Monday, 7 July 2025
POLITICS NEWS

‘ก้าวไกล’ เรียกร้องทหารหยุดละเมิดสิทธิปชช. ปมเก็บ DNA ทารกวัย 10 เดือน ญาติ ‘อีซอมูซอ’

ก้าวไกลชายแดนใต้ เรียกร้องทหารหยุดละเมิดสิทธิประชาชน กรณีทหารเก็บ DNA เด็กทารก ญาติ ‘อับดุลเลาะ อีซอมูซอ’ วัย 10 เดือน

รอมฎอน ปันจอร์ คณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบายชายแดนใต้ ปาตานี พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความน่าเป็นห่วงของสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาขอเก็บ DNA เด็กน้อยวัย 10 เดือนใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ทำลายหลักการของมนุษยชนอย่างร้ายแรง และบั่นทอนความไว้วางใจของประชาชนที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายได้

กรณีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สายบุรีและทหารพราน ฉก. 44 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านประชาชนแห่งหนึ่งซึ่งภายในบ้านมีผู้หญิง 2 คน และเด็กชายอายุ 10 เดือน 1 คน ซึ่งแม่ของเด็กหญิงเป็นญาติของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ชายมุสลิมที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร ทำอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า รายได้ประมาณ 4,000 บาท/เดือน โดยภายหลังในวันเดียวกันได้มีการเชิญตัวไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.สายบุรี โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามขอเก็บ DNA ของเด็กอายุ 10 เดือน แต่ฝ่ายแม่ยืนกรานไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่จึงมีการข่มขู่ว่าจะมาทุกวันและจะควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

รอมฎอน กล่าวว่ากรณีดังกล่าวนี้ทำให้บรรยากาศความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะคนทั้งสังคมไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือมุสลิมล้วนเห็นตรงกันว่าเด็ก ๆ ซึ่งเป็นสมาชิกของสังคมที่เปราะบางที่สุดนั้นไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือความขัดแย้งของผู้ใหญ่

เรื่องทำนองนี้ยังเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเก็บดีเอ็นเอผู้บริสุทธิ์ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีกฎหมายใด ๆ อนุญาต ต่อให้อ้างกฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับ ก็ยังไม่มีข้อบัญญัติส่วนไหนที่ให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหาร สนธิกำลังกันล้อมบ้านประชาชนหรือเรียกตัวไปที่ตั้งและชี้นิ้วขอเก็บตัวอย่างของเด็กชายอายุเพียงแค่ 10 เดือนได้

'อนุสรณ์' แนะ ต้องแก้มาตรา 272 อย่างเร่งด่วน ให้เฉพาะ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิ์เลือกนายกฯ

(16 ต.ค. 65) อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทอร์กโชว์เดี่ยว 13 ว่าการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนั้น เป็นความเห็นเสรีภาพที่รองรับไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนพึงกระทำได้ ซึ่งควรนำคำวิจารณ์ไปปรับปรุงตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าเวลาที่เหลืออยู่แทนที่จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีคนวิจารณ์ ควรหันกลับมาแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

เริ่มตั้งแต่แก้รัฐธรรมนูญที่เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้ง กำหนดกติการการเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยกติกาที่เป็นประชาธิปไตย เป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง บทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยควรได้รับการแก้ไข โดยควรแก้ไขมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ ให้เฉพาะส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี หากไม่เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 จะเกิดสภาพความขัดแย้งไม่จบสิ้น ไม่เอื้อต่อการเกิดกติกาที่สุจริตและเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง

'บิ๊กป้อม' เผย ติดตามเดี่ยวของ 'โน้ส อุดม' มาตลอด ชี้ เห็นวิจารณ์ทุกรัฐบาล ไม่ควรทำเป็นเรื่องใหญ่โต

(16 ต.ค. 65) จากกรณีเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทอร์กโชว์ 'เดี่ยว 13' ที่เมื่อเผยแพร่ออกไปแล้ว กระแสในโลกออนไลน์ก็ร้อนระอุแบบสุดๆ เสียงของชาวเน็ตไทยแตกออกเป็น 2 ฝั่ง

