Thursday, 3 July 2025
NEWS FEED

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! นักกีฬาโอลิมปิก ครั้งนี้ทำดีที่สุดแล้ว ขอให้มุ่งมั่นต่อไป พร้อมบ่นสื่อ "ถามอะไรก็ไม่รู้' หลังถูกซักเรื่อง 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ

(16 ส.ค.67) ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนศรีอยุธยา กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เปิดห้องรับรองสำนักงานคณะกรรมการฯ เลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคม เข้าร่วม

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจและมอบของที่ระลึกกับบรรดานักกีฬา รวมถึงเซลฟี่กับ น้องเทนนิส น.ส.พานิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่ได้เหรียญทองในครั้งนี้ รวมถึงทำท่าซารางเฮโย กับโค้ช ชัชชัย เช อย่างอารมณ์ดี

จากนั้นเวลา 12.15 น. พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังงานเลี้ยงรับรองนักกีฬาโอลิมปิกถึงการพูดคุยกับนักกีฬา ว่า ให้กำลังใจเขา แล้วสื่อให้กำลังใจเขาหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องพัฒนานักกีฬาเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเข้าร่วมโอลิมปิกในครั้งหน้าอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องทำให้ได้เหรียญมากขึ้น ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดแล้ว แต่ต่อไปต้องมากกว่านี้อีก ต้องให้กำลังใจและชักชวนเด็ก ๆ คนไทยทุกคนมาเล่นกีฬาอะไรก็ได้ เพื่อทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติและคนไทยมีความสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ติดตามเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์และเปิดกระจกลงมาถามผู้สื่อข่าวว่า อยากจะถามอะไร ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า มองอย่างไรที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 พล.อ.ประวิตร อุทานว่า "หูย ! ถามอะไรก็ไม่รู้" ก่อนเดินทางกลับทันที

สมุทรปราการ-พิพิธภัณฑ์ครุฑ จัดพิธีบวงสรวงพญาครุฑ พร้อมมอบโล่ใบประกาศเชิดชูเกียรติแก่เยาวชนกตัญญู ประจำปี 2567

ที่พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดยธนาคารทหารไทยธนชาต ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายสุจินต์ วาจากิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีบวงสรวงมหามงคลฉลองบูรณะองค์พญาครุฑ ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์รับสิริมงคล   

โดยมี พล.ต.จินตมัย ชีกว้าง รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบกส่งเสริมกิจกรรมเด็กและเยาวชน เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ความซื่อสัตย์สถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ หัวหน้ากิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมในพิธีครั้งนี้

ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก นางสาวสุมลฑา เจริญศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย ดร.วิชัย จันทร์จำรูญ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ นางสาวจรรยารักษ์ สาธิตกิจ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ คณะครูและนักเรียนจากสถานการศึกษาต่าง ๆ ทั้งในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ที่เดินทางมารับมอบโล่และใบประกาศเชิดชูเกียรติพร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก

โดยกิจกรรมในช่วงเช้าได้จัดพิธีบวงสรวงองค์พญาครุฑที่ตั้งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ จากนั้น ได้จัดให้มีพิธีมอบโล่และใบประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนพิพิธภัณฑ์ในทุกด้าน รวมถึงคณะครูและผู้บริหารจากสถานการศึกษาต่างๆ พร้อมได้มอบโล่และใบประกาศการยกย่องเชิญชูเกียรตินักเรียนต้นแบบคนกตัญญู ประจำปี 2567 อีกด้วย

#ตำรวจมาเลเซียเจ้าภาพคว้าถ้วยจิรวงศ์ ครั้งที่ 35

เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.67) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ประธานคณะทำงานจัดการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / รองประธานฯ, พล.ต.อ.ปริญญา จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ, พล.ต.ต.เทอดศักดิ์ รุจิรวงศ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ, พล.ต.ต.สมพร สัจจพจน์ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะ ร่วมชมการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลประเพณีตำรวจไทย-มาเลเซีย ชิงถ้วย “รุจิรวงศ์” ครั้งที่ 35 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 ณ สนามกีฬาฮังตูวะห์ เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย

โดยมี ดาโต๊ะ เซอรี อุตามอ อับดุล ราอุฟ บิน ยูโซะห์ ผู้ว่าการรัฐมะละกา, ตัน ซารี ราซารูดิน บิน ฮูเซ็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ซารี อัสมี บิน อาบู กัซซิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ซารี รัมลี บิน โมฮัมเหม็ด ยูซุฟ ผู้อำนวยการฝ่ายปรามอาชญากรรมเศรษฐกิจ ตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ฮัจญี ไซนอล บิน ฮัจญี ซามะห์ หัวหน้าตำรวจรัฐมะละกา, อับดุล รามัล บิน อาซะ รอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมะละกา ร่วมให้การต้อนรับ 

สำหรับการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณี ตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ได้เริ่มต้นในปีพุทธศักราช 2504 ครั้งเมื่อ พลตำรวจเอก ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ โดย ทีมรักบี้ฟุตบอลสโมสรตำรวจ ได้เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศมาเลเซีย เป็นครั้งแรก ต่อจากนั้น ได้มีการสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลายาวนานถึง 63 ปี กลายเป็นประเพณีที่ผูกพันระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศ และถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการสร้างโอกาสให้ตำรวจทั้งสองประเทศได้มีความคุ้นเคยกัน เสริมสร้างสัมพันธภาพอย่างแนบแน่นมั่นคง

ในผลการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลประเพณี ตำรวจไทย - ตำรวจมาเลเซีย ครั้งที่ 35 ประจำปี 2567 มีดังนี้

1.การแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 10 คน ประเภทอายุเกิน 45 ปี ตำรวจมาเลเซีย ชนะ ตำรวจไทย ด้วยคะแนน 26 : 0 จุด ตำรวจมาเลเซียครองถ้วย “Razarudin Cup“

2.การแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 15 คน ประเภทอายุไม่เกิน 45 ปี ตำรวจมาเลเซีย ชนะ ตำรวจไทย ด้วยคะแนน 31 : 21 จุด ตำรวจไทยครองถ้วย "รุจิรวงศ์" 

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีดังกล่าว ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม, การป้องกันปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด, การค้ามนุษย์, การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง, แรงงานผิดกฎหมาย, องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ, ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรและเสริมสร้างความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงระหว่างกันของประชาคมโลกเข้าด้วยกัน 

‘นักเรียนประถม’ ถูกไฟดูดกลางป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 ล่าสุดเอ็นขาด ค่ารักษาเฉียดแสน หลังสะบัดมือไปโดนเหล็ก

(16 ส.ค.67) จากกรณีที่เพจดัง 'อีซ้อขยี้ข่าว3' โพสต์ข้อความระบุว่า "เด็กนักเรียนชายถูกไฟดูดที่เสาแล้วสะบัดมือออกไปโดนเหล็กบาด จนเอ็นขาด บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 (กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว )"

ต่อมาพบว่า นักเรียนที่ถูกไฟฟ้าดูดนั้น เป็นเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาเท่านั้น โดยนักเรียนรายนี้ เรียนโรงเรียนอนุบาลชื่อดังในซอยสุขุมวิท 71 ต่อมาทางเพจ 'อีซ้อขยี้ข่าว3' ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 ลูกชายโดนไฟดูดแล้วสะบัดมือไปโดนเหล็กบาด เอ็นขาด รอเย็บ ค่าใช้จ่าย 85,000 บาท พร้อมทั้งโพสต์ภาพป้ายรถเมล์ พร้อมระบุว่า "ป้ายรถเมล์ที่เกิดเหตุ ไม่ต้องรอให้ตายถึงเป็นข่าวนะคะ"

งานนี้ชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความออกไปจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้เด็กที่บาดเจ็บปลอดภัย หายไวไวอีกด้วย 

