Tuesday, 24 June 2025
NEWS FEED

‘ดาว-ลภัสรดา’ CEO MASTER คว้ารางวัลนักวิชาชีพสตรีดีเด่น หลังผลักดันศักยภาพนักวิชาชีพหญิงสู่ความสำเร็จอย่างทัดเทียม

(26 พ.ย. 67) บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน ) ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช หรือ MASTER ผู้นำอันดับต้นของอุตสาหกรรมด้านความงามในไทยและเอเชีย ในฐานะ Regional Company โชว์ศักยภาพนักวิชาชีพหญิงแถวหน้าของวงการความงาม นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “พี่ดาว มาสเตอร์พีช” ขึ้นแท่นรับรางวัลเชิดชูเกียรติ “นักวิชาชีพสตรีดีเด่น หอการค้าไทย ปี 2567” ผู้บริหารหญิงมากความสามารถ หนึ่งในผู้นำทัพ MASTER ท่ามกลางความท้าทายและความผันผวนของกระแสเศรษฐกิจ และ 1 ใน 17 คน ที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศมากกว่า 50 คน พร้อมยืนหยัดร่วมสนับสนุนศักยภาพนักวิชาชีพหญิงในไทย สู่เส้นทางความสำเร็จทุกมิติทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม    

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า “ปัจจุบันสังคมเปิดกว้าง มีผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมากมายในหลายสาขาอาชีพ แนวคิดสะท้อนตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีจำนวนไม่น้อยที่มุ่งแต่ผลลัพธ์สูงสุด ซึ่งผู้หญิงเรามีบทบาทสำคัญอย่างมากในทุกมิติ ทั้งทางธุรกิจและการบริหารด้านต่างๆ ของทุกความสำเร็จ ทุกบทบาท ทุกมิติในหลากหลายองค์กร ล้วนเป็นเครื่องยืนยันให้เห็นถึงศักยภาพของสตรีไทยทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 12 ปี MASTER ได้ยืนหยัดบนเส้นทางวงการศัลยกรรมความงามและนำพาโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นรายแรก ซึ่งท่ามกลางความท้าทายและความผันผวนของปัจจัยต่างๆ บนเส้นทางเหล่านี้จะไม่สามารถสำเร็จได้ หากปราศจากทีมผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากรทุกท่าน ที่เรียกตัวเองว่า Professional Sports Team ได้สร้างตำนานการเติบโตที่แตกต่างด้วยความแข็งแกร่ง และผ่านการพิสูจน์ด้วยผลลัพธ์ของการเติบโตแบบก้าวกระโดด

“รางวัลนี้ นับว่าเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะผู้บริหารธุรกิจ ทั้งยังถือเป็นรางวัลแห่งกำลังใจให้กับนักวิชาชีพสตรีไทยทุกคน ให้เชื่อมั่นในศักยภาพและบทบาทของตนเอง เพื่อให้แรงขับเคลื่อนของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ สร้างแบบอย่างที่ดี ยังประโยชน์แก่ภาคธุรกิจและภาคสังคมต่อไป”  

สำหรับ โครงการนักธุรกิจสตรีดีเด่น นักธุรกิจสตรีรุ่นใหม่ และนักวิชาชีพสตรีดีเด่น หอการค้าไทย ประจำปี 2567 เป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรตินักธุรกิจสตรีดีเด่น นักวิชาชีพสตรีดีเด่น และนักธุรกิจสตรีรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างโดดเด่นและเป็นแบบอย่างที่ดี มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่สตรีนักธุรกิจในวงการธุรกิจและสังคมไทย โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล โดยได้รับเกียรติจากคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการตัดสินรางวัล และ นางนวลพรรณ ล่ำซำ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาสังคม และ CSR หอการค้าไทย ร่วมในพิธีมอบรางวัล โดยมีสตรีจากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 17 ท่าน

'พิชัย' ต้อนรับ ทัพนักธุรกิจรายใหญ่สหรัฐฯ USABC ชวนลงทุน-ตั้งฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ในไทย ย้ำ!ไทยกำลังฮอต พาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวกการค้า-ลงทุนเต็มที่

