Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

มท.4 ประธาน ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ชุมชนเกาะลอย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง

เมื่อวันที่ (12 ต.ค. 67) เวลา 14.50 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.4) ในฐานะ ประธาน ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ชุมชนเกาะลอย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของงานในพื้นที่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ ยังได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์เอกชัย ที่ให้การอุปถัมภ์เจ้าหน้าที่ อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนเกาะลอย ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อชุมชน

‘อ.สุวินัย’ ชี้ ‘ทำใจดีสู้เสือ’ เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ของ 'บอสพอล ดิไอคอน' รีบเข้าพบตำรวจ เข้าสู่กระบวนการให้เร็วที่สุด แล้วลากยาวในชั้นศาล จนสังคมลืม

(12 ต.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร. สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับกรณี ‘บอสพอล ดิไอคอน’ โดยมีใจความว่า ...

‘ทำใจดีสู้เสือ’ เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ของ 'บอสพอล'

วันนี้เกมชิงไหวชิงพริบระหว่างฝ่ายตำรวจ กับฝ่าย ‘ผู้ร้าย’ (ในสายตาสังคม) ได้เริ่มต้นยกใหม่แล้ว

วันนี้ 'บอสพอล' ชิงเข้าพบตำรวจก่อนถูกออกหมายจับ เขาชิงเล่นถือหมาก ‘มือนำ’ (先手) เพื่อคุมเกมและเล่นเกม 'คดีความ' นี้เพื่อเอาตัวเองให้รอด เคล็ดและยุทธศาสตร์ในการสู้คดีของ 'บอสพอล' ชัดเจนมาก ...เขาต้องการให้คดีของเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด และปล่อยให้กระบวนการสู้คดีในชั้นศาลของเขาลากยาวออกไปให้นานที่สุด จนกระทั่งกระแสสังคมอ่อนแรงลง จนกระทั่งถูกกลบลืมในที่สุด

ใครที่ติดตามตำนาน ‘อายุน้อยพันล้านของบอสพอล’ มาตั้งแต่ต้น ต้องยอมรับว่า 'บอสพอล' ผู้นี้เป็นคนที่ฉลาดอย่างแยบยลในทุกขั้นตอน แผนรับมือวิกฤตทางคดีความของ The Icon ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ น่าจะอยู่ในหัวของ 'บอสพอล' ตั้งแต่แรก และเขาได้เตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้ว

บอสพอล สามารถควบคุมสติของตนได้ ในการมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยเขาน่าจะให้ปากคำกับตำรวจ ตามสคริปต์ที่เตรียมไว้แล้วกับทนาย ....

มีข้อสังเกตว่า พวกบอสดาราขาใหญ่ที่ออกมาเปิดใจกับสื่อเมื่อวานนี้และวันนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ตรรกะเดียวกัน วาทกรรมเดียวกัน ราวกับตระเตรียมกันมาล่วงหน้าจาก ‘ผู้กำกับ’ คนเดียวกันก็ไม่ปาน

การให้พวกบอสดาราขาใหญ่ ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไม่รู้เรื่อง แค่รับจ้างมาเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัทเท่านั้น ... น่าจะเป็นข้อตกลงลับ ๆ ร่วมกันระหว่างบอสพอลกับพวกบอสดาราขาใหญ่ เพราะการปล่อยให้บอสพอลรับมือคนเดียว หรือรับผิดชอบคนเดียวต่อความเสียหายที่เกิดจากบริษัท ... มันเป็นเรื่องง่ายกว่าในการสู้คดีความทางกฎหมายสำหรับบอสพอล เพราะมีโอกาสรอดคดีสูงมาก

