Monday, 19 May 2025
NEWS

เผาแล้ว!! ‘จีจี้’ พร้อมเปิดเพลงของเจ้าตัว ที่ทำไว้ กับวง Kisskazz ที่ยังไม่ได้เปิดตัว ก่อนจากไป

น้ำตาท่วมวัด! เผาแล้ว ‘จีจี้’ เปิดเพลงที่ทำไว้กับวง Kisskazz ที่ยังไม่ได้เปิดตัว
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 เม.ย.66 ที่ศาลาบุษบก หน้าเมรุ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม เป็นช่วงเวลาประกอบพิธีฌาปนกิจศพของ น้องจีจี้ หรือ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ เน็ตไอดอลสาว ก่อนเริ่มพิธี ได้มีการแสดงร้องเพลงจากศิลปิน และกลุ่มเพื่อน โดยมี จิ้ม ชวนชื่น ตลกดัง และ เนรมิต ศรีเมือง สัปเหร่อไฮโซ ได้เดินทางมาเป็นพิธีกรในงาน

ก่อนเริ่มพิธีนั้นได้มีการเล่นดนตรีจากเพื่อนๆ วงดนตรีวงจระเข้น้อย The Voice เป็นวงแบ็คอัพให้กับวงของ ติ๊ก ชีโร่ และ กุง เงาเสียง จากกิ๊กดู๋สงครามเพลง นอกจากนี้ยังมีวงกลุ่มเพื่อนของจีจี้ มาร้องเพลงร่วมไว้อาลัยท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และผู้รู้จักคุ้นเคย

เมื่อเข้าสู่พิธีการทอดผ้าบังสุกุล นายรัฐการ พรรณพัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิง ถวายผ้าบังสุกุลและจุดไฟประชุมเพลิงศพ อีกทั้งมีญาติของจีจี้ อุปสมบทหน้าไฟเพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่ดวงวิญญาณ

นอกจากนี้ยังได้เปิดเพลงที่เป็นของน้องจีจี้เองที่กับทางค่าย แต่ยังไม่ได้เปิดตัว หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกวง Kisskazz สังกัดค่าย Xoxocity ซึ่งเป็นเพลงที่บอกกับทางครอบครัวว่าอยากให้ได้ฟัง แต่ก็ยังไม่เคยได้เปิดให้ฟัง จึงขอเปิดที่นี่เป็นที่แรก พร้อมกับดวงวิญญาณที่จากไป ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและผู้ที่รู้จักคุ้นเคย


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7630838

'หลวงพ่อจอย ชินวังโส' ศิษย์เอกหลวงพ่อคูณ ละสังขารแล้ว สิริรวมอายุมงคล 84 ปี

สิ้นแล้ว "หลวงพ่อจอย ชินวังโส" ลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนไทย ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

(25 เม.ย.66) มีรายงานว่า แฟนเพจ วัดโนนไทย ตำบลโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ระบุข้อความว่า สิ้นแล้ว ร่มโพธิ์ใบใหญ่ ร่มไทรใบหนา

กราบถวายอาลัยพระเดชพระคุณ "พระครูอนุวัตรชินวงศ์" (หลวงพ่อจอย ชินวํโส, วิชิต มานะดี) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโนนไทย อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนไทย ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 6.00 น. ของเมื่อเช้าที่ผ่านมา วันอังคารที่ 25 เดือนเมษายน พุทธศักราช 2566 ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สิริอายุ 84 ปี 22 วัน พรรษา 61

เปิดวีรกรรม!! ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ไปงานศพ 4 ปีไม่เคยใส่ซอง แต่กินข้าวฟรี-ห่อกลับบ้าน แถมใช้พวงหรีดวนซ้ำ 3 รอบ

วันนี้ (25 เม.ย.) บนโซเชียลฯ แชร์คลิปนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ YOUR SPEAKER ทางมติชนทีวี เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วมีการตัดบางช่วงบางตอนเกี่ยวกับการไปงานศพของประชาชนในพื้นที่ ในตอนหนึ่งนายจิรัฎฐ์ กล่าวว่า "ผมก็จะไปเฉพาะที่เขาเชิญ คือถ้าเขาเชิญแล้วเราไม่ไปนี่ก็ไม่ได้ เขาเชิญเราก็ต้องไปถูกไหมครับ ... ผมก็ไปแทบจะทุกอาทิตย์ ตลอด 4 ปีมานี้ก็ยังไปต่อเนื่องทั้งๆ ที่ไม่เคยใส่ซองสักบาทเดียว แล้วก็กินอิ่มด้วยทุกครั้งที่ไป แล้วถ้าเป็นงานสวดไม่ใช่งานเผานี่ งานสวดผมก็ได้กับข้าวกลับบ้านทุกครั้ง ได้เยอะด้วย เพราะว่าแม่ครัวจะเอามาให้เยอะมาก ... เราก็เริ่มต้นแบบนี้ด้วยการไม่ใส่ (ซอง) ไม่เห็นมีใครว่า ก็ทำต่อไปได้ครับ จริงๆ เราก็ควรจะทำด้วย

