Sunday, 22 June 2025
POLITICS NEWS

‘บก.ลายจุด’ ขอโทษ ‘หมอชลน่าน’ ปมม็อบนำภาพมาเหยียบ เผย!! ตอนนั้นตนไม่เห็นกิจกรรมนี้ หากเห็นคงเข้าไปห้ามแล้ว

(24 ก.ค. 66) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง ‘บันทึก 23 ก.ค. 66 #พร้อม ครั้งที่ 1 แยกอโศกมนตรี’ โดยระบุว่า…

- ม็อบกลางสายฝนตั้งแต่เริ่มจนจบม็อบ ให้ข้อคิดถ้าใจมันมาแค่เม็ดฝนหยุดพวกเราไม่ได้ ฝนเป็นทั้งอุปสรรคและ KPI วัดสภาวะความรู้สึกของผู้คน แปลว่าเดือดจัด 
- ตำรวจรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าเมื่อวานนี้มีผู้ชุมนุมประมาณ 700 คน 
- การยื่นการชุมนุมในที่สาธารณะกับตำรวจเป็นกลไกที่ถูกต้อง ต่างคนต่างเห็นเงื่อนไขกันและกัน ที่เหลือไปว่ากันหน้างานยืดหยุ่นกันไป ดีกว่าไม่คุยกันก่อนถึงเวลาต่างคนต่างระแวง โอกาสเกิดสิ่งไม่คาดฝันสูง
- ป้า ลุง มวลชนเสื้อแดงยังเป็นมวลชนพื้นฐานของม็อบประชาธิปไตย เจอตั้งแต่คนที่ประท้วง คมช. ปี 49 เสื้อแดงปี 53 ที่น่าสนใจมีหลายคนบอกว่านี่เป็นการมาชุมนุมทางการเมืองครั้งแรกของชีวิต นี่คือก้าวที่สำคัญที่ยืนยันว่าคุณเป็นพลเมืองและเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เพราะคุณหวงแหนมัน 

- ตัวอักษร ค.ขนาดใหญ่ ดำเนินการโดยกลุ่ม Free Art ทำได้เหลือเชื่อมาก ๆ
- การเดินขบวนรอบที่ชุมนุมโดยใช้เสียงกลองนำ เป็นกิจกรรมที่พัฒนาต่อได้และควรทำต่อ มีโอกาสที่จะสร้างรูปแบบการประท้วงในอีกรูปแบบหนึ่ง ดำเนินการโดยราษดรัม 
- การยืนบนเวทีโดยมีพี่สมยศ พฤกษาเกษตรสุข ยืนอยู่ด้วย เหมือนได้ผู้กำกับเวที คำแนะนำสด ๆ บนเวทีสำคัญมากต่อการประเมินสถานการณ์และการตัดสินใจ ขอบคุณมากครับพี่ยศ
- อ.ธิดา ส่งสาส์นผ่านผู้ช่วยมา สนับสนุนการเคลื่อนไหว และยืนยันว่าเสื้อแดงคือมวลชนที่ต่อสู้กับเผด็จการและสร้างสรรค์ประชาธิปไตยตลอดไป 
- สื่อมวลชนให้ความสนใจจำนวนมาก แต่ผมพยายามกวาดตามอง ทำไมไม่มีช่องดังอย่าง ITV

- เกิดเหตุมีการนำภาพ นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาวางกับพื้นแล้วมีคนไปเหยียบ ผมไม่เห็นกิจกรรมตรงนั้น (หลุดรอดสายตา) คำถามคือ ถ้าผมเห็นผมจะทำยังไง ผมคิดว่าผมจะเดินไปขอร้องคนที่นำกิจกรรมนี้ ในยามนี้ขณะที่ยังฝุ่นตลบให้รักษาน้ำใจกันไว้ ความสามัคคีสำคัญยิ่ง และคงขอให้ช่วยยุติกิจกรรมนี้ และขออภัย นพ.ชลน่าน และมิตรสหายที่สนับสนุน เพื่อไทย มา ณ โอกาสนี้ 
- แนวทางการชุมนุมแบบใช้เวลาน้อย ๆ ถูกต้องแล้ว และถ้าพัฒนาให้มันใกล้เคียงกับ Flash Mob ได้เท่าไหร่ นั่นคือรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ทรงพลัง
- ดีใจที่ลูกนัทกลับสู่กิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน
- ได้กล่าวคำขออภัยต่อหน้าแฟนหนุ่มของน้องมันแกวว่าที่ผ่านมาอาจแซวน้องมันแกวในเพจแรงไปหน่อย แฟนหนุ่มบอกว่า “เต็มที่เลยพี่”