ในขณะที่ พวกบอสดาราขาใหญ่ก็สามารถหา 'ทางลง' กลับคืนสู่อ้อมอกของประชาชนได้ไม่ยาก

วันนี้ 'บอสพอล' ได้ดำเนินแผนคู่ขนานสองแผนไปพร้อม ๆ กัน

แผนที่หนึ่ง ‘เอาน้ำเย็นเข้าลูบ’ ... 'บอสพอล' ยอมรับว่า หลังเกิดเรื่องจนถูกสังคมต่อว่า ตนได้ออกมาชี้แจงช้ามาก ซึ่งตอนนี้มีความตั้งใจจะ ‘เยียวยา’ และ 'ช่วยเหลือ' ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนผู้ที่สูญเสียคนในครอบครัว ทางบริษัทจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาแนวทางแก้ไขช่วยเหลือ โดยจะมีบุคคลตัวกลาง ที่เป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่นมาช่วยเหลือ ให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด 

ส่วนแผนที่สอง 'ยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ผิดกฎหมาย' ... 'บอสพอล' บอกว่าความเสียหายทั้งหมดที่อ้างว่าเกิดขึ้นจากทางบริษัทของตน ต้องขอพิสูจน์ทราบและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำทางบริษัทและผู้เสียหายทั้งหมดให้ปรากฏข้อเท็จจริง และเชื่อว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจได้ว่า ใครผิดใครถูก

บอสพอล ระบุว่า บริษัทตั้งมา 6 ปี แล้ว ไม่เคยคิดว่าการขายของออนไลน์ลักษณะนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะตนเองก็ไม่ใช่เจ้าแรกที่ประกอบธุรกิจนี้ จะเห็นว่ารุ่นพี่ในธุรกิจขายของออนไลน์ที่ทำและเติบโต ประสบผลสำเร็จก็ยัง ‘ไม่ผิดกฎหมาย’

ขอสรุปแบบฟันธงว่า ... วันนี้ ยกนี้ ฝ่ายบอสพอลเป็นฝ่ายได้คะแนนนำ จากนี้ไปสังคมต้องจับตาดูว่า ฝ่ายตำรวจจะแก้เกมอย่างไร ถึงจะจัดการ ‘ผู้ร้ายหน้าหยก’ ที่ฉลาดเป็นกรดรายนี้ได้

เหตุการณ์นี้ ผู้ชมอย่างเราเหมือนได้ดูซีรีส์อาชญากรรมของเกาหลี ในชีวิตจริงก็ไม่ปาน

‘เจือ ราชสีห์’ ยื่นหนังสือถึง ปธ.กมธ.คมนาคม วุฒิสภา ให้เร่งเดินหน้าสร้างสะพาน ลั่น!! ความทุกข์ของชาวบ้าน ยังไม่ได้รับการแก้ไข ผมจะหยุดได้อย่างไร

(12 ต.ค. 67) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าพบและยื่นหนังสือถึงนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมการการคมนาคมวุฒิสภา ขอให้สนับสนุนโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ระหว่าง อ.เมืองสงขลา และ อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยให้คณะกรรมาธิการฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อเร่งดำเนินการเป็นการด่วนและรายงานให้ทราบเพื่อคณะกรรมาธิการฯ จะได้ผลักดันให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ต่อไป 

ผมไม่เคยเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเพื่อเชื่อม อ.เมืองสงขลาและ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นอีกหนึ่ง ความหวังของคนสงขลา ผมรับเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมา ก็ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี(ในขณะนั้น) ทันที กระทั่งจังหวัดสงขลาได้ตั้งคณะทำงานฯขึ้นมาทำงานกันอย่างจริงจัง มีความคืบหน้าตามลำดับ วันนี้ผมยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคมวุฒิสภา เพื่อให้สนับสนุนโครงการ ซึ่งท่านก็รับปาก ว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสงขลาอย่างเร่งด่วน และจะแจ้งความคืบหน้าให้ผมทราบเป็นระยะครับ

‘กันต์ กันตถาวร’ เผย เป็นแค่ผู้รับจ้างทำงานใน ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ รู้สึกเสียใจ!! พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยื่นเอกสารให้ตรวจสอบ

