Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

'อัษฎางค์' มอง 'LISA-Rockstar' วางแผนมาดี ตี 3 ตลาดหลักของโลก 'ชาวจีนนับพันล้านคน-ตลาดเพลงญี่ปุ่น-ตลาดเพลงภาษาอังกฤษ'

(28 มิ.ย. 67) เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิเคราะห์การเปิดตัวเพลงล่าสุดของ 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล กับ เพลง Rockstar โดยระบุว่า...

เปิดมาแค่เพลงเดียว 'กินเรียบทั่วโลก'

เริ่มจากไทย กับท่อนที่ว่า...
"My BKK so pretty!"
(กรุงเทพฯ ของหนูสวยงามบานฉ่ำ)

อย่าลืมภาพจากเยาวราช China Town 
โกยหัวใจตี๋หมวยกว่าพันล้านคน

กระโดดต่อไปที่ญี่ปุ่น กับท่อนที่ว่า 
"Lisa, can you teach me Japanese? I said,はい, はい" 
(ลิซ่าสอนพูดภาษาญี่ปุ่นให้หน่อย ลิซ่าตอบ ได้สิ ๆ เป็นภาษาญี่ปุ่น)

แต่อย่าลืมว่า เนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ ภาษากลางที่คนทั้งโลกรู้จัก 
“Every city that I go is my city”
(ทุกที่ที่หนูไปคือบ้านของหนู) กวาดใจไปทั้งโลกเรียบร้อย

แถมยังไม่ลืมหวานใจสปอนเซอร์หัวใจ
”Tight dress, LV sent it“
(ชุดสวย ๆ ของหนู LV เขาส่งมาให้น่ะ)

“That's my life, life, baby, I'm a rockstar” 
นี่แหละคือชีวิตของหนู หนูคือร็อกสตาร์

ตลาดเพลงไทยไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่เป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ให้น้องลิซ่า
ตลาดแฟนเพลงชาวจีนนับพันล้านคน
ตลาดเพลงญี่ปุ่น ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
ตลาดเพลงภาษาอังกฤษ ใหญ่ที่สุดในโลก
คิดดูว่า เธอวางแผนมากดีขนาดไหน กินเรียบไปทั้งโลก

เปลี่ยนความ 'เป็นรอง' ให้ 'เป็นพลัง'
เปลี่ยน 'ศัตรูที่แข็งแกร่ง' ให้ 'เป็นพลังขับเคลื่อน'
เปลี่ยน 'ใจ' ของผู้คน ด้วย 'ความดี'
เปลี่ยนชะตาชีวิตได้ ด้วย 'ความเป็นไทย'

และนี่คือ 'Lisa The Rockstar'

ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution แจงรอบที่ร้อยแปด แอนิเมชันนี้ไร้ทุนหนุน-ตั้งใจทำก่อนเกิดม็อบสามนิ้วเสียอีก

สื่อต่างประเทศรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ได้มาสัมภาษณ์ คุณวิวัธน์ จิโรจน์กุล ผู้กำกับ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ โดยถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับ แอนิเมชัน และ ยังมีคำถามเกี่ยวกับการเมืองปัจจุบันเข้ามาด้วย

แต่เนื่องจากเวลาผ่านมากกว่า 50 วันแล้ว แต่บทสัมภาษณ์นั้นยังไม่ได้รับการเผยแพร่ ทางทีมงาน 2475 Dawn of Revolution จึงขอเรียบเรียงเนื้อหาการสัมภาษณ์ในวันนั้น มาเผยแพร่ในเพจ เพราะเป็นประเด็นที่น่าสนใจและคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมครับ

>> โดยคำถามที่เกี่ยวข้องกับแอนิเมชัน มีดังนี้

สื่อตปท. : งบประมาณที่ใช้ทำแอนิเมชันมาจากกองทัพใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : แอนิเมชันนี้ไม่ได้งบประมาณจากกองทัพ ไม่ได้รับเงินสนับสนุนใด ๆ จากรัฐบาล แต่ไม่ปฏิเสธว่า บริษัทเรารับทำงานสารคดีให้ความรู้ และ งานสื่อการสอนให้กับกองทัพ ซึ่งเป็นงานคนละส่วนกับแอนิเมชัน ซึ่งตามที่สื่อฯบางรายได้นำมาเผยแพร่ ก็พบว่าตกปีละไม่ถึง 1 ล้านบาท และเป็นงานเล็ก ๆ TOR ละ 1 แสน - 4 แสน ไม่สามารถนำงบฯมาทำผลิตแอนิเมชันขนาดนี้ได้อยู่แล้ว และนอกจากนี้ บริษัทของเรายังรับทำเพลงโฆษณา ทำการตลาด ทำแบรนด์ดิ้ง ซึ่งเราก็เอาเงินส่วนตัว เงินระดมทุน และรายได้จากงานต่าง ๆ มาใช้ในการทำงาน แอนิเมชันเรื่องนี้ จึงมาจากเงินเอกชนคนไทยล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐบาลใด ๆ ถ้ารัฐสนับสนุนจริง พวกผมคงไม่ต้องมาขายเสื้อ ขายหนังสือกันหรอกครับ