- #พร้อม ครั้งที่ 2 ถ้ามีจะเป็นการเดินขบวน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในสภาฯ ว่ามีคำตอบที่ประชาชนพอใจหรือไม่ 
- ผมไม่ได้พูดคำว่า สว.หัวควย คนตะโกนเป็นใครนั้นผมไม่ทราบเพราะมันมืด แต่ในใจผมก็เห็นด้วยแต่ไม่ได้พูด
- ขอบคุณมิตรสหายคนเล็กคนน้อยที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทั้งค่าเครื่องเสียง เสื้อกันฝน และค่าการจัดการต่าง ๆ

‘อี้ แทนคุณ’ ชมม็อบแปลอักษร ‘ค.ควาย’ สร้างสรรค์ ดีกว่าม็อบใช้ความรุนแรง - ทำลายทรัพย์สิน

(24 ก.ค. 66) นายแทนคุณ​ จิตต์​อิสระ ​รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธิ​ปัตย์​ และอดีต สส. กทม. กล่าว​ถึงการชุมนุม​​ของประชาชนที่สี่แยกอโศก​เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้มีโอกาส​ร่วมสังเกตการณ์​ด้วยตนเองบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พบว่ามีประชาชน​เดินทาง​มาร่วมชุมนุมจำนวนมาก ส่วนใหญ่​ใส่เสื้อผ้าและมีเครื่องประดับทั้งสีดำและส้ม มีสัญลักษณ์​ของพรรคก้าวไกล​และป้ายข้อความ​การปราศรัย​โจมตี สว. ทั้งภาษาไทย​และภาษาอังกฤษ​ตลอดเวลา​ โดยไฮไลต์​อยู่​ที่ผู้​ชุมนุม​พร้อมใจกันแปรอักษร​เป็น​ตัว ‘ค.ควาย’ เต็มถนนบริเวณ​พื้นที่​ที่ชุมนุม ทำให้เกิด​เป็น​ปรากฏการณ์​ใหม่ที่ไม่เคยเกิดในการชุมนุม​ทางการเมือง​ของประเทศ​ไทย

“เชื่อว่าเกิดขึ้น​ด้วยความคิดสร้างสรรค์​ของแกนนอน คือ นายสมบัติ​ บุญ​งามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด นักกิจกรรม-​เคลื่อนไหว​ทางการเมือง​​ชื่อดัง ที่ออกแบบการชุมนุมในครั้งนี้โดยใช้สัญลักษณ์​สื่อความหมาย​สั้น กระชับ ตรง ทรงพลังและเป็​นที่จดจำ โดยเฉพาะ​ข้อสังเกต​คือ จากอักษร​ ‘ค.ควาย’ ที่มักถูกใช้ในการคอมเมนต์​ในโลกออนไลน์​กับความเห็นต่างเมื่อนำมาแปรอักษรเป็น ‘ค.ควาย’​ บนถนนก็แปลกตาดี โดยอยากสนับสนุน​ให้ใช้ความสร้างสรรค์​รูปแบบนี้ในทุก ๆ การชุมนุม ไม่ซับซ้อน​และตรงไปตรงมา​แสดงออกอย่างแบบสันติวิธี​นี้ ซึ่งย่อมดีกว่าการใช้ความรุนแรงและไปบุกรุกสถานที่ทำการของพรรคการเมื​องหนึ่งที่ทำลายบรรยากาศ​การหาทางออกของประเทศ​ที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ทำลายทรัพย์สิน​ ทำลายความรู้สึก​ของประชาชนที่รอความหวังโดยกลุ่มการเมือง​หัวรุนแรงเดิม ที่มักใช้วิธีคุกคามคนอื่นด้วยวิธีป่าเถื่อน​เสมอ” นายแทนคุณ ระบุ

ท้ายนี้ยอมรับ​ว่าเป็นห่วงสุขภาพ​ของผู้ชุมนุม​ที่มีทั้งผู้สูงอายุ​ คนหนุ่มสาว เด็กเยาวชน​ที่เสียสละออกไปร่วมชุมนุม โดยอยากทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง​จัดสถานที่​การชุมนุม​ให้สอดคล้อง​กับสภาพภูมิอากาศ​ และรองรับผู้เข้าร่วม​ชุมนุม​และผู้ร่วมสังเกตการณ์​จำนวนมาก เพื่อความปลอดภัย​จากโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น​อีกจากการรวมตัวใกล้ชิด​ด้วย

‘จตุพร’ เปิดใจ!! เรื่องในอดีตที่ทำให้เจ็บปวด ชี้!! ยึดอํานาจจะไม่เกิด หากไร้ผู้ร่วมสมคบคิด

