Wednesday, 14 May 2025
NEWS

'สำนักข่าวอิศรา' ขุดต่อ!! หุ้นใหญ่บริษัทสุราแช่ในฉะเชิงเทรา พบชื่ออดีตนายทหารยศพลเอก เป็นผู้ผลิตเบียร์ที่ 'รองอ๋อง' เชียร์

(20 ส.ค. 66) กรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้เผยแพร่ภาพคราฟท์เบียร์ยี่ห้อหนึ่งลงในโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก และ Tik Tok แนะนำด้วยความภาคภูมิใจว่า “เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลกนอกจากกล้วยตากและหมี่ซั่วครับ” กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม

สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า ในเพจเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องในกับเบียร์ยี่ห้อนี้ โพสต์ข้อความเมื่อ 9 สิงหาคม ว่า “ เรารอสิ่งนี้มาโดยตลอด ‘เครื่องดื่มคราฟพิดโลก’ ‘by Phitsanulok Brewing’ เปิดตัวที่แรกที่ร้าน Girl’s don’t cry ผลิตถูกกฎหมายทุกขั้นตอน เสียภาษีเรียบร้อย พร้อมกระจายไปให้ทุกท่านได้ลองผลิตภัณฑ์แบรนด์ท้องถิ่น ที่เราฝ่าฟันกันมากับวงการคราฟเบียร์มาตลอด 7ปี”

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า PHITSANULOK BREWING ตามที่ระบุข้างต้น คือ PHITSANULOK BREWING หรือ บริษัท พิษณุโลกบรูอิ้ง จำกัด ทะเบียนวันที่ 9 ธ.ค. 2565 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ที่ตั้งเลขที่ 441/58 ซอย13 ถนนบรมไตรโลกนารถ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายภูวดล ศิริสินเลิศ เป็นผู้ก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการร่วมกับนายธนาบูรณ์ ตระกูลฤกษ์ชัย

ล่าสุด สำนักข่าวอิศราตรวจสอบรายละเอียดข้างกระป๋องเบียร์ยี่ห้อนี้มีข้อความระบุภาษาอังกฤษว่า

Produce By (ผลิตโดย-สำนักข่าวอิศรา) Thai Spirit Industry 71/25 Moo 5 Thakham Bangpakong Chachoengsao Thailand 24130

Distributed By (กระจายสินค้า-สำนักข่าวอิศรา) Phitsanulok Brewing co,Ltd. 441 /58 Baromtrilokanart 2 Rd. Nai-mueang Phitsanulok Thailand 65000

จากข้อมูลดังกล่าว สำนักข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ชื่อ Thai Spirit Industry คือ THAI SPIRIT INDUSTRY CO.,LTD. หรือ บริษัท ไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 มีนาคม 2545 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ประกอบการ การผลิตและจำหน่าย สุราแช่ประเภทสุราผลไม้ เบียร์และอื่นๆ ที่ตั้งเลขที่ 71/25 หมู่ 5 ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา (ที่ตั้งเลขที่เดียวกันกับที่ตั้ง Thai Spirit Industry ตามที่ระบุในข้างกระป๋อง) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 30 เมษายน 2566 พลเอกนายหนึ่งถือหุ้น 100%

เบื้องต้น ในช่วงสายวันที่ 19 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังบริษัทไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด เพื่อขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่กระป๋องเบียร์ที่มีชื่อของบริษัทไปอยู่ในวิดีโอของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา

พนักงานบริษัทที่รับสายกล่าวว่าวันนี้เป็นวันหยุด ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่อยู่ จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ได้มีพนักงานบริษัทอีกคนติดต่อมายังสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอยืนยันข้อมูลที่สอบถาม

โดยพนักงานบริษัทกล่าวทิ้งท้ายว่ารับทราบข้อมูลแล้ว ภายในวันจันทร์ (21 ส.ค.66) จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนิ้ติดต่อมายังสำนักข่าว

ถ้ามีความคืบหน้า สำนักข่าวอิศรา จะรายงานเพิ่มเติมต่อไป

'เด็กไทย' คว้า 2 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ที่เมืองคอร์ซอว์ โปแลนด์ ในการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ 

(20 ส.ค. 66) ผลการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 16 (16th IOAA) ระหว่างวันที่ 10-20 สิงหาคม 2566 ณ เมืองคอร์ซอว์ สาธารณรัฐโปแลนด์ ผู้แทนประเทศไทย จำนวน 5 คน ได้รับรางวัล 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ดังนี้