ฝั่งที่เห็นด้วยกับคำพูดของ 'โน้ส อุดม แต้พานิช' ก็มองว่าไม่ได้วิจารณ์เกินจริง อีกทั้งโน้ส อุดม ก็วิจารณ์ทุกรัฐบาลในทุกๆ การโชว์เดี่ยวไมโครโฟนของเขาอยู่แล้ว หากใครที่ติดตามมาตลอดจะรู้ดี

แต่ในมุมของคนที่เชียร์และชื่นชอบรัฐบาลชุดนี้ กลับมีมุมมองที่ต่างออกไป เพราะมีความรู้สึกว่า การที่โน้ส อุดมพูดถึงรัฐบาลในลักษณะนั้น เป็นการบิดเบือนข้อมูล พูดเกินเลย ต่างไปจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และบางคนถึงขั้นยอมทิ้ง DVD การแสดงเดี่ยวของโน้ส อุดม ทั้งๆ ที่ติดตามและเก็บเป็นของสะสมมาตั้งนาน

'สุทิน' ชี้ นโยบายเพื่อไทย ยังมีของดีอีกเยอะ ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ บอก "ก็พอรู้ๆ กันอยู่"

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 65 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดนโยบายพรรคในฟอรั่ม 2 ว่า จะมีมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่กำหนดระยะเวลา เพราะต้องดูสถานการณ์ แต่ยืนยันว่า เมื่อเปิดมาจะเป็นอะไรที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งของดียังไม่ออกอีกเยอะ

เมื่อถามถึง การพูดคุยเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นายสุทิน กล่าวว่า คุยกันไปเรื่อยๆ แต่เราก็คงไม่เปิดไว้ก่อน เปิดไว้นานไม่ดี ก็คิดว่าใกล้เวลาที่สุด แต่ก็พอรู้ๆ กันอยู่ เราต้องดูสถานการณ์แต่ก็พร้อมเคาะทุกเมื่อ

'ก้าวไกล' ซัดรัฐบาลจัดการน้ำล้มเหลว ทำอุบลฯ ท่วมร่วมเดือน พยากรณ์ผิดพลาด ชาวบ้านต้องยกของขึ้นที่สูงทุกวัน 

วิศรุต สวัสดิ์วร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี เขต 1 พรรคก้าวไกล สะท้อนปัญหาการจัดการน้ำในลุ่มน้ำภาคอีสานของรัฐบาลว่า จังหวัดอุบลน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 1 เดือนกว่าแล้วที่คนอุบลต้องทนอยู่กับน้ำท่วม ระดับน้ำเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยชาวบ้านฟังการแจ้งเตือนภัยจากรัฐบาล แต่ระบบการเตือนภัยผิดพลาดสับสน จากเดิมที่บอกว่าน้ำท่วมไม่เกินปี 2545 ต่อมาประกาศเพิ่มเป็นไม่เกินปี 2562 แต่จนถึงปัจจุบันน้ำท่วมสูงกว่าปี 2562 แล้ว การพยากรณ์ที่ผิดพลาดทำให้ชาวบ้านต้องยกของขึ้นที่สูงทุกวัน ตามที่รัฐบาลพยากรณ์ใหม่ทุก 2 วัน

อีกทั้งการจัดการศูนย์อพยพในช่วงต้นของการเกิดน้ำท่วมว่า ไม่มีการเตรียมตัว แม้แต่ศูนย์อพยพที่ไม่ได้มาตรฐานคนยังแย่งกัน คนแย่งเต็นท์กัน กว่าจะตั้งหลักได้ น้ำท่วมถึงศูนย์อพยพจุดที่ 2 แล้ว ทั้งๆ ที่ระดับน้ำของจังหวัดอุบลเป็นมวลน้ำที่มาจากที่อื่น ควรจะคำนวณระดับน้ำได้ แต่รัฐบาลกลับไม่มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า จ.อุบลน้ำท่วมแทบทุกปี ควรมีแผนเตรียมอพยพและศูนย์อพยพล่วงหน้าไว้ให้พร้อม โดยพิจารณาจากสถานที่ราชการบางส่วน สนามกีฬา เพื่อใช้เป็นศูนย์อพยพที่ได้มาตรฐาน

‘ชูวิทย์’ ยกเคส ‘แอ๊ด-โน้ส’ สะท้อน ‘ราชการเป็นใหญ่’ เมื่อพูดความจริงจะอึดอัด ต้องคอยเกรงใจเจ้าที่เจ้าทาง

(16 ต.ค. 65) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืนชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้...

