Wednesday, 9 July 2025
POLITICS NEWS

‘ตรีชฎา’ นับถอยหลังไล่ส่ง ‘ประยุทธ์นายกฯ 8 ปี’ ฝืนบทบัญญัติ รธน.เหตุเสพติดอำนาจไม่สนคนไล่

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา  รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปีในวันที่ 23สิงหาคม 2565 เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จากนั้นก็ตั้งพรรคพวกตัวเองมาเขียนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนดให้มีแม่น้ำ 5 สาย หนึ่งในนั้นคือ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ สนช.โหวตตัวเองเป็นนายกฯ เริ่มนับหนึ่งในวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และเป็นนายกฯเรื่อยมา สืบทอดอำนาจจนมาถึงหลังเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 จนถึงทุกวันนี้     
    
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 264 ในบทเฉพาะกาล บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ ..”  นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อนรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ จึงเป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 แล้ว  ดังนั้น พลเอกประยุทธ์จึงเป็น นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้

'อานนท์' ออกโรงป้อง 'บิ๊กตู่' พร้อมจัด 'ม็อบชนม็อบ' สู้พวกป่วนเมือง

วันนี้ (23 สิงหาคม 2565) นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ร่วมกับทาง นางนิตยา นาโล หรือ 'นักสู้ปอสี่' อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ นายทวี ประหยัด อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคใต้ และ นายไวทิต ศิริสุวรรณ อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคกลาง ได้เปิดเผยว่า วันนี้พวกเราได้ยกฐานะเปลี่ยนจาก 'หมู่บ้านเสื้อแดง' มาเป็น 'หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน' เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินลบล้างความผิดพลาดที่พวกตนเคยกระทำมา พร้อมภารกิจการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ทั่วประเทศไทยเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของพสกนิกรชาวไทยที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จนพวกเราทราบว่าคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันและทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง 

นั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือ 'นายกลุงตู่' ซึ่งเป็นนายทหารที่มีความรักสถาบันยิ่งกว่าชีวิต วันนี้ทางตนได้ประสานงานแต่ละภาคให้ส่งสัญญาณไปยังประธานหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่าง ๆ แล้ว ถ้ามีการยกมวลชนกลุ่มเล็ก ๆ น้อย ๆ มาขับไล่นายกลุงตู่ แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ป่วนบ้าน ป่วนเมือง กันอีกพวกตนก็พร้อมที่จะยกทัพเข้ากรุงเทพฯ เพื่อปกป้องนายกรัฐมนตรีคนที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราใช้ความอดทนอดกลั้นกันมามากพอแล้ว แต่แปลกที่ยังกลุ่มคนพวกนี้ไม่ยอมกลัวกฎหมายบ้านเมืองกันเลย แล้วยังจะมาอ้างว่ามีคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง มาสนับสนุนกันเป็นจำนวนมาก จากที่ผ่านมาก็เห็นกันอยู่แล้วแม้ฟ้าดินก็ยังไม่เป็นใจ แต่ถ้ามาจริงพวกเราก็พร้อม 'ม็อบชนม็อบ' ถ้ามันบานปลายก็จะให้ทหารเข้ามาเกี่ยวข้องอีกเหมือนกับ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา พวกคุณยังจะทำลายประเทศไทยกันอีกหรืออย่างไร

เพื่อไทย แถลงการณ์ ย้ำ ‘บิ๊กตู่’ สิ้นความเป็นนายกฯ 24 ส.ค.นี้ จี้ ใช้จิตสำนึกเคารพกฎที่สร้างขึ้นมาเอง

‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘บิ๊กตู่’ สิ้นสุดความเป็นนายกฯ 24 ส.ค. นี้ ชี้ 1-2 วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์ จี้ เคารพกฎเกณฑ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา พร้อมย้ำ ให้ใช้จิตสำนึก ไม่ใช่ให้ศาลหรือคนใดมากำหนด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค พท. แถลงท่าทีพรรค พท.ต่อกรณีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่อง บทพิสูจน์นายกรัฐมนตรี 8 ปีกับการปฏิรูปการเมืองไทย ว่า การจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้นำประเทศเป็นมาตรฐานสากลที่ยอมรับกันทั่วไปเป็นหลักนิติธรรม เพราะอำนาจทำให้คนทุจริตใช้อำนาจในทางมิชอบ อำนาจเด็ดขาดทำให้ทุจริตอย่างไม่มีข้อจำกัด ถ้าปล่อยให้คนที่มีอำนาจเด็ดขาดเป็นระยะเวลายาวนานเกินไป ก็เท่ากับปล่อยให้ผู้ใช้อำนาจสามารถทุจริตโดยไม่มีข้อจำกัด

