Sunday, 6 July 2025
POLITICS NEWS

‘ฝ่ายค้าน’ จ่อยื่นญัตติอภิปรายม.152 กลางพ.ย. ปิดทางรัฐบาลยุบสภาฯ หนี หลังจบการประชุมเอเปก

‘ชลน่าน’ เผยอภิปรายทั่วไป ม.152 ต้องหลบเหตุกราดยิงหนองบัวฯ - น้ำท่วมซ้ำซาก คาดยื่นญัตติ 15-16 พ.ย.นี้ เริ่มถล่มกลางเดือนธ.ค. หวั่นเกิดอุบัติเหตุการเมืองยุบสภาฯ 24 ธ.ค. เย้ย ขนงบฯ ลดแลกแจกแถมเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลแล้ว

(29 ต.ค. 65) ที่รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า จากเดิมที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนจะยื่นตั้งแต่เปิดสภาฯ แต่มีเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องนำเป็นเรื่องด่วนมากกว่า คือ ญัตติด่วนเรื่องโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู และปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จึงจำเป็นต้องเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปเป็นช่วงกลางเดือนพ.ย. คาดว่าเป็นช่วง วันที่ 15-16 พ.ย. 65 และคาดว่าจะได้อภิปรายในช่วงกลางเดือนธ.ค. โดยญัตติดังกล่าวจะเป็นการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน สอบถามปัญหาและเสนอแนะแนวทางให้ผู้บริหารนำไปปรับใช้ 

‘ฝ่ายค้าน’ จัดเสวนา ‘ถอดบทเรียนเหตุการณ์หนองบัวลำภู’ ชี้!! สาเหตุหลักมาจาก ‘องค์กรสีกากี - ยาเสพติด - อาวุธ’

ฝ่ายค้าน จัดเวทีเสวนา ‘กราดยิงหนองบัวฯ’ ด้าน ‘ชลน่าน’ ฝากถอดบทเรียนแรงจูงใจ - สภาพจิต - ระบบคัดเลือกบุคคล แอบแซะ ‘บิ๊กป้อม’ ใจบันดาลแรง จากเด็กสมบูรณ์ในขวดซีอิ้ว โดดใส่กางเกงยีนส์มีแรงฮึกเหิม ‘สุทิน’ อัด รัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดล้มเหลว ยาเกลื่อน - คนเสียสติเยอะ ขณะที่การแก้กม.ยาเสพติดผิดพลาด กระบวนการบำบัดไม่เข้มแข็ง จี้ ทบทวนการครอบครองอาวุธปืน ด้าน ‘นภาพร’ ชี้ รัฐบาลแก้ปัญหาเหมือนเสือกระดาษ กระแสลด ยา - อาวุธ ยังอยู่เหมือนเดิม ขณะที่ ‘โรม’ เสนอ 7 ข้อแก้ปัญหาเกิดซ้ำ ยกงานวิจัยสหรัฐฯ ชี้ผู้ก่อเหตุพรากชีวิตผู้อื่นแก้แค้นความเจ็บปวด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่โรงแรม อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 66 จัดเวทีเสวนา ‘ถอดบทเรียนเหตุการณ์หนองบัวลำภู’ โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 65 เกิดเหตุโศกนาฎกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิต 37 ราย เป็นเด็กถึง 24 ราย แบ่งเป็นเด็กเล็ก 23 ราย และเด็กประถมวัย 1 ราย วันนี้ฝ่ายค้ายไม่ได้ต้องการตอกย้ำการสูญเสีย หรือพูดเพื่อหาเสียง แต่เป็นการหาทางออกให้ประเทศ และเป็นการถอดบทเรียน จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวทีในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากนั้นจะได้นำการถอดบทเรียนนี้ไปใช้ในการตรวจสอบถ่วงดุลในสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านจะได้ยื่นญัตติด่วน เรื่องเหตุการณ์หนองบัวลำภู ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เพื่อนำไปเป็นข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป  

ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้รับเป็นการลงทุนที่เสียหายใหญ่หลวง และในภาพการลงทุนเหตุครั้งนี้ไม่มีกำไร ยิ่งถ้าไม่ได้พูดคุยกันอีกยิ่งขาดทุน ตอนนี้ทราบถึงสภาพปัญหาแล้ว แต่สิ่งที่อยากฝากให้ถอดบทเรียน คือ สาเหตุแรงจูงใจว่าเกิดเพราะอะไร เหตุใดตำรวจนอกราชการที่ถูกไล่ออก เพราะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจึงมีพฤติการณ์เช่นนี้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เรื่องการใช้อาวุธปืนไม่อาจปฏิเสธได้ มีคำพูดจากนักวิเคราะห์ ว่าสาเหตุมาจาก 2 เถื่อน คือ ปืนเถื่อนกับคนเถื่อน ถ้าปืนถูกกฎหมายแสดงว่าปืนไม่เถื่อน แต่คนกราดยิงคือคนเถื่อน ฉะนั้น สิ่งที่ไม่อาจละเลยได้คือปัญหาสภาพจิตในสังคมไทยปัจจุบัน เชื่อหรือไม่ลูกหลานของเรา 20 ปีที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก สังเกตหรือไม่ความอดทนหรือการตอบสนองต่อสิ่งบีบคั้นในคนรุ่นใหม่ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากในอดีต การยับยั้งชั่งใจไม่เกิดขึ้น เป็นปฏิกิริยาเกี่ยวเนื่องกับทางด้านจิต

“ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจคิดอย่างไรกายจะเป็นเช่นนั้น ปกติเราใช้แรงบันดาลใจ อ.ที่มาเป็นวิทยากรบรรยายอายุ 67 ปี แต่ผมบอกว่าเพิ่ง 57 ปี อ.เลยตอบกลับว่าใช้แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ใช้ใจบันดาลแรง ปกติเราใช้แรงบันดาลใจ แต่กลับมีใครคนหนึ่งบอกว่าต้องใช้ใจบันดาลแรง และเขาก็พิสูจน์ชัดตอนขึ้นมาเป็นรักษาการนายกฯ ดูมีแรง มีกำลังใจฮึกเหิมมาก จากอยู่ในขวดซีอิ้วอยู่ดีๆ กลายเป็นแหนมป้าย่นได้ ใส่กางเกงยีนส์ เป็นเด็กสมบูรณ์อยู่ในขวดซีอิ้ว พอได้เป็นรักษาการนายกฯ ออกมาเป็นแหนมป้าย่น ใส่กางเกงยีนส์ มีแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่พอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าให้คนเดิมกลับมาทำหน้าที่ต่อทุกอย่างก็แผ่ว ฉะนั้น เรื่องจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ” ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุ 

นพ.ชลน่าน กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอฝากให้เวทีถอดบทเรียนเกี่ยวกับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ราชการในสังคมไทย สมัยยังเป็นหมอ มีข้าราชการตำรวจโดนเด้งจาก จ.นราธิวาส มายัง จ.น่าน สุดท้ายก่อเหตุเอาปืนจี้พนักงานปกครองและลงมือยิงจึงอยากให้มีการถอดบทเรียนประเด็นนี้ด้วยว่าควรจะมีการคัดเลือกเข้ามาอย่างไร

จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุการณ์หนองบัวลำภู เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และละเลยไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ปัจจุบันยังคงอยู่ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากคนขาดสติสัมปชัญญะ แต่อะไรที่ทำให้เขาเสียสติ ซึ่งตนคิดว่าอันดับแรก คือ ยาเสพติด ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูก็เกิดจากยาเสพติด วันนี้รัฐบาลพยายามยืนยันตลอดว่าปราบปรามยาเสพติดแล้ว และปฏิเสธตลอดว่าไม่มียาเสพติดแล้ว ทั้งที่ทุกวันนี้ในหมู่บ้าน และชุมชน น่าเศร้าใจมาก ยาเยอะ เม็ดละ 10 บาท เป็นตัวชี้วัดว่ายามีเยอะเข้าถึงง่าย 

นอกจากนี้ คนบ้าแล้วมีอาวุธในมือก็เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรมมีสูง บ้านเราอาวุธที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีน้อยกว่าปืนเถื่อน 3 เท่า ดังนั้น ประเทศเราจึงมียาบ้าเยอะ อาวุธปืนเยอะ และคนที่อยู่ในกลุ่มที่มีอำนาจมากแต่มีสติน้อย ก็เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุมากที่สุด เพราะหากมีอำนาจ มีอาวุธ แล้วเกิดมีความไม่เป็นธรรมไปกดทับเขาก็จะเกิดเหตุได้ง่าย 

