Monday, 28 April 2025
NEWS

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งตำรวจอำนวยความสะดวกส่ง 'ทับทิม' บินกลับอเมริกา หลังยินดีมอบตัวคดีชนแล้วหนีที่มิชิแกน

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุหญิงไทย ทราบชื่อต่อมาเป็น นางทับทิม ซู ฮาวสัน อายุ 57 ปี ขับรถยนต์ชน นายเบนจามิน เคเบิล อายุ 22 ปี จนเสียชีวิตที่เมืองมิชิแกน สหรัฐอเมริกา แล้วได้หลบหนีกลับมายังประเทศไทย และมีสื่อต่างประเทศได้นำเสนอข่าวว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ประสานแจ้งขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนมายังประเทศไทย และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เชิญตัว นางทับทิมฯ มาเปิดใจต่อสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว โดยยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องการเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น

วันนี้ (22 ก.พ.66) เวลาประมาณ 17.00 น. นางทับทิม ซู ฮาวสัน ได้พร้อมออกเดินทางกลับไปยังเมืองมิชิแกน สหรัฐอเมริกา โดยจะใช้เวลาเดินทาง 1 วัน โดยปลายทางจะมีเจ้าหน้าที่ FBI รอรับการมอบตัวดังกล่าว เบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกในเบื้องต้น และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในเบื้องต้น เพื่อให้นางทับทิมลดความกังวล และมีความพร้อมเดินทางไปมอบตัวดังกล่าว

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖

วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุม
ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมี พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ หอประชุมกองทัพเรือ

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจจิตอาสาพระราชทานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนดำรงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย โดยให้ถือเป็นการช่วยเหลือสังคมและกล่อมเกลาให้กำลังพลได้รู้จักความเสียสละและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม โดยในวันนี้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ รวมถึงได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ของกองทัพ ดังนี้

กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงนโยบายการฝึกของกองทัพไทย พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ เพื่อให้ส่วนราชการในกองทัพไทยใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนการฝึก แผนงบประมาณประจำปี และพัฒนาระบบงานการฝึกของหน่วย โดยมีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนในทุกระดับ สาระสำคัญประกอบด้วย นโยบายทั่วไป และนโยบายเฉพาะ ซึ่งมีแผนงานการฝึก จำนวน ๔ ด้าน ได้แก่ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน

กองทัพบก ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกให้มีความพร้อมรบ (Combat Readiness) มีขีดความสามารถในการรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ และสามารถปฏิบัติการร่วมกับทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการฝึกที่สำคัญประกอบด้วย การฝึกตามวงรอบการฝึกประจำปีของกองทัพบก ซึ่งเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานให้กับกำลังพล เพื่อให้เกิดทักษะความชํานาญทั้งในระดับบุคคล และระดับหน่วย การฝึกร่วม ซึ่งเป็นการฝึกร่วมกับเหล่าทัพ และส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และความชำนาญในการปฏิบัติงาน รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในหลักนิยม ยุทธวิธี ขีดความสามารถ และความทันสมัยของยุทโธปกรณ์ในแต่ละกองทัพมิตรประเทศทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี 

กองทัพเรือ ได้รายงานผลการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔ ถึง ๖ มกราคม ๒๕๖๖ ในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้เข้ารับการฝึกฯ จากกองทัพเรือ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ มวลชน และนักท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ รวมทั้งสิ้น ๑,๓๒๐ คน ผลจากการฝึกฯ ในครั้งนี้ได้รับทราบถึงขีดความสามารถของกำลังทางเรือในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ทางทะเลและเกาะแก่ง อีกทั้งยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในขีดความสามารถของกันและกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติการร่วมกันในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงเกิดความมั่นใจในขีดความสามารถและความพร้อมของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือร่วมกับศูนย์อำนวยการร่วมในพื้นที่ โดยกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ไฟป่าและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติภารกิจในการบินกระจายเสียงในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง การบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า การบินสร้างแนวกันไฟเพื่อควบคุมไฟป่า การบินลำเลียงทางอากาศและส่งกลับ สายแพทย์ และการบินค้นหาและช่วยชีวิต นอกจากนี้ กองทัพอากาศ ยังมีโครงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและสลายหมอกควัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาเครื่องผสมสารยับยั้งไฟป่า สารยับยั้งไฟป่าสูตร ทอ.๑ ถุงบรรจุสารยับยั้งไฟป่าในกล่องอุปกรณ์ควบคุมไฟป่า บรรจุภัณฑ์ยับยั้งไฟป่าแบบติดตั้งอุปกรณ์ หน่วงเวลา สถานีระบบควบคุมภาคพื้น อากาศยานไร้คนขับโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อากาศยานไร้คนขับแบบ M Solar X การทำฝนหลวงเมฆอุ่น และพลุสารฝนหลวง เป็นต้น

