Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

เชียงใหม่-สวนสัตว์เชียงใหม่ สร้างความสุข สนุกกับกิจกรรม 'สิงหาพาเหรด สัตว์น่ารัก'

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรม 'สิงหาพาเหรด สัตว์น่ารัก' เฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ เพียงวันละ 1 รอบ เวลา 11.00 น. ตลอดเดือนสิงหาคม เริ่มวันเสาร์แรก 3 สิงหาคม 2567 นี้  

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วย การจัดขบวน 'สิงหาพาเหรด สัตว์น่ารัก' ขบวนมาสคอตสัตว์ที่มาสร้างสีสันและรอยยิ้ม และสัตว์น่ารักนานาชนิด มาร่วมในขบวน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและบันทึกภาพสัตว์แต่ละตัวได้อย่างใกล้ชิด เช่น นกมาคอร์ฟ้าอกเหลืองสีสันสดใส, นก   ค๊อกคาเทลหลากสี, แพะแคระจอมซน, ม้าแคระเชทแลนท์ขนสวย, กระต่ายน้อยซุกชน, ไก่ป่าสวยงาม, เจ้าอ้นผู้น่ารัก, ลูกหมีขอ(น้องลาบูบู้), นกเพนกวินเริงร่า และ เหล่าสัตว์น่ารักอีกมากมาย กว่า 50 ตัว ที่จะออกมาให้นักท่องเที่ยวได้รับชมอย่างใกล้ชิด ณ บริเวณมินิซู สวนสัตว์เชียงใหม่ เฉพาะวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ วันละ 1 รอบ เวลา 11.00 น. ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ 

ทั้งนี้ สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังเพิ่มความสุข สนุกไปกับกิจกรรม ต่าง ๆ อีกมากมาย เพลิดเพลินกับเหล่าบรรดาสัตว์ขนาดเล็ก ชิมอาหารบนรถฟู้ดทรัค  คลายร้อนที่สโนว์บัดดี้วินเทอร์แลนด์ สัมผัสอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส พบกับความหลากหลายของสายพันธุ์ปลานานาชนิด ตื่นตาตื่นใจ กับความงดงามของสัตว์น้ำต่างๆ  ที่เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ทะเลบนดอย และชมการแหวกว่ายของฝูงเพนกวินที่น่ารัก ชมการแสดงพฤติกรรมสัตว์ multi animal behavior ของสัตว์หลากหลายชนิด แวะสักการะพระนวพุทธมหาบารมี พระศรีสากยมุนีสัตตะบุรีลวบูชา ที่โบราณสถานวัดกู่ดินขาว อายุมากกว่า 1,000 ปี ถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ ภายใต้การจัดภูมิทัศน์ให้สอดคล้องกับธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ มีบริการขนส่งมวลชนแบบครอบครัวโดยใช้รถกอล์ฟ หรือรถรางบริการขึ้นลงตามสถานีต่างๆ โดยรอบสวนสัตว์เชียงใหม่ อีกด้วย

‘เพจดัง’ ประกาศตามหา ‘แก๊งวัยรุ่น’ ลืมจ่ายเงินค่าบิงซู หลอกกินฟรีเกือบ 3,000 บาท ก่อนตีเนียนหายไปทีละคน

เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.67) เพจ ‘อีซ้อขยี้ข่าว3’ ได้โพสต์ตามหาผู้ก่อเหตุกินบิงซูเกือบ 3,000 บาท ไม่จ่ายเงิน โดยระบุข้อความว่า “กินบิงซูเกือบ 3,000 แล้วลืมจ่ายเงิน เห็นทางร้านบอกว่าค่อย ๆ ทยอยเดินออกไปเข้าห้องน้ำและหายไปทีละคน

ประกาศตามหาน้องกลุ่มนี้ค่ะ มากินอาหารที่ร้านบิงซูนมหกสาขาคู้ขวา เวลาประมาณ 18.00 น.แล้วไม่ได้จ่ายเงิน (หรือลืมจ่ายเงินให้ติดต่อมาจ่ายด่วนเลยค่ะ) ใครรู้จักรบกวนติดต่อน้องกลุ่มนี้หน่อยค่ะ ยอดที่ต้องชำระ 2,655 บาท

ไม่ได้มีเจตนาประจานนะคะ ขอแค่มาจ่ายแล้วจะลบโพสต์ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ”

