Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดี The Icon Group พร้อมกันทั่วประเทศวันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้เสียหาย และลดความยุ่งยากในการแจ้งความ โดยไม่ต้องเดินทางมายัง บก.ปคบ. 

เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.67)  เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดี The Icon Group โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,  พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.สงป. , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประชุมทางไกลกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 

ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และตำรวจภูธรภาค 1-9 จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดี The Icon Group ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความของผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยไม่ต้องเดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ) โดยวันนี้เป็นการเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดี The Icon Group พร้อมกันทั่วประเทศ 

สำหรับศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว มอบหมายให้ ผกก.(สอบสวน) และพนักงานสอบสวนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ โดยจัดพนักงานสอบสวนอย่างเหมาะสมและเพียงพอ ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมให้หน่วยต่างๆ รายงานผลการปฏิบัติในแต่ละวันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ หากพบว่ามีการปฏิเสธการรับแจ้งความ ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบและรายงานเหตุการณ์ต่อ ผบ.ตร. ทันที พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางต่าง ๆ 

นอกจากนี้ ผบ.ตร. กล่าวว่า เนื่องจากคดี The Icon Group มีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ บก.ปคบ. เฉลี่ยวันละ 300 – 500 คน แม้จะมีการจัดพนักงานสอบสวนเพื่อรองรับการปฏิบัติ แต่ยังไม่สอดคล้องกับจำนวนพนักงาน จึงได้สั่งการให้เปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดังกล่าวทั่วประเทศ โดยจัดทำเป็นโมเดลแนวทางเดียวกันกับรูปแบบที่ บก.ปคบ.ดำเนินการในการบริหารการรับแจ้งความ จากนั้นเป็นการบริหารคดีของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ต่อไป และจากนี้ต่อไปแนวทางในการทำงานนี้จะเป็นโมเดลการปฏิบัติ ในการบริหารคดี และบริหารการสื่อสาร หากมีกรณีลักษณะคดีเช่นนี้ในอนาคต โดยในการเปิดศูนย์รับแจ้งความคดีนี้จะทำให้ตำรวจเห็นภาพในการจัดการเรื่องรับแจ้งความ วิเคราะห์ บริหารคดี ให้เกิดความรวดเร็วต่อไป

สมุทรปราการ-จัดใหญ่!! เทศบาลตำบลแพรกษา แถลงข่าว มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย และงานนฤมิตสายนที ประเพณีลอยกระทง ชมคอนเสิร์ต ลำไย ไหทองคำ ฟรี!! ตลอดงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องประชุม ชั้น 5 สำนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ นำโดย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา และงานนฤมิตสายนทีประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 

ภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ มีคณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ และตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษาร่วมรับฟังการแถลงข่าว 

โดยในปีนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษา จัดใหญ่จัดเต็มเพื่อพี่น้องประชาชนคนสมุทรปราการ โดยจะมีงาน 'มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา' และงาน 'นฤมิตสายนทีประเพณีลอยกระทง' ประจำปี 2567 ภายใต้การสนับสนุนของท่าน อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา โดยภายในงานจะเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนสวมใส่ผ้าไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2567 นี้ 

ภายในสวนสาธารณะเทศบาลตำบลแพรกษา บนพื้นที่ กว่า 20 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวดธิดาโรงงาน การประกวดหนูน้อยแพรกษา การประกวดนางนพมาศ และการประกวดกระทงประดิษฐ์ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ น้ำแข็ง ทิพวรรณ และ กวาง กมลชนก พร้อมกับซุ้มกิจกรรมของสถานศึกษา ซุ้มจำหน่ายสินค้าชุมชน รวมถึงร้านค้าต่างๆ มากมาย ภายในงานมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมลอยกระทง เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมไทยและประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป 

แชร์ว่อนโลกโซเชียล ‘ว.วชิรเมธี’ นั่งสมาธิบนลานหิมะ ‘แพรรี่’ ฟาดใส่!! มันไม่ใช่ที่ จะไปนั่งหลับตาปฏิบัติธรรม

(19 ต.ค. 67) แชร์ว่อน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนลานหิมะ อดีตพระมหาชื่อดัง ชี้ ไม่ใช่ที่ ๆ พระจะไปนั่งหลับตาเพื่อปฏิบัติธรรมได้ นอกจากไปถ่ายรูปสวย ๆ