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ติ๊กต็อกบัญชี ‘@RudyH20’ ได้แชร์คลิปวิดีโอ ‘คุณจตุพร พรหมพันธุ์’ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘Thairath Talk’ เกี่ยวกับประเด็น ‘คุณทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมมือสมคบคิดจนเกิดการปฏิวัติ ซึ่งคุณจตุพร ได้ระบุว่า… 

“ผมเป็นประธาน นปช. และเป็นผู้นําในการต่อสู้ที่อักษะ ซึ่งผมจะอยู่ในบริบทตกลงในเรื่องความรับผิดชอบหน้าที่ในการชุมนุม รับผิดชอบเรื่องเวทีพร้อมกับบรรดาแกนนํา ผมในฐานะหัวแถวก็ได้รับภารกิจนี้”

“ส่วนในเรื่องของคน แน่นอนที่สุดในการชุมนุมชนิดที่ต้องค้างคืนยาวนาน มันต้องใช้ ‘ระบบขนคนหมุนเวียน’ ซึ่งจะมีพี่น้องเสื้อแดงจากต่างจังหวัดอยู่แล้ว ส่วนช่วงตอนเย็นคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะมาร่วมสมทบ แล้วค่อยกลับบ้านกัน แต่ว่าต้องมีคนที่อยู่ประจําเป็นหลัก ซึ่งตกลงกันว่าในเรื่องของการขนคน จะมีจุดเช็ก รวมถึงมีจุดต่าง ๆ ก็ให้ในส่วนของนายกฯ ทักษิณเป็นคนรับผิดชอบ ส่วนเรื่องเวทีผมจะเป็นคนรับผิดชอบ ก่อนการเจรจาวันที่ 21 พ.ค. 2557 ในช่วงเช้า คนจาก 3 หมื่น เหลือไม่ถึง 500 คน จนกระทั่งเหลือหลักร้อยคน ผมก็รู้ว่ามีปัญหาแล้ว ก็รู้ว่ามีน้องในคณะสาม ป. ไปอยู่กับนายกฯ ทักษิณ จึงเป็นที่มาของการตัดกําลังคน เพราะว่าถ้าคนยังอยู่ที่อักษะ รองพื้น 3 หมื่นคนเหมือนเดิม ตอนเย็นเติมเป็นแสนคน การยึดอํานาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แต่ว่าเพราะมีการสมคบคิดกัน ขนาดวันที่ 19 พ.ค. 2553 ปิดล้อมสลายการชุมนุม คนยังเหลืออยู่ 5 พันคน ในแต่ละจุด แต่วันนั้นเหลือไม่ถึง 500 คน มีคนที่ทําได้คนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี” 

เมื่อถามถึงสถานการณ์ตอนที่รู้ว่า เกิดปฏิวัติขึ้นแล้ว ถูกปิดห้องแล้ว คุณจตุพรโทรไปหาคุณทักษิณแล้วคุยอะไรกัน? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมไม่ได้โทร ผมมีโอกาสพูดกับ 3 คนสุดท้ายก่อนการยึดอํานาจ มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และตัวผมเอง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็บอกว่าไม่มีอะไร คุยกันแล้ว และประกาศในห้องว่า คุยเรื่องห้องน้ำห้องท่า แล้วก็ชี้ไปที่ กกต. ว่านี่ก็ไม่เลือกตั้ง ชี้ไปที่คุณชัยเกษม ว่านี่ก็ไม่ลาออก ดังนั้น ผมจึงขอยึดอํานาจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ทําท่าทางประมาณว่าไม่ทันแล้ว หลังจากนั้น ก็เริ่มทยอยถูกนําตัวออกไป ซึ่งคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถูกนำตัวออกไปเป็นคนแรก” 

เมื่อถามว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณจตุพรทะเลาะกับคุณทักษิณใช่หรือไม่? แบบนี้ประชาชนทุกคนก็จะไม่รู้เรื่องนี้ คุณจตุพร ตอบว่า…

“ผมก็ไม่พูด ผมก็กลืนเลือดไป ผมเจ็บมากนะ เพราะว่านั่นคือ ‘การยึดอํานาจ’ และไปกระทําการโดยที่เราอยู่ในสนามรบ รับผิดชอบชีวิตผู้คน และไปเจรจากับผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น แต่ว่าผมก็รู้แล้วว่า เราทําได้เพียงแค่ต้องการยื้อเวลา แล้วก็สามารถยื้อได้สองวัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี” 

คุณจตุพร ยังเล่าต่อว่า ตนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องใส่ร้าย ถ้าไม่เป็นความจริงก็เรียงกันมาหน้าถลกหนังผมแดงเถือกแล้ว เมื่อเรานําทัพการต่อสู้ แล้วดันถูกทรยศหักหลังซึ่งหน้ากันแบบนั้น เราเจ็บปวด แต่เรารู้ว่าถ้าเราพูดในขณะนั้นคนที่เจ็บปวดมากกว่าเรา คือ ‘ประชาชน’ 

