Sunday, 22 June 2025
NEWS FEED

สุราษฎร์ธานี-เปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีวันแรกคึกคัก มีผู้สมัครร่วมชิงชัยทั้งอดีตนายก อบจ.คนล่าสุด อดีต สส. และอดีตข้าราชการชื่อดัง 

(23 ธ.ค.67 ) เวลา 08.00 น. ที่ศูนย์กลางการประชุมภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เปิดรับสมัครการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นวันแรก  ซึ่งวันนี้ทั้งในส่วนของนายก อบจ. และ ส.อบจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกองเชียร์ต่างเดินทางมาส่งกำลังให้ผู้สมัครของตนอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัครนายก อบจ. เดินทางเข้ามาสมัครเป็นจำนวน 5 คน  ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.คนล่าสุด ลงในนามกลุ่มคนรักสุราษฎร์ , นางโสภา กาญจนะ อดีต สส. สุราษฎร์ธานี กลุ่มพลังสุราษฎร์ , นายวิเชียร จันทร์บัว กลุ่มสุราษฎร์ก้าวใหม่ , นายแพทย์ จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในนามพรรคประชาชน และนายสมพล สิงหพล อดีตผู้สมัคร สส. เขต 4 สุราษฎร์ธานี ทีมสุราษฎร์ยุคใหม่ ซึ่งแต่ละคนมายื่นใบสมัครพร้อมกันก่อนเวลา 08.30 น. ขณะที่การรับสมัคร ส.อบจ. จำนวน 19 รวม 36 เขต ต่างมีผู้สมัครแต่ละเขตเข้ามายื่นใบสมัครเช่นเดียวกัน

โดยนายฉัตรชนัย โนต๊ะยศ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งได้นำผู้สมัครนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดไปแสดงตนและยื่นใบสมัคร จากนั้นมีการรับสมัครตามขั้นตอนและให้ผู้สมัครจับฉลากหมายเลขเพื่อใช้ในการหาเสียงต่อไป  

โดยแต่ละคนได้ลำดับหมายเลขดังนี้  
หมายเลข 1 ได้แก่ นายสมพล สิงหพล 
หมายเลข 2 ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว 
หมายเลข3 ได้แก่ นายวิเชียร จันทร์บัว 
หมายเลข 4 คือ นางโสภา กาญจนะ 
และหมายเลข5 คือ นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์
หมายเลข 6 นายกฤษณ์ บุญประสพ

ซึ่งปรากฏว่าทุกคนต่างพอใจในหมายเลขของตนเองและพร้อมเดินหน้าลงพื้นที่หาคะแนนเสียงต่อไป

‘รองนายกฯ ประเสริฐ - รมต. จิราพร' ย้ำที่ประชุม ‘กปช.’ เร่งขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ภาครัฐ เน้นนำเสนอนโยบายที่เห็นผล-เข้าถึงประชาชน ชู ‘ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ผลงานสำคัญของรัฐบาล

(23 ธ.ค.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (กปช.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธาน กปช. และคณะกรรมการ กปช. เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานสำคัญประจำปี พ.ศ. 2567 ภายใต้การกำกับของ คณะ กปช. พร้อมทั้งพิจารณาเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568       

นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำงานเพื่อขับเคลื่อนสนับสนุนและผลักดันให้แผนปฏิบัติการด้านการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ.2566-2570 ฉบับนี้ ให้บรรลุเป้าหมาย ผ่านการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐทั้ง 20 กระทรวง อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานประจำปีนำเสนอต่อ ครม. อีกทั้งเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาล ทั้งนโยบายระยะยาวเชิงโครงสร้างและนโยบายสำคัญในปี 2568 ผ่านการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง  ซึ่งนโยบายต่างๆเหล่านี้จะขับเคลื่อนไปสู่ประชาชนโดยผ่านหน่วยงานต่าง ๆ จากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุม กปช. ได้เน้นย้ำการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในการแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัลเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ได้แก่ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ โดยขอความร่วมมือคณะกรรมการฯ และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน การทำงาน เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาภัยออนไลน์ และผลักดันการแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์อย่างแท้จริงไปด้วยกันทุกภาคส่วนงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้นำเสนอผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่มีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรายงานการเตรียมความพร้อมสำหรับอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ที่จะมาถึงด้วย