‘นายก’ เศร้าสูญเสียคุณแม่ ‘ชดช้อย ทวีสิน’ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ สิริอายุรวม 96 ปี

(30 ก.ค.67) นางชดช้อย ทวีสิน มารดาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี หลังจากพักรักษาตัวมาระยะหนึ่ง ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ที่ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส กทม. โดยทรงพระกรุณาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พระราชทานหรีด ในเย็นวันที่ 30 ก.ค.และจะมีการสวดพระอภิธรรมต่อไป

ประวัติ นางชดช้อย สกุลเดิม จูตระกูล เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 2471 สมรสกับ ร.อ.อำนวย ทวีสิน มีบุตร 1 คน คือนายเศรษฐา ต่อมา ร.อ.อำนวย ถึงแก่กรรม ขณะที่นางชดช้อยอายุ 38 ปี นายเศรษฐา อายุเพียง 3 ขวบ โดยนางชดช้อยได้เลี้ยงดูบุตรชายคนเดียว จนสำเร็จการศึกษาสูงสุดจากสหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างสูง ก่อนเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566

นางชดช้อยได้ล้มป่วย โดยมีบุตรชาย คือนายเศรษฐา ดูแลใกล้ชิดโดยตลอดกระทั่งวาระสุดท้าย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับคนใกล้ชิดว่า “เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต”

>> สำหรับหมายกำหนดการ

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรมศพ
นางชดช้อย ทวีสิน มารดานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

วันอาคารที่ 30 กรกฎาคม 2567
16.00 - 17.30 พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานและประทาน วางที่หน้าหีบศพ
18.30 พิธีสวดพระอภิธรรม

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม - วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2567
เวลา 18.30 น. พิธีสวดพระอภิธรรม

กระตุกต่อมคิดคนไทย!! พอกันที!! วาทกรรมแบ่งแยกคนรุ่นเก่า-ใหม่ หยุดให้ค่า!! หากออกจากปลายจมูก 'นักฉวยโอกาส-สาดความรวยใส่ตัว'

(29 ก.ค. 67) ผู้ใช้ Instagram ที่ชื่อว่า ‘tthegreatboy1’ ได้โพสต์คลิปเกี่ยวกับ ‘โน๊ส อุดม’ และวาทกรรม ‘คนรุ่นเก่า-คนรุ่นใหม่’ โดยได้ระบุว่า ...

‘โน๊ส อุดม แต้พานิช’ ในทัศนะของผม แกเป็นตลกฝืดๆ คนหนึ่ง ที่ผมรู้สึกว่าทำไมเราต้องไปเสียตังค์จ่าย เพื่อจะไปดูอะไรแบบนี้ คืออันนี้เป็นทัศนคติส่วนตัว ส่วนใครจะชื่นชอบจะจ่ายเงินเพื่อไปดูก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา

งานของโน๊ส อุดม เป็นงานที่ไปหยิบจับ เอาประเด็นในสังคมประเด็นทางการเมือง นำมาล้อเลียนนำมาพูดให้ขำๆ แล้วยังไงใน TikTok ก็มีถ้าจะมาพูดขำๆล้อเลียนแบบนี้ มันไม่ได้มีอะไรที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ เลย

เมื่อก่อนนี้โน๊ส อุดม เป็นคนที่พูดถึงปัญหาในสังคมปัญหาการเมือง พูดแซวในฐานะที่ตัวเองนั้นอยู่เหนือปัญหา ตัวเราเองนั้นเยี่ยมตัวเราดีคนอื่นคือปัญหา ทำตัวเทศนาอะไรประมาณนั้น ก็เข้าใจว่าเขาเป็นอย่างนั้น ก็ต้องปล่อยเขาไป

แต่ในปัจจุบัน มันมีข้อมูลหลักฐานในโลกโซเชียล ว่าโน๊ส อุดมนั้น ชื่นชอบใน ‘พรรคก้าวไกล’ 

ฉะนั้นเวลาที่ ‘โน๊ส อุดม’ จะพูดจะแซวพรรคการเมืองมองปัญหาการเมืองโน๊ส อุดม ก็จะพูดในฐานะที่เป็นคนที่ ฝักใฝ่ไปในทาง พรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นคน ที่อยู่ตรงกลางอีกแล้ว เป็นคนที่พูดด้วยฐานะ ที่ได้เลือกข้างแล้ว ตรงนี้ก็ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจก็ต้องปล่อยเขาไป

