Sunday, 15 June 2025
NEWS FEED

เปิดข้อมูล บริการ ‘Fast Track’ สนามบิน ช่องทางพิเศษ ช่วยเข้า - ออกประเทศอย่างรวดเร็ว

เปิดข้อมูล Fast Track ช่องทางพิเศษ พื้นที่ให้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเกิดประเด็นดราม่ากรณีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน รีวิวการใช้บริการตำรวจไทยในรูปแบบ VIP ก่อนหน้านี้

จากกรณีที่ตำรวจ ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนเปิดช่อง Fast Track Lane ไปจนถึงมีรถนำขบวนไปยังที่พัก ถูกตั้งคำถามในสื่อสังคมออนไลน์เป็นวงกว้าง แต่อย่างไรก็ดี Fast Track Lane นั้น เป็นบริการที่มีอยู่แล้ว โดยกลุ่มผู้โดยสารและเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ในอดีตช่อง Fast Track Lane มีให้บริการอยู่แล้ว โดยสายการบินเปิดให้บริการนี้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และเฟิร์สคลาส ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก มีมานานแล้ว สนามบินนานาชาติทั่วโลกก็มีแบบนี้ ผู้โดยสารสามารถใช้บริการนี้ได้ โดยซื้อคูปองได้ที่สนามบิน หรือซื้อโปรโมชันพ่วงมากับตั๋วโดยสาร

ตัวอย่างช่องทางพิเศษ หรือ Fast Track ในต่างประเทศ เช่น ที่สนามบินเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ผู้โดยสารจะจ่ายเพิ่ม 5 ปอนด์ หรือประมาณ 200 บาท เพื่อที่จะไม่ต้องรอคิว ตม.นาน ๆ

เช่นเดียวกับสนามบิน Dublin ในไอร์แลนด์ เปิดขายคูปองช่องทางพิเศษให้ผู้โดยสาร ราคาอิงตามความต้องการของผู้โดยสารในช่วงเวลานั้น ๆ เริ่มตั้งแต่ประมาณ 8 ยูโร หรือประมาณ 280 บาท หรืออย่างสนามบินหลัก ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน ก็เปิดขายคูปอง Fast Track เช่นกัน อยู่ที่ 15 ยูโร หรือประมาณ 530 บาท แถมยังมีแพ็คเกจอื่น ๆ พ่วงได้ด้วย เช่น ห้องรับรองพิเศษ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

สำหรับในประเทศไทย กรณี Fast Track Lane หรือ ช่องทางพิเศษอำนวยความสะดวกในสนามบินนั้นมีอยู่จริง เพื่อให้บริการนักเดินทาง เข้า-ออกประเทศอย่างรวดเร็ว โดยเดิมทีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีช่องทางพิเศษอยู่แล้ว ในชื่อ 'Premium Lane' ซึ่งเป็นช่องทางอำนวยความสะดวก ให้กับผู้โดยสารตามที่ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ ซึ่งการเปลี่ยนชื่อเป็น Fast Track Lane ก็เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อช่องทางพิเศษของสนามบินต่างๆ ในหลายประเทศ เพราะสนามบินทั่วโลกก็มีบริการแบบนี้

โดยข้อมูลจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการให้ข้อมูลในเว็บไซต์ท่าอากาศยานไทย เกี่ยวกับบริการ Fast Track Lane ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการช่องทาง Fast Track ได้แก่

ผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการช่องทาง Fast Track ได้แก่ ผู้โดยสาร First Class / ผู้โดยสาร Business Class / ผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (Disabled) / เด็กทารก / ผู้โดยสารตั้งครรภ์ / นักลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI และ ผู้โดยสารที่มี APEC Business Travel Card (ABTC) / Smart Visa / Long Stay / Thailand Privilege / พระสงฆ์ / ผู้โดยสารสูงอายุ / ผู้โดยสารที่ถือเอกสิทธิ์ทางการทูต / ลูกเรือ

'บัวขาว' โพสต์ยืนยัน!! ตนคือคนไทยเชื้อสายกูย ไม่ใช่ 'เขมร' ตามที่ชาวกัมพูชากล่าวอ้าง

จากกรณีที่ กัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในระหว่างวันที่ 4-17 พฤษภาคม จะจัดแข่งขันมวยที่ชื่อว่า ‘กุน ขแมร์’ กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศ และคือรากฐานของ มวยไทย 

ขณะที่ทางชาวกัมพูชาบางคนได้มีการอ้างว่า บัวขาว นั้นมีเชื้อสายเขมร พร้อมกับมีการมาป่วนในเพจของตัวเองนั้น ล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)’ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยนักมวยวัย 40 ปีที่เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ ได้อธิบายมีเนื้อหาคือ