(25 พ.ย. 67) ณ ห้องประชุมมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน หรือ US-ASEAN Business Council (USABC) จำนวนกว่า 57 ราย จาก 30 บริษัท ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ การท่องเที่ยว อาหารและเกษตร พลังงาน เทคโนโลยี สารสนเทศ สุขภาพและการเงิน อาทิ บริษัท Amazon, Boeing, ExxonMobil, Citi, Google, Mastercard, Pfizer, Philip Morris, Seagate และ Tyson ที่นำโดยเอกอัครราชทูตเท็ด โอเซียส (Ambassador Ted Osius) เพื่อมาหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน แก้ปัญหาสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้าร่วมกัน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อธุรกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า

นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้มีนักลงทุนจากสหรัฐอเมริกา-อาเซียน หรือ USABC เข้ามาพบตนที่กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากทราบดีว่าประเทศไทยจะมีการลงทุนไหลเข้ามามากโดยเฉพาะจากสหรัฐฯ อาทิ Western Digital และ Seagate จะมาขยายการลงทุน HP จะย้ายฐานการลงทุนมาไทย ก่อนหน้านี้ตนได้ไปประชุมทูตพานิชย์ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา ที่สหรัฐฯ ได้รับข้อมูลตรงกันคือ สหรัฐฯจะมีการลงทุนมาไทยเยอะ และตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสูงมากเป็นเลขสองหลัก ซึ่งน่าพอใจและเรายังมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอีก

ประเทศไทยจะเป็น Investment Destination หรือ จุดหมายปลายทางของการลงทุนที่สหรัฐฯอยากจะมาลงทุน โดยในการหารือตนได้ขอให้ทางนักธุรกิจไปคุยกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องของ GSP (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร) และเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่ประเทศไทยอยู่ในบัญชี Watch List (ประเทศที่ต้องจับตามอง) ซึ่งตนก็ได้หารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านก็รับปากจะไปดำเนินการให้ และประเด็นที่ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯเยอะ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ทางสหรัฐฯมาตั้งฐานการผลิตที่ไทยแล้วส่งกลับไปที่สหรัฐฯ ทั้งจาก Western Digital และ Seagate  ขอให้ทางนักธุรกิจสหรัฐฯช่วยแจ้งไปยังท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทางไทยอยากได้รับการส่งเสริมเพราะไทยมีความเป็นมิตรกับทุกประเทศทั้ง สหรัฐฯ UAE จีน อินเดีย เรามีโอกาสที่จะได้รับการลงทุนจากหลายประเทศ ซึ่งจากที่ตนไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ที่สาธารณรัฐเปรู ทุกประเทศต่างบอกว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางการลงทุน PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) เราจะผลิต PCB มากที่สุดในโลก จะมีการโยกย้ายฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาเยอะมาก 

และจากนี้ตนจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้าเพื่อพบกับนักลงทุนและทางมหาวิทยาลัยโตเกียว (the University of Tokyo) ก็ได้เชิญตนไปบรรยายทิศทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งตนจะไปเชิญชวนนักลงทุน นักวิชาการ สมาคมการค้าต่างๆของญี่ปุ่น ให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการต้อนรับนักลงทุนจากทั่วโลก อยากเห็นญี่ปุ่นกลับมาเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งของไทยอีกครั้ง จะเชิญชวนให้มาลงทุนไทยมากขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่

รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ เรามีคนเก่งเยอะพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้กับนักธุรกิจเต็มที่และเราก็เร่งเจรจาเขตการค้าเสรีหรือ FTA ให้เรามี FTA มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ FTA ระหว่างไทยกับเอฟตาก็น่าจะจบได้ในเดือนมกราคมนี้ แล้วหลังจากนั้นจะตามมาด้วย อียู อาเซียน-แคนาดา ซึ่งมีโอกาสสำเร็จสูง และในเดือนพฤษภาคม ท่านรัฐมนตรีแคนาดาจะนำนักลงทุนจากแคนาดากว่า 100 คน มาเมืองไทย เพื่อหาช่องทางลงทุนในไทย

