Sunday, 15 June 2025
NEWS FEED

‘ตำรวจ’ เร่งประสาน ‘ดาราไต้หวัน’ ขอข้อมูลเพิ่ม หลังอ้างถูกตำรวจ ‘ค้นตัว - รีดไถ’ ขณะเที่ยวในไทย

(26 ม.ค. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย กรณีดารานักแสดงชาวไต้หวัน 安于晴 (อันหยูชิง) หรือ Charlene An อ้างว่า ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า 20,000 ถึงยอมปล่อยตัว ว่า เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงสาวคนดังกล่าว และมีข้อมูลว่าเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เดินทางออกในวันที่ 5 มกราคม 2566 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเช็กอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ ขณะโดยสารด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้คนขับเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และได้ประสานที่พักตรวจสอบว่านักแสดงสาวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่ 

รวมทั้งประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร และสน. ทองหล่อ ซึ่งมีการตั้งด่านทั้งความมั่นคงและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านในช่วงเวลาที่นักแสดงสาวดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยในพื้นที่ใดบ้าง โดยเน้นไปจุดที่มีคนต่างชาติพักอาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี 

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดต่อไปยังนักแสดงคนดังกล่าวแล้วโดยช่องทางผ่าน Instagram และ Facebook เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน 

ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกมิติ เบื้องต้นพบว่าเป็นการเช็กอินหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ

โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดตั้งแต่ช่วงปีใหม่ แต่เพิ่งมีประเด็นในช่วงนี้ติดต่อกันเป็นการทำงานทำลายภาพลักษณ์ตำรวจหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลจะไม่บอกว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเมื่อเขากลับไปแล้วก็มีการเช็กอินอีกรอบว่าอยู่ที่นี่ที่นั่น จะต้องตรวจสอบและหากพบว่าใครผิดก็ต้องดำเนินการอาญาและวินัย ส่วนเป็นการดิสเครดิตตำรวจหรือไม่ขอให้เป็นดุลยพินิจของประชาชนและสื่อมวลชนเอง ตำรวจบอกได้อย่างเดียวว่าไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นวันไหนก็จะต้องตรวจสอบ

เริ่มแล้ววันนี้ TCEB เปิดงานชา กาแฟระดับโลก 'World Tea & Coffee Expo 2023' ใจกลางเมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปนร่วมกับหน่วยงานภาคี ได้เปิดงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ซึ่งเป็น งานประชุมวิชาการนานาชาติและแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ณ ห้องประชุม Nimman Convention Centre จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยนายชิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นคร เชียงใหม่ ที่ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดีและร่วมกิจกรรมเสวนาภายในงานด้วย

ทั้งนี้ งานประชุมวิชาการนานาชาติและแสดงสินค้า World Tea & Coffee Expo 2023 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26 – 29 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 นณ ศูนย์การค้า One Nimman ถือเป็น งานที่ สสปน. ใช้กลไกของไมซ์ในการขับเคลื่อนพืชเศรษฐกิจระดับภาคเพื่อสร้างชื่อเสียง (Destination Branding) ต่อยอดความพร้อมของภาคเหนือตอนบนในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ซึ่ง ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 โดยในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “A Cup of Success” เน้นย้ำถึงความสำเร็จ ของธุรกิจชาและกาแฟในไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ภายในงานมีกิจกรรมสองส่วน ได้แก่ ส่วนของ งานแสดงและจำหน่ายสินค้า ในบริเวณลานกิจกรรม กลางแจ้ง และส่วนของงานประชุมวิชาการนานาชาติในชื่อ The 3rd Tea and Coffee International Symposium ณ ห้องประชุม Nimman Convention Centre โดยในส่วนของงานแสดงสินค้าประกอบด้วยบูธ ของผู้ประกอบการจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นบูธผู้ประกอบการชาและกาแฟภาคเหนือรวมทั้งภาคอื่น ๆ จำนวน 45 ราย และต่างประเทศจำนวน 5 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ตามที่ สสปน. กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และมาตรฐานของสินค้า การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ใน กระบวนการผลิต และศักยภาพที่สามารถต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต เป็นต้น