“คืนนี้ว่าด้วยเรื่องวิชาประวัติศาสตร์

ชาติพันธุ์ บัวขาว คือ คนไทย เชื้อสายกูย ไม่ไช่เขมร ตามที่เข้าใจ ชาวส่วย (Suai) บางทีก็เรียก กูย (Kuy, Kui), โกย/กวย (Kuoy) 

ชาวกูยนิยมเลี้ยงช้างซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษ ชาวกูยจะออกไปจับช้างป่าด้วยการคล้องช้าง ด้วยเชือกปะกำ ซึ่งทำจากหนังควาย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ เมื่อได้ช้างมาก็จะฝึกเอาไว้ใช้งาน พงศาวดารเมืองละแวกก็มีบันทึกไว้ว่าในพุทธศตวรรษที่ 20 กษัตริย์ขอมแห่งเมืองพระนคร ได้ขอให้แจ้งกุยแห่ง ตะบองขะมุน (ชุมชนกุยทางด้านใต้ของนครจำปาสัก) ส่งกำลังไปช่วยปราบกบฏที่เมืองพระนคร ชาวกุยได้ร่วมขับไล่ ศัตรูจนบ้านเมืองขอมเข้าสู่ภาวะปกติสุข หลักฐานนี้แสดงว่า ขณะที่ชนชาติไทยหรือสยามกำลังทำสงครามขับเคี่ยวกับขอมเพื่อสถาปนานครรัฐสุโขทัยขึ้นมานั้นชาวกุยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ บริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างเป็นปึกแผ่นแล้ว

การตั้งหลักแหล่งโดยส่วนมากจะพบ ตามลุ่มแม่น้ำโขงทุก ๆ สายน้ำที่แตกสายน้ำออกไป เช่น อุบล ท่าตูม โพธิ์ศรีสุวรรณ เมืองจันทร์ ห้วยทับทัน สำโรงทาบ และตามสายน้ำไปเรื่อย จนจึง จังหวัดนครราชสีมา ตามเส้นของสายน้ำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำโขงบริเวณแนวเขาพนมดงรัก ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ชาวกุยในแคว้นอัสสัมถูกรุกรานโดยชนเผ่าอนารยะ จนบางส่วนต้องละทิ้งถิ่นฐานอพยพข้ามลงมาตามลำน้ำโขง เคยเป็นอาณาจักรหนึ่ง ถิ่นฐานเดิมอยู่ทางตอนเหนือของเมืองกัมปงธม ประเทศกัมพูชา

ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 เคยส่งทูตมาค้าขายกับอยุธยาเคยช่วยกษัตริย์เขมรปราบกบฏ ต่อมาเขมรได้ใช้อำนาจทางการทหารปราบชาวกูยและผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งกับเขมร ด้วยความชอบความอิสระและชอบการผจญภัย ได้อพยพขึ้นเหนือ เข้าสู่เมืองอัตตะบือแสนแป แคว้นจำปาศักดิ์ และสารวัน ทางตอนใต้ของลาว แต่ก็ถูกเจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุต (เมืองเวียงจันทน์) ปราบปรามและขับไล่ จึงพากันอพยพตามแม่น้ำโขงมาตั้งรกรากอยู่แถบอิสานทางด้านแก่งสะพือ อำเภอโขงเจียม ได้แยกย้ายตั้งรกรากปลูกบ้านเรือนอยู่แถบนี้

พ.ศ. 1974 (ปีกุน) ที่จากหลักฐานกฎหมายอยุธยาฉบับพ.ศ. 1974 ได้กล่าวถึงกษัตริย์ของเขมรที่นครธม ได้ทรงขอให้เจ้ากวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญอยู่ตอนใต้ของเมืองนครจำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยพระองค์ปราบขบถ สำเร็จแล้วประมุขของทั้งสองฝ่ายได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และออกกฎหมายให้คนสยามห้ามยกลูกสาวให้ชาวฝรั่ง อังกฤษ วิลันดา กับปิตัน กุลา มลายู แขก กวย และแกว ซึ่งเป็นคนต่างชาติต่างศาสนา (ที่มา:เอกสารของโครงการแผนที่วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โครงการความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยภาษาและพัฒนาเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล)