“ตอนนี้ประเทศไทยเรากำลังฮอต ตนได้พบกับท่านรองนายกฯคลัง (พิชัย ชุณหวชิร) ท่านเดินทางไปจีน มีบริษัทจีนอยากย้ายเข้ามาเมืองไทยเต็มไปหมด เรากำลังไปได้ดีประเทศไทยกลับมาฮอตใหม่เหมือนอย่างในอดีต ขอให้สภาวะนี้เป็นไปเรื่อยๆ ให้เราเจริญ รายได้ของประชาชนจะได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทำให้ประเทศเราเจริญต่อได้“นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

โดยองค์กร USABC เป็นองค์กรที่มีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำสหรัฐฯที่เข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจกับประเทศในอาเซียน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน และสำนักงานสาขา 7 แห่งในนครนิวยอร์ก กรุงเทพฯ กรุงฮานอย กรุงจาการ์ตา กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา และสิงคโปร์ ทั้งในปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าลำดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯมีมูลค่า 67,659.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.65 ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 1 ของไทย โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 1.72 ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 55,681.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 9.84 ซึ่งไทยส่งออกไปสหรัฐฯมีมูลค่า 40,610.98 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 12.48 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องบิน

ผบ.ตร.ย้ำไม่มีใครหรือกลุ่มใดอยู่เหนือกฎหมาย หากท้าทายระบบ อำนาจรัฐ หรือกฎหมาย จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด สั่งทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายทุกมิติ หากตำรวจปล่อยปะละเลย เพิกเฉย จะดำเนินการทางปกครองทุกราย

(26 พ.ย. 67) เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญ และส่งผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่ คดีทริปน้ำไม่อาบ ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยและอุบัติเหตุบนท้องถนน , คดีฉ้อโกงประชาชนร่วมลงทุนในโครงการธุรกิจทางการแพทย์ ที่มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก , การโพสต์คลิปของคนต่างด้าวลักษณะเป็นการท้าทายกฎหมาย เคลื่อนไหวหรือแสดงออกที่ผิดกฎหมาย หรือกระทำในลักษณะที่อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ผบ.ตร.กำชับให้ผู้บังคับบัญชาระดมกวาดล้างจับกุม ดำเนินคดีตามกฎหมายผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย รวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนทุกคดี โดยเฉพาะ 3 กรณี ดังกล่าว ได้แก่

1. ทริปน้ำไม่อาบ ให้ทุกหน่วยตรวจสอบร้านดัดแปลงตกแต่งรถที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้วนำรถมาขับขี่ ตลอดจนจะต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง และจะต้องมีการตรวจสอบต้นทาง ระหว่างการเดินทาง และปลายทาง หากพบการฝ่าฝืนกฎหมายต้องดำเนินการทันที จะไม่ปล่อยให้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนเด็ดขาด

2. กรณีคนต่างด้าวโพสต์คลิปลักษณะท้าทายกฎหมาย ตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏว่ามีประมาณ 10 กลุ่ม ต้องสืบสวนติดตามให้ปรากฎว่าพยานหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดฐานใด แล้วให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับ ดำเนินคดีทุกกรณี ให้ตำรวจพื้นที่ , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ร่วมกันดำเนินการ และให้ใช้อำนาจการพิจารณาของผู้ว่าราชการจังหวัด , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผบก.ภ.จว. ส. ตม.จว. และฝ่ายความมั่นคงจังหวัด  ใช้กลไกทางกฎหมายเข้าดำเนินการ

3. คดีฉ้อโกงประชาชนโครงการธุรกิจทางการแพทย์ สำนวนมีความคืบหน้าไปมาก จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 8 ราย  (กลุ่มผู้ถือหุ้น กลุ่มเครือญาติ กลุ่มโบรกเกอร์) มูลค่าความเสียหายประมาณ 9,700 ล้านบาท อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยจะแต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รับผิดชอบและร่วมทำการสอบสวน ในส่วนของบุคคลที่เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ ได้ให้กองการต่างประเทศแจ้งสืบหาตัวบุคคลในระบบตำรวจสากลแล้ว จะเร่งรัดให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายนำพยานหลักฐานมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง หรือกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

