Sunday, 6 July 2025
POLITICS NEWS

'เพื่อไทย' ร่อนแถลง ผิดหวังกับผลโหวต 'สุราก้าวหน้า' ชี้!! จะเดินหน้าผลักดันต่อเนื่อง หวังหยุดการผูกขาด

วันที่ (3 พ.ย. 65) พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์กรณี สภาฯ โหวตไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ร่วมโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวแต่แพ้โหวตไป 2 คะแนนว่า...

พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่าพรรคผิดหวังกับผลโหวต แต่จะเดินหน้าผลักดันนโยบายสุราประชาชน โดยผ่านกฎหมายให้ประชาชนสามารถต้ม หรือผลิตสุราในท้องถิ่นเพื่อจำหน่ายได้ ซึ่งแนวนโยบายนี้เคยมีมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว แต่มีการรัฐประหารในปี 2549 พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้านโยบายนี้เพื่อหยุดการผูกขาด ปลดปล่อยศักยภาพของชุมชน ธุรกิจเอส เอ็ม อี ร้านค้าทั่วประเทศในการสร้างรายได้ ขยายโอกาสนำรายได้เข้าประเทศ

‘พิธา’ ซัดขายที่ดินให้ต่างชาติเป็นทางลัดโบราณ หวั่นราคาบ้านในไทยพุ่งสูงเหมือนอังกฤษ - ฮ่องกง

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามนายกฯ นโยบายต่างชาติซื้อที่ดินได้ มีการประเมินข้อดี-ข้อเสีย ของนโยบายหรือไม่ ชี้ มาตรการดึงต่างชาติลงทุน-อาศัยในไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นแนวคิดสุดโบราณ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดถึงนโยบายต่างชาติซื้อที่ดินว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีกฎกระทรวงที่ย้อนหลัง ไปถึงรัชกาลที่ 4 ที่มีบันทึกเรื่องของกฎหมายให้ชาวต่างชาติมาใช้ที่ดินในประเทศไทย แต่ในภาวะปัจจุบันนโยบายนี้เป็นนโยบายที่ผิดที่ผิดทาง เพราะผลบวกที่ได้ทางเศรษฐกิจยังไม่มีการประเมินที่แน่ชัด ในขณะที่ประชาชนชาวไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน

ปัญหาข้อแรก ตั้งคำถามถึงเป้าหมายที่ชัดเจนของการแก้กฎกระทรวงเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินในประเทศไทยคืออะไร เพราะจากข้อมูลพบว่าในรอบ 20 ปี มีต่างชาติเพียง 8 คน เป้าหมายจากคำสัมภาษณ์ที่เห็นมีเพียงระบุกว้าง ๆ ว่า ต้องการดึงดูดชาวต่างชาติ 1 ล้านคน ซึ่งว่าการเปลี่ยนกฎกระทรวงในครั้งนี้ยังมองไม่เห็นเป้าหมายและความชัดเจนว่าต้องการอะไรกันแน่ แล้วตลอดหลายเดือนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนตัวเลขกลับไปมา จึงไม่แน่ใจในเป้าหมาย

ปัญหาข้อที่สอง พิธา ตั้งคำถามถึงผลกระทบและข้อเสียงของการแก้ไขกฎกระทรวงว่าได้คำนึงถึงผลกระทบในทางลบที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษ ว่าหลังจากการปล่อยให้ต่างชาติเข้าไปซื้อที่ดินทำให้ราคาบ้านสูงเพิ่มขึ้นถึง 19% และตัวอย่างในประเทศฮ่องกงที่การเปิดเสรีเข้าซื้อที่ดินทำให้ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้นจนคนในประเทศที่มีรายได้น้อยต้องอาศัยอยู่ในที่พักเล็ก ๆ ที่เป็นเหมือน “อพาร์ทเมนท์โรงศพ”

