Wednesday, 2 July 2025
POLITICS NEWS

'ดร.เสรี' ขยี้ซ้ำ!! ปมขายบ้านให้ทุนจีนสีเทา เหตุไฉน 50 คนไทย พร้อมใจขายให้คนจีน

(6 ธ.ค. 65) ไม่นานมานี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“คนไทย 50 คนซื้อบ้าน รับโอนจากบริษัทอสังหาฯ แล้ว มีคนจีนต้องการซื้อต่อ ปรากฏว่า คนไทยทั้ง 50 ราย พร้อมใจกันขายให้คนจีนทั้ง 50 คนเลย ฟังดูอัศจรรย์มากเลยนะคะ

เจ้าของโครงการที่เป็นลูกเจ้าของคอกยังเงียบอยู่ไม่พูดอะไรเลย เพราะกรณีนี้ งานเข้าจริง ๆ ยากที่จะหาคำอธิบายใด ๆ มาชี้แจง ว่าทำไมคนต่างชาติจึงเป็นลูกค้าซื้อบ้าน ทั้ง ๆ ที่กฎหมายไม่อนุญาต

ที่ร้ายไปกว่านั้น ก็คือ คนของตนเองดันออกมาพูดยืนยันว่าเรื่องที่พูดกันเป็นเรื่องจริง จนมีคนหลายคนเชียร์ให้ขุดต่อ อย่าได้หยุด ขุดให้เต็มที่ไปเลย

งานนี้ตำรวจที่ทำคดีจะต้องทำอย่างโปร่งใส จัดการกับคนทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง อย่าให้มีการลูบหน้าปะจมูก เป็นมวยล้มต้มประชาชนที่ต้องการกระฉากหน้ากากคนที่ทำผิดกฎหมายเพราะเห็นแก่ตัว”

'สว.สมชาย' ถาม? เหมาซื้อบ้านเงินสด 50 หลัง ‘ผู้ขาย-สำนักงานที่ดิน’ ไม่สงสัยบ้างหรือ?

(5 ธ.ค. 65) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

นายกลุงตู่แปลกใจเหมือนผมมั้ยครับ? ใช้เงินสดเหมาซื้อบ้าน 50 กว่าหลัง ๆ ละ 50 ล้าน เหตุใดผู้ขายและสำนักงานที่ดินไม่รายงานความผิดปกติของการใช้เงินสดดังกล่าว 

‘นิติพล’ ชุมนุมทัพเชียงใหม่ ตั้งเป้าไล่ทุบงูเห่า กร้าว!! กวาด ส.ส. ให้เป็น 'สีส้มยกจังหวัด'

เมื่อวันที่ (4 ธ.ค. 65) ที่ผ่านมา นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้งภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ภาคเหนือทั้งภาคโดยเฉพาะเชียงใหม่ทั้งจังหวัดถือเป็นพื้นที่คาดหวังได้ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งการแบ่งเขตแบบเดิมมี 9 เขต แต่ในครั้งนี้จะแบ่งเป็น 11 เขต โดยพรรคก้าวไกลมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ครบแล้วทุกเขต เหลือเพียงขั้นตอนการรับรองให้ครบถ้วนตามกระบวนการเท่านั้น 

“กระบวนการคัดสรรผู้สมัครเพื่อเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ เราเลือกจากการที่ทุกคนรู้จักพื้นที่ตัวเองเป็นอย่างดี รู้ทั้งปัญหาและศักยภาพเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องประชาชนให้ได้ แต่อีกสิ่งสำคัญที่สุด คือทุกคนมีอุดมการณ์และดีเอ็นเอแบบก้าวไกล ดังนั้น คนประเภทอกตัญญูที่เคยสร้างความผิดหวังในครั้งก่อน หากยังกล้าเสนอตัวเข้ามาลงเลือกตั้งอีก ก็ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยสั่งสอนคนประเภทนี้ให้หลาบจำและสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่การเมืองของคนเชียงใหม่ด้วย” นายนิติพลกล่าว