ส่วนประเด็นที่มันเป็นดรามานั้นก็คือ วาทกรรมของคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ พี่โน๊ตอุดมได้หยิบขึ้นมาพูดในงานครั้งล่าสุด ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเขาชื่นชอบในภาคก้าวไกล เขาก็จะต้องนำวาทกรรมของ พรรคก้าวไกล นำขึ้นมาผลิตซ้ำ

แต่โดยความคิดส่วนตัวของผมแล้ว ผมมองว่า วาทกรรมนี้เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม ต่อคนทุกฝ่าย คุณไปพูดเหมารวมว่าคนรุ่นเก่าทำตัวไม่น่านับถือ เข้าใจว่ามีคนรุ่นเก่าแบบที่คุณโน๊ส อุดมไม่ชอบ คนรุ่นเก่าที่ก่อปัญหาแบบที่คุณโน๊ส พูดมีอยู่จริง แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องของปัจเจกชน เป็นพฤติกรรมของแต่ละบุคคลไป แต่คุณโน๊ส อุดมใช้วาทกรรมที่เหมารวม คนรุ่นเก่าก็มีอีกมากมายที่เป็นคนดี เป็นคนดีของสังคม เป็นพ่อที่เยี่ยม เป็นแม่ที่เยี่ยม เป็นคนที่ดีต่อเพื่อน เป็นคนที่ดีต่อสังคม อีกเยอะแยะมากมาย

แต่ปัจจุบัน เมื่อเขาเดินออกไปเจอคนรุ่นใหม่ เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่น่าเคารพไม่น่านับถือ เพราะวาทกรรมคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ที่คุณโน๊ส อุดม พยายามจะสร้างมันขึ้น เป็นความมักง่าย ของคนที่ใช้วาทกรรมนี้ มันก็เลย กลายมาเป็นปัญหาในปัจจุบัน

ตรรกะคนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่ ที่พยายามจะโทษคนรุ่นเก่าว่า เป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้วถ้าผมเอาตรรกะแบบนี้ไปใช้กับคนรุ่นใหม่บ้าง มันจะได้ไหม คนรุ่นใหม่เป็น พวกกราดยิงห้างสยามพารากอน เป็นพวกรุมโทรมหญิง คนรุ่นใหม่เป็นพวกแก๊งลูกตำรวจ คนรุ่นใหม่เป็น เด็กช่างกลตีกัน มันก็สามารถที่จะพูดได้เยอะแยะ ในข้อเท็จจริงนั้นมันก็มีคนรุ่นใหม่ ที่เป็นคนนิสัยไม่ดีแบบนี้จริงๆ

แต่ว่ามันเป็นพฤติกรรมของปัจเจกชน มันเป็นเรื่องของเฉพาะคนเฉพาะกลุ่ม มันไม่สามารถจะนำมาเหมารวมได้ว่า คนรุ่นใหม่ทั้งหมดเป็นคนที่ไม่ดี ถูกต้องไหมครับ

ในเมื่อเราเข้าใจตรรกะตรงกันแล้ว ทำไมคุณ ‘โน๊ส อุดม’ หรือ ‘พรรคก้าวไกล’ หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ฝักใฝ่ ทำไมไม่เข้าใจว่า คนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ก็มีทั้งคนดีและคนที่ไม่ดีอยู่ในทุกกลุ่ม

เพราะฉะนั้นวาทกรรมของคุณโน๊ส อุดมจึงเป็นวาทกรรมที่สร้างความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต้องการที่จะหาผลประโยชน์ทางการเมือง

วาทกรรมคนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่ ถ้าเราลองคิดวิเคราะห์แล้ว เราก็จะเห็นว่ามันเป็นวาทกรรมที่มี ช่องโหว่เยอะ ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้จริง มันบิดเบี้ยว 

และเมื่อเรารู้แล้วว่าวาทกรรมนี้มันไม่จริง เราก็ยังจงใจ ใช้วาทกรรมแบบนี้ สาดใส่คนอื่น ก็ต้องบอกว่า ไม่น่ารักเลย

'สถานีศิริราช' สถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพแห่งแรกของประเทศไทย โมเดลต้นแบบการพัฒนาพื้นที่สถานีขนส่งแก่โครงการอื่นๆ ในอนาคต

(29 ก.ค. 67) เพจ 'Thailand Update' โพสต์ข้อความเผยความคืบหน้าการก่อสร้าง 'สถานีศิริราช' ว่า...

