Monday, 7 July 2025
POLITICS NEWS

'เพื่อไทย' จี้ รัฐฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย-ค่าครองชีพให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย กรรการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เร่งลดภาระของประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าซ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง ต้องเร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ล่าสุดผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ต้องเสียภาษีตัวอาคารสถานีบริการน้ำมัน อาคารค้าปลีก ห้องน้ำและอื่น ๆ อยู่แล้ว และได้ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีบริเวณถนน ลาน รั้ว ซึ่งจะได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจได้บ้าง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากกรรมการภาษี และกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐเลือกที่จะจัดเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม สร้างภาระให้กับภาคธุรกิจ

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ เรื่องราคาน้ำมันโดยเฉพาะเรื่องราคาหน้าโรงกลั่นของไทย ที่มีราคาสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ และสูงกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นไทยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเอาเปรียบคนไทยที่ต้องซื้อราคาที่แพงกว่า ทั้งที่ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางส่งมาไทยและส่งมาสิงคโปร์ก็เท่ากัน ประสิทธิภาพการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของไทยกับสิงคโปร์ก็ใกล้เคียงกัน อีกทั้งโรงกลั่นไทยยังขยายการกลั่นเป็นแสน ๆ บาเรลต่อวันเพื่อส่งออก แสดงว่าราคาส่งออกก็ต้องกำไรมากแล้ว การคิดราคาหน้าโรงกลั่นไทยสูงกว่าราคาสิงคโปร์จึงเป็นการเอาเปรียบประชาชนไทยมากเกินไป 

'เพื่อไทย' งัด 8 ตราบาปตอกหน้า 'ประยุทธ์' ชี้!! ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งเสื่อม แนะควรสำนึกได้แล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (25 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตกต่ำอย่างสุดขีด แทนที่พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ตัวและแก้ไข กลับส่งคนออกมาโต้ ล่าสุดถึงขนาดให้คนของตัวเองออกมาอวยว่าทำได้ดี ทิ้งมรดกความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศ ซึ่งต่างกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงอยากให้ข้อมูลความจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ทิ้งมรดกที่เหมือนกับตราบาปของคนไทยไว้ 8 เรื่องดังนี้ 

1.) ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศ ไทยพัฒนาน้อยที่สุด จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ไทยได้ฉายาเป็นคนป่วยของเอเชีย ถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงทุกด้าน เป็นมรดกความตกต่ำทางเศรษฐกิจ

2.) เป็นช่วงที่ประเทศก่อหนึ้มากสุดแต่ไม่พัฒนา มีหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้าน กู้เงินมากที่สุด แต่เศรษฐกิจขยายต่ำสุด ลูกหลานต้องมาใช้หนี้กว่า 5 ล้านล้านบาท หรือกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดด้วย ประชาชนก็มีหนี้ครัวเรือนสูงสุดประมาณ 15 ล้านล้านบาท หนี้เสียและหนี้นอกระบบสูงที่สุดด้วย เป็นมรดกหนี้ล้นทะลัก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า 3.) ค่าครองชีพแพงสุด ทั้งราคาสินค้าและบริการ น้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้าแพงที่สุด เงินเฟ้อมากสุด แต่รายได้ของคนไทยไม่เพิ่มแถมลดลง เป็นมรดกสินค้าแพง

'จุรินทร์' ย้ำ ประชาธิปัตย์ ไม่เอายาเสพติด! หนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี หวั่น สร้างปัญหาอนาคตชาติระยะยาว

วันนี้ (25 ต.ค. 65) เวลา 09.00 น. ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ.... ที่จะมีการเสนอเป็นระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ว่า 

ประชาธิปัตย์ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี อันนี้ถือว่าเป็นจุดยืน เพราะฉะนั้นรายละเอียดต่อมาก็จะใช้หลักนี้ในการพิจารณาต่อไปในการดำเนินการ

“กัญชาทางการแพทย์นั้นเป็นประโยชน์ แต่กัญชาเสรี อย่างน้อยที่สุดมันจะสร้างปัญหาให้กับอนาคตของประเทศระยะยาว อันนี้จึงเป็นที่มาที่เราบอกชัดเจนว่าเราไม่สนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาที่จะไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวย้ำ

เปิด 8 ผลกระทบ ส่งฝนกระหน่ำหนักไทยครึ่งปีหลัง 65 ภายใต้การกู้สถานการณ์เร็ว ลดสูญเสียหนัก จากรบ. 'บิ๊กตู่'

นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากสภาพภูมิอากาศ เกิดร่องมรสุม และพายุอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณฝนตกเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง 

ส่งผลให้ในปีนี้ประเทศไทยมีสถิติฝนตกสูงมากกว่าปกติ และในบางจังหวัดทุบสถิติฝนตกมากที่สุดในรอบ 30 ปี

ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีดังนี้...