สื่อตปท. : การที่ม็อบเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องภารกิจคณะราษฎร ทำให้คุณตัดสินใจทำแอนิเมชันเรื่องนี้ใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : เราคิดเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้วครับ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้มาทำบริษัทด้านโปรดักชันเลยด้วยซ้ำ แอนิเมชันเรื่องนี้เราเก็บข้อมูลมา 5 ปี แล้วใช้เวลาทำอีก 3 ปี มันต้องใช้เวลาไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำออกมาได้ ตอนทำเราก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราคิดว่าทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว ทำจนเงินหมดก็ต้องทำต่อ เพราะงานมันต้องทำให้เสร็จ จะล้มกลางทางไม่ได้

นั่นคือเราคิดมาก่อนที่จะเกิดม็อบพวกนี้เสียอีก แต่สิ่งที่ม็อบเขาขับเคลื่อน เช่น คุณไปจัดงานวันเกิดให้จอมพล ป. หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชิดชูเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่อีกสักพัก คุณเพนกวินเอารูปจอมพล ป.มาเผา บอกว่าเชิญวิญญาณเผด็จการมาไล่เผด็จการ ผมก็ดูขำ ๆ นะ เด็กพวกนี้มันครีเอตดี แต่นี่แหละครับ มันยืนยันว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย

>> ต่อมาสื่อตปท.ได้ถามคำถามที่เกี่ยวกับการเมืองไทย

สื่อตปท. : ถามเรื่องกระแสความสนใจพรรคก้าวไกลของวัยรุ่น ที่ทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ผกก.2475 ตอบ : เปลี่ยนแปลงเหรอ ผมยังไม่เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเลย พรรคก้าวไกลเองก็ไม่ได้ทำการเมืองใหม่ ถ้าพรรคก้าวไกลบอกว่าเป็นความหวังใหม่ กล้าชนทุกอย่าง แต่ทำไมจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น แม้กระทั่งธนาธรเองก็บอกว่า ‘เพื่อไทยเป็นมิตร’ และบอกออกสื่อฯว่า จำเป็นต้องจับมือเพื่อไทยในครั้งหน้า เพราะเหตุนี้หรือเปล่า พรรคก้าวไกลจึงไม่คัดค้านเรื่องข้าว 10 ปี ยอมปล่อยผ่าน มองข้ามความเสียหายของประเทศ และผลกระทบต่อประชาชน เพื่อหวังผลประโยชน์ของในการร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะเรียกการเมืองใหม่ได้เหรอ ผมว่าไม่นะ

สื่อตปท. : คุณไม่อยากให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาลใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : ส่วนตัวผมอยากให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยรวมรัฐบาลกันได้ด้วยซ้ำ ผมไม่มีปัญหาอะไร ถ้าพรรคก้าวไกลรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็ต้องได้เป็นรัฐบาล เพราะ เสียงประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแบบนั้น แต่ผมก็รู้ว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ เขามีทางเลือก ถ้าเขารวมกับก้าวไกล เขาก็เป็นผู้ตาม ได้แค่กระทรวงรอง ๆ แต่ถ้าเขาตั้งรัฐบาลเอง เขาก็จะเป็นผู้นำ และได้กระทรวงหลัก ๆ จริงไหมครับ และที่สำคัญ พรรคก้าวไกลเกือบได้เป็นรัฐบาลแล้วนะ เพราะพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะยกมือให้ ขอแค่ถอยเรื่อง แก้ไข ม.112 นั่นคือ เงื่อนไข สว.จะไม่มีผลเลย เพราะเสียงคุณมากพอที่จะชนะในสภา

แต่ พรรคก้าวไกลกลับดึงดันที่จะแก้ไข ม.112 ทั้ง ๆ ที่คนที่เลือกก้าวไกล ไม่ได้มีคนเลือกเพราะนโยบาย ม.112 เท่านั้น แต่ยังมีนโยบายเงินเดือนผู้สูงอายุ นโยบายแรงงานอื่น ๆ เมื่อพรรคก้าวไกลบอกว่าจะไม่ทรยศอุดมการณ์ ไม่ล้มเลิกแก้ ม.112 ผมว่าไม่เมกเซนส์เท่าไหร่ เพราะการแก้ ม.112 เนี่ย ได้ประโยชน์กันไม่กี่คนเองนะครับ คือถ้าผมเป็นพิธา ผมจะบอกฐานเสียงว่า ‘การแก้ ม.112 เป็นอุปสรรคในการนำพานโยบายเพื่อประชาชนอื่น ๆ ไปทำให้เกิดผล ดังนั้น ผมจะขอถอยเรื่องแก้ ม.112 ไปก่อน เพื่อให้เราได้มีโอกาสในการบริหารบ้านเมือง เพราะยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ประชาชนรอไม่ได้ ส่วนเรื่องความขัดแย้ง และนักโทษคดีการเมือง ผมขอให้คำมั่นว่า ผมจะหาทางใช้กลไกสภาในการเยียวยาแก้ไข’ เท่านี้คุณก็หล่อ ฐานเสียงเข้าใจได้ เพราะเขาต้องมองว่า อย่างน้อยได้อำนาจมาก่อน อย่างอื่นไว้ขับเคลื่อนทีหลังได้ แต่คุณเลือกที่จะไม่ยอมไง พอคุณไม่ยอม เพื่อไทยเขาก็อ้างความชอบธรรมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งได้เลย