ได้เวลาสร้างแล้ว!! 'สถานีศิริราช' ที่มีทั้งอาคารรักษาพยาบาลและสถานีรถไฟฟ้าแห่งแรกของไทย โดยจะมีรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม (OR02) อยู่ใต้ดินที่เริ่มก่อสร้างแล้ว กับรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (RWS03) อยู่ชั้น 1 และ 2 ที่คาดว่าจะเริ่มภายในปีนี้ (ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากการรถไฟแห่งประเทศไทย)

สำหรับ อาคารรักษาพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นการก่อสร้างอาคารสูง 15 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 55,057 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่โรงพยาบาล 50,741 ตารางเมตร พื้นที่รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน 3,410 ตารางเมตร และพื้นที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม 906 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2567 พร้อมเปิดให้บริการในปี 2570

เมื่อแล้วเสร็จ จะสามารถให้บริการผู้ป่วย ทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน การบริการ Ambulatory Unit/ One Day Surgical โดยผู้ป่วยสามารถเดินทางมารับบริการแล้วกลับบ้านได้ ไม่จำเป็นต้องพักค้าง รวมถึงบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์และความสะดวกสบายจากการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะและการบริการสาธารณสุขมากยิ่งขึ้นด้วย

ดังนั้น สถานีศิริราช จึงนับเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรางที่สำคัญ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป ผู้เข้ารับบริการรักษา และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราช รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ภายในและโดยรอบโรงพยาบาลศิริราชอย่างยั่งยืน

‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ เดินหน้าฟ้อง ‘กรมประมง-บิ๊กเอกชน’ ที่ศาลปกครองกลาง ชี้!! เป็น ‘อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม’ ทำชาวประมงเสียหาย หลายหมื่นล้าน

(29 ก.ค. 67) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นการทั่วไปว่ากรมประมง โดยคณะกรรมการ IBC อนุญาตให้บิ๊กเอกชนเพียงรายเดียวนำเข้าปลาหมอคางดำจากประเทศกานาเมื่อปี 53 แม้จะมีการอ้างว่าได้ทำลายหมดไปแล้ว แต่ทว่าปลาชนิดดังกล่าวกลับมาแพร่ระบาดทำลายสัตว์น้ำอย่างล้างผลาญไปทั่วกว่า 25 จังหวัด ชาวประมงเพาะเเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหายรวมนับหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่อ่าวไทย-อันดามันในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็น ‘อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม’ ที่ร้ายแรงที่สุดของชาติ กรมประมงรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นแต่กลับไม่ดำเนินการเอาผิดบิ๊กนายทุนที่นำเข้าแต่อย่างใด แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาแก้ไขปัญหาตลอดมาหลายพันล้านบาทและจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ละอาย

องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน และชาวประมงที่เดือดร้อนและเสียหาย จึงไม่อาจปล่อยให้กรมประมงและบิ๊กนายทุนลอยนวลไปได้ จึงจะนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้ศาลออกคำบังคับใช้กฎหมายให้เอาผิดบิ๊กเอกชนต้นเหตุของปัญหาและให้รับผิดชอบต่อความเสียหายของชาวประมงทั้ง 25 จังหวัด และสั่งให้ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่สูญหายไปให้กลับมาดังเดิมต่อไป โดยจะไปยื่นฟ้องในวันอังคารที่ 30 ก.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ

‘เพจดัง’ ชี้ ‘เด็กไทย’ เรียนประวัติศาสตร์สากล แค่ท่องจำ ไร้!! ความเข้าใจ-เชื่อมโยง เคลิ้มไปกับโลกแบบ ‘แฟนตาซี’

(29 ก.ค. 67) เพจ ‘การทูตและการทหาร Military & Dplomacy’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การปฏิวัติฝรั่งเศสในแบบเรียนไทย โดยได้ระบุว่า ...

