (ซึ่งตั้งตามชื่อของ Kofi Annan เลขาธิการองค์การสหประชาชาติในขณะนั้น) และชุมชนชาวไซปรัสตุรกีให้การสนับสนุนแผนการนี้ สหภาพยุโรปได้ให้คำมั่นที่จะยุติการแยกตัวของไซปรัสเหนือ ซึ่งรวมถึงมาตรการสำหรับการค้าและเงินยูโร คำมั่นสัญญาของสหภาพยุโรปที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรต่อไซปรัสเหนือ หลังจากการลงประชามติ แต่แผนการ Annan ได้ถูกขัดขวางโดยรัฐบาลไซปรัส โดยคะแนนในการเลือกได้รับการสนับสนุนจากชาวไซปรัสตุรกี 65% แต่มีเพียง 24% ของชาวไซปรัสกรีกที่ให้การสนับสนุนแผนการนี้
ในปี พ.ศ. 2547 องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ได้ยกระดับคณะผู้แทนชุมชนมุสลิมไซปรัสตุรกีจาก "ชุมชนผู้สังเกตการณ์" (พ.ศ. 2522) เป็นรัฐโดยมีชื่อเป็น "รัฐไซปรัสตุรกี" ทำให้ไซปรัสเหนือเป็นสมาชิกในฐานะรัฐผู้สังเกตการณ์ขององค์กร มีการประชุมอย่างเป็นทางการที่มีการเผยแพร่หลายครั้งถึงการพบปะหารือระหว่างประธานาธิบดีไซปรัสเหนือกับผู้นำและนักการเมืองต่างประเทศหลาย ๆ คน
ในปี พ.ศ. 2547 สภาผู้แทนราษฎรแห่งสภายุโรปได้ให้สถานะผู้สังเกตการณ์แก่ตัวแทนของชุมชนไซปรัสตุรกี ตั้งแต่นั้นมาผู้แทนของไซปรัสเหนือได้เข้าร่วมในกิจกรรม PACE ทั้งหมดอย่างแข็งขัน โดยที่ไม่มีสิทธิออกเสียง สหภาพยุโรปถือว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของสาธารณรัฐไซปรัส เป็นดินแดนของสหภาพยุโรปภายใต้การยึดครองทางทหารของตุรกี และได้รับการยกเว้นอย่างไม่มีกำหนดจากกฎหมายของสหภาพยุโรปจนกว่าจะบรรลุข้อตกลง สถานะของไซปรัสเหนือได้กลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผ่านมาการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปของตุรกี ซึ่งการแบ่งแยกของเกาะไซปรัสถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในเส้นทางสู่การเป็นสมาชิกของตุรกี
สาธารณรัฐปกครองตนเอง Nakhichevan ในอาเซอร์ไบจานได้ออกมติรับรองความเป็นอิสระของไซปรัสเหนืออันเป็นผลมาจากปัญหา Nagorno-Karabakh อย่างไรก็ตาม อาเซอร์ไบจานเองก็ไม่ยอมรับอธิปไตยของไซปรัสเหนือ
ชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกีต้องยื่นขอหนังสือเดินทางที่ออกโดยสาธารณรัฐไซปรัสมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เมื่อช่องทางเข้าสาธารณรัฐไซปรัสปิดลง การสมัครจะดำเนินการผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือผ่านสถานกงสุล และสถานทูตของไซปรัสในประเทศอื่น ๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี มีการยื่นขอหนังสือเดินทางดังกล่าว 10-15% ในแต่ละปีก่อนปี พ.ศ. 2544 และมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีการออกถึง 817 เล่ม ในช่วงแปดเดือนแรกของปี พ.ศ. 2544 เมื่อเทียบกับ 448 เล่มในปี พ.ศ. 2543 ทั้งหมด หลังจากการเปิดพรมแดนกับ สาธารณรัฐไซปรัส ชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกีเริ่มเข้าแถวยื่นขอหนังสือเดินทางไซปรัสโดยไปเยือนสาธารณรัฐไซปรัส และแสดงหลักฐานการสืบเชื้อสายของไซปรัส มีจุดผ่านแดนเจ็ดแห่งระหว่างไซปรัสเหนือและสาธารณรัฐไซปรัส ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 นักท่องเที่ยวบางส่วนได้บินไปยังสาธารณรัฐไซปรัสโดยตรงแล้วข้ามเส้นสีเขียวเพื่อไปพักผ่อนในไซปรัสเหนือ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554 ตุรกีและไซปรัสเหนือได้ลงนามในข้อตกลงชายแดน EEZ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เครื่องบินรบแบบ Tornado ของกองทัพอากาศอังกฤษ ซึ่งประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Akrotiri ทางตอนใต้ของไซปรัส
ทหารอังกฤษประจำไซปรัสขณะพูดคุยกับชาวไซปรัส
กองกำลังตุรกีขณะลงจากเรือลำเลียงพลในไซปรัสเหนือ