‘แอ๊ด’ ขอโทษผู้ว่าฯแล้ว รับอารมณ์ชั่ววูบ-ขาดสติ พร้อมอ้าแขนรับความผิด

พี่แอ๊ดน่าจะทราบ ประเทศไทยเป็นระบบ “ราชการเป็นใหญ่”

ศิลปินอย่างพี่แอ๊ดหากวิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ก็ไม่ต้องมานั่งขอโทษขอโพย สำนึกผิด

'กรณ์' ผงาดหัวหน้าพรรค 'ชาติพัฒนากล้า' ลั่น!! ฟื้นเศรษฐกิจปลุกชีวิตยุคมนุษย์ทองคำ 

'กรณ์ จาติกวณิช' นั่งหัวหน้าพรรค 'ชาติพัฒนากล้า' ประเดิมปรับโฉมโลโก้พรรค ทันสมัยรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาล ลั่น เศรษฐกิจของชาติจะพัฒนาได้ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าตัดสินใจ 

(16 ต.ค. 65) พรรคชาติพัฒนากล้า ประชุมใหญ่สามัญเพื่อจัดทัพกรรมการบริหารพรรค สู้ศึกการเลือกตั้ง ปรับภาพลักษณ์องค์กร เริ่มจากการปรับโลโก้ของพรรคใหม่ โดยมีตัวอักษร ช.ช้าง รูปแบบทันสมัยจากการรวมกันของเส้นโค้งสองเส้นที่ทรงพลัง เส้นโค้งสีน้ำเงิน คันธนูอันเข้มแข็ง มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย เส้นโค้งสีเหลืองทองแกมแสด เปลวไฟอันรุ่งโรจน์ โชติช่วงชัชวาล สีเหลืองทองแกมแสด แทนความรุ่งโรจน์จากความกระตือรือร้น มั่นใจ กล้าทำ กล้าลอง พร้อมกับความอบอุ่นเหนียวแน่น สามัคคี ด้วยความสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด สีน้ำเงิน แทนความสุขุม รอบคอบ หนักแน่น เปรียบดังการกระทำการใหญ่ต้องใช้ประสบการณ์ เมื่อ 2 เส้นโค้งที่มาตัดกันในจุดที่สมดุลที่สุด จึงเกิดเป็นตัว ช.ช้าง ที่ลายหาง ช.ช้าง มีทิศทางชี้ขึ้นข้างบน เสมือนหนึ่งเป็นเส้นกราฟพุ่งสูงขึ้น เพื่อสื่อความหมายชาติไทย ที่มีการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจ และเกิดความเจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ อันเป็นผลมาจากนโยบายทางสายกลาง และความประนีประนอม ที่แสดงออกด้วยเส้นสีเหลืองทองแกมแสดและสีน้ำเงินที่โอบเกี่ยวคล้องกัน

"โลโก้ ชาติพัฒนากล้า ช.แทนความหมายถึง 'ชาติ' ที่พร้อมจะ 'พัฒนา' ให้เจริญรุ่งเรือง โชติช่วงดุจเปลวเพลิงชัชวาลที่ไม่มีวันดับได้นั้น ต้องอาศัยความ 'กล้า' เป็นสำคัญ"

จากนั้นนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค และเสนอชื่อ 'นายกรณ์ จาติกวณิช' ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน โดยที่ประชุมลงคะแนนเลือก นายกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป  

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 30 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งที่น่าสนใจจากทีมเศรษฐกิจของนายกรณ์เข้าร่วม ได้แก่ 

1.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค 
2.) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค 
3.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค 
3.) นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค 
4.) ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค 

'ซูเปอร์โพล' ชี้ ประชาชนวางใจ 'ประยุทธ์' มากที่สุด ในด้านการดูแลกองทัพ - สาธารณะสุข - ระบบดิจิทัล

(16 ต.ค. 65) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ความมั่นคงของชาติ กับ ภาคประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,176 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12-15 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