หลังมีคลิปเทศน์กับกลุ่มผู้บริหาร ดิไอคอนกรุ๊ป ทำให้ พระเมธีวชิโรดม ว.วชิรเมธี ถูกสังคมตั้งคำถามถึงเรื่องความเหมาะสม

ก่อนที่ต่อมา ว.วชิรเมธี จะมีประเด็นพาดพิง วิพากษ์วิจารณ์ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส อย่างดุเดือด ว่าตั้งตนเป็นศาลเตี้ย และ เอาคนไม่ผิดเข้าคุก

ล่าสุด เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ เผยแพร่ภาพ ว.วชิรเมธี ที่ขณะนี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังนั่งสมาธิอยู่บนพื้นหิมะ พร้อมข้อความระบุว่า ท่านไปปฏิบัติธรรมนะคะ ใครที่บอกท่านไปเที่ยว ขอให้ดูด้วย ท่านนั่งสมาธิกลางหิมะ อดทน น่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง

ด้าน ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ อดีตพระมหาชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กวิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว ระบุว่า นอกจากไปถ่ายรูปถ่ายคลิปสวย ๆ ลานหิมะไม่ใช่ที่ ๆ พระจะไปนั่งหลับตาเพื่อปฏิบัติธรรมได้หรอกค่ะ

‘รุ้งนารายณ์ เกียรติหมู่ 9’ น้อมรับผิด ขอโทษแฟนมวย โพสต์ข้อความ!! หลังแพ้ฟาวล์ยกแรก ‘มิเกล เฟอร์นานเดซ’

(19 ต.ค. 67) ‘รุ้งนารายณ์ เกียรติหมู่ 9’ น้อมรับผิด โพสต์หลังแพ้ฟาวล์ยกแรก มิเกล เฟอร์นานเดซ เนื่องจากยั้งไม่อยู่ ซัดลูกตามน้ำเข้าไปเต็ม ๆ ในศึกONE LUMPINEE 83 

‘ไฟท์นี้ผมยอมรับผิด ทุกประการ ผมไม่มีคำไหนจะพูด นอกจาก คำว่า 
ผมขอโทษจริง ๆ ขอโทษทุกคน’

หนุ่มน้อยนักเตะ ‘รร.กีฬาหนองคาย’ ดังไกลถึง ‘พรีเมียร์ ลีก’ หลังเป็นไวรัล!! มีคนนำไปเทียบ ‘เทรนท์-แจ็ค กรีลิช-เมซุต โอซิล’

(19 ต.ค. 67) เหตุเกิดในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนชิงแชมป์ 7 สี เมื่อวันก่อนซึ่ง โรงเรียนกีฬาหนองคาย ถล่ม หนองกี่พิทยาคม จาก บุรีรัมย์ ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 แต่ทุกคนกลับติดภาพจำจังหวะที่ไม่เป็นประตูเมื่อ ชญานนท์ กะมุตะเสน นักเตะตัวรุกของทีมผู้ชนะได้ลากเลื้อยเข้าไปยิงเต็มข้อ พร้อมหันมาทำท่าดีใจด้วยการทำนิ้วรูปตัว N โดยไม่ได้ดูว่า ลูกบอลเจ้ากรรมถูกคู่แข่งสกัดได้บนเส้นประตู

เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็น ไวรัล ทำเป็นคลิปแชร์ว่อนโซเชียล เกิดมีมต่าง ๆ มากมาย ถึงขั้นสกรีนลวดลายบนเสื้อยืดยังมี กระทั่งล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พรีเมียร์ลีก ได้นำรูปของ ชญานนท์ มาโพสต์แบบ 4 ช่องเคียงข้างท่าดีใจของสตาร์ดังทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล, แจ็ค กรีลิช ปีกทีมชาติอังกฤษสมัยสังกัด แอสตัน วิลล่า และ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพ อาร์เซนอล

พร้อมกันนั้นยังโพสต์แคปชันข้อความแบบปั่น ๆ พลางให้กำลังใจในเวลาเดียวกันว่า ‘ไม่เป็นไรนะน้อง...อย่างน้อยเราก็เท่’

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ ปลุกทุกภาคส่วน ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชื่นชม ‘GC’ จับมือทุกฝ่ายผลักดันแนวคิด ‘ยั่งยืนไม่ยาก’    

