Monday, 28 April 2025
NEWS

สภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา จัดพิธีมอบรถวีลแชร์ให้กับคนพิการและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน115คัน

วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีมอบรถวีลแชร์ให้กับคนพิการและกลุ่มเปราะบางในจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายจีรทัศน์ แจ่มไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราและคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา

ม.อ. เปิดหลักสูตรผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ ที่แรกของภาคใต้ตอนล่าง มุ่งผลิตกำลังคนรองรับตลาดแรงงานด้านสปา

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ร่วมกับ ชมรมธุรกิจบริการสุขภาพภาคใต้ (ตอนล่าง) จัดงานแถลงข่าวเปิดหลักสูตรผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ 100 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของภาคใต้ตอนล่าง เพื่อผลิตบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริการสปาและส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานด้านสปาของประเทศ โดยมี รศ. ดร.ศิริลักษณ์ บางโชคดี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมด้วย ผศ. ดร.เชิดชัย อุดมพันธ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และ คุณภารรัฐ กรัณย์สุกสี รองประธานชมรมธุรกิจบริการสุขภาพภาคใต้ (ตอนล่าง) ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมใหญ่ 210 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับ ชมรมธุรกิจบริการสุขภาพภาคใต้ (ตอนล่าง) ได้จัดทำหลักสูตรผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ 100 ชั่วโมง (Spa manager) และยื่นหลักสูตร ไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และได้รับการรับรองหลักสูตรดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริการสปาและส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานด้านสปาของประเทศ โดยจะเปิดการอบรมหลักสูตร รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของภาคใต้ตอนล่างในเดือนมีนาคม 2566 ณ อาคารศูนย์ศึกษาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ ชั้น 8 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

หลักสูตรผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ 100 ชั่วโมง เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่บัดนี้ – 3 มีนาคม 2566 โดยจะอบรมตั้งแต่วันจันทร์ – เสาร์ (ระยะเวลา 15 วัน) ในรูปแบบ on-site ระหว่างวันที่ 13 – 18, 20 – 25 และ 27 – 29 มีนาคม 2566 ณ อาคารศูนย์ศึกษาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ชั้น 8 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

สำหรับคุณสมบัติของผู้เรียนต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งมีประสบการณ์ในการดำเนินงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ไม่น้อยกว่า 2 ปี และเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจไม่เป็นอุปสรรคต่อการอบรมและการปฏิบัติงาน

'ศักดิ์สยาม' ร่วมเปิดเส้นทางเดินรถเมล์ EV เพิ่ม 3 สาย ยกระดับการเดินทาง เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน

(23 ก.พ. 66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าอีก 3 สาย ประกอบด้วย สาย 3-36 ท่าเรือคลองเตย – ท่าเรือภาษีเจริญ สาย 3-44  ท่าเรือคลองเตย – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 3-55 ท่าเรือคลองเตย - พระราม 7 ภายใต้แนวคิด 'Thai Smile Bus Our Love Will Change The World รักเรารักษ์โลก' ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย คลองเตย กรุงเทพมหานคร

ในงานนี้ นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้ขอมอบความรักความปรารถนาดีให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร โดยการ เปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มไทย สมายล์ กรุ๊ป ให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100%

ซึ่งไทย สมายล์ กรุ๊ป มีเป้าหมายที่จะนำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการ รวมทั้งสิ้นกว่า 3,100 คัน นับว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดโลกร้อน และสามารถลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหาครและปริมณฑล ที่ปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

วงเสวนา ย้ำ 15 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยลดผลกระทบทางสังคม ยกงานวิจัยเปรียบเทียบก่อนและหลังบังคับใช้กฎหมาย นักดื่มลดลง 2% เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้แก้กฎหมายเรื่องตราเสมือน ห้ามใช้สัญลักษณ์เดียวกัน

ส่วนการให้โฆษณาได้ยังเห็นต่าง หวั่นส่งผลให้คนดื่มมากขึ้น สื่อมวลชนเสนอห้ามข้าราชการเกษียณที่ทำงานด้านกำกับและจัดเก็บภาษีเป็นเจ้าหน้าที่ธุรกิจแอลกอฮอล์ เท่าพิภพย้ำ พร้อมผลักดันการแก้กฎหมายในสภา