ทำให้ผมมองว่า จริง ๆ แล้วก้าวไกลไม่อยากเป็นรัฐบาลในตอนนี้รึเปล่า เลยออกมามุมนี้

สื่อตปท. : คุณคิดเห็นอย่างไรกับการยุบพรรคก้าวไกล

ผกก.2475 ตอบ : กฎหมายยุบพรรคมันมีอยู่มาก่อน ถ้าพรรคก้าวไกลคิดว่าไม่ผิดก็สู้คดีกันไป แต่พรรคก้าวไกลเขาบอกตลอดเวลาว่า เขาไม่กลัวโดนยุบ เพราะยิ่งยุบก็ยิ่งโต ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองก็เคยผ่านการโดนยุบมา 3 ครั้ง (ไทยรักไทย / พลังประชาชน / ไทยรักษาชาติ) ทุกวันนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังอยู่ ตอนอนาคตใหม่โดนยุบ เขาก็ย้ายมาพรรคก้าวไกล ถ้าโดนยุบอีก ก็แค่ตั้งพรรคใหม่แล้วสู้กันต่อ ดังนั้นต่อให้ยุบไป ก็ทำลายอุดมการณ์ก้าวไกลไม่ได้

แต่สิ่งเดียวที่จะทำลายพรรคก้าวไกล ก็คือ การไม่รับฟังความเห็นต่าง ไม่เอาคนเห็นต่าง เพราะ ประชาธิปไตย คือพื้นที่ให้คนเห็นต่างมาหาทางออกร่วมกัน การดื้อรั้นเอาแต่ความคิดตัวเองไม่สนไม่ฟังคนอื่น แบบนั้นเป็นเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย

สื่อตปท. : คุณเห็นว่า มาตรา 112 มีปัญหาหรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : คุณทราบไหมว่า เพราะเหตุการณ์ 6 ตุลา จึงจำเป็นต้องทำให้ มาตรา 112 แรงขึ้น ถ้าไม่มีกฎหมายนี้คุ้มครองไว้ ก็อาจจะทำให้คนไทยโกรธแค้นออกมาทำร้ายทำลายกันอีก และจริงๆ แล้ว มาตรา 112 ไม่ได้มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปเลย ไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันใดๆ เพราะมันคือกฎหมายที่คุ้มครองบุคคล ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับความเป็นสถาบันหลักของชาติ ถ้าคุณวิจารณ์โดยสุจริต ไม่ได้ไปหมิ่นประมาทใส่ร้าย คุณก็ไม่มีความผิด อาจารย์มหาลัย วิจารณ์สถาบันฯ ตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นจะโดนอะไร แต่ชอบชี้นำให้เด็ก ๆ ไปหมิ่นแทน ด้วยการให้ข้อมูลบิดเบือน ข้อมูลที่บอกไม่ครบ เพื่อให้เด็กหลงเชื่อไปในทิศทางที่ต้องการ ยืมปากเด็กให้ออกมาพูดในสาธารณะจนโดนคดี 112

คุณคิดว่าปัญหาของ ม.112 แท้จริงคืออะไรล่ะ คุณชอบบอกว่า กฎหมายมันมีปัญหา แต่ผมมองว่า ตัวปัญหาจริง ๆ คือคนที่สุมหัวกันหลอกเด็กเหล่านี้ รวมทั้งพวกที่หนีคดีอยู่เมืองนอก ที่ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก กลุ่มแชท ปล่อยเฟกนิวส์สถาบันฯ พวกลี้ภัยอยู่เมืองนอกปั่นข่าวกันโดยไม่รับผิดชอบเพราะกฎหมายไทยไปไม่ถึง ส่วนเด็กที่หลงเชื่อก็นำเฟกนิวส์เหล่านี้ออกไปโพสต์ เอาไปพูดบนเวทีเพื่อโจมตีสถาบันฯ จนโดนคดีตาม ๆ กันไป ผมจึงขอถามกลับว่า คุณคิดว่าปัญหาคือ ตัวกฎหมาย หรือ คนที่เอาข้อมูลมาหลอกเด็กไปทำผิด 112 ที่ต้องรับผิดชอบ

สื่อตปท. : คุณคิดว่าบทลงโทษ 3-15 ปี ไม่รุนแรงไปหรือ?

ผกก.2475 ตอบ : ผมคิดว่ากำลังพอดี เพราะตามกฎหมายไทย ถ้าคุณผิดกระทงเดียว คุณรับสารภาพ สำนึกผิด ศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่งคือ 1.5 ปี ซึ่งเมื่อโทษไม่ถึง 2 ปี ไม่เคยทำผิดมาก่อน คุณก็แค่รอลงอาญา ไม่ต้องติดคุก แต่ถ้าคุณทำผิดซ้ำ ๆ คุณก็รับโทษมากขึ้น

ตัวผมเองเห็นใจเด็ก ๆ ที่โดนคดี 112 ก็อยากจะหาหนทางเยียวยานะ แต่ กฎหมายมันมีอยู่ก่อน ถ้าคุณไม่ไปทำผิดซะเอง ม.112 ก็ทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าเมืองไทยมีความประนีประนอมอยู่ ถ้าคุณยอมรับผิด สำนึกผิดจริง ๆ ประพฤติดี กลับตัวกลับใจ คุณก็มีโอกาสขออภัยโทษ คุณก็จะได้ออกมาเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไปทำผิดกฎหมายแต่บอกกฎหมายผิด ต้องยกเลิกกฎหมาย แบบนี้ผมไม่เห็นด้วย

สื่อตปท. : แล้วการที่แค่วิจารณ์แล้วต้องติดคุก มันเหมาะสมหรือไม่?