อีกเรื่องหนึ่งพวงหรีดตอนแรกผมก็ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบโน้นนี่นั่น พยายามจะเปลี่ยน พยายามจะออกไอเดียใหม่ๆ ให้มันดูเป็นคนรุ่นใหม่ รอบแรกๆ เอาเป็นต้นไม้ไปแทน ต้นไม้มันก็ต้นเหี่ยวแห้งเล็กๆ ไปเทียบกับเขาที่มันพวงใหญ่ๆ มันก็ไม่มีใครสนใจนะครับ เปลี่ยนเป็นถุงขยะไปเก็บแก้วน้ำมันก็เหนื่อยไม่ไหว สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่า พวงหรีดเวิร์กมันคือการโฆษณาที่มันเป็นการตลาดที่โคตรคุ้มเลย 300 บาท กับการที่สวด 7 วันมีคนเห็น 2-3 ร้อยคน ทุกวันทุกวันชื่อเรา เออเขาถึงทำกันไงครับ 300 บาท ผมใช้ 3 งาน ให้มัคทายกเก็บให้ใช้ 3 รอบ ก็ประหยัดที่สุดเท่าที่ประหยัดได้" ประเด็นดังกล่าวทำเอาผู้คนบนโลกโซเชียลฯ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยฝ่ายที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นการสู้ทางการเมืองแบบฉลาด กับผู้คนทั่วไปที่มองว่า ส.ส.มีเงินเดือนนับแสนบาทแต่ไม่เคยใส่ซองช่วยงาน กินฟรีทุกงานแถมห่อกลับอีกด้วย

‘ณวัฒน์’ งัดสัญญาโชว์ หลังเกิดดรามา ‘ไม่ยอมดูดวง’ ‘เฌอเอม’ โร่โพสต์ขอโทษ พร้อมขอโอกาสปรับปรุงตัว

จบดรามาได้มั้ย ? หลัง ‘บอสณวัฒน์’ เปิดสัญญาที่ผู้เข้าประกวดต้องเซ็นโชว์ และ ‘เฌอเอม’ มิสแกรนด์ลำพูน 2023 กราบขอโทษแล้ว

ยังคงเป็นประเด็นให้แฟน ๆ นางงามและคนทั่วไปที่ได้รับรู้ดรามาระหว่าง ‘เฌอเอม’ มิสแกรนด์ลำพูน 2023 และ บอส ‘ณวัฒน์’ ประธานใหญ่ของเวที เกี่ยวกับประเด็น ไม่ยอมดูดวง

ที่บอสณวัฒน์ร่ายยาวแบบแซบเกินใส่เฌอเอม จนเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันข้ามคืน ร้อนถึงทั้งคู่ต้องออกมาแสดงจุดยืน ‘ณวัฒน์’ ก็โชว์ฝีปากแซบผ่าน IG ส่วน ‘เฌอเอม’ ก็ได้ชี้แจงอย่างละเอียดและใจเย็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@realcheraims)

แต่ดูเหมือนว่าดรามาก็ยังไม่จบ เพราะบอส ‘ณวัฒน์’ ไม่หยุดจุดไฟ โชว์ความแซบเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่า “ปากดี สมองต้องดี พฤติกรรมต้องดีด้วย ถึงจะอยู่กับแกรนด์ได้” หรือการแชร์ความคิดเห็นที่บอกว่า “โกรธเพราะไม่มีมารยาท”

ล่าสุดบอสณวัฒน์ก็แชร์สัญญาที่ผู้สมัครต้องเซ็น มีข้อที่ระบุว่า “ผู้สมัครต้องทำกิจกรรมกรรมกับกองทุกกิจกรรม หากมีเหตุจำเป็นขาดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ฉะนั้นจะโดนตัดสิทธิ์ทันที”