>> นักการเมืองที่ประชาชนวางใจมากที่สุดในการทำให้กองทัพเป็นทหารอาชีพ อยู่นอกการเมือง ทำให้กองทัพมีขนาดและขีดความสามารถที่เหมาะสม จำแนกตาม กลุ่มขั้วการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและกลุ่มตัวช่วย หรือกลุ่มซอฟต์โหวต (Soft Vote) พบว่า ในขั้วรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความวางใจจากประชาชนมากที่สุด คือร้อยละ 29.3 รองลงมาคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 14.2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 6.1 และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ร้อยละ 3.7

ในขั้วฝ่ายค้าน พบว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ร้อยละ 20.7 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ร้อยละ 9.0 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้ร้อยละ 3.8 ในขณะที่ ขั้วกลุ่มตัวช่วย หรือ กลุ่มซอฟต์โหวต (Soft Vote) ได้แก่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ร้อยละ 5.4 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 4.3 และอื่น ๆ ร้อยละ 3.5 ตามลำดับ

>> ที่น่าพิจารณาคือ ในยุคกระแสรัฐบาลดิจิทัลที่คนไทยส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์ นักการเมืองที่ประชาชนวางใจมากที่สุดเรื่อง การป้องกันและตอบโต้การโจมตีระบบสื่อสาร อินเทอร์เน็ต ความปลอดภัยของเครือข่ายการเงิน ผลประโยชน์ของประชาชนและสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่าในขั้วฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความวางใจจากประชาชนมากที่สุด ร้อยละ 24.1 รองลงมาคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 14.6 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 6.9 และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 2.8

ในขั้วฝ่ายค้าน พบว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ร้อยละ 21.3 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 9.7 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 3.5 ในขณะที่ ขั้วกลุ่มตัวช่วยหรือกลุ่ม ซอฟต์โหวต (Soft Vote) พบว่า ประชาชนวางใจมากที่สุดได้แก่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ร้อยละ 8.4 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 4.8 และอื่น ๆ ร้อยละ 3.9 ตามลำดับ

'แรมโบ้' ชี้ นายกฯ ไม่สนใจพวกใช้น้ำลายหากิน เตือน 'โน้ส อุดม' พูดอะไรก็ระวังกม. ยุยงปลุกปั่น

(16 ต.ค. 65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี 'เดี่ยว 13' ของโน้ส อุดม แต้พานิช ที่ได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และนายกฯ นั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่อย่าถึงขั้นลิดรอนสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ทำให้เสื่อมเสีย และที่ผ่านมา นายกฯ ประยุทธ์ ก็เปิดกว้างพร้อมที่จะรับฟังข้อท้วงติง ข้อเสนอแนะ และนำมาปรับใช้ในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว

นายเสกสกลกล่าวว่า ไม่เพียงแต่บุคคลทั่วไปที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งฝ่ายค้านที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเห็นว่านายกฯ ประยุทธ์ ก็พร้อมรับฟัง แต่หากข้อมูลใดเป็นเท็จ หรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ชี้แจงไปตามกระบวนการในระบอบรัฐสภา 

ส่วนกรณีนายโน้ส อุดม แต้พานิช ที่เป็นกระแสสองสามวันที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นท่านนายกฯ ประยุทธ์ออกมาตอบโต้ หรือจะฟ้องร้องเอาผิดอะไร ท่านนายกฯ เจอในสภาฯ มา ฝ่ายค้านอภิปรายหนักยิ่งกว่านี้ก็ยังอดทนได้ จะไปสนใจอะไรกันกับนักพูดคนหนึ่งไม่ต่างนักโต้เวทีสภาโจ๊กเท่านั้น ในมุมมองของตนคิดเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามที่มีกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลท่านนายกฯ ประยุทธ์ ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้นายโน้ส อุดม หรือบางคนจะฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดนายโน้ส อุดม ก็เป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งคนที่เห็นว่า นายโน้ส อุดม ทำไม่ถูกก็เป็นสิทธิแต่ละคนที่จะไปดำเนินการเอง ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องว่านายกฯ เป็นคนสั่งการเลยสักนิด เพราะท่านนายกฯ อดทนกับเสียงนกเสียงกามามากต่อมาก ท่านเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคงไม่เก็บพวกปากหอยปากปูมาเป็นสาระ อดทนตั้งใจทำงานบริหารบ้านเมืองดีกว่าเพราะขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วม ได้รับความทุกข์หลายจังหวัด พี่น้องคนไทยส่วนใหญ่รวมพลังร่วมใจทำหน้าที่จิตอาสาลงไปดูแลเยียวยา หาเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือพี่น้องที่ถูกน้ำท่วมกันอย่างล้นหลาม คงไม่มีเวลามานั่งฟังพวกใช้น้ำลายใช้วาทะกรรมจากปากหากิน หารายได้ พูดมากจนน้ำลายท่วมปาก เที่ยวบูลลี่ด่าทอ ล้อเลียนคนอื่นไปวันๆ อย่างนี้หรอก เอาเวลาออกไปช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนน้ำท่วมได้บุญกุศลมากกว่ากันเยอะเลย