ผกก.2475 ตอบ : คุณเคยเห็นป้ายที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง และปลุกระดมให้ล้มล้างสถาบันฯในม็อบหรือไม่ (สื่อตปท.ยอมรับว่ามี) นั่นคือผลของการหมิ่นประมาทใส่ร้ายสถาบันฯ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “แค่วิจารณ์” มีนักวิชาการมากมายที่วิจารณ์สถาบันตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่โดน 112 แต่การที่เอาเรื่องเท็จไปปลุกปั่นให้เกลียดชังสถาบันฯ จนออกมาก่อม็อบชูป้ายล้มล้างสถาบันฯ คุณก็ต้องได้รับโทษ สมเหตุสมผลอยู่แล้ว

ดังนั้น เรื่องอะไรที่คุณฟังคนนั้นคนนี้มา คุณไม่มีหลักฐาน พิสูจน์ไม่ได้ ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าจริงหรือเท็จ คุณก็แค่อย่าเอาไปพูด ไปโพสต์ แต่ถ้าคุณเอาไปเผยแพร่ต่อ จนเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น คุณก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น จะมาบอกว่าไม่ผิดไม่ได้

สื่อตปท. : แล้วคุณคิดเห็นอย่างไร? ที่หลายฝ่ายมองว่า ม.112 ละเมิดสิทธิมนุษยชน

ผกก.2475 ตอบ : สิทธิมนุษยชน ควรปกป้องผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ปกป้องผู้กระทำผิด พวกคุณมองสถาบันกษัตริย์ ก็เป็นปุถุชนใช่หรือไม่ ถ้าคุณมองว่า ‘ทุกคนเป็นคนเหมือนกัน’ กษัตริย์ก็ต้องมีสิทธิมนุษยชนเช่นกัน ต้องได้รับการคุ้มครองจากการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ไม่จริงหรือ แม้แต่คนธรรมดายังมีกฎหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง กษัตริย์ที่เป็นสถาบันความมั่นคงของประเทศ ก็จำเป็นต้องมี ยิ่งในตอนนี้ มีผู้ไม่หวังดีจากต่างประเทศคอยเผยแพร่ข่าวปลอมให้เด็ก ๆ หลงเชื่อ เพื่อให้ออกมาก่อม็อบต่อต้านสถาบันฯ จนเกิดความวุ่นวาย ทำให้ ม.112 เป็นสิ่งจำเป็นด้วยซ้ำ
สื่อตปท. : แล้ว มุมมองประชาธิปไตยของคุณเป็นอย่างไร?

ผกก.2475 ตอบ : ประชาธิปไตยคือพื้นที่ที่คนหลากหลายความคิด เข้ามาหาทางออกด้วยกัน จะเอาแต่ใจกันอย่างเดียวไม่ได้ เหมือนบทสรุปช่วงท้ายของแอนิเมชันที่เรายกพระราชดำรัสของ ร.๗ มา ว่าทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน อย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ต้องลืมความขัดแย้งเพื่อชาติ

และผมอยากให้ประชาชนทำตัวให้สมกับเป็นเจ้านายนักการเมือง เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ต้องคอยจับตาดูนักการเมือง ไม่ว่าจะฝั่งไหน เพราะนักการเมืองคือคนที่ต้องทำงานรับใช้ประชาชน ถ้านักการเมืองที่เราเลือกมาทำไม่ดี เราก็ต้องคัดค้าน ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยไปเสียทุกเรื่อง ทุกวันนี้ นักการเมืองที่ชอบ ทำอะไรผิด คนก็พร้อมจะแบก พร้อมจะแก้ตัวให้ แบบนี้ นักการเมืองเลยได้ใจ ไม่ต้องเกรงใจประชาชน เพราะประชาชนคอยแบกตลอดเวลา

***** หมายเหตุ *****
ขอสงวนชื่อสื่อฯ เพราะเราต้องการนำเสนอแค่ประเด็นคำถาม
ไม่ต้องการให้วิจารณ์ไปถึงสำนักข่าวนั้น

>> พื้นที่ขายของ
 เปิดพรีออเดอร์ 
หนังสือการ์ตูน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

โอนเงินสั่งจองได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย
ชื่อบัญชี บจก.นาคราพิวัฒน์
เลขที่บัญชี 1518061840

>> สั่งจองหนังสือ โดยส่งข้อมูลตามแบบฟอร์มได้ที่
https://forms.gle/Ls647MmQh39qmXYD8

** หากจองผ่าน Form ไม่ได้ ให้ติดต่อทาง inbox เพจนะครับ **

 การระดมทุนเพื่อการบริจาค 
*** บริจาคเป็นยอดเงิน ไม่มีขั้นต่ำ ***
เพื่อสมทบทุนในการผลิตหนังสือส่งมอบให้สถานศึกษา

โดยท่านสามารถร่วม ‘บริจาคเงิน’ ได้ที่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ชื่อบัญชี บจก.นาคราพิวัฒน์
เลขที่บัญชี 2651412698

โดยแจ้งยอดเงิน และหลักฐานการโอนได้ที่
https://forms.gle/CHNEPq6TpJ9aLnnBA

ทีมงานจะนำยอดเงินบริจาคไปสมทบทุนในการผลิตหนังสือ เพื่อนำไปบริจาคให้สถานศึกษา และ ห้องสมุดต่าง ๆ ต่อไป

