Saturday, 5 July 2025
POLITICS NEWS

‘บิ๊กตู่’ ปัดตอบการเมือง ขอโฟกัสประชุม ‘อาเซียน-เอเปก’ วอน!! ทุกฝ่ายช่วยทำให้การประชุมเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย

นายกฯ พยักหน้ารับ หลังเอเปกจะชัดเจนอนาคตทางการเมือง ขณะนี้ยังไม่มีความเห็น ขอให้ความสำคัญประชุมอาเซียน-เอเปก ขอร้องกลุ่มต่างให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ช่วงนี้จะมีการประชุมสำคัญ คือการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 10 - 13 พฤศจิกายน และการประชุมเอเปคที่ไทย ซึ่งจะมีผู้นำทยอยเดินทางเข้ามาก่อนการประชุมเอเปคในวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายน จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยในช่วงนี้ ขอแรงด้วยในการนำเสนอข่าวต่างๆ อย่าให้มีผลกระทบซึ่งกันและกัน ถือว่าการประชุมทั้งสองการประชุมมีความสำคัญ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวันนี้ในทุกภูมิภาค ทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนอย่างที่สุดในขณะนี้ ทำอย่างไรจะทำให้การประชุม เป็นไปอย่างเรียบร้อยปลอดภัย มีความคืบหน้า หลายประเทศต้องการมาลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักสำคัญ ขอให้ทุกคนคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ถ้าหากทำให้การประชุมมีปัญหา ขอร้องไปยังกลุ่มต่างๆ ขอให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระมัดระวัง 

‘ชัยวุฒิ’ เผย รบ.เล็งออก พรก.สกัดบัญชีม้า ช่วยอายัดเงินได้เร็วขึ้น หากพบการโอนผิดปกติ

รัฐบาล จ่อ ออกพรก.แก้ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ ตัดช่องทางเปิดบัญชีม้า-อายัดเงิน ให้ได้รวดเร็ว เตรียมชงเข้าครม. สัปดาห์หน้า

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  แถลงผลการประชุมการแก้ไขปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์นั้นมีหลายประเภท ทั้งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนหลอกซื้อของ รวมถึงการพนันออนไลน์ บัญชีม้า ซึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันมาก ซึ่งรัฐบาล โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ในที่ประชุมวันเดียวกันนี้ มีการประชุมโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือกัน 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับเรื่องบัญชีม้านั้นเราต้องหยุดให้ได้ หากพบพฤติกรรมการโอนเงินที่ผิดปกติ ก็ต้องปิดและบล็อกให้ได้ รวมถึงต้องอายัดบัญชีให้ได้รวดเร็ว ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าจะต้องมีการแก้กฎหมายโดยจะออกเป็นพระราชกำหนด เพื่อความรวดเร็ว ซึ่งจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในสัปดาห์หน้า 

ทั้งนี้ต้องสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมครม. โดยจะมีการเขียนกฎหมายให้ชัดเจนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีม้าทำไม่ได้ ถือว่ามีความผิดและต้องมีบทลงโทษโดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)จะเข้ามาดูในเรื่องนี้โดย เพื่อตัดกระบวนการบัญชีมาให้ได้ เพราะถ้าไม่มีบัญชีม้าคนร้ายก็จะไม่มีบัญชีที่จะใช้โอนเงิน ประชาชนก็จะไม่ถูกหลอก 

