Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

‘นายกฯ’ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ที่ท้องสนามหลวง

(28 ก.ค. 67) เวลา 07.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชนร่วมพิธี

โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูปขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ให้ศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรจำนวน 10 ไตร กรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย แล้วถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 173 รูป นำโดยเสด็จพระมหาวีรวงศ์ นำโดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นการเสร็จพิธี

จากนั้น เวลา 07.45 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567  โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูงของทุกส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจมหาวิทยาลัยของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคประชาชนเข้าร่วมพิธี ขณะที่ข้าราชการในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้ร่วมทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ

เมื่อนายกรัฐมนตรีถึงบริเวณเวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ได้เดินขึ้นสู่เวที ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วถวายธูปเทียนแพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ความว่า

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในนามของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567 นี้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์ในพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเจริญงอกงามของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า ทรงดำรงพระองค์ เป็นแบบอย่างแก่บรรดาข้าราชการ ในการปฏิบัติงาน เพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดิน ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เน้นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักเทิดทูนไว้ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสืบไป

ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมด้วยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้า ปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน

ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ดังต่อไปนี้

ข้าพระพุทธเจ้านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

จบแล้ว นายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วนายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา เป็นอันเสร็จพิธี

เวลา 08.00น. นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ จับมือ ‘ทีมผู้สร้าง 2475 Dawn of Revolution’ ชวน!! ‘ดูหนัง-ฟังเสวนา’ 6 สิงหานี้ ที่คณะรัฐศาสตร์ รามคำแหง หัวหมาก

(27 ก.ค.67) พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกับ 2475 Dawn of Revolution ขอเชิญผู้สนใจร่วมงาน ดูหนังฟังเสวนา

'มายาธิปไตย 2475 : เทสที่สร้าง•ร่างที่เป็น'

6 สิงหาคม 2567 ณ ม.รามคำแหง

ผู้ร่วมเสวนา 

🟢 'การเล่าประวัติศาสตร์แนวใหม่ผ่านแอนิเมชัน' 
🔶วิวัธน์ จิโรจน์กุล
ผู้กำกับภาพยนตร์ แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

🟢 '2475: การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ และการให้อภัย' 
🔶ผศ.ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ 
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง

🟢 'รัฐประหาร : มรดก 2475'
🔶ปัณฑา สิริกุล 
นักเขียน / ผู้เขียนบทสารคดี / ผู้เขียนบทภาพยนตร์ 
แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

🟢 '2475: สู่สถาบันนิยม'
🔶จิตรากร ตันโห
ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการปกครอง 
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

🟢 'การปฏิวัติฝรั่งเศส สู่ ปฏิวัติสยาม'
🔶ฤกษ์อารี นานา
ปริญญาตรี รัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง 
Institut Catholique de Vendee ประเทศฝรั่งเศส 
ปริญญาโท เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา 
SOAS University of London ประเทศอังกฤษ

รอบเช้า 10:00 - 12:00 น. งานเสวนา
รอบบ่าย 13:30 - 15:40 น. ฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ
พักเบรค มีของว่างและกาแฟ พร้อมของที่ระลึก

ณ ห้องประชุมชั้น 12 อาคารศรีศรัทธา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

'อัษฎางค์' อัดพวกนิ้วไม่ครบโยงหนัง 'สืบสันดาน' แซะสถาบัน ชี้!! แค่หามุมมาล้างสมองกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มคนที่ไม่รู้

(27 ก.ค.67) นายอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ โดยระบุว่า ...