เมื่อถามว่า ในมุมของคุณจตุพร รู้สึกโกรธคุณทักษิณ หรือพลเอกประยุทธ์? คุณจตุพร ตอบว่า…

“ณ วันนี้มันเลยความโกรธทั้ง 2 คนนั้นไปแล้ว ในวันนั้นผมโกรธทั้ง 2 คน ทั้งคนเปิดประตูให้ยึดกับคนยึด มันก็ควรโกรธเสมอภาคกันอย่างสมควร ถ้าไม่เปิดประตูให้ยึด การยึดก็ไม่ง่ายหรอก แต่เพราะว่ามันเกิดการสมคบ เกิดการสยบยอม โดยที่ไม่ได้บอกความจริงกับประชาชน”

‘อัษฎางค์’ เผย!! สิ่งที่ด้อมส้มยังไม่รู้ แต่ผมรู้ ผู้ขัดขวาง ‘พิธา’ ไม่ใช่แค่ ส.ว.และ ส.ส.ต่างขั้ว

(23 ก.ค.2566) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ระบุว่า...

“เพื่อนรักหักเหลี่ยมด้อม”

สิ่งหนึ่งที่ด้อมส้มไม่รู้ แต่ผมรู้ ก็คือ...

คนที่กีดกันหรือไม่อยากให้พ่อทิมเป็นนายกฯ ไม่ใช่แค่ ส.ว.และ ส.ส.ฝ่ายอนุรักษนิยม 

แต่ยังมี…
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด 2 คนข้างๆ นั้นแหละ

คนหนึ่ง เค้าก็คิดว่า เงินกรู
อีกคน เค้าก็คิดว่า สมองกรู

มรึงมาที่หลังแบบเงียบๆ แต่มรึงจะคว้าเก้าอี้นายกฯ ไปแบบฟลุคๆ ไม่ได้นะเพื่อน กรูs (กูแบบพหูพจน์) อิจฉา

เพราะฉะนั้น กรูs แอบลุ้นอยู่เงียบๆ โดยการอาศัยมือ ส.ว.และ ส.ส.อนุรักษนิยมผู้จงรักภักดี ล้มกระดานที่นำไปสู่เส้นทางการเป็นนายกฯ ของมรึง

กรูลงทุนไปเยอะ ดังนั้นกำไรที่กรูs จะได้ต้องเป็น มวลชนที่ถูกบิวให้เกิดอารมณ์ผิดหวัง โกรธแค้น มาเป็นมวลชนผลักดันให้กูS นี่แหละเป็นนายกฯ ตัวจริง ในอนาคต ไม่ใช่มรึง

กรูรออยู่ มรึงอย่าหวังว่าจะมาตัดหน้า

แต่กรูหวังว่ามรึงคืออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะทำกำไรให้กรูบรรลุเป้าหมาย เข้าใจมั้ยเพื่อน

มรึงเป็นหนู ส.ว.เป็นแพะ ส่วนกรูs ต้องเป็นตาอยู่
เข้าใจไว้ด้วย

นิสัยคนไทยอะนะ “เวลารบจะสามัคคี แต่เวลาอยู่ดีจะตีกัน”

ลองดูสมัยที่พวกมรึงตีกันดิ แล้วดูตอนนี้เพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับ รทสช. / ภูมิใจไทย และ พปชร. ดิ

“เวลารบจะสามัคคี แต่เวลาอยู่ดีจะตีกัน”

นี่แหละคนไทย

‘ฟลุค เดอะสตาร์’ ทวีตจวก ‘ก้าวไกล’ เป็นภาระ!! ชี้!! ถ้าตั้งรัฐบาลสำเร็จตั้งแต่แรก ‘เพื่อไทย’ ก็ไม่ซวย

(23 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพชร ธรรมมล หรือ ‘ฟลุค เดอะสตาร์’ นักร้อง นักแสดง ที่ผันตัวมาเล่นการเมืองภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความ โดยระบุว่า…

“ถ้าก้าวไกลมีปัญญาทำให้สำเร็จแต่แรก วันนี้เพื่อไทยไม่ซวยนะ ภาระชิบหาย”

ทั้งนี้ ชาวทวิตเตอร์ต่างเข้ามารีทวีตข้อความดังกล่าว พร้อมกับแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ต่อมา ฟลุค ยังทวีตเพิ่มเติมอีกว่า…