รายละเอียดเพิ่มเติม
http://2475animation.com/?p=23

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Facebook : 2475 Dawn of Revolution
Email : [email protected]

'ลูกยางโลก' ชม 'ไทย' จัดศึก VNL รอบชิงดีเยี่ยม มอบไทยเจ้าภาพจัดแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีหน้า

(28 มิ.ย. 67) ‘บิ๊กสมพร’ หรือ ‘นายสมพร ใช้บางยาง’ นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลโลก ชื่นชมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 (VNL2024) รอบชิงชนะเลิศ (ไฟนัลส์) เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมไปถึงแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยที่เข้าชม และให้กำลังใจทีมที่เข้าแข่งขันทุกทีม ทุกวัน แม้ว่าทีมไทยจะไม่ได้แข่งขันด้วย แต่ก็ยังมาเชียร์ทีมอื่น ๆ

นายสมพร กล่าวอีกว่า สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกนั้น ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลโลก จะให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีหน้า เพราะเห็นศักยภาพความพร้อม รวมทั้งความสนใจของแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยที่มีเป็นจำนวนมาก จากการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก ครั้งนี้ ซึ่งสมาคมจะได้หารือกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป

“สรุปการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก จากผู้คุมการแข่งขัน และ ดร.อารี การ์ซา ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ที่มาชมการแข่งขันในครั้งนี้ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ชื่นชมประเทศไทย 2 เรื่อง อย่างแรกคือ การจัดการแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานสากล และเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน บุคลากรด้านต่าง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี”

“อีกส่วนคือผู้ชมการแข่งขัน ไม่คิดว่าหลังจากที่ไทยตกรอบแล้ว วันอื่น ๆ จะมีคนมาเข้าชมเต็มสนามเหมือนทีมไทยแข่งขัน รวมไปถึงวัฒนธรรมการเชียร์ของไทย ที่ให้กำลังใจนักกีฬาทุกทีม ไม่มีการโห่ หรือรบกวนนักกีฬา เวลาเสิร์ฟก็เงียบ เวลาสนุกก็สนุกกันเต็มที่ หาไม่ได้ในโลก นี่เป็นสิ่งที่ไทยได้รับคำชม ทั้งนี้ก็อยากจะจัดวอลเลย์บอลระดับโลก โดยในครั้งนี้เราก็พยายามจะสอดแทรก ซอฟต์พาวเวอร์ เช่นมอบของที่ระลึกให้กับนักกีฬาเป็นตุ๊กตาช้างทำจากผ้าขาวม้า เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมทุกทีม หลายทีมมาขอเพิ่ม”

นายกลูกยางไทยกล่าวอีกว่า ส่วนนักกีฬา เราก็อยากจะให้ผ้าไทยได้รับการเผยแพร่ จึงใช้มาทำชุดเชิญเหรียญให้นักกีฬาของไทยจำนวน 8 คน ซึ่งผ้าที่ใช้ก็เป็นผ้าจาก 4 ภาค ออกแบบตามสไตล์ของแต่ละภาค สิ่งเหล่านี้สมาคมได้หารือกับสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ขอโอกาสตรงนี้ได้วัฒนธรรมของไทย การแสดงในสนาม การแสดงชื่นชม ยินดีด้วยกลองยาว เราได้ขอให้เราได้แสดงสิ่งเหล่านี้ เราได้รับความร่วมมือด้วยดีในระดับหนึ่ง ต้องขอบคุณแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย ที่ได้ให้กำลังใจนักกีฬาที่มาร่วมการแข่งขัน ทุกทีมชื่นชมตั้งวันแรกที่ถึงไทย มีแฟนวอลเลย์บอลไปต้อนรับที่สนามบิน รวมไปถึงที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจ ต้องขอบคุณแฟนวอลเลย์บอลที่มาชมที่สนาม หรือชมการถ่ายทอดสด ความสำเร็จครั้งนี้ก็เป็นของคนไทยที่เป็นเจ้าภาพ”

“ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมไปถึงผู้สนับสนุนทั้งทางภาครัฐ และเอกชน ที่มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ จากการที่เราให้บริษัทประเมินมูลค่าในการลงทุน ซึ่งผลออกมาก็คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้านการจ้างงาน ด้านการท่องเที่ยว เป็นตัวเงินกว่า 1200 ล้านบาท จากการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เป็นตัวเงินที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้สนับสนุนให้กับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลในการจัดการแข่งขัน นอกจากนี้ เรายังได้ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาชาวโลก ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากทุกฝ่าย”

นายสมพรกล่าวในตอนท้ายว่า “ในส่วนของการติดตามชมการถ่ายทอดสทางช่อง 7 ปรากฏว่ามีเรตติ้งที่สูงมาก สูงกว่า 6.9 มีผู้ชมมากกว่า 3 ล้านคน ส่วนแมตช์อื่น ๆ ที่ไทยไม่ได้แข่งผู้ชมไม่ต่ำกว่าล้านทุกแมตช์ เป็นตัวบ่งบอกถึงความสนใจกีฬาวอลเลย์บอลของแฟนชาวไทย ขอบคุณแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยที่ติดตามชม ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ข้อคิดเห็น รวมไปถึงขอบคุณสื่อมวลชน และขอโทษบางท่านที่ไม่สามารถเข้าไปทำข่าวได้ เนื่องจากข้อจำกัดของเอฟไอวีบี ในครั้งต่อไปจะพยายามทำความเข้าใจกับเอฟไอวีบีในการขอโควตาสื่อมวลชนให้มากขึ้น”