การปฏิวัติฝรั่งเศสในแบบเรียนไทย

พูดถึงการ Romanticize การปฏิวัติฝรั่งเศสในประเทศไทย ผมคิดว่าจุดเริ่มต้นสำคัญมาจากเนื้อหาในแบบเรียนประวัติศาสตร์สากลที่กลวงโบ๋มาก

ในแบบเรียนประวัติศาสตร์สากล เรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศสมักจะอยู่ในหัวข้อ ‘การปฏิวัติครั้งสำคัญของโลก’ รวมอยู่กับเรื่องการปฏิวัติในอังกฤษ (กฎบัตร Magna Carta, การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์, Bill of Rights ฯลฯ) การปฏิวัติหรือการประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ ค.ศ. 1776 ครับ ทีนี้ปัญหาก็เริ่มจากว่าก่อนที่จะมาถึงหัวข้อการปฏิวัติเหล่านี้ แทบไม่มีการปูพื้นประวัติความเป็นมาของประเทศเหล่านี้ รวมถึงฝรั่งเศส มาก่อนเลย บทเรียนก่อนหน้านี้ยังเป็นเรื่องการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) การปฏิรูปศาสนา (มาร์ติน ลูเทอร์ ฯลฯ) การปฏิวัติอุตสาหกรรม ต้องท่องชื่อศิลปิน นักสำรวจ นักวิทยาศาสตร์อยู่เลย แล้วอยู่ๆ ก็ตูม! การปฏิวัติฝรั่งเศส ถามว่าก่อนหน้านั้นนักเรียนได้เรียนอะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสมาบ้าง คำตอบคือพระราชวังแวร์ซายส์ สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นงานศิลปะสมัยใหม่แบบ Baroque-Rococo แค่นี้แหละครับ ถามว่าสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่จะส่งผลกระทบต่อไปถึงยุคพระเจ้าหลุยที่ 15 และหลุยส์ที่ 16 หรือศิลปะ Baroque-Rococo นี่มีลักษณะอย่างไร ก็ตอบไม่ได้ครับ แต่ต้องท่องว่าพระราชวังแวร์ซายส์เป็นตัวอย่างของงานศิลปะแบบนี้เพราะชื่อเฉพาะพวกนี้ คนออกข้อสอบชอบมาก

เมื่อบทเรียนก่อนหน้าการปฏิวัติฝรั่งเศสแทบไม่ได้เอ่ยถึงประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสมาก่อนเลย แล้วอยู่ๆ ก็สอนนักเรียนว่าการปฏิวัติฝรั่งเศสมีอุดมการณ์ ‘เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ" มีการประกาศ ‘คำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง’ นักเรียนก็เคลิ้มสิครับ ถามว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอบไม่ได้ครับ เพราะหัวข้อนี้ตัดจบแค่นั้น กว่าแบบเรียนจะกลับมาพูดถึงฝรั่งเศสอีกทีก็ ... สงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ. 1914 ฝรั่งเศสอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร ... นั่นแหละครับ โรเบสปิแอร์คือใคร Reign of Terror คืออะไร นโปเลียนคือใคร ฯลฯ แบบเรียนไม่ได้สอนครับ

เมื่อนักเรียนจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย โดยมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศสแค่ ‘เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ’ กับ ‘คำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง’ ถ้าเข้ามหาวิทยาลัย เป็นนักศึกษาแล้วไปเจออาจารย์มหาวิทยาลัยที่สอนแต่ลัทธิการเมือง โดยไม่สอนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงๆ ประกอบด้วย ก็ยิ่งเคลิ้มกันไปใหญ่สิครับ การปฏิวัติฝรั่งเศสเลยถูก Romanticize จะเป็นนิยายแฟนตาซีอยู่แล้ว แต่เป็นแฟนตาซีแค่ตอน ค.ศ. 1789 (ทลายคุกบาสตีย์) ถึง ค.ศ. 1793 (มารี อองตัวเน็ตต์ถูกตัดคอ) นะ ถ้าขยับเลยไปอีกหน่อยถึงช่วง Reign of Terror จะไม่ค่อยแฟนตาซีแล้ว ยิ่งถ้าช่วงหลัง ‘นายพลโบนาปาร์ต’ โผล่มาปุ๊บนี่จบเลย