พ.ศ. 2000 พงศาวดารเมืองละแวก กล่าวถึง กษัตริย์เขมร พระเจ้าธรรมราช ซึ่งครองอยู่พระนครหลวงได้ส่งทูตไปขอกองทัพจากกษัตริย์กวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญทางตอนใต้ของเมือง จำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยปราบกบฏ เมื่อกองทัพของพระเจ้าธรรมราชและเจ้ากวยแห่งตะบองขะมุมได้ปราบกบฏสำเร็จ ประมุขทั้งสองฝ่ายก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ (ที่มา ไทย : ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม 2533:35-36)

กองทัพเรือ บูรณาการเร่งช่วยเหลือกำลังพล และครอบครัว ร.ล.สุโขทัยอับปาง ให้ได้รับสิทธิอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุมติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ การช่วยเหลือกำลังพล และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ครบถ้วน และถูกต้อง

(24 ม.ค. 66) พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานกรรมการบูรณาการติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ และการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นประธานการประชุมเพื่อเร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือกำลังพลฯ จากหน่วยงาน องค์กร หรือภาคเอกชน อย่างบูรณาการ ให้กำลังพล และครอบครัว ได้รับสิทธิอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกประชุมคณะกรรมการ กำหนดแนวทางแก้ปัญหาเกาะหลีเป๊ะ เน้นการบังคับใช้กฎหมายควบคู่การเจรจา

ภายหลังจากเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่ที่มีการรุกล้ำพื้นที่อุทยาน โดยได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีปัญหาข้อพิพาทระหว่างนายทุนภาคเอกชน และชาวบ้านในพื้นที่ ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
 
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 ม.ค.66) เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน กรมอุทยาน กรมธนารักษ์ และกรมบังคับคดี เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 3 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการดูแลวิถีชีวิตคนพื้นที่ คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมาย และคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบสิทธิ โดยทั้ง 3 คณะจะทำงานไปพร้อมๆ กันเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ในวันที่ 26 ม.ค.66 นี้ ผู้แทนกรมอุทยานจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ที่มีการบุกรุกพื้นที่เขตอุทยาน หรือมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด และจะให้ผู้บังคับการจังหวัดสตูล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบสิทธิของผู้ถือครองที่ดินต่างๆ ว่ามีสิทธิตามกฎหมายถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งจะดำเนินการร่วมกับกรมบังคับคดี ในการตรวจสอบพื้นที่ที่ศาลได้มีคำพิพากษาบังคับคดีให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ที่รุกล้ำ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถคืนพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว

'ชาวสนามบินเชียงใหม่' ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว

บุคลากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” ระดมบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ทุกภาคส่วน เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 24 มกราคม 2566 นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการ “ชาวสนามบินเชียงใหม่ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” ในกิจกรรมรณรงค์ “จังหวัดเชียงใหม่ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น บุคลากรภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป” โดยมีนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ และมีนายนิมิตร อินปั๋นแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวรายงาน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 

โดยหน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 เคลื่อนที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ตั้งหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-25 มกราคม 2566  เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกัน และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว  ซึ่งบุคลากรของท่าอากาศยานเชียงใหม่ นับเป็นด่านหน้าในการรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ ต่างพร้อมใจกันทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกันอย่างต่อเนื่อง 

โครงการ “ชาวสนามบินเชียงใหม่ร่วมใจ เพื่อจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว” เป็นโครงการที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ริเริ่มดำเนินการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ “จังหวัดเชียงใหม่ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น บุคลากรภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป” โดยได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกจ้าง บริษัทสายการบิน ผู้ประกอบการ ส่วนราชการ พนักงานจัดจ้างภายนอก พนักงานขับรถ ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสาร ให้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีนเข็มกระตุ้นจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนครพิงค์มาให้บริการฉีดวัคซีน ณ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-25 มกราคม 2566  

ผบ.ตร. นำนักเรียนนายร้อยตำรวจ ปลูกต้นไม้จิตอาสา ถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมบรรยายปลูกฝังการเป็นตำรวจที่ดีแก่นักเรียนนายร้อยตำรวจทุกชั้นปี ต้องแม่นยำระเบียบกฎหมาย มีจริยธรรมประจำใจ