1. นายกิตติพัศ พงศ์อรุโณทัย โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เหรียญเงิน
2. นายวงศ์วรัณ อุปวงษ์ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เหรียญเงิน
3. นายภาณุพัฒน์ ศรีสุขวสุ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญทองแดง
4. นายสุทธวิชญ์ พงศ์หล่อพิศิษฏ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทองแดง
5. นายศุภกร ไพศาลเจริญ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทองแดง

โดยมีอาจารย์ผู้ควบคุมทีม จำนวน 2 คน ได้แก่

1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์กุลพันธ์ พิมพ์สมาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (หัวหน้าทีม)
2. ดร.อภิมุข วัชรางกูร สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (รองหัวหน้าทีม)

และอาจารย์สังเกตการณ์ จำนวน 2 คน ได้แก่

1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิรามาศ โกมลจินดา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2. อาจารย์ปริญญา ศิริมาจันทร์ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ 

ทั้งนี้ คณะผู้แทนไทยจะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 เที่ยวบินที่ TG 921 เวลา 06.25 น.​

ขอแสดงความยินดีกับผู้แทนประเทศไทยทั้ง 5 คนด้วยครับ

โรงพยาบาลพญาไท 3 จับมือสานสัมพันธ์คณะผู้บริหารภาครัฐและเอกชนจากประเทศเคนย่า

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาโรงพยาบาลพญาไท3 มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารของภาครัฐและเอกชน จากประเทศเคนย่า โดยได้สถานทูตไทยในเคนย่าเป็นตัวแทนในการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีในครั้งนี้ ทั้งนี้โรงพยาบาลพญาไท3เข้าให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นำทีมโดยท่านผู้บริหาร นายแพทย์สุรพล  โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท3 ร่วมด้วย คุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท3 พร้อมด้วยทีมแพทย์ ทีมพยาบาล และทีมฝ่ายการตลาดต่างประเทศ เข้าให้การต้อนรับในครั้งนี้ 

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์เชิงป้องกัน และหัวหน้าศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวม PWA รพ.พญาไท 3  เข้าร่วมพูดคุยถึง highlight & Innovative products ภาพรวมทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท3 ซึ่งศูนย์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากคณะผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุดคือ คลินิกผู้มีบุตรยาก และ  Preventive Medicine  โดยมีการเจาะประเด็นหารือลงลึกเพื่อสานต่อความร่วมมือทางการแพทย์ร่วมกันต่อไป

สมุทรปราการ-“วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน” เปิดตัวศูนย์บริการยานยนต์ไฟฟ้า ลงนาม MOU สานความร่วมมือด้านการศึกษา

ภายในอาคาร ชั้น 5 วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน (บีดีไอ) ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลีจ.สมุทรปราการ ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างวิทยาลัยฯ กับสถานประกอบการและสถานศึกษา พร้อมทั้งเปิดตัวศูนย์บริการยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมรักสิ่งแวดล้อม โดยมีคณะผู้บริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน คณะผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารสถานประกอบการตลอดจนตัวแทนสถานประกอบการ ร่วมในพิธี โดยมี Mr.Nick k. กล่าวเปิดงานในครั้งนี้

โดย ดร.บรินดา จางขจรศักดิ์ ผู้รับใบอนุญาต วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน (บีดีไอ) กล่าวว่า ในวันนี้ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน ได้จัดงานปริทรรศน์ เปิดศูนย์บริการยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมรักสิ่งแวดล้อม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวประกอบไปด้วย พิธีการขอบคุณสถานประกอบการ ทั้ง 29 บริษัท ที่ร่วมให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ระดับชั้น ปวช. และระดับชั้น ปวส. นอกจากนี้ ยังได้มีพิธีลงนามความร่วมมือด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างวิทยาลัยฯ กับสถานประกอบการและสถานศึกษา อาทิ วิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษาจันทบุรีออมสินอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่อยู่ในการดูแลและอุปถัมภ์ของทางมูลนิธิออมสิน และวิทยาลัยเทคนิคน่าน

นอกจากนี้ยังมีสถานประกอบการและอีกหลายบริษัทจากไต้หวันที่เดินทางมาร่วมเซ็น (MOU) ในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้มีพิธีเปิดศูนย์บริการยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีการนำเอารถจักรยานยนต์นำมาดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอรถสามล้อระบบไฟฟ้าที่ทางมหาวิทยาลัยฯ นำมาประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์หรือจะเป็นรถโดยสารมีทั้งแบบที่ผลิตในประเทศไทยและผลิตที่ประเทศไต้หวันที่นำมาเสนอ รวมถึงนวัตกรรมเครื่องแปรสภาพขยะเปียกให้เป็นปุ๋ยซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้แนวความคิดนี้มาจากประเทศไต้หวันเพื่อนำมาถอดบทเรียนบรรจุในหลักสูตรของทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อร่วมสร้างจิตสำนึกให้กับนักเรียนนักศึกษาและสังคมในเรื่องของการประหยัดพลังงานและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการมอบรถจักรยานยนต์ดัดแปลงไฟฟ้ามอบให้กับตัวแทนชุมชนจำนวน 2 คัน เพื่อนำไปใช้ในชุมชนดังกล่าวอีกด้วย