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่โรงแรมเอเซีย พญาไท มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) ร่วมกับเครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม ได้มีการจัดประชุมเสวนาระดมความเห็นเรื่อง “มองหลากมุม 15 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง” เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยมีนักวิชาการ ภาคีภาคประชาสังคมและนักการเมืองรวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาการสุขภาพ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า ข้อมูลการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลกระทบเปรียบเทียบช่วงก่อนและหลัง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บังคับใช้ พบว่า สัดส่วนผู้บริโภคแอลกอฮอล์ในปี 2550 อยู่ที่ 30.0% ส่วนปี 2564 อยู่ที่ 28.0% ลดลง 2% โดยเพศชายลดจาก 52.3% เหลือ 46.4% หรือลดลง 5.9% ส่วนเพศหญิงกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อจำแนกตามกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มอายุ 15-19 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป มีการดื่มลดลง ส่วนกลุ่มอายุ 20-49 ปี มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักคือน้อยกว่า 1% ในขณะที่ผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์เช่นเมาแล้วขับช่วงเทศกาลปีใหม่ ลดลงจาก 37.8% ในปี 2551 เหลือ 25.6% ในปี 2565 หรือลดลง 12.2% ส่วนเมาแล้วขับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลดลงจาก 35.5% ในปี 2551 เหลือ 26.0% ในปี 2565 หรือลดลง 9.5%

นักวิจัยจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรากล่าวต่อว่าการมีกฎหมายฉบับนี้ส่งผลให้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงและยังช่วยลดผลกระทบจากปัญหาการเมาแล้วขับด้วย  ทั้งนี้ในการสำรวจความเห็นของประชาชนต่อมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใต้ พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและสนับสนุนให้จำกัดสถานที่จำหน่ายถึง 94.5% จำกัดช่วงเวลาจำหน่าย 93.1% และจำกัดการโฆษณา 91% มีเพียง 5.5% ที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการจำกัดสถานที่จำหน่าย อีก 6.9% ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดเวลาจำหน่าย และ 9% ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดการโฆษณา อย่างไรก็ตามควรจะมีการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะปัจจุบันมีการเติบโตของโซเชียลมีเดียและการเกิดขึ้นของทุนขนาดเล็ก ซึ่งควรให้โอกาสได้เติมโต แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรการในการควบคุมทุนแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ให้มากขึ้น

ด้านนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เมื่อ 15 ปีที่แล้ว แม้จะมีกลุ่มทุนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่เคลื่อนไหวคัดค้านการออกพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ภาคประชาชน รวมถึงประชาชนกว่า 13 ล้านคน ได้ร่วมกันผลักดันจนกฎหมายออกมาบังคับใช้เมื่อปี 2551 เจตนารมณ์สำคัญคือการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ คุ้มครองสุขภาพประชาชน และลดผลกระทบทางสังคม สาระสำคัญนอกจากมีกลไกรับผิดชอบระดับนโยบายและปฏิบัติรวมทั้งมีสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วกฎหมายได้กำหนดสถานที่ห้ามขาย ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีและคนเมาครองสติไม่ได้  การจำกัดวิธีการขายและห้ามส่งเสริมการขาย การควบคุมการโฆษณา รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ที่ติดสุราด้วย ส่งผลให้ลดจำนวนนักดื่มและจำกัดการดื่มให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมทั้งการจำกัดการเข้าถึงทำให้เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยต่อสังคมโดยรวม

อย่างไรก็ตามนายธีรภัทร์ ยอมรับว่า 15 ปีที่ผ่านมาแม้กฎหมายจะมีข้อดีหลายอย่างแต่ก็พบปัญหาในทางปฏิบัติที่ทุกฝ่ายต้องหาทางป้องกันแก้ไขต่อไป เช่น ธุรกิจแอลกอฮอล์ใช้ตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปโฆษณาสินค้าประเภทอื่นเช่นน้ำดื่ม โซดาหรือที่เรียกกันว่าตราเสมือน ทำให้คนนึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ดี  การขาดแนวปฏิบัติหรือเกณฑ์พิจารณาลักษณะผู้ซื้อที่เข้าข่ายเมาครองสติไม่ได้ การขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ยังพบได้ทั่วไปในร้านค้ารายย่อยและผับบาร์ รวมทั้งการเข้าถึงการบำบัดฟื้นฟูของผู้ติดสุรายังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ทันกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ยังคงรักษาเจตนารมณ์เดิมไว้อย่างเคร่งครัดไม่ทำให้กฎหมายอ่อนแอลง ซึ่งจากการพูดคุยกับกลุ่มผลักดันพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ก็พบจุดร่วมในหลายประเด็น เช่น การลดทุนผูกขาด การจัดการเรื่องตราเสมือนซึ่งเป็นความฉ้อฉลที่ทุนสุรารายใหญ่ได้เปรียบ รวมทั้งการอบรมผู้ขายให้มีทักษะมากขึ้น
 