กองกำลังตุรกีในไซปรัสเหนือ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองบัญชาการกองกำลังสันติภาพตุรกี (Turkish Peace Force Command) เป็นกองทหารของตุรกีประจำการในไซปรัส สืบเนื่องจากปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) กองกำลังตุรกีได้บุกไซปรัส ภายหลังการรัฐประหารของชาวไซปรัสเชื้อสายกรีก ซึ่งจัดตั้งและสนับสนุนโดยรัฐบาลกรีซ ซึ่งตอนนั้นเป็นรัฐบาลเผด็จการทหาร โดยต้องการบังคับให้ไซปรัสรวมตัวกับกรีซ โดยยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะที่สาม กองกำลังตุรกีซึ่งประกอบด้วยทหารประมาณ 40,000 นาย และรถถัง 200 คัน
กองบัญชาการกองกำลังสันติภาพตุรกีประกอบด้วยทหารประมาณ 30,000-40,000 นาย ที่มาจากกองทหารราบที่ 9 ของตุรกี และประกอบด้วยสองกองพลคือ กองพลที่ 28 และกองพลที่ 39 มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในสหรัฐฯ รถถังหลักแบบ M48 Patton และกองทัพอากาศตุรกี กองทัพเรือตุรกี และหน่วยยามฝั่งตุรกี ยังประจำการอยู่ในไซปรัสเหนือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพที่ 4 ของตุรกีอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกองบัญชาการใหญ่ในอิซเมียร์ ความอ่อนไหวของสถานการณ์ในไซปรัสหมายความว่า ผู้บังคับบัญชาของกองกำลังสันติภาพตุรกีแห่งไซปรัสสามารถรายงานโดยส่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกีในกรุงอังการา กองกำลังสันติภาพตุรกีในไซปรัสเหนือมีการวางกำลังตามแนวเส้นสีเขียวเป็นหลัก และในสถานที่ที่อาจมีการยกพลขึ้นบก โดยกองกำลังตุรกีสามารถรับการเสริมกำลังทางอากาศสามารถทำได้หากจำเป็นภายในไม่กี่ชั่วโมง การปรากฏของกองทัพตุรกีในไซปรัสเป็นเรื่องที่ถูกประณามว่า เป็นกองกำลังยึดครองสาธารณรัฐไซปรัส โดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับได้เรียกร้องให้ตุรกีถอนกองกำลังดังกล่าวออกจากไซปรัสเหนือ
ฝูงบินผาดแผลง Turkish Stars ของกองทัพตุรกีขณะทำการบินเหนือดินแดนไซปรัสเหนือ
กองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติในไซปรัส (UNFICYP) จัดตั้งขึ้นภายใต้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 186 ในปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสู้รบเกิดขึ้นอีก หลังจากความรุนแรงระหว่างชาวไซปรัสเชื้อสายกรีก และชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกี เพื่อสนับสนุน การจัดการ และการฟื้นฟู กฎหมาย และความสงบเรียบร้อย ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ไซปรัสกลับสู่สภาวะปกติ มี พลตรี Ingrid Gjerde (Norway) เป็นผู้บัญชาการกองกำลังคนปัจจุบันของ UNFICYP โดยได้รับการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2564 และ ผู้บัญชาการตำรวจ Satu Koivu (Finland) เป็นที่ปรึกษาตำรวจอาวุโสคนปัจจุบันซึ่งได้รับการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2564 เช่นเดียวกับผู้บัญชาการกองกำลังคนปัจจุบัน
ปัจจุบันประกอบด้วยกองกำลัง UNFICYP มาจาก Argentina, Australia, Austria, Bosnia-Herzegovina, Canada, Croatia, El Salvador, Ghana, Hungary, India, Ireland, Italy, Montenegro, the Netherlands, Peru, Serbia, Slovakia, Ukraine และ สหราชอาณาจักร โดยมีกำลังราว 1,000 นาย ภารกิจของ UNFICYP ได้รับการต่ออายุครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และขยายเวลาจนถึง 31 มกราคม พ.ศ. 2565
กองกำลังความมั่นคงแห่งไซปรัสตุรกี ขณะสวนสนามเนื่องในโอกาสวันชาติแห่งสาธารณรัฐตุรกีแห่งไซปรัสเหนือ
กองกำลังความมั่นคงแห่งไซปรัสตุรกี ประกอบด้วยกำลังทหาร 8,000-9,000 นาย โดยหลักแล้วประกอบด้วยชายชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกี อายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปี นอกจากนี้ยังมีกำลังสำรองเพิ่มเติมซึ่งประกอบด้วยชุดแรกประมาณ 10,000 นาย และชุดที่สองอีก 16,000 นาย ทหารหลักของกองกำลังความมั่นคงไซปรัสตุรกี ประจำการจนถึงอายุ 50 ปี กองบัญชาการกองกำลังรักษาความปลอดภัยมีอาวุธเบา และต้องพึ่งพาตุรกีเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการขอกำลังพลจากกองทัพตุรกีมาด้วย โดยนายพลจัตวาที่ขอมาจากกองทัพตุรกีเป็นผู้บัญชาการ กองกำลังความมั่นคงไซปรัสตุรกีทำหน้าที่หลักในการป้องกันชายแดนของไซปรัสเหนือจากการรุกรานของกองกำลังชาวไซปรัสเชื้อสาย และทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในภายในไซปรัสเหนือ
กองกำลังพิทักษ์ชาติแห่งไซปรัส ขณะสวนสนาม พร้อมอาวุธปืนประจำกายล่าสุด IWI Tavor X95
กองกำลังพิทักษ์ชาติแห่งไซปรัส เป็นกองกำลังทหารของสาธารณรัฐไซปรัส กองกำลังนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบทางอากาศ ทางบก ทะเล และกองกำลังพิเศษ และมีการบูรณาการอย่างมากกับกำลังสำรอง เช่นเดียวกับการสนับสนุนหน่วยงานพลเรือนและกองกำลังกึ่งทหาร ภารกิจกองกำลังพิทักษ์ชาติแห่งไซปรัส คือการใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อป้องกันสาธารณรัฐไซปรัสในการจัดการกับการบุกรุกที่ถูกคุกคาม หรือการกระทำใด ๆ ที่มุ่งต่อความเป็นอิสระหรือบูรณภาพแห่งดินแดนของสาธารณรัฐ หรือขู่ว่าจะทำร้ายชีวิตหรือทรัพย์สินของพลเมืองสาธารณรัฐไซปรัส ภัยคุกคามหลักต่อสาธารณรัฐไซปรัสมาจากของกองกำลังตุรกีจำนวน 4-50,000 นายที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ของเกาะ (ไซปรัสเหนือ) ภายใต้การยึดครองทางทหารของสาธารณรัฐตุรกี
กองกำลังกรีซในไซปรัส
กองกำลังกรีซในไซปรัส มีกำลังทหาร 950 นาย ภายใต้ชื่อ Hellenic Force in Cyprus (ELDYK) ซึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกองทัพไซปรัสอย่างเป็นทางการ และรับคำสั่งโดยตรงจากเสนาธิการของกองทัพกรีซ
ปัญหาของสาธารณรัฐตุรกีแห่งไซปรัสเหนือ เป็นปัญหาของสาธารณรัฐไซปรัสด้วย ทั้งการแก้ปัญหาไซปรัสจะต้องให้อีกสองประเทศเห็นชอบด้วยคือ ตุรกีและกรีซ และยังมีดินแดนและกำลังทหารของสหราชอาณาจักรอยู่บนเกาะนี้อีกด้วย แถมด้วยเขตกันชนของสหประชาชาติในไซปรัส อันเป็นเขตปลอดทหาร โดยกองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติในไซปรัสซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2507 และขยายออกไปในปี พ.ศ. 2517 หลังจากการหยุดยิงในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2517
ปฏิบัติการอัตติลาของกองทัพตุรกีใน ปี พ.ศ. 2517
การบุกไซปรัสของตุรกี ทำให้เกิดการแบ่งแยกโดยพฤตินัยของเกาะเขตกันชนนี้เรียกอีกอย่างว่า เส้นสีเขียว (Green Line) ทอดยาว 180 กิโลเมตร (112 ไมล์) จาก Paralimni ทางทิศตะวันออกไปยัง Kato Pyrgos ทางทิศตะวันตก โดยมีส่วนที่แยกออกมาล้อมรอบ Kokkina เส้นแบ่งเรียกอีกอย่างว่า เส้นอัตติลา (Attila Line) ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อรหัสปฏิบัติการอัตติลาของกองทัพตุรกีใน ปี พ.ศ. 2517 ได้สร้างแนวป้องกันทางด้านเหนือของโซน ซึ่งประกอบด้วยรั้วลวดหนาม ส่วนผนังคอนกรีต หอสังเกตการณ์ คูต่อต้านรถถัง และทุ่นระเบิด เขตนี้ตัดผ่านใจกลางกรุงนิโคเซีย โดยแยกเมืองออกเป็นส่วนใต้และตอนเหนือ รวมแล้วครอบคลุมพื้นที่ 346 ตารางกิโลเมตร (134 ตารางไมล์) โดยมีความกว้างตั้งแต่น้อยกว่า 20 เมตร (66 ฟุต) ถึงมากกว่า 7 กิโลเมตร (4.3 ไมล์) หลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) กรุงนิโคเซียยังคงเป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายที่ถูกแบ่งแยกในยุโรป ผู้คนประมาณ 10,000 คน อาศัยอยู่ในหลายหมู่บ้าน และทำงานในฟาร์มที่ตั้งอยู่ในเขต หมู่บ้าน Pyla มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในหมู่บ้านที่เหลือไม่กี่แห่งในไซปรัสที่ Cypriots กรีกและตุรกียังคงอาศัยอยู่เคียงข้างกัน หมู่บ้านอื่นๆ ได้แก่ Deneia, Athienou และ Troulloi บางพื้นที่ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ และยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยของพืชและสัตว์
เขตกันชนในไซปรัสซึ่งแบ่งสาธารณรัฐไซปรัสและสาธารณรัฐตุรกีแห่งไซปรัสเหนือ
Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9