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ยังไร้เงา ‘พี่กบ’ ร่วมงานศพคุณแม่ ‘น้องพลอย’ พี่สาวเผย ไม่มีแม้โทรมาถามไถ่ ทั้งที่ใกล้วันเผาแล้ว

หลังจากทางโรงแรมที่จังหวัดนครราชสีมา เตรียมหารือพูดคุยเพื่อหาทางออกและยุติปัญหาระหว่าง ‘น้องพลอย’ และ ‘พี่กบ’ หัวหน้างานไม่ให้ลาไปดูใจแม่ จนแม่เสียชีวิตจึงให้มาเขียนใบลาออก เบื้องต้นทางโรงแรมได้สั่งพักงานพี่กบ ส่วนน้องพลอย ยังสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ เพราะการลาไม่ผิดระเบียบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 19 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชาวเน็ตตามหาเบาะแสของพี่กบ กระทั่งพบว่าเป็นชาว อ.เมืองบุรีรัมย์ คนบ้านเดียวกันกับน้องพลอย แต่เนื่องจากพี่กบ ได้พาแม่ที่ป่วยไปอยู่ด้วยที่ จ.นครราชสีมานานแล้ว จึงไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ขณะที่ชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก อยากรู้ว่าพี่กบ จะขอโทษน้องพลอย และสังคมหรือไม่อย่างไร และจะไปร่วมงานศพแม่น้องพลอยหรือไม่ เพราะใกล้จะถึงวันฌาปนกิจศพแม่น้องพลอยแล้ว

จากการสอบถาม น.ส ธณัฐพร ทองบางโปร่ง อายุ 35 ปี พี่สาวของน้องพลอย กว่าวว่า ตั้งแต่แม่เสียชีวิต ยังไม่เห็นหน้าพี่กบ มีเพียงหัวหน้าของพี่กบ เดินทางมาร่วมงานศพแม่ จนถึงตอนนี้ไม่มีแม้เสียงโทรศัพท์ของพี่กบมาหาน้องสาว สำหรับศพของแม่ จะทำการฌาปนกิจศพ ที่วัดไตรภูมิวราราม ในช่วงบ่ายของวันที่ 20 ส.ค.นี้

‘ยิ่งลักษณ์’ บินส่ง ‘ทักษิณ’ ลงเครื่อง พักที่สิงคโปร์ ก่อน ‘โอ๊ค’ บินไปหา เตรียมรับกลับไทยด้วยกัน 22 ส.ค.นี้

(19 ส.ค. 66) หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะลูกสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัวถึงความคืบหน้าในการเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณ โดยระบุว่า “อังคารที่ 22 ส.ค. 09.00 น. ณ ดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวออกจากนครดูไบ เพื่อเดินทางมาพำนักอยู่ประเทศสิงคโปร์ก่อน โดยได้เดินทางมาถึงในวันที่ 19 ส.ค. โดยทั้งคู่จะพักอยู่ประเทศสิงคโปร์เป็นเวลาสองวัน ก่อนที่นายทักษิณจะเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเข้าประเทศไทยตามที่ประกาศไว้ ในวันที่ 22 ส.ค. เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พร้อมด้วย นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ภรรยา ได้เดินทางไปหานายทักษิณที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรอเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยพร้อมกันในวันดังกล่าว โดยมี น.ส.แพทองธาร และครอบครัว มารอรับที่ดอนเมือง

‘รมว.สุชาติ’ สั่ง ‘สปส.’ มอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีลูกจ้างถูกแผ่นเหล็กสะพานข้ามแยกบางกะปิร่วงทับ

(19 ส.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมมอบเงินประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิต ให้กับทายาทของนายอานันต์ ลองศรี จากเหตุการณ์แผ่นเหล็กยาว 10 เมตร ใต้ท้องสะพานยกระดับข้ามแยกบางกะปิ ถนนเสรีไทย เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หล่นลงมาทับคนงานด้านล่างระหว่างรื้อถอน จนเป็นเหตุให้ลูกจ้างเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม เร่งให้ความช่วยเหลือแก่ทายาทของผู้เสียชีวิตโดยด่วน ผมจึงได้มอบหมายให้นางกำไร บุ้งจันทร์ ประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนางสาวรัชดา อุดมมงคลกิจ หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี สาขากุมภวาปี และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่มอบเงินกรณีเสียชีวิต ให้แก่ทายาทของนายอานันต์ ลองศรี ซึ่งเป็นลูกจ้างของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟองวิน เอ็นจิเนียริ่ง