นอกจากนี้ ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกคดีจะต้องดำเนินการเชิงรุก ไม่มีการปล่อยผ่านหรือเพิกเฉย เดินหน้าทุกมิติ เน้นการบังคับใช้กฎหมาย และให้ฝ่ายสืบสวนขับเคลื่อนขยายผลการดำเนินคดี พร้อมทั้งชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ทราบการทำงานของตำรวจประกอบกันด้วย หากพบหน่วยใดเพิกเฉย ปล่อยปะละเลยให้เกิดมีการกระทำดังกล่าวซ้ำอีก เบื้องต้นจะดำเนินการทางปกครองหัวหน้าหน่วยทันที

เชียงใหม่-แถลงข่าวการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ และ งานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills: ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี ๕๕ ปี โครงการหลวง”

(26 พ.ย. 67) องคมนตรีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ“การจัดทำแผนปฏิบัติการของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง และโครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568” และ ร่วมแถลงข่าวการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ และ งานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills: ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี ๕๕ ปี โครงการหลวง”

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขานุการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำแผนปฏิบัติการของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง และโครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน ประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงาน รวม 11 กระทรวง 41 กรม 6 มหาวิทยาลัย และหน่วยราขการใน 13 จังหวัด 49 อำเภอ พร้อมทั้งหัวหน้าสถานีเกษตรหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง บุคลากรของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เพื่อห้การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการเป็นไปตามภาระหน้าที่ ใช้งบประมาณของรัฐคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนี้ สอดรับกับบริบทของชุมชน รองรับความเปลี่ยนแปลงและการแปรปรวนของโลกในทุกมิติ มุ่งเน้นความคล่องตัว ตอบโจทย์ความต้องการ และทันต่อสถานการณ์

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน องคมนตรี ได้เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ “จากการพัฒนาทางเลือกมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน: เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการพัฒนาทางเลือก เพื่อรับมือการท้าทายทุกประเด็นของโลก” และ งานโครงการหลวง 2567 “Hats on Hills: ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี ๕๕ ปี โครงการหลวง” โดยทั้งสองกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง เผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีพระบรมราโชบาย สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการก่อตั้งโครงการหลวงจนเกิดผลสำเร็จ แก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหายาเสพติด การประชุมวิชาการนานาชาตินี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ถึง 4 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

 เพื่อนำผลสำเร็จจากการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่สูงด้วยรูปแบบการพัฒนาทางเลือกแบบโครงการหลวง เผยแพร่ให้เป็นที่รับรู้ และเกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งใช้โอกาสในการประสานพลังความร่วมมือกับหน่วยงานที่ดำเนินการพัฒนาพื้นที่สูงในประเทศไทย และนานาประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อรับฟังเสียงสะท้อนในการสร้างพลังของการพัฒนาทางเลือกเพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยและนานาประเทศสามารถเดินทางไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ทั้ง 17 ข้อ ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาประเทศ ตอบรับเข้าร่วมการประชุมแล้ว 29 ประเทศ โดย นาง กาดา ฟาติ วาลี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา (Ms. Ghada Fathi Waly, UNODC Executive Director) ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมประชุมและปาฐกถา มุมมองของ UNODC กับรูปแบบการพัฒนาทางเลือกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจาก FAO ประเทศไทย รวมทั้งเกษตรกรจากพื้นที่พัฒนาของโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ประเทศเมียนมา สาธารณรัฐประชาชนลาว โดยมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาในประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมอีกกว่า 300 คน ผู้ร่วมประชุมทั้งหมดจะได้เดินทางไปเรียนรู้ในพื้นที่ตัวอย่างความสำเร็จในแง่มุมที่แตกต่าง 

ได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งแรกในรัชสมัยกับปีที่ 8 ของการพัฒนา สามารถกำจัดฝิ่นบนพื้นที่ฝิ่นผืนสุดท้ายของประเทศไทย คนในชุมชนได้รับการพัฒนาในทุกมิติ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ต้นแบบการพลิกฟื้นจากเขาหัวโล้น สู่พื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นสถานีวิจัยพืชเมืองหนาวที่สำคัญของประเทศไทย และยังมีพื้นที่ขยายผลการดำเนินงานแบบโครงการหลวง คือ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงตามแบบโครงการหลวงป่าแป๋ ตัวอย่างของชุมชนไม้มีค่า ดูแลรักษา สร้างรายได้

ในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกันนี้ มูลนิธิโครงการหลวงยังมีจัดงานโครงการหลวง 2567 โดยปีนี้ได้ขยายเวลาขึ้นเป็น 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 10 ธันวาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “Hats on Hills ห่มเขาด้วยเงาไม้ ใต้ร่มพระบารมี 55 ปี โครงการหลวง” ผลการพัฒนาพื้นที่สูงด้วยพระบารมีปกเกล้า ชุมชนที่สูงจึงมีชีวิตใหม่ที่มีสุข ร่มเย็น ขุนเขาฟื้นความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารสำคัญของประเทศ ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของทั้งสองรัชกาล สร้างประโยชน์สุขทั้งแก่ชาวเขา ชาวเรา และชาวโลก กิจกรรมที่นำมาจัดแสดงภายในงานมีทั้งนิทรรศการแสดงผลสัมฤทธิ์การพัฒนาพื้นที่สูงของประเทศไทย : สู่ความท้าทายโลก พร้อมการจัดตกแต่ง ประดับประดาพื้นที่อย่างสวยงามด้วยพืชผลที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนา สอดแทรกด้วยสาระความรู้ ความสนุกเพลิดเพลิน ผ่านกิจกรรมฐานเรียนรู้ ที่ได้รับการสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมศิลปะการวาดภาพด้วยสีน้ำ โดย ศิลปินวาดภาพจิตอาสา ผู้เขาชมงานจะได้สนุก เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมประดิษฐ์ประดอยของที่ระลึกด้วยฝีมือของตนเอง

สำหรับผลิตผล ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เกิดจากคุณูปการของโครงการหลวงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ได้ส่งตรงจากดอยมามากกว่า 800 รายการ และปีนี้โครงการหลวงยังจัดมุมทดสอบผลิตผลใหม่ที่อยู่ระหว่างการวิจัย เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ชิมและให้ความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาพันธุ์ และการส่งเสริมแก่เกษตรกร ผลิตผลใหม่เหล่านี้ ได้แก่ แตงกวามินิบอล พริกหวานรับประทานสด รวมทั้งผัก และผลไม้พระราชทานชนิดต่าง ๆ

ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์โครงการหลวงจากชาวดอย  อิ่มอร่อยไปกับอาหารหลากหลายเมนู  ดูนิทรรศการ ชมฐานเรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา ในงานโครงการหลวง 2567  วันที่  1-10  ธันวาคม  2567  ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

นภาพร/เชียงใหม่

‘โปรจีน’ นักกอล์ฟสาวชาวไทยคว้าแชมป์รายการ CME รับเงิน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง

(25 พ.ย. 67) ‘โปรจีน’ อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวชาวไทย มืออันดับ 7 ของโลก คว้าแชมป์รายการ CME Group Tour Championship สำเร็จ

สำหรับแชมป์ดังกล่าว นับเป็นแชมป์ LPGA Tour รายการที่ 4 ของโปรจีน และเป็นรายการที่ 2 ในฤดูกาลนี้ ต่อจากการแข่งขัน DOW Championship

ทั้งนี้ ในการแข่งขันวันสุดท้าย โปรจีน ที่เป็นผู้นำร่วมหลังจบวันที่สามกับแองเจิล หยิน โปรชาวอเมริกัน มาเก็บเพิ่มอีก 7 อันเดอร์พาร์ ทำสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 เฉือนชนะแองเจิล หยิน ไปได้ 1 สโตรก ทำให้คว้าแชมป์ไปครองสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ต่อจาก ‘โปรเม’ เอรียา จุฑานุกาล ที่คว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017 และทำให้โปรจีนคว้าแชมป์รายการใหญ่ส่งท้ายปีของแอลพีจีเอทัวร์ในฤดูกาลนี้ พร้อมรับเงินรางวัลแชมป์สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟหญิงโลก 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 138 ล้านบาท