“แล้วไง? ใครจะเถียงว่า พท.ไม่ได้กำลังเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวความล้มเหลวที่ กก.ทิ้งไว้พา 8 พรรคไปต่อให้ไกลที่สุด ซึ่งผลมันก็มาจากคำโกหกว่า ส.ว.เป็นเสือกระดาษโหวตให้ 100 เสียง ชัวร์ไหน? วันนี้ พท.พยายามหาเสียงโหวตเพิ่ม แล้วก้าวไกลทำอะไรครับนอกจากปล่อย ส.ส.มาทวิตแขวะ? ทำตัวแบบนี้ก็ภาระจริงนะ ยืนยัน”

“ถ้าไม่เดินต่อในทางที่เดินได้ตามกติกาเพื่อร่าง รธน.ใหม่ตัดอำนาจ ส.ว.ในรอบหน้า อินฟลูทั้งหลายที่เอาข้าพเจ้าไปแขวนกับทัวร์ส้มจะออกมานำมวลชนปฏิวัติก็ได้นะครับ เชื่อว่าทำได้ จิตใจมันสู้กว่าใครอยู่แล้ว จะรอนะ💋🧡”

6 สิงหา ชี้ชะตา!! 77 ปี ‘ประชาธิปัตย์’ เส้นทางการเมืองที่มาจรดอยู่บนปากเหว

(23 ก.ค. 66) เกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ จะรอดไหม? ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป (คนที่ 9) เป็นคำถามยอดฮิตที่เข้าใจว่า แฟนคลับยังอาลัยอาวรณ์กับพรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาว ยืนหยัดผ่านพงหนามมา 77 ปี ย่าง 78 ปี สร้างนักการเมือง สร้าง ส.ส.สร้างรัฐมนตรี สร้างนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 4 คน ประธานรัฐสภาก็มี

“พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาอย่างยาวนาน แต่ในทางการเมืองไม่ได้อยู่อย่างมั่นคง ราบรื่นตลอด แต่พรรคก็ผ่านมาได้ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเหมือนโรงเรียน สถาบันที่สร้างนักการเมือง หลายคนที่ผู้ในพรรคอื่นล้วนแล้วแต่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา พรรคจึงมีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน มีหัวหน้าพรรคมาถึง 8 คน” นายชวน หลีกภัย กล่าวในวันครบ 77 ปี ประชาธิปัตย์

พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นพรรคเก่าแก่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และพรรคนี้ก่อตั้งขึ้นหลังมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราษฏร์ พระมหากษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (ภายใต้รัฐธรรมนูญ) อันเกิดจากการก่อการของคณะราษฎร มีการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาบังคับใช้ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ตั้งพรรคการเมือง เข้าร่วมในการบริหารประเทศ

‘ควง อภัยวงค์’ และคณะขึ้นให้กำเนิดก่อเกิด ‘พรรคประชาธิปัตย์’ ขึ้นมา พร้อมกับเจตนารมณ์ หรืออุดมการณ์ของพรรค 10 ข้อ และถ้าได้นั่งลงพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ และจิตใจที่เป็นกลาง จะพบว่าอุดมการณ์ทั้ง 10 ข้อของพรรคประชาธิปัตย์ยังทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ต่อต้านการทุจริต-คอร์รัปชัน ไม่เอาเผด็จการ และการกระจายอำนาจ

พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 นี้ ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ซึ่งเป็นการประชุมที่เลื่อนมาจากวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ไม่ครบองค์ประชุม ก็เป็นที่จับตากันว่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป และจะนำพาพรรคไปในทิศทางไหน

77 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประชาธิปัตย์เจอขวากหนามมากมาย บนถนนที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยตกต่ำถึงขีดสุดๆ  และเฟื่องฟูสูงสุดมาแล้ว ผ่านวิบากกรรมคดียุบพรรคมาแล้วหลายครั้ง แต่ด้วยความเชี่ยวของคนในประชาธิปัตย์ จึงพารอดมาได้ทุกครั้ง เคยตกต่ำถึงขั้นในกรุงเทพฯ เหลือ ส.ส.อยู่คนเดียว จากที่เคยเฟื่องฟู มี ส.ส.100 กว่าคน

แต่น่าใจหายเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ประชาธิปัตย์เริ่มถดถอยอีกครั้ง เหลือ ส.ส.อยู่เพียง 52 คน รันทดใจมากกว่านั้นในช่วงการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเผชิญกับ ‘จุดต่ำสุด’ อีกครั้ง ดำดิ่งที่สุดอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะ นำ ส.ส. เข้าสภาฯ ได้เพียง 25 คน ส.ส.เขตเหลือแค่ 22 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อแค่ 3 คน ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคให้เร่ง ‘กอบกู้’ และ ‘ฟื้นฟู’ พรรคประชาธิปัตย์ โดยเร็วก่อนถึงจุดจบ ท่ามกลางความขัดแย้ง ไม่เป็นเอกภาพในพรรค

