Sunday, 22 June 2025
POLITICS NEWS

‘น็อต วรฤทธิ์’ ลั่น!! 14 ล้านเสียงที่เลือกคุณมา ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการจะเปลี่ยน ม.112

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ นักแสดงและพิธีกรชาวไทย ได้กล่าวถึงความสุดโต่งของพรรคก้าวไกล เช่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร และ ม.112 ระหว่างออกรายการ แฉ โดยระบุว่า… 

"14 ล้านเสียงที่เลือกคุณมา ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการจะเปลี่ยน ม.112 แต่เขาซื้อนโยบายส่วนหนึ่งของคุณ อย่างเรื่อง 3,000 บาท หรือยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่ถ้าคุณบอกต้องเปลี่ยนเพื่อให้ตามทันโลก...ประเทศไทย ก็เป็นประเทศไทย เรามีรากเหง้าของเรา"

เปิดสูตรใหม่ 312 ผสานเสียง 9 พรรค กึ่งรัฐบาลปรองดอง เชื่อ ‘ส.ว.’ หนุนพรึ่บ

หลังจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 ที่ทั้ง 8 พรรคนำโดย ‘พรรคก้าวไกล’ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมหรือ ‘MOU’ จนถึงวันนี้ 22 ก.ค. 66 รวมสองเดือนพอดี… ก็ต้องฟันธงว่า MOU ที่ว่า กำลังจะถูกฉีกลงในไม่กี่เพลาข้างหน้านี้… ถูกฉีกลงพร้อมกับพรรคอย่างน้อย 2 ใน 8 พรรค คือ ‘ก้าวไกล’ และ ‘ไทยสร้างไทย’ ที่จะต้องออกจากสมการ

ถ้าทวนความทวนสถานการณ์สั้น ๆ จะพบว่า...

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน แสดงความพร้อมมากที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเสียงดังฟังชัดว่า… การแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะ ส.ว.ไม่เล่นด้วย

จนกระทั่ง ในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค. 66 พรรคก้าวไกลยกธงขาวเลิกเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โยนเผือกร้อนให้พรรคเพื่อไทย โดยที่ตัวเองขอลงเรือร่วมรัฐบาลต่อไป ขณะที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์รับลูก 4 ข้อ โดยมีข้อสำคัญที่แสดงความเหนือชั้นว่า ถ้าหาเสียงจาก ส.ว.ไม่พอที่จะได้รับเลือกนายกฯ จะไปขอเสียงจากพรรคการเมืองอื่นเพิ่มเติม

วันเดียวกันกับที่ประชุม 8 พรรค… แถลงที่จะเดินหน้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไป พรรคก้าวไกลขอให้พรรคเพื่อไทยไปสอบถาม ส.ว.ว่าจะให้พรรคก้าวไกลลดเพดานเรื่องมาตรา 112 แค่ไหน อย่างไร… ขณะที่คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศว่า คำตอบสุดท้าย หากดำเนินการอย่างเต็มที่แล้วยังไม่สำเร็จ อาจจะมีบางพรรคต้องออกจากสมการนี้… 

ไม่เพียงเท่านั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยยังแถลงตบท้าย… โดยมีสาระสำคัญฟังได้ว่า อยากให้พรรคก้าวไกล ‘เสียสละ’

เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านผู้อ่านคุณผู้ฟัง มันชัดยิ่งกว่าชัดว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ไปด้วยกันลำบากแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่มีใครกล้าเอ่ยปากบอกเลิก เลยต้องลากลู่ถูกังกันไป เหมือนคู่รักหนุ่มสาวที่ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว แต่อยากให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนเท่านั้นแหละ

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ก็ถึงจุดแยกทาง บนทาง 3 แพร่ง เหมือนที่นายสุทิน คลังแสง ขุนพลพรรคเพื่อไทยบอกกับบางสำนักนั่นแหละว่า… จำเป็นต้องตัดพรรคก้าวไกลออก เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ แบบว่า ‘เจ็บแต่จบ’ และพยายามจบให้ได้ภายในวันที่ 27 ก.ค.นี้

สายข่าวเปิดเผยกับ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ว่า นาทีนี้สูตรรัฐบาลใหม่มีทั้งหมด 9 พรรค รวมกันได้ 312 เสียง โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย

- พรรคเพื่อไทย 141 เสียง
- พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง
- พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง
- พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง
- พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
- พรรคประชาชาติ 9 เสียง
- พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง
- พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง
- พรรคเสรีรวมไทย 1 