พิพัฒน์ หนุนจ้างงานอุตสาหกรรมการบิน หารือไทยเวียตเจ็ทนำเครื่องพร้อมนักบินเข้า ลดค่าตั๋วบิน เสริมท่องเที่ยวในประเทศ

เมื่อวันที่ (14 ส.ค.67) เวลา 13.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยเวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะและหารือการส่งเสริมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการบินเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมขอขอบคุณคณะผู้บริหารบริษัท ไทยเวียตเจ็ทฯ ที่มาเยี่ยมเยียนกระทรวงแรงงานในวันนี้ รวมถึงหารือกันในประเด็นการขอเพิ่มจำนวนนักบินและเครื่องบินนำเข้ามาในประเทศเพื่อให้แรงงานมีงานทำ มีรายได้มากขึ้นในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการจัดหางานไปหารือในรายละเอียดข้อกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกประกาศ เพื่อให้นักบินต่างชาติเข้ามาบินได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นระยะ 6 เดือน เพื่อทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาสายการบินขาดแคลนนักบิน ขณะเดียวกันจะเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่สำคัญจะทำให้ค่าตั๋วโดยสารมีราคาถูกลงจากปัจจุบันลงได้

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการออกมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผมขอขอบคุณและชื่นชมผู้บริหารบริษัทไทยเวียตเจ็ท ที่บริษัทมีแนวทางการพัฒนานักบิน ส่งเสริมการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบินอย่างต่อเนื่อง เป็นผลทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตและฟื้นตัวโดยเร็ว สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน 

ด้าน นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด กล่าวว่า ในนามบริษัท ไทยเวียตเจ็ทฯ ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะที่เปิดโอกาสให้เข้าพบและหารือเรื่องการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบินในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยเวียตเจ็ทเราเป็นบริษัทสายการบินที่ไม่เคยปลดพนักงานมาก่อน และเราดูแลพนักงานอย่างดีที่สุด แม้ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาหลายบริษัทลดกำลังการผลิตลง แม้กระทั่งธุรกิจสายการบินเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่บริษัทขอชื่นชมนโยบายรัฐบาลที่มีมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจน เช่น ฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนนักบินให้ได้ 300 คน เพิ่มจำนวนพนักงานเป็น 2,500 - 3,000 อัตรา ภายใน 5 ปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

‘หนุ่มไทยใจดี’ ช่วยแกะสติกเกอร์บนเสาเหล็กภูเขาฟูจิให้แล้ว หลังเพจท่องเที่ยวนำไปแปะจนทัวร์ลงสนั่น เหตุ!! ไม่เหมาะสม

(15 ส.ค. 67) จากกรณีเฟซบุ๊กเพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 30,000 คน ได้โพสต์ภาพแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานบนยอดเขาฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งได้โพสต์ภาพที่แฟนเพจทักอินบ็อกซ์มาชื่นชมด้วยที่เจ้าของเพจนำสติกเกอร์ข้อความเดียวกับชื่อเพจไปติดบนเสาที่ใช้กั้นเขตทางเดินบนภูเขาฟูจิ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ มากมาย อาทิ ไม่ควรทำเพราะเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นเคารพและศักดิ์สิทธิ์

ด้านเจ้าของเพจชี้แจงว่า ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว และเป็นสถานที่ที่สามารถติดสติกเกอร์ได้ ไม่ได้มีเธอติดคนเดียว อย่างไรก็ตามทางเพจได้ปิดเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวไปแล้ว

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ‘ลองวิเคราะห์ดู’ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.5 แสนคน เปิดเผยว่า “มีลูกเพจท่านหนึ่งแกเห็นโพสต์พอดีตอนปีนขึ้นเขามา แกเลยแกะออกโดยไม่ได้คิดไรเยอะแกว่า ถ่ายไว้ด้วย แอดเลยขอภาพขอคลิปเขามา”