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเราแก้กฎหมายปรายปรามยาเสพติดผิดพลาด ทำให้คนอย่างผู้ก่อเหตุที่หนองบัวลำภู ซึ่งอยู่ในระดับสติสุ่มเสี่ยงแบบนั้นมีอยู่ทุกหมู่บ้าน เพียงแต่ยังไม่ก่อเหตุเพราะไม่มีเรื่องที่เป็นชนวนเหตุ กฎหมายล่าสุดใครพกยาไม่เกิน 15 เม็ด ถือว่าไม่ใช่ผู้จำหน่าย จะต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม ส่วนข้อหาผู้เสพมีการแก้ไขว่า ผู้เสพคือผู้ป่วย พอจับได้จะดำเนินคดีทันทีไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องถามความสมัครใจว่ายินดีจะเข้าบำบัดหรือต่อสู้คดี 

ซึ่งส่วนใหญ่เลือกวิธีการบำบัด เหตุผลหนึ่งของการแก้กฎหมาย เพื่อต้องการลดจำนวนคนติดคุก แต่ปัญหาคือเมื่อส่งไปบำบัด กระบวนการบำบัดของบ้านเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่ให้เขาเลิกยาได้ เมื่อกลับบ้านไปก็เป็นระเบิดเวลาของครอบครัว มีการขู่ ทำร้ายคนในครอบครัว และเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน 

ถามว่าวันนี้องค์การสีกากีกับองค์กรสีเขียว ได้ตื่นรู้ ปฏิรูป และแก้ปัญหาแล้วหรือไม่ องค์กรที่มีอำนาจ มีอาวุธ อย่างองค์กรตำรวจ และทหาร ต้องปฏิรูปตัวเองด่วน การจะขึ้นสู่ตำแหน่งได้ต้องจ้าง ทำให้เกิดระบบรีดเงิน บีบให้คนดีๆ ต้องหาเงิน เอาไปแลกเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ยาบ้าก็เลยเต็มบ้านเมือง เลี้ยงยาไว้ขายหลายๆ รอบเอาเงินไปซื้อตำแหน่ง ถ้าไม่ปฏิรูปก็จะทำให้คนในองค์กรแบบนี้หาเงินด้วยวิธีแบบนี้ วันนี้โครงสร้างปัญหายังมีครบทั้งยาเสพติด อาวุธ และความไม่เป็นธรรม ประกอบกับจุดสปาร์กอย่างปัญหาเศรษฐกิจ ที่วันนี้รัฐบาลทำให้คนอดอยาก หนี้สินรุมเร้า อาชีพหดหาย ดังนั้น รัฐบาลต้องจัดการโครงสร้างปัญหาเหล่านี้ให้ครบ คือ ต้องจัดการยาเสพติด จัดระเบียบการซื้อ และครอบครองอาวุธปืนใหม่ วันนี้ถึงเวลาทบทวนหรือยัง ว่าการให้มีปืนทุกคนกับไม่ให้มีปืนสักคนแบบไหนจะดีที่สุด  

‘ชลน่าน’ ไม่หนุน ‘กัญชาเสรี’ เว้นใช้เพื่อการแพทย์ แต่พร้อมผลักดัน ‘พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า’ เต็มสูบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่) พ.ศ. ... จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนในการสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีเพื่อสันทนาการ จึงมีความคาดหวังในกฎหมายนี้ว่าต้องเป็นกฎหมายควบคุมไม่ให้มีคำว่า ‘กัญชาเสรี’ แต่ในร่างกฎหมายหละหลวมมาก ไม่มีมาตรการควบคุมคำว่า ‘กัญชาเสรี’ 

‘รัฐบาล’ เดินหน้าปราบมิจฉาชีพฉ้อโกงออนไลน์ สั่ง ‘ดีอีเอส’ ประสานทุกฝ่ายดำเนินคดีผู้กระทำผิด

รัฐบาลเอาจริงปราบฉ้อโกงออนไลน์ มอบดีอีเอสประสานดีเอสไอ สตช. แบงก์ชาติ เร่งแก้ไข พร้อมติดตามการดำเนินคดีผู้กระทำผิด รวบรวมผลรายงานนายกรัฐมนตรีใน 30 วัน พร้อมหนุนป้องกันเยาวชนจากภัยออนไลน์

(29 ต.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการเงินนอกระบบ เช่น แชร์ลูกโซ่ การเล่นแชร์ และการขายตรง การพนันออนไลน์ รวมทั้งการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ โดยคนร้ายมักปรับรูปแบบและวิธีฉ้อโกงและหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อโดยมิรู้เท่าทัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาที่ประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อน 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหา ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด และหากเป็นกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการทำผิดนั้นจะต้องลงโทษเด็ดขาด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังได้มีการหารือถึงปัญหาดังกล่าวและได้มีมติให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอความร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรม และให้เร่งติดตามการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย 

และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรวบรวมผลการดำเนินการและรายงานต่อนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วันโดยภายหลัง ครม. มีมติมอบหมายเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65 นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ได้เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ ดีเอสไอ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สตช. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางเร่งรัดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างเร่งด่วน

‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์ค้านรัฐบาล หลังออกกฎกระทรวงปล่อยต่างด้าวซื้อที่ดิน

(29 ต.ค. 65) พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงเรื่อง การซื้อที่ดินของคนต่างด้าวที่รัฐบาลผลักดัน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยวิตกกังวลและไม่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงที่รัฐบาลจะออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ เนื่องจากการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว จะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างกว้างขวาง แทนที่จะคำนึงถึงการช่วยเหลือคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเองทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตที่ลูกหลานเติบโตขึ้นมาจะต้องซื้อบ้านและที่ดินในราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นจากกลไกการตลาดเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า โดยพรรคมีความเห็นดังนี้...

1.) การออกกฎกระทรวงในปี 2545 นั้นมีบริบทที่แตกต่างกับปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลในปี 2545 ภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทยนั้น เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศในปี 2544 ภายหลังวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และประเทศไทยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามข้อตกลงที่มีกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องแก้ไขกฎหมายในบางเรื่อง และชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่การจะออกกฎกระทรวงของรัฐบาลขณะนี้ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลตนเอง ถือว่าเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลนี้

‘ส.ส.ก้าวไกล’ ชี้!! รฟม.กีดกัน BTS ร่วมประมูลสายสีส้ม ยัน!! ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทมีจริง แต่ไม่รู้เข้ากระเป๋าใคร

(29 ต.ค. 65) สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาตอบโต้ รฟม. ที่ชี้แจงว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ‘โปร่งใส-ตรวจสอบได้’ และบอกว่าส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทไม่มีจริง 
โดยสุรเชษฐ์กล่าวว่าคำชี้แจงของ รฟม. ฟังไม่ขึ้น เพราะ รฟม. ไม่เปิดให้ BTS เข้ามาแข่งขันประมูล ทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าความเป็นจริง เป็นความจริงนอกสำนวนที่เกิดจากการเล่นตุกติกกีดกัน BTS

สุรเชษฐ์กล่าวว่า หาก รฟม. ‘โปร่งใส-ตรวจสอบได้’ จริง เหตุใดจึงเบี้ยว! ไม่กล้ามาตอบคำถามซึ่ง ๆ หน้า ต่อหน้าคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งได้มีการเรียกมาชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่รฟม. เลือกที่ตอบแบบเลี่ยงคำถาม โดยชี้แแจงแบบต่างคนต่างพูดผ่านสื่อ ควรกล้าเผชิญหน้ากับตัวแทนของประชาชนและคู่กรณี (BTS) ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ‘ใครแถ’

‘บิ๊กตู่’ เด็ดขาด!! จับกุมเอาผิด ‘ยาเสพติด-ปืนเถื่อน’ ชี้!! ผลระดมกวาดล้างช่วงที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ

‘บิ๊กตู่’ สั่งการเด็ดขาด จับกุม ดำเนินคดี ลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง ให้ทุกหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ‘เผย’ ผลระดมกวาดล้างยาเสพติด-อาวุธปืน เป็นที่น่าพอใจ

(29 ต.ค. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน และยาเสพติดที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหา นำหน่วยงานในท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เข้มข้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างยาเสพติดและอาวุธปืนอย่างจริงจัง 

นายอนุชา กล่าวว่า ผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดในช่วงวันที่ 10-19 ต.ค. 65 ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีผลการดำเนินการจับกุมบุคคลตามหมายจับคดีอาญาได้ 3,884 หมายจับ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี (ผู้ต้องหา 15,866 คน) ของกลางยาบ้า 18,314,853 เม็ด ยาไอซ์ 297,690 กรัม เฮโรอีน 30,735 กรัม ยาอี 6,550 กรัม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 3,984 คดี ยึดของกลางอาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 2,438 กระบอก มีทะเบียน 452 กระบอก วัตถุระเบิด 600 รายการ และเครื่องกระสุน 16,168 นัด โดยการจับกุมแบ่งเป็นการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธปืนฯ โดยผิดกฎหมาย ทั้งทางตรงและทางออนไลน์ จำนวน 97 คดี ผู้ต้องหา 63 คน ยึดของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 46 กระบอก มีทะเบียน 12 กระบอก วัตถุระเบิด 156 รายการ เครื่องกระสุน 1,296 นัด และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ อื่นๆ จำนวน 3,887 คดี (จับกุมผู้ต้องหา 3,864 คน) พร้อมของกลาง อาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก อาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน) 2,392 กระบอก มีทะเบียน 440 กระบอก วัตถุระเบิด 444 รายการ เครื่องกระสุน 14,872 นัด

