Tuesday, 24 June 2025
NEWS FEED

'ตชด.ภาค 4' ระดมกำลังลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ขนของหนีน้ำท่วมโรงพยาบาล 

(27 พ.ย.67) พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รอง ผบช.ตชด. ) ในฐานะ โฆษก บช.ตชด. เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำท่วมภาคใต้ฝั่งตะวันออกหลายจังหวัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ได้สั่งการตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ทุกกองร้อยระดมกำลังออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงยาก มีน้ำท่วมสูง 

โฆษก บช.ตชด.กล่าวด้วยว่า บช.ตชด.ได้กำชับ ให้ ตชด. พร้อมนำยานพาหนะ เรือยาง เรือท้องแบน ช่วยอพยพประชาชาชนโดยเฉพาะผู้ป่วย คนชรา และเด็ก ออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมเข้าสนับสนุนช่วยเหลือในพื้นที่หน่วยราชการสำคัญ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น รวมถึงให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเข้าช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองร้อย ตชด.446 นำโดยพ.ต.ท.อเนชา ตาวัน ผบ.ร้อย ตชด.446 ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจระดับน้ำในพื้นที่ อำเภอ.แว้ง จว.นราธิวาส ช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง

ช่วงเช้าวันนี้ ( 27 พฤศจิกายน 2567 ) พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 มอบหมายให้ พ.ต.ต.เศรษฐา แสงโพธิ์ดา สว.กก.ตชด.44 จัดกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เมือง จว.ยะลา โดยเข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และยกสิ่งของไว้ที่สูงให้กับประชาชนที่น้ำท่วมบ้านเรือน

ส่วนในพื้นที่ จว.สงขลา เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.อ.ชวิศา บุญมี หน.ชป.ขล.ร้อย ตชด.437 ได้สั่งการให้ชุดจิตอาสาของ กองร้อย ตชด.437 เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านน้ำลัด ต.สำนักแต้ว อ.สะดา จว.สงขลา 

ด้าน พ.ต.ท.วีระเทพ หลางหวอด รอง ผบ.ฉก.ตชด.43 (1),ร.ต.อ.หญิง สุรัตน์ ฤทธิรัตน์  หน.ฝกร.ฉก.ตชด.43 นำกำลังพร้อมด้วยนางอุบล อุบลมณี ประธานโฆษกชาวบ้านจังหวัดสงขลาและชาวบ้านในพื้นที่เข้าช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฉาง อ.นาทวี จว.สงขลา ช่วยขนของขึ้นชั้น 2 เนื่องจากน้ำท่วมในบริเวณชั้น 1

และในพื้นที่ จว.สตูล พ.ต.ท.คำนึง อุ่นปลอด ผบ.ร้อย ตชด.436 มอบหมายให้ ร.ต.อ.อดิเทพ พัดลม ผบ.มว.ฯ/ หน.ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกำลังพล ออกแจ้งเตือนประชาชน และช่วยยกของขึ้นที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

'พล.ต.ท.ไตรรงค์' นำทีมพบ ‘รองนายกฯ พีระพันธุ์’ สรุปผลสอบ ‘ปลูกป่าล้านไร่ กฟผ.’ พบหลายรายส่อทุจริต

(26 พ.ย. 67) นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นำ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กระทรวงพลังงาน กรณีโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม (ปลูกป่าล้านไร่ กฟผ.) และคณะเจ้าหน้าที่ฝ่าสืบสวนสอบสวนเข้าพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม (ปลูกป่าล้านไร่ กฟผ.)

โดยคณะอนุกรรมการดังกล่าวดำเนินการตามสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนทุจริตโครงการปลูกป่าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมูลค่าตามสัญญาที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งผลการตรวจสอบพบมีบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิดหลายรายโดยเอกสารผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้เสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะได้มอบให้กับ กฟผ.ในฐานะผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวภายหลังเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานว่า “ในวันนี้ท่าน ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญผมและคณะทำงานมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจสอบกรณีปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ปลูกป่าล้านไร่ กฟผ. หรือโครงการปลูกป่าทิพย์ กฟผ. ซึ่งวันนี้เป็นการนำเรียนให้ท่านรองนายกฯ ทราบเป็นสรุปผลการตรวจสอบที่คณะอนุกรรมการและคณะทำงานได้ดำเนินการ โดยตรวจสอบจากเอกสารโครงการ TOR สัญญาจ้าง และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.ซึ่งผลการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถระบุบุคคลและกลุ่มบุคคลทีเข้าข่ายกระทำความผิดที่ต้องให้ กฟผ. ไปดำเนินการต่อไป ซึ่งในส่วนนี้ท่านรองนายกฯได้ชื่นชมและขอบคุณคณะทำงานด้วย”

สำหรับโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม (ปลูกป่าล้านไร่ กฟผ.) นั้น เป็นโครงการอันเนื่องมาจากนโยบายการลดคาร์บอนจากการผลิตพลังงานพลังงานไฟฟ้า โดยการปลูกป่าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศปีละ 1 แสนไร่ ระยะเวลา 10 ปีรวม 1 ล้านไร่ โดยนอกจากจะเป็นโครงการปลูกป่าแล้วยังต้องมีการบำรุงรักษาป่าต่อเนื่องไปอีก 9 ปีตามโครงการซึ่งทั้งหมดใช้งบประมาณที่สูงโดยโครงการเริ่มดำเนินการในปี 2565 และ 2566 ปัจจุบันโครงการได้ถูกระงับอันเนื่องมาจากการร้องเรียนดังกล่าว

นครพนม - ผบ.มทบ.210/รอง ผบ.นบ.ยส.24 (2) ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานมอบนโยบาย ข้อสั่งการ และข้อเน้นย้ำ แนวทางการปฏิบัติงานของหน่วย นบ.ยส.24

(27 พ.ย. 67) ที่ห้องประชุม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลตรี ฉัฐชัย มีชั้นช่วง รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) โดยได้รับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน  สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ในห้วง ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมอบนโยบาย ข้อสั่งการ และข้อเน้นย้ำ แนวทางการปฏิบัติงาน รวมถึงรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการบูรณาการในการพัฒนาความร่วมมือด้านการข่าวในพื้นที่รับผิดชอบสู่แผนการปฏิบัติ พร้อมทั้งให้กำลังใจกับกำลังพลที่เสียสละในการปฏิบัติงานต่อไป

โดยมี พันเอก ศรณณัฐ นวลมณี รองผู้อำนวยการส่วนบัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 (5)) พร้อมด้วยส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 ให้การต้อนรับ​ ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรื่อง กำหนดพื้นที่ที่มีความเร่งด่วนจำเป็นเร่งด่วน และผู้รับผิดชอบเพื่อสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งมอบให้กองทัพภาคที่ 2 จัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้น และปราบปราม และยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์  ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) รับภารกิจในการกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด และแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 25 อำเภอชายแดนของ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดบึงกาฬ, จังหวัดนครพนม, จังหวัดมุกดาหาร, จังหวัดอำนาจเจริญ, จังหวัดอุบลราชธานี

พลโท บุญสิน   พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24) กล่าวว่าในห้วงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมตรวจยึดยาเสพติดของ นบ.ยส.24  ภายใน 57 วัน จับกุมผู้ต้องหาเย้ยอำนาจรัฐ  จำนวน  321 คน สกัดกั้นตรวจยึดยาบ้า จำนวน 24,647,483 เม็ด ยาไอซ์ 1,193.548 กิโลกรัม เฮโรอีน 91.83 กิโลกรัม เคตามีน 3.79 กิโลกรัม ยาอี 6 กิโลกรัม ฝิ่น 0.66 กิโลกรัม

ภาพ/ข่าว : นายพรพิพัฒน์   เพ็ชรสังหาร
เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

Skoda รถสัญชาติเช็ก โผล่วิ่งทดสอบในไทย หลังโรงงานในเวียดนามเริ่มผลิต เล็งเจาะขายอาเซียน

(26 พ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความในกลุ่ม EV Club Thailand Group หลังพบรถยนต์แบรนด์ใหม่ไม่คุ้นเคย ติดป้ายทะเบียนรถทดสอบ กำลังวิ่งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่ารถยนต์ดังกล่าวคือ Skoda แบรนด์รถยนต์จากสาธารณรัฐเช็ก รุ่นที่กำลังทดสอบคือ Skoda Superb รถเก๋ง 4 ประตู D-segment ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Toyota Camry หรือ Honda Accord  