น.ส.ธีรรัตน์  กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 และดำรงตำแหน่งติดต่อกันมาโดยลำดับ แม้รัฐธรรมนูญ 2560 จะประกาศใช้ก็ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนี้และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งเมื่อ 9 มิถุนายน 2562 ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยเหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่นับถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เป็นเวลา 8 ปี ฉะนั้น กรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งต่อกันหรือไม่ และมาตรา 171 วรรคสี่ กำหนดไว้ชัดเจนว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หากดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินกว่าแปดปี

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวด้วยว่า เจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 158 โดยประธานกรรมาธิการฯ ได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลมาตรา 264 แสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าว รวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี พรรค พท.เห็นว่า โดยเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับถ้อยคำตามลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 มาตรา 171 และมาตรา 264 ยากที่จะปฏิเสธได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 สิงหาคม 2565

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อปี 2557 และตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า ต้องการปฏิรูปการเมือง แม้เมื่อมีรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งตนเองผลักดัน ก็จัดเรื่องการปฏิรูปประเทศรวมถึงการปฏิรูปการเมืองไว้เป็นหมวดหนึ่งของรัฐธรรมนูญ การไม่ให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งยาวนานเกินไปจึงกำหนดระยะเวลาสูงสุดไว้แปดปี เพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจ สร้างอิทธิพลทางการ อันจะเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้น จึงเป็นสาระสำคัญที่ส่อแสดงถึงความต้องการที่จะปฏิรูปการเมือง พรรค พท.เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำเนินการโดยประการใด กับกรณีเป็นนายกรัฐมนตรีมาแปดปีแล้ว จะเป็นวิกฤตของประเทศอีกครั้งหนึ่ง และอาจนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองขึ้น แต่สิ่งที่จะสะท้อนได้แน่นอนคือ การปฏิรูปการเมืองที่กล่าวไว้ตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองประเทศเรื่อยมา เป็นความจริงใจหรือเป็นเพียงวาทะกรรมคำพูดที่ให้ดูดีเท่านั้น โดย 1-2 วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงตัวตนอย่างแท้จริงให้เห็นว่ามีแนวคิด แนวทางแบบเผด็จการอำนาจนิยม ลุแก่อำนาจ ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ หรือจะยอมรับการเมืองตามวิถีทาง และจารีตประเพณีแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“ไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธได้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปได้ เพราะวันนี้ทุกข้อกฎหมาย ทุกความคิดเห็นของนักวิชาการที่ได้ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์หมดลงแล้ว การตัดสินใจต่อไปของ พล.อ.ประยุทธ์จะทำเพื่อตัวเองหรือจะเห็นถึงประเทศไทย สิ่งที่เราได้ร่วมกันทำงานมาคืออยากจะเห็นประชาธิปไตยและทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน ฉะนั้น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เคารพกฎกติกาที่ท่านสร้างขึ้นมาเอง และปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันทุกคน” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

'อ.ปริญญา' ยกผลโหวตออนไลน์ 348,511 เสียง ชี้!! 'บิ๊กตู่' ไม่ควรเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี

วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว แถลงผลโหวต เสียงประชาชน ครั้งที่ 2 โดย เครือข่ายนักวิชาการ 'เสียงประชาชน' 8 มหาวิทยาลัย ระบุว่า ตามที่เครือข่ายนักวิชาการ 'เสียงประชาชน' 8 มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกับทีวีดิจิตอลและสื่อออนไลน์ 8 สำนัก จัดให้มีการโหวต 'เสียงประชาชน' ครั้งที่ 2 ในเรื่อง 8 ปีนายกรัฐมนตรี ทางโทรศัพท์มือถือ โดยมีกติกาคือ โทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง หรือ หนึ่งเลขหมายโหวตได้หนึ่งครั้ง ในวันที่ 20-21 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น

บัดนี้การโหวต 'เสียงประชาชน' ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชน และสื่อที่ร่วมโครงการ จึงขอแถลงผลให้ทราบดังต่อไปนี้ 

1.) จำนวนการโหวตทั้งหมด คือ 374,063 โหวต โดยเป็นการโหวตในประเทศไทย 369,484 โหวต จากต่างประเทศ 4,579 โหวต ทั้งนี้มีการโหวตที่ไม่สมบูรณ์อีก 1,438 ครั้ง 

2.) จากคำถามที่ถามประชาชนว่า “การวินิจฉัยว่า​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ จะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ​ 8​ ปี​ ในวันที่​ 24​ สิงหาคม​ 2565​ หรือไม่​ เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ​ แต่ในฐานะประชาชน​ ท่านเห็นว่า​ พล.อ.​ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ ควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน​ 8​ ปีหรือไม่?”