เมื่อคืนดู ‘สืบสันดาน’ ดูเกือบจบแล้วครับ

ผมว่า ดาราแสดงดี ขนาดตัวละครเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังแสดงได้ดีเลย โปรดักชันดี ดนตรีประกอบดี คือดูแล้วก็แอบดีใจว่า ละครไทยพัฒนามาไกลมาก

แต่ที่ยังไม่ดีเท่าที่ควรคือ บทละคร ผมว่ายังทำไม่ถึง ยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่นิดหน่อย มีความไม่สมเหตุสมผล หรือทำให้เราดูแล้วว่า มันมาแบบนั้นแบบนี้ได้ยังไง

ถ้าเอาไปเทียบกับ ‘เลือดข้นคนจาง’ ซีรีส์เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเป็นละครแนวดราม่า ฆาตกรรม สืบสวน แย่งมรดก ซึ่งเป็นแนวใกล้เคียงกันแล้วเทียบไม่ติด เลือดข้นคนจาง บทละครดีมาก ซับซ้อน สมจริง
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นซีรีส์ที่มีพัฒนาการที่ดี และก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี

แต่ถ้าถามมาว่าชอบมั้ย ตอบว่า ส่วนตัวไม่ได้ชอบ ตามมาลองดูเพราะเห็นว่ากระแสแรงและมีข่าวเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ก็ตามมาดูเพื่อหาความจริง

ส่วนตัวชอบการแสดงของชาย ชาตโยดม เป็นดาราที่สวมบทได้หลากหลายและมักตีบทแตก แต่เรื่องนี้เหมือนยังไปไม่ถึง ขาดอีกนิดนึง ถ้าจะโทษคงโทษผู้กำกับที่ได้ดารามากฝีมือแต่ดึงศักยภาพออกมาไม่หมด ตัวแสดงที่คิดว่าชอบคือ คนที่เป็นเมียเจ้าสัว ดูสภาพเป็นเด็กรับใช้จริง ๆ ซึ่งก็ต้องชมผู้กำกับ

อ่านมาถึงตรงนี้ อาจฟังดูงงๆ ว่าตกลงดีหรือไม่ดี ก็คงพูดให้หายงงว่า ส่วนตัวคิดว่า มันยังขาด ๆ เกิน ๆ บางอย่างดี บางอย่างยังไม่ดี บางอย่างเกือบดี และไอ้ตรงที่ดีมากก็มี ไอ้ตรงที่อึดอัดไม่ดีเลยก็มี

นอกจากนี้ ถือว่าเป็นหนังราคะ ที่ดูฉากราคะแล้วคลื่นไส้ ถ้าเทียบกับหนังหรือซีรีส์ราคะฝรั่งแล้วฝรั่งจะทำสวยงามกว่านี้ และไม่ดูน่าคลื่นไส้

แต่ก็ถือว่าเป็นซีรีส์ไทยที่ตั้งใจทำออกมาได้ดี และดีกว่าละครไทยทั่วไป เพียงแต่ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ถึงขั้นชอบ ผมว่าโดยรวมถือว่า เกือบดี แต่ตรงที่ว่ายังไม่ดี ผมว่ามันติดอยู่อีกนิดนึง ซึ่งก็น่าจะเป็นที่บท ดูแล้วอึดอัด แต่ยังไงก็ยังคงชื่นชมในความพยายามที่จะทำให้ดี ปรับปรุงเรื่องบทละครอีกนิดจะดีมาก

ทั้งหมดนั้นเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เชื่อว่ามีคนจำนวนมากเห็นต่างจากผม คือส่วนใหญ่น่าจะชอบและมองว่าดีแล้ว

ส่วนประเด็นที่วิจารณ์กันว่า เป็นละครแซะสถาบัน ผมก็พยายามดู แต่ยังไม่หาเจอว่ามีเนื้อหาแบบนั้นเลย หรือว่าผมยังดูไม่ถึงตรงนั้น ใครเจอว่าอยู่ตรงไหน ช่วยบอกหน่อยครับ

แต่ผมว่า ซีรีส์เขาทำมาดีแล้วแต่มีคนนิ้วไม่ครบคิดไปเอง โยงไปเองมากกว่ากระมัง

เพราะผมมักไปเจอเรื่องราวที่ปกติ เช่นประวัติศาสตร์ วรรณกรรม เรื่องสั้น ที่เราเคยอ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่คนมีนิ้วไม่ครบ ก็เอามาเล่าใหม่ เขียนกันใหม่ให้มันไม่ปกติ ด้วยการโยงเพื่อแซะกร่อนสถาบันหรือโยงไปเรื่องความไม่เท่าเทียม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เยอะมาก เพื่อเอามาล้างสมองกลุ่มคนที่เปราะบางหรือกลุ่มคนที่ไม่รู้