‘ครุสภา’ ผุด!! กรอบแนวคิดมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู อบรม 420 ชั่วโมง เสริมดีกรีแม่พิมพ์ฝึกหัดให้ทำงานได้

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ. 66) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานพัฒนาผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพเพื่อเป็นคุณสมบัติในการรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งการดำเนินงานนี้ มีเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละสาขาวิชานั้น ๆ แต่ไม่ได้เรียนจบครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ สามารถเป็นครู และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 

ซึ่งที่ผ่านมา ทางคุรุสภาได้ยกเลิกหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือ ป.บัณฑิต ไปแล้ว ดังนั้นครุสภาได้ไปจัดทำหลักสูตรใหม่ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสถาบันคุรุพัฒนา ได้จัดทำกรอบแนวคิดและมาตรฐานหลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู จำนวน 7 โมดูล (Module) ดังนี้ 

1.) การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก สังคม และแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 
2.) จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการศึกษา และจิตวิทยาให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ 
3.) เนื้อหาวิชาที่สอน หลักสูตร ศาสตร์การสอน และเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้

ก.แรงงาน เยี่ยมสถานประกอบการ จ.ลำพูน ติดตามการตรวจคุ้มครองคนต่างด้าวป้องกันค้ามนุษย์ด้านแรงงาน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นางดรุณี นิธิทวีกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดลำพูนตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการที่จ้างคนต่างด้าวทำงาน เพื่อตรวจคุ้มครองดูแลสิทธิแรงงานของลูกจ้างแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย โดยมี นางสาวอัจฉราภรณ์ ยะสินธ์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล นายจิตติภูมิ  สัมพันธนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ไทย - นิจิ อินดัสทรี จำกัดผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับ ณ บริษัท ไทย - นิจิ อินดัสทรี จำกัด นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ตั้งอยู่เลขที่ 77 หมู่ 13 ต.มะเขือแจ้ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการประเภทการผลิตขนมขบเคี้ยว ขนมกรุบกรอบ มีลูกจ้างทั้งสิ้น 464 คน เป็นแรงงานไทย 324 คน แรงงานต่างด้าว 140 คน

​นางดรุณี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงาน โดยท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย การลงพื้นที่จังหวัดลำพูนในครั้งนี้เพื่อตรวจติดตามการดำเนินการตรวจคัดกรองเบื้องต้นการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจคัดกรอง (SOP) รบ.1 ให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเพื่อตรวจติดตามการรายงานผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจากการใช้มาตรฐานการปฏิบัติงาน และ แบบ รบ.1 เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจะเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตาม NRM ตลอดจนรับทราบปัญหาอุปสรรค กระบวนการ วิธีการตรวจคุ้มครองแรงงาน และการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน

'โครงการฝึกอบรมครูฝึก (ครู ก.)' สำหรับการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม สืบสวน และ จราจร ใน 'สถานีตำรวจ'

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 ที่สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกอบรมยุทธวิธีตำรวจกลาง อ.หนองสาหร่าย จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกอบรมครูฝึก (ครู ก.) สำหรับการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม สืบสวน และ จราจร ในสถานีตำรวจ”

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ที่ให้ ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะ ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนการได้รับการฝึกทบทวนการใช้อาวุธปืนประจำกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ สายงานป้องกันปราบปราม  สืบสวน และจราจร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีภารกิจหน้าที่ที่จะต้องเข้าระงับยับยั้งเหตุซึ่งหน้าต่างๆ รวมถึงการปราบปราม และสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความชำนาญในการใช้อาวุธปืนประจำกาย สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเกิดความปลอดภัยต่อตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น