“ขอขอบคุณความมือบอนของคุณ สำหรับแอดมันดีมากเลยนะ บางครั้งการทำลายมันก็เป็นเรื่องที่ดี ยิ่งการทำลายสติกเกอร์ที่ไปติดตามสถานที่ท่องเที่ยวนี่ยิ่งดีเลย ไม่รู้จะพูดยังไง นอกจากขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ”

“ปล. แอดอาจพิมพ์อะไรตกหล่นไปนะ เรื่องสติกเกอร์ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวมันก็มีประเทศอื่นด้วยแหละ แต่มันไม่ได้แปลว่าต้องทำตาม และก็ขึ้นอยู่ว่าสถานที่นั้นให้ติดได้หรือไม่ (พูดเผื่อว่าบางที่มีไว้สำหรับติด)”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้าไปขอบคุณ และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่นว่า อยากบอกว่า กราบขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ, พล วิก มาเก็บงาน, ขอบพระคุณจากใจจริง ๆ, เอาจริง ๆ เที่ยวธรรมชาติก็อย่าไปหาทำอะไรที่ทำลายธรรมชาติเลย ไม่ว่าทิ้งขยะหรือสลักชื่ออะไรลงไป

'เรือด่วนเจ้าพระยา' แจงเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวเฉี่ยวชนเรือด่วนเจ้าพระยา 'นักท่องเที่ยว-ประชาชน' ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ส่ง รพ. ปลอดภัยแล้ว

(15 ส.ค. 67) บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เผยถึงกรณีเรือท่องเที่ยวเฉี่ยวชนกับเรือด่วนเจ้าพระยา บริเวณใกล้ท่าเรือพระปิ่นเกล้า (ปากคลองบางกอกน้อย) ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 11.50 น. โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดทันที ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 คนจากการกระแทกกันของเรือ ทางกรมเจ้าท่าพร้อมหน่วยกู้ภัยและบริษัทฯ ได้ดำเนินการนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลเพื่อดูแลรักษา และปัจจุบันผู้บาดเจ็บทุกคนได้รับการดูแลโดยคณะแพทย์และอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ 3 รายได้เดินทางกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย 

อนึ่ง บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการหารือกับทางกรมเจ้าท่าและบริษัทเรือท่องเที่ยว (คู่กรณี) โดยทางกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการสอบสวนและลงบันทึกรายงานเบื้องต้น โดยจะมีการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

บริษัทฯ มีนโยบายและมาตรการที่ต้องปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานได้ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน และบริษัทฯ ได้มีมาตรการที่เข้มงวดด้านความปลอดภัยในการเดินเรือ และดำเนินการวางแผนงานการป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก หากท่านใดพบเห็นเหตุการณ์หรือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โปรดแจ้งมายัง Line Official Account: @cpxcare (มี @) หรือเฟซบุ๊ก Chao Phraya Express Boat - เรือด่วนเจ้าพระยา

‘ชาวเน็ต’ ติง!! ‘เพจท่องเที่ยว’ หลังแปะสติกเกอร์บนเสาเหล็กภูเขาฟูจิ ชี้!! ‘การเคารพ-ให้เกียรติสถานที่’ เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวควรทำ

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค. 67) กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊กท่องเที่ยว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 37,000 คน ได้เผยภาพโมเมนต์แฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานบนยอดเขาฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้โพสต์ภาพที่ลูกเพจทักอินบ็อกซ์มาชื่นชมด้วยที่เจ้าของเพจนำสติกเกอร์ข้อความเดียวกับชื่อเพจไปติดบนเสาที่ใช้กั้นเขตทางเดินบนภูเขาฟูจิ

ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปได้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างมากว่าเป็นการกระทำที่อาจจะไม่เหมาะสมหรือไม่ บ้างก็มองว่าเป็นเพจท่องเที่ยวอาจจะต้องมีการศึกษากติกาก่อนว่าทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ภูเขาฟูจิ และเสาโทริอิ ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่นด้วย แม้จะอ้างว่าสอบถามคนแถวนั้นก่อนติดแล้ว แต่จริง ๆ อาจจะต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่หรือไม่