'เผ่าภูมิ' ส่งท้ายปี 67 มอบสัญญาเช่าที่ดิน สระบุรี 'เอาที่รัฐ ให้ราษฎร์ทำกิน' ถูกเพียงปีละ 200 บาท/ไร่

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวในโครงการ 'ธนารักษ์เอื้อราษฎร์' สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ว่า

กระทรวงการคลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้พี่น้องประชาชน ตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ 'สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน' 'เอาที่รัฐ ให้ราษฎร์ทำกิน' โดยในวันนี้เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สบ.689 ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สบ.5, สบ.275, สบ.325, สบ.642 รวม 120 ราย (154 สัญญา) เนื้อที่ประมาณ 46 ไร่ 1 งาน 94.40 ตารางวา เป็นเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 106 ราย (115 สัญญา) เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่ 1 งาน 47.40 ตารางวา และ เพื่อการเกษตร 39 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ 47 ตารางวา ในอัตราค่าเช่าผ่อนปรน ดังนี้
- เช่าเพื่ออยู่อาศัย อัตราค่าเช่า ตารางวาละ 0.75 บาท/เดือน
- เช่าเพื่อประกอบเกษตรกรรม อัตราค่าเช่า ไร่ละ 200 บาท/ปี

โดยสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชน ตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ 
1. ช่วยให้ประชาชนมีที่ดินทำกินในอัตราค่าเช่าถูก มีรายได้ที่มั่นคง และมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง 
2. เข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ ทั้งสาธารณูปโภค สาธารณูปการ (น้ำ ไฟ ฯลฯ)
3. นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ 
4. สามารถไปยื่นขอบ้านเลขที่ ขอทะเบียนบ้านได้
5. สามารถได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลในกรณีต่างๆ เช่น ภัยพิบัติ น้ำท่วม ฯลฯ

กระบี่สมัครนายก อบจ.กระบี่วันแรกช่วงเช้า 'โกหงวน' นำทีมมีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.คนแรก

(23 ธ.ค.67)การเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่(นายก อบจ.กระบี่) และ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่(ส.อบจ.กระบี่) ที่ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา(23 ธ.ค.67) บรรยากาศเป็นไปค่อนข้างคึกคัก มีผู้สมัครรับเลือกตั้งพร้อมกองเชียร์ไปถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลา 08.30 น.พร้อมมีการเตรียมพวงมาลัยดาวเรืองไว้คล้องคอผู้สมัครที่สนับสนุนด้วย

ในส่วนของผู้สมัครนายก อบจ.กระบี่ มีผู้ไปลงชื่อยื่นใบสมัครก่อนเวลา 08.30 น.เพียงคนเดียวคือนายสมศักดิ์  กิตติธรกุล อดีตนายก อบจ.กระบี่สมัยที่ผ่านมา ยื่นใบสมัครในนามกลุ่มรักกระบี่ โดยไม่ต้องจับสลากหมายเลข ทำให้ได้หมายเลข 1 โดยอัตโนมัติ

สำหรับผู้สมัคร ส.อบจ.กระบี่ ส่วนใหญ่ไปลงชื่อก่อนเวลา 08.30 น. ทำให้เขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครลงชื่อก่อนเวลา 08.30 น.มากกว่าหนึ่งคนถือว่ามาพร้อมกัน เจ้าหน้าที่ใช้วิธีจับสลากเพื่อเลือกลำดับการยื่นใบสมัครก่อนหลัง หากผู้สมัครมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มีเอกสารหลักฐานการสมัครถูกต้อง ครบถ้วน ก็จะได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครตามที่ผู้สมัครจับสลากได้ ไปใช้ในการหาเสียงต่อไป

สำหรับจังหวัดกระบี่ มีเขตเลือกตั้งนายก อบจ. 1 เขตเลือกตั้ง ส่วน ส.อบจ.มีเขตเลือกตั้ง 24 เขต  ดังนี้ อ.เมืองกระบี่  6 เขต อ.คลองท่อม 4 เขต อ.เหนือคลอง 3 เขต อ.อ่าวลึก 3 เขต อ.เขาพนม 3 เขต อ.ปลายพระยา 2 เขต อ.เกาะลันตา 2 เขต และ อ.ลำทับ 1 เขต โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ....