'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม เดินหน้าบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และของใช้จำเป็น รวมมูลค่า 177,500 บาท แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวมนวรา เพชรพลากร ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและผู้จัดการทั่วไปส่วนงานองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ มิสวินนี่ เฮง รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็มจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนมอบ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน จังหวัดชลบุรี

อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่นำไปบริจาคในครั้งนี้ ประกอบด้วย รถเข็นผู้ป่วย เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน โคมไฟส่องตรวจ เครื่องดูดเสมหะ รวมถึงของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อาทิ ระบบเครื่องเสียงสาธารณะ (PA) โต๊ะ ผ้าอ้อม แผ่นรองซับ ยาทากันยุง น้ำดื่ม และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตาลหมัน โดยเป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กที่รองรับผู้ป่วยจากชุมชนโดยรอบ มีคนไข้ราว 40 คนต่อวัน สำหรับทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และของใช้จำเป็นในครั้งนี้ รวบรวมจากค่าสมัครการแข่งขัน “Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers” ที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 9-10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สนามสยามคันทรีคลับ โรลลิ่ง ฮิลส์ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเฟ้นหานักกอล์ฟสาวไทยทั้งระดับอาชีพและสมัครเล่น 1 คน ร่วมดวลวงสวิงในการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 โดยผลการแข่งขัน ซิม -ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ นักกอล์ฟหน้าใหม่ของแอลพีจีเอ ทัวร์ คว้าตำแหน่งผู้ชนะ 

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยได้รับความสนใจจากแฟนกอล์ฟทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากความพร้อมในการจัดการแข่งขัน คณะผู้จัดงานยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์คืนสู่ชุมชนท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยการระดมทุนจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปใช้ในกิจกรรมการกุศล อาทิ กิจกรรม Charity Night ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อจัดประมูลไอเท็มส่วนตัวของนักกอล์ฟระดับโลก โดยนำรายได้บริจาคให้แก่ศิริราชมูลนิธิ รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ 

ทัพกอล์ฟหญิงระดับโลก พร้อมเดินหน้าคว้าแชมป์รายการ 'ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023' อาฒยา ฐิติกุล, เนลลี่ คอร์ด้า, มินจี ลี และเหล่าโปรกอล์ฟหญิงระดับท็อปของโลกพร้อมนำทัพประชันวงสวิง

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ที่สองของปีนี้คับคั่งด้วยนักกอล์ฟฝีมือเยี่ยมของวงการกอล์ฟหญิงระดับโลก นำโดย 'จีน' อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟขวัญใจชาวไทยและมือ 4 ของโลก ซึ่งตั้งเป้าสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จเพื่อมอบรอยยิ้มให้กับแฟนกอล์ฟชาวไทยในการแข่งขันกอล์ฟยอดนิยมของฤดูกาล โดยเจ้าของแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์สองสมัยและผู้ครองตำแหน่ง Louise Suggs Rolex Rookie of the Year พร้อมนำทัพนักกอล์ฟไทยและต่างชาติร่วมประชันวงสวิงในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก เพื่อชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และรางวัลโฮลอินวัน รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV TECH มูลค่า 1,799,000 บาท