วันนี้ 24 ม.ค.66 เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานโครงการปลูกต้นไม้จิตอาสาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมี พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจ หลักสูตร นรต., นรอ. และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมโครงการกว่า 1,500 คน ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พร้อมกันอย่างกึกก้อง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ได้ร่วมปลูก 'ต้นเสลา' ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และร่วมทำกิจกรรมจิตอาสากับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต่อจากนั้น เวลา 10.00 น. ผบ.ตร. ได้บรรยายพิเศษ แก่ นักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 1-4 และ นักเรียนอบรม ณ หอประชุมชุณหะวัณ มุ่งเน้นการเป็นตำรวจมืออาชีพ แม่นยำระเบียบกฎหมาย เชี่ยวชาญยุทธวิธีและเทคโนโลยี มีบุคลิกภาพและทักษะการสื่อสารที่ดี และมีจริยธรรมประจำใจ พร้อมแนะนำ 5 เทคนิคการทำงานให้มีความสุขและประสบความสำเร็จ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุมพิจารณาการได้รับสิทธิในการบรรจุหรือแต่งตั้งทายาทของกำลังพลกองทัพเรือที่เสียชีวิตกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.66) พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือและประธานกรรมการพิจารณาการได้รับสิทธิในการบรรจุหรือแต่งตั้งทายาทของข้าราชการทหารและทหารกองประจำการที่เสียชีวิต เนื่องจากการรบหรือการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับสิทธิในการบรรจุหรือแต่งตั้งทายาท และกำหนดจำนวนทายาทที่จะได้รับสิทธิ กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน 

‘ก.แรงงาน’ รับสมัครชายไทยฝึกงานเทคนิคที่ญี่ปุ่น ผ่านองค์กร IM Japan สมัครได้ถึง 31 ม.ค. 66

กระทรวงแรงงาน เปิดรับสมัครผู้ฝึกงานเทคนิคประเทศญี่ปุ่น ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง ผ่านองค์กร IM Japan ปี 2566 ครั้งที่ 2 สมัครสอบทางออนไลน์ไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่บัดนี้ - 31 มกราคม 2566

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านองค์กร IM Japan ปี 2566 ครั้งที่ 2 (เพศชาย) ในตำแหน่งผู้ฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิค ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง (อาทิ งานหล่อกลึงโลหะ งานปั๊มขึ้นรูปโลหะ งานเชื่อม งานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ งานบำรุงรักษาเครื่องจักร งานพ่นสี งานหลอม พลาสติก งานซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ งานแปรรูปอาหาร เป็นต้น) ผู้สมัครสามารถสมัครด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ตั้งแต่บัดนี้ - 31 มกราคม 2566 และสอบคัดเลือก ณ ศูนย์สอบจังหวัดลำปาง โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคฯ จะได้รับเบี้ยเลี้ยงเดือนแรก 80,000 เยน หรือประมาณ 20,510 บาท ค่าที่พัก ค่าน้ำ-ค่าไฟ ฟรี และเดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 36 จะได้ค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนด เมื่อฝึกครบตามกำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการฝึกงาน และเงินสนับสนุนการประกอบอาชีพจำนวน 600,000 เยน หรือประมาณ 153,830 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 24 มกราคม 2566) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย  

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด เพราะทำให้แรงงานไทยมีรายได้ ได้เปิดโลกทัศน์ ได้รับประสบการณ์ สามารถนำทักษะที่เรียนรู้มาเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในการทำงาน หรืออาจต่อยอดเปิดกิจการของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

'ตรีนุช' ออกประกาศ ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน ให้ทุกฝ่ายของสถานศึกษาพิจารณาตามความเหมาะสม

( 24 ม.ค. 66) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ศธ.จึงได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8) ได้ให้ความเห็นว่า รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 12 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติได้

ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ตนจึงได้ลงนามในระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และเสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบ หรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา ไว้ดังนี้

1.) การไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัด ศธ. และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ. จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา

2.) สถานศึกษาในสังกัด ศธ.และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ.อาจดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับไว้ทรงผมของนักเรียนได้ โดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษา และควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือ ผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น

'พงศพรหม' โพสต์!! 'ต่างชาติ-ต่างด้าว' ไม่ได้มาแย่งงานคนไทย แต่คนยุคใหม่ หนักไม่เอา เอาแต่เงินเดือนเกินความสามารถ

ไม่นานมานี้ นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ระบุว่า...

ทานอาหารร้านคนรู้จัก ตั้งแต่กรุงเทพยันศรีราชา เดี๋ยวนี้เจอแต่คนเสิร์ฟ และผู้จัดการร้านชาวต่างชาติ

ร้านท้องถิ่นหน่อยก็พม่า ร้านแพงหน่อยก็ฟิลิปปินส์, จีน, อินเดีย, ศรีลังกา, อิตาเลียน หรือฝรั่งเศส อังกฤษโน่น

เน้นว่าพนักงานนะครับ ไม่ใช่เจ้าของร้าน!!

มองผิว ๆ ก็อาจมีคนบอกว่าต่างชาติมาแย่งงานคนไทย

แต่เปล่าเลย!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top