Friday, 20 June 2025
POLITICS NEWS

นายกฯ แถลงด่วน ประกาศเป้าหมายเปิดทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน แม้ยอมรับโควิดยังเสี่ยง แต่รอไม่ได้ ต้องยอมเสี่ยงร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศเป้าหมายจะเปิดประเทศไทยทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้ โดยจะเริ่มจากเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีความพร้อมให้เร็วกว่านั้น

แม้ว่าขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีความเสี่ยง แต่คงไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลก และไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน สิ่งที่ต้องทำก็คือเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และให้ประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง

"รู้ดีว่าการตัดสินใจวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

การเมืองส่อเค้าเดือด! หลัง ส.ว.ประกาศคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญริบอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี เล็งโหวตผ่านเฉพาะฉบับพปชร.

16 มิ.ย. 2564 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคฝ่ายค้านที่มีเนื้อหาแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ แต่ต้องมีเนื้อหาเหมาะสม ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ถ้าเป็นเช่นนี้ส.ว. ไม่ร่วมมือด้วยแน่นอน โดยเฉพาะการตัดอำนาจส.ว. โหวตนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เป็นการลุแก่อำนาจ ไม่เห็นด้วย การโหวตเลือกนายกฯ ของส.ว. เป็นอำนาจตามบทเฉพาะกาล 5 ปี เพื่อมาแก้วิกฤติประเทศ เสียงส.ว. ไม่มีผลอะไรเลย ถ้ามีเสียงสนับสนุนจากส.ส. ไม่ถึงครึ่งในการโหวตนายกฯ การแก้มาตรา 272 ทุกฝ่ายต้องเห็นพ้องต้องกันจึงจะสำเร็จ ถ้าส.ว. ไม่ร่วมมือด้วยก็ไม่มีทางสำเร็จ

"ขอเตือนสติให้รับรู้ว่า ใครที่ทำเก่งทำกล้า เสนอแก้รัฐธรรมนูญที่ลุแก่อำนาจ เน้นแต่หาเสียง สนุกปากเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าพรรคใดเสนอมาจะไม่ผ่านแม้แต่ร่างเดียว ส.ว.จะไม่รับร่าง เพราะไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เป็นแค่การหาเสียง มุ่งแสดงอำนาจบาตรใหญ่" นายเสรี กล่าว

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราทั้งการให้ตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และการตัดอำนาจส.ว. ในการโหวตนายกฯ นั้น โม้ได้แต่จะทำได้หรือไม่ เพราะจะต้องอาศัยเสียงส.ว. 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงขึ้นไปสนับสนุน ดูแล้วร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านโอกาสผ่านยาก เพราะเรื่องการตั้ง ส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทำประชามติก่อน หรือการตัดอำนาจส.ว. โหวตนายกฯ เป็นการทำเพื่อหาเสียง

"ขณะนี้เสียงส.ว. ตกผลึกเบื้องต้นจะให้ผ่านเฉพาะร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนร่างของฝ่ายค้านคงไม่ผ่าน ขณะที่ร่างพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนานั้น ถ้าเสนออยู่ในหลักการที่เป็นไปได้ ไม่สุดโต่ง ทำเพื่อหาเสียงให้ตัวเอง ส.ว.ก็ยินดีสนับสนุน แต่ถ้าสุดโต่งเกินไป ก็คงไม่ผ่าน ต้องไปหาเสียงสนับสนุนเอาเอง ยืนยันส.ว.ไม่ใช่อุปสรรคแก้รัฐธรรมนูญ และเป็นที่พึ่งฝากความหวังได้ เห็นแก่บ้านเมืองมากกว่านักการเมืองด้วยซ้ำ" ส.ว.ผู้นี้ กล่าว

 

ที่มา : https://www.naewna.com/politic/580622


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ทักษิณ’ สะอื้นไอเดีย ‘บิ๊กตู่’ สั่งเพิ่มโรงรับจำนำ หวังแก้ปัญหาด้านการเงินให้ผู้มีรายได้น้อย ลั่นที่อื่นลดจนไม่เหลือแล้ว ทำไมไม่เพิ่มรายได้ให้คนจนแทน

เมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย. 64 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ Tony Woodsome (โทนี่ วูดซัม) ได้กล่าวใน CARE Clubhouse x CARE Talk ในหัวข้อ "โทนี่ขอถามจริงๆ เมื่อไหร่จะหายวุ่น ทำไมทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก" ซึ่งในตอนหนึ่งของการสนทนานั้น นายทักษิณ บอกว่า ตนเองรู้สึก "สะอื้น" ที่ได้ข่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเพิ่มโรงรับจำนำ เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเงินให้ผู้มีรายได้น้อย