จะเห็นได้ว่าปัญหาการ Romanticize การปฏิวัติฝรั่งเศสนี่ส่วนหนึ่งก็มาจากแบบเรียนประวัติศาสตร์สากลในโรงเรียนที่เนื้อหากลวงโบ๋มาก อยู่ๆ ก็ยกคำขวัญลอยๆ ขึ้นมาให้ท่อง โดยแทบไม่ได้ปูพื้นประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส หรือที่สำคัญคือเหตุการณ์ช่วงหลังการปฏิวัติ นักเรียนก็เคลิ้ม พอไปฟังนักวิชาการ ฟังสื่อต่อก็กลายเป็นแฟนตาซีไป

ทีนี้ถ้าจะให้เพิ่มเนื้อหาเข้าไปในแบบเรียนเฉยๆ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องนะครับ เพราะถ้าเพิ่มเนื้อหารายละเอียดช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก็ต้องเพิ่มเนื้อหารายละเอียดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อื่นๆ ด้วย แล้วในโรงเรียนก็คงได้เรียนกันแต่ประวัติศาสตร์นี่แหละครับ ไม่มีเวลาเรียนวิชาอื่นๆ (ฮา)

ผมคิดว่าแทนที่จะต้องเพิ่มเนื้อหาเข้าไปทีละจุดๆ เราน่าจะมาทบทวนหลักสูตรสาระประวัติศาสตร์สากลในโรงเรียนกันใหม่ว่าประวัติศาสตร์ช่วงไหนที่นักเรียนควรรู้จริงๆ บ้าง ไม่ใช่ยกเนื้อหาวิชา ‘อารยธรรม’ (Civilization) ของระดับมหาวิทยาลัยมาทั้งดุ้นแบบนี้ ซึ่งลำพังวิชา Civilization มันก็ไม่ได้เป็นประวัติศาสตร์โลกที่สมบูรณ์ในตัวเอง เป็นแค่วิชาพื้นฐานของนักศึกษาสาขาประวัติศาสตร์ชั้นปี 1 ก่อนจะได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์เฉพาะของประเทศหรือภูมิภาคต่างๆในชั้นปีที่สูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งเดี๋ยวเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์ยุโรป ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก ประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เป็นต้น ก็จะมาช่วยเติมองค์ความรู้ของนักศึกษาสาขาประวัติศาสตร์ต่อยอดจากวิชา Civilization อยู่แล้ว แต่สำหรับนักศึกษาสาขาอื่นๆ ที่ได้เรียนประวัติศาสตร์สากลมาแค่ในโรงเรียน ถึงระดับมัธยมปลาย น่าจะต้องมาทบทวนปรับแก้หลักสูตรให้กระชับแต่ลึกซึ้งมากกว่าการเอาวิชา Civilization มากลวงๆ ทั้งดุ้นแบบนี้ครับ

‘พล.ท.นันทเดช’ ชี้ 4 เหตุผลสำคัญ ทำให้ไทยอยู่ได้อีกนาน คนทั้งประเทศมี ‘พระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน’ อยู่ในจิตสำนึก

(29 ก.ค. 67)  พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ‘สถาบันพระมหากษัตริย์ กับ ประเทศไทย ในอนาคต ตอนที่ 1’ ระบุว่า...

สถาบันพระมหากษัตริย์ กับ ประเทศไทย ในอนาคต ตอนที่ 1

นอกจากเรื่องสงครามนิวเคลียร์แล้ว สถานการณ์ต่างๆในประเทศไทย และของโลก ในปัจจุบัน ได้ทำให้พวกเราหลายคนกังวลว่า อีกไม่นานประเทศไทยอาจจะกลายเป็น ‘ประเทศที่ล้มเหลว’ (Failed State)ในอนาคตอันใกล้นี้ได้ !!

ผมขอยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่มีทางเป็น Failed State แน่นอน จากเหตุผลที่ไม่เข้าเงื่อนไขหลายประการ ได้แก่

1.เงื่อนไขสำคัญของการเป็นรัฐล้มเหลว คือการที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมพื้นที่บางส่วนของประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลไทย แม้จะขี้โกงขนาดไหน ก็ยังเป็นคนไทย ไม่กล้าปล่อยให้พื้นที่ไหนขาดการควบคุม  และประชาชนคนไทยก็ไม่ได้โง่ เพียงแต่ส่วนใหญ่อยากอยู่สงบๆ และเรียบง่าย  แต่ถ้ามีเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติแล้ว คนไทยก็ไม่เคยนิ่งเฉยสักครั้งเลย ส่วนเหตุความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น  ถ้าจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง ก็ย่อมทำได้ แต่ผู้คนเหล่านั้น ก็คือ คนไทย ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ   ประกอบกับการที่ทุกคนเป็นประชาชนที่มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกันอีก ดังนั้น ฝ่ายทหาร จึงมักใช้วิธีการพูดคุยกัน  เป็นหลัก ก่อนการใช้ความรุนแรงปราบปราม