โดยในวันเกิดเหตุแผ่นเหล็กคานสะพานยาว 10 เมตร ที่อยู่ใต้ท้องสะพานยกระดับแยกบางกะปิ ที่อยู่ระหว่างซ่อมแซม ได้ร่วงลงมาทับร่างคนงาน ขณะนำรถเครน 2 คัน ขึ้นผูกแผ่นเหล็กใต้ท้องสะพานข้ามแยกดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายปัจจุบันกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ส่วนผู้ที่เสียชีวิต 1 ราย คือ นายอานันต์ ลองศรี ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน เป็นค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี เป็นเงิน 1,512,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 54,394.66 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,616,394.23 บาท โดยมอบให้กับนายบุญหลาย ลองศรี บิดา และครอบครัว ณ บ้านพักอาศัย ตำบลโพธิ์สำราญ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมถึงทายาทของผู้เสียชีวิตที่ประสบเหตุ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน และเข้าถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที นายบุญสงค์ กล่าวในตอนท้าย

“เลขามูลนิธิชัยพัฒนา” ชี้ผู้นำยุคใหม่ต้องมีความพอเพียง-เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา ขณะที่การต้อนรับ “นพม.16” สุดคึกคักอบอุ่น 

วันที่ 18 สิงหาคม กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับ มูลนิธิคลังสมอง วปอ.​ เพื่อสังคม จัดพิธีเปิดหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง หรือ นพม. รุ่นที่ 16 โดยได้รับเกียรติจาก พล​เอก​ นรินทร์​ แทบ​ประสิทธิ์​ ประธาน​มูลนิธิคลังสมอง​ วปอ.​ เพื่อ​สังคม​ เป็นประธานกล่าวต้อนรับคณะ​นักศึกษา​ผู้เข้ารับการอบรม​ ประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร พลเรือน และภาคเอกชน รวม 89 คน มีระยะเวลาการอบรมทั้งสิ้น 2 เดือน 

หลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง ดำเนินการ โดย มูลนิธิ คลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ครอบครัว สังคม องค์กร ภายใต้บริบทของสถานการณ์ความมั่นคงที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อ "เข้าใจ​ เข้าถึง​ พัฒนา​ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" 

ดร.สุเมธ กล่าวบรรยายถึงศาสตร์พระราชาตอนหนึ่ง คือการใช้หลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยผู้นำก่อนจะทำอะไร ต้องมีความเข้าใจทุกเรื่อง เข้าใจซึ่งกันและกัน ส่วนการ “เข้าถึง” ก็เช่นกัน เมื่อรู้ปัญหาแล้ว เข้าใจแล้ว จะต้อง ทำอย่างไรให้เขาอยากเข้าถึงเราด้วย ดังนั้น จะเห็นว่า เป็นการสื่อสารทั้งทางไปและกลับ ถ้าสามารถทำทั้งสองประการ ได้สำเร็จ เรื่อง “การพัฒนา” จะลงเอยได้อย่างดี เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน ส่วนการยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการเดินทางสายกลาง ประกอบด้วย 3 ห่วง คือ พอประมาณ มีความสมดุล และมีภูมิคุ้มกันในตัว และอยู่ภายใต้เงื่อนไขความรู้และคุณธรรม

ฉะนั้นมนุษย์ต้องเปลี่ยนวิธีคิด เมื่อนำไปสู่ความมั่นคงของชีวิต การพัฒนาที่ยั่งยืน คือ การพัฒนาที่มีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้อง - Back to basic - Small is beautiful - Green Technology - Slow Life - Simplicity - สมดุล มั่นคง ยั่งยืน

ดังนั้นการพัฒนาผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง จะต้องลงมือปฎิบัติ ( Action) เพื่อได้นำความรู้ และทักษะจากการอบรมไปประยุกต์ใช้ให้เกิดการแลกเปลี่ยน ระหว่างคณาจารย์ นักศึกษา และชุมชน ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติต่อไปอย่างยั่งยืน

ต่อมา พลเอก ไพศาล งามวงษ์วาน ที่ปรึกษาสถาบันวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรผู้นำพอเพียง เพื่อความมั่นคง รุ่นที่ 16 ในโอกาสนี้ยังได้รับเกียรติจาก​ ประธาน​มูลนิธิคลังสมอง​ วปอ.​ เพื่อ​สังคม​ ผู้อำนวยการหลักสูตร คณะกรรมการมูลนิธิ​ฯ​ คณาจารย์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