โดย นายทักษิณ ระบุว่า "ตรงนี้ผมสะอื้นเลย ที่อื่นเขาลดโรงรับจำนำจนจะไม่เหลือแล้ว ดอกเบี้ยก็แพง และเป็นที่ที่จำนำของคนจน วันนี้ต้องหาทางให้คนจนมีรายได้ เรื่องการจ้างงาน ช่องทางทำมาหากิน ต้องรีบทำก่อน ไม่ใช่ขยายโรงรับจำนำ ขยายช่องทางทำมาหากินดีกว่าช่องทางหมดตัว คือไปปรับโครงสร้างหนี้ แต่ไม่ต้องไปขยายโรงรับจำนำ ขยายถนนให้เขาทำมาหากินได้ดีกว่า ขยายช่องทางทำมาหากิน ดีกว่าขยายช่องทางหมดตัว สมัยก่อนตังค์หมดเอาครกหินไปจำนำก็มี ขนาดเอาครกหินไปจำนำก็หมดแล้ว

การเอาเงินไปแจก เอาไปปิดแผลเก่า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันไม่มีโอกาสที่จะไปลงทุนอะไรเลย ภาวะของเศรษฐกิจในประเทศไม่เอื้ออำนวย ท่องเที่ยวไม่มา ปิดหมด มีเงินเท่าไหร่ก็คือเจ๊ง วันนี้คนอยู่ได้คือสายป่านยาว หรือ ธุรกิจตรงกับที่อยู่ได้ช่วงโควิด ค้าออนไลน์ไรแบบนี้อยู่ได้ คนอยู่บ้านซื้อ คนมีกำลังซื้อ มีเงินออม ยังซื้อได้อยู่"

ทั้งนี้ ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงที่ผ่านมาของวันเดียวกันว่า จะเพิ่มโรงรับจำนำและโรงรับจดจำนอง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายมาตรการระยะสั้นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน ให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อดังกล่าว

 

https://www.tnews.co.th/politic/543199


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สมยศ” กับพวกยื่นศาลอาญาขอถอดกำไล EM ชี้ที่ผ่านมาปฏิบัติตามเงื่อนไขตลอด

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กับพวก รวม 6 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มรีเด็มที่ศาลกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวโดยให้ใส่กำไล EM เดินทางมาพร้อมทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอดกำไล EM 

นายสมยศ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในช่วงที่ติดกำไล อีเอ็ม ยังไม่มีการกระทำความผิดใดๆ เกิดขึ้น และอยู่ในเงื่อนไขของศาล ทั้งนี้การติดกำไล EM นั้น เป็นการจำกัดเสรีภาพเราเกินควร เนื่องจากมีการวางเงินประกันแล้ว และปฎิบัติตามเงื่อนไขของศาลมาโดยตลอด ซึ่งให้ไม่สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้และไม่ได้รับความสะดวก 

“แท็กซี่เชียร์” ขอบคุณ ประยุทธ์-ศักดิ์สยาม 'หนุนกม.เรียกรถผ่านแอปฯ' แก้ข้ออ้างรีบส่งรถ

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนประชาชนผู้สนับสนุนใช้แอปพลิเคชันเรียกรถ และตัวแทนเครือข่ายผู้ขับขี่แท็กซี่ ชมรมผู้ขับขี่แท็กซี่ 4.0 และชมรมแท็กซี่พัฒนา นำโดย นายจิรภัทร โสภาลัย ยื่นหนังสือและดอกไม้ขอบคุณและให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.....ตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กระทรวงคมนาคม เสนอให้พิจารณาเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายจิรภัทร กล่าวว่า เชื่อว่าร่างกฎกระทรวงฯจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมและอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนและส่งเสริมให้ผู้ขับรถยนต์สามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ส่วนหน่วยงานภาครัฐยังให้การช่วยเหลือดูแลกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสูญเสียประโยชน์ โดยหวังว่ากฎกระทวงฯ และกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง จะสามารถประกาศใช้ได้ในโอกาสแรกต่อไป