มุกดาหาร​ -​รับสมัครนายก อบจ.มุกดาหาร วันแรกสุดคึกคัก อดีตนักการเมืองแห่สมัครชิงเก้าอี้

(23 ธ.ค.67​) ที่หอประชุม 250 ปี จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดให้มีการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายจักรรินทร์ ชาลีพุทธาพงษ์ ผู้อำนวยการการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ทรงยศวัฒนา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ร่วมปฏิบัติหน้าที่ และมึนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน

โดยบรรยากาศช่วงเช้าของวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในส่วนของการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งแต่ละคนมาพร้อมกับกองเชียร์และรถขบวนแห่เป็นจำนวนมาก โดยมีนายสุพจน์ สุอริยพงษ์ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้สมัครจากพรรคประชาชน เดินทางมาเป็นคนแรก พร้อมกับนายณกร ชารีพันธ์ ส.ส. มุกดาหาร เขต 2 พรรคประชาชน และได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์ พระยาจันทรศรีสุราช อุปราชามันธาตุราช (เจ้าจันทกินรี) เจ้าเมืองมุกดาหารคนแรก เพื่อเป็นสิริมงคล 

ขณะที่มีผู้มาสมัครก่อนเวลา 8.30 น. รวม 4 คน คือ นายสุพจน์ สุอริยพงษ์ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ผู้สมัครจากพรรคประชาชน นายบุญฐิน ประทุมลี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร เขต 2 พรรคเพื่อไทย  พ.ต.ท. ดร.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และนายคมสัน ไชยต้นเทือก อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านบางทรายน้อย อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร

โดยผู้สมัครดังกล่าวเดินทางมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลา 08.30 น. ถือว่ามาก่อนเวลาเปิดรับสมัคร และไม่สามารถตกลงในเรื่องเลขหมายประจำตัวกันได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทุกคนดำเนินการจับฉลาก ผลปรากฏว่า นายสุพจน์ สุอริยพงษ์ ได้หมายเลข 1 พ.ต.ท. ดร.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ หมายเลข 2 นายคมสัน ไชยต้นเทือก หมายเลข 3 นายบุญฐิน ประทุมลี หมายเลข 4 และนายวีระพงษ์​ ทองผา​ หมายเลข 5 มาสมัครเป็นคนสุดท้าย

พิจิตรรับสมัคร นายก อบจ.พิจิตร เจ้าสัวประดิษฐ์ปั่นหลานชายลงแข่งกับญาติผู้น้องชิงเก้าอี้ นายก เมืองชาละวัน

(23 ธ.ค.67) ที่สนามฟุตซอล ภายในสนามกีฬาจังหวัดพิจิตร ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร  คณะกรรมการการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร  ได้จัดให้มีการรับสมัคร นายก อบจ.พิจิตร และ สมาชิกสภา อบจ.พิจิตร หรือ สจ. บรรยากาศของผู้สมัครทั้ง 2 ทีม คือ ทีมของ พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ 'ผู้กำกับกบ' อดีตนายก อบจ.พิจิตร ที่สวมเสื้อยืดสีเหลืองคอปกสีเขียว และทีมของ นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งมาในทีม บ้านเขียว ที่สวมเสื้อยืดสีเขียว แจ๊คเก็ตสีขาว มาแสดงตนในคูหารับสมัครก่อนเวลา 08.30 น. คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงให้จับสลากผลปรากฏว่า  พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ 'ผู้กำกับกบ' อดีตนายก อบจ.พิจิตร ได้เบอร์ 1, นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ได้เบอร์ 2 นอกจากนี้ก็มี นายประชา โพธิ์ศรี ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ แต่สวมเสื้อพรรคประชาชน มาสมัครและ ได้เบอร์ 3