แถมยังบอกอีกว่า “นี่คือกฎข้อ 8 ของหนังสือการเซ็นสัญญาก่อนเข้ากอง ทุกคนอ่านและทำความเข้าใจทุกข้อก่อนเซ็น”

‘ทบ.’ แจง!! หลังเกิดดรามาเสิร์ฟ ‘น้ำซุป’ เลี้ยงพลทหาร ชี้!! เป็นเรื่องเข้าใจผิด แค่นำไปต้ม ‘มาม่า’ ไม่ให้เหลือทิ้ง

ทบ.นำพลทหารฯ ตั้งโต๊ะแถลงแจงค่ายเสิร์ฟน้ำซุป แค่ขอนำไปต้มมาม่า - โฆษก ทบ.ปัดตอบกรอบเวลาสอบนายทหารชั้นผู้ใหญ่มีสัมพันธ์กับชายอื่น และเกี่ยวข้องกับสารเสพสารเสพติด


(25 เม.ย.66) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วยพ.ท.สกล มีสัมฤทธิ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 (ร.151 พัน.2) แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอภาพอาหารประกอบเลี้ยงของหน่วยงานกองทัพบพ ผบ.ร.151 พัน 2 จังหวัดนครธิวาส ในสังคมออนไลน์ ร่วมกับพลทหาร ที่เป็นผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าว โดยพ.ท.สกล กล่าวยืนยันว่า การประกอบเลี้ยงอาหารตามที่ได้เผยแพร่ไปนั้น เป็นความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นไม่ตรงกัน กองทัพบกได้ดำเนินการตามระเบียบของกองทัพบก ในการประกอบอาหาร โดยหักจากเบี้ยเลี้ยงของพลทหารจำนวน 70 บาท/คน/วัน หรือ 3 มื้อ หรือมื้อละประมาณ 23 บาท

โดยมีอาหาร 2 อย่างและข้าว ซึ่งกำลังพล สามารถมารับประทานอาหารได้ที่โรงเลี้ยง และกำลังพลที่เข้าเวรยาม จะมีปิ่นโตให้กำลังพลนำไปรับประทานหลังออกเวรยาม พร้อมยืนยันว่า น้ำแกงในกล่องพลาสติกสีฟ้านั้น อาหารดังกล่าวเป็นอาหารเพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง และไม่ใช่อาหารกองพันจัดไว้ให้กำลังพลรับประทาร แต่กลุ่มเพื่อนพลทหารที่โพสข้อความนั้น ได้ไปขอน้ำซุปจากโรงเลี้ยง เพื่อนำไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จึงทำให้มีพลทหารฯ ที่รอมารับประทานอาหารไม่ทราบ และนำมาสื่อสารบนโลกสังคมออนไลน์ จนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งหลังจากนั้น กองพันฯ ได้มีการพูดคุยกับพลทหารดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว 

‘ทอ.’ เตรียมส่งเครื่องบิน 3 ลำ อพยพคนไทยในซูดาน กำหนดออกเดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมืองคืนนี้

(25 เม.ย. 66) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือคนไทยในสาธารณรัฐซูดาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบว่า กองทัพอากาศได้รับอนุมัติจากรัฐบาล ให้จัดเครื่องบินสนับสนุนการอพยพคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ

โดยคืนนี้ (25 เม.ย. 66) กองทัพอากาศจัดเครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นจุดนัดหมาย ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ทำการอพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดาน โดยทางบกและทางเรือ เพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศเดินทางไปรับ

สมาคมแม่บ้านตำรวจมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่อง ปีนี้มอบกว่า 2,200 ทุน รวมเป็นเงิน 6,950,000 บาท...

วันนี้ (25 เม.ย.66) สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้บุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2566 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ซึ่งในครั้งนี้เป็นการมอบทุนการศึกษา 2 ประเภท คือ 1)ทุนการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 7 ทุน ๆ ละ 50,000 บาท 2) ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตํารวจที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 2,200 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2,207 ทุน รวมเป็นเงิน 6,950,000  บาท 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้โอวาทแก่ผู้รับทุนการศึกษา โดยกล่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสมาคมแม่บ้านตำรวจเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ ส่งเสริมการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ และขอแสดงความขอบคุณไปยังข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ การมอบทุนในครั้งนี้ เป็นการเชิดชูเกียรติยศของตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับครอบครัว ในฐานะข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น ถือว่าเป็นการจัดสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวตำรวจ เพื่อให้มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นด้านที่พักอาศัย การแก้ไขปัญหาหนี้สิน ตลอดจนให้นโยบายผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปช่วยเหลือและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย

ด้าน คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สมาคมฯได้สนองนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านการส่งเสริมสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ยังมีทุนการศึกษาอีก 2 ประเภท คือ ทุนต่อเนื่องระดับอนุปริญญา หรือสายวิชาชีพ และทุนต่อเนื่องในระดับอุดมศึกษา ที่ได้สานต่อนโยบายของ คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธุ์ อดีตนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ซึ่งทางสมาคมจะดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้ผ่านเกณฑ์การรับทุนในลำดับต่อไป 

นอกจากนี้ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนจากมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ที่เห็นคุณค่าของการศึกษา และมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจด้วย ซึ่งเป็นขวัญและกำลังใจอย่างมากสำหรับข้าราชการตำรวจ

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยประชาชนอย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ฉวยโอกาสช่วงค่าไฟฟ้าแพง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอเรียนประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน กรณีมิจฉาชีพเข้ามาแฝงตัวในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อหลอกลวงขายหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ดังนี้

ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่าเริ่มมีมีผู้เสียหายหลายรายทยอยเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ หลักจากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) หรืออุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ให้กับเหยื่อผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายการอุปโภค และบริโภคจากการใช้ไฟฟ้าในรูปแบบของที่พักอาศัย โดยมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสในช่วงที่โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) กำลังเป็นที่นิยม และได้รับความสนใจในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ที่มีการซื้อขายโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โพสต์ประกาศขายสินค้าดังกล่าวในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ใช้รูปภาพที่คัดลอกมาจากช่องทางที่มีการซื้อจริง โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด และนอกจากนี้แล้วมิจฉาชีพยังใช้วิธีการสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาทั้งหมดเพื่อหลอกลวงขายสินค้าประเภทดังกล่าวอีกด้วย

ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 - 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงซื้อสินค้า หรือบริการ ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 1 จำนวนกว่า 85,395 เรื่อง หรือคิดเป็น 35.61% ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,255 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอประชาชนพึงระมัดระวังการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ อย่าเห็นแก่ของถูกแล้วรีบโอนเงิน โดยขอประนามการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ถือว่าเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ที่ผ่านมา บช.สอท. ยังคงเร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกราย ไม่มีละเว้น เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง โดยล่าสุดได้ทำการจับกุมแก๊งหลอกลวงเหยื่อส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ทลายโกดังตรวจยึดของกลางจำนวนมาก อยู่ระหว่างขยายผลไปยังนายทุนจีนที่อยู่เบื้องหลัง

ชาวเน็ตฟาด ‘ณวัฒน์’ เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น หลังสั่งสอน ‘เฌอเอม’ จนน้ำตาร่วง เหตุปฏิเสธดูดวงเพราะนับถือคริสต์

(25 เม.ย. 66) เรียกว่ามีดรามารายวันเลยก็ว่าได้ สำหรับเวทีประกวด ‘Miss Grand Thailand 2023’ เมื่อ ‘เฌอเอม’ น.ส.ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์จังหวัดลำพูน ปฏิเสธการดูดวงพร้อมขอวางไมค์ จนทำให้ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล บอสใหญ่ร่ายยาวสั่งสอน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาจากบรรดาแฟนนางงาม

โดย เฌอเอม กล่าวว่า “เอมลำบากใจมากเลยค่ะ คือเอมไม่สะดวกเลย เอมเป็นคริสต์ค่ะ”

จากนั้น ณวัฒน์ ได้ตอบว่า “จะสอนให้ฟังว่า การอยู่ร่วมกันในสังคม มันคือความหลากหลาย การยึดติดในบางสิ่งจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของเรา พี่ดูดวงให้ตอนนี้ได้เลย เพราะว่างานศิลปินเป็นงานที่ต้องใช้ศาสตร์ครบสูตร... คนที่ฉลาดเท่านั้นถึงจะอยู่กับคนทุกประเภทได้ เพราะฉะนั้น เฌอเอมต้องคิดให้ดี ถ้าเฌอเอมไม่ยอมอยู่กับคนทุกประเภท เฌอเอมจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ... และศาสนาก็เป็นเพียงรสนิยม ไม่ใช่ชีวิต ไม่ใช่จิตใจ แล้วก็ไม่ใช่หน่อเนื้อ เราเกิดขึ้นได้ โตขึ้นได้ เพราะชีวิตเรา มันไม่มีใครให้ชีวิต พระเจ้าก็ไม่ได้ให้ชีวิต พระอัลเลาะห์ก็ไม่ได้ให้ชีวิต พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ให้ชีวิต คนที่ให้ชีวิตเราคือพ่อกับแม่.... พี่เป็นคนพูดตรง”