โดยโครงการดังกล่าวจะมีการฝึกอบรมครูฝึกทั้งหมด จะประกอบด้วยกัน 3 ระยะ เรียกว่า ครู ก. , ครู ข. และ ครู ค. โดยครู ก คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบัญชาการ ประกอบด้วย บช.น. และ ภ.1-9 หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 300 นาย,ครู ข คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบังคับการ และ ตำรวจภูธรจังหวัด ทุกจังหวัด  ทั่วประเทศ หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 2,550 นาย และครู ค คัดเลือกจากสถานีตำรวจทั่วประเทศ 1,484 สถานีๆ ละ 2 นาย รวมจำนวน 2,968 นาย ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้ มีระยะเวลา 3 วัน จะเป็นการฝึกให้กับ ครู ก. ก่อน จากนั้น ครู ก. จะนำความรู้และทักษะไปขยายผลถ่ายทอดให้กับ ครู ข. และ ครู ค. ตามลำดับ ทั้งนี้หลังจากอบรมครูฝึกทั้ง 3 ระยะเสร็จสิ้น และนำไปฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีตำรวจแล้ว จะเริ่มทำการฝึกทักษะการยิงปืนให้กับตำรวจทั่วประเทศได้พร้อมกัน ในช่วงเดือน พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

CEO ปตท. ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในเวทีสุดยอดผู้นำ เน้นย้ำเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในหัวข้อ ‘Supportive Measures, Innovation and Technology’ ในการอบรมหลักสูตร Climate Action Leaders Forum รุ่นที่ 2 โดยเน้นย้ำความตั้งใจของกลุ่ม ปตท. ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ให้เร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ รวมถึงยกระดับมาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมสร้างคุณค่าต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผู้ตรวจฯ ก.แรงงาน ติดตามผลการปฏิบัติงานการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจังหวัดลำพูน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นางดรุณี นิธิทวีกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในจังหวัดลำพูน โดยมี นายวิชิต อินทรเจริญ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน นายสมชาย เอื้อจารุพร ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3B ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงานจังหวัดลำพูน ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมแม่บ้านตำรวจ เดินหน้าสร้างความรู้ ทางการเงินและบริหารจัดการหนี้แก่ข้าราชการตำรวจต่อเนื่อง

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนการเงินและการบริหารจัดการหนี้ โดยปี 2566-2569 เดินหน้าความร่วมมือภายใต้กรอบ 3 C คือ Cure แก้ไขเยียวยา Caution ป้องกัน และ Cultivate ปลูกฝังทักษะ มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนำไปสู่ความสำเร็จทางการเงินได้อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งนักเรียนนายสิบตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจ ข้าราชการตำรวจ คู่สมรส และบุคคลในครอบครัวทั่วประเทศ หลังประสบความสำเร็จในการร่วมกันส่งเสริมความรู้ทางการเงินจนเกิดเป็นบุคคลต้นแบบการพัฒนาทักษะบริหารการเงินและจัดการหนี้

ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ เห็นพ้องที่จะดำเนินการขยายผลและสร้างพื้นที่เรียนรู้ด้านการวางแผนการเงิน การออมต่อเนื่อง หลังจากที่ได้ร่วมกันส่งเสริมความรู้มาตั้งแต่ปี 2564 ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยแผนดำเนินการในปี 2566-2569 จะทำภายใต้กรอบ 3 C ได้แก่ 1. Cure การแก้ไขเยียวยา โดยให้ความรู้ด้านการวางแผนการเงินและการบริหารจัดการหนี้ แก่กลุ่มข้าราชการตำรวจที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ 2. Caution การป้องกัน โดยให้ความรู้ทั้งก่อนและระหว่างการเป็นผู้กู้ แก่กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยใช้ SET e-Learning series 'รู้สู้หนี้' 3. Cultivate การปลูกฝังทักษะด้านการเงินและการลงทุนที่ถูกต้อง ให้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายสิบตำรวจ ข้าราชการตำรวจ คู่สมรส และบุคคลในครอบครัว รวมถึงการสร้างบุคคลต้นแบบระดับกองบัญชาการ 1 โรงพัก 1 บุคคลต้นแบบ โดยใช้โมเดล 'Happy Money in Action' เพื่อนำไปสู่วัฒนธรรมด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนทั้งในระดับบุคคลและองค์กรได้อย่างยั่งยืน