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ก้าวสู่ปีที่ 16 ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยปีนี้มีนักกอล์ฟดังเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคับคั่ง นำโดย ลิเดีย โค มือ 1 ของโลกจากนิวซีแลนด์ ร่วมด้วยเนลลี่ คอร์ด้า มือ 2 ของโลกจากสหรัฐฯ มินจี ลี มือ 3 ของโลกจากออสเตรเลีย จิน ยองโค มือ 5 ของโลกจากเกาหลีใต้ และ บรู๊ค เฮนเดอร์สัน มือ 6 ของโลกจากแคนาดาที่เพิ่งคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลในรายการ ฮิลตัน แกรนด์ วาเคชั่นส์ ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ในออร์แลนโด ฟลอริด้า เมื่อเดือนที่แล้ว 

คนใกล้ตัว แฉต้นเหตุ ‘พยาบาลสาว’ คิดฆ่าตัวตาย ที่แท้โดนข่มขู่คุกคาม แถมถูกสั่งให้เข้าเวรกลางคืน

หนุ่มคนใกล้ชิดโพสต์แฉละเอียดยิบ กรณีพยาบาลสาว รพ.ดังเชียงใหม่ เครียดจัดจนเกือบฆ่าตัวตัวตาย ที่แท้โดนคนในกลั่นแกล้งข่มขู่คุกคามหนัก แถมรถถูกยกหายไปนานเกือบ 4 เดือนและแจ้งความแล้ว ไร้ความคืบหน้า จนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังถูกสั่งให้ขึ้นเวรกลางคืน

ความคืบหน้ากรณีพยาบาลสาวโรงพยาบาลรัฐชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์บอกเล่าเรื่องราวตัดพ้อที่ถูกกลั่นแกล้งและดูหมิ่นเหยียดหยามในที่ทำงานจนเกิดความเครียดและกดดันอย่างหนัก พร้อมเขียนจดหมายลาตาย และพยายามที่จะกระโดดตึกเพื่อจบชีวิตแต่มีผู้ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะที่ทางผู้บริหารหน่วยงาน ชี้แจงและยืนยันให้ความช่วยเหลือพยาบาลสาวรายนี้อย่างเต็มที่ในทุกด้าน

รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดในคืนที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งได้โพสต์คลิปใน TikTok จำนวน 3 คลิป ที่เป็นการแฉเรื่องราวเกี่ยวกับกรณีพยาบาลสาวที่ถูกกลั่นแกล้ง กดดัน จนทำให้คิดสั้นดังกล่าว โดยเริ่มต้นว่าไม่ต้องตั้งคำถามว่าตนเองรู้จักน้องพยาบาลได้อย่างไร เอาเป็นว่าเป็นคนที่รู้จักสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องของการบูลลี่เรื่องหน้าตาชาติพันธุ์ เป็นเรื่องเก่านานแล้วที่มีการทำความเข้าใจกันแล้วในที่ทำงาน และไม่ใช่เหตุหลักในการที่น้องตัดสินใจครั้งนี้

โดยสาเหตุหลักมาจากการถูกลั่นแกล้งในที่ทำงานจากหัวหน้างาน และคนในโรงพยาบาล ซึ่งจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องความขัดแย้งจริงๆ ซึ่งน้องมีความขัดแย้งกับหัวหน้าแผนกห้องคลอด ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาส่วนตัวของกลุ่มคนในที่ทำงานก็จะมีการแบ่งก๊กแบ่งเหล่ากัน แต่ที่สำคัญได้ยกบุคคลคนหนึ่งเป็นตำแห่งหัวหน้าพัสดุ แฟนมีพฤติกรรมเวลาดื่มเหล้าเมาจะกร่างสามารถเข้าออกโรงพยาบาลได้ และยังทำงานที่สรรพสามิตเชียงใหม่ จึงได้ให้แฟนแกล้งน้องด้วยการขนรถจักรยานยนต์ อ้างจะเอาไปตรวจสอบ เนื่องจากเห็นว่าจอดไว้เป็นเวลานาน จนเป็นที่มาของการเข้าไปแจ้งความว่าน้องรถหาย