ส่วนผสมนี้ มีความเป็นไปได้มากที่สุด เป็นการผสมข้ามขั้ว ทุกพรรคไม่มีใครแตะต้องข้องแวะมาตรา 112 เป็นกึ่งๆ รัฐบาลปรองดอง สูตรนี้รับประกันซ่อมฟรีว่า ส.ว.หนุนพรึ่บ อย่างน้อย 200 เสียง เพราะมีทั้งพรรคลุงป้อมและพรรคลุงตู่ผสมอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าวันนี้ลุงตู่จะวางมือแล้ว และบางกระแสระบุว่าลุงป้อมเองอาจไม่รับตำแหน่งใด ๆ อีกก็ตาม

ทั้งนี้ เหตุที่ยังไม่นับพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสูตรผสม เพราะหากในวันที่ 6 ส.ค. 66 หัวหน้าพรรคคนใหม่เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่เข้าร่วมรัฐบาล

แต่ก็นั่นแหละ สูตรนี้เกิดขึ้นวันไหน พรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมเจ็บแต่จบเพื่อชาติ เพราะม็อบด้อมส้มคงจะพรึ่บหน้าพรรคเพื่อไทยหรือหน้ารัฐสภา

อย่างไรก็ตาม สายข่าวรายงานว่า หากพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ที่ประธานรัฐสภานัดประชุมไว้ ก็อาจจะประสานงานให้เลื่อนไปเป็นสัปดาห์ต่อไป ราว ๆ วันที่ 2 หรือ 3 ส.ค.

ซึ่งเมื่อได้ตัวนายกฯ คนใหม่แล้ว ก็เดินหน้าฟอร์มรัฐบาล...

ขณะที่ราว ๆ กลางเดือน ส.ค. เขาปิดกันให้แซ่ดว่า… ได้เวลา ‘คนแดนไกล’ จะเดินทางกลับบ้าน!!

พระพยอม แจง คนว่ามาเยอะ แต่ต้องทำใจให้เหมือน 'แผ่นดิน' ที่มันหนักแน่น ชี้ คำว่าแตะสถาบัน ตีโจทย์กันยังไง ถ้าแตะแบบ ‘แก้ไขปรับปรุง’ ควรแตะได้

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้กล่าวชี้แจงผ่านรายการ อมรินทร์ทีวี โดยระบุว่า..

"มีคนว่ามาเยอะ แต่ต้องทำใจให้เหมือน 'แผ่นดิน' ที่มันหนักแน่น...ส่วนคำว่าแตะสถาบัน ตีโจทย์กันยังไง ถ้าแตะแบบ ‘แก้ไขปรับปรุง’ ควรแตะได้"

>> สามารถติดตามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=C6fiKiPnX14#bottom-sheet

‘ชลน่าน’ ลุยหารือ ‘ภูมิใจไทย’ ร่วมรัฐบาล ส่วนพลังประชารัฐ ชี้!! ยังไม่ถึงขั้นนั้น

(22 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท.เปิดเผยถึงการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในวันนี้ ว่า ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรมาก การพูดคุยเป็นการทำงานต่อเนื่องหลังจากที่ประชุม 8 พรรค ซึ่งมีทางเลือกให้ไปพูดคุยกับทาง ส.ว.และพรรคการเมืองเพื่อหาเสียงเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่การตกลงกัน กติกาคือแค่พูดคุยมีแนวโน้มจะได้เสียงจาก ส.ว. หรือพรรคการเมืองเพิ่มเติมหรือไม่ จากนั้นค่อยเอามาพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะที่ประชุมให้แนวทางเมื่อวาน ให้การบ้านไว้แบบนั้น ทั้งนี้ การติดต่อไปทางพรรคภท.เกิดขึ้นหลังจากคุยกับ 8 พรรคร่วมแล้ว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเป็นผู้ติดต่อไป และเดิมทีพรรคพท.จะไปหาที่พรรคเองตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ดี ในฐานะแกนนำมักจะไปส่งเทียบเชิญ เพื่อให้มาร่วมงาน แต่พรรคภท.ประกาศว่าเมื่อพท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคภท.ก็ยินดีเดินทางมาหาเอง ซึ่งก็ต้องขอบคุณพรรคภท.ด้วย 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ส่วนพรรคอื่น ๆ ยังไม่ได้พูดคุย เลือกติดต่อพรรคที่มีความเป็นไปได้ก่อน ไม่ติดต่อทั้งหมดพร้อม ๆ กัน เพราะการที่จะเพิ่มพรรคที่ 9 และ 10 มีเงื่อนไข ในการพูดคุยระหว่าง 8 พรรคร่วม ต้องดูพรรคที่เราไปส่งเทียบเชิญด้วยว่าเขารับเราได้หรือไม่ เพราะฟังจากแถลงการณ์แล้วเขาไม่เอา ซึ่งต้องไปพูดคุยเหตุและผลอีกที เชื่อว่าถ้าเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้งก็คงมีความหวัง 