(18 ต.ค.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เปิดงาน GC Sustainable Living Symposium 2024 ซึ่งจัดโดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ภายใต้แนวคิด ‘ยั่งยืนไม่ยาก’ ซึ่งเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญของคนหัวใจรักษ์โลก หรือ GEN S (Generation Sustainability) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับ พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ GC ที่ได้จัดงาน Sustainable Living Symposium 2024 ขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปีนี้ เพื่อให้ Gen S ได้มาแสดงจุดยืนร่วมกันว่า ‘การสร้างความยั่งยืน≠ยาก’ และเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน

เวทีการเสวนาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะเกิดการระดมความคิดเห็น บอกเล่าวิธีแก้ปัญหา แบ่งปันเรื่องราวการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คน ตลอดจนสะท้อนให้เห็นว่า บทบาทของภาคธุรกิจที่จะร่วมกันก้าวข้ามความยากสู่ความยั่งยืนไปด้วยกันเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม 

นายประเสริฐ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือระหว่างกัน และกระผมรู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็น Gen S จากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม มาร่วมหาแนวทางและแบ่งปันประสบการณ์และเผยแพร่นวัตกรรมที่ทันสมัยที่จะมาสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนอย่างเท่าเทียม และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และสังคมตลอดจนความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลก  
ภาครัฐได้ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนเรื่องการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและพยายามร่วมกันลดผลกระทบมานับ 10 ปี  

“วันนี้เราทุกคนได้ตระหนักชัดแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วโลกและประเทศไทย และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนได้ยกระดับความรุนแรงจนเรียกได้ว่าเข้าสู่ภาวะโลกเดือด (Boiling World) ที่ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วโลก ขณะที่พายุฝนประจำถิ่นสร้างความเสียหายแก่หลายประเทศมากกว่าที่เคยเป็นมา และอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่สูงขึ้นทำให้เรายังได้พบเจอกับ Rain Bomb ที่มีคนเปรียบเทียบว่าเหมือนระเบิดฝนที่ตกลงมาคล้ายกับ ‘สึนามิจากฟ้า’ มีความรุนแรงและความรวดเร็วจนพี่น้องประชาชนในภาคเหนือและทภาคใต้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักเฉียบพลัน ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทางความเป็นอยู่ ทรัพย์สินและเศรษฐกิจท้องถิ่นในวงกว้าง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีกล่าว   

รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการแก้วิกฤตสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยมีนโยบายและแผนพลังงานชาติที่กำหนดแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ.2065 เรากำหนดเป้าหมายให้มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50% ภายใน ปี พ.ศ.2573 ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคไฟฟ้าและขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือความท้าทายจากการใช้กลไกราคาคาร์บอนมากำหนดมาตรการทางภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ดังนั้น การกำหนดนโยบาย เช่น กลไกภาษีคาร์บอน ควบคู่กับการกลไกสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำต่าง ๆ ของประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยการร่วมคิดของทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทย

รัฐบาลมุ่งที่จะสนับสนุนภาคเอกชนในการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาเทคโนโลยีสะอาดไปพร้อมกับการส่งเสริมการปรับตัวเพื่อลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงในมิติของการลงทุน รัฐบาลให้การสนับสนุนแนวทางของกองทุน ESG ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น อันจะเป็นกลไกสำคัญในการลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยภาคธุรกิจสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการแก้ปัญหาขยะล้นเมือง โดยรัฐจะสนับสนุนระบบ Circular System เพื่อลดปริมาณขยะและเป็นการสร้าง Value chain สนับสนุนการคัดแยก การขนส่ง การจัดเก็บและการทำลายให้ถูกวิธี อย่างไรก็ดี การที่ประเทศไทยของเราสนับสนุนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมให้มีความเข้มแข็ง เป็นการสร้างผลลัพธ์ที่ดี ด้านการลงทุนจากต่างประเทศ นักลงทุนจากทั่วโลกเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยั่งยืน รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมความร่วมมือทุกระดับ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การเข้าถึงบริการพลังงานสะอาด ในราคาที่เหมาะสมและมีความน่าเชื่อถือภายในปี พ.ศ.2573 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ เช่น การสร้าง Ecosystem ของการผลิตและใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ผลิตพลังงานชีวมวล และการลงทุนด้านการบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมของไทยได้รับเสียงชื่นชมในระดับโลก  

