'ก้าวหน้า-ก้าวไกล' เสียดายอนาคตประเทศ หลังสภาคว่ำร่าง 'ปลดล็อกท้องถิ่น'
‘ก้าวหน้า-ก้าวไกล’ แถลงเสียดายอนาคตประเทศ หลังสภาคว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ธนาธร’ ยัน ไม่ได้เสนอยกเลิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ด้าน ‘พิธา’ รับไม้ต่อ ชูนโยบายกระจายอำนาจปราศรัยทั่วประเทศ ชี้ ส.ส. มีหน้าที่ผ่านกฎหมายก้าวหน้า ไม่ใช่ดึงงบลงบ้านใหญ่
(7 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ จากการเข้าชื่อของประชาชน ด้วยคะแนนรับหลักการ 254 คน ไม่รับหลักการ 245 คน และ งดออกเสียง 129 คน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล และวีระศักดิ์ เครือเทพ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หนึ่งในผู้ชี้แจงร่างปลดล็อกท้องถิ่น
ธนาธร กล่าวว่า เราอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองมานาน แต่ร่างฉบับนี้เป็นร่างที่ตั้งใจปฏิรูป เพื่อทำให้ระบบราชการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชน ทันต่อสถานการณ์โลก แบ่งเบาภาระราชการส่วนกลาง ให้ท้องถิ่นดูแลบริการสาธารณะทุกอย่างในพื้นที่และมีงบประมาณเพียงพอ ขณะที่ส่วนกลาง ดูแลมาตรฐานการบริการสาธารณะให้ทุกพื้นที่มีคุณภาพเหมือนกันและพาประเทศไทยไปเวทีโลก
ธนาธร กล่าวต่อว่า บางฝ่ายให้ความเห็นว่าแนวคิดของพวกเราสุดโต่งเกินไป แต่การปล่อยให้ปัญหาของประชาชนอยู่มานานโดยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คนที่กักขังประเทศไว้แบบนี้ต่างหากที่สุดโต่ง นอกจากนี้ ร่างฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่ให้จัดทำแผนยกเลิกส่วนภูมิภาค และทำประชามติถามประชาชนว่าจะยกเลิกหรือไม่ภายใน 5 ปี มาถกเถียงกันว่าเมื่อกระจายอำนาจและงบประมาณไปให้ท้องถิ่นเต็มที่แล้ว ราชการส่วนภูมิภาคควรมีบทบาทอย่างไร และสุดท้ายคือเรื่องการทุจริต ตนคิดว่าทุกรายงานยืนยันตรงกัน ว่าส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีมูลค่าการทุจริตมากกว่าท้องถิ่น
“ขอยืนยันความตั้งใจของเรา ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่เป็นการทำให้การบริการของภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลายข้อกล่าวหาที่เราได้รับจึงไม่ได้ตั้งอยู่บนความจริง แต่ตั้งอยู่บนอคติที่ผิด เสียดายเวลาและโอกาสของประเทศ ทั้งที่หากเราเห็นไม่ตรงกัน รัฐสภาควรรับหลักการในวาระ 1 เพื่อไปถกเถียงแลกเปลี่ยนในวาระ 2 ต่อ เพราะเรายืนยันชัดเจนว่าพร้อมประนีประนอม แต่แม้วันนี้ทำไม่สำเร็จ คณะก้าวหน้าจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องการกระจายอำนาจต่อไป และเชื่อว่าเพื่อนร่วมงานของเราในพรรคก้าวไกล จะสานต่อภารกิจนี้” ธนาธรกล่าว
ขณะที่ พิธา กล่าวว่า การกระจายอำนาจอย่างแท้จริงเป็นหนทางเดียวของประเทศไทย เป็นนโยบายที่จะปราศรัยทุกเขต เช่นนโยบายยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ล้วงลูกการทำงานของท้องถิ่น หรือการเพิ่มงบของท้องถิ่นทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาท ภายใน 4 ปี โดยที่ผ่านมาเห็นว่าเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จากการลงพื้นที่ ตนได้เห็นท้องถิ่นที่มีศักยภาพ แต่หากไม่มีการแก้ไขกฎหมายให้กระจายอำนาจมากขึ้น ประเทศไทยก็จะกระจุกตัวต่อไป