เสียงเรียกร้องให้เร่งฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ เกิดจากความห่วงหาอาทร อาลัยรัก พรรคเก่าแก่ พรรคที่เคยรักเคยชอบ เคยให้ความไว้วางใจ เวลานี้ ‘ทั้งรัก ทั้งชัง’

คนที่ยังรัก ปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ก็มีข้อเสนอมากมาย ที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องนำมาพิจารณาทบทวน กำลังยุทธศาสตร์ แนวทางของพรรคใหม่ ส่วนคนชังก็ซ้ำเติม “พรรคเอาแต่พูด ไม่เห็นทำอะไร” / “พรรคเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น” เหล่าเป็นวาทกรรมทางการเมืองที่ถาโถมเข้าใส่ประชาธิปัตย์แบบกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนยากจะสลัดออก จนมาถึงวันนี้ประชาธิปัตย์เหมือนคนที่ยืนอยู่ปากเหว จะกระโดดไปข้างหน้าก็กลัวตกเหว จะถอยหลังก็กลัวเหยียบอุจจาระตัวเองที่ถ่ายทิ้งไว้

6 สิงหาคม จะเป็นวันชี้ชะตาอนาคตประชาธิปัตย์ว่าจะเดินลงเหว หรือเดินถอยหลังไปเหยียบอุจจาระตัว หรือนั่งลงตั้งสติ ขบคิดทบทวน แสวงหาแนวร่วมมาช่วยคิด ช่วยทำ #นายหัวไทร เชื่อว่า ถ้าประชาธิปัตย์ได้คนที่มีวิสัยทัศน์ มีมุมมอง เป็นคนทันสมัย ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ประชาธิปัตย์ก็ยังไปได้ ยังฟื้นฟูได้ เพียงแค่ให้ตั้งสติ ขบคิด ทบทวน ถอดบทเรียนในอดีต แล้วกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีใหม่ ร่วมกันเดิน ช่วยกันตี ‘สะตอต้องมารวมฝัก’ เป็น ‘สะตอสามัคคี’ กำหนดยุทธศาสตร์ ‘อีสานประสานใต้’

ถึงมวลสมาชิกประชาธิปัตย์ ลองหลับตานึกผลการเลือกตั้งปี 2500 ที่พรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ส. 31 คนทำให้พลพรรคประชาธิปัตย์ประสานเสียงเรียกร้องให้เร่งปฏิรูป-ฟื้นฟูพรรคไม่แตกต่างจากหลังเสร็จศึกเลือกตั้ง 2566 เสียงอื้ออึงระงมไปทั่วแผ่นดิน เป็นเสียงที่ชาวประชาธิปัตย์ต้องขบคิด และรับฟังอย่างตั้งใจ เพราะไม่ใช่เสียงกบ เสียงเขียด เสียงอึ่งอ่าง ยามหน้าฝน แต่เป็นเสียงจากคนที่รักประชาธิปัตย์ ยังอยากเห็นชื่อประชาธิปัตย์โลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมือง

ลดฐิติ ลดความอยากลงบ้าง แล้วมานั่งตั้งสติว่า จะกระโดดข้ามเหว ถอยหลัง ตั้งสติ อย่าเอาอัตตาของตัวเองเป็นตัวตั้ง ‘หัวหอก หัวขาว หัวดำ’ ก็ต้องรับฟัง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ คือ พรรคของประชาธิปัตย์ ไม่ใช่พรรคของเรา

เปิด 8 รายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
1.) พันตรีควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2489-2511 เคยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4
2.) หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2511-2522 เคยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 6
3.) พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2522-2525
4.) พิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2525-2534
5.) ชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2534-2546 เคยเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 20
6.) บัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2546-2548
7.) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2548-2562 เคยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27
8.) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค ปี 2562-2566

‘ส.ว.สมชาย’ โพสต์เย้ยพรรคส้ม หม้ายขันหมาก พร้อมโชว์สูตรจัดตั้งรัฐบาล ‘เหลือง+แดง=น้ำเงิน’

(23 ก.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)​ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

“เพื่อไทยจัดขันหมากรัฐบาลใหม่ชวนพรรค 2 ลุง 1 หนู ยิ้มกันหน้าระรื่น ไฉนหม้ายขันหมากก้าวไกล ยังขอทนร่วมรัฐบาลสูตรเหลือง+แดง=น้ำเงิน

มีก้าวไกลไม่มีลุง #มีลุงไม่มีก้าวไกล #ด้านไว้ก่อนพ่อสอนไว้?”