นอกจากนี้ที่ประชุมมีการพูดถึง ความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานให้มากยิ่งขึ้น เพราะมีข่าวดีจำนวนมากโดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า มีคดีแจ้งความเรื่องฉ้อโกงออนไลน์ถึง 1 แสนกว่าคดี มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จะมีการดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้กับประชาชนเพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวงได้ง่าย ซึ่งรัฐบาลจะรับไปดูแล แจ้งเตือนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อาจจะใช้แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เป็นช่องทางในการให้ข้อมูล ขณะเดียวกันธนาคารทุกแห่งก็ต้องไปปรับปรุงระบบโมบายแบงก์กิ้ง ให้มีการแจ้งเตือนก่อนโอนเงิน ตรวจสอบการโอนเงินผิดปกติ หรือการถูกรีโมทแอพพลิเคชั่นเข้ามาในเครื่องมือถือของเรา เพื่อดูดข้อมูลหรือดูดเงินเราไป ซึ่งตรงนี้ธนาคารจะต้องไปปรับปรุงระบบให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนจะขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าใช้ระบบของธนาคาร ดังนั้นต้องมีระบบป้องกันที่ดี

สำหรับประเด็น การนำซิมมือถือไปใช้ กันในหลายรูปแบบ เช่น บัญชีม้านำไปใช้เพราะยืนยันตัวตนไม่ได้ นั้น ที่ผ่านมามีการนำซิมไปขายต่อกันเป็นพัน ๆ เบอร์ จนเป็นช่องทางนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงมีการหารือให้กสทช. เข้ามาดูเรื่องนี้ โดยเฉพาะการควบคุมซิมที่ใช้ต่อคน ต้องไม่เกิน 5 ซิม

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าการปราบปรามบัญชีม้าสามารถทำได้โดยกฎหมายปกติฐานรวมกันฉ้อโกงประชาชน เพียงแต่กฎหมายบางอย่างยังไม่ครอบคลุมทุกอย่าง โดยที่ประชุมเสนอให้เป็นพระราชกำหนด เพื่อความรวดเร็วและให้เสร็จทันรัฐบาลนี้ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ทุกหน่วยร่วมมือกันอย่างเต็มที่ แต่การทำงานเป็นไปได้ยากเนื่องจากตัวการใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยตนเชื่อว่าจากการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด รวมถึงการที่จะออก พรก. จะสามารถทำเรื่องนี้คลี่คลายได้ 

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ระบุว่าต้องเข้มงวดกับคนที่ลงทะเบียนใช้ซิมการ์ดเป็นจำนวนมาก และต้องมาชี้แจงว่านำซิมการ์ดไปใช้ทำอะไรบ้าง และจะส่งข้อมูลให้ สตช. แต่จะไปบังคับว่า 1 คนสามารถมีซิมได้เพียง 5 ซิม ไม่ได้ เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิประชาชน  

ส่วนกรณีการส่งเอสเอ็มเอสหลอกลวงประชาชนนั้น เรื่องนี้ได้ให้โอเปอเรเตอร์ ของผู้ประกอบการต่างๆที่ดำเนินการเรื่องเอสเอ็มเอสต่างๆเป็นฝ่ายตรวจสอบ โดยเฉพาะหากจะมีคนมาจดขอส่งเอสเอ็มเอสให้ประชาชนรายใหม่ ต้องมาเช็คชื่อกับ กสทช. ก่อนว่าติดแบล็กลิสต์หรือไม่ ก่อนที่จะเข้าไปประกอบการ  ทั้งนี้ยอมรับว่าจากการตรวจสอบพบว่ามีเอสเอ็มเอสหลอกลวงลดลงไปมากกว่า 7 หมื่นรายการ หลังมีมาตรการออกมา
 

‘นันทิวัฒน์’ เผยหน้าใหม่ความสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุฯ’ จับคู่หลากกระทรวง คุยอนาคตใหม่ด้านลงทุน

(7 พ.ย. 65) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘หน้าใหม่ของความสัมพันธ์’ ระบุว่า... 