อีกหนึ่งกิจกรรม ภายในงานซึ่งจะเป็นโอกาสทางการค้าที่สำคัญของผู้ประกอบการคือ การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งในครั้งนี้มีการเชิญคู่ค้า หรือ buyer จากทั่วประเทศ 20 ราย และจากต่างประเทศ จำนวน 5 ราย โดยการเจรจาจะมีทั้งรูปแบบออฟไลน์ภายในงาน และการเจรจาผ่านทางออนไลน์ โดยทาง สส ปนได้ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายจากกิจกรรมทั้งหมดอยู่ที่ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าซื้อขายและการสั่งซื้อจาก การเจรจาธุรกิจจำนวน 8 ล้านบาท และการซื้อขายภายในงานจำนวน 2 ล้านบาท สำหรับในส่วนของผู้เข้าชมนั้น เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 คน แต่ด้วยสถานที่จัดงานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของ จังหวัดเชียงใหม่ จึงมั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน

ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมาลำไฟล์ปฐมฤกษ์เฉินตู-เชียงใหม่

Sichuan Global Travel International Travel Service Co.,Ltd ร่วมกับ Sichuan Airlines จัดเที่ยวบินเหมาลำจากเฉินตูบินตรงเข้าจังหวัดเชียงใหม่ หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย เผยชาวเมืองเฉินตูนิยมมาเที่ยวเชียงใหม่ เพราะอากาศดี สถานที่ท่องเที่ยวและความเป็นอยู่ทุกอย่างเอื้ออำนวย เตรียมบินตรงเข้ามาทุกวัน ขณะที่จะประสานเมืองต่างๆของประเทศจีนให้บินตรงเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 19.05 น. สายการบินเสฉวนแอร์ เที่ยวบิน 3 U 3933 ได้ถึงยังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์เฉินตู - เชียงใหม่ แบบเหมาลำ โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เป็นตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย ร้อยเอกสันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) 

MR.GUO HUI ประธานบริหาร Sichuan Global Travel International Travel Sevice เปิดเผยว่า ทาง Sichuan Giobal Travel International Travel Service ดำเนินกิจการเหมาลำสายการบินระหว่างประเทศ มาตลอดระยะเวลา 8 ปี และมีสถิติโดยสารนักท่องเที่ยวจีนหลายแสนคนต่อปีที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงเชียงใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจไทย การท่องเที่ยวไทยให้ดียิ่งๆขึ้นไป จากสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทางSichuan Global Travel International Travel Service จึงได้ดำเนินการเหมาลำสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ และมีการเหมาลำสายการบินอื่นๆ เพื่อเพิ่มไฟล์บินและกระตุ้นการท่องเที่ยว

ผอ.ศปพร. เปิดกิจกรรม 'เยาวชนคลื่นลูกใหม่สืบสานโครงการพระราชดำริ' ในพื้นที่ จชต.ประจำปี 2566 ปลูกจิตสำนึก ร่วมสร้าง สันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ แหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดกิจกรรม 'คลื่นลูกใหม่สืบสานโครงการพระราชดำริ' ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประจำปี 2566 ปลูกจิตสำนึก ร่วมสร้าง สันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม โดยมี นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4-6  ของโรงเรียนนราสิกขาลัย  และโรงเรียนนราธิวาส เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 80 คน

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดกิจกรรมเยาวชนคลื่นลูกใหม่ สืบสานโครงการพระราชดำริ ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นเพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงพระราชทานแนวทาง  การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขยายผลการดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นไปอย่างกว้างขวาง สามารถปฏิบัติตามได้จริง และเห็นผลเป็นรูปธรรม การวางรากฐานการดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิต ภายใต้ปรัชญาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงการรู้จักพึ่งพาตนเอง ความพอมี พอกิน พอประมาณ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืน ต่อไป

ปทุมธานี คณะครุศาสตร์ จัดกิจกรรม Chinese New Year and Students' lnnovative Challenge 2023

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 เวลา 08.30 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยคณะครุศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม Chinese New Year and Students' lnnovative Challenge 2023 โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตเจริญ ศรขวัญ คณบดีคณะครุศาสตร์ ให้เกียรติมาเป็นประธานในการเปิดงานโดยมีอาจารย์และนักศึกษา สาขาวิชาภาษาจีน คณะครุศาสตร์ ให้การต้อนรับ วัตถุประสงค์ในการจัดงาน Chinese New Year and Students' lnnovative Challenge 2023 ดังกล่าวนี้ ทางหลักสูตร สาขาวิชาภาษาจีนได้เล็งเห็นความสำคัญของการ เรียนรู้ภาษาจีนควบคู่ไปกับการเรียนรู้และอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทย จึงได้จัดกิจกรรมวันตรุษจีนขึ้นมา ภายใต้ชื่องาน Chinese New Year and Students' Innovative Challenge 2023 ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา นักเรียน หรือผู้ที่สนใจได้แสดงออกถึงความสามารถด้านภาษาและศิลปวัฒนธรรมประเพณีจีน รวมถึงได้ฝึกฝนและเพิ่มพูนความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน จึงได้จัดกิจกรรมการประกวดความรู้และทักษะทางด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน โดยรายการดังนี้