สมุทรปราการ-เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ ประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดงคณะสงฆ์วัดหนามแดงสุดอาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.67) ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง นำคณะสงฆ์วัดหนามแดง คณะเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร คณะศิษย์ยานุศิษย์และพี่น้องประชาชนตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมประกอบพิธีงานพระราชทานเพลิงศพสรีระสังขารพระครูสาทรวิหารกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง รูปที่ 7 ณ เมรุชั่วคราว วัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี สมุทรปราการ 

ซึ่งทางวัดหนามแดงได้รับความเมตตาจากทางคณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานและร่วมประกอบพิธีงานพระราชทานเพลิงศพสรีระสังขาร ท่านพระครูสาทรวิหารกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง รูปที่ 7 อาทิ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถระสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ทอดผ้าบังสุกุล

พร้อมด้วย พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี กรรมการมหารเถระสมาคม เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรวิหาร พระธรรมวชิรเมธี รองศาสตราจารย์ ดร. รองอธิการบดี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรมหาวิหาร พระเดชพระคุณพระเทพสมุทรวัชราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) 

พระเดชพระคุณพระราชสมุทรวัชราจารย์ เจ้าอาวาสวัดกลางวรวิหาร พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมทอดผ้าบังสุกุลเป็นต้น

นอกจากนี้ วัดหนามแดงยังได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมด้วย พระเดชพระคุณพระราชวชิรสารเวที เจ้าอาวาสวัดบางนาใน พระเดชพระคุณพระศรีรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดกิ่งแก้ว พระเดชพระคุณพระเมธีวราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร 

ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและสวดอภิธรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ท่านพระครูสาทรวิหารกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง รวมถึงการแสดงธรรมเทศนา โดย พระธรรมวชิรเมธี รองศาสตราจารย์ ดร. รองอธิการบดี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรมหาวิหาร 

จากนั้นในเวลา 17.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ได้มีการอัญเชิญไฟพระราชทานเพลิงศพอดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง ณ เมรุชั่วคราว วัดหนามแดง โดยมี นายสุนทร ปานแสงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 

นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายขจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอบางพลี หัวหน้าส่วนราชการ คณะสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ คณะผู้บริหารท้องถิ่น กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า คณะครู คณะสงฆ์วัดหนามแดงเป็นต้น ตลอดจนข้าราชการตำรวจ ทหาร คณะศิษย์ยานุศิษย์และพี่น้องประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพท่านพระครูสาทรวิหารกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง ณ เมรุชั่วคราววัดหนามแดง ซึ่งในพิธีพระราชทานเพลิงศพทางวัดหนามแดง นำโดย ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง พร้อมด้วย คณะสงฆ์วัดหนามแดงได้ดำเนินงานพระราชพิธีจัดอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่เพื่ออุทิศแด่ท่านพระครูสาทรวิหารกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนามแดง รูปที่ 7 สิริอายุรวม 82 ปี 59 พรรษา

ห้างดังลาดพร้าวยืนยันไม่ใช่อุจจาระ เศษสีเหลืองกระจายคือ ไขมันจากร้านอาหาร

(25 พ.ย.67) กรณีที่มีการแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เผยแพร่คลิปวิดีโอลักษณะของเหลวสีเหลือง คล้ายของเสียจากส้วมกระจายภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว ทำให้ร้านค้าได้รับความเสียหาย 

ล่าสุดทางห้างได้ชี้แจงผ่านเว็บไซต์ข่าวสดว่า พื้นเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 3 โซนแฟชั่น ติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ ซึ่งเศษก้อนสีเหลืองที่กระจายจนทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอุจจาระนั้น คือก้อนไขมันจากร้านอาหาร ซึ่งเป็นของเสียทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เช่นเดียวกับอุจจาระ แต่ยืนยันว่าท่อที่แตกไม่ใช่ท่อส้วมอุจจาระอย่างที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ท่อแตก เบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าท่ออาจจะมีการอุดตันเยอะเกินไป จึงทำให้น้ำแตกออกมา โดยปกติแล้วทางห้างจะมีโครงการให้ร้านอาหารแต่ละร้านเข้าร่วมในการตรวจเช็กสภาพท่อ พร้อมทั้งให้ผู้รับเหมาเข้ามาดูแลงานระบบ แต่ทั้งนี้บางร้านก็อาจจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ทางห้างกำลังเร่งตรวจสอบย้อนหลังอยู่