วันนี้ประเทศไทยมีแขกมาจากซาอุฯ คณะใหญ่ นำโดยนาย Khalid Abdulaziz รัฐมนตรีการลงทุน พาคณะร่วม 80 คนเดินทางมาเจรจาเรื่องการลงทุน, พลังงาน, การท่องเที่ยว, แรงงาน และสาธารณสุข 

มีการประชุมทวิภาคีกับกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ได้มีการประชุมทวิภาคีกับรัฐมนตรีพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำกับคณะของซาอุดีอาระเบียและมีนักธุรกิจของไทยเข้าร่วม

‘ชัยวุฒิ’ โยนถาม ‘บิ๊กตู่’ ยังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ หลังลือสะพัดเตรียมย้ายซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’

‘ชัยวุฒิ’ โยนสื่อถาม ‘บิ๊กตู่’ ยังอยู่กับ พปชร.หรือไม่ หลังมีลือสะพัดเตรียมย้ายซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ แจงลูกพรรคบอกชื่อ ‘ประยุทธ์’ ขายไม่ได้ เป็นความเห็นส่วนตัว แต่เชื่อยังไงทุกคนก็อยู่กับ 3 ป.

นายชัยวุฒิ ธนาคณานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสยุบสภา รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ว่า ข่าวที่สื่อมวลชนออกมาบางครั้งก็ไม่มีแหล่งข่าวที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่คาดการณ์กันไป ซึ่งวันนี้คิดว่าทุกคนก็ตั้งใจทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็ยังพอมีเวลาที่จะพูดคุยกันว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ 

‘โรม’ โต้ปม ‘ก้าวไกล’ ล็อบบี้เลือกร้านอาหาร ส.ส. แซะกลับ!! แค่การเสียผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม

‘โรม ก้าวไกล’ โต้ ‘วัชระ’ กล่าวหาก้าวไกลล็อบบี้คัดเลือกร้านอาหาร ส.ส. ชี้ กระบวนการคัดเลือกมีกรรมการที่มีสัดส่วนจากทุกพรรคดูแลอยู่ ยืนยันไม่มีรับผลประโยชน์เด็ดขาด ย้อนกลับกรณีระบุประชาธิปัตย์จะไม่จับมือก้าวไกล ชี้ ก้าวไกลก็จะจับมือกับพรรคที่ยึดคุณค่าประชาธิปไตยเท่านั้นเหมือนกัน

รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ตอบโต้กรณีวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวกรณีการคัดเลือกผู้ประกอบการในการจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้กับ ส.ส. พร้อมกล่าวหาว่า ตัวแทนจากพรรคก้าวไกลในคณะกรรมการคัดเลือกมีการล็อบบี้ให้คัดเลือกผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ

รังสิมันต์ ระบุว่า โดยปกติแล้วผู้ประกอบการที่ได้รับการว่าจ้างสภาผู้แทนราษฎร ในการรับเหมาให้บริการอาหารสำหรับ ส.ส. จะได้รับการต่อสัญญารายปี โดยมีคณะกรรมการที่รัฐสภาตั้งขึ้นจากตัวแทนของพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นผู้พิจารณา ซึ่งร้านที่ได้รับการว่าจ้างในปัจจุบัน เป็นร้านที่มีความเกี่ยวพันกับนักการเมืองบางคนในฝั่งรัฐบาล จึงไม่แปลกที่การคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวผู้ประกอบการจะนำไปสู่การเสียผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม และทำให้มีการออกมาแสดงความไม่พอใจ

‘รมว.เฮ้ง’ เผย ชุมชนมุสลิมปลื้ม ‘บิ๊กตู่’ หลังฟื้นสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุดิอาระเบีย’ ได้สำเร็จ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘วันรวมใจ สู่นูรุ้ลฮิดายะห์ (แสงประทีป)’ โดยมี นายมีศักดิ์ อิทธิธนากุลชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละหาร ดร.จำลอง ช่วยรอด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการจัดงาน ให้การต้อนรับ ณ มัสยิดนูรุ้ลฮิดายะห์ (แสงประทีป) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบที่มีอยู่กว่า 22 ล้านคน เพราะแรงงานทุกคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า 