(12 ต.ค. 67) หลังเป็นกระแสข่าวฮอต กรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งมีดาราระดับท็อปเป็นบอส และมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนว่าถูกขายฝันให้ร่วมลงทุน แต่สุดท้ายไม่เป็นอย่างนั้น ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก สูญเงินก้อนสุดท้ายของชีวิต สิ้นเนื้อประดาตัว บางรายเครียดถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง โดยเหยื่อทยอยเข้าแจ้งความต่อเนื่อง ทั้งนี้มีดารา นักแสดง ที่เกี่ยวข้องบางท่านออกมาชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (12 ต.ค. 67) ที่ ห้อง Hole in one สนามกอล์ฟ Phothalai กันต์ กันตถาวร พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง อีกหนึ่งคนดังที่นั่งแท่นตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ในเครือ ดิไอคอนกรุ๊ป ออกมาแถลงชี้แจงต่อประเด็นร้อนดังกล่าว

กันต์ กันตถาวร กล่าวว่า ขอพูดจากความรู้สึก ขอแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เริ่มแรก ที่มีข่าวว่าผู้เสียหายเกิดขึ้น มีความเสียหายเกิดขึ้น ตนตกใจมาก เพราะไม่เคยรับข้อมูลแบบนี้มาก่อนตลอดเวลาที่เป็นผู้รับจ้างในดิไอคอนกรุ๊ป

ผมมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ สิ่งที่ได้ยินกระแสสังคม ที่ทุกคนคิดว่าผมมีส่วนร่วมในครั้งนี้ ผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท หรือการลงทุน หรืออะไรก็แล้วแต่ตามกระแสสังคม

เป็นเพียงคนที่รับจ้างมาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ ดิไออนกรุ๊ป ที่ให้ตัวแทนจำหน่ายเอาไปใช้กัน เชื่อมั่นมาเสมอว่าการตรวจเช็กตามมาตรฐานดีแล้ว

ข้อมูลที่ได้ตรวจเช็กในเรื่องจดทะเบียนก็ถูกต้อง สินค้าก็มีการนำมาลองใช้ก่อนทุกครั้ง ก่อนนำมาโปรโมท มีอย. สำหรับสินค้าทุกตัว เป็นโฆษกในกับสินค้านั้น ผมเป็นแค่ผู้รับจ้าง โปรโมตสินค้าให้ผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายเอาไปใช้

ผมได้แสดงความรับผิดชอบ ตอนนี้ได้ยกเลิกสัญญากับดิไอคอนกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายทุกอย่างต้องอยู่ในมาตรฐานของความถูกต้อง

‘พระเมธีวชิโรดม-ว.วชิรเมธี’ พระนักเทศน์ชื่อดัง แจง!! ไม่มีเอี่ยว ‘ดิไอคอน’ วอน!! อย่าคิดเลยเถิด แค่ถูกนิมนต์ไปเทศน์ ‘งานบุญประจำเดือน’ เท่านั้น

(12 ต.ค. 67) พระเมธีวชิโรดม-ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง ชี้แจงแล้วหลังพบคลิปเทศน์อวย บริษัท THE iCON GROUP มีเนื้อหาว่า ‘อยากรวยเร็ว ต้องดิไอคอนแล้ว’ วอนอย่าคิดเลยเถิด แค่ถูกนิมนต์ไปงานบุญประจำเดือน ยันถูกนิมนต์ไปเทศน์ เดือนละ 1 รูป เหมือนเกจิดังท่านอื่น