จึงขอวิงวอนให้ทุกสื่อช่วยแก้ข่าวที่ลงไปว่าห้างท่อส้วมแตก เนื่องจากตอนนี้ทางห้างได้รับผลกระทบ

(บุรีรัมย์) ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ตรวจเยี่ยมการฝึก 'การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ'

ที่ ช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี ตรวจเยี่ยมการฝึก 'การส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ' ในพื้นที่ ช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติการปฐมพยาบาล การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ได้อย่างถูกวิธี และสามารถนำความรู้ถ่ายทอดให้กับกำลังพลต่อไปได้ 

โดยได้รับการสนับสนุนยุทธโธปกรณ์จากกองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมทำการฝึกในครั้งนี้ ซึ่งจัดกำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และ โรงพยาบาลบ้านกรวด ร่วมทำการฝึกการส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และขีดความสามารถให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน 

โดยมี ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ 


 

ลำปาง-ตำรวจ ภ.จว.ลำปาง แถลงข่าวการจับกุมยาบ้ารายใหญ่  รวม 6.3 ล้านเม็ด

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง(แห่งใหม่) ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ โดยมีนายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 และพ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว , พ.ต.อ.สังเวียน อินตากูล , พ.ต.อ.คมสันต์ สอาดล้วน รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.วชิรศักดิ์  ศรีประสม รอง ผบก.สส.ภ.5 สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 โดยนายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ  ผอ.ปปส.ภาค 5 , นายดนุชา  ไชยวงค์ ผอ.บก.ปปส.ภาค 5 ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ พื้นที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง จำนวน 2 คดี รวมของกลาง 6,296,000 เม็ด ผู้ต้องหา 4 คน

โดยคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 00.05 น. หน่วยจับกุม สภ.สบปราบ จว.ลำปาง ร่วมกับ ศูนย์สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางและฝ่ายปกครอง อำเภอสบปราบ ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายภูเบศร์ ภูมิลำเนา จ.สุพรรณบุรี และ นายบุญลักษณ์ ภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านพื้นที่ของ อ.สบปราบ โดยใช้เส้นทางผ่านด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ ต่อมา วันที่ 23 พ.ย.67 เวลาประมาณ 00.05 น. ได้มีรถยนต์กระบะ ขับเข้ามายังด่านตรวจตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เจ้าหน้าที่ชุดคัดกรองรถจึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการขอตรวจค้น พบนายภูเบศร์ เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว จึงทำการตรวจค้นร่างกายและรถยนต์กระบะ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้สังเกตท่าทาง นายภูเบศร์ มีพิรุธมือสั่น มีอาการลุกลี้ลุกลน หลบสายตาอยู่ตลอด คล้ายบุคคลได้กระทำความผิดมา

จากการซักถาม นายภูเบศร์ รับสารภาพว่าตนได้รับการติดต่อจากนายบุญลักษณ์ ให้ทำ
หน้าที่ขับรถนำทาง รถบรรทุก 6 ล้อ โดยมีนายบุญลักษณ์ เป็นผู้ขับขี่ และทราบว่าน่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนในรถบรรทุก คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตาม ประสานให้ด่านตรวจ สภ.แม่พริก เพื่อสกัดและทำการตรวจค้น ต่อมาเวลาประมาณ 01.40 น. เจ้าที่ชุดจับกุมของสภ.สบปราบ และ สภ.แม่พริก ได้พบรถคันดังกล่าวบริเวณเขตติดต่อจังหวัดลำปาง-ตาก จึงได้แสดงตัวและนำรถคันดังกล่าวมาเอ็กซเรย์ ที่ด่านตรวจ สภ.แม่พริก พบว่าภายในมีวัตถุต้องสงสัย จำนวน 30 กล่อง เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นยาเสพติด(ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.สบปราบ จึงได้ควบคุมรถคันดังกล่าว และนายบุญลักษณ์ มายังด่านตรวจยาเสพติด สภ.สบปราบ ตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบกล่องพัสดุสีน้ำตาลจำนวน 30 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการขยายผลต่อไป