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามผลักดันโครงการเยียวยาต่าง ๆ ให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่มทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งในส่วนของแรงงานนอกระบบได้มีโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แท็กซี่ หาบเร่แผงลอย นักร้อง นักดนตรี ผู้ที่ทำงานในกิจการสถานบันเทิงฯ ใน 29 จังหวัด คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เป็นเงินเกือบ 60,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ.…ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 9) มีกองทุนเพื่อแรงงานนอกระบบใช้เพื่อเป็นแหล่งเงินกู้มีทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งจะทำให้พี่น้องแรงงานนอกระบบมีหลักประกันทางสังคมและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งการจัดงานในวันนี้ถือว่าเป็นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชนให้มีความเข้มแข็ง อันจะเป็นการยกระดับให้ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

‘รมว.เฮ้ง’ มอบ 10 นโยบายให้สปส. ดูแลผู้ประกันตน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต-สร้างหลักประกันที่มั่นคงยั่งยืน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการให้กับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุม โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม อำพล สิงหโกวินท์ ชั้น 6 อาคารอำนวยการ สำนักงานประกันสังคม

นายสุชาติ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมทุกท่าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทำงานหนัก ทุ่มเท เสียสละ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในเรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมีเป้าหมาย สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ ในทุกมิติ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน และผมมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายด้านแรงงานต่าง ๆ การพัฒนาระบบประกันสังคมและสิทธิประโยชน์เพื่อช่วยเหลือพี่น้องลูกจ้าง ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และภาวะทางเศรษฐกิจที่ถดถอย จนกระทั่งก้าวผ่านพ้นวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปได้ ซึ่งในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ที่ตนได้มีโอกาสมาประชุมพร้อมตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคม ทุกภาคส่วนได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติราชการแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม 
เพื่อขับเคลื่อนงานประกันสังคมให้มีความเข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับของลูกจ้าง ผู้ประกันตนและสังคมโดยรวมในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

1.) พัฒนาสิทธิประโยชน์ โดยแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยเพิ่มหลักการ 3 ขอ คือให้ผู้ประกันตนสามารถ 
(1) ‘ขอเลือก’ รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพได้ 
(2) ‘ขอคืน’ ในกรณีเกิดเหตุการณ์อันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของผู้ประกันตน ให้สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อนได้
(3) ‘ขอกู้’ โดยการนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินได้และมีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ เพิ่มเงินสงเคราะห์เพื่อการคลอดบุตรเป็น 98 วัน (เดิม 90 วัน) และเพิ่มเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพเป็นร้อยละ 70 (เดิม ร้อยละ 50)

2.) การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้ประกันตน โดยขอให้ศึกษาความเป็นไปได้และสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกันตน เพื่อกำหนดแนวทางในการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประกันตนที่เกษียณอายุ

3.) จัดตั้งสถาบันการแพทย์เฉพาะทางสำหรับผู้ประกันตน รวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงการรักษาให้กับผู้ประกันตน สำหรับโรคเฉพาะทาง โดยไม่ต้องไปรอการรักษาโรงพยาบาลตามสิทธิ โดยใช้โมเดลเดียวกันกับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์

4.) การส่งเสริมสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อให้การดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเข้าถึงได้โดยง่าย โดยให้คำแนะนำและคำปรึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยง และป้องกันการเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

5.) ขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานอิสระภาคสมัครใจ สร้างการรับรู้ให้ผู้ประกันตนให้ความสำคัญในการส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มช่องทางชำระเงินสมทบ

'บิ๊กตู่' คิวเอี๊ยด!! บินกัมพูชาประชุมผู้นำอาเซียน กลับมาประชุมเอเปคต่อ ไร้สัญญานยุบ