- อ้างว่าได้ขออนุญาตจากร้านค้าแถวนั้นแล้ว พอติดเสร็จก็เอาออกเลย (แต่ก็ไม่รู้ว่าได้แกะออกจริงหรือเปล่า) ประเด็นสำคัญคือ คุณไม่ควรคิดที่จะไปติดตรงนั้นตั้งแต่แรกแล้ว แค่คิดก็ผิดแล้ว การเคารพการให้เกียรติต่อสถานที่ เป็นเรื่องที่ควรทำสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเหมือนเป็นการให้เกียรติกับตัวเองด้วย
- ตอนเที่ยวไม่ได้ศึกษาก่อนเหรอว่าอันไหนสมควรหรือไม่?
- เมื่อคืนเจอดรามาในต็อก ๆ แต่หาต้นตอไม่เจอ ตอนนี้เจอละ
- แบบนี้ก็เคยเป็นข่าวแล้วไม่ใช่หรอ อย่างว่าอุทาหรณ์ ไม่ได้มีไว้สอนคนจริง ๆ

ทั้งนี้ ทางเจ้าของเพจได้ชี้แจงว่า “ขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว เป็นพื้นที่ที่เขาสามารถติดได้ และไม่ใช่พลอยติดคนเดียว ท่านอื่น ๆ ขอติดได้ ลองขึ้นไปถึงจุดติด พอครบ 1 ปีจะแกะออกตามปกติ ขอบคุณและน้อมรับ”

ล่าสุดโพสต์ดังกล่าวถูกลบ และเพจไปเที่ยวกับพลอยมั้ย PlayLand ได้ปิดไปแล้ว

'กรมอุทยานฯ' สานต่อความสำเร็จจับมือเครือข่ายภาคปชช. มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ย้ายลิงเมืองเพชรรอบที่ 3 ดร.ยุทธพล ติ้งพ่อเมืองเพชรควรออกมาช่วยกันแก้ปัญหา

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.67) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  มอบหมายให้ นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในฐานะประธานเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการนำร่องย้ายลิงสู่ที่พักพิงใหม่ ครั้งที่ 3 ภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมืองเพชรบุรี โดยมี นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี 

พร้อมด้วย อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม และเจ้าหน้าที่ น.ส.จันทร์แสง สร้างนานอก ประธานมูลนิธิเพื่อสัตว์ป่า นายเอ็ดวิน เจ วิค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า หัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบเขาวังเพชรบุรีเข้าร่วมในพิธีกว่า 300 คน ครั้งนี้ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายลิงแสมบริเวณโดยรอบเขาวังเพชรบุรี (พระนครคีรี) เป็นครั้งที่ 3 เพิ่มอีกจำนวน 156 ตัว เคลื่อนย้ายทั้ง 3 ครั้งร่วม 565 ตัว ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าฯได้จัดเตรียมกรงพักพิงลิงที่ได้รับการสนับสนุนและจัดสร้างโดยมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า บนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร ภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ไว้เป็นสถานที่สำหรับพักพิงลิงแสม โดยได้นำลิงแสมที่เคลื่อนย้ายในวันนี้ นำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความก้าวร้าว รุนแรง พร้อมได้จัดทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาทำการตรวจสุขภาพและดำเนินการทำหมันลิงแสม เพื่อเป็นการควบคุมประชากรลิง ไปพร้อมกันด้วย 

ทั้งนี้เมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลิงแสมแล้ว ก็จะได้หาแหล่งที่อยู่ที่เหมาะสมในการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งยึดถือเป้าหมายที่สำคัญคือการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกิดจากการรบกวนของลิงแสมของจังหวัดเพชรบุรี  ถือว่าเป็นโครงการนำร่องที่ประสบผลสำเร็จ นำไปใช้เป็นโมเดลให้กับจังหวัดอื่นๆในการแก้ปัญหาลิงล้นเมืองได้