หาก Skoda เข้าสู่ตลาดไทยจริง คาดว่าจะดำเนินการผ่านตัวแทนจำหน่ายของ Audi ซึ่งอยู่ในเครือ Volkswagen Group  

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสื่อเวียดนามว่า Skoda Auto เตรียมเปิดโรงงานผลิตแห่งแรกในเวียดนาม เพื่อรองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดกวางนิญทางภาคเหนือของเวียดนาม ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 90% และเริ่มทดลองใช้งานบางส่วนในเดือนพฤษภาคม คาดว่าโรงงานขนาด 36.5 เฮกตาร์แห่งนี้จะมีกำลังการผลิตสูงถึง 120,000 คันต่อปี โดยการประกอบรถยนต์จะเริ่มในช่วงปลายปี 2024 และวางจำหน่ายในปี 2025  

ในช่วงแรก โรงงานจะผลิตรถซีดานและ SUV ระดับ B ก่อนขยายสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อรุกตลาดอาเซียน Skoda เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวียดนามเมื่อกันยายน 2023 และตั้งเป้าขยายตัวแทนจำหน่ายเป็น 20 รายภายในปี 2025 และ 30 รายภายในปี 2028 พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีละ 40,000 คันในปี 2030 โดยมองว่าเวียดนามเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคอาเซียน

อนึ่ง ก่อนหน้า Skoda เคยทำตลาดในไทยโดยมีดีลเลอร์ผู้จัดจำหน่ายคือ ยนตรกิจ เมื่อหลายสิบปีก่อนจะออกจากตลาดประเทศไทยไป

เปิดตัว 'หมูมะนาว' ว่าที่เจ้าสาว 'หมูตุ๋น' เริ่มโปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ

(26 พ.ย. 67) เพจขาหมู แอนเดอะแก๊งค์ ของพี่เบนซ์ อรรถพล หนุนดี เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล "หมูเด้ง"  แห่งสวนสัตว์เปิดเขียว เปิดเผยว่าทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้ปิดดีลเป็นที่เรียบร้อย สำหรับโปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ สวนสัตว์โคราช ซึ่งทางเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง การจับมืร่วมกัน และเปิดตัว หมูมะนาว ว่าที่เจ้าสาวของ หมูตุ๋น สะใภ้ตัวใหม่ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว 

พี่เบนซ์ ผู้ดูแลเพจขาหมู แอนเดอะแก๊งค์ โพสต์ว่า “มาดูตัวว่าที่เจ้าสาวของหมูตุ๋น น้องหมูมะนาว สวนสัตว์โคราช ปิดดิล หมูมะนาวไปอยู่กับหมูตุ๋นที่เขาเขียว ส่วนใครจะมาโคราชยังไม่บอก โปรเจกต์ขยายเผ่าพันธุ์ฮิปโปแคระ เริ่ม”

สำหรับหมูตุ๋นเพิ่งจะฉลองวันเกิดครบ 5 ขวบ ไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่วนฝ่ายเจ้าสาว 'น้องหมูมะนาว' อายุมากกว่าเจ้าบ่าวปัจจุบันนี้มีอายุ 8 ปี  พ่อของหมูมะนาวตายไปเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา คงเหลือน้องหมูมะนาวที่เริ่มจะเป็นสาว อยู่กับแม่โคล่า ซึ่งปัจจุบันอายุประมาณ  47 ปี ถือเป็นฮิปโปแคระที่อายุเยอะที่สุดในไทย

‘ออกแบบ ชุติมณฑน์’ คว้ารางวัล Emmy Awards นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์ ‘Hunger คนหิว เกมกระหาย’

(26 พ.ย. 67) วงการบันเทิงไทยสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เมื่อ "ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง" คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Performance by an Actress) จากเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 ประจำปี 2024 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลายเป็นนักแสดงไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้  

ชุติมณฑน์ได้รับรางวัลจากบทบาท "ออย" เชฟสาวผู้มุ่งมั่นในซีรีส์ "Hunger คนหิว เกมกระหาย" ผลงานจาก Netflix ซึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับ 1 ใน 88 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ติดอันดับ Global Top 10 Films ที่ไม่ใช่เสียงภาษาอังกฤษ  

ออกแบบเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2556 เธอเกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ที่จังหวัดนนทบุรี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสตรีวิทยา และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานแรกของเธอคือภาพยนตร์สั้น "Thankyou For Sharing" กำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ก่อนจะมีชื่อเสียงจากบท "ลิน" ในภาพยนตร์ "ฉลาดเกมส์โกง" ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในระดับสากล  

‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์’ บรรยายพิเศษ หนุนใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ (23 พ.ย. 67) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สมาชิกวุฒิสภา เป็นวิทยากร บรรยายและตอบข้อซักถาม และเป็นกรรมการวิจารณ์โครงสร้างโครงการ Data Driven Tourism Strategy for Sustainability  ที่พัฒนาขึ้นโดยคณะผู้บริหารระดับสูงที่เข้ารับการอบรมในหลักสูตร  Leadership Program on Trade & Development Strategies จัดโดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (SASIN) ร่วมกับ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) องค์การมหาชน ที่อาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์

‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ถูกส่งเข้า ICU แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

(26 พ.ย. 67) ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ฮีโร่โอลิมปิกของไทย ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้อง ICU แพทย์ตรวจพบเส้นเลือดในสมองตีบ แฟน ๆ แห่ส่งกำลังใจให้ครอบครัว

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เบสท์ – รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ลูกสาวคนเก่งของ สมรักษ์ คำสิงห์ ได้โพสต์อินสตาแกรมขณะอยู่หน้าห้องไอซียู เวลา 17.49 น. ระบุว่า

“ตอนนี้พ่อบาส เข้าห้อง ICU นะคะ สำหรับใครที่ติดต่อพ่อไม่ได้ โทรศัพท์พ่ออยู่กับเบสค่ะ เนื่องจาก เมื่อเช้าพ่อมีอาการ ไม่มีแรงซีกซ้าย จึงพาพ่อมาโรงพยาบาล และตรวจอย่างละเอียด สรุปได้ว่า เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ (ข้างขวา) เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ พ่อเลยไม่มีแรงซีกซ้าย ค่ะ

และพ่อต้องนอนดูอาการที่ห้องICU ไปก่อนค่ะ เพื่อให้หมอดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งตอนนี้พ่อบาสก็หลับอยู่ตั้งแต่ถึงโรงพยาบาล ถ้าอาการคืบหน้ายังไง เบสจะมาอัพเดตนะคะ ขอให้พ่อหายไวๆ เบสรักพ่อ รีบกลับมาซ่าเหมือนเดิมเลย!!! เบสจะรอพ่อตื่นมาคุยกับเบสนะ รักและเป็นห่วงมากๆ สู้ๆนะพ่อ รออยู่หน้าห้องนะ”

ล่าสุดทางทีมแพทย์ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือด และกำลังรอดูอาการอย่างใกล้ชิด

‘พล.อ.ณัฐพล’ เผย เดินหน้าฟื้นฟูแม่สาย เฟส 2 เล็งเสนอจัดทำแผนระบายน้ำ – พื้นที่รับน้ำ แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

(26 พ.ย. 67) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม  ( ศปช. ) ให้สัมภาษณ์รายการ สถานีประชาชน ช่อง ThaiPBS ความคืบหน้าการฟื้นฟู อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังประสบสถานการณ์น้ำท่วม โคลนถล่ม ในเฟสแรกมีการส่งมอบพื้นที่ให้ท้องถิ่น 3 แห่ง ได้แก่ เทศบาลตำบลแม่สาย เทศบาลตำบลเวียงพังคำ และเทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ การฟื้นฟูเฟสที่ 2 เป็นเรื่องของการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ พร้อมกับการวางแผนการแก้ไขปัญหาสำคัญ อย่างการสร้างพนังกั้นน้ำ และการขยายลำคลอง 