นอกจากนี้น้องยังพยายามขอความช่วยเหลือจากทางผู้บริหาร แม้แต่จะขอภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่ขโมยรถไป แต่กลับอ้างว่าไม่มีภาพ ภาพวงจรปิดที่ได้มานั้นก็ไปได้จากกล้องวงจรปิดบ้านพักของพนักงานในโรงพยาบาล ที่น้องต้องไปขอเอง หลังจากนั้นน้องเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ถูกคุกคาม จึงไปขอร้องผู้บริหารอีกครั้ง ซึ่งได้รับการดูแลโดยให้มาเข้าเวรและทำงานในตอนกลางวันแทนกลางคืน เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน แต่ได้เพียง 1 เดือน ตอนนี้น้องต้องกลับมาทำงานและเข้าเวรกลางคืนอีกครั้งคราวนี้น้องจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือปกป้อง และหวาดกลัวที่จะถูกคุกคามอีกครั้ง จนน้องคิดมากเป็นสาเหตุที่ต้องคิดสั้น

ส่วนคลิปที่ 2 ได้ย้อนกลับไปพุดถึงเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่นำรถไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แต่จนถึงขณะจะเข้าเดือนมีนาคมอยู่แล้ว กว่า 3 เดือนนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในคดี ไม่มีหมายเรียกออกมาสักฉบับ ตำรวจทำงานช้ามากจนน้องรู้สึกว่าตำรวจ มีนอกมีในหรือไม่กับคดีนี้ โดยคนโพสต์ยังอ้างว่าทนายความที่ตนเองส่งไปช่วยดูแลคดีให้น้องพยาบาล ยังได้รับการประสานงานจากตำรวจ ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้ ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่มาถามทางฝั่งผู้เสียหาย ซึ่งตำรวจได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายไปพูดคุยกัน

'ทร.' แจ้ง ผลสอบ 'รล.สุโขทัย' คืบหน้า 90% เริ่มกู้เรือได้ เม.ย.นี้ คาด ไม่เกิน 1 ปี รู้สาเหตุเรือล่ม

(22 ก.พ. 66) พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนเรือหลวงสุโขทัยอับปางในรอบ 2 เดือน ว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงยังอยู่ระหว่างดำเนินการ หลังจากสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 289 ปาก ข้อมูลที่ได้กำลังอยู่ระหว่างประเมินเพื่อนำมาสรุป และชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนได้รับทราบ ยืนยันว่า กองทัพเรือไม่ได้พยามจะดึงเรื่องให้มีความยืดเยื้อ หรือเชื่องช้า เราพยายามทำอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้มีความรอบคอบ และครอบคลุม เรื่องราวทั้งหมด

นอกจากนั้น ก็ยังมีข้อมูลทางเอกสารในเรื่องการรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงเรื่องวัตถุพยาน ซึ่งขณะนี้ การดำเนินการเตรียมการกู้เรือหลวงสุโขทัย กำลังดำเนินการอยู่ น่าจะได้บทสรุปในเดือนนี้ ขณะนี้ยังติดเรื่องคลื่นลมในทะเลฝั่งอ่าวไทย ที่ยังมีความรุนแรงอยู่ คาดว่า ภายในเดือนเมษายนเป็นอย่างช้า น่าจะเริ่มดำเนินการกู้เรือได้ ซึ่งระยะเวลาดำเนินการเท่าไหร่นั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องดูว่ามีอุปสรรคมากน้อยแค่ไหน แต่กระบวนการทั้งหมดที่จะได้ข้อสรุปคงไม่เกิน 1 ปี ต้องรอดูสภาพใต้ท้องเรือว่า ตรงกับคำให้การที่สอบไปหรือไม่ แต่ตอนนี้เรา ปะติดปะต่อเหตุการณ์เรื่องราวได้เกือบสมบูรณ์แล้ว ขาดเพียงแค่พยานวัตถุ

“เราพยายามไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป แต่ส่วนหนึ่งก็หลุดออกไปบ้าง แต่ตรงนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แท้จริง ต้องรอกองทัพเรือชี้แจงอย่างเป็นทางการ 2 เดือนที่ผ่านมา ถือได้ว่าผลสรุปการสอบพยานด้านบุคคล รวมถึงเอกสารถึงคืบหน้าไป 90% แล้ว

