Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

‘สาวสอง’ MV ‘ลิซ่า’ ได้ซีนใหญ่!! โคลสอัปหน้าสะพัดทั่วโลก ทำโลกโซเชียลร้อน!! ไล่ตามตัว 'เป็นใคร?' แม้โผล่เพียงแค่ไม่กี่วิ

(28 มิ.ย. 67) หลังจากที่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ เปิดตัวมิวสิควิดีโอ Rockstar ผลงานโซโล่เดี่ยวครั้งแรกในฐานะเจ้าของค่ายเพลง ก็นับว่าทำถึงจนคนไทยขนลุกไปตาม ๆ กัน

งานนี้มีการใช้ทีมงานชาวไทยเกินครึ่งในการถ่ายทำ ซึ่งบรรดาตัวประกอบและแดนเซอร์ที่ปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอต่างเป็นปลื้มกันถ้วนหน้าที่ได้มีผลงานร่วมกับ ลิซ่า

แต่งานนี้ซีนใหญ่ที่อดพูดถึงไม่ได้คือการปรากฏตัวของ LGBTQ+ ที่เห็นชัดคือสาวข้ามเพศ มีการโคลสอัพหน้าแบบเดี่ยว ๆ ได้ซีนใหญ่ไปเต็ม ๆ จึงเกิดการตามหาตัวขึ้น

โดยสาวคนแรกคือคนที่หลาย ๆ คนนึกว่าเป็นดาราสาว ‘เนย โชติกา วงศ์วิลาศ’ เพราะความสวยกระแทกตาจนไปละม้ายคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วเธอคือ ‘หมอบรูซ-คชิสรา ศรีดาโคตร’ รองอันดับ 1 มิสทิฟฟานีไทยแลนด์ปีล่าสุด จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและนักเพศวิทยาคลินิก ซึ่งยังนับว่าเป็นแพทย์คนแรกที่ได้รับรางวัลของเวทีมิสทิฟฟานีด้วย

ส่วนอีกหนึ่งคนคือ ชินวัตร พรมศรี  หรือ ชินรวดี ปัญญารัศมิ์สกุล ที่หลาย ๆ คนรู้จักเธอในชื่อ ชินนี่ ออฟฟิเชียล, ชินนี่ แบงค็อก และ ชินนี่ ไทยแลนด์ ที่เคยสร้างเสียงฮือฮากับการใส่ชุดนักเรียนชายแต่เดินข้ามถนนแบบสับด้วยจริตตัวแม่ แม้งานนี้เธอจะยังไม่ได้แปลงเพศ แต่ความสวยและจริตตัวมารดาก็ทำเอาเธอสวยจนชาวต่างชาตินึกว่าหญิงแท้กันเลยทีเดียว

และสาวคนสุดท้ายที่แม้จะไม่มีซีนเดี่ยว แต่ก็ได้ซีนรวมตัว เธอคือ กี้ รินทร์ณิญา พุฒิโภคินลักษณ์  ที่เคยเข้าประกวด Miss Tiffany’s Universe ครั้งที่ 25 โดยผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย

กระจ่าง!! แชร์เพลงลิซ่า ‘Rockstar’ แล้วล็อกแอ็กเคานต์ เพราะเฟซบุ๊กไม่ยอมเป็นฐานส่งต่อไปแพลตฟอร์มอื่น

(28 มิ.ย.67) ทำเอาโซเชียลแตกแตนตั้งแต่เช้าเมื่อ ลิซ่า ปล่อยเอ็มวีเพลงใหม่ Rockstar พร้อมกันทั่วโลก จนทำให้คนแห่เข้าไปดูและมีการคอมเมนต์ พูดคุยกันถึงเอ็มวีตัวนี้กันอย่างล้นหลาม และหลายคนก็แชร์เพลงนี้ลงบนเฟซบุ๊ก เพื่อแสดงความสนับสนุน ต่อยอดความปังให้เพิ่มขึ้นทวีคูณ