เมื่อถามว่าได้ติดต่อพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น

‘ดร.เสรี’ แจง 8 ข้อ เหตุใด 14 ล้านเสียง ถึงลงคะแนนให้ ‘ก้าวไกล’ ลั่น!! ไม่มีใครกลั่นแกล้ง ‘พิธา’ ขอถาม “จะเป็น ส.ส. แล้วถือหุ้นสื่อทำไม”

(22 ก.ค.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า…

พูดกันจังว่าการที่ ‘พรรคก้าวไกล’ ได้คะแนนเยอะที่สุดนั้น แสดงว่าประชาชนสนับสนุนแนวทางของพรรคก้าวไกล ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเคารพเสียงประชาชน ลองมาดูกันว่าคนลงคะแนนเสียงให้ พรรคก้าวไกลเพราะอะไร?

1. เบื่อลุง เพราะไปเชื่อวาทกรรมว่าลุงอยู่มา 8 ปีไม่มีอะไร ทั้ง ๆ ที่ผลงานลุงที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์มีมากมาย
2. อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่รู้รายละเอียดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะดีหรือร้ายต่อประเทศอย่างไร
3. อยากได้สารพัดสวัสดิการในทางประชานิยมทั้งหลายที่พรรคก้าวไกลใช้หาเสียง แต่บัดนี้น่าจะรู้แล้วว่าหลายอย่างไม่ได้อย่างที่หาเสียงไว้
4. เด็ก ๆ จำนวนมากต้องการเสรีภาพแบบไร้ขอบเขต อยากให้พรรคก้าวไกลมาปลดแอกให้หลุดพ้นจากกฎเกณฑ์ที่เขามองว่ากดทับ
5. บางคนให้ความสำคัญกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร ทั้งตัวเด็กหนุ่ม พ่อแม่ของเขา แฟนสาวของเขาที่ไม่อยากให้มีการเกณฑ์ทหาร
6. บางคนหลงรักพิธาแบบไม่สนใจคุณสมบัติ นิสัยอะไรทั้งนั้น ไม่สนใจว่าจุดยืนทางการเมืองบางเรื่องของพิธาเป็นเช่นไร
7. พ่อแม่บางคนเลือกตามที่ลูกบอก เพราะถูกลูกขู่จะทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง จึงต้องเลือกตามที่ลูกบอก
8. มีจำนวนหนึ่งที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเรื่องมาตรา 112 ตรงกับพรรคก้าวไกล ซึ่งน่าจะมีจำนวนน้อยกว่าเหตุผล 7 ข้อข้างต้น

แต่พรรคก้าวไกลกลับมาเน้นเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งไม่น่าจะใช่เหตุผลหลักที่ทำให้พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. มากที่สุด 14 ล้านไม่ใช่เสียงข้างมาก และ 14 ล้านเสียงไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลเพราะต้องการให้พรรคก้าวไกลมาแก้มาตรา 112

บางคนถามว่าถ้าก้าวไกลชนะแล้ว ทำไมพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงว่าไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง เราเลือก ส.ส. มาเลือกนายกฯ คนที่ไม่เลือกก้าวไกลมีมากกว่าคนที่เลือกก้าวไกลถึง 2 เท่า แต่เอามาปั่นกันว่า ส.ว. ไม่ฟังประชาชน (หมายถึงประชาชน 14 ล้าน) แล้วเขาจะฟังประชาชนที่ไม่เลือกก้าวไกล ที่มีมากกว่าคนที่เลือกก้าวไกลถึง 2 เท่ากว่าล่ะ ไม่ใช่ประชาชนหรือไร ไม่มีใครกลั่นแกล้งพิธา อย่างที่สร้างวาทกรรมกัน และที่ถามให้ไปเลือกตั้งทำไม ก็อยากถามว่า แล้วจะเป็น ส.ส. ถือหุ้นสื่อไว้ทำไม

