Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

แก้ที่ต้นตอ!! รัฐบาล เชื่อมโยงฐานข้อมูลเกษตรกร หวังแก้ไขปัญหาหนี้สินตรงจุดแบบพุ่งเป้า

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผนึกกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาและบูรณาการการเชื่อมโยงฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การผลักดันแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรแบบพุ่งเป้า ตรงจุดและยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนภาคเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 14 หน่วยงาน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรไทย ซึ่งการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เพื่อร่วมกันพัฒนาฐานข้อมูลที่สามารถสะท้อนสถานะหนี้และศักยภาพทางเศรษฐกิจของครัวเรือนเกษตรกร ผ่านการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่สำคัญของประเทศ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการศึกษา และสร้างความเข้าใจถึงสาเหตุและต้นตอของปัญหาหนี้ของครัวเรือนเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญให้ผู้กำหนดนโยบายและสถาบันการเงินสามารถนำไปใช้ในการออกแบบ และผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรได้อย่างตรงจุดและยั่งยืนยิ่งขึ้น

'อนุทิน พิพัฒน์ นาที' ร่วม 'พิธีมุทิตาสักการะ' เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ จ.ตรัง

ที่สำนักสงฆ์พรหมประทาน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รักษาการ) นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดิน ( รักษาการ ) ดร.นาที  รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย และคณะ ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมวันกตัญญูผู้สูงวัยด้วยคุณธรรม ด้วยการร่วมพิธีถวายมุทิตาสักการะ เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์(พระอารามหลวง) ถวายโฉนดที่ดินและเสนาสนะ เพื่อสร้างวัดในพระพุทธศาสนาต่อไป และร่วมเดินพบปะกับประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับและร่วมพิธีจำนวนมากได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น 

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่มั่นของพรรคภูมิใจไทยคือทั่วประเทศ พรรคของเราเป็นของคนไทยทุกคน ซึ่งเรามีหน้าที่ต้องทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน เรามี ส.ส.ทุกภาคของประเทศไทย ภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ เราทำงานมา 4 ปี แล้ว มีผลงานอย่างชัดเจน เป็นพรรคที่ส่งมอบนโยบายที่เราได้สัญญากับประชาชนเมื่อปี 2562 ทำได้แทบจะครบทุกนโยบาย หวังว่าผลงานของพรรคภูมิใจไทยก็จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศเชื่อมั่นให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งภายในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตอนนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 7 เขต แต่ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนที่เป็นพื้นที่เป้าหมายส่งผู้สมัครครบแล้วทุกคนผ่านไพรมารีโหวตผ่านตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งทุกประการ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่เราทำไว้ช่วงที่ผ่านมา ทำสะพานเชื่อมเกาะลันตา ทำสะพานที่เชื่อม จ.พัทลุง ผ่านไปยัง จ.สงขลา ได้ด้วยการร่นระยะเวลาการเดินทางกว่า 70 กม. และยังมีโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย โครงการคมนาคมขนส่ง ขยายสนามบินในหลายๆจังหวัดในภาคใต้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาผงาดศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ หมายถึงอาเซียนและเอเชียด้วย จะทำให้เกิดสภาพทางเศรษฐกิจพื้นที่ทางเศรษฐกิจขยายตัวในพื้นที่ทางภาคใต้ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เป็นแหล่งดูแลสุขภาพ “เมดิคัล ฮับ ออฟ เดอะ เวิลด์” ที่จะอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ตรงนี้จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ของประชาชนทั้งสังคมที่จะทำให้ประชาชนมีความสงบสุข มีการมีงาน มีโอกาส มีฐานะที่ดี

ผู้ช่วยรัฐมนตรีแรงงาน มอบรางวัลองค์กรสร้างชาติดีเด่นแก่สถานประกอบการต้นแบบ มุ่งดูแลสุขภาพพนักงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี

วันที่ 1 เมษายน 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "องค์กรสุขสภาพเพื่อการสร้างชาติ โดยมี นายสัตวแพทย์ วีรพล เหมรัตนากรณ์ ประธานกรรมการบริหารคณะทำงานองค์กรสร้างชาติ รุ่นที่ 1 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ พร้อมด้วย นางสาวอรัญญา สกุลโกศล กรรมการรุ่นที่ 1 ผู้นำการประกอบการ WeIlness เพื่อการสร้างชาติ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรผู้รับรางวัล ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม Grand Ballroom คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ

นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและสุขภาวะของลูกจ้าง ที่ทำงานในสถานประกอบกิจการเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ได้ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการ Wellness CNB นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ให้สำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ นำร่องพร้อมกันในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ระยอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร ปทุมธานี และชลบุรี อีกทั้ง กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ยังได้ปรับปรุงกฎหมายเรื่องลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบกิจการอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังให้ลูกจ้างมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงาน

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า การจัดงานพิธีมอบรางวัลในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสถาบันการสร้างชาติ ร่วมกับ คณะนักศึกษา ผู้บริหารหลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ (นสช. Wellness) ได้ริเริ่มโครงการ “การพัฒนาสุขสภาพขององค์กร เพื่อการสร้างชาติ (Wellness Corporate Nation-Building หรือ Wellness CNB)”เป็นการมอบรางวัลครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและพัฒนาสุขสภาพ ของพนักงานในภาคธุรกิจอย่างเป็นองค์รวม บูรณาการทั้งปัจจัยภายในบุคคล และปัจจัยภายนอกอย่างครบทุกมิติ ซึ่งจะช่วยลดการเจ็บป่วย เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการทำงาน เกิดความคิดทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เสริมสร้างสัมพันธ์อันดีในที่ทำงาน ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพในการทำงานเกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวองค์กรเอง และการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ 

ศอ.ปกป.ภาค 3 ส่งกำลังทหารสนับสนุน จ.เชียงใหม่ หลังพบไฟไหม้ป่าไหม้ลุกลามบนดอยสุเทพ

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค3) ได้สนับสนุนชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า กองทัพภาคที่ 3 ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ 2 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 30 นาย พร้อมอุปกรณ์ดับไฟ สนธิกำลังร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 100 นาย หลังจากเกิดเหตุไปไหม้ป่าบนพื้นที่ป่าภูเขาสูง ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ของ อ.สะเมิง อ.หางดง และ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยจะจัดชุดเดินเท้าทางภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟและสร้างแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ของประชาชนโดยรอบ พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดรถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน จากเทศบาลตำบลสุเทพและเทศบาลเมืองแม่เหียะ เตรียมความพร้อม หากลุกลามเข้ามาในพื้นชุมชนและหมู่บ้าน

ปทุมธานีนครรังสิตร่วมกับ ม.ธรรมศาสตร์ จัดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 เวลา 05.00 น. ที่บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง (ดร.โบว์ลิ่ง) นายกเทศมนตรีนครรังสิต เป็นประธานเปิดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT เพื่อมอบทุนสนับสนุนด้านการศึกษา โดยมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน


โดยบรรยากาศมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT มีการนำอบอุ่นร่างกาย (Warming up) จากนั้นเวลา 05.00 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร จากนั้นเวลา 05.15 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร และ เวลา 05.30 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 3 กิโลเมตร โดยเส้นทางวิ่งจะเป็นเส้นเลียบคลองรังสิตและวิ่งวนกลับมายังจุดเริ่มต้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จากนั้นมีการมอบเหรียญให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และมอบถ้วยรางวัลให้ผู้ที่ชนะเลิศเข้าอันดับหนึ่ง สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT เพื่อมอบทุนสนับสนุนด้านการศึกษา และเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวของนครรังสิต เพื่อรณรงค์ให้เยาวชน ประชาชนคนไทย ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและห่างไกลยาเสพติดด้วยการเดินและวิ่งเพื่อสุขภาพ และสานสัมพันธ์และสร้างพลังสามัคคีของคนในชุมชน