ขณะที่เฌอเอมน้ำตาร่วงพร้อมบอกว่า “ขอพูดสักครั้งได้ไหมคะ? เพราะหนูว่า หนูจะไม่มีโอกาสพูดแล้ว” ขณะที่ณวัฒน์บอกว่า “ไม่ พี่พูดให้ฟังแบบนี้ พี่สอน! พี่เป็นเพียงผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เคยสอนคน ไม่ว่าจะต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรมแล้วประสบความสำเร็จ ก็เลยเอามาสอนเฌอเอม”

'เจี๊ยบ เลียบด่วน' แชร์ประสบการณ์ถึงชายชอบขยายสาขา ถ้าไม่อยากให้ลูกมองคุณเป็นผู้ชายกากๆ คนนึง 'ก็เลิกซะ'

(25 เม.ย.66) เพจ 'อีเจี๊ยบ เลียบด่วน' โพสต์ข้อความเตือนสติสังคมที่วันนี้หลายคนกำลังวนเวียนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการหย่าร้าง นอกใจ ที่เพิ่มมากขึ้น ระบุว่า...

เนื่องจากเมื่อวานมีข่าว คนดัง หย่ากัน เพราะมีมือที่ 3 ก็มีหลายคนบอกว่า เอาที่เขียนเรื่อง ครอบครัวเจี๊ยบมาลงอีกทีสิ พอดีโพสต์นั้นมันมีเรื่องบอล มีข่าวอื่นด้วย วันนี้ก็เลยตัดให้เหลือแค่เรื่องการที่พ่อแม่เลิกกัน 

ถ้าที่ผมเขียนไป มันช่วยให้ครอบครัว สักครอบครัว ไม่ต้องแตกสลาย หรือให้ คุณพ่อ หรือ คุณผัว ใครสักคน อ่านแล้วคิดได้ เลือกทางที่ถูกได้ แม่งก็โคตรคุ้มที่เขียนแล้วครับ ☺ 

พ่อแม่ผมหย่ากัน ตอนเค้าแก่ๆ กันแล้ว สัก 50 กว่าๆ เพราะพ่อกูเค้าดันเสือกคิดจะขยายสาขาตอนแก่ 55555 

บอกเลยช่วงนั้นบ้านยังกะนรก แม่กูมีอยู่สองกิจกรรม ออกตามล่าหาความจริงของพ่อกะกิ๊ก และ กลับมาบ้านร้องไห้ หลับ ตื่นมาร้องไห้และตามล่าต่อ วนลูปอยู่แบบนั้น เหมือนแม่โดนผีสิง😈 

กูเนี่ย ตอนนั้นกำลังวัยรุ่น 5555 บอกตรงๆ ไม่อยากกลับบ้านเลย แต่ไม่กลับก็ไม่ได้ ไม่มีใครอยู่กะแม่ เพราะพ่อไปอยู่สาขา 2 แล้ว นานๆ กลับมาที พวกกูลูกๆ ก็ไม่รู้ทำไง เครียดชิบหาย 

จนวันนึง ผี Hulk เข้าสิงแม่ยังไงไม่รู้ อยู่ดีๆ แม่ฮึดขึ้นมาขอหย่าเลย ไม่เอาแล้ว ไม่ทน

พ่อกูถึงแกจะห่วยแตกเรื่องนอกใจ แต่เรื่องเงินทองทรัพย์สิน ถือว่าแกยังแมนต๊อกกะต๋อยพอสมควร 

ตกลงกันได้ด้วยดี โดยพ่อแกไปแต่ตัวกะรถ 1 คัน บ้านที่ดินให้ลูกๆ กะแม่ และเงินเดือนครึ่งนึงทุกเดือน หักจากที่ทำงานพ่อเข้า บช.แม่เลย 

ตั้งแต่วันที่ไปตกลงหย่า พ่อกูก็ไม่เคยกลับมาบ้านนี้อีกเลย ไม่มีแม้แต่โทรมาหาลูก ว่าเป็นไงบ้าง 