‘นักเรียนดี’ เปิดตัว งานนิทรรศการเมต้าเวิร์ส ในหลวงรัชกาลที่ 10 ‘King Rama X’ เพื่อให้ ‘พระราชกรณียกิจ’ ของกษัตริย์ผู้ปิดทองหลังพระ ได้เผยแพร่สู่สายตาคนทั่วโลก

(27 ก.ค.67) ‘นักเรียนดี’ เปิดตัวงานนิทรรศการเมต้าเวิร์สในหลวงรัชกาลที่ 10 ‘King Rama X’ เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่สายตาคนทั่วโลกบน VR Metaverse เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยสามารถเข้าชมได้ผ่านแพลตฟอร์ม Spatial. io ซึ่งสามารถเข้าได้ผ่าน Website หรือ Mobile Application ทั้ง Oculus / IOS และ Android

โดยในงานแบ่งการจัดแสดงออกเป็น ‘6 ส่วน’ ตามธีมนิทรรศการดังนี้

1. โซนพระราชประวัติ
2. โซนพระราชกรณียกิจ
3. โซนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
4. โซนภาพวาดฝีพระหัตถ์
5. โซนพระราชกรณียกิจที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
6. โซนห้องภาพแห่งความทรงจำ

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชน

งานนิทรรศการเมต้าเวิร์สในหลวงรัชกาลที่ 10 ‘King Rama X’ จึงเป็นนิทรรศการที่พสกนิกรจะร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงปิดทองหลังพระและทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยโดยเสมอมา

โดยท่านสามารถสมัครและ login เข้าไป จากนั้นค้นหา นิทรรศการ ‘Metaverse King Rama X’ หรือคลิกลิงก์ในโพสต์ตามลิ้งที่เราได้แนบไว้ หรือสแกน Qrcode แล้วท่านจะพบความประทับใจอันล้ำค่าที่พร้อมเผยแพร่สู่สายตาคนทั่วโลก บน Spatiol. io ที่จัดทำกันโดยกลุ่มนักเรียนดี ได้แล้ววันนี้

เข้าไปชมงานที่ลิงก์นี้ได้เลยจ้า
> https://bit.ly/3Sr7vkG

ครูชาวอเมริกัน เดือด!! แอปเปิลไม่น่ารัก ทำโฆษณาเหยียดหยาม ‘ประเทศไทย’ กระทบภาพลักษณ์ ทำให้ดูแย่ในสายตาชาวโลก ประกาศชัด ‘เปลี่ยนใช้ซัมซุงดีกว่า’

(27 ก.ค.67) ชาวโซเชียลแชร์วิดีโอคลิปของนายเดวิด วิลเลียม ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกัน และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ซึ่งได้ออกมาวิจารณ์ภาพยนตร์โฆษณาของแอปเปิล (Apple) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ที่ถ่ายทำในประเทศไทย เพื่อฉายให้เห็นถึงฟังก์ชันการทำงานของระบบปฏิบัติการไอโอเอส ระบุว่า ตนรับไม่ได้และถามว่านายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และทีมงานแอปเปิลเป็นอะไร เพราะชาวต่างชาติที่มาประเทศไทย บรรยากาศไม่ได้เป็นแบบในโฆษณา ตนชมโฆษณาแล้วสงสัยว่าเป็นประเทศไทยเมื่อ 50-70 ปีที่แล้วหรือไม่ ทำไมไม่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยในวันนี้ หากค้นหาใน Google จะพบว่าประเทศไทยทันสมัย โดยเฉพาะสนามบินที่ทันสมัยกว่าสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี (JFK) ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเสียอีก หากค้นหาจะพบว่าสนามบินในไทยดีมาก จะหาสนามบินที่ดูเก่าแก่ที่สุดไปเพื่ออะไร