นอกจากนี้ ช่วงท้ายได้จัดกิจกรรม  ศิษย์เก่าเล่าประสบการณ์ พร้อมกับการ “รับน้อง นพม.16” โดย นพม.15 เป็นเจ้าภาพ ดำเนินการเชิญรุ่นพี่ นพม.ทุกรุ่นเข้าร่วมงาน เพื่อพบปะต้อนรับสู่ครอบครัวผู้นำพอเพียงอย่างอบอุ่น 

‘กอล์ฟ ศาสตรา’ โพสต์ซึ้งถึงกลุ่มเพื่อนรักสมัยเรียน แม้เห็นต่างทางการเมือง แต่มิตรภาพไม่เคยเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 66 นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘นายศาสตรา ศรีปาน - Sarttra Sripan’

สรุปผลการประชุม ‘สภาเพื่อน’ เมื่อคืน มีดังนี้
1.) การเมืองเป็นอย่างไรอย่าลืม สุดท้ายเราคือ ‘เพื่อนกัน’
2.) เห็นต่างได้แต่อย่าแตกแยก เพราะวันนึงที่นายลำบากเราก็จะยื่นมือไปช่วยนายอยู่ดี หมดเวลาทะเลาะ เถียงกันให้ตายก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือแย่ลง… เปลืองพลังชีวิตเปล่าๆ
3.) มาถึงช่วงชีวิตนึง “เพื่อนตายหาง่ายกว่าเพื่อนกิน”
ด้วยกฏแห่งธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บตาย
มีความสุขกับชีวิตที่มีเพื่อน ถึงยาก ดี มี จนต่างกันไปไม่หวือหวา ว่างก็ชวนกันไปกินน้ำชา จำให้ได้ว่าเราคือ ‘เพื่อนกัน’ ในวัยเด็กมันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและมิตรภาพ กว่าจะถึงวันนี้ช่วงเวลาดีๆ มีมากมาย

สุดท้าย วันที่เราจากโลกนี้ไป โชคยังดีที่มีพวกมึงมาร่วมงานและวางพวงหรีด 😇
รักกันจริงอย่าเอาทุกสิ่งไปโยงการเมืองนะจ๊ะ
ด้วยความห่วงใยจากเพื่อนถึงเพื่อนที่รักทุกคนบนโลกนี้

#จากใจพี่ศาสตรา 
#หรอยแรงเด็กหาดใหญ่
#เด็กแสงทอง #เด็กญว

‘บิว อรจิรา’ ทายาทหมื่นล้านธุรกิจอสังหาฯ สุดรันทด เล่าประสบการณ์อยู่ต่างประเทศ ไม่ต่างผู้ลี้ภัย

เมื่อไม่นานนี้ ไฮโซสาวตระกูลดัง ‘บิว อรจิรา บัณฑูรจินดา’ ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน ลูกสาว ‘คุณจรูญศักดิ์ บัณฑูรจินดา’ หุ้นส่วนใหญ่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในเครือ AP สุดรันทด เล่าประสบการณ์ใช้ชีวิตในประเทศแคนาดา ผ่าน tiktok ‘บิวจินดา Beaujonda35’ ขนาดเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนผ่านการคัดเลือกจากรัฐบาล ยังถูกบูลลี่เหมือนเราไม่ใช่คน โดยเฉพาะคนไทย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า…

“เรื่องของบิว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว บิวไปอยู่แคนาดาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน มีการสอบชิงทุนผ่านโดยกระทรวงและผ่านรัฐบาลของประเทศแคนาดาอย่างถูกต้อง ต้องบอกว่าตอนนั้นบิวสอบข้อเขียน พูด อ่านเขียนผ่าน แต่เราไม่สามารถสื่อสารเป็นประโยคภาษาอังกฤษกับต่างชาติได้

แน่นอนว่า การไปครั้งนั้นเราจะมีปัญหาเรื่องภาษากับเขา ตอนที่เราสอบชิงทุนได้ตอนนั่นเรียน ม.ปลาย ก่อนไป เราดีใจมาก ได้ไปเรียนต่างประเทศ ชีวิตคงสวยหรู คงได้ไปเที่ยวในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่พอไปถึงเราต้องไปอาศัยอยู่กับโฮสแฟมิลี่ ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ทางรัฐบาลเขาจัดให้เรา ต้องบอกก่อนว่า การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เราจะไปอยู่อาศัย 2 แบบ คือแบบ ‘โฮสแฟมิลี่’ และแบบ ‘พักอาศัยกับองค์กร’

