Wednesday, 30 April 2025
ECONBIZ NEWS

‘สุริยะ’ เผย ขนย้ายสารเคมีสไตรีนโมโนเมอร์ของรง.หมิงตี้ แล้ว 650 ตัน คาดแล้วเสร็จทั้งหมด 17 ก.ค.นี้ สั่ง กรอ. เร่งตรวจสอบโรงงานที่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ในเขตชุมชนและเป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตเป็นระยะเวลานาน

ความคืบหน้าการขนย้ายสารสไตรีนโมโนเมอร์ ที่ตกค้างในพื้นที่ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ

ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ระบุว่าได้ทำการขนย้ายสารเคมีสไตรีนโมโนเมอร์ไปแล้ว 650 ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้

นอกจากนี้ นายสุริยะ ยังได้สั่งการ กรอ.เร่งตรวจสอบโรงงานที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ พลาสติก โดยเน้นโรงงานในพื้นที่ชุมชนและเป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเป็นระยะเวลานานเป็นอันดับแรก

ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) บอกว่า กรอ.ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ พลาสติก จำนวน 92 โรงงาน และโรงงานประกอบกิจการทำเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี ซึ่งมิใช่ปุ๋ย จำนวน 460 โรงงาน เน้นโรงงานในพื้นที่ชุมชนและเป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเป็นระยะเวลานานเป็นอันดับแรก

โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ได้มอบหมายให้นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวัชร์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 กองส่งเสริมเทคโนโลยีความปลอดภัยโรงงาน และกองบริหารจัดการวัตถุอันตราย เข้าร่วมตรวจสอบโรงงาน บริษัท ไทยโทเรซินเทติคส์ จำกัด เขตบางเขน กรุงเทพฯ เป็นที่แรก

และมีแผนที่จะตรวจสอบโรงงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ประมาณ 50 โรงงาน ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้

ส่วนกรณีสารสไตรีนที่คงค้างอยู่ภายใน บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ข้อมูลเบื้องต้นเป็นการคาดการณ์ปริมาณสารที่ยังคงเหลืออยู่จากทีมปฏิบัติการฉุกเฉินและผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทสารเคมีที่เข้าไปตรวจสอบว่ามีประมาณ 600 ตัน

เนื่องจากบริเวณที่วางถังบรรจุสไตรีนยังมีความเสี่ยงและอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน โดยหลังจากทีมปฏิบัติงานได้เข้าควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดการทำปฏิกิริยาต่อเนื่องของสารเคมีจนปลอดภัยต่อการขนย้ายได้แล้ว จึงได้ตรวจวัดปริมาณสารอีกครั้ง พบว่ามีสารสไตรีนอยู่ประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งสารสไตรีนทั้งหมดจะดำเนินการขนส่งไปกำจัดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2564

“เบื้องต้นสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ (สอจ.) มีคำสั่งมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2562 ให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดและให้จัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เกิดจากเพลิงไหม้ให้เป็นไปตามกฎหมายและให้จัดการสารเคมีที่ตกค้างในภาชนะบรรจุให้มีสภาพปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่อาศัยใกล้เคียง ซึ่งจากการประสานกับผู้แทนโรงงาน ได้รับคำยืนยันว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเพลิงไหม้ทั้งหมด ทางบริษัท หมิงตี้ เคมีคอลฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ขณะเดียวกันในส่วนของการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงฯ กำลังดำเนินการรับเรื่องราวร้องทุกข์ผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ 3 แห่ง ทั้งที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ สถานีตำรวจภูธรอำเภอบางแก้ว และบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบได้เข้ามายื่นคำขออย่างต่อเนื่อง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สินมั่นคง หักดับ ยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด หลังเห็นยอดติดเชื้อพุ่งติดหลักหมื่นคนต่อวัน อ้างเป็นการบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ จึงใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ฯ แบบ เจอ จ่าย จบ

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกให้ความคุ้มครองประกันภัยโควิด แบบเจอ จ่าย จบ โดยในเอกสารระบุว่า

ด้วยผลสืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จึงนับเป็นภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขในระดับที่ท้าทายจนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปสู่จุดใด ส่งผลให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ต้องบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ

บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) จึงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1 โดยให้กรมธรรม์ประกันภัยข้างต้นสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับ เมื่อล่วงพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันได้รับหนังสือเป็นต้นไป และบริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน

การตัดสินใจดังกล่าว บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทบทวนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจ และการกำหนดทางเลือกและแนวทางที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้ความคุ้มครองและดูแลลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของบริษัทฯ อันได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุและการเดินทาง และประกันภัยอื่น ๆ ได้อย่างดีที่สุดและยั่งยืนในระยะยาว

สินมั่นคงประกันภัย ขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงที่ได้แจ้งยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัทประกันวินาศภัยหลายแห่ง ได้ทยอยเลิกขายประกันภัยโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ระบาดรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบว่า มีบริษัทใดที่ทำการบอกเลิกกรมธรรม์ มีเพียงสินมั่นคงประกันภัย เท่านั้นที่ถอดใจก่อน

ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่า ประกันภัยโควิด (ณ 15 มิ.ย. 2564) มีเบี้ยประกันรวม 9,070 ล้านบาท คิดจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมด 26.41 ล้านกรมธรรม์ ยอดจ่ายเคลมประกันรวมกว่า 1,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2,095% จากสิ้นปี 2563 ที่มียอดเคลมเพียง 77.3 ล้านบาท โดยเฉพาะหลังจากช่วงระบาดโควิดระลอก 3 ยอดจ่ายเคลมเพิ่มขึ้นกว่า 770.26% จากสิ้นเดือน เม.ย. 2564 ที่มียอดเคลมเพียง 195 ล้านบาท โดยตัวเลขยอดเคลมสูงสุดเข้ามาในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2564


ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-700771


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายกฯ สั่ง เร่งช่วยลูกหนี้พื้นที่ล็อกดาวน์ ให้ คลัง ถก แบงค์ชาติ หามาตรการผ่อนปรนด่วน

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการในที่ประชุม ครม. เมื่อ 13 ก.ค. 64 ให้รีบหารือกันโดยเร่งด่วน เพื่อหามาตรการผ่อนปรนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย หรือการเลื่อนงวดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า ทั้งที่เป็นประชาชนและผู้ประกอบการอย่างจริงจัง รวมถึงช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ 

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ จึงร่วมกันออกออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั่วประเทศ ซึ่งได้แก่ ลูกหนี้ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัด และนอกพื้นที่ควบคุมแต่ต้องปิดกิจการจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนกรกฎาคม 2564 หรือเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปแล้วแต่กรณี

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับลูกหนี้ที่ยังเปิดกิจการได้แต่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้ว สถาบันการเงินจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับลูกหนี้ โดยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ ควรชำระหนี้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น 

นายธนกร กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือทั้งประชาชนและผู้ประกอบการหลายๆ มาตรการ โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เช่น สินเชื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย ให้ผู้ประกอบการรายย่อยในธุรกิจท่องเที่ยวและ Supply Chain สามารถกู้เงินกับธนาคารออมสิน วงเงินต่อรายอยู่ที่ 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ซึ่งตอนนี้ อนุมัติเงินกู้ไปแล้ว จำนวน 2,885 ราย วงเงินรวม 1,218 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า สินเชื่ออิ่มใจ ธนาคารออมสินให้กู้กับผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม วงเงินต่อราย อยู่ที่ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก และสินเชื่อสำหรับ SMEs ขนาดย่อมและขนาดกลาง  ได้แก่ สินเชื่อ Extra cash โดย SME Bank ให้กู้กับ SMEs ขนาดย่อมในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น วงเงินรายละ 3 ล้านบาท ปัจจุบันอนุมัติแล้ว 4,283 ราย วงเงินรวม 7,335 ล้านบาท และสินเชื่อมีที่มีเงิน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการทั่วไป ได้แก่ มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู

รมว.เฮ้ง รับลูกนายก ลงพื้นที่ซาวด์เสียงเอกชน เดินมาตรการเยียวยาแรงงาน ตอบโจทย์ธุรกิจ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 ได้ออกมาตรการช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคม และนอกระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลา 1 เดือนนั้น โดยประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือ จากเดิม 4 สาขา เพิ่มเติมเป็น 9 สาขานั้น ในเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยภาคแรงงานทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงได้สั่งการให้ผมลงพื้นที่รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการและภาคเอกชน เพื่อเร่งขับเคลื่อนมาตรการโดยเร็ว ทั้งนี้ ผมได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประชุมหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ความชัดเจนกำหนดรายละเอียด เงื่อนไขหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้าให้ความเห็นชอบ เพื่อดำเนินการต่อไปได้ 