ผลการโหวต คือ มีผู้ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่ควร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี จำนวน 348,511 โหวต คิดเป็น 93.17% และตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ “ควร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี จำนวน 25,552 โหวต คิดเป็น 6.83%

'ชัชชาติ' วอน ชุมนุมลานคนเมือง 'ห้ามค้างคืน' ชี้!! 'ลงถนน-เคลื่อนย้ายคน' มีโทษตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ณ อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. ดินแดง ถึงกรณีการชุมนุมที่ลานคนเมืองว่า จากการติดตามการชุมนุมของคณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา จัดกิจกรรมชุมนุมที่ลานคนเมือง กทม. ระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค.65 โดยใช้ชื่องานว่า “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” ตอนล้างบาง! “โคตรโกง บ้าอำนาจ เป็นทาส ปล้นชาติ ขายแผ่นดิน” ยังไม่พบรายงานจากเจ้าหน้าที่กทม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนแต่อย่างใด 

ภายในการชุมนุมมีการกำหนดจุดคัดกรองตามมาตรฐานของการชุมนุม ไม่พบกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ กทม.ได้ประสานกับ สน.สำราญราษฎร์ ในการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมไม่ให้ผู้ชุมนุมมีจำนวนเกินกว่าที่ลานคนเมืองกำหนด อย่างไรก็ตาม กทม.มีหน้าที่เตรียมพื้นที่การชุมนุม จัดรถสุขาให้ตามที่มีการขอมาเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องไม่ให้ประชาชนในละแวกเดือดร้อน ไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมค้างคืน เพราะรอบบริเวณยังมีผู้มาออกกำลังกาย มีวัด มีร้านค้า มีโรงเรียน และการสัญจรของประชาชน เกรงว่าจะสร้างความไม่สะดวกแก่ประชาชนโดยรวม

‘วิษณุ’ ยัน 'บิ๊กตู่' ยังนั่งร่วม ครม. ได้ ในฐานะ รมว.กห. แม้ศาลสั่งหยุดหน้าที่นายกฯ

'วิษณุ' ลั่นรัฐบาลพร้อมแจงปม 8 ปีนายกฯ ต่อศาล ชี้ถ้าสั่งหยุดหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัย 'บิ๊กตู่' นั่งร่วมครม.ในฐานะ รมว.กลาโหมได้ 'ป้อม' รักษาการแทน ยันไม่ว่าออกหน้าไหนไร้กระทบการทำงาน รบ.

(22 ส.ค. 2565) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นเรื่องให้ศาลตีความประเด็นความเป็นนายกฯ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม วันเดียวกันนี้ (22 ส.ค.) รัฐบาลต้องเตรียมการชี้แจงอย่างไรหรือไม่ ว่า ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น เพราะยังไม่รู้ว่าศาลจะสั่งให้ชี้แจงหรือไม่ อาจไม่ต้องให้ใครชี้แจง หรือสั่งให้ใครชี้แจง อาจจะเป็นนายกฯ โดยตรง หรือรัฐบาล ซึ่งก็คือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อความเป็นธรรม

"เพราะเรื่อง 8 ปี จะเกี่ยวกับ พล.อประยุทธ์ คนเดียว ก็คงไม่ใช่ มันต้องเป็นท่าทีของรัฐบาล จึงยังไม่รู้จะเตรียมอะไร แต่คร่าวๆในใจมีกันอยู่ ฉะนั้นหากศาลสั่งมาแนวทางไหนก็พร้อมชี้แจง แต่ขอเวลาหน่อย วันถึงสองวัน เรื่องนี้ไม่เสียเวลาคิด แต่เสียเวลาพิมพ์ เพราะเวลายื่นคำตอบต่อศาล การพิมพ์ต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่นึกจะเขียนอะไรก็เขียนไปต้อง 9 ชุด" นายวิษณุ ระบุ

เมื่อถามว่าข้อมูลในใจคร่าว ๆ ที่ว่าคืออะไร รองนายกฯ กล่าวว่า บอกไม่ได้เดี๋ยวเสียรูปคดี

