Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

KKBS.เสริมสร้างประสบการณ์การทำงานตรงให้กับนักศึกษา จับมือเดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค-สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและไมซ์ จ.ขอนแก่น  ลงนาม พัฒนาความเป็นเลิศทางวิชาการ

(3 เม.ย.66) ที่ ห้องวังเลิศ อาคาร BS.01 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น โดยภายในพิธีได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณดีคณะบริหรธุรกิจและการบัญชี ,ผศ.ดร.ดลฤทัย โกวรรธนะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการ ,ผศ.ดร.ศักดิ์สุริยา ไตรยราช ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเครือข่าย ,นายพันธจักร ว่องปรีชา CEO & Founder บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด , นางศศมณฑ์ มหาศิริกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและไมซ์จังหวัดขอนแก่น,นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น, นายพันชนะ  วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และนายจักรพันธ์  รัตนเพชร ประธานกรรมการบริษัท WRS Group ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ 

การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชากรในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ได้เห็นชอบร่วมกันในการพัฒนาในมิติด้านวิชาการ ซึ่งได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การพัฒนาทักษะนักศึกษา การวิจัย การพัฒนาองค์กร การจัดฝึกอบรม การสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาแก่บุคลากร ตลอดจนสนับสนุนให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานตรงให้กับนักศึกษา ให้มีทักษะความสามารถ และมีมาตรฐานตรงต่อความต้องการของอุตสาหกรรมการประกอบการของธุรกิจ

รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ความร่วมมือทางวิชาการที่จะเกิดขึ้นในการลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี กับ บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์คจำกัด และ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ดังนี้ คณะบริหารธุรกิจ และการบัญชี หาวิทยาลัยขอนแก่น จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก โดยกำหนดวิสัยทัศน์ ในการเป็น "สถาบันการศึกษาชั้นนำและเป็นเลิศด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ที่ได้มาตรฐานสากล" ภายใต้พันธกิจที่กำหนดไว้คือ1. สร้างและพัฒนานักบริหารธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ประกอบการให้มีความรู้ความสามารถในการแข่งขันทั้งในยุดปัจจุบันและอนาคต 2. สร้างสรรค์ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และ 3. บริการวิชาการแก่สังคมอย่างมีคุณภาพ

รศ.ดร.เพ็ญศรี  กล่าวอีกว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจMOU กับทั้งสองหน่วยงาน โดยวัตถุประสงค์ความร่วมมือ คือ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรตามกระบวนทัศน์ใหม่ พัฒนาการเรียนการสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะหลักสูตร ด้านธุรกิจบริการการท่องเที่ยวและไมซ์ และเปิดโอกาสให้อาจารย์และนักศึกษาได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเรียนการสอนและการวิจัยร่วมกัน และ 
สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ร่วมกัน

ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ตามที่ท่านคณบดี คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ได้กล่าวรายงานแล้วนั้น ตนมีความชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือด้านวิซาการกับหน่วยงานทั้งสอง คือ บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและต่างประเทศ โดยมีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดทำ Special Project และทำ International events ก"sจัดการอบรมสัมมนาความรู้ในด้าน Soft Skills, Protocol,Etiquettes อีกทั้ง ยังได้รับการบอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีการระดับประเทศ รวมถึงเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน/เครือข่ายกับคณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ และ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสมาคมที่ผลักดันการท่องเที่ยวและการจัดประชุมนิทรรศการของจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นที่รู้จัก และก้าวสู่เวทีสากล

รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวต่อไปว่าในนามมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอขอบคุณ นายพันธจักร ว่องปรีชา CEO & Founder บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด คุณศศมณฑ์ มหาศิริกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวและไมซ์จังหวัดขอนแก่น, นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญนี้ ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร ตลอดจนคณาจารย์และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ได้สละเวลามาร่วมเป็นเกียรติในพิธีครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งสอง ทางด้านวิชาการพัฒนาหลักสูตรตามกระบวนทัศน์ใหม่ และการอบรมทางวิชาการเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการใหม่ ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ตลอดจนการให้นักศึกษาเข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ฝึกงาน สหกิจในเครือข่าย ฯ

ส่วน นายพันธจักร  ว่องปรีชา CEO & Founder บริษัท เดอะ ดิโพลแมท เน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่เป็นรูปประธรรมและทำไปแล้วเมื่อปี 2522 ในการประชุมเอเปค ได้ส่งนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ไปฝึกงานที่บริษัทฯของตนเอง นักศึกษาทั้งสองคนได้ลงไปฝึกงานในสนามจริง หลังจากนั้นนักศึกษาสองคนก็ได้มีประสบการณ์ ตนจึงได้มีการต่อยอด ให้เขาได้ทำงานได้อีก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ ตนคิดว่าถ้าเราให้โอกาส แม้ว่าจะไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯก็ตาม แต่จุดเริ่มต้นนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ 