ส่วนพยานวัตถุเราได้แค่ภาพถ่ายใต้น้ำ ซึ่งใช้นักประดาน้ำ และยานซีฟอกซ์ ซึ่งเป็นยานใต้น้ำ ลงไปถ่ายแต่ยังมองไม่ชัดเพราะ สภาพเรือนั่งแท่นบนทรายจึงมองเห็นไม่ชัด ต่างกับกรณีที่เรือเอียงจะถ่ายแล้วเห็นชัดมากกว่า ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ติดขัดในการถ่ายภาพใต้น้ำนำมาประกอบหลักฐาน จึงยังไม่สมบูรณ์จึงต้องมีการกู้เรือมาเพื่อดูสภาพนั้นอีกครั้ง” พล.ร.อ.ปกครอง กล่าว

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบงบประมาณที่จะใช้ กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการ และกรมอู่ทหารเรือ กำลังวิเคราะห์ และพยายามพิจารณาลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงให้น้อยที่สุด โดยปัจจุบัน ยังมี 12 บริษัทได้เสนอค่าใช้จ่ายการกู้เรือเข้ามา ส่วนที่เกรงว่า การใช้งบกลางจากรัฐบาลอาจจะล่าช้า เพราะอยู่ในช่วงยุบสภา จึงต้องไปขออนุมัติ กกต.นั้น ก็คงเป็นไปตามนั้น เราจึงพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าจะให้เสร็จก่อนที่จะมีการยุบสภา

‘หลวงปู่เจ้าคุณอิ่ม’ อายุ 106 ปี ทำบัตร ปชช.ใหม่ กลุ่มลูกศิษย์ปลื้มเห็นหลวงปู่สุขภาพแข็งแรง

หลวงปู่เจ้าคุณอิ่ม อายุ 106 ปี อริยสงฆ์ 5 แผ่นดินแห่งเมืองนคร ทำบัตรประชาชนใบใหม่ กลุ่มศิษย์ปลื้มเห็นหลวงปู่สุขภาพแข็งแรง 

เพจเฟซบุ๊กกลุ่มประเทศคอน สมาชิกในชื่อชาญวิทย์ ได้โพสต์ภาพ พระราชมงคลวชริรปัญญา หรือหลวงปู่เจ้าคุณอิ่ม อริยสงฆ์ 5 แผ่นดินแห่งเมืองนคร วัดทุ่งนาใหม่ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช

ขณะที่หลวงปู่เจ้าคุณอิ่ม อายุ 106 ปี เดินทางมาทำบัตรประชาชนใบใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอพิปูน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมระบุข้อความว่า เห็นภาพนี้แล้วปลื้ม ขอหลวงปู่อายุยืน สุขภาพแข็งแรง 106 ปีแล้ว ท่านยังแข็งแรง อยู่กับลูกศิษย์นานๆ ด้วยรักและศรัทธา สาธุๆๆ

สำหรับประวัติ ‘หลวงปู่อิ่ม’  ถือว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ 5 เเผ่นดิน และศิษย์ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ‘หลวงปู่อิ่ม’ มีเดิมชื่อ นายอิ่ม วุฒิพงศ์ เป็นบุตร นายเอี่ยม นางช่วย วุฒิพงศ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 6 ธันวาม 2459 หรือช่วงต้นรัชกาลที่ 6

เมื่ออายุ 17 ปี ราวปี 2476 ได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยพระครูรังสรรค์อธิมุตต์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดยางค้อม โดยในวัยเด็ก ท่านมีโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิดพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์  อันเนื่องด้วยจากท่านเป็นหลานเเท้ ๆ ของพ่อท่านคล้าย ซึ่งท่านจะมาหาญาติของท่าน ซึ่งเป็นครอบครัวของ ‘หลวงปู่อิ่ม’ อยู่เป็นประจำ

จนเมื่ออายุครบ 20 ปี ในราวปีพ.ศ. 2479 ท่านได้อุปสมบท โดยมี พระอาจารย์ปลอด วัดนาเขลียง เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดยางค้อม เเละได้ครองสมณะเพศเป็นเวลา 1 ปีจึงได้ ได้ลาสิกขา เพราะจำเป็นต้องไปช่วยพ่อแม่ทำสวน ตามวิถีชีวิตปกติของคนทั่วไป 