1. ร่องมรสุมพัดพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 

ส่งผลให้ฝนตก และฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย หลายพื้นที่ในภาคเหนือ, ตะวันตก, ตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่า 125  มิลลิเมตร (125 ลิตรต่อตารางเมตร) ในหลายพื้นที่

2. พายุดีเพรสชัน มู่หลาน ระหว่างวันที่ 11 – 13 สิงหาคม

ส่งผลให้ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมแทบจะทุกภูมิภาคของประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือจังหวัดน่านตอนบนที่ รองลงมาคือเชียงรายและเชียงใหม่, กาญจนบุรี, สระแก้ว และปราจีนบุรี 

ในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตร (100 ลิตรต่อตารางเมตร)

3. ร่องมรสุมพัดพาดผ่านภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 20 – 22 สิงหาคม

ส่งผลให้ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือจังหวัดยโสธร, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, น่าน, พังงา และระนอง รองลงมาคือจังหวัด สกลนคร, อุดรธานี, พิษณุโลก, จันทบุรี และตราด 

ในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตร (100 ลิตรต่อตารางเมตร)

4. พายุดีเพรสชัน หมาอ๊อน ระหว่างวันที่ 24 – 26 สิงหาคม

ส่งผลให้ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือจังหวัดปราจีนบุรี, ลำปาง, พังงา และภูเก็ต รองลงมาคือจังหวัดลพบุรี, นครสวรรค์, ชัยนาท, สิงห์บุรี และกระบี่ 

ในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตร (100 ลิตรต่อตารางเมตร)

5. ร่องมรสุมกำลังแรงพัดพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 5 – 9 กันยายน

ส่งผลให้ฝนตก และฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือกรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, ปทุมธานี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, เลย, ตาก, นครสวรรค์, พิษณุโลก, ระนอง, พังงา และสุราษฎร์ธานี รองลงมาคือจังหวัดปราจีนบุรี, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, เชียงใหม่, เชียงราย และ กำแพงเพชร

บางพื้นที่มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่า 200 มิลลิเมตร (200 ลิตรต่อตารางเมตร)

6. ร่องมรสุมพัดพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 6 – 11 กันยายน

ส่งผลให้ฝนตก และฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือกรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, ปทุมธานี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, สระแก้ว, ปราจีนบุรี, นครราชสีมา, เลย, อุดรธานี, หนองบัวลำภู, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, นครสวรรค์, เชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, ลำปาง, ระนอง และพังงา

บางพื้นที่มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่า 300 มิลลิเมตร (300 ลิตรต่อตารางเมตร)

7. พายุดีเพรสชัน โนรู ระหว่างวันที่ 28 – 30 กันยายน

ส่งผลให้ฝนตก และฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย พื้นที่ที่ฝนตกอย่างหนักคือจังหวัดอุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, นครสวรรค์, เพชรบูรณ์, ลพบุรี, ระนอง, พังงา. สุราษฎร์ธานี และสตูล รองลงมาคือจังหวัดเลย, อุดรธานี, ตาก และชุมพร

‘บิ๊กตู่’ ยันตามติด!! ไม่ปล่อยน้ำท่วมทุ่งนาน พร้อมเทงบ 504 ล้าน ดูแล 16 โครงการ

นายกฯ ยันรัฐบาลไม่ปล่อยน้ำท่วมทุ่ง ระบุไม่นิ่งนอนใจสั่งเร่งระบายน้ำออกทันที พร้อมจัดสรรงบบริหารจัดการในพื้นที่ 16 โครงการ วงเงิน 504 ล้าน

เมื่อ (24 ต.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ปัญหาการระบายน้ำ และรัฐบาลได้ดูแลจัดสรรงบประมาณแผนงาน โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ปี 65 มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 16 โครงการ วงเงิน 504 ล้านบาท ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,476 ครัวเรือน และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 6,569 ไร่ ตัวอย่างโครงการ ได้แก่...