ปทุมธานี ภัยแล้งมาแล้วนายกแจ๊สจับมือทุกฝ่ายบูรณาการ แก้ไขปัญหาช่วยเกษตรกรอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองเสือ ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาภัยแล้งในเขตพื้นที่อำเภอหนองเสือ เพื่อป้องกันและแก้ไขภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.ปทุมธานี ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอหนองเสือ , นายมานพ แจ่มมี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ , นายเฉลิมพล ทองน้อย ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 11 เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตร พืชผักผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกมามอบให้นายกแจ๊สและทีมงานเพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เกษตรชาวหนองเสือ


โดยมี นายพิษณุ พลธี อดีต ส.ส.เขต.6 ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย (นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดปทุมธานี) และผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในคลองส่งน้ำที่เก้า เนื่องจากเป็นคลองที่มีสภาพตื้นเขินทีสุด หากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ลดน้ำในคลองส่งน้ำหลักจะแห้งอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำไหลเข้าคลองย่อยหรือคลองซอยตามธรรมชาติไม่ได้ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เบื้องต้น ทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 เครื่องมาตั้งเครื่องที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองย่อยต่าง ๆ เพื่อสูบน้ำให้เกษตรกรใช้น้ำได้อย่างปกติ


ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ได้ประสานชลประทาน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ท่านนายอำเภอฯ ทุกฝ่ายมาร่วมกันระดมรับฟังปัญหาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด วันนี้เกิดประโยชน์มากที่ทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เมื่อรับทราบปัญหาทางชลประทานจะมีการเติมน้ำเข้ามาในคลองส่งน้ำคลองหลัก เพื่อให้เราได้สูบน้ำเข้าไปยังคลองย่อยคลองซอย

‘สาวไทย’ โพสต์ติ๊กต๊อก โต้!! ข่าวเที่ยวเมืองไทยแพง หลังโลกออนไลน์ของจีนวิจารณ์ค่าครองชีพในไทยสนั่น

(2 เม.ย. 66) เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวที่ประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ ณ ขณะนี้ โดยชาวเน็ตจีนได้ออกาแสดงความคิดเห็นเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ เกี่ยวกับค่าครองชีพในไทยที่สูงขึ้น ทำให้มีผู้ใช้ติ๊กต็อก ชื่อ ‘chinbebe’ ได้โพสต์วิดีโอพูดความในใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า…

“ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพสูง ซึ่งช่วงนี้ทางอินฟลูเอนเซอร์จีนหลายคน ได้ออกมาพูดว่า “ไทยไม่ใช่ไทยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในตอนนี้เงิน 100 หยวน ไม่สามารถกินได้แบบตามใจอย่างเมื่อก่อน” ซึ่งตัวฉันเอง ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง จึงขอพูดทวงความยุติธรรมให้กับเมืองไทย ขอฝากถึงชาวจีนที่คิดว่าประเทศไทยที่คุณมาเที่ยวนั้น เที่ยวไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสีย ฉันคิดว่าถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ต้องไปเที่ยวที่อื่นแล้วค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะต้องหนักใจแน่นอน”

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกรายนี้ยังกล่าวถึงเรื่องของการใช้เงินซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยอีกว่า…

“ที่ประเทศไทยคุณสามารถใช้เงินไม่ถึง 100 หยวน เพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อ คุณจะสามารถได้ของกินอร่อย ๆ เต็มถุงใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าได้ของเยอะกว่า แถมเสียเงินน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการที่คุณไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศเกาหลี ไม่ต้องพูดถึงยุโรปเลย”

สมุทรปราการ-“อบต.บางพลีใหญ่” จับมือ “วัดบางพลีใหญ่กลาง” บรรพชาสามเณร 60 รูป เทิดพระเกียรติวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน

ที่วัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทสามเณร จำนวน 60 รูป เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี

 

โดยในปี 2566 นี้ทาง อบต.บางพลีใหญ่ นำโดย ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ ร่วมกับทางวัดบางพลีใหญ่กลางโดยได้รับความเมตตาจาก ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมกันจัดโครงการพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณร จำนวน 60 รูป เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน

 