‘ไทย’ ครองอันดับหนึ่งตัวเลือกของ นทท.จีน จุดหมายปลายทางต่างประเทศช่วงตรุษจีน

หางโจว, 25 ม.ค. (ซินหัว) — “วันแรกที่มาถึงกรุงเทพฯ ฉันไปเที่ยวตลาดกลางคืนค่ะ ทันทีที่ได้กลิ่นหอมกรุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย ก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าชีวิตก่อนเกิดโรคระบาดได้กลับมาแล้ว” อู๋ นักท่องเที่ยวชาวจีนจากนครหางโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน บอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวในไทยผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมเปิดเผยความประทับใจของตนให้ผู้ติดตามชาวจีนได้ฟัง

หลังจากจีนปรับเปลี่ยนนโยบายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ตลาดการเดินทางขาออกของจีนซึ่งซบเซาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวจีนอย่างประเทศไทย กลายเป็นที่หมายปองอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลล่าสุดจากซีทริป (Ctrip) บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน ชี้ว่าในช่วง 4 วันก่อนถึงวันหยุดตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนจองตั๋วเครื่องบินขาออกสู่กรุงเทพฯ มากที่สุด เป็นรองเพียงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าของจีน ตามมาด้วยภูเก็ตในอันดับที่ 5

ขณะฟลิกกี้ (Fliggy) แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวอีกราย เผยว่าจำนวนผู้ยื่นขอวีซ่าไทยในจีนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวของไทยก็เพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบปีต่อปี

ชุยเยี่ยน ผู้จัดการทั่วไปของซีทริป ไทยแลนด์ (Ctrip Thailand) ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยมีการ เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยโรงแรมยอดนิยมในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เกาะสมุย ภูเก็ต และสถานที่อื่น ๆ ต่างถูกจองจนเต็มอย่างรวดเร็ว

ชุยแสดงความเห็นว่านโยบายการเดินทางของจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีความเชื่อมั่นในการเดินทางไปต่างประเทศ บวกกับนโยบายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรของไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศที่เนื้อหอมสำหรับนักท่องเที่ยวจีน

ไต้ปิน ประธานสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน วิเคราะห์ว่านับตั้งแต่วันปีใหม่จนถึงเทศกาลตรุษจีน ตลาดการท่องเที่ยวจีนกำลังส่งสัญญาณเชิงบวก 2 ประการ หนึ่งคืออุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวของชาวจีนได้เปลี่ยนจากใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมาสู่การใช้จ่ายอย่างอิสระ สองคือด้านโครงสร้างการท่องเที่ยว โดยคนหนุ่มสาวและการท่องเที่ยวแบบระยะกลาง-ไกล กลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยว

สตูล ทัพเรือภาค3 ฝ่าคลื่นทะเลช่วยไต๋เรือสิงห์เดโช 3

วันนี้เมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. ทัพเรือภาค3 โดย นป.สอ.รฝ.491ได้รับแจ้งเหตุจากเรือประมง 'สิงห์เดโช 3' ว่า นายเรวัต ทองจับ อายุ 51 ปี ไต๋เรือสิงห์เดโช 3 มีอาการหายใจติดขัด บริเวณเกาะตะง่าห์ ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 10ไมล์ ต้องการความช่วยเหลือด่วน 

นป.สอ.รฝ.491 ได้จัดเรือยางท้องแข็ง (RIB) พร้อมกำลังพล และ จนท.พยาบาลประจำหน่วย รีบออกเดินทางฝ่าคลื่นทะเลไปยังเรือสิงห์เดโช 3 เพื่อให้ความช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางเรือ พร้อมให้การสนับสนุนการลำเลียงผู้ป่วยทางรถยนต์โดยพาหนะของหน่วยนำผู้ป่วยส่ง รพ.สต.เกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จว.สตูล แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการหนักเกินขีดความสามารถของ รพ.สต.เกาะหลีเป๊ะ จำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยรายดังกล่าวไปรักษาต่อที่ รพ.หาดใหญ่ แต่ไม่สามารถนำส่งทางทะเลได้ เนื่องจากท้องทะเลมีคลื่นสูงและลมแรง จำเป็นต้องนำส่งผู้ป่วยทางอากาศยานด้วย ฮ.ท.72 ของทัพภาค 4  ในการนี้ ทัพเรือภาค 3 โดยนป.สอ.รฝ.491 ได้ให้สนับสนุนเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ป่วย พร้อมยานพาหนะลำเลียงผู้ป่วย และลานจอดเฮลิปคอปเตอร์ ในการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ทางอากาศยาน ให้กับ รพ.สต.เกาะหลีเป๊ะ