1. แก้มลิงลำบางชัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี (สำนักชลประทาน) 

2. อาคารป้องกันตลิ่งแม่น้ำน้อย ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน (สำนักชลประทาน) 

3. ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสิงห์บุรี ระยะที่ 2 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) 

4. งานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ ต.ม่วงหมู่ อ.เมืองสิงห์บุรี (การประปาส่วนภูมิภาค) โดยได้กำหนดแผนงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งสำรวจดูแลความเดือดร้อน เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งเร่งระบายน้ำให้เร็วขึ้น เพื่อลดความเสียหายให้กับประชาชน และมีระบบการแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

'เพื่อไทย' ไม่ปิดกั้นตั้งรัฐบาลกับ ‘พลังประชารัฐ’ บนเงื่อนไขต้องไม่หนุน 'บิ๊กตู่' เป็นนายกฯ แต่ยังเชื่อฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงเพียงพอ

24 ต.ค.2565 - นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงท่าที ไม่ปิดกั้นการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ หากมีจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะวางแผนล่วงหน้าไม่ได้ แต่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็อยากตั้งรัฐบาลกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่อยากตั้งกับฝ่ายอื่น ต้องรอดูสถานการณ์จริงๆหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร การรวมเสียงเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลจะพอหรือไม่ ถ้าเสียงไม่พอจริงๆต้องหาจากอีกฝั่งมาสมทบ ต้องดูพรรคที่เป็นไปได้มากที่สุด และดูนโยบายพรรคประกอบด้วยว่าใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ว่า จะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ จะต้องสนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐ มนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพียงคนเดียว ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่ นายสุทินตอบว่า พร้อมทำงานกับทุกพรรคที่มีจุดยืนใกล้เคียงกัน ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีทางเลือก พร้อมจับมือกับฝ่ายรัฐบาลทุกพรรค เป็นไปได้ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ต้องดูสถานการณ์ข้างหน้าประกอบด้วย ถ้าจะเอาฝ่ายรัฐบาลมารวมด้วยก็ต้องดูพรรคที่จะมาร่วมทำงานด้วย ต้องมีขนาดพอมีความเหมาะสม ถ้ารวมกันแล้วมีเสียงมากเกินไป คงไม่เอา ต้องมีเสียงมั่นคงในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่าเสียงฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันรวมกันแล้วยังเพียงพอตั้งรัฐบาลได้

‘ชัยวุฒิ’ ลั่น ยังเร็วไป พท.ตั้งเงื่อนไขร่วมรัฐบาลไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ ชี้ ให้รอดูเลือกตั้ง มั่นใจ ‘พปชร.’ ยังเป็นพรรคแกนนำ เชื่อ ‘นายกฯ’ ไม่เป็นสมาชิกพรรค ไม่ใช่จุดอ่อน หวังปชช.ยังเลือก ยัน ไม่ทิ้งพปชร.ซบพรรคอื่น

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่สนามกีฬาอบจ.สิงห์บุรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นข้อเสนอให้พรรคที่จะจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยตั้งเงื่อนไข ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา พรรคพปชร.รับได้หรือไม่ ว่า  เรื่องแบบนี้ตอบกันไม่ได้หรอก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการยื่นเงื่อนไข หากไม่มีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  ก็อาจจะจับมือ กับพรรคเพื่อไทยได้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มองว่าเรื่องนี้ยังเร็วไปที่จะคุย ที่จะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอผลการเลือกตั้งก่อน รวมไปถึงเสียงส.ส.ในสภา และนโยบายของแต่ละพรรค แต่โดยหลักการของพรรคพปชร.จะเน้นทำงานเพื่อประชาชนและทำตามนโยบายที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน อะไรที่สร้างปัญหาให้กับประชาชน หรือสร้างความแตกแยก เราจะไม่เอาด้วยอยู่แล้ว 

เมื่อถามย้ำว่าฟังจากเงื่อนไขแล้วสามารถรับเงื่อนไขได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมารับหรือไม่ เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งแล้วค่อยมาคุยกันอีกทีดีกว่า แต่ถ้าเป็นพรรคใหญ่ที่จะจับมือร่วมกับรัฐบาลคงเป็นไปได้ยาก เพราะการเมืองต้องรอการตรวจสอบ แต่ตนมั่นใจว่าพรรคพปชร.ยังเป็นพรรคใหญ่  เพราะขณะนี้ยังเป็นอยู่  

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. ถือเป็นจุดอ่อนหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขออย่าใช้คำว่าไม่ชัดเจน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ส่วนแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีใครบ้าง คงยังไม่ถึงเวลา และต้องดูอยู่ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร โดยพล.อ.ประยุทธ์ สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ได้เนื่องจากยังมีเวลาอยู่

'เพื่อไทย' อัด 'ประยุทธ์' ปล่อยชาวอุบลฯ จมบาดาลหลายเดือน ฟาก 'อิงค์' เตรียมหอบคณะลุยน้ำให้กำลังใจ 24 ต.ค.นี้