อย่าเอาแต่ใจเลยนะใช้สมองคิด วิเคราะห์ แยกแยะบ้างเถอะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะคนในพรรคก้าวไกลเองที่ทำผิดกฎหมาย และมีทัศนะเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ยอมรับกระบวนการรัฐสภา กระบวนการทางกฎหมายหน่อยนะ 

‘เพชร กรุณพล’ ลั่น!! ถ้าสุดโต่งแล้วเจริญ แล้วไม่อยากสุดโต่งกันเหรอ

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) ‘เพชร’ หรือนายกรุณพล เทียนสุวรรณ นักแสดง และพิธีกร และนักการเมืองในสังกัดพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความสุดโต่งของพรรคก้าวไกล เช่น 'ยกเลิกเกณฑ์ทหาร-ม.112' ระหว่างออกรายการ 'แฉ' โดยระบุว่า…

“สุดโต่งแล้วเจริญแบบ อังกฤษ, ญี่ปุ่น, สวีเดน, เดนมาร์ก ไม่อยากสุดโต่งกันเหรอ คิดว่าเราเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป”

>> สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://vt.tiktok.com/ZSLmWRh2m/ 

'นักศึกษา มธ.' จี้!! คณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ. เบรก!! มือชี้ขาดชะตา 'พิธา' ห้ามมาเป็น อ.สอนพิเศษ

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากที่มีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น โดยมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

สำหรับ ตุลาการเสียงข้างน้อย 2 เสียง ในกรณีให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.หรือไม่นั้น ประกอบด้วย นายนภดล เทพพิทักษ์ กับ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์

ขณะที่ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติเสียงข้างมาก ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม, นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์, นายปัญญา อุดชาชน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายจิรนิติ หะวานนท์ และ นายอุดม รัฐอมฤต

ล่าสุด สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ คณะกรรมการนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีจดหมายเปิดผนึกถึง คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ขอให้ยุติการเชิญ นายอุดม รัฐอมฤต มาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษ

‘มัลลิกา’ เผย แค่ถอย 112 ‘ก้าวไกล’ ก็ได้ไปต่อ ชี้!! เพราะความดื้อดึง ‘พิธา’ จึงชวดเก้าอี้นายกฯ

เมื่อไม่นานนี้ รายการ ‘แฉ’ ซึ่งได้เชิญคุณมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มาพูดถึงประเด็นของ ม.112 ว่าเหตุใดพรรคก้าวไกล จึงไม่ยอมถอยนั้น มีสาระสำคัญ ระบุว่า...

“คุณพิธามีสิทธิเป็นนายกฯ แค่ถอยเรื่อง ม.112 ปัญหาก็คือ ถ้าเราจะบริหารประเทศ โดยเอาอคติตัวเอง หรืออุดมคติของตัวเองเป็นศูนย์กลาง ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนไป หรือในขณะที่ประเทศกำลังมีปัญหา หรือกำลังจะเกิดวิกฤตหากเราเป็นผู้นำ เราจะตัดสินใจเลือกเอาอุดมการณ์ของตัวเอง เอาอัตตาของตัวเองก่อน หรือเราจะเลือกประเทศชาติก่อน มันคือการตัดสินใจ ในยามนี้คุณพิธาต้องมีภาวะผู้นำ และเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ที่เขาหาเสียงกันมาเหมือนกันอย่างกรณีของพรรคเพื่อไทย คุณควรให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย พรรคเพื่อไทยเขาไม่ได้หาเสียง ม.112 มาก่อน จู่ๆคุณจะมัดรวมเขาไม่ได้ เขาต้องคิดเหมือนคุณก่อน”

“เพราะฉะนั้น ณ เวลานี้ คุณพิธาและพรรคก้าวไกล อยู่ในภาวะที่จะต้องตัดสินใจ ไม่ใช่ไปโยนให้คนอื่นเขาต้องรับเคราะห์รับบาปในสิ่งที่คุณเองนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ประเทศชาติจะไปข้างหน้าได้ จะต้องมีความหลอมรวม ต้องมีการลดลาวาศอกกัน เพราะว่าเราไม่สามารถไล่ใครคนใดคนหนึ่งออกจากประเทศนี้ได้ ทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนดี หรือคนไม่ดี เพราะฉะนั้น คนที่จะเป็นผู้นำ ซึ่งจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจด้วยวุฒิภาวะ และมีความรับผิดชอบมากกว่าผู้อื่น”