ด้าน ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ในฐานะประธานเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า 
รอบนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว รอบแรก 200 ตัว รอบที่สอง 200 ตัว รอบที่สามก็ยากได้ 200 ตัว แต่เนื่องจากกรงที่มีอยู่ค้อนข้างแออัด รอบที่สามนี้จึงได้แค่ 156 ตัว โดยละแวกตัวเมืองเพชรบุรีคงคลี่คลายปัญหาลิงล้นเมืองไปได้เยอะ สิ่งที่ชาวเพชรบุรีต้องการจริงๆคือท้องถิ่นต้องเข้ามาให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่  ไม่ใช้ให้มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า และกรมอุทยานฯเดินหน้าแก้ไขปัญหาตามลำพัง หากท้องถิ่นเข้ามาร่วมช่วยแก้ปัญหา จัดสรรงบประมาณในพื้นที่ก็จะรวดเร็วกว่าไปของบส่วนกลางมาดำเนินการ กฎหมายระเบียบต่างๆทางรัฐมนตรีได้มอบอำนาจให้ท้องถิ่นได้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาลิงร่วมกับกรมอุทยานไปแล้ว ปัญหาจะได้คลี่คล้ายลง หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือพื้นที่ อ.บ.ต.เทศบาลไหน ไม่มีงบประมาณเพียงพอ ก็สามารถจะได้รับงบประมาณสนับสนุนหรืออุดหนุน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือทางจังหวัดเพชรบุรี ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญส่งผลกระทบต่อเศรฐกิจ กระทบต่อชีวิตพี่น้องประชาชนชาวเพชรบุรี จึงวอนท้องถิ่นให้เข้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป  

‘หนุ่มใหญ่รัสเซีย’ สูญทั้ง ‘เงิน-บ้าน-รถ’ ต้องมาสู้ชีวิตที่ จ.ภูเก็ต หลังแยกทางภรรยา เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว วอน!! คนใจดีช่วยหางานทำ

(15 ส.ค. 67) Phuket Times เผยข้อมูลของ Mr. Oleg Magdeev ซึ่งระบุว่าตนเป็นชาวรัสเซีย อายุ 57 ปี มาทำงานอยู่ จ.ภูเก็ต โดยขับเรือยนต์ขนาด 60 ฟุต เป็นเวลา 4 ปี แต่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด เกิดวิกฤติ ตนได้ขายบ้าน และย้ายไปอยู่ที่ จ.ชัยนาท สร้างบ้านในที่ดินภรรยา (จดทะเบียน) และซื้อรถใช้ชื่อภรรยา ปัจจุบันรถถูกยึด ภรรยาเอารถไปไว้ไฟแนนซ์ไม่ผ่อนรถเลยถูกยึด ปัจจุบันแยกกันอยู่กับภรรยา

ปัจจุบันมาขอเช่าบ้านอยู่แถว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่ได้จ่ายค่าเช่ามาหลายเดือนแล้ว ขอเช่ารถจักรยานยนต์เพื่อได้พาลูกไปโรงเรียนและได้ค้างค่าเช่ามาหลายเดือนแล้วเช่นกัน ปัจจุบันลูกชายอายุ 5 ปีอยู่ชั้นอนุบาล

ตอนนี้ต้องการทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูบุตร โดย Mr. Oleg มีความสามารถดังนี้ ขับเรือยนต์ และซ่อมเรือขนาดไม่เกิน 60 ฟุต แต่ปัจจุบันใบอายุใบขับขี่เรือขาดอายุ มีความสามารถในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว พัดลม ตู้เย็น  ปั๊มน้ำ และระบบไฟฟ้า

ตอนนี้ ผู้เช่าก็ให้พักอยู่ แม้ยังไม่มีเงินจ่าย และทราบว่าก็ไปต่อจั้มวีซ่าที่ระนอง ตอนนี้อยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพื่อจะได้มีงานทำ เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก

บ.ไหน หรือท่านใดอยากช่วยเหลืออนุเคราะห์ สามารถติดต่อไปได้ที่คุณเอกวิทย์ สุรัตวดี 090-485-8422


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top