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันนี้ขอเชิญชวน Generation Sustainability หรือ Gen S ทุกท่านร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อเป็นประโยชน์ของคนไทยและประเทศไทยของเราและเราจะทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ เพื่อปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน  และกระผมเชื่อมั่นว่าเวทีเสวนาในงานนี้จะนำไปสู่แนวทางใหม่ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับพวกเราและลูกหลานของเรา

”พิชัย“ เปิด Bangkok Jewelry Week 2024 ปักหมุด Landmark กรุงเทพฯ บางรัก-สัมพันธ์วงศ์-พระนคร เป็นถนนท่องเที่ยวสายอัญมณีและเครื่องประดับไทย ต้อนรับผู้รักอัญมณีจากทั่วโลก

(19 ต.ค. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Bangkok Jewelry Week 2024 (เส้นทางถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ) จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ ลานมิ่งเมือง ชั้น 1 ศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม พลาซ่า เป็นโครงการพัฒนาต่อยอดเครื่องประดับ เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเก่าแก่เชิงสร้างสรรค์บนถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับในกรุงเทพมหานคร เริ่มตั้งแต่บางรัก สัมพันธ์วงศ์ และพระนคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนเก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตของชุมชนเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน เป็นแหล่งที่รวมพหุวัฒนธรรม และงานฝีมือ การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่มีอัตลักษณ์ สร้างการจดจำ นำ Soft Power ท้องถิ่นให้ทั่วโลกได้เห็นมากยิ่งขึ้น

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน Bangkok Jewelry Week 2024 นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งและเป็นก้าวแรกสร้าง Landmark แห่งใหม่ให้กับกรุงเทพมหานคร สร้าง“เส้นทางท่องเที่ยวสายอัญมณีและเครื่องประดับ: บางรัก สัมพันธ์วงศ์ พระนคร” ผลักดันให้กรุงเทพ และประเทศไทยเป็น “หมุดหมาย” ของผู้ที่รักอัญมณีและเครื่องประดับ ให้กับทุกคนที่คิดจะซื้ออัญมณีหรือเครื่องประดับต้องคิดถึงประเทศไทย และ ตรงมาที่ Landmark แห่งนี้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าจะได้เครื่องประดับที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน ผ่านการรับรองจากสถาบัน GIT และการเป็นสมาชิกในโครงการเลือกซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy With Confidence)

นอกจากนี้ ยังได้เห็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และเอกชนทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เป็นพี่เลี้ยงหรือกูรูให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก และรายย่อย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ และผู้ประกอบการจากภูมิภาคต่างๆ มาแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้า ให้คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก เปิดโอกาสให้คนที่อยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง หรืออยากมีเครื่องประดับฝีมือตนเอง ได้เข้ามาทดลองผ่าน Workshop และนิทรรศการต่าง ๆ รวมถึงการเปิดให้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องประดับแบบ Exclusive เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ บางรัก สัมพันธวงศ์ และพระนคร ผ่านการท่องเที่ยวที่มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเข้าร่วมชมงานและเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐาน อีกทั้ง จะสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และน่าสนใจบนเส้นทางถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ ที่สร้างการรับรู้ด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาความเป็น “Thailand: Land of Jewel” และช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

“ผมทำจิวเวอรี่มาก่อน ดีใจที่ธุรกิจนี้เติบโต เป็นธุรกิจที่คนซื้อดีใจคนขายก็ดีใจ เป็นธุรกิจที่ดี ทุกวันนี้ก็ยังติดตามราคาอัญมณีและทองอยู่เสมอ วันนี้ทองก็ยังมีแนวโน้มจะขึ้น เพราะคนมาถือทองมากขึ้น ยังมีโอกาส และสำหรับเพชรพลอยและเครื่องประดับตนเชื่อว่ายังสามารถโตได้  ซึ่งผมและกระทรวงพาณิชย์ จะส่งเสริมจิวเวอรี่ต่อไป ยินดีช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถส่งออกและขายได้ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงและมีผู้เกี่ยวข้อง มีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้มาก” นายพิชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานฯ นายพิชัยได้มอบใบรับรองโครงการเลือกซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy With Confidence) ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 25 ราย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้กับผู้บริโภคด้วย สำหรับงานเทศกาลเส้นทางการท่องเที่ยวถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ Bangkok Jewelry Week 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-25 ตุลาคม 2567 พร้อมมีกิจกรรม Press Tour สถานที่ท่องเที่ยวและเยี่ยมชม Landmark ธุรกิจอัญและเครื่องประดับที่สำคัญในเขตบางรักและเขตสัมพันธวงศ์ด้วย สำหรับผู้สนใจ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan page : Bangkok Jewelry Week

“อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.”เปิดเวทีวาระประเทศไทย “อนาคตพลังงานไทย : ปัญหาและโอกาส !!!“ ถกปมใครผูดขาดพลังงาน ? ทางแก้น้ำมันก๊าซไฟฟ้าแพง ?