อีกฉากหนึ่ง เมื่อครอบครัวในคลิปขึ้นแท็กซี่ ยังจะหาแท็กซี่ที่มีสภาพเก่าแก่ ตนสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำในฐานะชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยมานาน ตั้งแต่อยู่ที่นี่ไม่ว่าจะขึ้นรถแท็กซี่กี่คัน ไม่เคยขึ้นแท็กซี่ที่ดูแย่กว่านี้ และโรงแรมที่ครอบครัวในคลิปเลือกมา น่าจะเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุด จำเป็นหรือไม่ที่ต้องหาทุกอย่างที่ดูแย่ขนาดนี้ ตนกล้าพูดว่าทุกอย่างในคลิปนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของคนไทยในสายตาของชาวโลกดูแย่ที่สุด สิ่งที่แอปเปิลควรรู้ไว้ก็คือ ในเมื่อชาวต่างชาติอีกส่วนหนึ่งชอบเหยียดคนไทย จำเป็นหรือไม่ที่ออกมาซ้ำเติมคนไทยแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่น่ารักแม้แต่นิดเดียว

นอกจากนี้ ยังมีบรรดาผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในไทย หรือติ่งแอปเปิล ออกมาปกป้องและหาข้ออ้างว่า ไม่ใช่คลิปดูถูกประเทศไทย แอปเปิลพัฒนาไม่หยุด และอัจฉริยะไม่หยุด ลักษณะคลิปที่ถ่ายออกมาตั้งใจให้ดูย้อนยุค ย้อนสมัย อยากจะให้ดูว่าเป็นประเทศไทยเมื่อ 30 ปีก่อน ถ้าสังเกตดีๆ ถ้าจินตนาการของแอปเปิลคือประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ขอถามว่าสมาร์ทโฟนอย่างไอโฟน 15 (iPhone 15) ปรากฏในโฆษณานี้ได้อย่างไร ถามว่าในวันนั้นไอโฟนเกิดขึ้นมาบนโลกแล้วหรือยัง คำตอบคือไม่ ถ้าแอปเปิลรักคนไทยจริงๆ ให้เกียรติหรือเอ็นดูคนไทยจริงๆ จะไม่ทำคลิปแบบนี้แน่ๆ

เพราะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ทุกครั้งที่ฉากในสหรัฐอเมริกาปรากฏออกมา สังเกตได้ว่าทำไมทุกเมืองดูดี ดูสะอาด ซึ่งความจริงสกปรกกว่านี้ และมีคนไร้บ้าน (Homeless) มากกว่านี้ แต่จุดสำคัญก็คือ ถ้าไปดูภาพยนตร์โฆษณาของแอปเปิลที่ถ่ายทำในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์กหรือชิคาโก ก็มีคำถามว่าทำไมบ้านตัวเองถึงดูดี ดูเท่ จากโฆษณานี้ทำให้ตนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงแทน เพราะให้เกียรติคนไทยมากกว่า แต่สิ่งที่แอปเปิลจะต้องเข้าใจก็คือ ถ้าจะมาขายของให้คนไทย แล้วมาดูถูกคนไทย หรือทำให้คนไทยดูแย่มากในสายตาชาวโลก จะไม่อุดหนุนต่อไปแน่นอน

โรงพยาบาลตำรวจ นำทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพ ตรวจสุขภาพฟรี ตามโครงการจิตอาสา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

เมื่อวานนี้ (26 ก.ค. 67) ณ วัดศรีรัตนธรรมาราม อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่(สบ 8)พร้อมด้วย พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์(สบ 7)รพ.ตร. และ พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์(สบ 6) รพ.ตร. ลงพื้นที่ร่วมกับคณะเเพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขา ปฏิบัติหน้าที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตรวจสุขภาพให้แก่ประชาชนทั่วไปที่เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี ตามโครงการจิตอาสา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในการนี้ โรงพยาบาลตำรวจ นำทีมแพทย์ พยาบาล ให้บริการตรวจสุขภาพ ซึ่งมีประชาชนสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 461 คน โดยรับบริการตรวจตาและตรวจความดันตา 153 คน ตรวจโรคทั่วไป 223 คน

การฝึกอบรมการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง 110 คน ตรวจอัลตร้าซาวด์ไขมันพอกตับ 34 คน ตรวจกล้ามเนื้อและตรวจกระดูก 114 คน ให้บริการฝังเข็ม แพทย์แผนไทย และกายภาพบำบัด 106 คน ทันตกรรม 72 คน รับยา 200 คน

พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)กล่าวว่า โครงการ จิตอาสา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นโครงการที่โรงพยาบาลตำรวจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อ
ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และเป็นภารกิจหลักของโรงพยาบาลในการรักษาดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ 

กิจกรรมวันนี้มีประชาชน ให้ความสนใจ มารับบริการเป็นจำนวนมาก ทุกคนขอบคุณ โรงพยาบาลตำรวจที่นำทีมแพทย์พยาบาลมาให้บริการด้านสุขภาพฟรีในวันนี้

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน”

‘กฟผ.’ พร้อมรับมือแหล่งก๊าซฯ JDA-A18 หยุดจ่ายก๊าซฯ 16 วัน มั่นใจ!! ไม่กระทบผู้ใช้ไฟฟ้าภาคใต้ เตรียมมาตรการรับมือไว้ 5 ด้าน

(27 ก.ค.67) กฟผ. เตรียมมาตรการ 5 ด้าน พร้อมรับมือการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) เพื่อซ่อมบำรุงประจำปี ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม 2567 ยืนยันไม่ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในพื้นที่ภาคใต้ร่วมประหยัดพลังงานในช่วงเวลา 18.00-21.30 น.

นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือ JDA-A18 ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำหนดซ่อมบำรุงรักษาประจำปี ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม 2567 รวม 16 วัน ส่งผลให้ไม่สามารถส่งจ่ายก๊าซฯ ให้กับโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม กฟผ. ได้วางแผนมาตรการรองรับ 5 ด้าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในภาพรวม ประกอบด้วย

• ด้านเชื้อเพลิง สำรองปริมาณน้ำมันดีเซลที่โรงไฟฟ้าจะนะและน้ำมันเตาที่โรงไฟฟ้ากระบี่ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในช่วงเวลาหยุดจ่ายก๊าซฯ รวมทั้งมีแผนรองรับหากการซ่อมบำรุงล่าช้ากว่ากำหนด

• ด้านระบบผลิต เตรียมโรงไฟฟ้าจะนะให้สามารถเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล พร้อมประสานโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ในภาคใต้ให้มีความพร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า และสามารถรับไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน 

• ด้านระบบส่ง ตรวจสอบสายส่งเชื่อมโยงจากภาคกลางมายังภาคใต้ สายส่งไฟฟ้าและอุปกรณ์สำคัญในพื้นที่ให้พร้อมใช้งาน รวมถึงงดการทำงานบำรุงรักษาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง

• ด้านบุคลากร จัดเตรียมทีมงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเข้าแก้ไขสถานการณ์ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

• ด้านผู้ใช้ไฟฟ้า กฟผ. ขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ร่วมกันประหยัดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา 18.00-21.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้

“กฟผ. พร้อมดำเนินการตามมาตรการรองรับการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง JDA-A18 อย่างเต็มที่ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้จะมีความมั่นคงและเพียงพอ ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน” นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ ได้กล่าวย้ำในตอนท้าย 

รรท.รอง ผบ.ตร. หารือหน่วยงานความมั่นคง สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งยกระดับความร่วมมือ เพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทในภูมิภาค

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทุกประเภท สมควรที่จะแสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมบูรณาการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน ในระดับพหุภาคีและระดับสากล

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. เป็นผู้แทน ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ที่ปรึกษา ผบ.ตร.ด้านต่างประเทศ, พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบช.ส., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.ประจำ บช.ก. และเจ้าหน้าที่ ตท. ให้การต้อนรับ นายหู ปินเฉิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, นายอู๋ จืออู่ อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย, นายหนิว ไห่เฟิง รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ, นายหวาง เทา ผอ.สำนักงานต่อต้านการก่อการร้าย, นางหลิว ต้านลู่ ผอ.สำนักงานกฎหมาย และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับ ตร. ณ ห้องพรหมนอก อาคาร 1 ตร.