จากกรณีมีผู้เสียหายร้องถูกบริษัท THE iCON GROUP หลอกลวงทำธุรกิจเครือข่ายขายฝัน ที่มีผู้เข้าร่วมลงทุนเป็นลูกข่ายจำนวนมาก แต่สุดท้ายไม่สามารถขายสินค้าเป็นไปตามที่หวัง จนผู้เสียหายสิ้นเนื้อประดาตัว บางรายสูญเงินหลักล้าน หรือถึงขั้นฆ่าตัวตาย ต่อมาพบคลิปวิดีโอ พระนักเทศน์คนดัง ท่าน ว.วชิรเมธี เทศน์อวย บริษัท THE iCON GROUP ลั่น ‘หนูอยากรวยเลยพรุ่งนี้ พระอาจารย์บอกลูกเอ้ย ทำอย่างนั้นก็ดิไอคอนแล้ว’ และยังพบภาพพระเกจิดังถูกนิมนต์ร่วมบุญ THE iCON GROUP หลายรูป ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เพจ ‘พระเมธีวชิโรดม-ว.วชิรเมธี’ หรือพระนักเทศน์ชื่อดัง พระเมธีวชิโรดม หรือรู้จักกันดีในนามปากกา ว.วชิรเมธี ได้ออกมาชี้แจงหลังเกิดกรณีคลิปดังกล่าวว่า ‘อย่าตีความเลยเถิด’ มีผู้สอบถามเข้ามามากว่าเห็นรูปท่านเจ้าคุณอาจารย์ ว.วชิรเมธีกับทีมงานผู้บริหารบริษัทดิไอคอนที่กำลังเป็นข่าว จึงอยากทราบว่าท่านเจ้าคุณอาจารย์ ว.วชิรเมธี มีความเกี่ยวข้องอะไรกับทีมงาน

ก็ตอบได้ง่ายๆ ว่า ไปเทศน์ไปสอนตามปกติตามที่บริษัทจัดงานทำบุญประจำเดือน ซึ่งเท่าที่ทราบ แต่ละเดือนจะมีพระไปเทศน์เดือนละ 1 รูป เป็นเรื่องปกติ ดังนั้น จึงมีพระสงฆ์ไปเทศน์ไปสอนที่บริษัททุกเดือน เทศน์จบ รับการถวายไทยธรรม ให้ศีลให้พรจบ ก็เดินทางกลับวัด เป็นการทำหน้าที่ปกติธรรมดาของพระกับชาวพุทธแค่นั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรที่มากไปกว่านั้น จึงขอแจ้งมายังผู้ที่สอบถามเข้ามาเพื่อให้ทราบและเข้าใจตรงกัน และหวังว่าจะไม่นำไปตีความเลยเถิดจนเกินขอบเขต (ดูรูปครูบาอาจารย์ที่ไปเทศน์ไปสอนตามปกติประกอบนับสิบรูป ก็จะทราบว่า พระทุกรูปที่เคยไปเทศน์ ไปสอน ท่านก็เพียงแต่ไปทำหน้าที่ในฐานะพระสงฆ์ จบแล้วก็จบกัน ไม่ได้เข้าไปมีส่วนพัวพันใด ๆ กับธุรกิจทั้งสิ้น ดังนั้น จึงไม่ควรตีความผิดไปจากข้อเท็จจริง จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน)

‘แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์’ นักแสดงสาวชื่อดัง โพสต์เดือด!! ฟาดใส่ ‘วอชด็อก’ ถามตรง!! จะยุแยงให้ได้อะไร ชอบปั่นหัวคน เหมือนพรรคบางพรรค

(12 ต.ค. 67) แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ อดีตนักแสดงสาวชื่อดังของไทย โพสต์ข้อความเดือดในคอมเมนต์ ของวอชด็อก โดยมีใจความว่า ...