จากนั้นบรรดาผู้สมัคร สจ.เขต ของแต่ละทีม ซึ่งจังหวัดพิจิตร มี สจ.เขต ได้ 30 คน/ 30 เขต  ซึ่งทั้ง 2 ทีม ต่างส่งครบเพื่อแข่งขันกันยึดพื้นที่และหาคะแนนเสียงในแต่ละเขตเพื่อจะได้หนุนหัวหน้าทีม ส่วนผู้สมัครเบอร์ 3 ที่ลงอิสระบินเดี่ยวมาคนเดียวไม่มีทีม สจ.เขต ดังนั้นเมื่อถึงเวลาคณะกรรมการการเลือกตั้งก็เรียกผู้สมัคร สจ.ของแต่ละเขต ทีละเขตเพื่อให้ตกลงกันว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ว่าจะเอาเบอร์อะไร ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีผู้ลงสมัครแค่ 2 คน ในแต่ละเขตจะมี 3 คน แค่เพียง 2-3 เขต เท่านั้น แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ทำให้คอการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ก็คือ ลูกหาบของผู้สมัคร นายก เบอร์ 2 กลับไม่ยอมที่จะใช้เบอร์ 2 แต่ขอเสี่ยงดวงจับสลากแย่งชิงเบอร์ 1 ทำให้ในหลายเขตหัวหน้าทีมกับลูกทีมต่างได้เบอร์ไปคนละทิศละทางจึงทำให้บรรดากองเชียร์ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆกัน ว่าสุดท้ายเค้าแข่งกันแบบไหนกันแน่ 

สำหรับบรรยากาศก่อนการสมัครในทีมของ พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ 'ผู้กำกับกบ' อดีตนายก อบจ.พิจิตร เบอร์ 1 ต่างเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ไม่มีการส่งเสียงเชียร์ สุภาพเรียบร้อย ซึ่งเป็นสไตล์ของ 'ผู้กำกับกบ' ในเอกลักษณ์ของ Police Man     

ซึ่งแตกต่างกับทีมของบ้านเขียวที่ส่ง นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา เบอร์ 2 ซึ่งเป็นหลานชายของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เจ้าสัวหมื่นล้านพี่ใหญ่ของตระกูลภัทรประสิทธิ์ ที่ก่อนหน้านั้นเคยเชียร์ญาติผู้น้อง คือ พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ 'ผู้กำกับกบ' แต่เที่ยวนี้กลับใจปั่นหลานชายมาแข่งกับญาติผู้น้อง โดย นายประดิษฐ์ พาแกนนำหัวคะแนนตะโกนเสียงดังเป็นการข่มขวัญตัดไม้ข่มนาม 'ผู้กำกับกบ' ซึ่งเป็นญาติผู้น้อง แบบสิ้นเยื่อใยความเป็นญาติพี่น้อง รวมถึง นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร เขต 2 , นายภัทรพงศ์  ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร เขต 1 ที่ก้าวขึ้นมาเป็น สส.พิจิตร ในช่วงที่ 'ผู้กำกับกบ' ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.พิจิตร ก็เอา สจ.ในทีมช่วยหนุนช่วยดัน นายวินัยญาติผู้พี่ และ นายภัทรพงศ์  หลานชายให้ได้เป็น สส.พิจิตร 

แต่มาในสนาม อบจ.พิจิตร ครั้งนี้ญาติผู้พี่และหลานชายต่างย้ายค่ายจะมาล้ม “ผู้กำกับกบ” เสียเอง ในส่วนของ สจ.ทั้ง 30 เขต ที่ในอดีตรวมกันเป็นหนึ่งเดียว พอถึงวันนี้ก็เหมือนสถานการณ์ 'ตกปลาในบ่อเพื่อน' ทีมบ้านเขียวก็ตกปลาจากบ่อของ “ผู้กำกับกบ” ไปเกือบครึ่ง แต่กลุ่ม สจ.หน้าเก่าที่มีดีกรีเป็น สจ.หลายสมัย หลายท่าน ต่างปักหลักขออยู่ทีม “ผู้กำกับกบ” แต่ สจ.หน้าใหม่แค่พรรษาเดียวต่างย้ายค่ายไปอยู่กับทีมบ้านเขียวกันเป็นแถว

ดังนั้นศึกครั้งนี้จึงนับได้ว่าเป็นศึกสายเลือดของครอบครัว “ตระกูลภัทรประสิทธิ์” ที่ลงสนามแก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองกันเอง ในส่วนของพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างเช่น สจ.ในมุ้งของเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย ต่างมาลง สจ.เขต อยู่กับทีม “ผู้กำกับกบ” ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่มี นายไพฑูรย์ แก้วทอง ราษฎรอาวุโส และเป็นบิดาของ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ปัจจุบันเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้ส่ง สจ.เขต แต่ก็มีนัยยะว่าสนับสนุนทีม “ผู้กำกับกบ” ดังนั้นศึกการเลือกตั้ง นายก – สจ. เมืองชาละวันคงต้องรอดูว่าละครดัง หนังยาว เรื่องนี้จะลงเอยอย่างไรต่อไป
 