(23 ต.ค.65) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังน่ากังวลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศในขณะนี้ว่า ปริมาณน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่น้ำท่วมหนักกว่าปี 2554 และปี 2562 เช่น จ.อุบลราชธานี ประชาชนต้องทนอยู่กับน้ำท่วมนานหลายเดือน บางพื้นที่บ้านเรือนท่วมจมบาดาลมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังคงไม่ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาจากภาครัฐเท่าที่ควร มีแต่หน่วยงานท้องถิ่นที่ร่วมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามยถากรรม ซึ่งยังไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึงกับวิกฤติการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือถูกผูกมัดด้วยกฎเหล็กของ กกต.180 วัน เหมือน ส.ส.และพรรคการเมือง พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจสูงสูดของฝ่ายบริหาร สามารถสั่งการเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที แต่กลับกลายเป็นว่าการลงพื้นที่น้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นเพียงแค่ไปรับฟังการรายงานจากหน่วยงานเฉพาะหน้าเท่านั้น เป็นนายกฯ ที่มองไม่เห็นปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าปัญหาจะกองอยู่ตรงหน้าก็ตาม ไร้มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนจากภาครัฐที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้  ปล่อยให้ประชาชนลอยคอรอความช่วยเหลือนับเดือน

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า ถึงแม้พรรคพท.จะเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจบริหารในมือ แต่ที่ผ่านมาพรรคพท.และ ส.ส.ของพรรคก็ไม่เคยนิ่งดูดายต่อความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในสภาวะที่ยากลำบากแสนสาหัสที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ ที่ผ่านมาพรรคพท.ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด อีกทั้งยังมีหลายข้อเสนอแนะทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้แก่รัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและทันท่วงที แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร

ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ต.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พร้อมด้วย ส.ส.อุบลราชธานี จะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจและสอบถามรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนของพี่น้องชาวอุบลราชธานีเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ส.ส.เพื่อไทยได้เคียงข้างร่วมทุกข์กับพี่น้องชาวอุบลราชธานีมาอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรียินดีและชื่นชม 'โตโน่' ทำความดีเพื่อสังคม

นายกรัฐมนตรียินดีและชื่นชม 'โตโน่' ทำความดีเพื่อสังคม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความชื่นชม นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักร้องและนักแสดง และยินดีที่สามารถบรรลุภารกิจว่ายน้ำข้ามลำน้ำโขง ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อกิจกรรม One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจคนไทยคงไว้ซึ่ง ม.112 ไว้ใจ 'ตู่-ป้อม-หนู' ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความจำเป็นของ ม.112 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 2,007 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลสำรวจพบว่า...

ทั้งนี้ในหัวข้อที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.4 ระบุ จำเป็นที่จะต้องรักษากฎหมาย มาตรา 112 เอาไว้เช่นเดิม เพราะการมีอยู่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติ สิทธิส่วนบุคคล และยังช่วยรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้ ในขณะที่ร้อยละ 4.6 ไม่จำเป็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.6 ระบุจำเป็นที่ ประมุขของทุกประเทศต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีกฎหมายคุ้มครอง ในขณะที่ ร้อยละ 2.4 ระบุไม่จำเป็น ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.0 ระบุ จำเป็นต้องมีกฎหมายป้องกัน การล้มล้างสถาบันหลักของชาติ จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี บิดเบือน ใส่ร้าย และจาบจ้วง ในขณะที่ร้อยละ 3.0 ระบุไม่จำเป็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 เห็นด้วยว่า ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ช่วยหลอมรวมใจของ คนในชาติ ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็ตาม ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของทุกคนเป็นส่วนรวมตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ ร้อยละ 2.8 ระบุไม่เห็นด้วย

เมื่อถามถึง นักการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นวางใจ ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 79.6 และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 75.6 ตามลำดับ

โดยผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนเกือบร้อยละร้อยเห็นความสำคัญของสถาบันหลักของชาติได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนที่สามารถหลอมรวมจิตใจของประชาชนภายในประเทศไม่ว่าเชื้อชาติใดก็ตามเพื่อความมั่นคงผาสุกของทุกคนและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในผลการศึกษาที่ผ่านมาเคยพบว่าประชาชนเกือบร้อยละร้อยเช่นกันที่ระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติมีส่วนช่วยดูแลบำรุงสุข บำบัดทุกข์ของราษฎร และทุกครั้งที่เกิดวิกฤตขึ้นในชาติและในหมู่ประชาชนสถาบันพระมหากษัตริย์มีความรวดเร็วฉับไวเข้าช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูให้วิกฤตการณ์ต่าง ๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมก่อนเกิดวิกฤตการณ์อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top