แต่หลายคนก็ถึงกับเซ็ง เมื่อแชร์เพลง Rockstar ลงไปในเฟซบุ๊กแล้วปรากฏว่าแอคเคาท์ถูกล็อก โดยมีการแจ้งว่าเป็นสแปม (spam) หรือเนื้อหาที่ถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายและจำนวนมากจนอาจจะไปรบกวนผู้อื่น ทำให้หลายคนโอดครวญว่าพี่มาร์คทำไมถึงใจร้าย สั่งล็อกแอ็กเคานต์แบบหน้าตาเฉย ทั้ง ๆ ที่ก็แค่แชร์เพลงที่ชื่นชอบให้เพื่อน ๆ ได้ดู ได้ฟัง มันผิดตรงไหน

สำหรับเรื่องนี้ ‘Worrathasana Wongthai’ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและโซเชียลมีเดีย ได้อธิบายว่า…

"เช้านี้ใครจะแชร์คลิป MV #Rockstar ของ #LISA จาก Youtube ไปบน Facebook ให้ยั้ง ๆ มือก่อนนะครับ เพราะอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กมันมองว่าเป็นสแปมแล้วดำเนินการล็อกแอ็กเคานต์ทันที”

“เรื่องการล็อกแอ็กเคานต์ของคนที่แชร์เอ็มวี Rockstar ของลิซ่าจากยูทูบบนเฟซบุ๊ก อันนี้ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจ เพราะเอ็มวีเป็นกระแสจริง และในเชิงเทคนิคคือ เฟซบุ๊กนอกจากกันสแปมแล้ว ยังมีแนวคิดหวงทราฟฟิกตัวเองด้วย จะไม่ค่อยยอมให้เป็นฐานการส่งต่อไปบนแพลตฟอร์มอื่น"

ทำเอาหลายคนหายสงสัย แต่ก็รู้สึกไม่โอเค เพราะไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร และก็เสียดายที่อดโพสต์เรื่องราวความประทับใจต่าง ๆ บนเฟซบุ๊ก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ปลดล็อกตอนไหน

‘กระทรวงดีอี’ มอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 500 ศูนย์ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน สร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาและแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

วันที่ 27 มิถุนายน 2567  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 500 ศูนย์ทั่วประเทศ ‘โครงการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน’ ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน โดยมีนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , นางอำไพ จิตรแจ่มใส รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนางสาวรัตนา จรูญศักดิ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ตลอดจนผู้บริหารศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 6 แห่ง เข้ารับมอบอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน ณ ห้องประชุม MDES1 ชั้น 9 สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้แทนศูนย์ดิจิทัลชุมชนทั่วประเทศ เข้าร่วมรับมอบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

โดยนายประเสริฐ กล่าวแสดงความยินดีพร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้มีนโยบายที่จะนำพาประเทศไทยก้าวสู่ ‘ไทยแลนด์ 4.0’ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้ให้มีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมทั่วประเทศ

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้ดำเนินโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ที่จัดตั้งอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการสร้างภูมิปัญญาและการเรียนรู้ (Knowledge Base Society) เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของเด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชน สามารถสืบค้นข้อมูล เรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และส่งเสริมการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อีกทั้งยังเป็นการขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ต ทั้งทางด้านข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีไปสู่ส่วนท้องถิ่น ลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการให้บริการของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยมีความมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีการพัฒนาไปข้างหน้าพร้อมกันทุกด้าน ทั้งคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดประโยชน์ กับประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืน

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สดช. ได้จัดให้มี ‘ศูนย์ดิจิทัลชุมชน’ ภายใต้กิจกรรมการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน โครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ดิจิทัลและบุคลากรสนับสนุน เป็นการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับท้องถิ่น ซึ่งกระจายอยู่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่เข้าถึงและมีความสะดวกในการใช้บริการ เช่น วัด มัสยิด ที่ทำการหมู่บ้าน สหกรณ์ องค์กรปกครองส่งท้องถิ่น โรงเรียน ห้องสมุด ค่ายทหาร เป็นต้น เพื่อลดช่องว่างทางด้านดิจิทัลให้กับชุมชน ประชาชนทุกกลุ่มและทุกพื้นที่ให้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และการเชื่อมโลกที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ สามารถใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา การสร้างรายได้ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ในปัจจุบัน กิจกรรมการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน กำลังจะสิ้นสุดสัญญา โดย เอสเอ คอนซอเตียม (SA Consortium) ซึ่งเป็นคู่สัญญา ยินดีสนับสนุนอุปกรณ์ตามโครงการฯ ให้แก่หน่วยงานที่เป็นที่ตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 500 แห่ง

นายภุชงค์ กล่าวว่า  โดยในวันนี้ มีผู้บริหารศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 6 แห่ง เข้าร่วมรับมอบอุปกรณ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ได้แก่  1) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน มูลนิธิออทิสติกไทย , 2) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน เคหะชุมชนบางชัน , 3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชนมัสยิดประเสริฐอิสลาม , 4) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน วัดทองบน , 5) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน วัดกระทุ่มเสือปลา และ  6) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน บางพูนพัฒนา และผู้แทนศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 494 แห่ง เข้าร่วมรับมอบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในชุมชนสามารถใช้บริการศูนย์ดิจิทัลชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถบริหารจัดการศูนย์ดิจิทัลชุมชนได้เองอย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับอุปกรณ์ที่ได้มอบให้กับศูนย์ดิจิทัลชุมชน มีจำนวน 24 รายการ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 5,000 เครื่อง ชุดโปรแกรมติดตั้งคอมพิวเตอร์ จำนวน 5,000 เครื่อง เครื่องพิมพ์ Multifunction จำนวน 500 เครื่อง อุปกรณ์กระจายสัญญาณไร้สาย จำนวน 500 เครื่อง โทรทัศน์ LED TV จำนวน 500 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิทัล จำนวน 500 เครื่อง กล้อง โทรทัศน์วงจรปิดชนิดเครือข่าย จำนวน 500 เครื่อง และชุดสตูดิโอ จำนวน 500 ชุด เป็นต้น

'คลัง' เดินหน้า 'ธนารักษ์เอื้อราษฎร์' มอบสัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน 9 จังหวัด 1,900 ราย 7,000 ไร่ ใน 6 เดือน

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล แถลงข่าวในโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์  มอบสัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ว่า

กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ ต้องการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน และต้องการบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำที่ดินราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า มาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ทำให้เข้าถึงด้านสาธารณูปโภค ระบบสาธารณูปการ และบริการสาธารณะของภาครัฐ ด้วยอัตราค่าเช่าต่ำและผ่อนปรน

ซึ่งการมอบสัญญาเช่าที่ดินจะเกิดขึ้นใน 9 จังหวัด กว่า 1,900 ราย กว่า 7,000 ไร่ ภายใน 6 เดือน ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา 248 ไร่ เชียงราย 273 ไร่ เชียงใหม่ 281 ไร่ นครสวรรค์ 1,120 ไร่ นครพนม 661 ไร่ กาฬสินธุ์ 1,174 ไร่ ปัตตานี 29 ไร่ ราชบุรี 1,500 ไร่ และสุราษฎร์ธานี 2,100 ไร่ ทั้งหมดนี้ได้สั่งการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน 

โดยมี “ค่าเช่าต่ำและผ่อนปรน” ดังนี้ ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย หากไม่เกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.25 บาท/ตารางวา/เดือน หากเกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.50 บาท/ตารางวา/เดือน และหากเป็นที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาท/ไร่/ปี และหากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาท/ไร่/ปี เป็นสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการเช่าของกรมที่ดินให้กับประชาชน แต่สามารถขอเป็นสัญญาเช่า 30 ปีได้ หากผู้เช่าประสงค์