“ผลพวงจากความสำเร็จในครั้งนี้ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติก็หวังให้เราเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ในปีหน้า ทางสมาคมจะพยายามประสานไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเชื่อมไปถึงรัฐบาล เพราะการจัดการแข่งขันเราต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ต้องพึ่งพางบประมาณจากรัฐบาลเป็นหลัก เราจะได้หารือ ประเมินผลได้ผลเสียร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อพิจารณาว่าเราควรจะรับเป็นเจ้าภาพหรือไม่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในส่วนของการประสานงานและจัดทำรายละเอียด”

ร้อยเอ็ด..นายกฯ เศรษฐา ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี

วันนี้( 28 มิถุนายน 2567 ) เวลา 13.20 น. ที่ วัดโกศลรังสฤษฎี ตำบล อุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี ร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดศึกษาต้นแบบ การบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ อำเภอธวัชบุรี

โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พรอ้มด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วมติดตาม โดยจังหวัดร้อยเอ็ด บูรณาการร่วมกับ ทหาร ตำรวจ สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดพื้นที่อำเภอธวัชบุรี เป็นพื้นที่ต้นแบบในจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งผลจากการ Re x-ray พื้นที่ 12 ตำบล 147 หมู่บ้าน มีจำนวน 26,72 คน มีผลปัสสาวะเป็นบวก 1,538 คน เป็นสีแดง 8 คน สีส้ม 3 คน สีเหลือง 63 คน และสีเขียว 1,464 คน ซึ่งผู้ที่ตรวจพบจะได้รับการบำบัดรักษาฟื้นฟู

โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน มีการวางระบบบริหารจัดการผู้เสพยาเสพติดตั้งแต่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ไปจนถึงการติดตามช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพทางสังคม ที่คำนึงถึงความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้บำบัดให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ดังเดิม รวมทั้งมีแนวทางที่จะขยายหน่วยบริการบำบัดให้ครอบคลุมในทุกอำเภอ

จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยัง โรงเรียนธวัชบุรีวิทยาคม ตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเยี่ยมชมการเรียนการสอน และได้พบปะกับน้องๆนักเรียน พร้อมบอกว่า เยาวชนซึ่งกำลังเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของชาติ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงจรของยาเสพติด ซึ่งผู้ปรกครองและครูต้องดูแลและอธิบายให้เด็กเข้าใจ และรับรู้ถึงโทษจากการใช้ยาเสพติด

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง ถึงแม้ผลการจับกุมจะมียอดที่สูง แต่ปัญหานี้ยังไม่หมดสิ้น ขอให้พยายามมุ่งมั่นทำงานต่อไป และเน้นย้ำว่ารัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ ขอให้ส่วนราชการร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถ้าเกิดติดปัญหาขาดแคลนเรื่องใด ขอให้บอกมารัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่

โกสิทธิ์/ร้อยเอ็ด(ห)
081-377-2689

'แพรรี่' กะเทาะเปลือก ลัทธิประหลาดเฟื่องฟู เพราะผู้คนรักสบาย เจ้าลัทธิสบช่อง!! ใช้สื่อโซเชียลสร้างศรัทธาเรียกสาวก

กลายเป็นอีกประเด็นที่เริ่มสร้างความหวั่นวิตกให้สังคมอย่างมาก เนื่องจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้มีลัทธิประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 'ลัทธิเชื่อมจิต' ที่อ้างว่าสามารถนำพาให้ลูกศิษย์ลูกหาเข้าถึงนิพพานได้อย่างง่ายดายด้วยการเชื่อมจิต หรือแม้แต่ 'ลัทธิคลื่นพลังบุญ' ที่บอกว่าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยโดยไม่ต้องจ่ายยา แต่รักษาด้วยคลื่นพลังบุญ รวมไปถึง 'ลัทธิถวายตัว' ที่ให้ลูกศิษย์สาวมีสัมพันธ์กับพระที่เป็นอาจารย์ โดยอ้างว่าจะบรรลุธรรมขั้นสูงสุดนั้น

แน่นอนว่า หลายคนคงสงสัย ว่าทำไมผู้คนจึงพากันหลงเชื่อลัทธิดังกล่าวทั้งที่ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลย ? และเราจะสามารถดำเนินกับผู้ที่แสวงหาประโยชน์จากการสร้างลัทธิเหล่านี้ได้หรือไม่ อย่างไร ?