"ใครที่ชอบออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีคนที่เขารักเขาศรัทธาและที่เขาสนับสนุน เขาก็พร้อมจะออกมาปกป้อง ถ้าหากว่าคุณพูดข้อมูลเป็นเท็จ สร้างความเข้าใจผิดจนเกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสีย พฤติกรรม
เช่นนี้อย่ามาเที่ยวอ้างสิทธิเสรีภาพหรืออ้างประชาธิปไตยเลย คุณก็ต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อคำพูดด้วยเช่นกัน ถ้ามีใครออกมาดำเนินคดีกับคุณ ไม่ใช่อ้างแต่เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหรือประชาธิปไตยของตัวข้าเพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายที่คิดไม่เหมือนกลายเป็นเผด็จการ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยหรอก เขาเรียกว่า พวกอคตินิยม ความคิดเห็นแก่ตัวเข้าข้างตัวเองของพวกข้าคือความถูกต้องมากกว่า นี่มันสิทธิเสรีภาพแบบไหนกัน" นายเสกสกล กล่าว

'ปู-จิตกร' ชี้!! จุดอ่อนฝ่ายตอบโต้กรณี 'โน้ส เดี่ยว 13' ไม่ได้ทำให้เกิดความจริงที่กระจ่างและน่าฟังกว่า

(15 ต.ค. 65) ปู จิตกร บุษบา พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีโน้ส อุดม แต้พานิช ว่า...

สรุป : เมื่อนำความคิดเห็นของคนเหล่านี้มาเรียงเข้าด้วยกัน สิ่งที่เราควรเห็น คือ...

1.ทุกคนคิดบน “จุดยืนทางการเมือง” ของตัวเอง ทำให้ไม่สามารถเห็น “ภาพรวมของเรื่อง” ได้ จนกว่าจะนำภาพหลายๆ ภาพ มาต่อกันกันดังที่ปรากฏในบทความนี้ ปัญหาคือ ทำอย่างไร ให้คนในสังคมไทยคิดจาก “ความรู้” โต้แย้งกันที่ “ตัวประเด็น” ก่อน “ตัวคน” และก่อน “ความรู้สึก

2.เอาเฉพาะ “ความจริง” ปัจจุบันก็มี “ความจริงของใครของมัน” อีก เช่น ทักษิณ ชินวัตร มีพฤติกรรมคอร์รัปชันและใช้อำนาจในตำแหน่งนายกฯ เพื่อประโยชน์ของตนและครอบครัวมากมาย มีคำพิพากษาปรากฏให้อ่าน ให้ศึกษา คนจำนวนหนึ่งก็ยังเชื่อว่า ทักษิณดี เขาถูกกลั่นแกล้ง อยากให้เขากลับมา กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ต่างกัน พวกหนึ่งบอกท่านมีผลงานเยอะแยะ อีกพวกรวมทั้งโน้สด้วย บอกไม่มีผลงาน ทั้งๆ ที่เรื่องผลงานเป็นเรื่องรูปธรรมแท้ๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนระดับนำในสังคมต้องช่วยกันทำ คือนำพาผู้คน “ตีฝ่าความรู้สึก ชอบใจ/ขัดใจ” ไปสู่ความคิด ความรู้ และการโต้แย้งกันด้วยข้อเท็จจริง หลักการ เหตุผล ไม่ใช่ไม่ชอบที่ “เดี๋ยว 13 แขวะ” แต่ก็แขวะกลับเรื่องธรรมกาย เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top