ผลการหารือข้อราชการ ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันใน 4 ประเด็น ดังนี้
1.เร่งรัดขยายขอบเขตแห่งความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยต้องมีแผนปฏิบัติความร่วมมือให้ชัดเจน
2.ความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเน้นอาชญากรรมออนไลน์ คอลเซนเตอร์ และฉ้อโกงออนไลน์
3.ฝ่ายจีนร้องขอให้จับกุมชาวจีนที่กระทำผิด กลับไปดำเนินคดีที่จีน โดยคดีสำคัญให้ใช้การส่งผู้ร้ายข้ามแดนส่วนคดีอื่นๆให้พิจารณาใช้การผลักดัน 
4.คณะตำรวจจากมณฑลกวางตุ้งจะมาเยือนไทย ในเดือน ส.ค.67 เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่าง ตร.จีน และ ตร.ไทย โดยเน้นย้ำให้ความสำคัญในการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยระหว่างกัน

พล.ต.ท.ประจวบฯ รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกประเทศสมาชิก ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงทั้งในและระหว่างภูมิภาค ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทั้งในระดับพหุภาคีและระดับสากล เคียงข้างและร่วมมือกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาความมั่นคงทุกประเภท นำไปสู่ความสำเร็จในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทในภาพรวม เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย มีสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ รับรางวัลระดับโลก

เมื่อวันที่ (25 ก.ค.67) น.อ.(ญ)จิรพรรณ ตันติมงคลสุข และ น.อ.(ญ)ภาศรี มหารมย์ และทีม คกก.ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ เดินทางไปรับรางวัล Hand Hygiene Excellent Award ที่งาน International Congress of Asia Pacific Society of Infection Control ที่ประเทศ อินโดนีเซีย 

เป็นรางวัลระดับโลก ในส่วนงานป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ ภายใน รพ. ซึ่งมี ทีมของ รพ.ต่างๆ ในเขต Asia Pacific ในปีนี้ได้รับรางวัลเพียง 2 แห่ง และรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. เป็น 1 ใน 2 แห่งนั้น

รางวัลนี้ เป็นรางวัลอันทรงคุณค่าที่มอบให้แก่ รพ.ที่มีระบบภาพรวมในการบริหารงาน ดูแล ควบคุม กำกับการแพร่เชื้อโรคภายใน รพ. ไปสู่ผู้ป่วย โดยหนึ่งในกระบวนงานนั้นคือ การ ล้างมือของบุคลากร ฯ

รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และร่วมกิจกรรมเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาร่วมงาน

วันนี้ (27 กรกฎาคม 2567) เวลา 12.00 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม , พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงการเตรียมความพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์และการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ในงานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณท้องสนามหลวง 

รัฐบาลภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีการจัดกิจกรรมตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ประกอบด้วย การจัดทําน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีพิธีพลีกรรมตักนํ้าจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด มาประกอบพิธีเสกน้ำ เวียนเทียนสมโภชในแต่ละจังหวัด ก่อนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ดังกล่าวมาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย และมีขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากบริเวณถนนอัษฎางค์ กระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เพื่อทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 06.00 น. จะมีขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

สำหรับวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังนี้ 
- เวลา 06.35 น. พิธีขบวนอิสริยยศ เชิญน้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง 
- เวลา 07.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณท้องสนามหลวง 
- เวลา 07.45 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ บริเวณท้องสนามหลวง 
- เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
- เวลา 12.00 น. 3 เหล่าทัพ ยิงสลุตหลวง หน่วยละ 21 นัด 
- เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงตั้งสมณศักดิ์จีน ญวน และพระสงฆ์ 
- เวลา 17.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ณ บริเวณท้องสนามหลวง 
- เวลา 19.19 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร 
ในส่วนภูมิภาค จังหวัดต่างๆ จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันนี้ทั่วประเทศด้วย

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถร่วมชมการแสดงสาธิตการเห่เรือเฉลิมพระเกียรติ แบบผูกทุ่น ซึ่งกองทัพเรือได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช  ผูกทุ่นประกอบการแสดงกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ณ ท่าราชวรดิฐ  เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม 2567 วันละ 2 รอบ รอบละ 25 นาที  โดยวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 15.00 น. และ 20.30 น. ส่วนวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 17.00 น. และ 20.00 น. 