‘อลงกรณ์’ เผย ‘กานา’ ชื่นชม ‘โครงการพระราชดำริ’ พร้อมยกย่องเป็น ‘ต้นแบบ’ การพัฒนาอย่างยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.66) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ ดร.สิชา สิงห์สมบุญ กงสุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทย และคณะ โดยมี นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีและเกษตรกรรมยั่งยืน สำนักการเกษตรต่างประเทศ ผู้แทนกรมการข้าว กรมชลประทาน กรมประมง สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (112) สำหรับการประชุมหารือกันในวันนี้มีประเด็นหารือที่สำคัญ อาทิ เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ที่เป็นแนวทางการการปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ รวมถึงความร่วมมือในด้านอื่น ๆ

นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการหารือว่าประเทศกานามีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวและเพิ่มผลผลิตภายในประเทศมากขึ้น และมีความสนใจในแนวทางพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำการเกษตรแบบ BCG Model โดยเฉพาะข้าวรักษ์โลกที่ช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมี และยังเป็นแนวทางใหม่ของการทำการเกษตรโลก เนื่องจากกานามีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการเกษตร และแรงงานไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านเกษตร เกษตรกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบดั้งเดิม ยังไม่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากนัก ทำให้คุณภาพและปริมาณผลผลิตต่ำ

กลุ่ม ปตท. จัดงาน ‘PTT Group Tech & Innovation Day’ โชว์ต่อยอดเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคม-สิ่งแวดล้อม

๏ ขนทัพเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. จัดแสดง 28 ก.พ. – 3 มี.ค. ณ ปตท. สำนักงานใหญ่
๏ พบผู้นำด้านนวัตกรรมสุดล้ำ พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต บนเวที Tech Talk สุดยิ่งใหญ่แห่งปี
๏ เปิดเวที Pitching Desk นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. ที่พร้อมจับมือต่อยอดและขยายโอกาส สู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงาน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. เตรียมพร้อมจัดงาน PTT Group Tech & Innovation Day ภายใต้แนวคิด “Beyond Tomorrow: นวัตกรรม นำอนาคต” เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทิศทางกลยุทธ์ การดำเนินงาน และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ตลอดจนสร้างการรับรู้ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต และหาโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งผลักดันการสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตามวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ของกลุ่ม ปตท. โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2566 ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต 

“ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีไปอย่างมาก รวมถึงวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปตท. จึงมีการปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ โดยนอกจากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมุ่งเติบใตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงานผ่านการพัฒนา ต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่กลุ่ม ปตท. มีความเชี่ยวชาญ โดยมีแกนหลักคือ สถาบันนวัตกรรม ปตท. ผ่านความร่วมมือทั้งจากในกลุ่ม ปตท. และจากเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำภายนอก จนเกิดเป็นกลุ่มงานนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ 7 ด้าน ประกอบด้วย Future Energy, Future Mobility, Life Science, AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure, Decarbonization และ Innovation Ecosystem ที่นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่ม ปตท. พร้อมรับทุกกระแสการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับประเทศไทยแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ พร้อมจุดพลังจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยในทุกมิติได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายอรรถพลกล่าว

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PTT Group Tech & Innovation Day ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ เป็นอีกหนึ่งการผนึกกำลังครั้งสำคัญและความภูมิใจของกลุ่ม ปตท. ที่พร้อมจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนา ต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการเติบโตทางธุรกิจ และมีส่วนในการช่วยสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนในสังคมในด้านต่าง ๆ โดยตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน ผู้ร่วมงานจะได้พบกับกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

วิทยุทันสมัย!! ‘กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ’ พลิกโฉม NAVY TIME

กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือผนึกกำลัง THE STATES TIMES สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ ปรับรูปแบบรายการวิทยุ 'NAVY TIME’ ในคอนเซปต์ 'เรื่องดีดีประเทศไทยยามเช้า’ ทางสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือวังนันทอุทยาน (ส.ทร.วังนันทอุทยาน) FM93 เวลา 7-8 โมงเช้าทุกวัน จันทร์ ถึง อาทิตย์