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงการคลังต้องการพลิกชีวิต พลิกคุณภาพชีวิตของประชาชน

'หมอเหรียญทอง' เห็นใจ!! หากถอนจากประกันสังคม กระทบคนนับแสน เสนอ 2 เงื่อนไข 'คู่กรณีต้องย้ายสิทธิออก-เลิกบีบมงกุฎวัฒนะจ่าย 8 หมื่น'

(27 มิ.ย. 67) จากกรณี ‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศเตรียมถอน ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’ ออกจากโรงพยาบาลคู่สัญญากับ ประกันสังคม มีผล 31 ธ.ค. 68 หลังถูกผู้ประกันตนหัวหมอ ไปรักษาที่อื่น แล้วร้องเรียนให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 8 หมื่นบาท โดยโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ เพจเฟซบุ๊ก ‘Mongkutwattana Hospital-โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ’ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา หรือ ‘หมอเหรียญทอง’ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการเตรียมถอนตัวจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมเพิ่มเติม โดยยื่นข้อเสนอให้ ‘ผู้ประกันตน’ คู่กรณีดำเนินการใน 2 เงื่อนไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนนับแสนคน โดยมีรายละเอียดระบุว่า..

“ผมและบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊ก ตลอดจนรับทราบความพึงพอใจของผู้ประกันตนจำนวนมากที่ใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว”

“ทั้งได้รับทราบความเดือดร้อนของผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน หาก รพ.มงกุฎวัฒนะต้องถอนตัวออกจากระบบประกันสังคม”

“ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับทราบว่าผู้ประกันตนจำนวนมากที่ให้กำลังใจผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ท่านทั้งหลายจะต้องเดือดร้อนจากการย้ายสิทธิจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไป รพ.ใหม่ แต่ท่านก็ยังเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความถูกต้อง”

“ผมขอเรียนตามตรงว่าผมรู้สึกเบื่อและท้อกับการใช้อำนาจบังคับจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังเช่น 'คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533' ดังนั้นผมจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับใคร หรือฟ้องร้องใคร และขอใช้ชีวิตอย่างสงบ”

“แต่เมื่อคำนึงถึงผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน ที่จะต้องเดือดร้อนจากผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ 1 ราย และคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ใช้หัวแม่ตีนคิดสั่งการเพียงไม่กี่ตัวแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนนับแสนต้องเดือดร้อน ผมจึงมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ดังต่อไปนี้”

“1. นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จะต้องขอย้ายสิทธิตนเองออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ หรือมิฉะนั้น สำนักงานประกันสังคมจะต้องย้าย นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปขึ้นสิทธิกับ รพ.อื่น”

“2. คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ต้องยกเลิกคำวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ได้แจ้งให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 มีคำสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของ นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จำนวน 80,295.20 บาท”

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อมีการดำเนินการเป็นรูปธรรม ผมจะออกประกาศยกเลิกประกาศการถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมทันที”

“อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามข้อ 2 มักไม่เกิดผล อันเนื่องจากการถือศักดิ์ศรีของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จากการเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ประกันตนจึงควรเตรียมการย้ายสิทธิ์ไปยัง รพ.อื่น ๆ ไว้ล่วงหน้าก่อน อย่าได้คาดหวังอะไรจากคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ เพราะคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้มันยอมไม่ได้จากการถูกด่าที่มาจาก 'เสียงคำรามจากพระเจ้ามาราโดน่า' [Voice of God] พวกคุณท่านมันแค้นพระเจ้ามาราโดน่ามาก ๆ ครับ”

สิ้น ‘ชัยวัฒน์ สถาอานันท์’ อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ. เจ้าของรางวัลศรีบูรพา เสียชีวิตในวัย 69 ปี