ขณะที่ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย 
(อีคอนไทย) กล่าวว่า โดยภาพรวมเห็นด้วยกับรูปแบบมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด เป็นการจ่ายเงินเติมเพิ่มให้ผู้ประกอบการและแรงงานทั้งในและนอกระบบประกันสังคม วงเงิน 30,000 ล้านบาท แม้ยังไม่กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน แต่การช่วยเหลือในภาพรวมรอบนี้ถือว่าดี เพราะเป็นการช่วยเหลือทั้งลูกจ้างและนายจ้างในระบบและนอกระบบ 

ด้าน นายเกรียงไกร แก้วเกตุ ประธานสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันสมาพันธ์มีสมาชิกกว่า 2,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงโควิดได้รับผลกระทบโดยตรง 
ทำให้รายได้ลดลง ดีใจมากที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือเยียวยา เห็นความสำคัญของพี่น้องแรงงาน โดยเฉพาะคนขับแท็กซี่ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ เงินเยียวยาส่วนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ สิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือตอนนี้ ทำอย่างไรให้คนขับแท็กซี่มีสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่อายุประมาณ 65 ปี จึงต้องการหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้การเข้าถึงสวัสดิการจากรัฐในด้านสวัสดิการต่าง ๆ 

ส่วน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ช่วงโควิดระบาดทำให้ผู้ได้รับผลกระทบไม่มีรายได้ แต่กระทรวงแรงงานทำให้ภาคธุรกิจมีกำลังใจขึ้น มีรายได้ ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ลูกจ้างนายจ้างกลับมามีความสุข เห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมไม้ร่วมมือกันสนับสนุนความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน ในช่วงสถานการณ์โควิดเช่นนี้ โดยเฉพาะกรณีการปิดแคมป์คนงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้คนงานได้มีอาหารดี ๆ รับประทาน เราก็ได้เห็นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาที่ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงนี้ จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเป็นกำลังใจให้ข้าราชการ และคนทำงานทุกๆ คนที่ออกมาช่วยกัน เพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามสถานการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกัน

“บิ๊กตู่”Conference เปิดงาน  Samui Plus Model ยินดีชาวสมัย ที่ยังคงรักษาสถานะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันได้ หวังฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการให้กลับมาโดยเร็วที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model ผ่านระบบ Video Conference โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นตัวแทนรัฐบาลอยู่ที่ริมชายหาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมร่วมชมการแสดง 3D Mapping Performance ชุด Samui+ Top of Mind ซึ่งการเปิดกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ทั้งเกาะสมุย เกาะพงันและเกาะเต่า รวมถึงพื้นที่อื่นๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ

นายพิพัฒน์ กล่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พยายามขับเคลื่อนแนวทางการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเพื่อพยุง ประคับประคอง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ต้องเผชิญผลกระทบอันเลี่ยงไม่ได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะที่มาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน ครม.เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่องในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ Samui Plus Model เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 โดยรูปแบบของ Samui Model Plus จะเป็นการเปิดพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ สะดวกต่อการจำกัดพื้นที่ท่องเที่ยวและควบคุมการเข้า-ออก รวมทั้งสามารถจัดการเดินทางท่องเที่ยวได้แบบมีเงื่อนไข ในเส้นทางหรือพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น (Sealed route)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความมั่นใจในการบริหารจัดการของจังหวัดในแนวปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข ประกอบกับมาตรการที่เข้มแข็งของภาคธุรกิจ บริการต่างๆ ภายในจังหวัด ที่มีความชัดเจน และสามารถเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยจะนำมาซึ่งการปรับตัวให้เข้ากับการท่องเที่ยววิถีใหม่ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ 

“ยังเชื่อมั่นว่า การผลักดันทั้ง 3 เกาะ คือ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่าโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคธุรกิจเอกชน จะยกระดับภาพลักษณ์ สร้างการรับรู้ของเกาะและความสอดรับกับทิศทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะส่งเสริมการตลาดต้นทาง จากตลาดที่ได้รับวัคซีนแล้ว เพื่อความปลอดภัยและอุ่นใจของคนในพื้นที่”