"ไม่กังวลใจว่าการนำรถบ้านมาวิ่งเป็นรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ จะทำให้รถแท็กซี่ทั่วไปอยู่ไม่ได้ เพราะรถแท็กซี่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกวิ่งรถผ่านแอปฯ คู่ขนานไปกับวิ่งรับส่งโดยสารตามรายทาง ซึ่งรถบ้านที่เปลี่ยนมาเป็นรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ ไม่ได้สามารถทำได้ เพราะกฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดเจน" นายจิรภัทร กล่าว

ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าของรถส่วนบุคคลสามารถนำรถมาวิ่งเป็นรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ ได้ แต่จะนำไปต้องขึ้นทะเบียน เปลี่ยนสถานะเป็นรถยนต์รับจ้างสาธารณะ อีกทั้งผู้ขับขี่จะต้องสอบใบขับขี่สาธารณะ ไม่ต่างจากรถแท็กซี่ทั่วไป นอกจากนี้ การเรียกเก็บค่าโดยสาร รถแท็กขี่ที่เข้าร่วมวิ่งรถผ่านแอปฯ สามารถจะเก็บเงินผ่านแอปฯ ได้เช่นกัน ขณะที่ ผู้โดยสารจะไม่ถูกปฏิเสธ เรียกใช้บริการได้ง่าย รู้ค่าโดยสารส่วงหน้าก่อนจะตัดสินใจใช้บริการ

ด้านตัวแทนประชาชนผู้สนับสนุนการใช้แอพฯเรียกรถ กล่าวว่า การใช้แอปฯ ที่ถูกกฎหมาย จะทำให้ผู้โดยสารได้รับการแจ้งราคาก่อนถึงเป้าหมาย และสามารถให้คะแนนการบริการของคนขับ ติดตามเส้นทางให้ญาติหรือคนรู้จักทราบเส้นทางการเดินทางของผู้โดยสาร และป้องกันการพูดจาลวนลามผู้โดยสารทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และจะไม่เกิดกรณีการปฏิเสธผู้โดยสาร โดยอ้างว่าจะไปส่งรถหรือเส้นทางไกลเกินไป

“ชินวรณ์” แย้ม 9 ร่าง แก้รธน.ปชป.-ภท-ชทพ. จ่อยื่น “ประธานรัฐสภา” สัปดาห์นี้ ย้ำ ตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ ยัน ยินดียกมือผ่านทุกร่างหากเห็นด้วย

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 3 พรรคร่วมคือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ขณะนี้มีร่างทั้งหมด 9 ร่าง ร่างที่ 1 คือ อำนาจหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 55/1 ที่ให้รัฐช่วยเหลือผู้ยากไร้ ร่างที่ 2 เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ควรมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ ร่างที่ 3 ยกเลิกมาตรา 272 ห้ามให้ส.ว.ใช้สิทธิเลือกนายกฯ ซึ่งสอดคล้องกับ 6 ประเด็นเดิมของพรรคประชาธิปัตย์

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ร่างที่ 4 เป็นเรื่องสิทธิของประชาชน เช่น สิทธิชุมชน สิทธิบริโภคเรื่องที่ดินทำกิน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ร่างที่ 5 ระบบการเลือกตั้ง ยืนยันชัดเจนว่าเห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ คือแบ่งเขต 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนกระบวนการในการคิดคะแนนให้ไปอยู่ในกฎหมายการเลือกตั้งต่อไป ร่างที่ 6 เกี่ยวข้องกับอำนาจสมาชิกวุฒิสภาเชื่อมโยงกับการเลือกนายกรัฐมนตรี บุคคลที่จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีในสภา จะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่ผ่านการตรวจสอบและเลือกมาแล้วส่วนหนึ่งจากประชาชนและพรรค หรือนายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และไม่ให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภาเลือกนายกรัฐมนตรีในมาตรา 272 

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ร่างที่ 7 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โครงสร้างเดิมตัดอำนาจของส.ว.ออกไปในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 จำนวน 1 ใน 3 โดยใช้จำนวนสมาชิก 3 ใน 5 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างที่ 8 เรื่องการตรวจสอบทุจริตให้เกิดความเข้มข้นเรื่องการดำเนินคดีกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แก้ไขกระบวนการตรวจสอบ ไม่ควรให้ส.ส. ยื่นเรื่องให้แค่ประธานรัฐสภาเพื่อให้ดำเนินคดีต่อป.ป.ช. ชั้นเดียว เนื่องจากประธานรัฐสภามาจากพรรคการเมือง ซึ่งอาจมีการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองกับประธานรัฐสภาเพื่อไม่ให้ยื่นเรื่องตรวจสอบไปยังศาลฎีกาได้ จึงต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากหลายฝ่ายก่อนจะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา และร่างที่ 9 การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งได้หารือในรายละเอียดเรียบร้อย 