เมื่อถามว่า หากคุณพิธายอมถอยเรื่องแก้ ม.112 แปลว่าในประเด็นของการถือหุ้นสื่อ ITV ที่ทำให้ขาดคุณสมบัติ ก็ไม่มีใครติดขัดในเรื่องนี้แล้วใช่หรือไม่? คูณมัลลิกาตอบว่า…

“ในกรณี ม.112 นี้ เนื่องจากว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนพรรคที่จะแก้ ม.112 หากการที่พรรคก้าวไกลยอมถอย ก็อาจจะได้เสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีกหลายเสียงจากพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคภูมิใจไทยเขาไม่สนใจเรื่องอื่น ส่วนส.ว.หลายท่านเขาติดเรื่อง ม.112 เช่นกัน และก็อาจจะติดเรื่องคุณสมบัติด้วย ด้านพรรคประชาธิปัตย์ก็ติดแค่เรื่องม.112 เช่นกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยไปว่ากันในภายหน้า เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า หากพรรคก้าวไกลยอมถอยเรื่องม.112 โอกาสที่จะได้รับเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล ย่อมมีมากกว่าการที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เพราะจากเสียงของ ส.ส.แล้ว ยังอาจจะได้เสียงสนับสนุนที่ชัดเจนจากประชาชนอีกด้วย”

“อีกทั้งทุกวันนี้ พูดกันตรงๆ ประชาชนจำนวนหนึ่งก็ไม่คิดว่า เรื่อง ม.112 จะไปไกลจนสุดโต่งขนาดนี้ด้วย ทุกคนรวมถึงตัวดิฉันที่ดีเบตมาตลอด ดิฉันบอกว่า การที่คุณจะแก้ ม.112 มันเท่ากับยกเลิกนะ เพราะมันผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ร่างที่เขายื่นดิฉันอ่านหมดแล้ว ว่าการยกเลิกให้โทษ มันเทียบเท่ากับประชาชนเลย เป็นการยกเรื่องนี้ออกจากหมวดความมั่นคง กรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ได้อยู่ในหมวดความมั่นคง ก็เหมือนกับการลดสถานะพระมหากษัตริย์ลงมาเทียบเท่ากับประชาชนคนธรรมดาเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะพระมหากษัตริย์ต้องได้รับการเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า”

“อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ‘ศาลอาญาระหว่างประเทศ’ หรือ ‘ICC’ ซึ่งบนเวทีดีเบตไม่ค่อยได้ถูกพูดถึงมากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างประเทศ พอ ส.ส. และ ส.ว.อภิปรายกันในสภาฯ มันชัดยิ่งกว่าชัดอีก เพราะในสภาฯ มันโกหกกันไม่ได้มันมีหลักฐานทั้งหมด ทีนี้ ศาล ICC ก็ปรากฎว่า คุณปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้นำทางจิตวิญญาณของคุณพิธา และพรรคก้าวไกล เป็นคนประกาศเองว่า หากคุณพิธาเป็นนายกฯ เขาจะพาไปลงนาม ICC เพราะการลงนาม ICC คือการเอาประมุขของประเทศนั้นๆ ที่ลงนาม ไปถูกไต่สวนในศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะนี่คือการแทรกแซงจากต่างประเทศ”

'เศรษฐา' ลั่นไม่กลัว 'ชูวิทย์' ขู่แฉปมที่ดิน ยืนยัน!! มั่นใจในความบริสุทธ์ของตัวเอง

(20 ก.ค.66) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง เตรียมแฉเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ว่า ตนเคยทำธุรกิจมานานก็มั่นใจว่าบริษัทเก่าที่ตนได้ทำมาก็ทำมาด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเมื่อจะก้าวขึ้นมาเหมือนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลก็มีประเด็นที่จะถูกแฉเรื่อยๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เขาก็แฉกันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามา เขาก็บอกว่าจะมีเรื่องที่จะแฉ แต่ก็ไม่เป็นไร ตนเข้าใจเมื่อมาอยู่จรงจุดนี้ก็ต้องระมัดระวัง ยืนยันว่าตนมั่นใจในความบริสุทธ์ของตัวเอง

‘เพื่อไทย’ แถลง!! ขอบคุณ ‘ก้าวไกล’ ส่งมอบภารกิจจัดตั้งรัฐบาลให้ พท.

(21 ก.ค.66) พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการดังนี้…

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย

1. พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

2. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองทั้ง 8พรรคสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบเนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

3. พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสนุนจาก สมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุด

4. หากผลการดำเนินเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว

จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

พรรคเพื่อไทย

21 กรกฎาคม 2566


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top