WOAH ประกาศไทย ปลอดกาฬโรคแอฟริกาในม้า ชี้!! ช่วยส่งผลบวก 'เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว'

(3 เม.ย.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้องค์การสุขภาพสัตว์โลก (World Organisation for Animal health: WOAH) ชื่นชมการทำงานของไทย และคืนสถานะให้ประเทศไทยเป็นประเทศปลอดกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse sickness: AHS) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

‘เพจคนลูกทุ่ง’ แฉ รายการประกวดร้องเพลง ‘เบี้ยวค่าตัว’ เผย พิธีกร-กรรมการ-แดนเซอร์-นักดนตรี โดนกันหมด

(3 เม.ย.66) เพจเฟซบุ๊ก ‘คนลูกทุ่ง’ ได้ออกมาโพสต์ถึงรายการประกวดร้องเพลง ได้เบี้ยวค่าตัวทั้งพิธีกร กรรมการ แดนเซอร์ มาหลายเดือน

โดยระบุว่าข้อความว่า “รายการประกวดร้องเพลง ปิดปากเงียบ ชักดาบค่าตัว พิธีกร กรรมการ รายการประกวดร้องเพลงหน้าจอ เบี้ยวค่าตัวพิธีกร กรรมการ แดนเซอร์ นักดนตรี ไล่ล่าเงินกันกว่า 4 เดือนยังไม่ได้ ยังเงียบกริบ

ขณะที่ หนึ่งในกรรมการสายฮาชื่อดัง เคยทวงเงินหลังเสร็จการบันทึกเทปทันที หากไม่จ่ายเรื่องถึงตำรวจแน่นอน รอค่าตัวชนิดไม่ยอมกลับ หากไม่จ่าย อีกคน ฟาดทวงเงินในโซเชียล พร้อมเปิดโปงเรื่องทั้งหมดออกสื่อ จนกระทั่งได้เงินมาแค่เพียงคนเดียว

'โออาร์' และ 'สำนักงานตำรวจแห่งชาติ' ร่วมเตือนภัย 'อาชญากรรมทางเทคโนโลยี'

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ และ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมติดตั้งโปสเตอร์เตือนภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อรณรงค์ เสริมสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนป้องกันตัวเองจากภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

นายดิษทัต กล่าวว่า ปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีความรุนแรงและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยอันตรายของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ โออาร์ จึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติผลิตและติดตั้งโปสเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้เตือนภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทั่วประเทศ 

กรมกิจการพลเรือนทหารบกร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๖๖

เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๘๓๐ คุณวรางค์สิริ ศิริมณฑล รองประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กร.ทบ. เป็นผู้แทนประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กร.ทบ. พร้อมคณะสมาชิกสมาคมแม่บ้านฯ ร่วมคณะ รอง จก.กร.ทบ. เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๖๖ พร้อมทั้งได้เข้าเยี่ยมชมการประกอบอาหาร ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี

สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญ​ สาธารณประโยชน์​ เพื่อแสดงออดถึงความจงรักภักดี​ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ​ และถวายเป็นพระราชกุศล​ แด่​ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๖

โซเชียลประจาน เพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้าน แต่ไม่สำนึก อ้างเป็นพื้นที่ส่วนรวม แถมบอก "ก็เจ้าของบ้านไม่ค่อยอยู่"

ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น ครอบครัวพิลึก จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นแต่ยังแถจนสีข้างถลอกบอกเป็นพื้นที่ส่วนรวม ไม่มีสิทธิ์มาไล่

เมื่อวันที่ (2 เม.ย.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอเพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้าน อ้างเป็นพื้นที่ส่วนรวม เจ้าของบ้านไม่ค่อยอยู่ ไม่มีสิทธิ์มาไล่

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้โพสต์คลิปร้องเรียนไปถึงเพจโหนกระแส หลังเพื่อนบ้านจอดรถขวางทางเข้าออกจนไม่สามารถเข้าบ้านได้ โดยระบุข้อความว่า...