(19 ต.ค. 67) ไฮไลท์เชิญ“หม่อมกร”ถอดรหัสประเด็นร้อนปัญหาMOU44 กับพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาและแหล่งน้ำมัน-ก๊าซใต้ทะเลมูลค่ากว่า10ล้านล้านบาท ใครได้ใครเสีย ?

สถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์(FKII Thailand และสถาบันทิวา(Transformation Valley จัดเสวนาโต๊ะกลมวาระประเทศไทยหัวข้อ “อนาคตพลังงานไทย:ปัญหาและโอกาส โดยวิทยากรชื่อดัง ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงานและนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailand รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ปชป.และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ มีนายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสถาบันทิวา(TVA)เป็นผู้สรุปการเสวนา

โดยการเสวนาจะครอบคลุมประเด็นปัจจุบันและอนาคตความมั่นคงทางพลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทน การอนุรักษ์พลังงานและปมปัญหาที่สังคมข้องใจเช่นปัญหาการผูกขาดพลังงาน???คำถามและทางแก้ทำไมค่าไฟแพง น้ำมัน-ก๊าซแพง?รวมทั้งปัญหาMOU44กับพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาและแหล่งก๊าซ-น้ำมันใต้ทะเลมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท ใครได้ใครเสีย ?

โดยจัดในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เวลา 14.00 - 16.30 น.
ณ สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา ทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ.
https://maps.app.goo.gl/YxVYudCo6RNZuUbA9?g_st=il
สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด
ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvd
ติดต่อสอบถาม
คุณลิต้า 093-1252012
คุณวรวุฒิ 091-1805459
หมายเหตุ : สามารถจอดรถที่ Lotus's Go Fresh สาขา Town in Town (มีค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขของสถานที่)
https://maps.app.goo.gl/KpjJocYk9YgGET6P8

#FKIIThailand #FKII #FKIINationalAgenda
#ThinkTankRoundTable #การเสวนาวาระประเทศไทย#พลังงาน #อนาคตพลังงานไทยปัญหาและโอกาส
#TVA #สถาบันทิวา #สวนเสียงไผ่

ศบภ.ทร. โดย นบภ.นย. พร้อมให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดภัย

เมื่อวันที่ (19 ต.ค. 97) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) โดย หน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นบภ.นย.) กองพันทหารราบที่ 7 ฯ และกองพันซ่อมบำรุงฯ  (พัน.ร.7ฯ และ พัน.ซบร.ฯ) ดำเนินการสนธิกำลัง เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ซึ่งจากการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ในห้วงวันที่ 19 - 23 ต.ค.67 ประเทศไทย จะได้รับผลกระทบ จากลมมรสุมทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จึงขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอันตราย จากฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องสะสม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้เส้นทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณา รวมถึงการขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง ผูกมัดรัดตึงให้เกิดความแข็งแรง

หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พื้นที่ อ.สัตหีบ หมายเลข 0948464244 และ 0993339736 พื้นที่ จว.ระยอง หมายเลข 0817241893 และ 0833971800 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยแนวคิด Multi-Function  ส่งเสริม Soft Power ไทย ประจำปี 2567

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ สู่ตลาดสากลขับเคลื่อน โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยแนวคิด Multi-Function  
ส่งเสริม Soft Power ไทย ประจำปี 2567

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ดำเนินกิจกรรมเพิ่มศักยภาพด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช  

โดยกลุ่มที่ผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการจำนวน 7 กลุ่มวิสาหกิจ ได้แก่
1. ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ  (ไร่สวัสดิ์สุข)  
2. วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร  
3. วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา
4. วิสาหกิจชุมชนปลาใส่อวนแม่แกวดสูตรโบราณ
5. วิสาหกิจชุมชนปลาดุกร้าท่าซัก  
6. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์  
และ 7. วิสาหกิจชุมชนเกษตรบางขี้หมูตำบลการะเกด 