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า การที่ทำงานสำเร็จ ไม่ใช่เฉพาะทหาร แต่เป็นทุกหน่วยงานราชการร่วมกัน ก่อนมีการตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทุกหน่วยงานก็เข้าพื้นที่ที่ได้รับการประสานงานขอความช่วยเหลือ ตามความพร้อมของแต่ละหน่วยงาน เมื่อตั้ง ศปช.ส่วนหน้าแล้วนั้น ก็มาวางแผนว่า จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดได้ ตามภารกิจที่น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธาน ศปช. มอบหมายมาให้ ต้องมีการกำกับติดตาม จึงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 พื้นที่ และกำหนดหัวหน้ารับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ และให้มีการส่งไทม์ไลน์การทำงานตามกรอบสิ้นเดือนตุลาคม ตามที่ประสาน ศปช.กำหนด แต่ละพื้นที่จดำเนินการอย่างไร เมื่อพื้นที่ไหน ไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เสนอมา ก็จะมีการประชุมกันทุกวัน เพื่อสรุปงานแต่ละวัน เพื่อหาข้อสรุปปัญหาการเสร็จไม่ตามกำหนดที่เสนอมาของแต่ละพื้นที่ ถ้ามีปัญหา ไม่ว่าจะ คน เครื่องมือ ก็จะส่งเพิ่มเติมให้ พร้อมกับการสนับสนุนของ ประธาน ศปช. การทำงานแต่ละพื้นที่ก็เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่กำหนด 

วิธีการทำงานของ พล.อ.ณัฐพล ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ได้รับการพูดถึงจากประชาชนที่ได้เห็นการทำงานในพื้นที่อยู่ตลอด ทำการสั่งการหน้างาน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า การที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมทุกวัน ได้ประโยชน์หลายอย่าง อย่างแรก ได้กำกับติดตามงาน ให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่กำหนด ทำให้สามารถประเมินได้ว่าหน้างานที่เห็น จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ไหม  และเห็นปัญหาหน้างานที่แท้จริง ไม่ต้องรอการรายงานขึ้นมา อย่างที่สอง ทำให้สามารถเยี่ยมเยียนผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะถือว่าการให้กำลังใจคนทำงาน ที่ประหยัดที่สุด คือการเยี่ยมเยียน

การทำงานที่ผ่านมา มีการคงกำลังพลในการปฏิบัติงาน 1,700 นาย ศปช.ส่วนหน้ารักษาระดับกำลังพลอย่างน้อย 1,100 นาย ในพื้นที่ ส่วนที่เหลือให้มีการหมุนเวียนสลับกันไปพัก กำลังหลักมาจากหน่วยทหารในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งบ้านกำลังพลก็ประสบเหตุน้ำท่วมเช่นกัน ทำให้ต่างก็มีความกังวลบ้านของตน ก็ต้องใช้วิธีการให้กำลังใจตรวจเยี่ยมในทุกๆวัน และให้หมุนเวียนกลับไปดูแลบ้านของตน และกำชับผู้บังคับบัญชาในแต่ละกองทัพ ให้ดูแลบ้านของกำลังพลที่มาทำงาน จึงทำให้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อเนื่องจนจบภารกิจ 

ส่วนในการดูแลเฟสที่ 2 หลังจากส่งมอบพื้นที่ในการฟื้นฟูแล้วนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า  หลังจากส่งมอบพื้นที่แล้ว ทางรัฐบาลทำการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาการแก้ปัญหาในปีหน้า ในส่วนของการทำงานก็ยังติดตามการแก้ปัญหาต่อไป ทั้งในเรื่องการฟื้นฟูเฟสที่ 2 การป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในปีต่อไป ไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน เพียงแต่กลับมาร่วมประชุมกับหน่วยงานในส่วนกลางเพื่อเตรียมการในปีหน้า 

ในส่วนการทำงานปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพล ที่เรียกว่าเป็นจิตอาสาเต็มรูปแบบ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในปัจจุบัน กองทัพมีการปลูกฝังกำลังพล ในเรื่องของการเป็นจิตอาสา ทุกระดับ จนถึงนักศึกษาวิชาทหาร มีการอบรมเรื่องนี้มา เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สามารถช่วยประชาชนได้ ก็พร้อมช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยก 