‘ดร.สุวินัย’ ยกท่อนต่อกลอนดังสวนกลับ หลัง ‘พิธา’ แซะพรรคร่วม ลั่น!! “คุณสร้างแต่ความเกลียดชัง คนอื่นเขาก็ชังน้ำหน้าคุณเช่นกัน”

(23 ก.ค. 66) รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘Suvinai Pornavalai’ กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่ายกลอนดัง ‘แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์’ ของครูกวีไทยอย่างสุนทรภู่ ถึงพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดินทางไปเปิดงาน ‘สุราก้าวหน้า Festival 2’ ที่ตลาดดิโอโซน (ขนส่งใหม่ระยอง) หมู่ 4 ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยระบุว่า…

“พ่อส้มพูดไม่จบ 

กลอนบทนี้มีเนื้อหาต่อ คือ…

“มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”

ข้อแรก : พวกคุณเองหรือเปล่าที่ส่งเสริมค่านิยมเรื่อง พ่อแม่ไม่ได้มีบุญคุณ?
ข้อสอง : พวกคุณหรือเปล่าที่ไม่เคยคิดบอกสอนให้รู้จักพึ่งตนเอง แต่จะเอาสวัสดิการจากภาษี?
ข้อสาม : คนย่อมรู้จักเจรจา พวกคุณเจรจาเป็นไหม? คำตอบคือ ไม่!! เพราะพวกคุณเอาแต่ชี้หน้าด่าคนอื่นไปทั่ว ว่าทุกคนเลว พวกคุณดีคนเดียว แล้วใครจะอยากคบค้าสมาคมด้วยเล่า?
ข้อสี่ : คุณสร้างแต่ความเกลียดชัง คนอื่นเขาก็ชังน้ำหน้าคุณเช่นกัน
ข้อห้า : คุณไม่รู้วิชา แค่แผนการทำงานที่พูดออกมา ตลาดหุ้นก็ดิ่งลงเหว เพราะเขาไม่มั่นใจในความสามารถของพวกคุณ!!
ข้อสุดท้าย : พวกคุณไม่รู้รักษาตัวรอด แต่พรรคอื่น รู้!!

จบนะ"

‘พิธา’ พร้อมด้วย ส.ส.ชลบุรี เดินสายขอบคุณประชาชน หลังเปิดทางให้ ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

(22 ก.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ร่วมเดินสายขอบคุณประชาชน หลังจากพรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรคที่ได้เคยทำ MOU กันไว้ โดยวันนี้ได้เปิดเวทีปราศรัยสองจุด ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา และที่อำเภอบ่อวิน มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมฟังการปราศรัยและรอพบปะนายพิธา แม้จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายพิธาระบุว่า ถึงแม้จะมีความพยายามเพื่อไม่ให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พวกเรายังหมดหวังไม่ได้ เมื่อทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่างลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็จะต้องตั้งรัฐบาลของประชาชน ที่รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้กับประชาชนให้ได้

เพราะฉะนั้น ตนจะไม่มีวันยอมแพ้ จะยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ แม้จะมีความพยายามสกัดกั้นขนาดไหนก็ต้องสู้ต่อ เมื่อบีบให้ตนต้องออกจากสภาตนก็จะมาอยู่กับประชาชน ตนและพรรคก้าวไกลจะขอยืนหยัดเพื่อประเทศไทยและขอทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ให้สมกับความตั้งใจที่ประชาชนให้เรามา

นายพิธายังกล่าวต่อไปว่า วันนี้มีการเปรียบเหมือนทั้ง 8 พรรคอยู่บนเรือลำเดียวกัน เมื่อเรือกำลังรั่วอยู่ คำถามคือ จะให้มีคนเสียสละออกจากเรือหรือควรจะอยู่ซ่อมเรือด้วยกัน ขอเพียงทั้ง 8 พรรคที่ประชาชนเลือกมาจะช่วยกันซ่อมเรือ อุดรอยรั่ว ทำเรือให้แข็งแรง ขอเพียงทั้ง 8 พรรครักษาสัจจะที่ได้เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ในวันที่มาขอคะแนนและความไว้วางใจจากประชาชน เรือก็จะถึงฝั่งได้

“มันไม่มีความหมายเลยหรือ ประชาชนไม่มีความหมายเลยหรือ แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม ถ้าอย่างนั้นคุณชี้มาเลยคุณจะเอาใคร ใครจะถีบผมออกจากเรือผมไม่รู้ ผมบอกอย่างเดียวว่าผมไม่ยอม ถ้าเรือมันรั่วต้องช่วยกันซ่อม ไม่ใช่มาถีบเพื่อนออกจากเรือ และไม่ถีบประชาชนออกจากเรือด้วย ถ้า 25 ล้านเสียงสู้ 250 เสียงไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป ใครจะปล่อยมือก้าวไกลปล่อยไป ขอเพียงพี่น้องประชาชนอย่าปล่อยมือก้าวไกลก็พอ” นายพิธา กล่าว