พลเรือเอก อำนวย ทองรอด ประธานกรรมการบริหารกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ (ประธาน กบว.ทร.) พร้อมด้วยพลเรือโท ชยุต นาเวศภูติกร ผู้อำนวยการกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ เปิดเผยถึงแผนการปรับคอนเทนต์ รายการ  NAVY TIME ครั้งใหม่ ทั้งเนื้อหาและแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเข้าถึงที่มากกว่าเดิม ทาง ส.ทร.วังนันทอุทยาน คลื่น FM93 ด้วยการเขย่ารายการแรก 'NAVY TIME’ ปรับเนื้อหา สาระดีๆ สร้างแรงบันดาลใจ มุ่งเข้าหาประชาชนชาวไทยในยามเช้า

พลเรือเอก อำนวย กล่าวว่า “ปัจจุบันสื่อวิทยุยังเป็นช่องทางหลักที่พี่น้องชาวไทยทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดให้ความสนใจอยู่อย่างมาก ขณะที่กลุ่มคนเมืองมีการปรับพฤติกรรมโดยมุ่งไปที่คอนเทนต์ที่ตรงใจ และฟังจาก แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ วิทยุเพื่อความตระหนักรู้ ข้อมูลข่าวสาร ความมั่นคงของชาติทางทะเล รายงานข่าวอากาศและเทียบเวลามาตรฐาน ซึ่งมุ่งมั่นในการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาอันเป็นประโยชน์ รวมถึงเรื่องราวที่มีความทันสมัย ภายใต้ช่องทางรับฟัง/รับชมใหม่ๆ เพื่อขยายไปสู่ผู้ฟังทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมมือกับ THE STATES TIMES สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสำนักข่าวออนไลน์ที่มีการเติบโตสูงในช่วงที่ผ่านมา และมีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตคอนเทนต์ข่าวที่หลากหลาย ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจากกิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ที่ต้องการนำสิ่งดีๆ มาสู่ผู้ฟัง พร้อมทั้งเป็นเพื่อน ทุกๆ ท่านตลอดวัน แค่หมุนคลื่น หรือคลิกฟัง/ชม ทาง ส.ทร.วังนันทอุทยาน FM93 ครับ” พลเรือเอก อำนวย ทิ้งท้าย

'ตร.' เปิดช่องทางรับแจ้ง 'เด็กแว้น' แข่งรถ ผู้ให้เบาะแส รับเงิน 3,000 บาทเข้าบัญชี!!

รับ 3,000 บาท!! เมื่อแจ้งเบาะแส 'เด็กแว้น' แข่งรถจนจับกุมได้ ถ่ายภาพ-คลิปเป็นหลักฐาน แจ้ง 191,1599, หรือเฟซบุ๊กศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.

(22 ก.พ. 66) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตของเด็กและเยาวชน อันเป็นปัญหาที่สร้างอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนในชุมชนและสังคม มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสการแข่งรถในทาง เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ เช่น การแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น หรือรู้ตัวผู้จัด ผู้สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถ ให้ประชาชนบันทึกภาพและคลิปด้วยตนเอง พร้อมข้อมูลรายละเอียดแล้วแจ้งผ่าน 3 ช่องทาง คือ ศูนย์ 191, สายด่วน 1599 หรือ เพจเฟซบุ๊กศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. (ส่งข้อมูล inbox)

อลงกรณ์เผย 'ประเทศกานา' ชื่นชมโครงการพระราชดำริยกเป็นต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยืนยันกระทรวงเกษตรฯ.พร้อมขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับกานา

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ ดร.สิชา สิงห์สมบุญ กงสุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทย และคณะ โดยมี นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีและเกษตรกรรมยั่งยืน สำนักการเกษตรต่างประเทศ ผู้แทนกรมการข้าว กรมชลประทาน กรมประมง สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (112) สำหรับการประชุมหารือกันในวันนี้มีประเด็นหารือที่สำคัญ อาทิ เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ที่เป็นแนวทางการการปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพ รวมถึงความร่วมมือในด้านอื่น ๆ

นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการหารือว่าประเทศกานามีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวและเพิ่มผลผลิตภายในประเทศมากขึ้น และมีความสนใจในแนวทางพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำการเกษตรแบบ BCG Model โดยเฉพาะข้าวรักษ์โลกที่ช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมี และยังเป็นแนวทางใหม่ของการทำการเกษตรโลก เนื่องจากกานามีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการเกษตร และแรงงานไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านเกษตร เกษตรกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบดั้งเดิม ยังไม่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากนัก ทำให้คุณภาพและปริมาณผลผลิตต่ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top