ในส่วนของกลาโหม ในการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า จากตรวจเยี่ยมพื้นที่ทุกวัน ก็มีการสอบถามพูดคุยความเห็นจากประชาชน โดยมีความเห็นว่า ลำน้ำแม่สาย แต่เดิม ลึก 5 เมตร ปัจจุบันเหลือเพียง 1.5 เมตร  จึงเป็นสาเหตุให้มวลน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือน เขตชุมชน จงึต้องทำการขุดลอกลำน้ำ ทาง  พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้ประสานงานกับทางประเทศเมียนมาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และได้รับการตอบรับสนับสนุนในการขุดลอกลำน้ำครั้งนี้  ต่อมา จะเป็นในเรื่องของการสร้างเขื่อน ด้วยลำน้ำแม่สาย มีช่วงลำน้ำหลายจุด ที่พัดเข้าสู่ฝั่งประเทศไทย ทำให้เกิดการกัดเซาะตลิ่ง รวมทั้งต้องวางแผนในการทำพื้นที่ระบายน้ำ พื้นที่รับน้ำ ด้วยพื้นที่แม่สายเป็นลักษณะแอ่งกระทะ ทำให้เอื้อต่อการเกิดน้ำท่วม จึงต้องวางแผนจัดทำพื้นที่ระบายน้ำ พื้นที่รับน้ำ 

สำหรับการถอดบทเรียนในเหตุการณ์น้ำท่วมแม่สายนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางกองทัพ หลังจากนี้ทางกองทัพจะจัดหายุทโธปกรณ์อะไรมาเพิ่มเติม ทางกลาโหมมีคน ทางมหาดไทยมีเครื่องมือ อนาคตอาจจะมีการทำความร่วมมือระหว่างกันในการทำงาน  รวมทั้งให้มีการจัดทำบัญชีภาคเอกชนและจิตอาสาที่เข้ามาร่วมภารกิจ เพราะหลายๆทีมมีประสบการณ์ หากมีเหตุการณ์จะได้ประสานงานเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจได้

“อยากจะให้ทนายเดชา เข้ามาเป็นทนายความให้กับทนายตั้ม เพราะทนายเดชาเป็นผู้ที่มีความอาวุโส มีความสนิทสนมกับทนายตั้ม”

เมื่อวันที่ (25 พ.ย. 67) นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความดูแลคดีให้นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ซึ่งเป็นภรรยาของทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า ตนไม่มีทางที่จะรับว่าความให้กับทนายตั้มอย่างแน่นอน เพราะมีการประชุมพูดคุยร่วมกับทนายสายหยุดแล้ว รวมถึงเห็นหลักฐานว่า ถึงต่อสู้ไปก็ไม่มีทางชนะคดี

ส่วนสาเหตุที่ทนายตั้มยังยืนยันว่าจะขอต่อสู้คดีนั้น ตนมองว่าน่าจะมี 2 กรณี อย่างแรกคือทนายตั้มยังคงมั่นใจว่าจะสามารถชนะคดีได้ และกรณีที่ 2 คือทนายตั้มน่าจะรอให้คดีถึงชั้นศาล แล้วค่อยเจรจากับมาดามอ้อย

ซึ่งตนมีความเห็นว่าอยากจะให้ทนายเดชา เข้ามาเป็นทนายความให้กับทนายตั้ม เพราะทนายเดชาเป็นผู้ที่มีความอาวุโส มีความสนิทสนมกับทนายตั้ม

ทนายอาคมยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ตนเป็นทนายความให้กับภรรยาของทนายตั้มในเฉพาะชั้นสอบสวนเท่านั้น ทันทีที่คดีถึงชั้นศาลตนจะยุติการเป็นทนายความทันที เพราะเชื่อว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมกว่าตน

และเชื่อว่าลูกความของตน ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องเงินที่ทนายตั้มฉ้อโกงเงินมาดามอ้อยมาซื้อบ้าน จึงได้ให้คำแนะนำให้ลูกความของตนคืนบ้านและโฉนดที่ดินให้กับมาดามอ้

แต่ทางทนายตั้มไม่ยินยอม ทำให้ลูกความของตนไม่สามารถทำได้ เพราะผู้ต้องหา 2 คน มีการจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งสินสมรสจำเป็นต้องมีการยอมความทั้งสองฝ่าย ขณะนี้ตนได้มีการยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้ประกันตัว ซึ่งศาลอยู่ระหว่างการพิจารณา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top