สำหรับการเดินทางร่วมพิธีต่างๆ นั้น ได้มีการจัดการโดยสารสาธารณะให้บริการฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการเดินทางไปร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธี และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จากจุดต่างๆ เพื่อมายังบริเวณการจัดงาน ณ ท้องสนามหลวง ทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ ดังนี้

- องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี (จอดรับ-ส่งทุกป้าย) ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 ให้บริการตั้งแต่เวลา 14.00 - 21.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ 
1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพญาไท) - สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
2. สายใต้ใหม่ - สนามหลวง : จอดรับ - ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
3. หมอชิต 2 - สนามหลวง : จอดรับ - ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
4. วงเวียนใหญ่ - สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา
5. เดินรถเป็นวงกลม เส้นทางสนามหลวง - ท่าช้าง – ท่าเตียน

- การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถไฟขบวนรถพิเศษโดยสาร 3 เส้นทาง ให้บริการฟรี ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567ได้แก่
เส้นทางที่ 1 : สถานีอยุธยา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีอยุธยา เวลา 13.35 น. และออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.20 น
เส้นทางที่ 2 : สถานีฉะเชิงเทรา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 13.30 น. และออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.25 น.
เส้นทางที่ 3 : สถานีนครปฐม - สถานีธนบุรี โดยออกจากสถานีนครปฐม เวลา 14.00 น. และออกจากสถานีธนบุรี เวลา 22.00 น.

- กรมเจ้าท่า จัดบริการเรือข้ามฟากและเรือด่วนอำนวยความสะดวกประชาชน ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 15:00 น จนกว่าจะแล้วเสร็จ 
บริการเรือข้ามฟาก : ไป-กลับ ระหว่างท่าเรือวัดระฆังฯ (ฝั่งธน) - ท่าเรือท่าช้าง 
บริการเรือโดยสาร : กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด บริการเรือฟรีรับส่งประชาชน ไป-กลับท่าเรือสาทร - ท่าเรือกรมเจ้าท่า - ท่าเรือราชินี - ท่าเรือท่าเตียน

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธี และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยในการดูแลอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนที่เดินทางจากจังหวัดต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ รับผิดชอบในการประสานงานและจัดรถนำเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ในส่วนของพื้นที่จุดจอดรถพักคอยรอบนอกกรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมไว้จำนวน 3 จุด ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี , ลานจอดรถพุทธมณฑลสาย 4 และลานจอดรถ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พระราม 9 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมรถนำจากกองบังคับการปราบปราม กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมภารกิจนำรถขบวนพี่น้องประชาชนที่แสดงความประสงค์มาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ จากต่างจังหวัด และนำส่งยังภูมิลำเนาหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ในส่วนของพื้นที่เส้นทางในกรุงเทพมหานครบริเวณโดยรอบพิธีต่างๆ นั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจจราจร เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเตรียมช่างซ่อมแซมรถ รถเคลื่อนย้ายยานพาหนะ เพื่อแก้ไขปัญหากรณีเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย รวมทั้งจัดสายตรวจจราจรเพื่อให้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกรณีเร่งด่วน เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชนได้ในทันท่วงที

โอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกท่านสวมใส่เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ร่วมประดับธงตราสัญลักษณ์ตามอาคารบ้านเรือน เจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 19.19 น. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยที่กรุงเทพมหานคร จัดที่ท้องสนามหลวง และต่างจังหวัดจัดในสถานที่ที่ทางจังหวัดกำหนด 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top