(27 มิ.ย. 67) ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความว่า “ศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เสียชีวิต เวลา 10.45 น. วันที่ 27 มิถุนายน มีพิธีศพตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่มัสยิดฮารูน บางรัก สามารถเคารพศพได้ตั้งแต่ 17.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน”

สำหรับ ศาสตราจารย์ ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2498 เป็นศาสตราจารย์ประจำและหัวหน้าสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ในปี พ.ศ.2549 และได้รับรางวัลศรีบูรพา ในปี พ.ศ.2555

เป็นนักวิชาการคนหนึ่งที่มีบทบาทในการเสนอแนวทางเพื่อคลี่คลายความไม่สงบในภาคใต้ของประเทศไทย และเป็นกรรมการภาคประชาสังคมนอกพื้นที่ ในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)

นอกจากนี้ ชัยวัฒน์ ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการ และคณะทำงานฝ่ายจัดการ/บรรณาธิการ ของโครงการจัดพิมพ์คบไฟ มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาธิปไตยและการพัฒนา ซึ่งเป็นโครงการจัดพิมพ์ที่พิมพ์เผยแพร่หนังสือวิชาการทั้งของนักวิชาการไทยและต่างประเทศ ตลอดจนวรรณกรรมชั้นดีจากต่างประเทศ เป็นจำนวนมากมายอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แสวงหาความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล มุ่งแก้ไขความเดือดร้อน สร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืนแก่ประชาชนและสังคม

ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่มุ่งให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทุกประเภท ซึ่งทวีความรุนแรง เป็นภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอันมาก สมควรที่จะแสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมบูรณาการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน ในระดับพหุภาคีและระดับสากล จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.(มค) เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.ต.ท.อภิชาติ สุริบุญญา ผบช.กมค., พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านต่างประเทศ, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.ตท., พ.ต.อ.พงษ์เดช คำใจสู้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ป.ป.ส., กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม เดินทางไปร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 24 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (The 24th ASEAN Senior Officials Meeting on Transnational Crimes) (SOMTC) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 - 28 มิ.ย.67 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมกับผู้แทนจากชาติสมาชิก 21 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ (ประเทศคู่เจรจา SOMTC+3) ออสเตรเลีย และแคนาดา โดยมี พล.ต.ท.กงทอง พงวิจิด รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และ พล.ต.ต.สุลินะ แก้วปะเสิด ปลัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้การต้อนรับ