'อัษฎางค์' แนะ!! การคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของประเทศต้นทาง ในประเทศของคุณ จะทำให้ประเทศของคุณ 'สวยงาม' และ 'เจริญรุ่งเรือง'

(26 ม.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทด้านศิลปวัฒนธรรม ซึ่งกัมพูชาเริ่มมีการเคลมแรงจากประเทศไทยในระยะหลัง ว่า...

การคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของประเทศต้นทาง ในประเทศของคุณ จะทำให้ประเทศของคุณ 'สวยงาม' และ 'เจริญรุ่งเรือง'

ทำไมผมพาดหัวเรื่องแบบนี้ ?

ประเทศไทย เป็นชื่อเรียกประเทศไทยมานานเกือบ 78 ปี เท่านั้น โดยก่อนวันที่ 7 กันยายน 2488 เรามีชื่อประเทศว่า “ประเทศสยาม”

สยามคือชื่อประเทศที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ อาศัยปะปนกัน ทั้งจีน แขกอินเดีย แขกอาหรับ แขกมาลายู มอญ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สยามมีคนไทยเป็นคนส่วนใหญ่และเป็นใหญ่ในประเทศ

ซึ่งความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมนั้นหลอมรวมเป็นไทยในปัจจุบัน

ยกตัวอย่างเช่น...

ตั้งแต่คนไทยเราเกิดมาและจำความได้ เราก็เห็นว่ามีวัดจีน การไหว้เจ้าแบบจีน อาหารจีน เครื่องแต่งกายแบบจีนในเมืองไทย แม้กระทั่งการใช้คำในภาษาจีนในชีวิตประจำ เช่น เรายังคงเรียก อาเฮีย อาเจ้ อากง อาม่า รวมถึงเรายังเรียกคนไทยแท้ ๆ ว่า อาเฮีย อาเจ้ ด้วยซ้ำ แต่เราไม่เคยประกาศว่านั้นคือ ศิลปวัฒนธรรมไทย เรายอมรับชัดเจนว่านั้นคือ ศิลปวัฒนธรรมจีน

เรากินพิซซ่า สปาเกตตี แฮมเบอร์เกอร์ ตั้งแต่เราจำความได้ แต่เราไม่เคยบอกว่านั้นคือ อาหารไทย เรายอมรับว่ามันคือ อาหารฝรั่ง

เรากินโรตี ซูชิ ตั้งแต่เราเกิดและจำความได้ แต่เราก็ไม่เคยบอกว่ามันคืออาหารไทย เรายอมรับว่ามันคืออาหารอินเดีย อาหารญี่ปุ่น

เวลาเราเรียนภาษาไทย โรงเรียนและตำราเรียนของไทยเราก็สอนเราว่า ภาษาไทยคำนั้น ๆ มีที่มาจากที่ใด เช่น มาจากบาลี สันสกฤต ขอม เขมรโบราณ เรายอมรับชัดเจน

แต่บางอย่าง มันถูกพัฒนาต่อยอดวิวัฒนาการ จนกลายเป็นไทย ซึ่งเป็นธรรมชาติของการพัฒนา

เช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ทั่วโลกยอมรับว่ามันคือ อาหารไทย ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ทั้งที่ก๋วยเตี๋ยวคืออาหารของจีน แต่คนทั้งโลกเข้าใจว่า ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย คืออารยธรรมจีนที่ถูกถ่ายทอดและต่อยอดกลายเป็นไทย โดยที่จีนไม่ต้องไปเคลมว่ามันคืออาหารจีนเพราะต้นกำเนิดมาจากจีน

แม้แต่ สปาเกตตี ราวิโอลี่ ยอกกี้ ซึ่งเมื่อก่อนคนทั้งโลกเคยเข้าใจว่าเป็นอาหารประจำชาติของอิตาลี ที่ถือกำเนิดขึ้นโดยชาวอิตาลี แต่ความจริงมันคืออารยธรรมจีนที่ถูกถ่ายทอดและต่อยอดจนกลายเป็นอาหารอิตาลี