วอชด็อกทำตัวแย่มากนะ จะยุแยงให้ได้อะไร ทุกคนหวังดีกับช้างทั้งนั้น ไม่มีใครเขาจะไปทำอะไร ENP เลย 

มาโพสต์บิดเบือนแบบนี้ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดกัน คิดว่าทางนี้โดนรังแก เราเองชื่นชม ENP มาตลอด แต่เริ่มรำคาญไอ้โพสต์ของวอชด็อกเนี่ยละ เล่น Fake News ปั่นหัวคนเหมือนพรรคบางพรรคจริง ๆ

‘โคตะ มิอุระ’ นักมวยชาวญี่ปุ่นขวัญใจชาวไทย โพสต์ข้อความผ่าน Instagram ชี้!! ประเทศไทยคือบ้านหลังที่สอง ได้รับมิตรภาพมากมาย แม้จะพูดไทยไม่ได้

(12 ต.ค. 67) นี่คือบ้านหลังที่สองของฉัน ! ‘โคตะ มิอุระ’ โพสต์บอกรักประเทศไทย 

โคตะ มิอุระ นักมวยชาวญี่ปุ่นขวัญใจชาวไทย โพสต์ข้อความผ่าน Instagram ถึงเพื่อน ๆ ชาวไทย พร้อมพูดถึงประเทศไทยด้วยการปิดท้ายว่า ‘ประเทศไทยคือบ้านหลังที่สอง’

โดยนักชกชาวญี่ปุ่น ทายาทของ ‘คิงคาซู’ คาซูโยชิ มิอุระ ตำนานนักเตะชาวญี่ปุ่น กลายเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากขึ้น หลังเขาได้ขึ้นชกกับ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยคนดังชาวไทย ในไฟต์พิเศษ เลเจนต์ ออฟ ราชดำเนินของศึก ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (RWS)ที่สนามมวยเวทีมวยราชดำเนิน เมื่อปี 2565 ซึ่งหลังการขึ้นชกในวันนั้น โคตะ และ บัวขาว ก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และมีมิตรภาพอันดีต่อกัน 

โดยข้อความระบุว่า 

ผมไม่เคยมีเพื่อนฝูงในประเทศไทยมาก่อน แต่เมื่อย้อนไป 2 ปีก่อน ผมมีครอบครัวที่เป็นยิ่งกว่าเพื่อน แม้ผมจะพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่ทุกคนในเมืองไทยต้อนรับผมสู่ครอบครัวของพวกเขา และทำให้ผมได้มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ การฝึกซ้อม การทำงาน หรือแม้แต่การสังสรรค์ ทุก ๆ คนสนับสนุนผมและทำให้มันเป็นไปได้สำหรับผมในการทำทุกๆ อย่าง ในสภาพแวดล้อมที่เป็นไปได้มากที่สุด จากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ ผมต้องขอบคุณทุก ๆ คน ครอบครัวในประเทศไทยของผม และผมจะเติบโตขึ้นเพื่อที่จะทำอะไรเพื่อพวกเขาได้บ้างเช่นกัน ผมรักพวกคุณ ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สองของฉัน

‘หมอลิลลี่’ เผยโดน ‘พยาบาลดัง’ ตามคุกคาม มา 5 ปี เอาทัวร์มาลง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันปัจจุบันได้รับข่าวดี!! คู่กรณีได้รับหมายจับแล้ว ชี้!! เหมือนได้ชีวิตคืนมา ไม่ต้องผวา

(12 ต.ค. 67) หมอลิลลี่ แพทย์หญิงวรัญญา งานทวี คุณหมอคนดังในโลกโซเชียล ได้ออกมาเปิดเผยว่า คุณหมอโดนพยาบาลคนหนึ่ง ติดตามคุกคามคุณหมอ ทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ แขวนและเอาทัวร์มาลงคุณหมอ จนคุณหมอเครียดและสูญเสียลูก ทั้งที่หมอลิลลี่และพยาบาลคนนั้น ไม่รู้จักกันมาก่อน