“ส่วนประเด็นการกำหนดระเบียบการประชุม เราเห็นด้วยอย่างยิ่งที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะกำหนดระเบียบวาระเรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ ก่อน เพราะกฎหมายฉบับนี้พิจารณาเหลืออีก 10 กว่ามาตราเท่านั้น ซึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้มีการเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 หากสามารถแก้ไขให้เป็นไปตามนั้นได้ ก็ต้องทำประชามติอยู่ดี เรายืนยันที่จะให้มีการเสนอกฎหมายประชามติ และพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วยกับกฎหมายประชามติ โดยคาดว่าทั้ง 3 พรรคจะสามารถเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายชวนได้ภายในสัปดาห์นี้” นายชินวรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่าจากกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเพิ่มมา 3 ร่าง เป็นการเสนอแยกกันเลยหรือไม่ เพราะมีประเด็นมาตรา 272 ที่ซ้ำกัน นายชินวรณ์ กล่าวว่า วิธีการคือจะเสนอร่างเป็นลำดับไป ประเด็นใดที่เห็นพ้องต้องกันหรือเป็นไปในทำนองเดียวกันก็ไม่มีปัญหา เราก็พร้อมจะลงชื่อทุกฉบับอยู่แล้ว เพื่อให้ครบตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด 

เมื่อถามว่าหากมาตรา 272 ถูกตีตกในวาระแรกอีก จะเสนอใหม่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอผลการประชุมว่าจะเป็นแบบไหน อย่างไรก็ตามในฐานะที่เคยเสนอเรื่องนี้ก่อน และยังยืนยันหลักการเดิม เพราะการห้ามไม่ให้ส.ว.ใช้สิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องของส.ว.ชุดนี้แต่เป็นเรื่องของหลักการประชาธิปไตย เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์พิเศษได้เลือกนายกรัฐมนตรีไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่หลังจากนี้มีระบบพรรคการเมือง มีรัฐบาลแล้วหากมีการเลือกตั้งอีกก็ควรให้กติการเปลี่ยนไปด้วย ไม่เช่นนั้นการเมืองก็จะกลับไปสู่วงจรเดิม 

เมื่อถามว่าเสียงของทั้ง 3 พรรคอาจจะไม่เพียงพอที่จะให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบได้ จะต้องมีการดีลกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกลที่จะให้เห็นชอบ เช่น มาตรา 272 ด้วยหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า เวลาลงมติเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา มีเอกสิทธิ์ที่จะลงมติในกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกพรรคต้องมีจิตสำนึก ในการเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นและแก้ไขกับดักของประเทศ เป็นปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะให้ความเห็นชอบในประเด็นที่เห็นพร้อมกันกับพรรคอื่นด้วยหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้นประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันเราก็ยกมือให้หมดและพร้อมจะยกมือให้ทุกฉบับ 

เมื่อถามถึงการลงมติในวาระแรก เนื่องจากมีร่างรัฐธรรมนูญเสนอเข้ามาหลายฉบับ นายชินวรณ์ กล่าวว่า รวมทุกร่างที่เสนอเข้ามาแล้วทั้งหมด 15 ฉบับ โดยในวาระแรกจะให้ผู้เสนอร่างแต่ละฉบับนำเสนอร่างทีละร่าง จนครบทั้ง 15 ฉบับและจะให้อภิปรายรวมกันในทุกฉบับ หลังจากนั้นในชั้นลงมติก็จะแยกลงมติในแต่ละฉบับ ตามด้วยการดำเนินการในวาระที่ 2 ในขั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) หมายความว่าแม้จะมีหลายฉบับก็ตามแต่ได้มีกระบวนการในการศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญมาแล้วและได้มีการตั้งกมธ.ศึกษาก่อนรับหลักการมาแล้ว โดยน่าจะใช้เวลาในการพิจารณา 45 วัน ซึ่งหลังจากกมธ.พิจารณาเสร็จแล้วต้องหยุดไว้ 15 วันเพื่อให้สมาชิกได้ไปทบทวนในแต่ละประเด็นอีกครั้งหนึ่ง และมาลงมติในวาระที่ 3 ซึ่งจะใช้วิธีให้สมาชิกขานชื่อรับตามลำดับ คาดว่าน่าจะทันในสมัยประชุมนี้ หากเป็นเช่นนี้ก็จะสามารถทูลเกล้าฯ ประกาศใช้กฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ต่อไป