ศิลปวัฒนธรรมหรืออารยธรรมบางอย่าง ยังคงสภาพเป็นของชาติต้นทาง แต่ของบางอย่างถูกดัดแปลงต่อยอดพัฒนาจนกลายเป็นของอีกชาติ นั้นเป็นธรรมชาติของโลก

ไม่เคยมีคนจีนที่ชอบกินสปาเกตตีมาก แล้วประกาศว่ามันคือ ก๋วยเตี๋ยวของจีน ทั้งที่วัฒนธรรมกินเส้นถูกนำไปจากจีนสู่อิตาลีโดยมาร์โคโปโลแล้วต่อยอดวิวัฒนาการเป็นอาหารอิตาลีที่ทั่วโลกเคยยกย่องว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดและนิยมที่สุดในโลก

หรืออย่างเช่น กระดาษและดินปืน ซึ่งถือกำเนิดในประเทศจีน และถูกฝรั่งนำไปต่อยอดวิวัฒนาการ

จีนก็ไม่เคยเคลมว่า อารยธรรมเหล่านั้นเป็นของจีน เพราะจีนก่อกำเนิดและยิ่งใหญ่มาก่อน หรือเคลมสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นของจีน แล้วก็เปลี่ยนชื่อเรียกสิ่งของเหล่านั้นไปเป็นชื่อจีน แล้วก็ประกาศว่ามันเป็นของจีน

แต่กัมพูชาชกมวยไทยและนิยมชมมวยไทย แล้วเอามวยไทยกลับไป โดยยังคงกติกาของมวยไทยไว้จนครบหมดสิ้น แต่เปลี่ยนชื่อเป็นภาษาเขมรแล้วบอกว่ามันคือศิลปวัฒนธรรมประจำชาติของตน เพราะจุดกำหนดมาจากบรรพบุรุษของตน มันคืออะไร

แบบนี้ จีน อียิปต์ อาหรับ เปอร์เซีย โรมันอิตาลี กรีก อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่อเมริกา คงเคลมศิลปวัฒนธรรมวัฒนธรรมและอารยธรรมจากทั่วโลกได้มากมาย ว่าเป็นของตน แล้วเปลี่ยนชื่อเรียกสิ่งของเหล่านั้นเป็นภาษาของตน โดยอ้างว่ามันมีที่มาจากจุดกำเนิดจากบรรพบุรุษของตน

คุณเคยคิดกันบ้างมั้ย ว่าญี่ปุ่นกับเกาหลี ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองและร่ำรวยกว่าจีนมากมายหลายเท่า มีรากเหง้าอารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมของมาจากไหน จีนเคยออกมาเคลมหรือไม่ว่าทั้งหมดนั้นคือของจีน ทั้งที่อารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นกับเกาหลีมาจากจีนเกือบ ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์

'อรรถพล' ลุยงานทันที เน้นโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยืนยันทำงานเต็มที่

26  มกราคม 2566 เวลา 08.30 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าสักการะสิ่งศักดิ์และถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 5 เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเข้ารับตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

เวลา 9.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา ได้ ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนถึงการเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นายอรรถพล กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้มอบหมายให้มาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่สามารถทำงานได้เลย จึงใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการออกคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและต่อเนื่องในการทำงาน 

เปิดภาพ 'อาจารย์แม่' รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ 'ครูภาษาไทย-นักพูดชื่อดัง' ในวัยครบ 87 ปี

เปิดภาพ 'อาจารย์แม่' ตำนานครูภาษาไทย นักพูดชื่อดัง ฉลองวันเกิดครบ 87 ปี

(26 ม.ค. 66) เกิดกระแสในโลกออนไลน์ ได้มีการโพสต์ภาพของ 'รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ' หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า 'อาจารย์แม่' ผ่านแฟนเพจ 'ภาพเก่าในอดีต' พร้อมข้อความระบุว่า "ครูบาอาจารย์ นักพูด พิธีกร ผู้บริหารสถานศึกษา ฯ อาจารย์แม่เกิด 7 มกราคม 2479 ปัจจุบันอายุ 87 ปีแล้วครับ"

สำหรับรองศาสตราจารย์ สุนีย์ สินธุเดชะ อดีตเคยเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต อดีตอาจารย์ประจำสาขาวิชาการสอนภาษาไทย ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้คนส่วนใหญ่ต่างรู้จักรองศาสตราจารย์ สุนีย์ สินธุเดชะ ในฐานะนักโต้วาทีชื่อดังและในฐานะนักพูดประจำรายการ 'ทีวีวาที' โดยมีสไตล์การพูดในแนวหยิกกัดและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top