กาฬสินธุ์สมัครส.อบจ.วันแรกคึกคัก สส.เพื่อไทยนำทีมคนรุ่นใหม่สมัครไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

บรรยากาศรับสมัคร ส.อบจ.กาฬสินธุ์วันแรกสุดคึกคัก ผู้สมัครแชมป์เก่า และหน้าใหม่เดินทางมาสมัครกันตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่ ส.ส.หมู วิรัช พิมพะนิตย์ - สส.บอล พลากร พิมพะนิตย์ นำทีมผู้สมัครคนรุ่นใหม่ในนามพรรคเพื่อไทยเข้ารับสมัครอย่างพร้อมเพียง พร้อมเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ด้าน 'สจ.เอ็ดดี้ ภูมินทร์' อดีตสจ.แชมป์เก่าขวัญใจประชาชนเขตอำเภอกุฉินารายณ์เดินทางเข้าสมัครย้ำขอรับใช้ประชาชนอีกครั้ง ด้านปธ.กกต.ประจำอบจ.กาฬสินธุ์ แนะผู้สมัครยึดระเบียบกฎหมายและเลือกตั้งสมานฉันท์

(23 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ (ส.อบจ.กาฬสินธุ์) ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.อบจ.กาฬสินธุ์วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีผู้สมัครแชมป์เก่าและหน้าใหม่ ต่างพากันเดินทางมาสมัครกันตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 08.00 น.ท่ามกลางกองเชียร์และประชาชนที่นำดอกไม้มามอบให้กำลังใจกันจำนวนมาก 

โดยมีนายธนภัทร ณ ระนอง รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ประธานกกต.ประจำอบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ พ.ต.อ.กีรติกร อรมพัฒน์ภาคิน พ.จ.ต.สำเนียง หวังเจริญ นายเสกสรรค์ ทรัพย์นิเวศ กกต.ประจำอบจ.กาฬสินธุ์ นายนวัต บุญศรี ผอ.กกต.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กกต.และเจ้าหน้าที่อบจ.กาฬสินธุ์คอยอำนวยความสะดวกในการรับสมัคร

ขณะที่นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย และนายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้นำผู้สมัคร ส.อบจ.กาฬสินธุ์ เขต อ.เมือง อ.ยางตลาด และอ.ฆ้องชัยในนามพรรคเพื่อไทยรวม 9 คน นำโดยนายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ หรือ 'สจ.เบ็นซ์' อดีตรองประธานสภา อบจ.กาฬสินธุ์ และอดีตสจ.อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เขต 4 เดินทางมารับอย่างพร้อมเพียง ซึ่งนายณัฐวัชต์ ยืนยันว่าทีมงานสมัครวันนี้ล้วนแล้วแต่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะทำหน้าที่รับใช้ประชาชนและปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนนโยบายของนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ และภารกิจของอบจ.กาฬสินธุ์ โดยมีประชนและกองเชียร์เดินทางมามอบดอกไม้กันจำนวนมาก 

ทั้งนี้หลังรับสมัครเสร็จ ส.ส.วิรัช และส.ส.พลากร ได้พาทีมงานนำพวงมาลัย ดอกไม้ ธูป เทียน เข้าสักการะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งศาลหลักเมือง หลวงพ่อองค์ดำ วัดกลางพระอารามหลวง อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร เจ้าเมืองคนแรกของกาฬสินธุ์ หอเจ้าบ้าน เพื่อความสิริมงคล และอธิษฐานขอพรให้ได้เป็นรับความไว้วางใจจากประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ส.อบจ.ต่อไป