พท. ไม่ยื่นยุบ พปชร. ปมรับเงินจากทุนผับจีน ลั่น ขอให้ยุบกรณีเดียว ล้มล้างการปกครอง

(28 ต.ค. 65) นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “หาวเจ๋อตู้” เจ้าของผับดังย่านยานนาวา ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยาเสพติด และพบว่ามีชื่อบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จำนวน 3 ล้านบาทเมื่อปี 2564 ว่า ขอแสดงความเห็นทางกฎหมายเป็นหลัก ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะไปยื่นยุบพรรคนั้นพรรคนี้ ตามข้อเท็จจริงผู้บริจาคเงิน 3 ล้านบาทให้พรรคพปชร.เดิมเป็นคนสัญชาติจีน แต่ได้ขอแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยและได้สัญชาติเรียบร้อยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 57 ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ม.19(2) บุคคลจะขอแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยต้องไม่ใช้สัญชาติเดิม มิเช่นนั้นจะถูกถอนสัญชาติไทย ดังนั้นจึงอาจเข้าใจได้ว่าปัจจุบันผู้บริจาคถือสัญชาติไทยเพียงสัญชาติเดียว และในวันที่บริจาคเงินให้ พปชร.คือวันที่ 5 พ.ค. 64 ได้ถือสัญชาติไทยแล้ว จึงไม่ขัด ม.74(1) พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ห้ามรับบริจาคเงินจากบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย

นายชูศักดิ์กล่าวว่า ในมาตรา72 พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ ยังห้ามมิให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงิน โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วย กฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การบริจาคเงินถึง 3 ล้านบาทน่าจะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน กรณีนี้ผู้ตอบคำถามได้ดีที่สุดคือพรรคพปชร.และหากเข้าข่ายมาตรานี้ก็อาจถือเป็นเหตุยุบพรรคการเมืองได้ตาม ม.92(3)

‘ตรีชฎา’ เตือนคนปชป. ห่วงพรรคตัวเองก่อน ระวังซ้ำรอยปี 62 ไม่ได้ส.ส.กทม. สักที่เดียว

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากที่ได้ชี้แจงกรณีที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เลขานุการประธานสภาฯ ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าในช่วงที่พรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีการใช้นโยบายเลือกปฏิบัติ รวมถึงพาดพิงเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะนั้น ขอย้ำว่าที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมแล้ว แม้ไม่ได้สั่งการแต่ในตอนนั้นเป็นนายกฯ ก็ได้ขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมอย่างจริงใจ ถือว่าเป็นการผิดพลาดในเรื่องของการลำเลียงผู้ต้องหา ซึ่งต้องแยกกันระหว่างการกำกับนโยบายและการปฏิบัติ ส่วนเรื่องการชดเชยญาติผู้สูญเสียนั้น นายทักษิณเห็นว่าควรได้รับการเยียวยา ซึ่งขณะนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ทบ.เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งต้องเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต

‘เพื่อไทย’ สยบข่าวผสมพันธุ์ พปชร. ตั้งรัฐบาล ยันหากปชช.ไว้ใจ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

‘สมคิด’ ปัดเพื่อไทยจับมือ พปชร. ดัน ‘บิ๊กป้อม’ แจงแค่กระแสข่าว ฟุ้งแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องง้อใคร

(28 ต.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้งแล้วสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนนรี ว่า มันเป็นแค่กระแสข่าว พรรคเพื่อไทยไม่คิดจับมือใครทั้งนั้น พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับประชาชน ทำงานมากขึ้น เสนอแนวนโยบายที่ทำงานให้ประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประชาชน ผลการเลือกตั้ง หากประชาชนไว้วางใจเราเป็นจำนวนมาก สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องจับมือใคร ขอให้รอฟังคำตอบจากประชาชนว่าจะมอบอำนาจให้เราบริหารประเทศหรือไม่เท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top