ทั้งนี้ พิธา ระบุว่า ตนกังวลเรื่องความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่ดิน ขณะที่ทางรัฐบาลพยายามจะให้ชาวต่างชาติ 1 ล้านคนเข้ามาซื้อที่ดิน แต่ 75% ของคนไทยยังไม่สามารถเข้าถึงที่ดินทำกินของประเทศบ้านเกิดตัวเองได้ คนไทยธรรมดาที่มีที่ดินจริง ๆ มีเพียง 20 เปอร์เซ็นเท่านั้น โควตาของต่างชาติคนละ 1 ไร่ก็ไปเบียดเบียนที่ดินของพี่น้องประชาชนแล้ว ยังมีประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ยกตัวอย่างข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์ 1 ใน  5 ของคนจนไม่มีที่อยู่ และ 15 ปีต่อมา 1 ใน 3 ของคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย พร้อมตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องเรียงลำดับความสำคัญ ในขณะที่ประชาชนป่าสงวนหรือในพื้นที่อุทยานเงื่อนไขและข้อจำกัดในการเข้าถึงที่ดินจำนวนมาก ต่างชาติกลับมีเงื่อนไขเพียง 5 บรรทัดเท่านั้น ก็ต้องตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าจะให้ความสำคัญกับการให้ต่างชาติมีที่ดินก่อน หรือประชาชนมีที่ทำกินก่อน

บิ๊กตู่ มั่นใจ 'เป้าหมายกรุงเทพฯ' จะบรรลุผลและนำไปสู่ความร่วมมือในภูมิภาคที่เป็นรูปธรรม

ไม่นานมานี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานประชุม Global Compact Network Thailand Forum (GCNT 2022) หัวข้อ ‘เร่งหาทางออกของภาคธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนและวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพ’ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC)   

การเข้าร่วมการประชุม GCNT ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญและเป็นช่วงของการเตรียมตัวก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2022) โดยไทยได้ผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปคในยุคหลังวิกฤตโควิด – 19 เพื่อให้ทุกประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน สมดุล และครอบคลุมมากขึ้น ภายใต้หัวข้อหลัก ‘Open. Connect. Balance.’  

รัฐบาลไทยยืนยันถึงเจตนารมณ์ “ความมุ่งมั่นและการลงมือทำของไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปค เพื่อลดสภาวะโลกร้อนและความเสียหายต่อธรรมชาติ” โดยภาคเอกชนและสหประชาชาติเป็นภาคีสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของไทย

ไทยตระหนักดีว่าการลดภาวะโลกร้อนมิใช่เพื่อแก้ปัญหาภาวะวิกฤติธรรมชาติเท่านั้น แต่เพื่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนด้วย และได้เสนอหลักการ ‘การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG’ ที่คำนึงถึงการพัฒนาเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการเยียวยารักษาธรรมชาติอย่างมีสมดุล เป็นหัวใจของเอกสารผลลัพธ์ของเอเปค ที่เรียกว่า ‘เป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว’ 

'สุพัฒนพงษ์' ยัน ไม่ทบทวนเรื่องต่างชาติซื้อที่ดิน ชี้!! หากขายชาติจริง ก็ทำมาตั้งแต่ปี 2542

สุพัฒนพงษ์ย้ำให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย ไม่ใช่กฎหมายขายชาติ ชี้หากทำจริงก็เริ่มตั้งแต่ปี 2542 โวระเบียบยุคนี้ 'เข้ม-เหนือกว่า' ในอดีต ยกนานาประเทศ ก็เปิดให้ครอบครองในลักษณะเดียวกัน

(3 พ.ย. 65) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยเป็นกฎหมายขายชาติ ว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็น เพราะการดำเนินการไม่ต่างไปจากหลักเกณฑ์เดิม เพียงแค่ระยะเวลาเท่านั้นเอง โดยคนที่เราอยากให้ได้รับสิทธิเพื่อให้เข้ามาพำนักในประเทศมี 4 กลุ่ม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์โดยจะแก้ไขเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็ทดลองนำร่องไปก่อน ซึ่งดูแล้วว่าไม่มีอะไร เพราะประเทศอื่นเขาก็ซื้อและครอบครองกันได้ อาทิ มาเลเซีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป

‘สุราก้าวหน้า’ กระสุนสั่งลาของ ‘ก้าวไกล’ แค่คนไม่ได้หน้าในฐานะผู้เคาะนโยบาย

หลังจาก พรบ. ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ .. พ.ศ. …. ที่พรรคก้าวไกลเสนอเข้าสภาวาระ 2 – 3 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 (เรียกย่อว่า พรบ. สุราก้าวหน้า) ถูกกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ออกตัดหน้า พรบ. สุราก้าวหน้า ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