ราเมศ เผย “จุรินทร์ ออนทัวร์” 17-19 มิ.ย. นี้ ลุย “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ตามติด “จับคู่กู้เงิน” “มอบโฉนดที่ดิน” เปิด “พาณิชย์ลดราคา” เดินหน้า “บ้านมั่นคง” และพบเกษตรกรมันสัมปะหลัง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา ว่าในวันที่ 17 ถึงวันที่ 19 มิถุนายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดการลงพื้นที่ทำกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” ในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา

วันที่ 17 มิถุนายน จะเป็นประธานมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และเนื่องจากมีการออกนโยบายจับคู่กู้เงินก็จะมีการติดตามโครงการนี้ในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน และติดตามความคืบหน้าของโครงการประกันรายได้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา มันสำปะหลังและข้าว ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและติดตามความคืบหน้าและมอบงบประมาณโครงการบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูนพร้อมกันนี้จะมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 และจะมีการปล่อยขบวนรถโมบายพาณิชย์ลดราคาที่อำเภอกุมภวารี จ.อุดรธานี 

วันที่ 18 มิถุนายน ติดตามโครงการบ้านมั่นคงแก่นนครและโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตศูนย์คนไร้บ้านจังหวัดขอนแก่นและจะมีการมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และจะมีการเปิดและปล่อยขบวนรถโมบายพาณิชย์ลดราคาที่จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย จากนั้นใน วันที่ 19 มิถุนายน จะเดินทางเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อประชุมร่วมหารือระหว่างทีมเซลล์แมนจังหวัด หอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดและภาคธุรกิจ และจะมีการปล่อยขบวนรถโมบายพาณิชย์ลดราคา ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาด้วย และในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาก็จะมีพี่น้องผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นจำนวนมากในการนี้นายจุรินทร์จะมีกำหนดพบปะเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังอีกด้วยเช่นกัน

การลงพื้นที่ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “จุรินทร์ ออนทัวร์” นั้นหัวหน้าพรรคได้เดินทางไปแล้วมาหลายจังหวัดและจะมีกำหนดการเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน ติดตามนโยบายต่างๆ ของพรรค รับฟังในทุกเรื่อง ทุกข์สุข ปัญหาต่างๆ ร่วมกันคิด และให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ นายจุรินทร์มุ่งมั่นเดินหน้าในการทำงานอย่างเต็มที่ มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศให้มากที่สุด

สทป.มอบหุ่นยนต์ "D–EMPIR CARE" ให้ สธ.เพื่อสนับสนุนทีมแพทย์​ รพ.บุษราคัม

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นวงกว้างทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.)​ จึงเล็งเห็นขีดความสามารถหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD Robot) ของ สทป. ที่ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวหุ่นยนต์ (payload) เพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามความเหมาะสมในภารกิจต่างๆ สทป. จึงดัดแปลงหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD Robot) รุ่น D-EMPIR มาเป็นหุ่นยนต์สำหรับใช้ปฏิบัติงานในภารกิจโรงพยาบาลสนาม เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์สามารถควบคุมแบบไร้สายระยะไกล บรรทุกยา อาหาร หรือสิ่งของเพื่อส่งให้ผู้ป่วย พร้อมติดกล้อง และไมโครโฟน รวมถึงจอมอนิเตอร์เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางแพทย์ และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ 

ทางกระทรวงกลาโหม โดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จึงจัดพิธีส่งมอบหุ่นยนต์ให้บริการทางการแพทย์ (D-EMPIR CARE)

โดยพล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พล.อ.อ.ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมเป็นประธานส่งมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบในการสนับสนุนภารกิจของทีมแพทย์โรงพยาบาลสนาม ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

พล.อ.อ.ดร.ปรีชา กล่าวว่า สถาน​การณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดมาจากหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR” ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด นำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์

พล.อ.พอพล กล่าวว่า สทป. ได้พัฒนาต่อยอดจากหุ่นยนต์ทางการทหารไปสู่หุ่นยนต์เพื่องานทางสาธารณสุข​ ถือได้ว่าเป็นการนำงานวิจัยทางการทหารมาสร้างประโยชน์เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual use) ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับภาคพลเรือน หุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” สามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องสัมผัสและรักษาผู้ป่วยได้ 