'บิ๊กป้อม' พร้อมตั้ง 'มิ่งขวัญ' หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หลังจ่อซบ พปชร. คาด!! เตรียมเปิดตัวพรุ่งนี้

แหล่งข่าวระดับสูงยัน 'มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์' ดีลลงตัวเข้ารังพลังประชารัฐพร้อมทีมงาน เผย 'บิ๊กป้อม' เตรียมแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตัวพรุ่งนี้

วันนี้ (5 ธ.ค. 65) 'พรรคพลังประชารัฐ' ที่โดน 'กระแสดูด' จากพรรคใหม่ 'ลุงตู่' เตรียมเปิดตัว 'มือเศรษฐกิจคนสำคัญ' อย่าง 'นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์' อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงานกับพรรค

โดยได้รับการยืนยันจาก แหล่งข่าวระดับสูงภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายมิ่งขวัญ พร้อมทีมงาน จะย้ายเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ แบบยกทีม โดยประสานมาทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และเตรียมแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 6 ธ.ค.

'อนุทิน' ย้ำชัด!! ไม่เคยปล่อยกัญชาเป็นสันทนาการ เย้ย!! ถึงถูกขัดขา แต่คะแนนนิยมก็ยังไม่ลด

'อนุทิน' ชี้ ปมกัญชาไม่ให้ราคาเด็กปชป. บอกคนละระดับ สื่อสารแค่กับ หน. - เลขาฯพรรค ย้ำไม่เคยปล่อยสันทนาการ เย้ยถูกขัดขาแต่คะแนนนิยมไม่ลด 

(5 ธ.ค. 65) ที่ จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังออกมาตอบโต้ปมกัญชา ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ตนมีความแนบแน่นกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งกับนายจุติ เราต่างก็ดูแลประชาชน เวลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านนั่งติดกับตน อะไรที่ดูแล้วขัดแย้งกัน ตนก็โทรไปคุยกับท่าน

เมื่อถามว่า แต่ภาพที่ออกมาเหมือนพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนไม่ลงรอยกัน เพราะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีการใช้คำพูดที่รุนแรงว่าใจไม่ต่ำพอที่จัดฉาก ทำให้นายอนุทิน สวนกลับทันทีว่า "เขาพูดแทนผมเลย ว่าใจไม่ต่ำพอที่จะจัดฉาก คนพาลก็แบบนี้ ภูมิใจไทยอยู่เฉยๆ หนีไปภูเก็ต หนีมานครพนมก็ยังตามมา คงจะหิวแสง ขึ้นแล้วหาทางลงไม่ได้"

'พิธา' มั่น!! ผลงานท้องถิ่นคณะก้าวหน้า หนุนคนร้อยเอ็ดมั่นใจพรรคก้าวไกล

'พิธา' เชื่อ ผลงานท้องถิ่นคณะก้าวหน้า หนุนคนร้อยเอ็ดยิ่งมั่นใจก้าวไกล ยก 'อาจสามารถ' น้ำประปาดื่มได้ ช่วยประชาชนเข้าใจ 'ประชาธิปไตยกินได้'

ไม่นานมานี้ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมพบปะสมาชิกและผู้สนับสนุนที่ศูนย์ประสานงานพรรค จ.ร้อยเอ็ด รวมทั้งลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนและนำเสนอแนวนโยบายพรรคในหลายจุดทั่วจังหวัด

รังสิมันต์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้ต้องการแค่ผลคะแนน ไม่ได้ต้องการแค่เป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ แก่นแกนของพรรคก้าวไกล คือการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมไม่ว่าจะยุคสมัยไหนหรือรูปแบบใด ผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น การปฏิรูปที่ดินให้เป็นธรรม การปฏิรูปกองทัพ ที่ไม่ได้มีเป้าหมายแค่เพื่อป้องกันรัฐประหารเท่านั้น แต่คือการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น รวมทั้งการปลดล็อกท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่และมีงบประมาณเพียงพอในการดูแลชีวิตประชาชน

โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างเงินผู้สูงอายุ 3,000 บาท ไม่ใช่แค่นโยบายกู้มาแจกตามที่บางฝ่ายกังวล แต่คือนโยบายที่คิดมาเป็นอย่างดีว่านอกจากจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ยังช่วยเหลือประชาชนวัยทำงานที่ต้องดูแลลูกและพ่อแก่แม่เฒ่า ให้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง สามารถใช้ชีวิต กล้าลอง กล้าฝัน ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชุดนโยบาย 'สวัสดิการไทยก้าวหน้า' ที่จะดูแลประชาชนทุกช่วงวัย โดยจากการพบปะประชาชน สามารถบอกได้ว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ได้รับเสียงตอบรับดีที่สุดจากประชาชนทุกช่วงวัย

'นพดล' ชี้ 'จิรายุ' สำคัญกับเพื่อไทยเสมอมา เชื่อ!! เคลียร์ใจกันได้ เพื่อเดินหน้าแลนด์สไลด์ไปด้วยกัน

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 65 เวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะขอทบทวนเส้นทางการเมืองหลังพรรคฯ จะส่งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเคยเป็นโจทก์เก่าของนายจิรายุ มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง พรรคเพื่อไทยว่า นายจิรายุเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพคนหนึ่งของพรรค และทำงานหนักในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตนยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนายจิรายุ แต่เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยยังมีพื้นที่และมีโอกาสให้นายจิรายุได้ทำงานทางการเมืองสานต่อคุณภาพการเมืองที่เขาทำไว้ต่อ ซึ่งคงจะมีโอกาสได้หารือกัน ทั้งนี้ พรรคการเมืองก็เหมือนเรือที่อยู่ในทะเล ก็จะเจอคลื่นลมเป็นเรื่องปกติแต่เราต้องมีกระบวนการในการระงับความไม่พอใจหรือความขัดแย้งได้ 

“ผมมั่นใจว่านายจิรายุจะเห็นถึงผลประโยชน์ของพรรคและประเทศ เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็กำลังเดินหน้าสู่ชัยชนะแลนด์สไลด์เพื่อสร้างโอกาสในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน นายจิรายุก็เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งจึงอยากให้เขาอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อ แต่ความไม่พอใจหรือความน้อยใจก็เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งในส่วนตัวผมคิดว่าสามารถเคลียร์กันได้ เพราะนายจิรายุก็เป็นคนที่รับฟังเหตุผล” นายนพดล กล่าว

กมธ.พัฒนาการเมือง เยือนเยอรมัน แลกเปลี่ยนมุมมองบ้านเมือง เพิ่มความร่วมมือการทำงานของ กมธ.สองประเทศ

กรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เดินทางเยือนประเทศเยอรมันตามคำเชิญของตามคำเชิญของ มูลนิธิ Hanns Seidel Foundation Thailand เพื่อศึกษาแนวทางทำงานร่วมกัน ระหว่าง รัฐสภาไทย และ รัฐสภาเยอรมัน รวมถึงกลไกลการทำงานของทางคณะกรรมาธิการของทั้ง 2 ประเทศ

ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยระหว่างการเดินทางเยือนครั้งนี้ สมาชิกกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ มีกำหนดการเข้าพบปะหารือกับ คณะกรรมาธิการคำร้อง และ คณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปการเลือกตั้งและความทันสมัยของกิจการสภาผู้แทนราษฎรประจำสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธรัฐเยอรมนี และ คณะกรรมาธิการคำร้องและการร้องทุกข์และคณะกรรมาธิการรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และกิจการรัฐสภา และ การบูรณาการประจำสภาแห่งมลรัฐบาวาเรีย