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับวันแรกของการเปิด Samui Plus Model มีผู้เดินทางที่เป็นตัวแทนเอเย่นต์และสื่อมวลชนต่างประเทศ จากลอนดอน ปารีส แฟรงค์เฟิร์ต และฮ่องกง ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเชิญมา ในรูปแบบแฟมทริป (Experimental FAM Trip) ซึ่งความสำเร็จนี้ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ ที่สนับสนุนในการรับผู้โดยสารต่อเครื่องจากต่างประเทศเป็นการเฉพาะ (Dedicated Domestic Flight) เพิ่มโอกาสจากประเทศที่ไม่มีเที่ยวบินตรงเข้าสมุย ให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์และมุมมองที่อาจแตกต่างไปจากเดิม แต่ยังคงมีความน่าสนใจในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและสุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้เกียรติในพิธีเปิด Samui Grand Opening ค่ำคืนนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model ถือเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบแล้วมาท่องเที่ยวในไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า และพื้นที่อื่นๆที่กำหนด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ขอชื่นชมชาว จ.สุราษฎธานีที่รักษาสถานะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เป็นอย่างดี สะท้อนถึงการบริหารจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ มาตรการป้องกันควบคุมโรค มาตรการป้องกันส่วนบุคคล มาตรการด้านสังคมและการกำกับติดตาม รวมทั้งระบบการรายงาน การส่งต่อ และการรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สิ่งสำคัญคือการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงเงื่อนไขการท่องเที่ยวในเกาะสมุย เนื่องจากมีหลายประเด็นที่แตกต่างจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อก เช่น การกำหนดให้นักท่องเที่ยวอยู่ในที่พักช่วง 3 วันแรกภายใต้การดูแลร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ การสร้างความเข้าใจเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของบุคลากรที่เป็นพนักงานบริการ ด่านหน้า ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจคลายความกังวลต่อนักท่องเที่ยว ตลอดจนการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยที่จะมาประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมประชาสัมพันธ์เครื่องหมาย SHA Plus เพื่อการันตีความสะอาดปลอดภัยให้ผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยว ตนเชื่อมั่นว่าประชาชน ผู้ประกอบการชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะสามารถผ่านสถานการณ์ความท้าทายนี้ไปได้ด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกท่านทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่เป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารสร้างความเข้าใจ เน้นย้ำความพร้อมในพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อจะฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการของไทยให้กลับมาโดยเร็วที่สุด คืนรอยยิ้ม คืนความสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง

พาณิชย์ยังขอรอ สธ. เคาะชุดตรวจโควิด พร้อมหาช่องคุมราคา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ขอรอข้อมูลรายละเอียดชุดตรวจโควิด หรือ Rapid test หรือ Rapid Antigen test ทั้งหมดจาก อย.ว่าอนุญาตให้ผู้นำเข้ามาขึ้นทะเบียนกี่ราย ปริมาณเท่าได ราคาต้นทุนเท่าใด เพื่อพิจารณาว่าควรกำหนดราคาขายตามความเห็นของ อย.ในฐานะต้นเรื่องราคาเท่าไร ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถกำหนดเองได้เนื่องจากไม่มีพื้นฐานด้านเครื่องมือแพทย์ ดังนั้นเมื่อกระทรวงสาธารณสุขทำต้นเรื่องมาเสร็จแล้วทางกระทรวงพาณิชย์พร้อมดำเนินการต่อไป

สำหรับปัจจุบันชุดตรวจโควิด หรือ Rapid test หรือ Rapid Antigen test นั้น ถือเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.) กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้และเบื้องต้นยังไม่ได้อนุญาตให้มีการขายในตลาดทั่วไปแต่ใช้ในเฉพาะในโรงพยาบาลสถานพยาบาลเท่าหรือคลีนิคเอกชนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนการขายออนไลน์ ถือว่า ผิดกฎหมายเครื่องมือแพทย์ ทาง อย.จะเป็นผู้ดำเนินการเมื่อตรวจสอบพบ