2.โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของรัฐชาตินั้น ประเทศไทยยังมีอยู่ครบถ้วน ทั้ง ด้านการศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคม ฯลฯ ซึ่งแม้องค์กรเหล่านี้จะไม่เข็มแข็งนักเพราะต้องลู่ตามลมการเมือง แต่เราก็มี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คอยคัดท้ายอยู่  ส่วนองค์กรทางด้านความมั่นคงส่วนใหญ่ ยังเข็มแข็ง พอที่จะป้องกันประเทศได้ หรือสามารถตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ ว่า ‘ทหารมีไว้ทำไม’

3.ปัจจุบันประเทศไทยไม่มีสงครามกลางเมือง หรือ การก่อการร้าย เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับการควบคุมได้ (หลังแจกเงินดิจิตอลแล้วค่อยมาพูดกันอีกที) ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชนของไทยนั้น  ดีเยี่ยมกว่าทุกประเทศในเอเซีย การตกงานแม้จะเริ่มสูงขึ้น ถึงกับมีข่าวการตกงานกันแทบทุกวัน  แต่ถ้าไม่เลือกงาน ก็ยังพอไหว สิ่งที่น่าวิตกมากสุด คือ เรื่องของการคอรัปชั่น ที่กำลังก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้ดูเหมือนคนไทยจะคุ้นชินกันไปซะแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงไยพอควรทีเดียว

4.จุดแข็งของประเทศไทย คือ คนไทยเรามี สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในจิตสำนึก แม้พระองค์จะอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พระองค์ก็ทรงงานช่วยเหลือประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด ไม่เหมือนนักการเมือง ที่มีวาระการทำงาน หมดวาระก็เลิกทำ   พระองค์จึงต่างกับนักการเมือง ที่สามารถทรงงานแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ อย่างต่อเนื่อง และ ยังเป็นสถาบันหลักของชาติเพียงสถาบันเดียวในปัจจุบัน  ที่นักการเมืองขี้โกงทั้งหลาย และผู้ที่คิดร้ายต่อประเทศ  ยังต้องพะวงหน้าพะวังหลังอยู่  เนื่องจากรู้ดีว่า เบื้องหลังพระองค์ยังมีประชาชนจำนวนมหาศาลที่ ยืนอยู่เคียงข้างพระองค์ อย่างเงียบๆ อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นประเทศไทยยังอยู่ได้อีกนานครับ ไม่ต้องหนีไปไหน แต่ “ความเจริญก้าวหน้าอาจจะชะลอคงที่อยู่ ไม่รุดหน้าไปเหมือนประเทศอื่นๆ”แค่นั้น ซึ่งจะส่งผลทำให้คนไทยจะจนลงเรื่อยๆ คนชั้นกลางที่เคยเป็นผู้ออกมารักษาผลประโยชน์ของชาติ ก็จะลดน้อยลงไป

การทุจริตก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะแก้ได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเราเองด้วยครับ คิดเสียว่าในอนาคตน่าจะดีขึ้นก็ได้ครับ

ข้อเขียนเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

'รมว.ปุ้ย' ปลาบปลื้ม!! พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ยก!! เป็นการเข้าเฝ้าในโอกาสสำคัญ ที่เป็นมงคลยิ่งแก่ชีวิตของตน

เมื่อวานนี้ (28 ก.ค. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของชาติไทยค่ะ ปุ้ยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะรัฐมนตรีทุกท่าน ได้ติดตามนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ค่ะ โดยมีการไปร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณท้องสนามหลวง เป็นลำดับแรกค่ะ 

หลังจากนั้นไปร่วมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ต่อจากนั้นได้เดินทางร่วมกับคณะรัฐมนตรีไปยังพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง 