เเต่ขณะท่านเป็นฆราวาส ก็ยังคงได้ ร่ำเรียนวิชาจากพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ซึ่งเป็นทั้งครูอาจารย์เเละเป็นญาติผู้ใหญ่มาตลอด อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการร่วมสร้างพระอุโบสถวัดทุ่งนาใหม่ เเละเหตุการณ์สำคัญๆ ร่วมกับพ่อท่านคล้าย เเละได้ร่ำเรียนวิชาจนสามารถจดจำพระคาถา เเละเคล็ดวิชาของพ่อท่านคล้ายได้เป็นอย่างดี

ทัพเรือภาคที่ 1 มอบอุปกรณ์สนับสนุนกิจกรรมนันทนาการ ณ โรงเรียนชุมชนบ้านบางเสร่

วันที่ 22 ก.พ.66 ทัพเรือภาคที่ 1 โดย น.อ.ศรยุทธ พุ่มสุวรรณ์ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา เข้าพบปะคณะครู นักเรียน และมอบอุปกรณ์สำหรับสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมสันทนาการ ส่งเสริมการออกกำลังกายสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้แก่นักเรียน ณ โรงเรียนชุมชนบ้านบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ตามโครงการกิจกรรม 'บวร' (บ้าน วัด โรงเรียน) เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียน และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง กองทัพเรือกับประชาชน ในพื้นที่ 

ชื่นชม!! พลเมืองดีเก็บกระเป๋าหรูส่งคืนเจ้าของ ไหวพริบดี โชว์เบอร์โทรตนเองที่กล้องวงจรปิด

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.66) นายมาอาซซัรลาห์คาน คานมงคล อายุ 27 ปี (ผู้เสียหาย) ได้เดินทางเข้ามารับกระเป๋า กับนายมูฮำหมัด ยูโซะ (พลเมืองดี) ที่ลืมทิ้งไว้ที่ร้านซัก-อบแห้ง ณ สน.วังทองหลาง 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.66 เวลาประมาณ 04.00 น. ผู้เสียหายได้นำผ้ามาซัก-อบแห้ง และได้วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะภายในร้าน จากนั้นผู้เสียหายได้ซักผ้าตามปกติ จนกระทั่งซักผ้าเสร็จและได้กลับที่พัก เมื่อไปถึงที่พักจึงทราบว่าตนเองยังไม่ได้หยิบกระเป๋ามาจึงกลับไปดู ปรากฏว่าไม่พบกระเป๋าของตนเอง จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เมื่อเวลา 10.00 น. ในวันเดียวกัน เพื่อติดตามคนร้ายที่ลักทรัพย์สินไป

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง!! 3 จำเลยคดีฆ่า 'พลเอกร่มเกล้า'

เมื่อวานนี้้ (21 ก.พ.66) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กับลูกน้อง หมายเลขดำ อ.857/2562 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ1 และนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุขเสก หรือเสก พลตื้อ, นางพรกมล บัวฉัตรขาว หรือนางกนกพร ศิริพรรณาภิรัตน์ อดีตผู้ดำเนินรายการทีวีสถานีประชาชน ช่องเอเชียอัพเดต และนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่นฯ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

โดยโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 15 พ.ย. 2552 - 20 พ.ค. 2553 กลุ่ม นปช. ได้ร่วมกันชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ลาออกจากตำแหน่ง จนวันที่ 7 เม.ย. 2553 นายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร และออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ บริเวณ ถ.ราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกคอกวัวมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กระทั่งวันที่ 10 เม.ย. 2553 จำเลยที่ 1 และ 3 กับพวกร่วมกันมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ M.67 คนละ 3 ลูก ซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน และจัดหาระเบิดให้ โดยพวกจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้อื่นด้วยการขว้างระเบิดสังหาร 2 ลูก ใส่เจ้าหน้าที่ทหารขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถ.ดินสอ เป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รอ.(ขณะนั้น) กับนายทหารรวม 5 นายเสียชีวิต และมีนายทหารอีกหลายนายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยพวกจำเลยให้การปฏิเสธ