ส่วนราคายาฟ้าทลายโจร ตอนนี้เป็นไปตามหลักกลไกตลาดพอมีความต้องการเยอะมากขึ้นราคาก็ขึ้น แต่รัฐบาลไม่ได้ละเลย สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นสินค้าเกษตรชนิดหนึ่ง เป็นพืชสมุนไพรผู้ปลูกที่ตรวจสอบทั้งหมดเป็นผู้ปลูกรายย่อยไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ส่วนปริมาณของวัตถุดิบการผลิตจึงไม่เสถียรขึ้นอยู่กับภาวะความต้องการของตลาดในแต่ละช่วง ด้านราคาก็เช่นเดียวกัน จะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดแต่ละช่วง แต่เนื่องจากมีกรณีว่า ยาฟ้าทลายโจรสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับการรักษาโควิดได้

ขณะเดียวกัน อย.ก็ขึ้นเป็นบัญชียาหลัก โรงพยาบาลสามารถจ่ายให้กับผู้ป่วยและเบิกได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่นเดียวกับบัญชียาหลักอื่น ยาฟ้าทลายโจรจึงต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติยา ซึ่ง อย.กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้โดยตรง

'วีริศ' เผย 'นิคมฯ บางชัน' ผ่านการตรวจประเมินรับรองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ Eco-Excellence ชี้พื้นที่สีเขียวรวมกันเกินร้อยละ 20 ของพื้นที่อุตสาหกรรม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ได้ผ่านการตรวจประเมินรับรองจากคณะกรรมการตรวจประเมินเพื่อให้การรับรองการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ Eco-Excellence หรือนิคมอุตสาหกรรมที่สามารถพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนและคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมให้ยั่งยืน บนพื้นฐานความสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย กนอ. ได้แบ่งการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ Eco-Champion, ระดับ Eco-Excellence และระดับ Eco-World Class

โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.ทุกแห่งให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยปีนี้มีเป้าหมายยกระดับนิคมอุตสาหกรรมขึ้นสู่ระดับ Eco-Excellence จำนวน 3 แห่ง ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมบางชันเป็นหนึ่งในเป้าหมาย

ทั้งนี้ กนอ.ได้สร้างความตระหนักรู้ให้ผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุดซึ่งเข้าใจว่าอาจมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนั้น กนอ. กำลังเร่งหามาตรการจูงใจผู้ประกอบการว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เพื่อไม่ใช่ขอความร่วมมือหรือความสมัครใจเพียงอย่างเดียวแต่จะทำให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้น

สำหรับนิคมอุตสาหกรรมบางชันและโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม มีการจัดทำแนวป้องกันหรือพื้นที่แนวกันชนเชิงนิเวศ (Buffer Zone) หรือพื้นที่สีเขียวรวมกันมากกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่อุตสาหกรรม รวมทั้งดำเนินงานด้านการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน อาทิ จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการพัฒนาทักษะอาชีพให้ชุมชน ช่วยจัดหาช่องทางการจัดจำหน่าย จัดทำโครงการช่วยเหลืออุปกรณ์ประกอบการเลี้ยงเป็ด ไก่ และนำของเสียจากโรงงานผลิตอาหารมาปรับปรุงเพื่อสร้างมูลค่าเป็นอาหารสัตว์และลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชากรในชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม มีรายได้ต่อครัวเรือนสูงขึ้น

อีกทั้งมีการใช้วัตถุดิบ น้ำ พลังงาน และทรัพยากรอื่น ๆ ร่วมกัน (Symbiosis หรือ Circular economy) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดการเกิดของเสีย และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย อีกทั้งโรงงานในนิคมฯ ยังมีการแลกเปลี่ยนหรือใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ หรือมีการแลกเปลี่ยนระหว่างโรงงานกับภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระบวนการกลั่นตัวทำละลายกลับมาใช้ใหม่ และกระบวนการแยกอะลูมิเนียมกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งลดค่าต้นทุนวัตถุดิบได้ประมาณ 5%

“กนอ.กำหนดวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมครบวงจรระดับภูมิภาค ด้วยนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน โดยใช้การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เกิดการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างบูรณาการ ภายใต้กรอบ 5 มิติ คือ มิติกายภาพ มิติเศรษฐกิจ มิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติการบริหารจัดการ ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมด้วยความใส่ใจในผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเกิดเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวปิดท้าย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยมาตรการเร่งด่วนพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เห็นร่วมกันที่จะออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งลูกหนี้ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป และเมื่อหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้ว สถาบันการเงินจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับลูกหนี้

สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม คือ ลูกหนี้ที่ยังเปิดกิจการได้ แต่รายได้ลดลงจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ สถาบันการเงินจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้ โดยการให้ความช่วยเหลือนี้ ลูกหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 หากลูกหนี้สามารถให้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนถึงผลกระทบของกิจการหรือการจ้างงาน จะทำให้การพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเจ้าหนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ จึงควรชำระหนี้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอยู่ก่อนหน้า ที่ควรดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืนกว่า


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สุพัฒนพงษ์” ยันรัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้รับผลกระทบทุกกลุ่ม

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนารีสตาร์ทเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ทุกวัน และเตรียมมาตรการไว้หลายชุดเพื่อใช้ช่วยเหลือเยียวยาหรือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม และพร้อมหยิบมาใช้ทันทีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การเยียวยารอบล่าสุดหลังจาก ศบค. ประกาศวันศุกร์ เพียงแค่วันจันทร์ก็มีมาตรการเยียวยาออกมาทันที จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ดูแลและสั่งให้ติดตามเรื่องนี้ตลอดเวลา และหาทางหยุดวงจรการระบาดของโรคให้ได้

นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจว่า แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด แต่เมื่อดูการลงทุนก็พบว่า มีแนวโน้มที่ดี เช่น คำขอรับการส่งเสริมลงทุนจากต่างประเทศ 6 เดือนในปีนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขคำขอทั้งปีของปี 63 สะท้อนให้การย้ายฐานการลงทุน จนอาจได้เห็นตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นบวกได้อีกไม่นาน 

รวมทั้งในเร็ว ๆ นี้ จะเสนอครม.เห็นชอบการให้วีซ่าพิเศษกับคน 4 กลุ่ม คือ กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย กลุ่มเกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เข้ามาในไทยระยะยาวด้วย

รัฐบาลแจง อาชีพอิสระ สมัครประกันสังคม ม.40 เพื่อรับเยียวยา ตามมติ ครม. สร้างความมั่นคงระยะยาว ยืนยัน  ไม่ยุ่งยาก ไม่เป็นภาระ 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า จาก กรณีที่มีมติครม.ให้มีมาตรการเยียวยาเร่งด่วนสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ครอบคลุม 9 กลุ่มอาชีพ ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์แล้ว จะต้องเป็นผู้ประกันตนกองทุนประกันสังคมด้วย โดยผู้ประกันตนแต่ละมาตรา ไม่ว่าจะเป็น 33 , 39 และ40 จะได้รับการเยียวยาที่แตกต่างกันออกไปตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด และสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 1 เดือน

กรณีผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ไม่มีลูกจ้าง ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ หากไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ยังคงมีสิทธิ์ได้รับการเยียวยา แต่จะต้องลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา40 เสียก่อน โดยเตรียมหลักฐานยื่นลงทะเบียนภายในเดือนนี้ (กรกฎาคม 2564) เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่เป็นภาระ และยังถือว่าเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตในระยะยาวอีกด้วย 

ทั้งนี้ผู้สมัครฯมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท มากไปกว่านั้น รัฐบาลได้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ (เดิม) เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ ส.ค. 64 – ม.ค. 65  ดังนี้

-ทางเลือกที่ 1 จากเดิมจ่ายในอัตรา 70 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่ เป็น 42 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต

-ทางเลือกที่ 2 จากเดิมจ่ายในอัตรา 100 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 60 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ

-ทางเลือกที่ 3 จากจากเดิมจ่าย ในอัตรา 300 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 180 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร

สำหรับวิธีสมัคร สามารถทำได้ง่ายๆ ตามช่องทางดังนี้
- สมัครด้วยตนเอง ผ่านมือถือที่เว็บไซต์ www.sso.go.th (เมื่อกรอกข้อมูลครบ รอรับ SMS ยืนยัน)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์บิ๊กซี (Big C)
- สมัครผ่านผู้แทนเครือข่ายประกันสังคม

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เมื่อสมัครแล้วสามารถจ่ายเงินสมทบประกันสังคม ม.40 ได้ทันที  ซึ่งนอกจะได้สิทธิ์ในการได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทสำหรับกลุ่มแรงงานอิสระที่เข้าข่ายใน 9 กลุ่มอาชีพ และอยู่ใน 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว รัฐบาลหวังให้แรงงานและผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคม ถือเป็นการออมในระยะยาวช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตด้วย ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศหรือสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top