แต่หย่ากันแล้วก็ต่างคนก็ดีขึ้นนะ
- แม่กูก็ได้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องมาเครียด ตามล้างตามล่าเรื่องพ่อ เริ่มค้าขายเล็กๆ จนเปิดร้านได้
- พ่อก็จะได้แยกออกไปสร้างครอบครัวใหม่มีความสุขของเค้า
- ลูกๆ ก็ ไม่ต้องมาเครียดกะเรื่องพ่อไปไหน แม่ร้องไห้ทำไม 

ตอนนั้นถามว่าไม่มีพ่ออยู่ คิดถึงพ่อมั้ย

สำหรับกูมันหมดเลยนะ ความรัก ความภาคภูมิใจในตัวพ่อ ผิดหวังกะผช.คนนั้นชิบหาย

ฝันร้ายทุกคืน!! แต่ ไม่ได้ฝันร้ายที่พ่อไป กลายเป็นฝันร้ายว่าพ่อกลับมาบ้าน ขนาดสะดุ้งตื่นอ่ะคิดดู 555555 ไม่อยากให้บ้านกลับมาเป็นนรกแบบเดิมอีก 

จนตอนนี้พ่อแกโกอินเตอร์ไปแล้ว แต่ก็สารภาพว่า รักแกในฐานะพ่อนะ แต่ความเท่ ความเป็นไอดอล ความภาคภูมิใจในตัวพ่อ มันไม่มีอีกแล้ว ไปงานศพแก เหมือนไปงานศพญาติห่างๆ เสื้อขาวเนคไท ก็ซื้อเอาตามตลาดแถวนั้น น้ำตาไม่มีสักหยด กลับก่อนเผาจริงด้วยซ้ำ 

สุดท้าย ก็อยากบอกคุณ ผช. ที่ชอบบอกว่ารักลูก รักลูก แต่รู้มั้ยว่าวันที่คุณมีเมียน้อย คุณนอกใจ คุณกำลังทำร้ายแม่ของลูกคุณเอง เค้าเห็นแม่เค้าร้องไห้ ใจสลายเพราะคุณ 

ลูกๆ เค้าอาจดูเหมือนยังรักคุณ แต่ในฐานะผู้ให้กำเนิดเท่านั้นแหละ แต่ในใจลูกคุณ อาจเป็นอย่างผมก็ได้ ที่หมดความภูมิใจ ความเป็นไอดอล ความเท่ ความแมนของพ่อคนเดิม ไม่เหลืออีกเลย กลายเป็น ผช.ห่วยๆ ธรรมดาที่มีกลาดเกลื่อนในสังคม 

ผช.ที่ใช้กาเจี๊ยวคิดแทนสมอง ผช.ที่แพ้กามตัณหาของตัวเอง ผช.ที่ทรยศแม่ ทรยศลูกๆ ทรยศครอบครัวของตัวเอง แค่เพราะความ ง.

บางคนถึงกับเกลียด ขยะแขยง ไม่อยากเจอหน้า พ่อของตัวเองไปเลย 

คุณพ่อท่านใด ที่อ่านอยู่ตอนนี้ ที่ คิดจะนอกใจ คิดจะมีเมียน้อย คิดจะขยายสาขา...ก็คิดดูแล้วกันว่ามันคุ้มมั้ย!!! 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานรับลูก  กฟผ. เคาะลดค่าไฟ 'พ.ค.- ส.ค.' เหลือ 4.70 บาท ส่วนงวดใหม่รอเช็กปริมาณก๊าซ

(24 เม.ย.66) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นัดพิเศษวันนี้ พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ FT งวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอ พร้อมรับภาระค่าเอฟทีลดลง 7 สต.ทำให้ค่าไฟฟ้า ค่าเอฟทีลดลงจากเดิมที่ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.77 บาทต่อหน่วย เป็นอัตราเอฟทีใหม่ที่ 91.19 สตางค์ หรือค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4.70 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ในการดำเนินการดังกล่าวตามมติ กกพ. จะมีผลทันทีโดยไม่ต้องรับฟังความเห็นประชาชนรอบใหม่ เนื่องจากสมมุติฐานอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง 