ขณะที่นายภูมินทร์ ภูมิเขตร หรือ “สจ.เอ็ดดี้” อดีต สจ.เขตอำเภอกุฉินารายณ์แชมเก่าหลายสมัยคนสาธารณะขวัญใจประชาชนชาวอ.กุฉินารายณ์ก็ได้เดินทางมายื่นสมัครตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.เขาวง โดยมีแฟนคลับ กองเชียร์และประชาชนมามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนมาก ด้านนายเดชบดินทร์ พยุงแสนกุล อดีต สจ.อำเภอท่าคันโท แชมป์เก่าหลายสมัยก็ได้เดินทางมาสมัคร และพร้อมรับใช้ประชาชนเช่นกัน

ด้านนายธนภัทร ณ ระนอง รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ประธานกกต.ประจำอบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศรับสมัครวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก และเรียบร้อย ยังไม่พบเรื่องร้องเรียน อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงผู้สมัครทุกคนให้ยึดความถูกต้องและปฏิบัติตามกฎหมาย ทุกคนล้วนแล้วเป็นพี่เป็นน้องกันต้องรู้แพ้ รู้อภัย เลือกตั้งอย่างสมานฉันท์ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่เองก็ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เป็นกลาง สุจริต และเที่ยงธรรม 

ผบช.สตม. ขึ้นเหนือบินตรวจสนามบินเชียงใหม่ พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยเที่ยวเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ยึดหลัก สะดวก สมดุล สากล สร้างความประทับใจ

(23 ธ.ค.67) เวลา 10.30 น.  พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สอท. ช่วยราชการ รอง ผบช.สตม. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง  บริเวณช่องตรวจทั้งระบบ เพื่อดูสภาพปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่นมากๆ เน้นการอำนวยความสะดวกควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2568 คาดว่าจะเริ่มเดินทางกันในสัปดาห์นี้

พล.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในภาคเหนือ ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากคนไทยและต่างชาติ ที่รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ อีกทั้งมีนโยบายที่ต้องการกระตุ้น โดยเน้นไปที่การท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ จากสถิติย้อนหลัง ปี66 พบว่ามีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการประมาณ 2 ล้านคนเศษ ปีนี้67 พบว่ามีผู้มาใช้บริการแล้วถึง 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 25%  โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศช่วง High season คือ ต.ค.-มี.ค. เฉลี่ยต่อวันสูงสุด 5,000 คน เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวสัญชาติที่เดินทางเข้ามามากสูงสุด 5 อันดับแรกคือ 1.เกาหลีใต้ 21,896 ราย 2.จีน 21,843 ราย 3.ไต้หวัน 8,561 ราย 4.มาเลเซีย 6,563 ราย และ5.ฮ่องกง 4,844 ราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะใช้วิธีการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง เพื่อช่วยระบายความหนาแน่นของผู้โดยสาร สร้างความสะดวกรวดเร็วให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ 

นาย นิตินัย สาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา สายปฏิบัติการและบำรุงรักษาท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามากถึง 5,000 คน ต่อวัน ซึ่งทางการท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้โดยสารขาเข้าไม่กังวล เนื่องจากจะทราบไฟลท์บินล่วงหน้า สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ผบช.สตม.กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ สตม.เตรียมความพร้อมรองรับ โดยการระดมเจ้าหน้าที่จากหลายๆ ส่วนมาช่วย รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือ ยานพาหนะ เพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน แต่อย่างไรก็ดี ยังคงเข้มงวดในเรื่องของการคัดกรองกลุ่มคนต้องห้าม โดยเฉพาะประเทศหรือสัญชาติเป้าหมาย ไม่ให้แฝงตัวเข้ามารวมกลุ่มแก๊งก่ออาชญากรรมในประเทศได้  พร้อมทั้งมีการจัดกำลังเพื่อเฝ้าระวังเหตุและสืบสวนหาข่าว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออกในช่วงเวลาดังกล่าว

สมัคร อบจ.ชลบุรีวันแรกคึกคัก! ป๊อก-วิทยา นำทีมเรารักชลบุรี พรรคส้ม ส่ง โอ๋-ชุดาภัค ลงสมัครนายกฯ ด้านกลุ่มพลังใหม่ชลบุรีส่งแค่ผู้สมัคร ส.อบจ. ยังไร้วี่แววส่งนายกฯ 