ตัวบิวเองอยู่กับโฮสแฟมิลี่ คิดว่าจะเป็นอิสระ เขาคงใจดีกับเรา แต่เปล่าเลย เราไปอยู่ในฐานะคนรับใช้ แม่บ้าน ง่ายๆ นางทาสนั่นแหละ ทำงานบ้านทุกอย่างแม้แต่เลี้ยงลูกให้เขา พอเรากลับจากโรงเรียน เราก็ต้องทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง ทำอาหาร เรียกง่ายๆ ว่าเป็นแม่บ้านแหละ หากเราทำไม่ถูกใจ เขาก็ใช้ความรุนแรง ถ้าเราพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง เขาก็จะตบหน้าเรา ตบคือตบนะคะ ไม่ใช่ตบแบบสั่งสอน ตบแบบใช้อารมณ์ แล้วก็ด่าเรา

เหมือนตามข่าวที่เราเห็นชาวพม่า ลาว เขมร มาทำงานเป็นแม่บ้านในบ้านเรา บางคนถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกดขี่ บางคนถูกข่มขืน ไม่ต่างจากบ้านเราเลย พวกฝรั่ง พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาจะมองว่าเรายากจน เป็นพวกลี้ภัย มาอาศัยบ้านเขากิน เป็นตัวถ่วงความเจริญ เมืองไทยขี่ช้างออกจากป่า ส่วนนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยกันที่มาจากทวีปยุโรป เขาก็มองว่าผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ขายตัว

บอกตามตรงโคตรเจ็บใจ มาดูถูกกันแบบนี้ คนไทยจะไม่ได้รับการยอมรับที่นั่น เขาจะมองว่าคนเอเชียยากจน มองเราเหมือนไม่ใช่คน เวลาไปเรียนก็จะไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ คนเอเซียต้องคบกันเอง เพราะแต่ละคนจะโดนทำร้ายเหมือนๆ กัน แต่บิวโดนหนักสุด ถูกทำร้ายร่างกายตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม ไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ไม่กล้าฟ้องครู เพราะสุดท้ายเราก็ต้องอยู่ที่นั่นจนครบสัญญา 1 ปี

บิวอาจเป็นคนที่อดทนเก่ง แต่เพื่อนเอเชียบางคนร้องไห้ทุกวัน โดนใช้แรงงานเยี่ยงทาสเหมือนกัน จะบอกว่าฝรั่งส่วนมากที่มีเมียคนไทย ก็เพราะเขาต้องการหาคนดูแลยามแก่ยามเฒ่า เห็นหญิงไทยหน้าเงิน ซื้อได้ด้วยเงิน เขาจะไม่ค่อยมองหญิงไทยเป็นเมียหรอก มองเป็นนางทาสมากกว่า

และนี่คือประสบการณ์ในการใช้ชีวิตเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดา พอจบ 1 ปีกลับบ้าน สัญญากับตัวเองไม่ขอกลับไปอยู่ต่างแดนอีกเลย อยู่เมืองไทยนี่แหละสบายที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า นี่คือประสบการณ์ส่วนตัวที่บิวเจอ บางคนอาจจะโชคดีหรือโชคร้ายกว่าบิวก็ได้นะคะ”

‘รฟม.’ ปลดล็อก ‘สายสีส้ม’ เดินหน้าคืนประโยชน์ให้ ปชช. หลังศาลฯ ยกฟ้องปมจัดประมูล ชี้!! ดำเนินการโดยชอบตาม กม.

(18 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘บีทีเอสซี’ ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 2 และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 โดยศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ชี้ดำเนินการชอบโดยกฎหมาย

จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้ากว่าแผนไปแล้วประมาณ 2 ปีเศษ และยังส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังแผนการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ‘ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)’ ไปพร้อมๆ ด้วย เนื่องจากรฟม.ยังไม่สามารถหาผู้ประกอบการเดินรถได้ เพราะการหาผู้ประกอบการเดินรถทั้งเส้นทางถูกผูกรวมอยู่กับการหาผู้ร่วมลงทุนที่จะมาก่อสร้างโครงการฯ ส่วนตะวันตก

ทั้งนี้ รฟม.ได้ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกล่าช้าว่า ประเทศอาจจะเสียหายสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาท/ปี ประกอบด้วย

1.) ค่าดูแลรักษา (Care of Works) โครงสร้างงานโยธาส่วนตะวันออก 495 ล้านบาท/ปี
2.) ค่าเสียโอกาสเก็บค่าโดยสารจากรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก 1,764 ล้านบาท/ปี
3.) ค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจ 40,644 ล้านบาท/ปี

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 พบว่าโครงการรถไฟฟ้าสีส้มส่วนตะวันออก ดำเนินการก่อสร้างงานงานโยธาแล้วเสร็จ 100% เหลือแต่เพียงการทดลองวิ่งและการประกาศเปิดใช้ที่ รฟม. จะประกาศในอนาคตนี้