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.(มค) เปิดเผยว่า การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (SOMTC) ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการภายใต้ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ซึ่งเป็นเสาหลักที่ 1 จาก 3 เสาหลักของอาเซียน เพื่อป้องกันและต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติที่มีอยู่และเกิดขึ้นใหม่ และเน้นการติดตามผลตามแผนงานความร่วมมือ การประสานงานข้ามภาคส่วนและระดับ พหุภาคี การยกระดับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาข้างต้นและประเทศผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้ความร่วมมือป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ใน 10 สาขา ได้แก่ การลักลอบค้าอาวุธ การก่อการร้าย การฟอกเงิน การละเมิดลิขสิทธิ์ทางทะเล การลักลอบขนคนโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การลักลอบค้ายาเสพติด และการลักลอบค้าไม้และสัตว์ป่า โดยประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำในการป้องกันปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติด และการลักลอบค้าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งทุกประเทศที่ร่วมประชุมได้ร่วมติดตามผลการปฏิบัติและพร้อมดำเนินการตามแผนความร่วมมือ ผลการประชุมหารือเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ในประเทศไทย มีการฉ้อโกงออนไลน์และการหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ ผนวกกับการหลั่งไหลของทุนจีนเข้ามาในภูมิภาค โดยคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์มีจำนวนมากถึงร้อยละ 70 ของคดีที่ได้รับแจ้งทั้งหมด ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ใช้เทคโนโลยีและประสานองค์การตำรวจสากลให้การสืบสวนและการจับกุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับการค้ามนุษย์และลักลอบขนคน ในปัจจุบันมีเหตุปัจจัยกระตุ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลาง ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย และการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต้องปรับตัวให้เท่าทันเพื่อแก้ไขปัญหา สำหรับการลักลอบค้ายาเสพติด ประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านยาเสพติดเพื่อประชาคมที่มั่นคงของอาเซียน พ.ศ.2559 - 2568 และเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์ความร่วมมืออาเซียนด้านยาเสพติด (ASEAN-NARCO) เป็นหน่วยงานกลางประสานความร่วมมือ ปัจจุบันประเทศไทยสามารถจับกุม และตรวจยึดของกลางยาเสพติดได้ในจำนวนมากขึ้น ในขณะที่ราคาขายปลีกมีแนวโน้มลดลง สำหรับการลักลอบค้าไม้และสัตว์ป่า มีการนำเทคโนโลยีระบบ นิติวิทยาศาสตร์ด้านพันธุกรรม DNA มาใช้เพื่อระบุตัวตน และจำแนกแหล่งที่มาของสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้งนี้ การบริหารจัดการชายแดนแบบเชิงรุก ทำให้คดีและผู้กระทำผิดลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ ยังได้กล่าวขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ที่ให้ความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญของไทย พร้อมทั้งบริหารจัดการส่งตัวผู้ต้องหากลับประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นรูปแบบความร่วมมือที่เป็นแบบอย่าง โดยประเทศไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกประเทศสมาชิก ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงทั้งในและระหว่างภูมิภาค ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทั้งในระดับพหุภาคีและระดับสากล เคียงข้างและร่วมมือกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาความมั่นคงทุกประเภท นำไปสู่ความสำเร็จในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทในภาพรวม เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย มีสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร” ผู้ช่วย ผบ.ตร.เน้นย้ำเคารพกฏเพื่อลดอุบัติเหตุ “จราจรสอนวินัยชาติ”

วันนี้ (27 มิ.ย. 67) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้แทน สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 , คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้แทน สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ ที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น 20 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ โดย “จราจรสอนวินัยชาติ” โครงการนี้ทำให้กระตุ้นเตือนภาคประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนให้มีความระมัดระวัง ทุกวินาทีมีผู้เสียชีวิตได้เสมอ และต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกองค์กรที่ร่วมสนับสนุนโครงการมาโดยตลอด นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้ แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ ยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ต้องการไปจับกุมใคร หรือให้ใบสั่งใคร แต่จะเน้นการเตือน จดชื่อ-นามสกุล หมายเลขทะเบียนรถ เก็บไว้ในระบบ หากพบการกระทำผิดเกิน 3 ครั้ง จึงจะดำเนินการจับปรับ ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมนั้นจะสามารถตรวจสอบประวัติของตนเองได้ด้วย ตำรวจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเรื่องของการควบคุมและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุคือความเสี่ยง ที่อาจสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้

และในช่วงนี้เป็นช่วงเปิดภาคการเรียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพิ่มความระมัดระวังในขณะขับขี่บริเวณโดยรอบสถานศึกษา โดยเฉพาะบริเวณทางข้าม หรือ ทางม้าลาย ขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ลดความเร็วในการขับขี่ ชะลอความเร็วเมื่อเข้าเขตทางข้าม และหยุดรถให้ นักเรียน นักศึกษา และคนเดินเท้า ทุกครั้ง สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ปกครอง และเยาวชนให้สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยขอให้สถานศึกษาทุกแห่งมีมาตรการกระตุ้นเตือน จัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ใช้รถใช้ถนนตามกฎแห่งความปลอดภัย

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง  เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

สื่อมวลชนได้ 'เฮ' นายก 2 สมาคมฯ 'ไชยยงค์' ได้รับเลือกตั้ง สว. สื่อมวลชนได้รับอนิสงค์