"ฝากแจ้งโหนกระแสด้วยครับ จอดรถขวางทางเข้าบ้านจนเข้าไม่ได้ บอกผมจอดได้เป็นที่ส่วนรวม เจ้าของบ้านไม่มีสิทธิ์ ตรรกะป่วย อยากดังทั้งครอบครัวก็จัดให้ครับ"

โดยผู้โพสต์ได้โพสต์คลิปขณะกำลังพูดคุยกับเพื่อนบ้าน กลับถูกตอบมาว่าในเมื่อเจ้าของบ้านไม่ค่อยได้กลับบ้าน นานๆ ทีจะมาอยู่บ้าน ดังนั้นตนจะจอดตรงไหนก็ได้ ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนรวม เจ้าของบ้านไม่มีสิทธิ์มาไล่

ต่อมาลูกสาว 2 คนของเพื่อนบ้านก็ได้มาเจรจาด้วย โดยบอกว่าถ้าเจ้าของบ้านมาเมื่อไร ก็ให้เดินมาเรียกให้ย้ายรถออกให้ ซึ่งเจ้าของบ้านก็ตอบไปว่า ทำไมจะต้องมาเรียก ในเมื่อมันคือพื้นที่หน้าบ้าน มีสิทธิ์ที่จะเข้าออกเมื่อไรก็ได้ ไม่เกี่ยวว่าจะอยู่บ้าน ไม่อยู่บ้าน นานๆ มาครั้งหรืออะไรก็ตาม มันเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้าน

‘ChatGPT’ เปิดรับสมัครตำแหน่ง ‘รับใช้ AI’ ป้อนข้อมูลใส่ระบบ ขอเพียงมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ รายได้เดือนละ 9.6 แสนบาท

อาชีพใหม่ เงินเดือน 9.6 แสน บ. คิดชุดคำตอบป้อน ChatGPT (งานรับใช้AI) ไม่ต้องจบวิศวฯ ขอแค่มีพื้นอังกฤษ จบประวัติศาสตร์ ปรัชญา ฯลฯ ก็ได้

(3 เม.ย.66) เพจ 'เดือดทะลุจุดแตก' โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...อย่าลืม พวก "แชทบอท" ประดา "ChatGPT" มันคือ AI --- ยังไงซะ มันต้องมี "คน" ที่ป้อนชุดคำตอบตั้งต้นไปให้มันสักหลายชุด เพื่อที่มันจะได้รวบรวม เรียบเรียง ประมวลผล วิเคราะห์ คิดค้นออกมาเป็นชุดคำตอบใหม่ระดับสุดยอดเหนือมนุษย์

ยิ่ง "แชทบอท" พรรค์นี้กำลังเปรี้ยงปร้าง ยิ่งแห่แหนผลิตออกมากันให้ฮึ่ม (และของที่มีอยู่แล้วก็ยิ่งต้องวิวัฒน์สู่เวอร์ชันใหม่ไฉไลเฟี้ยวฟ้าวกว่าเดิม)

"คน" จึงเป็นที่ต้องการ

งานรับใช้ AI --- มิใช่เป็นแรงงานรับใช้ AI แต่เป็นรับใช้ป้อนวัตถุดิบให้มันสมองอัจฉริยะของ AI ... ฟังดูดีขึ้นไหม

ในตลาด มีค่าตัวถึง 335,000 ดอลลาร์แล้วนะครับ ว่าไปนั่น (ตีไปเป็น 11.6 ล้านล้านบาท)

เทียบง่าย ๆ จับหาร 12 จะได้คิดเป็นเงินเดือนแบบที่คนไทยเราถนัด ก็ 960,000 บาท!!

เรียกว่าเป็น "Prompt Engineer"

วิศวกร (หลักสูตร) เร่งรัดครับ บทบาทหน้าที่ เรียกเป็นภาษาชาวบ้านก็ "AI whisperer" คนกระซิบโพยให้ AI

คุณไม่ต้องจบวิศวกรมีปริญญามาจริง ๆ นะครับ ขอแค่คุณพอมีทักษะทางภาษา รู้จักจับประเด็น จับใจความ สามารถสรุปอธิบายได้รู้เรื่องรู้ราวในภาษามนุษย์ อ้อ ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะครับ

ต้องรู้จักใช้ถ้อยคำล่ะครับ ว่าง่ายๆ

ดังนั้น จะจบประวัติศาสตร์ ปรัชญา ฯลฯ อะไรก็ได้ (คือ ก็ต้องมีความรู้ หรือไม่มี ก็ต้องมีทักษะในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อป้อน AI)

เป็นกำเนิดงานใหม่ที่น่าสนใจครับ รับใช้ AI

คุณสมบัติที่คุณพึงมีสำหรับงานนี้ : กลั่นกรองแก่นสารในความหมายของสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ในถ้อยคำที่กระชับ

ที่มา: เดือดทะลุจุดแตก

https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-03-29/ai-chatgpt-related-prompt-engineer-jobs-pay-up-to-335-000?srnd=premium-asia

‘กรมการแพทย์แผนไทย’ แนะ 2 เมนูเติมความสดชื่น ‘ข้าวแช่-ปลาแห้งแตงโม’ อาหารพื้นบ้าน ฝ่าวิกฤตฤดูร้อน