ส่วนกรณีการแสดงความเห็นในช่วงนี้ว่าค่าไฟแพงนั้น นายคมกฤช ยอมรับว่า ค่าไฟฟ้าปัจจุบัน งวดเดือน มี.ค. –เม.ย. ยังไม่ได้ปรับขึ้น โดยยังคิดที่เฉลี่ย 4.72 บาทต่อหน่วย แต่ด้วยอากาศร้อน และมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนัก จึงทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบันค่าไฟฟ้าเป็นอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องจ่ายมาก หากใช้เงิน 300 หน่วยต่อเดือน ก็ไม่มีส่วนลดจากรัฐบาล ก็ยิ่งทำให้หลายคนเจอกับปัญหาค่าไฟแพงด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการชุด TICAC เข้าจับกุมผับพื้นที่เชียงใหม่ พบแสวงหาผลโยชน์ทางเพศเด็กและใช้แรงงานต่างด้าว

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ OUR ได้ให้เบาะแสสถานบริการในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่ พบมีการนำเอาเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงานเป็นพนักงานบริการภายในร้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศต่อเด็ก จึงได้แจ้งเบาะแสให้กับชุดปฏิบัติการ TICAC ทราบ จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น


จากเบาะแสดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ร่วมกับ ภ.จว.เชียงใหม่, บก.ตม.5 และ สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์กร OUR ให้เข้าตรวจสอบและวางแผนจับกุมสถานบริการดังกล่าว จากการตรวจสอบช้อมูลเบื้องต้นพบว่า ร้านดังกล่าวคือ ร้านมังกี้ ทอยซ์ คลับ หรือ มังกี้ ทีซี เชียงใหม่ บริเวณทางคู่ขนานถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ลักษณะเป็นร้านแบบบาร์โฮส มีพนักงานทำงานภายในร้านมากกว่า 100 คน โดยจะสลับกันมาทำงานวันละ 30-50 คน โดยให้พนักงานบริการเครื่องดื่มโดยลูกค้าสามารถเรียกมานั่งบริการได้ คิดราคา 259 บาทต่อ 1 ดริ๊งค์ ต่อเวลานั่ง 1 ชั่วโมง ภายในร้านยังมีเวทีโดยให้พนักงานขึ้นไปเต้นโชว์ชั่วโมงละ 1 รอบ และมีชั้นใต้ดินเป็นห้องคาราโอเกะไว้ให้บริการ


ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 เวลา 01.00 น. หลังจากตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ชุด TICAC พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้บูรณาการร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ร้านมังกี้ ทอยซ์ คลับ พบพนักงานร้านเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 ราย และยังพบว่ามีการนำเอาบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานที่ร้านโดยผิดกฎหมายอีกจำนวน 15 ราย จึงได้จับกุมเจ้าของร้านและผู้ดูแลร้านจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
1. น.ส.วรษา (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี (เจ้าของร้าน)
2. นายเกริก (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี (ผู้ดูแลพนักงาน)
3. นายธวัชชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี (ผู้ดูแลพนักงาน)

‘ทูตจีน’ ปาฐกถาพิเศษ 10 ปี ‘1 แถบ 1 เส้นทาง’ ชี้!! คนรุ่นใหม่ไทย-จีน เป็นพลวัตสร้างอนาคตร่วมกัน

ทูตจีนปาฐกถาพิเศษ 10 ปี 1แถบ 1 เส้นทาง ชี้แนวโน้มแข็งแกร่ง ‘คนรุ่นใหม่ไทย-จีน’ เป็นพลวัตสร้างอนาคตร่วมกัน

(24 เม.ย.66) ที่ห้องประชุมจันทร์จรัส อาคารอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีการจัดงานสัมมนาหัวข้อ ‘จีนร่วมสมัยกับโลก การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน’ โดย ศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน สถาบันวิจัยประเทศจีนและโลกร่วมสมัย และศูนย์สื่อสารเอเชียแปซิฟิก สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน ร่วมกับ มรภ.จันทรเกษม, สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เข้าร่วมฟังเสวนาอย่างคับคั่ง โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ ใจความว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน สำหรับโครงการ โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เป็นข้อริเริ่มจากข้อเสนอของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความเจริญร่วมกัน

โดยในวาระครบรอบสิบปีของการริเริ่มโครงการ นับเป็นโอกาสดีที่คนรุ่นใหม่จะได้พูดคุยกัน ไทยและจีนมีสายเลือดเดียวกัน มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน เป็นเพื่อนบ้าน และเป็นหุ้นส่วนที่ดี ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การร่วมพัฒนาโครงการสายแถบและเส้นทางได้ประสบความสำเร็จมากมายในการเชื่อมต่อนโยบายภายใต้แนวคิดการพัฒนาใหม่ สร้างระบบใหม่แบบเปิดกว้างและครอบคลุม