ส่วนกรณีที่นายชวน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง กับกรณีที่มีผู้ร้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความต่างกันอย่างไรนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่แตกต่าง เป็นเรื่องดีมากที่จะทำอย่างนั้น โดยเฉพาะช่องทาง กกต. จะได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติมอย่างรอบคอบ เพราะฝ่ายค้านยื่นในมุมจ้องจะให้ออกก็มีวิธีให้เหตุผลแบบของเขา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายชวนยื่นเรื่องไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำสั่งรับคำร้องภายในวันที่ 24 ส.ค. เลยหรือไม่ เพราะผู้ร้องมองว่าวันดังกล่าวเลยการดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่ศาล ตนไม่ทราบ ส่วนจะใช้เวลาพิจารณานานหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ไม่ได้มีผลอะไรเหมือนที่ฝ่ายค้านอธิบายไปแล้วนั้นถูกต้อง เพราะเมื่อนายชวน ส่งเรื่องไปที่ศาล โดยศาลจะสั่งสองอย่างคือไม่รับคำร้องกับรับคำร้อง ถ้ารับคำร้องจะมีคำสั่งตามมาว่า รับโดยให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ กับรับโดยนายกฯ ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างรอคำพิพากษา ถ้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แทน คณะรัฐมนตรีก็อยู่ทำหน้าที่ทั้งหมดไม่ต้องกลัวอะไรจะโมฆะ ไม่ว่าวันไหนศาลตัดสินว่าพล.อ.ประยุทธ์ พ้นหรือไม่พ้น คณะรัฐมนตรียังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังมีอีกตำแหน่งคือ รมว.กลาโหม ที่ไม่มีข้อกำหนด 8 ปี หากเป็นเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็นั่งเป็นลูกน้อง พล.อ.ประวิตร ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัย ทั้งนี้ถ้าถึงที่สุดแล้วศาลวินิจฉัยให้พ้นเพราะประเด็น 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังคงรักษาการได้ แต่ควรหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง และคิดว่าการหานายกฯ ใหม่ไม่น่าจะยากอะไร นายชวน คงรีบดำเนินการใน 3 วัน 7 วัน

‘พี่ศรี’ เอือม!! สังคมตีความกันเองเก่ง ไม่จำเป็นต้องมีศาลรัฐธรรมนูญ

(22 ส.ค. 65) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า... 

ไทยคงไม่จำเป็นต้องมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก ต่อไปนี้ให้แต่งตั้งแกนนำม็อบ หัวหน้าพรรคฝ่ายแค้น และนักวิชาเกิน ให้มาวินิจฉัยแทน เก่ง ๆ กันทั้งนั้น


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/205241/

'ธนกร' ยกย่อง 'บิ๊กตู่' เป็น 'นายกฯ' ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี เน้นสร้างไทยเข็มแข็ง ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม

ผมยกพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดของไทยในรอบกว่า 10 ปี จากการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ มอเตอร์เวย์ สถานีรถไฟกลางบางซื่อ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยไม่มีการแสวงหาประโยชน์เข้าตนเองหรือตระกูลแต่อย่างใด

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2565

'ธนกร' ยกย่องพลเอก ประยุทธ์ฯ เป็น 'นายกฯ' ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี เน้นสร้างไทยเข็มแข็ง ขยายโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการสำคัญที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ถนน ราง น้ำและอากาศ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เกิดประโยชน์ได้ต่อไปในระยะยาวอีกด้วย รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ของประชาชนในประเทศ

ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงแต่ละภาคของประเทศ และเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียน ทุกทิศทาง ประกอบไปด้วยการสร้างเส้นทางทางถนน โดยปี 2564 สร้างเพิ่มเป็น 11,583 กิโลเมตร มอเตอร์เวย์ สร้างเพิ่ม 3 เส้นทางสำคัญ บางปะอิน-โคราช บางใหญ่-กาญจนบุรี และพัทยา-มาบตาพุด ส่วนเส้นทางทางราง  ปัจจุบันมีแผนสร้างเพิ่ม ระยะเวลา 20 ปี จะมีระยะทาง 8,900 กิโลเมตร ครอบคลุม 62 จังหวัด และยังมีการสร้างสถานีกลางบางซื่อ เป็นชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ทันสมัยที่สุดในอาเซียน เชื่อมรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง – รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ – รถไฟชานเมือง – สถานี บขส. และสนามบิน ส่วนรถไฟฟ้า (กทม.และปริมณฑล) สร้างเพิ่ม 10 สาย ระยะทางรวม 204.9 กิโลเมตร  รวมทั้ง โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับการขนส่งทางน้ำ ได้เพิ่มศักยภาพรองรับปริมาณการขนส่งทางน้ำ ปี 2564 เพิ่มเป็น 355 ล้านตัน โดยพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ปีละ 4,000 ล้านบาท และทางอากาศ ปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร เป็น 139 ล้านคน

เชิญอัฐิ 'ป๋าเปรม’ หลบบ้านสมเกียรติ ตั้งสวดพระอภิธรรมอัฐิ 21-25 ส.ค.