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า ในการบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณรในปี 2566 นี้ ประกอบด้วย นักเรียนโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ โรงเรียนคลองบางกระบือ เป็นต้น ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา รวมทั้งสิ้นจำนวน 60 รูป 

 

อย่างไรก็ตาม โครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณรในปีนี้ ที่ทาง อบต.บางพลีใหญ่ ร่วมกับวัดบางพลีใหญ่กลางได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี อีกทั้ง เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน และ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงพระราชทาน ‘เข้าเฝ้า-รับรางวัล’ แก่เยาวชนคนเก่ง ภายในงานการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566

เมื่อไม่นานนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทรงเปิดการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ถึง 31 มีนาคม 2566 ภายใต้แนวคิด ‘สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน’ ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy Model เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานของบุคลากรด้านงานวิจัยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้จากเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล มั่นคง และยั่งยืน

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเปิดการประชุมและทรงตัดแถบแพรเปิด ‘นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย’ และ ‘นิทรรศการความก้าวหน้าทางงานวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

สำหรับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงโครงการต่างๆ อาทิ นิทรรศการ ‘18 ปี ภาคีวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย’ ที่เน้นการสร้างผลงานไปสู่การใช้ประโยชน์ เช่น การพัฒนาเข็มขนาดไมโครเมตรสำหรับการรักษาและตรวจวินิจฉัยโรค ที่ช่วยให้การแพร่กระจายของยาหรือสารชีววัตถุเข้าสู่ผิวหนังดีขึ้น ชุดทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อในหม้อนึ่งความดันไอน้ำ ช่วยลดต้นทุนการผลิต ใช้งานง่ายและอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า

‘โครงการภาคีโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติด้าน e-Science’ เป็นโครงการตามพระราชดำริ ในด้านการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และสนับสนุนความร่วมมือด้านฟิสิกส์อนุภาคพลังงานสูงระหว่างประเทศไทยและสภาวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรปอันสามารถยกระดับงานวิจัยของประเทศไทยให้เท่าเทียมงานวิจัยระดับนานาชาติ

‘โครงการฝึกทักษะถอดความเสียงพูด เพื่อจัดทำคำบรรยายแทนเสียง สำหรับผู้มีปัญหาทางการได้ยิน’ ซึ่ง สวทช.ร่วมกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงปทุมธานี จัดทำขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์สัมผัสและถอดความเสียงพูดแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ และ ‘NSTDA core business’ ซึ่งเป็นการแสดงผลงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ สวทช. มุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนในยุค NSTDA 6.0 ในปี 2566 ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 4 เรื่องคือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง แพลตฟอร์มบริการทางการแพทย์ดิจิทัล แพลตฟอร์มให้บริการผลิตอาหารแห่งอนาคต ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์กลุ่มสารให้ประโยชน์เชิงหน้าที่ ในรูปแบบ One stop service และแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0

เวลา 14.31 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลและทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2566

ผู้ช่วยรัฐมนตรีแรงงาน มอบรางวัลองค์กรสร้างชาติดีเด่นแก่สถานประกอบการต้นแบบ มุ่งดูแลสุขภาพพนักงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี

วันที่ 1 เมษายน 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "องค์กรสุขสภาพเพื่อการสร้างชาติ โดยมี นายสัตวแพทย์ วีรพล เหมรัตนากรณ์ ประธานกรรมการบริหารคณะทำงานองค์กรสร้างชาติ รุ่นที่ 1 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ พร้อมด้วย นางสาวอรัญญา สกุลโกศล
กรรมการรุ่นที่ 1 ผู้นำการประกอบการ WeIlness เพื่อการสร้างชาติ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรผู้รับรางวัล ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม Grand Ballroom คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ

นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและสุขภาวะของลูกจ้าง
ที่ทำงานในสถานประกอบกิจการเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ได้ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ 
ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการ Wellness CNB นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ให้สำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ นำร่องพร้อมกันในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ระยอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร ปทุมธานี และชลบุรี อีกทั้ง กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ยังได้ปรับปรุงกฎหมายเรื่องลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบกิจการอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังให้ลูกจ้างมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top