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 ด้วยเหตุคำเบิกความพยานโจทก์มีข้อพิรุธ ประจักษ์พยานโจทก์จึงไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้และศาลพิจารณาคำฟ้องจำเลยเปรียบเทียบกับคดี นปช.ก่อการร้าย ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกัน มูลเหตุช่วงเวลาเดียวกัน ถือเป็นการฟ้องซ้อน พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1-3

ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันนี้จำเลยที่ 1-2 เดินทางมาศาลพร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ส่วนจำเลยที่ 3 ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำ (คดีอื่น)

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายวิญญัติ ทนายความเปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน โดยศาลวินิจฉัยประเด็นเเรกส่า ฟ้องโจทก์ สำหรับจำเลยที่ 1-3 คดีนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีนปช.ก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งศาล เห็นว่า บทบัญญัติเรื่อง ฟ้องซ้อนในคดีอาญาไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะจึงต้องนำประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยเรื่องฟ้องซ้อน มาตรา 173มาบังคับใช้โดยอนุโลม ที่ห้ามมิให้โจทก์ยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกันนั้นต่อศาลเดียวกันหรือต่อศาลอื่น โดยคดีนั้นโจทก์ได้ บรรยายฟ้องคดีทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้อน ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นฟ้องซ้อน ของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 เเละ3

สวนนงนุชพัทยาส่งทีมผู้เชียวชาญร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯสำรวจปรงเขาชะเมา

ทางอุทยานเขาชะเมา-เขาวง ขออนุเคราะห์ให้ผู้เชี่ยวชาญของสวนนงนุชพัทยา เข้ามาร่วมสำรวจปรงเขาชะเมาและศึกษาวิจัย ชีวมวลความหลากหลายของพรรณพืชตั้งแต่วันที่15ถึง16กุมภาพันธุ์ พ.ศ.2566โดยมีเจ้าหน้าที่ของสวนนงนุชพัทยา 6คน และเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนเชิงคุณภาพ 6คน เข้าสำรวจจำนวนของปรงชะเมา ที่ทราบว่ามีเพียงแห่งเดียวภายในอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จังหวัดระยอง 

การสำรวจในครั้งนี้ซึ่งใช้แนวทางบุกเบิกรูปแบบใหม่ Assisted Reproduction of the Critically Endangered and Endemic Cycas chamaoensis (ACREE) โดยได้ใช้โดรนของอุทยานบินเพื่อสำรวจสนับสนุนทีมนักวิจัยในการประเมินและวัดพื้นที่เพื่อสำรวจของจำนวนปรงชะเมาที่ใกล้สูญพันธุ์โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจาก The Mohamed bin Zayed Speciesกองทุนอนุรักษ์ร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญปรง IUCN และMr. Anders Lindstromซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญของทางสวนนงนุชพัทยา

ใครไม่ทำฉันทำ ใครไม่สร้างฉันสร้าง 'พระครูแจ้' ลงใต้ทำพิธียกเสาเอกเตรียมสร้างอาคารเรียนหลังที่ 19

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ลงพื้นที่ภาคใต้เร่งช่วยเหลือด้านการศึกษา โดยสนับสนุนใช้งบประมาณส่วนตัวเตรียมก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้แก่นักเรียนโรงเรียนวัดเกาะสวาด ในเขตพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำพิธียกเสาเอกเพื่อเตรียมที่จะก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่โรงเรียนวัดเกาะสวาด ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และนับว่าเป็นอาคารเรียนหลังที่ 19 ที่ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตาดำเนินการจัดสร้างให้

โดยภายในพิธียกเสาเอกในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้เกียรติมาเป็นประธานในการทำพิธียกเสาเอก พร้อมด้วย คณะเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการศึกษาจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 2 คณะครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียนวัดเกาะสวาด ร่วมแสดงความยินดีและร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมาก

รองต่อศักดิ์ฯ ห่วงใยเด็กพิเศษ ส่งตำรวจทางหลวง จิตอาสา ช่วยเหลือสนับสนุนทำกิจกรรม 'ปันรัก ปันสุข ปันน้ำใจ' เพื่อน้อง เสริมทักษะการรับรู้