บรรดา ‘หัวก้าวหน้า’ ต่างก็ออกมาร่วมซัด กฎกระทรวงฉบับใหม่ ที่ว่ากันว่า ออกมาแย่งซีนบ้าง กันท่าบ้าง สาระสำคัญยังอวยยศให้นายทุนเหล้าเบียร์อยู่บ้าง แม้จะเป็นการออกมาร่วมกันสำทับแบบกลืนน้ำลายในคอ เพราะรู้ตัวดีว่ากฎกระทรวงใหม่นี้ ก็ไม่ได้มีอะไรที่หลุดจากพรบ.สุราก้าวหน้ามากมายก็ตาม 

ทั้งนี้ หากลองย้อนกลับไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของกฎหมายสุราก้าวหน้าในสภา โดย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า อธิบายว่าร่างนี้แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต มาตรา 153 เพื่อให้มีการ ‘ปลดล็อกการผลิตสุรารายย่อย’ อีกทั้งยังรวมถึงการ ‘ปลดล็อกอนุญาตให้ทำสุราเพื่อบริโภคเองภายในครัวเรือน’ (แต่จริงๆ ก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่ทำให้ตัวเองไม่สามารถทำคราฟต์เบียร์ได้เสรีแล้วก็โวยวายจนกลายเป็นร่างเสนอ) ซึ่งหากมองจากกฎกระทรวงใหม่ ก็มีการ ‘ปลดล็อก’ เงื่อนไขในแบบที่สอดคล้องกับ พรบ.สุราก้าวหน้า ในระดับหนึ่งกันเลยทีเดียว

ว่าแต่ การเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า ‘ปลดล็อก’ ของกฎกระทรวงใหม่ 2565 มีความต่างจากปี 2560 และสอดคล้องกับ พรบ.สุราก้าวหน้าอย่างไรบ้าง?

1.
กฎกระทรวง 2560 >> บริวผับ (บรรจุขวดขายไม่ได้) ต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
พรบ. สุราก้าวหน้า >> ห้ามกำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ
กฎกระทรวง 2565 >> ไม่กำหนดทุนจดทะเบียน

2.
กฎกระทรวง 2560>> บริวผับ (บรรจุขวดขายไม่ได้) ต้องมีกำลังผลิตขั้นต่ำ 100,000 ลิตร ไม่เกิน 1 ล้านลิตรต่อปี
พรบ. สุราก้าวหน้า >> ห้ามกำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำและการกีดกันอื่นใด
กฎกระทรวง 2565 >> ไม่กำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำ แต่ต้องมีเครื่องจักรที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และ ***ปฏิบัติตาม กม. สิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข***

3.
กฎกระทรวง 2560 >> โรงเบียร์ ต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
พรบ. สุราก้าวหน้า >> ห้ามกำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ
กฎกระทรวง 2565 >> ไม่กำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ

4.
กฎกระทรวง 2560 >> โรงเบียร์ ต้องมีกำลังผลิตขั้นต่ำ 10 ล้านลิตรต่อปี
พรบ. สุราก้าวหน้า >> ห้ามกำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำและการกีดกันอื่นใด
กฎกระทรวง 2565 >> ไม่กำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำ ***แต่ต้องมีสายการผลิตที่ติดตั้งระบบพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษี และผ่านความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม***

‘พิธา’ วอนขอ ส.ส. โหวตหนุน ‘สุราก้าวหน้า’ ชี้!! เพื่ออนาคตเกษตรกร-ผู้ประกอบการรายย่อย

พิธา อภิปรายโค้งสุดท้าย ‘สุราก้าวหน้า’ เทียบกฎกระทรวงกับร่างสุราก้าวหน้าแตกต่างชัดเจน ยังคงกีดกันการค้ารายย่อยหนุนทุนใหญ่ผูกขาดเหมือนเดิม พร้อมกระตุกจิตสำนึก ส.ส. โหวตเสร็จคงจะกลับไปกินเหล้านอกต่อไม่ว่ากัน แต่ขอโหวตเพื่ออนาคตของเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยด้วย

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุนร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือร่างกฎหมาย ‘สุราก้าวหน้า’ ที่กำลังมีการอภิปรายในวาระ 2 และจะมีการลงมติวาระ 3 ในวันนี้ พร้อมชี้ข้อเปรียบเทียบกับกฎกระทรวง ว่าด้วยการผลิตสุรา ที่ออกมาใหม่โดยรัฐบาลเมื่อวานนี้