เปิดโปรแกรม 'บิ๊กตู่' 2 สัปดาห์ คิวแน่น! โฆษกฯ เผยพฤหัสฯบินกัมพูชาประชุมผู้นำอาเซียน กลับมาประชุมเอเปคต่อ เผย มีผู้นำ 15 เขตเศรษฐกิจตอบรับเข้าร่วมแล้ว รอรัสเซียคอนเฟิร์ม เตรียมเปิดทำเนียบรับ 3 ผู้นำทางการเต็มคณะ 'เวียดนาม-จีน-ซาอุดิอาระเบีย' ระบุ ความพร้อมเกิน 90% แล้ว 

(7 พ.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีภารกิจสำคัญในรอบ 2 สัปดาห์นี้ 3 ส่วนหลัก โดยส่วนแรกนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 10 – 13 พ.ย.ที่ประเทศกัมพูชาที่ โดยจะออกเดินทางในวันที่ 10 พ.ย. และเดินทางกลับในวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. ซึ่งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ โดยในช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ย.นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมผู้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย หลังจากนั้น จะร่วมประชุมคู่เจรจา ประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหประชาชาติ และจะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน +3 ประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมถึงประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก โดย พล.อ.ประยุทธ์มีแผนกำหนดที่จะหารือกับภาคส่วนต่าง ๆ ของอาเซียน ทั้งผู้แทนของรัฐสภา เยาวชน และภาคธุรกิจ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การประชุมความมือทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานเปิดนิทรรศการ โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะนำเสนอเป็นหัวข้อหลัก นอกเหนือจากธีม Open Connect Balance หรือ การเปิดกว้างสร้างความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล ปัจจุบันท่ามกลางความท้าทายใหม่ ๆ ของโลกในปัจจุบัน ทั้งห่วงโซ่อุปทาน การหยุดชะงัก ปัญหาสภาพอากาศ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในส่วนของมหาอำนาจต่าง ๆ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงมีอยู่ ฉะนั้น การประชุมครั้งนี้ประเทศไทยมีโอกาสสำคัญที่จะแสดงบทบาทในการกำหนดทิศทางเบื้องต้น และขอความร่วมมือจากนานาประเทศในประเด็นต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่าง ๆ ให้คลี่คลายโดยเร็ว

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้นำที่ตอบรับเข้าร่วมประชุมเอเปคครั้งนี้ด้วยตนเองแล้ว 15 เขตเศรษฐกิจ ที่จะมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง และอีก 5 เขตเศรษฐกิจจะส่งผู้แทนมาเข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก และจีนไทยเป (ไต้หวัน) ส่วนรัสเซียยังรอการยืนยันการตอบรับอย่างเป็นทางการ ที่ยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ นอกจากการนำเสนอในเรื่องของ BCG แล้ว ก็จะมีการ พบหน้ากันระหว่างผู้นำคือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่มีการรวมตัวกันมากขนาดนี้

‘สายัณห์ ยุติธรรม’ คลายสงสัยข่าวลือตีจากพปชร. ลั่น อยู่หรือไป มีเงื่อนไขเดียว ‘นายกตู่อยู่ไหนผมอยู่นั่น’

เยี่ยมบ้านริมน้ำ 'ส.ส.สายัณห์ ยุติธรรม' ในวันสบาย ๆ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเวลาอยู่สั้น ๆ แวะไปเยี่ยม 'สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ริมน้ำที่ อ.ท่าศาลา ซึ่งข้างบ้านก็ทำเป็นธุรกิจร้านอาหารไม่ใหญ่โตมากนัก แต่อาหารอร่อย

“นายกตู่อยู่ไหนผมอยู่นั่น” เป็นคำตอบของสายัณห์ หลังมีข่าวลือว่าจะย้ายพรรค และสายัณห์เคยดอดไปสังเกตการณ์ประชุมของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้เกิดข่าวลือว่า สายัณห์จะย้ายพรรค 

คำว่า นายกฯตู่อยู่ไหนผมอยู่นั่น ถ้านายกฯตู่เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ สายัณห์ก็ย้ายพรรคตามข่าวลือ แต่ถ้าลุงตู่เลือกพรรคพลังประชารัฐ สายัณห์ก็ยังอยู่ที่เดิม และเวลานี้ยังไม่ชัดว่า ลุงตู่เลือกพรรคไหน