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายจังหวัดของประเทศไทยมีอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน อากาศจะร้อนเป็นพิเศษ ผู้คนส่วนใหญ่มักหากิจกรรมคลายร้อนเพื่อดับความร้อนในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความสดชื่น เช่น การไปเที่ยวแช่น้ำตามน้ำตก หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ การพักผ่อนตามสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ร่มรื่น การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อน หรือการเปิดเครื่องปรับอากาศที่บ้านเพื่อให้อากาศเย็นสบายคลายร้อน


สำหรับฤดูร้อนนี้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขอแนะนำเมนูอาหารตำรับชาววัง ช่วยคลายความร้อน คือ ‘ข้าวแช่ง เป็นเมนูอาหารที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของชาวมอญมาอย่างยาวนาน จนเข้าสู่ตำรับอาหารชาววัง ข้าวแช่ นิยมทำถวายพระสงฆ์ หรือผู้เฒ่าผู้แก่ที่ตนเคารพนับถือช่วงหน้าร้อน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เมนูข้าวแช่ ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิดที่สำคัญ คือ น้ำลอยดอกมะลิ และข้าวสวยหุงด้วยน้ำใบเตย ซึ่งมะลิ และใบเตย เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ตัวร้อน ช่วยให้ร่างกายสดชื่น

ในส่วนเครื่องเคียงที่รับประทานคู่กับข้าวแช่ คือ ลูกกะปิ ทำจากปลาย่าง (ส่วนใหญ่ใช้เป็นปลาช่อนหรือปลาดุก) มีส่วนผสมของ หอมแดง ต้นหอม ข่า กระเทียม ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระชาย พริกชี้ฟ้า สรรพคุณของสมุนไพรดังกล่าว ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ป้องกันการเป็นลมในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี พริกหยวกสอดไส้หมูสับห่อไข่ มีโปรตีนสูง บำรุงร่างกาย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก 

โดยวิธีทำ นำเนื้อหมูมาสับให้ละเอียด นำไปปรุงรส และนึ่งจนสุก ก่อนนำไปห่อด้วยพริกหยวก และไข่ที่ทำเป็น ตาข่ายแพ หมูฝอย หรือเนื้อฝอย มีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ไชโป๊ผัด มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย หอมแดงทอด ป้องกันหวัด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก นอกจากนี้ บางแห่งยังมีมะม่วงสับ ซึ่งเป็นเครื่องเคียง สรรพคุณช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ อีกด้วย วิธีการรับประทานข้าวแช่ ควรรับประทานเครื่องเคียงก่อน แล้วค่อยรับประทานข้าวพร้อมกับน้ำลอยดอกมะลิ มีรสชาติหอมเย็น จะช่วยให้สดชื่น และคลายร้อนได้เป็นอย่างดี

สมุทรปราการ- เทิดพระเกียรติ 68 พรรษา “พระครูแจ้” เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ 21 รูป เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

ที่วัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่พระภิกษุ จำนวน 21 รูป เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี

 

โดยในปี 2566 นี้ ทางวัดบางพลีใหญ่กลางโดย ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่พระภิกษุ จำนวน 21 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ อีกทั้ง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน

 

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน วัดบางพลีใหญ่กลางพร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่พระภิกษุ จำนวน 21 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นตัวแทนบุตรหลาน ประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ประจำปี 2566 ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สมุทรสาคร และ สุสานวัดดอนกุศล (สุสานเก่าของมูลนิธิ) เขตสาทร กรุงเทพฯ

วันที่ 29 มีนาคม และวันที่ 2 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก  นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ กรรมการ และนางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นำทีมเจ้าหน้าที่บริหาร และพนักงาน ประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ประจำปี 2566 โดยเครื่องเซ่นไหว้ประกอบไปด้วย เครื่องคาวหวาน กระดาษเงิน-กระดาษทอง และดอกไม้หอม ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ สุสานวัดดอนกุศล (สุสานเก่าของมูลนิธิ) เขตสาทร กรุงเทพฯ

เทศกาลเช็งเม้ง กำหนดจัดขึ้นในระหว่างเดือน 2-3 ของจีน ซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณต้นเดือนเมษายนของทุกปี เป็นเทศกาลที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื้อ ที่สืบทอดมายาวนานกว่าพันปี ก่อนวันพิธี จะมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ หลังจากนั้นในวันพิธีจะมีการเซ่นไหว้อาหารคาวหวาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ เมื่อไปอยู่อีกภพหนึ่ง

กว่า 113 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น ยังมีสุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสำหรับฝากฝังศพไร้ญาติ โดยในแต่ละปีจะมีการเซ่นไหว้อาหารคาวหวานตามประเพณี รวมทั้ง "เทศกาลเช็งเม้ง" ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งถือเป็นเทศกาลสำคัญประจำปีเทศกาลหนึ่งในการปฏิบัติตนแทนลูกหลานเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรชีวิตในทุก ๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top