พิธาระบุว่าหลักการที่สำคัญที่สุดในการพิจาราเรื่องนี้ คือการเอาสภาพข้อเท็จจริงและศักยภาพของผู้ประกอบการ มาเทียบกับร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า และกฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้ ว่าสิ่งใดที่เหมาะสมกับข้อเท็จจริงของประเทศและศักยภาพของผู้ประกอบการมากกว่ากัน

ซึ่งหากเป็นกฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้ กล่าวได้ว่าเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนจากล็อกเก่ามาเป็นล็อกใหม่เท่านั้น หากพิจารณาตามข้อเท็จจริง ผู้ประกอบการจินหรือรำ ทั้งที่เชียงใหม่ หนองคาย สงขลา สุราษฎร์ธานี ที่เป็นผู้ประกอบการระดับโลก ส่งออกไปได้ 17 ประเทศ ชนะการประกวดทั้งที่ปารีส โตเกียว ฮ่องกง ชนะคู่แข่งจากออสเตรเลีย อาร์เจนติน่าจะไม่ได้รับการปลดล็อกจากกฎกระทรวงฉบับนี้ ด้วยการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำ 30,000 ลิตรต่อวันที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย รวมทั้งการที่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็น

‘ส.ส.เพื่อไทย’ ชี้ หลายชาติมหาอำนาจเมินเอเปก เหตุ!! ไม่เชื่อมั่นในศักยภาพผู้นำของไทย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือ เอเปก 2022 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการจัดการประชุมในครั้งนี้ หวังสร้างผลงานให้ประทับใจผู้นำโลก เป็นที่น่าเสียดายหากในการประชุมที่กรุงเทพฯ นี้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะผู้นำประเทศมหาอำนาจหลายประเทศไม่ให้ความสำคัญ ส่งเพียงผู้นำระดับรองมาร่วมประชุมแทน ไม่ว่าจะเป็นนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี สหรัฐฯ เลือกไปงานแต่งหลานสาวมากกว่ามาร่วมประชุมที่ประเทศไทย ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ผู้นำหลายประเทศไม่มาร่วมประชุม เพราะไม่มีความเชื่อถือในตัวผู้นำของประเทศไทย 

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนโยบายยกแผ่นดินไทยให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยได้นั้น รัฐบาลควรชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ ว่าเป้าประสงค์ของรัฐบาลคืออะไร ที่ผ่านมารัฐบาลใช้มาตรการทางภาษี เพื่อดึงนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนในประเทศไทย นักลงทุนก็ไม่มาลงทุน เพราะเขาไม่มั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจของไทย และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานักลงทุนตกต่ำลงมาก 

‘ธีรรัตน์’ กระทุ้งรัฐบาลเร่งช่วย ปชช.หลายพื้นที่ยังจมบาดาล แนะเร่งฟื้นฟูอาชีพ จัดระบบข้อมูลเยียวยา อย่าให้พลาด ฝ่ายค้านรอตรวจสอบเข้ม

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ กลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงบางพื้นที่ในภาคใต้ ต่อเนื่องยาวนานมานานหลายเดือน แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่เห็นความชัดเจนในเรื่องของเวลาการจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงมาตรการในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายภายหลังน้ำลด แม้รัฐบาลจะประกาศแนวทางคร่าว ๆ ในการเยียวยาความเสียหายมาบ้างแล้ว แต่ในระหว่างนี้ ณ ปัจจุบันหลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมบ้านมิดหลังคา พื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ทางเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย ซึ่งยังไม่ได้รับความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานอย่างปัจจัยสี่ที่มนุษย์ทุกคนพึ่งได้รับ ทั้งยารักษาโรค  อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน หรือผู้ที่อาสาช่วยเหลือไม่สามารถทำได้ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน เข้าใจถึงหัวจิตหัวใจของพี่น้องประชาชนมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรแม้ฝ่ายค้านไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้  รัฐบาลก็ไม่ควรช่วยเหลือประชาชนล่าช้า