ทั้งนี้ หมอลิลลี่ คนดังบนโลกออนไลน์ ได้ออกมาเผยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี หมอลิลลี่ถูกแขวะ ใส่ร้าย โดนเอาทัวร์มาลงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ครอบครัวของหมอลิลลี่ก็โดนหมด แม้กระทั่งตอนที่แฟนขอแต่งงานเมื่อเดือนตุลาคม 2566 หมอลิลลี่ ยังไม่กล้าโพสต์ ได้มาโพสต์ประกาศให้รับทราบอีกทีตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2567 หมอลิลลี่จดทะเบียนสมรสเดือนพฤษภาคม 2567 และจัดงานมงคลสมรสเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ตอนเดือนเมษายน พบว่าพยาบาลคนนั้นยังแขวนหมอลิลลี่และครอบครัวทางหน้าวอลล์เฟซบุ๊ก โพสต์ต่อว่าหมอลิลลี่ในที่สาธารณะ และทำให้ในเดือนเดียวกัน หมอลิลลี่ได้ตัดสินใจที่จะรวบรวมหลักฐานและจัดการฟ้องเงียบ ๆ

เดือนมิถุนายน 2567 ได้มีคนมาขอให้หมอลิลลี่เล่าสิ่งที่โดนลงโซเชียล หลังจากหมอลิลลี่ปิดเฟซบุ๊กไปพักใหญ่เพราะหมอลิลลี่เหนื่อยจากการโดนแขวะ และหมอลิลลี่ก็ยืนยันว่า ตนไม่เคยรู้จักกับพยาบาลคนนี้มาก่อน มีแต่พยาบาลที่ตามคุกคามหมอลิลลี่ฝ่ายเดียว ทำให้หลายเดือนมานี้ หมอลิลลี่เงียบ และตามคดีทุกวัน ไม่มีวันไหนที่หมอลิลลี่หลับลง เพราะกลัวว่าพยาบาลคนนี้จะไม่ได้รับผลกรรมที่ทำกับตนหรือเหยื่อคนอื่น

การที่หมอลิลลี่ออกมาทำเรื่องนี้ เพื่อปกป้องตัวเอง หมออยากมีลูกทันทีหลังแต่งงาน หลังจากที่แต่งงาน หมอก็พยายามจะมีลูก แต่ลูกไม่มาเพราะหมอเครียดเรื่องคดีมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไป สน. ประจำ จนวันที่ 25 กันยายน 2567 หมอได้รับข่าวดีว่ามีลูกแล้ว "แต่ความดีใจนั้นอยู่ได้ไม่ถึง 5 วัน" สิ่งที่หมอโดนทำให้หมอทรมานและคิดทุกวัน เครียดทุกวัน จนหมอต้องเสียลูกไปเพราะกดดันมาก

และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 หมอลิลลี่ ก็ได้รับข่าวดีว่า "เขาได้รับหมายจับแล้ว"

และ เราเหมือนได้ชีวิตคืนมา หลังจากต้องผวา หวาดกลัวมาเกือบ 5 ปี จากนี้เราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตอนนี้เราโชคดีที่มีสามีที่ดีและใส่ใจมาก KV Por เหลือแค่ลูก หวังว่าจะมีโอกาสอีกครั้ง และรอบนี้จะไม่เสียลูกไปอีก

เราไม่อยากสูญเสียอะไรอีกแล้ว จากนี้เราอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขบ้างค่ะ ขอบคุณทุกคนจริง ๆ สำหรับกำลังใจดี ๆ เสมอมา

ทั้งนี้ พบว่า พยาบาลคนดังกล่าวนั้น เคยมีประเด็นวิวาทะฟาดปากกับคนอื่นมาก่อนจนเป็นข่าวดัง และตอนนั้นก็มีคนเข้าข้างเธอเป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอถูกหมายจับ ก็ปรากฏว่าพยาบาลคนนี้ได้ออกมาขอโทษผ่านทางเฟซบุ๊กและ X ทั้งในภาษาไทย และภาษาเยอรมัน ซึ่งพยาบาลต้องขอโทษโดยปักหมุด 60 วันใน Instagram, X, Facebook ไม่ปิดคอมเมนต์ ไม่ลบโพสต์ แต่หมอลิลลี่ก็บอกว่า การขอโทษนั้นดูไม่จริงใจ เพราะเอาภาษาเยอรมันขึ้นก่อน เวลาอ่านต้องเลื่อนลงมาถึงเจอภาษาไทย