คดีที่ 2 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 01.30 น. สภ.สบปราบ จว.ลำปาง ร่วมกับ ศูนย์สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางและ ฝ่ายปกครอง อำเภอสบปราบ จับกุม ผู้ต้องหา 4 คน ผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายชาตรี ภูมิลำเนา จ.ตาก ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.สุภาพร ภูมิลำเนา จ.ตาก ผู้ต้องหาที่ 3 นายกายสิทธิ์ ภูมิลำเนา จ.ตาก และผู้ต้องหาที่ 4 น.ส.นงนุช ภูมิลำเนา จ.สุโขทัย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ สภ.สบปราบ ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาในพื้นที่ จนกระทั่ง เวลาประมาณ 01.30 น. ได้มีรถยนต์กระบะ ขับเข้ามายังด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดคัดกรองรถจึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนาย ชาตรี เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว และน.ส.สุภาพร เป็นผู้โดยสารนั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกต นาย ชาตรี แสดงอาการมีพิรุธลุกลี้ลุกลน จึงทำการตรวจค้นและพบว่ารถกระบะคันดังกล่าว ซุกซ่อนยาเสพติด(ยาบ้า)อยู่ตามบริเวณใต้ที่เก็บของฝั่งประตูซ้าย จำนวน 14 ก้อน ฝั่งประตูขวา จำนวน 12 ก้อน บริเวณช่องเข็มขัดนิรภัย ฝั่งประตูซ้าย จำนวน 14 ก้อน ฝั่งประตูขวา จำนวน 14 ก้อน บริเวณช่องลำโพง หลังรถ จำนวน 4 ก้อน ใต้แม็กไลเน่อ ฝั่งซ้ายจำนวน 46 ก้อน ฝั่งขวา จำนวน 44 ก้อน รวมยาเสพติดทั้งหมดจำนวน 148 ก้อน หรือจำนวนประมาณ 296,000 เม็ด

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนเพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลลูกหลานหรือบุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 , สายด่วน 191 , line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police l lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กองทัพเรือจัดพิธีวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรามหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 

(25 พ.ย.67) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรามหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ถ.สุขุมวิท กม.6 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กองทัพเรือ พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรามหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตเวียนมาบรรจบครบรอบปีที่ 99 โดยมี พลเรือเอก พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช
ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเรือโท วัชระ พัฒนรัฐ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ตลอดจนผู้แทนหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และใกล้เคียง เข้าร่วมในพิธี 

พิธีวางพวงมาลาที่พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรามหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แห่งนี้ กองทัพเรือและทุกภาคส่วนได้ถือปฏิบัติเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงพระราชทานที่ดินทรงสงวนบริเวณอำเภอสัตหีบ ให้แก่ประชาชนคนไทยได้มีที่อยู่อาศัย และกองทัพเรือใช้เป็นที่ตั้งหน่วยทหารเรือในปี พ.ศ.2465 รวมระยะ 99 ปี อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาทางด้านการทหารที่มีพระเนตรกว้างไกล และทรงตระหนักถึงความสำคัญของกองทัพเรือที่จำเป็นต้องมีฐานทัพเรือ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชัยภูมิที่เหมาะสม และเป็นที่มั่นในการป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวทำให้กองทัพเรือมีฐานทัพเรือเพื่อเป็นฐานส่งกำลังบำรุง และที่จอดเรือรบ 

รวมทั้งเป็นที่ตั้งหน่วยงานสำคัญตราบจนทุกวันนี้ กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2544 พลเรือโท สุทัศน์ ขยิ่ม ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ในขณะนั้น เห็นว่า เหล่าทหารเรือ ตลอดจนประชาชนโดยทั่วไปทราบถึงเรื่องราวดังกล่าวน้อยมาก ประกอบกับในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ยังไม่มีการประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ จึงได้ร่วมกับข้าราชการ ประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ขึ้นไว้ ณ ริมถนนสุขุมวิท หมายเลข 3 หลักกิโลเมตรที่ 6 เส้นทางระยอง - สัตหีบ ต.สัตหีบ  อ.สัตหีบ เพื่อถวายเป็นพระราชสักการะ และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยให้ได้มีที่อยู่อาศัยประกอบอาชีพ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขร่มเย็น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top