เป็นการเข้าเฝ้าในโอกาสสำคัญนะคะ โอกาสสำคัญที่เป็นมงคลยิ่งในชีวิตของปุ้ยเอง และความเป็นมงคลยิ่งนี้ ขอให้สัมฤทธิ์กับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช พี่น้องชาวไทยทุกคนนะคะ 

ปุ้ยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับคณะรัฐมนตรีทุกท่านได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า 

บรรยากาศสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยปุ้ยและคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ได้ซึมซับทุกวินาทีอันเป็นมหามงคลยิ่งอยู่ที่นั่นค่ะ

สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ประชุมสัญจรที่หาดใหญ่ ครั้งที่ 2/67 เตรียมต้อนรับคณะสื่อจากจีน เวียดนาม ร่วมแสดงความยินดีนายกสมาคมฯที่ได้รับเลือกเป็น สมาชิกวุฒิสภา สายสื่อมวลขน

เมื่อวานนี้  (28 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ที่ ห้องประชุมน่านเจ้า โรงแรมบีพี แกรนด์ทาวเวอร์ หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท. ) ได้จัดประชุมสัญจร ครั้งที่ 2/2567 ขึ้น ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีคณะกรรมการบริหาร ที่ปรึกษาสมาคมฯ อุปนายก ทั้ง 3 ท่าน และผู้เข้าร่วมสังเกตุการประชุม โดยมี นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล  นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุม ที่ประชุมได้มีการร่วมพิจารณาและรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ผ่านมา พร้อมกับมีการรายงานความคืบหน้าในการจดทะเบียนสมาคมต่อนายทะเบียน การพิจารณาการทำบัตรสมาชิก

นายกสมาคมฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบว่า สมาคมนักข่าวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาเยือนสมาคมฯ ในปลายเดือนตุลาคม 2567 โดยทางสมาคมฯ ได้มีความพร้อมที่จะต้อนรับ ทางสมาคมนักข่าวจีน ต้องการที่จะลงนามความร่วมมือ MOU กันใหม่ทุก 4 ปี เพราะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
“ล่าสุดผมได้รับหนังสือแจ้งจากสมาคมนักข่าจีนว่า ทางสมาคมนักข่าวจีนเขาได้ร่วมพูดคุยกับกรรมการและเพื่อนร่วมงานที่ได้ลงนาม MOU ไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีเนื้อหาที่สำคัญคือ สมาคมนักข่าวจีน All-China Journalists Association (ACJA) และสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ยินดีทำงานร่วมกัน ในความร่วมมือของทั้งสองประเทศ”

พร้อมกับการขยายความร่วมมือบนแพลตฟอร์มความร่วมมือของนักข่าวเส้นทางสายไหมและเครือข่าย (Belt and Road Journalists Network : BRJN) ซึ่งนั่นหมายถึงการมีส่วนร่วมอย่างเข็มแข็งในกิจกรรมของเครือข่ายเรา สมาคมนักข่าวจีนและสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคฯ พร้อมที่จะนำกลไกความร่วมมือของนักข่าวทั้งสองประเทศผ่านช่องทางและวิธีการที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนการเชิญสมาคมผู้สื่อข่าวจากประเทศเวียดนามนั้น ทางสมาคมฯ จะประสานในรายละเอียด และกำหนดการมาเยือน โดยทางสมาคมฯ พร้อมที่จะต้อนรับสมาคมนักข่าวจากทั้งสองประเทศ พร้อมกำหนดการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อีกครั้ง นายกสมาคมฯ กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญของสมาคมฯ ว่า ที่ประชุมได้เลือกจังหวัดระยองเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมใหญ่ในช่วงวันที่ 21-23 มีนาคม 2568 โดยรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการบริหารสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคฯ ได้ร่วมแสดงความยินดีต่อ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล  นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคฯ ที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา สายสื่อมวลชน พร้อมมอบของขวัญเป็นที่ระลึก

นายกสมาคมฯ ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมสัญจร รวมถึงที่ปรึกษา ที่ร่วมแสดงความยินดีที่ตนได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยตนเองในฐานะสื่อมวลชนอาชีพ พร้อมที่จะทำงานในบทบาทและหน้าที่ของ สว.ในสภาสูง และพร้อมที่จะร่วมกันผลักดันสวัสดิการของสื่อ การทำงานของสื่อในภาพรวมของประเทศต่อไป

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top