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 11 จ.นครราชสีมา (กลางดง) หน่วยบริการปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา จิตอาสา 904 ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ชมรมฮักเขาใหญ่ และกลุ่มจิตอาสาเพื่อสังคมชุมชน 

ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา 'ปันรัก ปันสุข ปันน้ำใจ' เพื่อเด็กพิเศษ พิการซ้ำซ้อน ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 11 จ.นครราชสีมา (กลางดง) หน่วยบริการปากช่อง รวม 30 คน พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนรู้ อุปกรณ์ของใช้ที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการดูแลเด็กๆ รวมถึงมอบขนม นม พร้อมทำกิจกรรมวาดภาพระบายสีกับน้องๆ และกิจกรรมเข้าจังหวะ เพื่อเสริมทักษะการรับรู้ 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว สำหรับเด็กความซ้ำซ้อนเหล่านี้มักก่อให้เกิดปัญหาในการเรียนรู้ เนื่องจากเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาพิเศษที่เหมาะสมต่อความบกพร่องทางใดทางหนึ่งเพียงอย่างเดียวได้ เด็กพิการซ้อนมักมีปัญหาความผิดปกติที่หลากหลาย ซึ่งมักได้แก่ การพูด การเคลื่อนไหวร่างกาย การเรียนรู้ การมองเห็น การได้ยิน ความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น 

นอกจากนี้ เด็กยังอาจมีภาวะสูญเสียการรับรู้ทางประสาทสัมผัส รวมทั้งมีปัญหาด้านพฤติกรรมและสังคม จึงจัดทำกิจกรรมจิตอาสา 'ปันรัก ปันสุข ปันน้ำใจ' เพื่อเด็กพิเศษ เปิดโอกาสทางสังคมให้น้องๆ

'คำ ผกา' สรุปเสวนาหนังสือ 'รสไทยไม่แท้' คำตอบ คือ 'อาหารไทยแท้ไม่มีอยู่จริง'

(21 ก.พ. 66) น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา นักเขียนและพิธีกรชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ...

เสวนาหนังสือ ‘รสไทยไม่แท้’ ของ อ. อาสา คำภา
อาหารไทยแท้คืออะไร อยู่ที่ไหน?
คำตอบคือ ‘อาหารไทยแท้ไม่มีอยู่จริง’

ถ้าจะให้แขกสรุป ชาวพื้นเมืองที่เป็นไพร่ในดินแดนที่ปัจจุบันเป็นประเทศไทยกินอาหารตามมีตามเกิด ตามวัตถุดิบและความจำกัดจำเขี่ยทางทรัพยากร อายุขัยไม่ยืนยาว

ชนชั้นกษัตริย์ ขุนนาง กินอาหาร ‘ต่างประเทศ’ เช่น สมัยพระอยุธยากษัตริย์ใช้เชฟจากอิหร่าน เปอร์เซียทำอาหารให้กิน

สมัยรัตนโกสินทร์ ชนชั้นนำมีความ cosmopolitan มากกว่าไพร่ก็รับ know how การทำอาหารต่างชาติ แขก จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง มาประยุกต์ทำอาหารไปจนถึงคิดค้น modified อาหารชนิดใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะมาก

เครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ส่งมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวในตุรเคีย - ซีเรีย

(21 ก.พ. 66) มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม บริษัท รีเทล บิซิเนส โซลูชั่นส์ จำกัด (RBS) และเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand ได้รวมกลุ่มโครงการ ‘ไทยรวมใจ ช่วยภัยสาธารณรัฐทูร์เคีย-ชีเรีย 2023’ ส่งมอบถุงยังชีพให้กับ กองทัพอากาศไทย โดยมี พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นตัวแทนรับถุงยังชีพจากโครงการไทยรวมใจเตรียมนำส่งมอบไปที่ประเทศตุรกีและซีเรีย

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ของประเทศตุรกีและซีเรีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.7 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา นอกจากจะสร้างความเสียหายมหาศาลทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในสองประเทศแล้ว ที่พักอาศัยที่พังทลายลงมาหลายแห่งยังส่งผลให้ครอบครัวและเด็กอีกจำนวนหลายหมื่นคนได้รับความเดือดร้อนจากการไร้ที่พักอาศัยและต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top