ส่วนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก หากไม่มีเอกชนรายใดยื่นคัดค้านคำพิพากษา เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าและการเสียโอกาสของประชาชนในการใช้ประโยชน์ รวมถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในการดูแลโครงสร้างงานโยธาโครงการฯ ส่วนตะวันออก รฟม. จะเร่งรัดและผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ตามขั้นตอนเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘บีทีเอสซี’ ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 (ครั้งที่ 2) และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน กรกฎาคม 2563 ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้บีทีเอสซีเสียหาย

‘พลอย’ พนง.โรงแรม คู่กรณี ‘พี่กบ’ ขอบคุณกำลังใจจากชาวเน็ต หลังร่วมส่งพวงหรีด แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณแม่

สืบเนื่องจากกรณีที่เดือดไปทั่วโลกโซเชียล กับกรณีของ พี่กบ และ คุณพลอย หลังจากที่คุณพลอยได้ออกมาเผยแพร่ภาพแชท ที่ตนเองได้ขออนุญาต พี่กบ ลางานเพื่อไปดูแลคุณแม่ที่ป่วยหนัก โดยมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและถือเป็นข่าวร้ายที่แม่ของคุณพลอยนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งคุณพลอยก็ได้ทักไลน์ ไปขอลางานแต่ทาง พี่กบ นั้นไม่อนุญาตและตอบว่า “จะลาออกใช่ไหมคะ ถ้าลาออกมาเซ็นใบลาออกด้วย” จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดไปทั่วโลกโซเชียล และชาวเน็ตต่างขุดพาทัวร์ไปลงสถานที่ทำงานของ พี่กบ อีกทั้งยังขุดเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พี่กบ อีกด้วย

ซึ่งทางด้านรีสอร์ตต้นสังกัดของทั้งคู่ก็ได้ออกมาแถลงการณ์แล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่า ทางรีสอร์ตได้มีคำสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าวออกจากรีสอร์ต ในขณะเดียวกันได้ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของผู้จัดการคนนี้ต่อไป และให้ คุณพลอย ทำธุระของตนเองให้เสร็จสิ้น แล้วค่อยกลับมาทำงานโดยไม่มีการไล่ออกใดๆ

ซึ่งทางด้าน คุณพลอย หลังได้เปิดใจต่อกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับ พี่กบ ตลอดว่าขณะนี้คุณแม่ป่วย อาจจะมีการขอลากระทันหันหากเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ไม่ใช่ไม่เคยบอก ไม่ใช่ไม่เคยขอ ช่วงที่รู้ข่าวจากแม่ ยอมรับว่าไม่มีคนมาหน้าที่แทน ตนพยายามแจ้งมาโดยตลอด และที่โพสต์รูปออกไปก็เพราะความน้อยใจนั้นเอง

ล่าสุด คุณพลอย ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเป็นการขอบคุณทุกกำลังใจของชาวเน็ตที่ส่งมาให้ ทั้งพวงหรีด และข้อความให้กำลังใจต่างๆ ผ่านโลกโซเชียล โดยคุณพลอยระบุข้อความว่า “พลอยขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ”

ผบ.ตร.รวมเหล่าดารา นักแสดงศิษย์เก่าลูกบดินทร ออกเตือนภัยไซเบอร์ให้กับนักเรียนรุ่นน้อง รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) หวั่นตกเป็นเหยื่อ

วันนี้ (18 ส.ค.66) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี : เยาวชนรุ่นใหม่ รู้เท่าทันภัยไซเบอร์” ณ หอประชุมอาคารบดินทรพัฒน์ โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งเป็นโครงการของ บก.น.4 โดย สน.วังทองหลาง ได้นำร่องอบรมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 3 รุ่น โดยวันนี้ได้อบรมรุ่นแรกเป็นนักเรียนชั้น ม.6 เข้ารับการอบรมจำนวน 600 คน โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.น./ผอ.ศปอส.บช.น. ,พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง พร้อมด้วยคณะวิทยากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งยังมีศิษย์เก่าบดินทรเดชาร่วมให้ความรู้แก่คณะครู บุคคลากร และนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ อาทิ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ศิษย์เก่ารุ่น 9 ,พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ. ศิษย์เก่ารุ่น 11 ,พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร./โฆษก ตร. ศิษย์เก่ารุ่น 16 พร้อมด้วยดารานักแสดงศิษย์เก่า บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี ศิษย์เก่ารุ่น 22 ,เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ และอีฟ พุทธธิดา ศิระฉายา ศิษย์เก่ารุ่น 29 