ทางหมอลิลลี่ยังได้เล่าอีก หมอลิลลี่โดนพยาบาลตามแขวะตามใส่ร้ายมาหลายปี โดยที่หมอลิลลี่ไม่เคยตอบโต้ แม้ว่าจะบล็อกไปแล้วก็ยังโดนเอาเฟซบุ๊กอื่นมาแขวะต่อ จนกระทั่งพ่อแม่ของพยาบาล ได้มาขอไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้เกิดการยอมความ ซึ่งพ่อแม่ของพยาบาล ตอนแรกก็คิดว่าลูกมีปัญหาทะเลาะกับหมอลิลลี่มาก่อน แต่เมื่อหมอลิลลี่ยืนยันว่าไม่รู้จักกัน เพราะทำงานคนละอาชีพ ไม่เคยเรียนด้วยกัน ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยด่ากลับ แต่หมอลิลลี่กลับโดนด่าหนัก จนทางแม่ต้องถามพยาบาลว่า ไปตามว่าหมอลิลลี่ทำไม ซึ่งพยาบาลก็บอกแม่ และแม่ก็บอกทนายว่า เหตุที่ทำแบบนั้นเพราะ ‘หมั่นไส้’

'พิพัฒน์' โชว์ผลงาน up skill  ช่างเชื่อมไทยอู่ต่อเรือ สู่การจ้างงานในเกาหลี รายได้เริ่ม 75,000 บาทต่อเดือน 

เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านอุตสาหกรรมการต่อเรือ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และบริษัท HD Hyundai Heavy Industries C0. , Ltd. โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และคุณ คิม ดอง อิล รองประธานบริษัท HD Hyundai Heavy Industries ร่วมลงนาม   นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน  นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน  นายปาร์คยองมิน (Yong-min Park) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย  ผู้บริหารสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารบริษัท HD Hyundai Heavy Industries และนางสาวอรัญญา สกุลโกศลประธานสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย ร่วมพิธีด้วย ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อพบปะหารือกับผู้แทนบริษัท HD Hyundai Heavy Industries ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านอู่ต่อเรือ พบว่าในปัจจุบันบริษัทมีความต้องการแรงงานไทยที่มีทักษะฝีมือจำนวนมาก โดยเฉพาะช่างเชื่อม เนื่องจากกระบวนการต่อเรือ 1 ลำ ใช้ทักษะเฉพาะที่อาศัยความประณีต ถูกต้องและแม่นยำสูง นอกจากนี้ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงหลายด้านในการต่อเรือ จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งยกระดับช่างเชื่อมไทยให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่อเรือ และการจ้างงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้เกิดความร่วมมือในวันนี้ขึ้น ต้องขอบคุณนายปาร์คยองมิน (Yong-min Park) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ในการสนับสนุนแรงงานไทยและผู้ประกอบการในสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อบูรณาการร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาฝีมือแรงงาน การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการต่อเรือ

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้ ยังมีการมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม จำนวน 88 คน ที่จะได้เดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ กลุ่มแรก ที่ผ่านการอบรม 3 หลักสูตร ได้แก่ 1) หลักสูตรการประกอบท่อแรงดันสูงในงานอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ จำนวน 41 คน ฝึกอบรม ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรการเชื่อม จังหวัดสมุทรปราการ 2) การเชื่อมทิกสำหรับท่อแรงดันสูงในงานอุตสาหกรรมการต่อเรือ จำนวน 21 คน และ 3) การเชื่อมฟลักคอร์ 3G,  6G จำนวน 26 คน ฝึกอบรม ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี ซึ่งนายจ้าวจะรับเข้าทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี โดยจะได้รับเงินเดือนเริ่มต้นจำนวน 75,000 บาทต่อเดือน