โดย 'แพรรี่' ไพรวัลย์ วรรณบุตร เน็ตไอดอลที่โด่งดังมาจากการสอนธรรมะ วิเคราะห์ว่า เหตุที่ปัจจุบันมีลัทธิแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมายนั้นเนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมที่ 'ความเชื่อ' สามารถขายได้ ยิ่งในยุคที่ศรัทธาคลอนแคลน ขาดผู้นำทางจิตวิญญาณที่จะนำพาผู้คนให้ยึดถือในหลักธรรมหรือแนวทางที่ถูกต้อง เมื่อมีปัญหาด้านเศรษฐกิจหรือปัญหาชีวิตผู้คนจึงต้องการทางลัดในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะทำให้บรรลุในทางธรรมหรือสมหวังในทางโลก โดยไม่ต้องเหนื่อยยากในการศึกษาธรรมะหรือทุ่มเททำงาน อาทิ แค่เชื่อมจิตก็บรรลุธรรม แค่อธิษฐานก็สำเร็จ มั่งคั่งร่ำรวย จึงเกิดลัทธิแปลก ๆ ขึ้นมาตอบสนองความต้องการดังกล่าว เช่น จ่ายเงินค่าคอร์สแล้วพาไปนิพพานได้ กราบไหว้บูชาโน่นนี่แล้วสำเร็จ หรือที่เรียกกันว่า 'สายมู'

ปัจจุบันผู้นำทางศาสนาที่จะเป็นแกนหลักให้ผู้คนนั้นเหลือน้อย เวลาที่มีประเด็นเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา ก็ไม่เห็นใครนอกจากพระพยอม กัลยาโณ สายธรรมะที่เน้นการปฏิบัติ แม้จะมี แต่ก็เหลือไม่มาก และส่วนใหญ่ท่านไม่ออกมามีแอ็กชันต่อสังคม ส่วนใหญ่มักปลีกวิเวก ไม่ออกสื่อ เน้นการสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาที่เข้าไปพบเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีลูกศิษย์ลูกหาบางกลุ่มที่นำคำสอนของท่านมาเผยแพร่ในสื่อโซเชียล อย่าง สายพุทธวจนะ แต่ก็มีน้อย จึงไม่เป็นที่แพร่หลาย สู้กระแสของลัทธิต่าง ๆ ที่ใช้สื่อโซเชียลเป็นช่องทางในการโปรโมตไม่ได้

ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.ลำปาง สั่งดูแลเรื่องการรักษาและสิทธิโยชน์อย่างเต็มที่

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.อัครินทร์ กาสา รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ภูชิชย์ ตรียัมปราย ผกก.สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง เดินทางไปยังอาคารนวมินทร์ ชั้น 4 หอผู้ป่วยอุบัติเหตุสามัญ โรงพยาบาลลำปาง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อเยี่ยมให้กำลังข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขณะปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ราย ได้แก่ พ.ต.ต.วิทย์วศิน นิธิกุลกาญน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ ใจยะสุ ผบ.หมู่ (ป) สภ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ แก้วปวน ผบ.หมู่ (คฝ.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 16.40 น. พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ เดินทางไปปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ ศอ.ปส.ตร. โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน ระหว่างเดินทางได้มีนายเดชาฯ ขับรถกระบะแค๊ป ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน สวนมา บริเวณที่เกิดเหตุ กิโลเมตรที่ 422-423 ถนนสายลำปาง-เด่นชัย อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นทางโค้งฝนตกถนนลื่น รถยนต์เสียหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลแม่ทะ และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งทั้ง 3 รายขณะนี้อยู่ห้องเฝ้าสังเกตอาการ ผู้บังคับบัญชากำลังประสานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อส่งตัวไปทำการรักษาต่อไป

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้ให้กำลังใจ พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ ตลอดจนญาติของข้าราชการตำรวจทั้ง 3 ราย พร้อมมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือ และได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้ดูแลทำการรักษา ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งสร้างภูมิคุ้มกันเชิงรุกต้านภัยไซเบอร์ ผ่านโครงการ RTP Cyber Village ระดมตำรวจกว่า 5,000 นาย ส่งต่อความรู้ด้านการเตือนภัยไซเบอร์ให้กับประชาชน

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมโครงการ Cyber Village ผ่านระบบ Video Conference กับตัวแทนข้าราชการตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามจากทั่วประเทศกว่า5,000 นาย ห้องประชุมชั้น 7 อาคาร1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของประชาชน ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ ภายใต้โครงการ RTP Cyber Village โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการนำแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมของประชาชน เช่น Facebook, Youtube, Google, LINE และ Clubhouse มาประยุกต์ใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างตำรวจกับประชาชน และบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในชุมชน

การดำเนินงานในโครงการดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และตำรวจภูธรภาค 1 – 9 โดยมีหน่วยงานระดับ บก.น./ภ.จว. ในสังกัด จำนวน 85 หน่วยงาน และระดับ สน./สภ. จำนวน 1,483 หน่วยงาน เข้าดำเนินการในหมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมาย จำนวน 7,524 หมู่บ้าน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นชุดชุมชนสัมพันธ์ จำนวน 10,365 นาย

ทั้งนี้ โครงการ RTP Cyber Village มีจุดมุ่งหมายหลักในการดำเนินงาน คือเน้นการนำสื่อ Social Media มาประยุกต์ใช้เป็นสื่อกลางกับประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเข้าใจและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ต่อยอดการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมระดับชุมชนที่รวดเร็วและทันท่วงที ตามนโยบายหลักด้านการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมรูปแบบใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

‘UN’ ฟุ้ง!! ‘เมียนมา’ ใช้ ‘ธนาคารไทย’ เป็นตัวกลางซื้อขาย-อาวุธ ‘สมาคมธนาคารไทย’ แจง!! ยึดจริยธรรม-ไม่หนุนการจัดซื้ออาวุธ

(28 มิ.ย.67) จากกรณีมีการเปิดเผยรายงานของผู้รายงานพิเศษ (Special Rapporteur) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยระบุว่ามีธนาคารในประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการทางการเงินหลักให้กับรัฐบาลทหารเมียนมานั้น

สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักเกณฑ์การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อลูกค้า สังคม และประชาคมโลก และตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยได้ยึดถือและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบขององค์กรกำกับดูแล คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด สร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบการเงินของประเทศไทย

นอกจากนี้ ธนาคารสมาชิก ยังมีหน่วยงาน Compliance ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านกฎระเบียบและการปฏิบัติงานของทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงฐานข้อมูลของบุคคล องค์กร และประเทศที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีรายชื่ออยู่ในรายการที่ห้ามทำธุรกรรมธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงข้อมูลและแนวทางการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทย มีนโยบายชัดเจน ไม่สนับสนุนการจัดซื้ออาวุธและสรรพาวุธกับองค์กรทางทหารของเมียนมา รวมถึงให้ความสำคัญต่อการป้องกัน และห้ามนำธุรกรรมทางเงินของภาคธนาคารไปใช้ในการจัดซื้ออาวุธที่นำไปใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชน

'รัดเกล้า' ชวนร่วมฉลอง 2 กิจกรรมส่งท้าย ‘Pride Month 2024’ ปูทาง ‘ไทย’ เป็นเจ้าภาพ ‘Bangkok World Pride 2030’

(28 มิ.ย. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายเทศกาลเดือน Pride อย่างยิ่งใหญ่ ปลายเดือนมิถุนายน 2567 กับ 2 กิจกรรม งาน Pride Nation Samui International Pride Festival เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และปิดท้ายกับงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ ร่วมกันเฉลิมฉลองความรัก ความมีเสรีภาพ และความหลากหลายทางเพศ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2 งานที่จะจัดปลายเดือนมิถุนายนนี้ คืองาน Pride Nation Samui International Pride Festival ระหว่างวันที่ 24-29 มิถุนายน 2567 ณ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยภายในงานจะรวบรวมศิลปินทั้งในประเทศและนานาชาติ ถือเป็นการรวมพลังเพื่อเปลี่ยนเกาะสมุยให้เป็น Prideradise กับขบวนพาเหรด Pride และเทศกาลดนตรี (Music Festival) ทั้งนี้ คาดว่างานครั้งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสกับความงดงามของเกาะในประเทศไทย เช่นเกาะสมุย และยังเป็นโอกาสในการพบปะและแลกเปลี่ยนความหลากหลายทางวัฒนธรรมอีกด้วย

และงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ระหว่างเวลา 16.00-18.30 น. โดยจะเป็นขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ และยาวที่สุดในเอเชียกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของภาครัฐ และภาคเอกชนมากกว่า 100 องค์กร เพื่อให้ไทยกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของ Pride Festival Destination ภายใต้วิสัยทัศน์ 'IGNITE THAILAND TOURISM' โดยจะเคลื่อนขบวนพาเหรดจากสนามกีฬาแห่งชาติ ไปยังถนนพระรามที่ 1 ผ่านย่านสำคัญต่าง ๆ และไปสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ ถือเป็นอีก 1 งานใหญ่โค้งสุดท้ายในเดือน Pride ที่จะเป็นแรงส่งทางการท่องเที่ยว กระตุ้นการเดินทาง ทั้งยังช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok World Pride 2030 ได้สำเร็จอีกทางหนึ่งด้วย

“เดือนมิถุนายนของทุกปี ถือเป็นเดือน Pride ที่จะร่วมเฉลิมฉลองความเท่าเทียม โดยในช่วงโค้งสุดท้าย 2024 นี้ จะมี 2 งานส่งท้ายทั้งที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ ซึ่งที่กรุงเทพฯ ท่านนายกฯ จะมาเป็นประธานเปิดงานด้วยตนเองร่วมกับทุกคน จึงอยากขอเชิญชวนมาร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายกันอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสนี้ เพื่อปูทางไปสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride ในปี 2030 ทั้งนี้คาดว่า ในช่วงเดือน Pride จะสร้างเม็ดเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และพาเหรดที่กรุงเทพฯ จะมีผู้เข้าร่วมชมงานตลอดทั้งขบวน 6 กิโลเมตรกว่า 1 ล้านคน” นางรัดเกล้า กล่าว

ผบ.ตร.ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจเยี่ยม สภ.แม่จัน และด่านกิ่วทัพยั้ง ให้กำลังใจพร้อมกำชับการปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มแข็ง

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมี พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน และข้าราชการตำรวจ สภ.แม่จัน ให้การต้อนรับ โดย ผบ.ตร.ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนี และเร่งรัดการติดตามจับกุม

จากนั้น ผบ.ตร.พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ซึ่งเป็นด่านสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดนในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยม และกำชับในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มแข็ง

ผบ.ตร. ได้ขอบคุณและชมเชยข้าราชการตำรวจ สภ.แม่จัน และเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ทุกนาย ที่มีความตั้งใจและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมเป็นอย่างดี ปฏิบัติตนเป็นตำรวจของพระราชาในสายตาของประชาชน และขอให้รักษามาตรฐานไว้เพื่อเป็นตำรวจที่ดีของประชาชน พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข , ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ พร้อมกำชับให้ติดตาม ให้คำแนะนำ เร่งรัดคดียาเสพติดในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาดูแลเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างจริงจังในทุกระดับ และให้ข้าราชการตำรวจทุกนายร่วมกันสร้างความสามัคคี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top