'ครูแก้ว' จ่อฟ้อง 'ทนายตั้ม-ไฮโซสาว' หลังโยงปมลวงเงินช่วยเคลียร์คดี 25 ล้าน

วันที่ 4 ธ.ค. 65 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ  ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงชี้แจงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวหาว่าอดีตผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.จังหวัดหนึ่ง และเป็นสามีไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายก อบจ.ดังกล่าว ได้ลวงเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากนักธุรกิจสาวไฮโซ เพื่อหลอกช่วยเคลียร์คดี โดยยอมรับว่า เคยรู้จักกับผู้ช่วยฯ คนดังกล่าวจริง หลังจากได้เข้ามาขอช่วยงานในช่วงที่ตนได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯ 

ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี ตนจึงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ และได้มอบหมายให้มาช่วยงานลูกสาว หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.นครพนม แต่หลังจากทำงานได้ 2-3 เดือน บุคคลดังกล่าวได้ลาออกไป โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสมกับงาน และไม่ได้ติดต่อหรือเกี่ยวข้องกันอีก  

‘จิรายุ’ ตัดพ้อ!! ไม่มีค่ากับพรรคเพื่อไทย ปมเปิดตัว ‘โจทก์เก่า’ เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.

เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค. 65) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส. ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี ว่าตนทำงานรับใช้และต่อสู้กับพวกเผด็จการ ให้กับพรรคเพื่อไทยมา 10 กว่าปี ไม่คิดว่าพรรคจะจัดได้เต็มคาราเบลกับตนเช่นนี้เหมือนกัน

“ทำให้ต้องคิดมากขึ้นในเรื่องแนวทางการเมืองนับจากนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือของพรรค เรียกให้ผมไปพูดคุยแล้วก็ยืนยัน แต่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ ตีความได้อย่างเดียวว่า ผมไม่มีคุณค่ากับพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป อย่าคิดว่าคนที่เคยด่าผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเป็นปรปักษ์ของพรรคมาตลอดจะทำอะไรกับพรรคเพื่อไทยก็ได้ อยากจะไปก็ด่าพรรคเอาใจ 3ป. อยากจะกลับมาก็ชเลียร์”

นายจิรายุ กล่าวต่อว่าสำหรับกลไกการขับเคลื่อนด้านติดตามตรวจสอบทุจริต ยังเดินอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีคดีความของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ที่คณะกรรมาธิการกิจการศาลฯและตนได้ยื่นฟ้องไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เรื่องการทุจริตของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแล้ว มีอีก 3 สำนวน ในการตรวจสอบทุจริตของกรมและการใช้เงินกองทุนพัฒนาทรัพยากรน้ำบาดาล ปีที่ผ่านมา ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทั้งเอกชนและข้าราชการระดับสูงและรองอธิบดีจนถึงผู้อำนวยการกองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เอฟซีจิรายุ ขอให้มั่นใจได้ว่าใครจะเข้ามาบ้านนี้ด้วยวิธีการแบบใดไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ตนเคารพนับถือต้องอธิบายให้ได้ ไม่เช่นนั้นหลักการ ที่ศรัทธามาตลอด 10 กว่าปีจะสิ้นไป

นายจิรายุกล่าวอีกว่า ปีที่แล้วต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้จนบอบช้ำ พรรคก็ไม่เคยให้ความช่วยเหลืออะไรอยู่แล้ว ถูกนายศักดิ์ดา กลั่นแกล้งไปยื่นฟ้องที่สายบุรี ปัตตานี พื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเรื่องขี้หมามาก หวังให้ตนเสี่ยงชีวิต เดชะบุญที่มีบ้านใหญ่ปัตตานี นายซูการ์โน มะทา ดูแลความปลอดภัยให้ตลอด ต่อสู้คดีจนชนะและฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายทั้งทางอาญาและทางแพ่งไป 25 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top