"ฝากเชิญนะครับชวนนักเรียน นักศึกษา ที่สนใจในการฝึกอาชีพ พัฒนาทักษะฝีมือ หรือเรียนในสายอาชีวะศึกษานั้น เมื่อเรียนจบมาจะมีโอกาสได้มีงานทำทันที หรือสร้างรายได้ ในระหว่างช่วงการเรียน ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยินดีสนับสนุนตรงนี้ครับ"

นางสาวอรัญญา สกุลโกศล ประธานสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย กล่าวว่า เป็นความโชคดีของแรงงานไทย ที่ภายหลังจากท่าน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐเกาหลีได้ติดต่อมายังสมาคมฯ และเมื่อเดือนกรกฎาคมทางสมาคมฯ ได้ประกาศให้แรงงานที่มีฝีมือช่างเชื่อมมาทดสอบ โดยทางนายจ้างจากสาธารณรัฐเกาหลีก็ได้เดินทางมาทดสอบด้วยตนเอง และได้จัดให้มีการเข้าอบรมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อีกทั้งทางเกาหลียังได้จัดส่งผู้ฝึกสอนมาสอนด้วย ควบคู่ได้ไปกับการศึกษาภาษาเกาหลี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่ไปทำงานที่เกาหลีแล้ว ฝีมืออย่าตก ให้รักษาคุณภาพ และพัฒนายิ่งขึ้น ให้ได้งานที่ถูกต้องและถูกใจนายจ้าง ตามที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว และหวังว่าทุกท่านที่ไปแล้วจะไม่สร้างผิดหวังให้กับทางกระทรวงแรงงาน

‘แพทย์หญิงปรมาภรณ์’ ผู้บริหาร BDMS ติดอันดับ ‘100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย’ จากการจัดอันดับของ ‘นิตยสารฟอร์จูน’ ด้วยผลงานที่เป็นเลิศ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ

(12 ต.ค. 67) แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS (Bangkok Dusit Medical Services Public Company Limited) ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย ประจำปี 2024 จากการจัดอันดับของ ‘นิตยสารฟอร์จูน’ (Fortune) ซึ่งได้ประกาศรายชื่อ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย ประจำปี 2567 หรือ The Fortune Most Powerful Women Asia 2024’ โดยแพทย์หญิงปรมาภรณ์เป็นผู้บริหารหญิงเพียงคนเดียวจากวงการเฮลท์แคร์ของไทยที่ได้รับเกียรติในปีนี้

ผลการจัดอันดับดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเชิดชูสตรีผู้นิยามความเป็นผู้นำในรูปแบบใหม่ ทั้งด้วยการพลิกโฉมบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผ่านการขับเคลื่อนให้เจริญเติบโต รวมทั้งในด้านการพัฒนานวัตกรรมที่สนับสนุนความเป็นเลิศทางธุรกิจ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้นำรุ่นต่อไป

BDMS เป็นเครือโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ปัจจุบันมีจำนวนโรงพยาบาลในเครือรวมทั้งสิ้น 59 แห่ง ประกอบด้วยกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ประเทศกัมพูชา) และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการดูแลสุขภาพอีกด้วย   

ภายใต้การบริหารของแพทย์หญิงปรมาภรณ์ BDMS ให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพที่เป็นเลิศ เช่น การนำ AI ทางการแพทย์มาใช้เพื่อยกระดับการตรวจและรักษา และการนำหุ่นยนต์มาช่วยในการผ่าตัด เป็นต้น

"BDMS มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการแพทย์อย่างยั่งยืน เพื่อมอบบริการด้านสุขภาพที่ดีที่สุดให้แก่คนไทยและสังคมโลก พร้อมทั้งเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมาภิบาล" แพทย์หญิงปรมาภรณ์กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top