เมื่อเวลา 04.35 น. ของวันที่ 21 ส.ค. 65 ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นำโดย รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมทำพิธีเชิญอัฐิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จากอาคารเฉลิมพระบารมี โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เคลื่อนขบวนด้วยรถบุษบก โดยมีทีมนักวิ่งจำนวน 99 คน ร่วมนำขบวนไปยังสวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา นอกจากนี้ยังมีการวิ่งอีก 2 เส้นทาง คือ บ้านศรัทธา-สวนประวัติศาสตร์ และวัดแหลมพ้อ-สวนประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคนต่างพร้อมใจใส่เสื้อที่ระลึกสีชมพู “พาป๋า หลบบ้าน” อย่างพร้อมเพรียงเป็นสัญลักษณ์ในการต้อนรับท่านกลับสู่บ้านเกิด

ส่วนบรรยากาศตลอดเส้นทาง มีประชาชนสวมเสื้อ 'พาป๋า หลบบ้าน' มายืนรอ เพื่อส่ง และต้อนรับ พลเอก เปรมฯ ที่ได้กลับบ้านเกิด หลังท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมไปกว่า 3 ปี โดยในวันที่ 26 สิงหาคม นี้ เป็นวันครบรอบอายุ 102 ปี

นอกจากนี้ ประชาชนได้ส่งเสียงให้กำลังใจนักวิ่ง ซึ่งนับเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ทุกคนได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อพลเอก เปรมฯ เพราะท่านได้สร้างคุณงามความดีแก่ชาวสงขลา และประเทศชาติ เอาไว้มากมาย

'ส.ส.ก้าวไกล' ข้องใจ เหตุใดงบซ่อมถนน จ.บุรีรัมย์นำโด่ง งงหนัก!! หลายจังหวัดถูกตัดงบ ทั้งที่ถนนก็พังเหมือนกัน

สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มาตรา 15 งบประมาณกระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท ขอแปรญัตติปรับลด 5.5 % โดยระบุว่า ปัญหาในการจัดงบยังคงเป็นรูปแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ทั้งที่ในวาระแรกและในชั้นกรรมาธิการก็ได้มีการชี้ให้เห็นปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่อมาสู่วาระ 2 ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะ กมธ.เสียงข้างมากไม่ฟังเหตุผล ไม่นำไปปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่เกิดขึ้นยังคงเป็นเหมือนวาระแรกคือ 'บุรีรัมย์นำโด่ง' ได้งบในการซ่อมถนน โดยกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4.29 เท่า ตามมาด้วยสุรินทร์ 3.58 เท่า ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ กมธ.ต้องตอบ และไม่ต้องอ้างว่ารัฐมนตรีตอบแล้ว เพราะท่านรัฐมนตรีตอบไม่ตรงที่ถาม เพราะถามงบซ่อมปีนี้ กลับตอบงบสร้างย้อนหลัง 10 ปี แถมเลือกมาให้ดูโดยเทียบบุรีรัมย์กับจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง เชียงใหม่ อุดรธานี ถามเรื่องงบซ่อมถนน ซึ่งทั่วประเทศก็พังคล้ายกันหมด แล้วทำไมไปลงอยู่แต่กับที่บุรีรัมย์

"สิ่งที่เรากำลังพิจารณากันอยู่นี้คืองบพื้นฐาน ซึ่งคิดเป็น 32% ของงบประมาณทั้งหมดที่กระทรวงคมนาคมจะได้รับในปีนี้ ตาม 'แผนงานพื้นฐานด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน' มูลค่า 58,065 ล้านบาท และงบก้อนนี้จากวาระที่ 1 มาถึงวันนี้ในวาระที่ 2 ปรับลดไปเพียงแค่ 89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.15% เท่านั้น โดยกรมทางหลวงปรับลด 0.07% ขณะที่กรมทางหลวงชนบทลด 0.15% และเมื่อไปดูในส่วนที่เป็นประเด็นปัญหาคือ งบซ่อมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ปรากฏว่าถูกปรับลดไปเพียง 0.05% แถมไปตัดผิดที่ด้วย คือ บุรีรัมย์นำโด่งแต่ไม่โดนตัด แต่กลับไปตัดที่นครราชสีมา, ชลบุรี, ชัยภูมิ, นนทบุรี, บึงกาฬ, ราชบุรี, เลย, สตูล และขอนแก่น แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย เพราะตัดไปเพียง 0.05% จาก 4.06 หมื่นล้าน สำหรับงบซ่อมถนน"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top