(23 ธ.ค.67) ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี พบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี โดย นางสาววิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ได้กำหนดจัดสถานที่ที่ห้องประชุมแก้วเจ้าจอม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่รับสมัคร โดยพบว่าวันแรกมีกองเชียร์ของแต่ละกลุ่มการเมืองร่วมเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

จังหวัดชลบุรีมีกลุ่มการเมืองใหญ่ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้รวม 3 กลุ่ม พบว่าในวันแรก มีผู้สมัครรับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย 1.กลุ่มเรารักชลบุรี นำโดย นายวิทยา คุณปลื้ม เป็นผู้ยื่นสมัครนายกฯ คนแรก ได้หมายเลข 1 และ 2.กลุ่มพรรคประชาชน โดย นางสาวชุดาภัค วสุเนตรกุล ผู้ยื่นสมัครนายกฯคนที่สอง ได้หมายเลข 2 ส่วน 3.กลุ่มพลังใหม่ชลบุรียังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ชลบุรี แต่อย่างใด

ในส่วนของผู้รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ปรากฏว่ามีผู้สมัครจากทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพลังชลบุรี กลุ่มพรรคประชาชน และกลุ่มพลังใหม่ชลบุรี โดยทั้ง 9 เขตทุกอำเภอ ไม่สามารถตกลงกันได้ ทาง กกต. จึงทำการจับสลากลำดับเพื่อจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเลือกตั้งตามลำดับ 

อย่างไรก็ตาม การเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 และจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568

ชาวกาฬสินธุ์ แพร่ พังงา เฮ! 'เฉลิมชัย' ประเดิมมอบของขวัญปีใหม่ 68 อนุญาตที่ดินทำกินในเขตป่าให้ชุมชนที่รอมายาวนาน รวมกว่า 6,600 ไร่

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่าได้ลงนามอนุมัติการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อนำไปดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ แพร่ และพังงา รวมเนื้อที่กว่า 6,617 ไร่  

โดยพื้นที่แต่ละจังหวัดได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมาแล้วตั้งแต่ปี 2564 และได้รับความเห็นชอบพื้นที่เป้าหมายจากคณะกรรมการจัดหาที่ดินแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2564 – 2565 แต่เนื่องจากทั้ง 3 พื้นที่ มีพื้นที่บางส่วน หรือทั้งหมดอยู่ในเขตจำแนกการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ เขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม (Zone C) ที่ต้องมีการจัดทำรายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณารายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความเห็นชอบก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้พิจารณาอนุญาตการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังมีการปรับลดเปลี่ยนแปลงเนื้อที่จากทางจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบสภาพป่า ทำให้มีกระบวนการที่ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ระยะเวลาในการรอคอยมาอย่างยาวนาน

“ในวันนี้ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ แพร่ และพังงา ที่จะมีที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ได้รับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นตามมา เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง ซึ่งหลังจากที่กระทรวงทรัพยากรฯ พิจารณาอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปของทั้ง 3 จังหวัด จะเข้าสู่ขั้นตอนของคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ซึ่งมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบ โดยประชาชนจะได้รับการจัดสรรที่ดินรายละไม่เกิน 20 ไร่ ก็ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับการจัดสรรเข้าถือครองพื้นที่ ร่วมกันดูแลรักษาพื้นที่ให้ดี ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้พื้นที่อย่างเคร่งครัดต่อไป ครั้งนี้ ถือเป็นการประเดิมมอบของขวัญปีใหม่จากกระทรวงทรัพยากรฯ ให้กับพี่น้องประชาชนเป็น 3 จังหวัดแรก ใน 3 ภูมิภาค และในปี 2568 ที่จะถึงนี้ จะเร่งดำเนินการในพื้นที่ที่เหลือให้ครบตามเป้าหมายโดยเร็วต่อไป” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

โดยพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในครั้งนี้ ปะกอบด้วย พื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์ เนื้อที่ 661 ไร่ 3 งาน 39.37 ตารางวา  จ.แพร่ เนื้อที่ 3,606 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา จ.พังงา เนื้อที่ 2,350 ไร่ 1 งาน 41 ตารางวา ซึ่งทั้ง 3 พื้นที่มีกำหนดระยะเวลาการอนุญาต 30 ปี และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต รวม 26 ข้อ เพื่อการร่วมดูแลและรักษาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top