ผบ.ตร. กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ถือเป็นอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ส่งผล กระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งรูปแบบการประทุษกรรมของ คนร้ายนั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้เสียหาย เช่น การหลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าไปดูดเงินในบัญชี หรือแอปพลิเคชั่นดูดเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาโดยตลอด และร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและ เอกชนมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปราม และติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามพบว่ายังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวง อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน

ซึ่งมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันอยู่เสมอจึงมีความเสี่ยงที่จะเจอกลลวงของคนร้ายได้ การป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ได้ดีที่สุดนั้น คือ การสร้างความรู้ การประชาสัมพันธ์ให้เยาวชนและประชาชนได้รู้เท่าทันอย่างทั่วถึง ไม่ตกเป็นเหยื่อ กลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการ เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในครั้งนี้ โดยการให้ความรู้กับกลุ่มนักเรียน ซึ่งเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทัน และสามารถถ่ายทอดส่งต่อความรู้ หรือภูมิคุ้มกันนี้ไปยังคนในครอบครัว ญาติมิตร และคนใกล้ชิด เพื่อให้ขยายเครือข่ายของภูมิคุ้มกันเป็นวงกว้าง เพื่อป้องกันการหลอกหลวงจากกลุ่มคนร้ายทุกรูปแบบ

นอกจากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้จัดทำข้อสอบวัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ สำหรับภาคประชาชน เป็นลักษณะข้อสอบความรู้ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาทำข้อสอบได้รู้เท่าทันกลโกงคนร้าย และทราบถึงวิธีการปฏิบัติตนหากถูกหลอกลวง และมีรางวัลให้กับผู้ที่สอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 คะแนนขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเป็น Iphone 14 จำนวน 60 เครื่อง เดือนละ 20 รางวัล ซึ่งมีการมอบรางวัลไปขอบเดือน ก.ค. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมทำแบบทดสอบเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัว และคนรอบตัวต่อไป

ศาลยกฟ้อง 2 คดีอาญา 'ธนาธร' ฟ้อง 'อ.อานนท์' ลุยลากไส้ 'แม่ธนาธร' คดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติต่อ

เมื่อไม่นานมานี้ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า...

ศาลพิพากษายกฟ้องสองคดีอาญาที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจฟ้องผมมาว่าหมิ่นประมาทโดยเรียกค่าเสียหายมา 24,062,475 และ 5,000,000 โดยศาลวินิจฉัยว่าเป็นการติชมบุคคลสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและปกป้องประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 วรรค 2 และ 8 จากการครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ผมจึงขอทำหน้าที่ต่อไปและขอทวงถามว่าคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติของสมาชิกครอบครัวนี้ไปถึงไหนแล้วครับ

โซเชียลแห่แชร์คลิปรีวิวโรงแรมดังที่เขาใหญ่ พร้อมขอบคุณ 'เกรซ กาญจน์เกล้า' ที่เปิดวาร์ป ‘พี่กบ’

พลังแห่งโซเชียลมันน่ากลัว! เมื่อเรื่องนี้ยังเป็นที่สนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก กรณีหัวหน้างาน ‘พี่กบ’ โรงแรมหรูย่านเขาใหญ่ สั่งให้พนักงานกลับมาเขียนใบลาออก เมื่อเสร็จธุระจากการจัดงานศพคุณแม่ เรื่องนี้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักรวมถึงทางเพจเฟซบุ๊กของโรงแรมหรู ถูกถามถึงศักยภาพพนักงานและความเห็นใจเพื่อนมนุษย์

ขณะที่ชาวเน็ตพากันตามหา ‘พี่กบ’ หัวหน้างานที่กำลังเป็นประเด็น ซึ่งเรื่องนี้ถูกพุ่งเป้าไปถึงดาราสาว ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ หลังจากมีคลิปที่สาวเกรซเคยไปรีวิวโรงแรมหรูแห่งนี้โดยมี ‘พี่กบ’ พาชมบางส่วนของสถานที่ด้วย

ล่าสุด ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ ได้เคลื่อนไหวโดยการโพสต์สตอรี่ ที่มีคอมเมนต์ในคลิป พร้อมระบุข้อความขำ ๆ ว่า "แต่ละวันที่ฉันต้องเจอ ไม่เกี่ยวกับฉันนะคะ" และสตอรี่ที่ ‘หญิง รฐา’ แท็กหาเธอ หลังจากมีคนเข้ามาขอบคุณเธอที่เปิดวาร์ปให้ โดยเกรซ ยังได้ระบุข้อความสั้นๆ ว่า "จะบ้าตายรายวัน" พร้อมกับอิโมจิขำจนน้ำตาไหล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top