วันนี้ 27 มิถุนายน 2567 รายงานจากสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ( สนต.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่ามีสมาชิกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ และ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สนพท.)หลายร้อยคนได้ร่วมแสดงความยินดีกับนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมฯทั้ง 2 สมาคมฯ  ที่ได้รับความไว้วางใจด้วยการเลือกเป็นว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งมีเพื่อนร่วมวิชาชีพสื่อสารมวลชนในกลุ่ม 18 อีก 9 คน

นายไชยยงค์ฯ เปิดเผยว่า การเลือกตั้ง สว.ปี 67 เหนื่อยต้องใช้ความอดทนสูง กว่าผ่านด่านแต่ละด่านอยากเย็นแสนเข็นมาก เมื่อได้รับความไว้วางใจจากผู้สมัคร สว.ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพแล้ว จะทำหน้าที่ในสภา ตามบทบาทและหน้าที่ที่กฏหมายกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุด ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และผู้อยู่ในแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชนให้มีสวัสดิภาพ และสวัสดิการเช่นเดียวกับวิชาอาชีพอื่นๆ

“โดยเฉพาะปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตนคลุกคลีพื้นที่มา 20 กว่าปี เพื่อสะท้อนให้รัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐรับรู้ในบางสิ่งบางอย่าง เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ด้วยการนำเอาความรู้และประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงการวิชาชีพสื่อมวลชนมา 40 กว่าปี”

‘ครม.’ มีมติปรับเงื่อนไขชดใช้ทุน ‘นักเรียนทุน จ.ภ.’ สถาบันโคเซ็น ญี่ปุ่น เตรียมปฏิบัติงานตามผู้ให้ทุนกำหนด หลังสำเร็จการศึกษา

(27 มิ.ย. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอดังนี้...

1. เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (นักเรียนทุน จ.ภ.) ระยะที่ 2 โดยผู้รับทุนจะเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานชดใช้ทุน หรือหน่วยงานของรัฐที่ผู้ให้ทุนกำหนด และรับเดือนตามที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนตามสัญญา โดยหน่วยงานชดใช้ทุน ให้หมายความรวมถึงภาคอุตสาหกรรมสถาบันไทยโคเซ็น และหน่วยงานของรัฐ ภาคอุตสาหกรรมให้หมายความถึง ภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพและกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคตในประเทศไทย โดยไม่จำกัดภูมิภาคในประเทศไทยและไม่จำกัดสัญชาติของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร ให้หมายความถึง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ กองทุนที่เป็นนิติบุคคล หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ และหน่วยงานที่มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐ

2. เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุน จ.ภ. ระยะที่ 1 โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุน จ.ภ. ระยะที่ 2 ตามข้อ 1. เนื่องจากเป็นการให้ทุนการศึกษาในลักษณะเดียวกันกับการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนทุน จ.ภ. ไปศึกษาต่อ ณ National Institute of Technology (KOSEN) ของประเทศญี่ปุ่น (สถาบันโคเซ็น)

“คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (นักเรียนทุน จ.ภ.) ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่งผู้รับทุนจะเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานชดใช้ทุนหรือหน่วยงานของรัฐที่ผู้ให้ทุนกำหนดและรับเงินเดือนตามที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนตามสัญญา โดยหน่วยงานชดใช้ทุน ให้หมายความรวมถึงภาคอุตสาหกรรม สถาบันไทยโคเซ็น และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เพื่อให้เงื่อนไขการชดใช้ทุนของนักเรียนทุน จ.ภ. ทั้ง 2 ระยะ ซึ่งเป็นทุนประเภทเดียวกันมีแนวทางเหมือนกันและเป็นการขยายสถานที่การปฏิบัติงานเพื่อรองรับนักเรียนทุน จ.ภ. ที่สำเร็จการศึกษาให้สามารถเข้าปฏิบัติงานได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเพื่อให้การจัดสรรทุนดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการกำลังคนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มีความรู้ ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ” นายคารม กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top