'พิธา' ชี้ มติครม.แก้กฎกระทรวงสรรพสามิตอนุมัติผลิตสุราพื้นบ้าน จงใจใช้เป็นข้ออ้างคว่ำ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง มติครม.เเก้กฎกระทรวงเกี่ยวกับการผลิตสุราว่ามติดังกล่าวไม่เข้าใจจุดประสงค์ของพ.ร.บ. สุราก้าวหน้าเลย การที่มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. .... ปลดล็อคการผลิตเพื่อการค้าและการผลิตเพื่อบริโภค ควบคู่กับการคุ้มครองสินค้าสุราให้ได้คุณภาพมีมาตรฐานและความปลอดภัยต่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม แทนที่จะมีมติเห็นชอบพ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ชัดเจนว่าเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ ถึงเเม้คุณวิษณุ เครืองามจะบอกว่าไม่ได้ปาดหน้า พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล เเละอ้างว่าทำมานาน 6 เดือน ก่อนสุราก้าวหน้าก็ตาม

ตนต้องขอยืนยันว่า หากจะอ้างเหตุผลเช่นนี้ เท่าพิภพ ส.ส.พรรคก้าวไกล ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว และทางพรรคได้ยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้มาตั้งเเต่ สมัยพรรคอนาคตใหม่ไม่ถูกยุบ เเละก่อนหน้าที่จะยื่นก็มีการเรียกกรมสรรพสามิตในกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเท่าพิภพเป็นกรรมาธิการอยู่หลายครั้ง เเต่ก็มีเเต่คำสัญญาว่าจะเเก้ไขเเละก็เงียบหายไป จึงต้องใช้ช่องทางในเชิงนิติบัญญัติเพื่อเเก้ปัญหา

ชัดเจนว่าการมีมติครม.ก่อนการลงมติพ.ร.บ. สุราก้าวหน้าออกมาเพียง 1 วัน เป็นการจงใจเพื่อให้ ส.ส. รัฐบาลอภิปรายเป็นเหตุผลกับสภาฯว่า พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าไม่จำเป็นอีกต่อไปเเล้ว เพราะกฎกระทรวงออกมาเเล้ว ซึ่งจริงๆ เเล้วพ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ยังคงจำเป็นในการประกันหลักเสมอภาคในการเเข่งขันทางธุรกิจของประชาชน เนื่องจากเป็นกฎหมายลำดับชั้นสูงกว่าที่เเก้ยากกว่ากฎกระทรวง ซึ่งตนเองก็ได้เตรียมตอบทุกข้อสงสัยในสภาอยู่เเล้ว

นอกจากนี้พิธาระบุว่าตนได้ดูรายละเอียดกฎกระทรวงดังกล่าวตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ก่อนในเว็บไซต์กรมสรรพสามิต และคิดว่าน่าจะใช้เวลาระยะหนึ่ง เเต่ก็ไม่คิดว่าเสร็จสิ้นเร็วขนาดนี้ รู้สึกว่าพี่น้องประชาชนและพรรคก้าวไกลโดนหลอกมาตั้งนาน ที่แท้กฎกระทรวงก็เเก้ไม่ยากอย่างที่อ้าง เเละเมื่อดูรายละเอียดมีการปลดล็อกกำลังการผลิตก็จริง เเต่ก็มีการใส่ข้อจำกัดอื่น ทำให้ไม่ใช่การปลดล็อกการผลิตสุราให้รายย่อยจริง

นายกฯ ส่งสารแสดงความเสียใจถึงผู้นำเกาหลีใต้ ต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอิแทวอน

‘ประยุทธ์’ ส่งสารแสดงความเสียใจถึงประธานาธิบดีและประชาชนเกาหลีใต้ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอิแทวอน

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ส่งสารแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ ถึงนายยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลคืนวันฮาโลวีนที่ย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ในนามของรัฐบาลไทย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ต่อเหตุการณ์แตกตื่นในวันฮัลโลวีนที่ย่านอิแทวอน ในกรุงโซล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากซึ่งรวมถึงชาวไทยด้วย 

ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจต่อท่านและประชาชนเกาหลีใต้พร้อมครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะเดียวกันเราหวังว่าผู้บาดเจ็บจะหายเป็นปกติดีโดยเร็ว มั่นใจว่าภายใต้การนำและการกำกับดูแลของท่านและ รัฐบาลเกาหลีใต้จะสามารถคืนสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว ทั้งนี้ประเทศไทยยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวเกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

นอกจากนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศได้มีข้อความสารถึงนายปัก จิน รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้ แสดงความเสียใจในนามของรัฐบาลไทยต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top