รัฐบาลไทยได้เปิดตัวยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กับไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง และนโยบายของทั้งสองประเทศมีการการครอบคลุมอย่างรอบด้าน

ปัจจุบันโครงการรถไฟจีน-ไทยระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567 และแล้วเสร็จในปี 2571 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ระหว่างไทยจีนและลาว

ในอนาคตจีนและไทยจะกระชับความร่วมมือภายใต้กรอบการร่วมมือนี้ ปัจจุบันจีนกำลังเจรจากับกลุ่มประเทศอาเซียนโดยมีไทยเป็นผู้ประสานงาน เชื่อมั่นว่าจะมีประโยชน์ต่อทั้งประชาชนจีนและไทย

ในปี 2565 จีนมีการลงทุนใน 158 โครงการ ทำให้จีนเป็นแหล่งทุนต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของไทย นิคมอุตสาหกรรมระยอง ไทย-จีน ดึงดูดผู้ผลิตของจีนกว่า 180 บริษัท สามารถสร้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 45,000 ตำแหน่ง จีนได้จัดตั้งธนาคารหลักเงินหยวนในต่างประเทศ จีนและไทยได้ช่วยเหลือกันและกันอย่างจริงใจในช่วงโควิด ทำให้มิตรภาพแน่นแฟ้นมากขึ้น

นอกจากนี้ จีนจัดให้ไทยเป็น 1ใน 20 ประเทศแรกนำร่องเพื่อไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีน และประเทศไทยก็รับนักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คนจีนมาเที่ยวไทยประมาณ 500,000 คน สะท้อนความสัมพันธ์อันดีที่มีให้กันมาตลอด โดยในอนาคตจะเห็นภาพสายแถบและเส้นทางอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น นำมาซึ่งประโยชน์ใหม่ ๆ และจะเป็นการส่งเสริมให้จีนและไทยมุ่งสู่ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

พิษณุโลก กองบิน ๔๖ ขจัดอุบัติภัย บรรเทาภัยแล้ง”

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน ๔๖ ลงพื้นที่ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ นาวาอากาศเอก สิระ บุญญะพาศ ผู้บังคับการกองบิน ๔๖ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน ๔๖ มอบหมายให้ นาวาอากาศโท พีระพัฒน์ ปั้นกล่ำ หัวหน้าแผนกกิจการพลเรือน กองบังคับการ กองบิน ๔๖ พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน กองบิน ๔๖ และเจ้าหน้าที่ นำรถบรรทุกน้ำสะอาด จำนวน ๑๘,๐๐๐ ลิตร แจกจ่ายให้ประชาชน ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ออกแจกจ่ายน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภค ณ พื้นที่บ้านป่า หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก  เนื่องจากแหล่งน้ำบาดาลที่ใช้มีปริมาณลดลง และเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง รวมถึงบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ใจถึงใจไปทันที จิตอาสาต้านภัยแล้ง66 น้ำคือชีวิต กองบิน46เพื่อประชาชน


จิตอาสา904 ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

‘กกต.’ แจง!! ปมเลือกตั้งนอกราชฯ กรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครผิด ยอมรับผิดจริง หลังทราบเรื่อง รับสั่งแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

เลขาฯ กกต. แจง ปมเลือกตั้งนอกราชฯกรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครสลับกัน ยอมรับผิดพลาดจริง แต่แก้ไขแล้ว

( 24 เม.ย.66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีประกาศที่ออกโดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 11 สลับรูปกัน สำหรับเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรผิดพลาดว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษก็ต้องยอมรับว่ามีความผิดพลาด แต่เราได้ทราบเรื่องและแก้ไขโดยส่งฉบับที่ถูกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว และได้ตรวจสอบที่สถานทูตอื่น ซึ่งที่ประเทศอังกฤษจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเยอะแล้วพอได้รับเอกสารแล้วท่านก็ส่งเลย แต่ที่ประเทศอื่นฉบับที่เราแก้ไขให้ถูกต้องได้ส่งไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่ได้ส่งฉบับที่ผิดพลาดรอบแรกไป และเท่าที่ได้ตรวจสอบกับทางสถานทูตและสถานกงสุลมีแค่ที่อังกฤษที่ผิดพลาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top