พร้อมเข้าร่วมการพัฒนาใน 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 
1. ถ่ายทอดความรู้ ในด้านการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ Multifunction Product  
2. ศึกษาดูงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3. การให้คำแนะนำเชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 
4. การจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ เชื่อมโยงกับ Soft Power นำเสนอสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ในสื่อออนไลน์

โดยเป้าหมายหลักในการจัดโครงการนี้ 
โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยแนวคิดการใช้งานได้หลากหลาย (Multi-Function) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดระดับสากล ไม่ใช่แค่อาหารและเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้หลากหลายหน้าที่ หรือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายแบบ
การใช้วัตถุดิบในชุมชน อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรมพื้นถิ่น ผสมผสานนวัตกรรม เทคโนโลยี เรื่องเล่า (Storytelling) ออกแบบและพัฒนา เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการของไทย 

เพื่อพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการชุมชนให้สามารถผลิต ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่า มีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น และ/หรือมีบริการหลังการขาย (Services) ที่ทันกับยุคสมัย (Trend) มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป้าหมาย และพร้อมเติบโตมุ่งสู่การแข่งขันในระดับสากล

สำหรับกิจกรรมนี้จะช่วยให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ จำนวน 7 ผลิตภัณฑ์ ที่แต่ละผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้หลากหลาย(Multifunction Product) และยังเชื่อว่าการเติบโตของกลุ่มวิสาหกิจต้องขยายในท้องตลาด ละยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก

1.ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ  (ไร่สวัสดิ์สุข) พัฒนาผลิตภัณฑ์แยมจากส้มโอทับทิมสยาม

เกิดจากความต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปลูกส้มโอทับทิมสยามอย่างแพร่หลาย ส้มโอทับทิมสยามถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่รู้จักในตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ แนวคิดการพัฒนาแยมจากส้มโอทับทิมสยามนี้ไม่เพียงตอบสนองต่อความต้องการของตลาด แต่ยังเป็นการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตามแนวทางของ BCG Economy ช่วยให้ธุรกิจในชุมชนมีความมั่นคงในระยะยาว 

ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ไร่สวัสดิ์สุข “ส้มโอทับทิมสยาม”  
เลขที่ 39 ม.15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โทร.089-605-4388 Facebook:ส้มโอทับทิมสยามไร่สวัสดิ์สุข 

2.วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร  พัฒนากระเทียมโทนในน้ำผึ้งพร้อมไซเดอร์มังคุด
เป็นการนำคุณค่าของทั้งสามวัตถุดิบมาผสมผสานกัน โดยน้ำผึ้งทำหน้าที่เป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ และยังช่วยเพิ่มรสชาติความหวานที่กลมกล่อม ในขณะที่ไซเดอร์มังคุดช่วยเสริมความสดชื่นและคุณค่าทางโภชนาการ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเสมือนการส่งต่อภูมิปัญญาจากอดีตสู่อนาคต โดยใช้สมุนไพรและผลไม้ท้องถิ่นที่มีในทุกครัวเรือน ผสมผสานกับวิทยาการสมัยใหม่เพื่อสร้างเครื่องดื่มสุขภาพที่ทั้งมีประโยชน์และอร่อย พร้อมให้คุณค่าต่อร่างกายอย่างเต็มที่

วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร
เลขที่ 245 ม.1 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช 80270
Facebook: สุ กระเทียมโทนดอง  Tel:081-6139919

3.วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา  พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทอฟฟี่หมากผสมมะพร้าว 
ทอฟฟี่หมากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานระหว่างมะพร้าวและหมาก ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่นของหลายภูมิภาคในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มีรสชาติหวานหอมจากมะพร้าว แต่ยังได้รับคุณค่าทางสมุนไพรจากหมาก ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทอฟฟี่ที่มีคุณประโยชน์ และยังสามารถทำเมนูได้หลากหลายเช่น ชาชงผสมทอฟฟี่หมาก  เครื่องดื่มทอฟฟี่หมาก เป็นต้น  เป็นการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทันสมัย 

“วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา” 
เลขที่ 168/2 ม.6 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80330
Facebook: วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา  Tel:081-9701665


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top