ดังนั้น กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จึงขอมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE จำนวน 3 ระบบ แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้งานในภารกิจโรงพยาบาลสนาม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยลดความเสี่ยง รวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และบุคลากรได้อย่างสูงสุด ความมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาของ สทป. ในการดัดแปลงจากหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่น D-EMPIR มาเป็นหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้เป็นไปตามมาตรฐานการออกแบบ วิจัยและพัฒนา ผลิตและทดสอบที่เป็นสากลในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพความพร้อมในการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศและสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมโดยรวม เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย

สำหรับหุ่นยนต์ที่ออกแบบใหม่ ตั้งชื่อว่า “D-EMPIR CARE” เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและความรู้สึกเป็นมิตรต่อการใช้งาน “user friendly” โดยหุ่นยนต์ D-EMPIR CARE สามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสะดวก ความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องสัมผัสกับผู้ป่วย

“หุ่นยนต์ D-EMPIR CARE” มีระบบควบคุมแบบไร้สายระยะไกล รองรับการเชื่อมต่อระบบ WIFI หรือ เครือข่ายมือถือ (Cellular Network)
รองรับการสนทนาระหว่างแพทย์และผู้ป่วยด้วยระบบ VDO Call นานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง สามารถข้ามเครื่องกีดขวางบนพื้นราบได้​ ขับเคลื่อนด้วยสายพาน​ทำงานทุกสภาพภูมิประเทศ

ครม. ให้ ก.แรงงาน กำหนดมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย-สภาพแวดล้อมในการทำงาน ดูแลความปลอดภัยให้ลูกจ้าง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สาระสำคัญในการกำหนดให้นายจ้าง จัดการ และดำเนินการด้านความปลออดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน และเพื่อให้การทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ มีมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้ลูกจ้างมีความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะครอบคลุมเครื่องจักร 6 ประเภท ได้แก่ เครื่องปั๊มโลหะ, เครื่องเชื่อมไฟฟ้าและเครื่องเชื่อมก๊าซ, รถยก, ลิฟท์, เครื่องจักรสำหรับใช้ในการยกคนขึ้นทำงานบนที่สูง และ รอก และครอบคลุมปั้นจั่น 3 ประเภท ได้แก่ ปั้นจั่นเหนือศีรษะและปั่นจั่นขาสูง, ปั้นจั่นหอสูง และรถปั้นจั่นหรือเรือปั้นจั่น รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวกับปั้นจั่น และครอบคลุมหม้อน้ำ 4 ประเภทได้แก่ หม้อน้ำ, หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน, ภาชนะรับความดัน และภาชนะบรรจุก๊าซทนความดัน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ได้กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์และดูแลให้ลูกจ้างใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานในงาน 10 ประเภท ได้แก่ งานเชื่อมหรือตัดชิ้นงานด้วยไฟฟ้า, งานลับ ฝน หรือแต่งผิวโลหะด้วยหินเจีย, งานกลึงโลหะ งานกลึงไม้ งานไสโลหะ งานไสไม้ หรืองานตัดโลหะ, งานปั๊มโลหะ, งานชุบโลหะ, งานพ่นสี, งานยก ขนย้าย หรือติดตั้ง, งานควบคุมเครื่องจักร, งานปั้นจั่น และ งานหม้อน้ำ หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน หรือภาชนะรับความดัน และให้วิศวกรเป็นผู้ทดสอบการดำเนินการตามกฎหมาย

ครม.ยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัย กรณีจะนำเข้าเครื่องจักรที่เอื้อต่อการละเมิดลิขสิทธิ์เทปเพลงต้องขออนุญาต ชี้ ปัจจุบันใช้พ.ร.บ.ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 96) พ.ศ.2536 พ.ศ. .... ที่กำหนดให้เครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์เทปเพลง วิดีโอเทป และแผ่นซีดี เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า ซึ่งปัจจุบันไม่มีการนำเข้าสินค้าเครื่องจักรที่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ในการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวแล้ว  

อีกทั้งรูปแบบการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ปรับเปลี่ยนเป็นการละเมิดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม การยกเลิกประกาศดังกล่าว จะไม่ทำให้การป้องกันปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ด้อยประสิทธิภาพลง เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์สามารถใช้กลไกตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการเอาผิดกับผู้กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ รวมถึงยังมีกลไกตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาได้ ซึ่งการปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ในการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top