หลังการปราศรัยจบลง ประชาชนที่มาพบต่างตะโกนให้กำลังใจด้วยคำว่า “พิธาสู้ๆ” และ “นายกพิธา” ดังกึกก้องไปทั้งบริเวณ

‘ช่อ พรรณิการ์’ เผย ทิศทางจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ชี้ โหวตนายกฯ รอบต่อไป ‘เพื่อไทย’ รับแรงกดดันเต็มๆ

(22 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘missyoumt1368’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ ผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดถึงแนวโน้มทิศทางของการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป โดยในคลิประบุว่า…

“ถ้าก้าวไกลถอย เรื่อง ม.112 โดนด่านะคะ แต่จะรักษาพันธมิตร 8 พรรค และอาจจะมีบวกเพิ่มอีกสักพรรคสองพรรคเพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากพอ แต่มันก็อาจจะเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้ตรงกับความต้องการของประชาชนขนาดนั้น หากก้าวไกลไม่ยอมถอยเรื่อง ม.112 ยืนยันเดินหน้าต่อ ก็จะเข้าเกม ‘เขี่ยก้าวไกลพ้นจากสมการตั้งรัฐบาล’ พรรคเพื่อไทยจำเป็นที่จะต้องไปหาพรรคอื่นมาเติมให้เสียงครบ จะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า? หรือพรรคภูมิใจไทย? ซึ่งทางนั้นก็คงแต่งตัวรออยู่แล้วอย่างแน่นอน นั่นคือภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลที่พลิกขั้วเปลี่ยนข้าง ซึ่งก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการที่จะบอกว่า ตราบใดที่ไม่มีประยุทธ์ก็ถือว่าพลิกขั้วเปลี่ยนข้างสำเร็จแล้ว… เราอยู่กันมาขนาดนี้แล้ว เราจะไม่คิดแบบนั้นใช่ไหมคะทุกคน?

เพราะถึงอย่างไร ‘ประยุทธ์’ กับ ‘ประวิตร’ นั้น ไม่ได้มีความแตกต่างกันในระบอบปรสิตที่เกาะกินประเทศนี้อยู่ เพราะฉะนั้น ในช่วงสัปดาห์หน้าก่อนหน้าที่จะถึงวันโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป คือในวันที่ 27 ก.ค. ทางพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวในการแถลงว่า เขาจะปิดจ็อบให้ได้ในวันที่ 27 ก.ค. ประเทศรอช้ากว่านี้อีกไม่ได้แล้ว ซึ่งตรงนี้ทางเราก็เห็นด้วย หากต้องลากต่อไปเรื่อย ๆ มันก็คงจะยากอยู่ ตอนนี้ประเทศต้องมีรัฐบาลเข้ามาบริหาร แต่ถ้าจะปิดจ็อบเร็วขนาดนี้ หมายความว่า พรรคเพื่อไทยเองก็มีแรงกดดันสูงมากที่จะต้องตัดสินใจ ในการเลือกว่าตกลงจะเอาพรรคไหน ไม่เอาพรรคไหน ในการร่วมรัฐบาลและจัดตั้งรัฐบาลให้ประสบความสําเร็จภายในวันที่ 27 ก.ค.นี้ 

การตัดสินใจครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้ออกปากในเรื่อง ม.112 ก้าวไกลจะถอยหรือจะไม่ถอยอย่างไร การถอยหรือไม่ถอยของก้าวไกลจะมีผลอย่างมีนัยสําคัญ ต่อการได้กลับมาหรือไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลของพลเอกประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ ทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ที่ประชาชนจําเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด และอย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ‘เสียงของประชาชน’ ต้องมีความหมาย สิ่งที่ถูกประกาศออกไปแล้วผ่านบัตรเลือกตั้ง คือ ประชาชนในประเทศนี้ต้องการ ‘การเปลี่ยนแปลง’ ต้องการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างรัฐบาล และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศให้ได้ เราจะยังยืนยันคําเดิมว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล คือสิ่งที่ดีที่สุด คือส่วนผสมที่ดีที่สุดที่จะพาประเทศนี้เดินไปข้างหน้าต่อ แต่ส่วนผสมนี้ ในวันนี้ จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? และต้องเสียอะไรไปเพื่อให้ได้มันมา ต้องจ่ายอะไรไปเพื่อจะได้สิ่งนี้มา รอดู อีกไม่นานจะรู้ ว่าวันที่ 27 กรกฎาคม จะเกิดอะไรขึ้นที่รัฐสภา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top