สายัณห์ สร้างบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ริมคลองกับที่ดินหลายไร่ แต่ดูแล้วสายัณห์มีความสุขอยู่กับบ้านหลังเล็ก ๆ ริมน้ำ ที่อุดมสมบูรณ์ กับภรรยาคู่ชีวิต ส่วนลูก ๆ เรียนจบ ทำงานกันหมดแล้ว

สายัณห์พาเดินดูบ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีห้องนอนห้องเดียว ห้องน้ำในตัว ในห้องนอนก็เป็นห้องแต่งตัวด้วย เสาร์-อาทิตย์ ไม่มีประชุมสภา สายัณห์ก็จะกลับบ้านริมน้ำที่ท่าศาลา สายัณห์ดูเหมือนจะภูมิใจกับต้นไม้ข้างบ้านที่ลงมือปลูกด้วยตัวเอง เช่น ต้นขนุน ต้นมะพร้าว ไม้ดอกไม้ประดับแซมอยู่ด้วย

ตื่นเช้ามาของวันหยุด สายัณห์ก็จะตระเวนกินกาแฟสองสามร้าน ก่อนจะกลับมาที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารด้วย นัดเพื่อนสนิทมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยน รับฟังปัญหา พร้อมประสานการแก้ไข ถ้ามีงานก่อนเที่ยง เช่น ทอดกฐิน ก็จะออกไปร่วมงานบุญกับชาวบ้าน หรืออาจจะเป็นงานบุญอย่างอื่น ช่วงเย็นก็จะไปงานศพบ้าง งานแต่งบ้าง

“สะพานจันทร์โอชา” คือเรื่องที่สายัณห์ภูมิใจมากที่สุดกับการทำหน้าที่ ส.ส.4 ปี

สะพานจันทร์โอชา เป็นข้อเสนอของสายัณห์ให้สร้างสะพานเชื่อมระหว่าง อ.ขนอม ของจังหวัดนครศรีธรรมราชกับเกาะสมุย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สายัณห์ทัวร์ลงกับข้อเสนอสร้างสะพานจันทร์โอชา ซึ่งเริ่มจะเป็นจริง กระทรวงคมนาคมทำเอ็มโอยูกับสามหน่วยงาน เดินหน้าออกแบบสะพานจันทร์โอชาแล้ว คือกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยกรมทางหลวงจะรับผิดชอบสร้างถนนเชื่อมกับสะพานฝั่ง อ.ขนอม กรมทางหลวงชนบทจะสร้างถนนเชื่อมกับสะพานฝั่งเกาะสมัย และการทางพิเศษจะสร้างในส่วนของตัวสะพาน ซึ่งน่าจะใช้งบประมาณปี 2577

ดร.นิว ซัด ‘ลัทธิสามนิ้ว’ อ้างปชต.พร่ำเพรื่อ ที่ไหนได้ กลายเป็นด้อยค่าประชาธิปไตยเสียเอง!

(7 พ.ย. 65) - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan โดยมีเนื้อหาดังนี้

การแอบอ้างคำว่าประชาธิปไตยอย่างพร่ำเพรื่อและฟุ่มเฟือยของลัทธิสามนิ้ว กลับกลายเป็นการด้อยค่าประชาธิปไตยเสียเองด้วยความมักง่าย คำว่าประชาธิปไตยจึงถูกลดทอนกลายเป็นเพียงแค่คำพูดดาษดื่นแบบกลวง ๆ ตามแฟชั่น

บ้างก็หลงผิดว่าการใช้สิทธิเสรีภาพตามอำเภอใจแบบอนาธิปไตยเป็นประชาธิปไตย ทั้ง ๆ ที่การใช้สิทธิเสรีภาพตามแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องรับผิดชอบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เคารพต่อกฎหมายและประโยชน์สุขของสังคม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top