Sunday, 27 April 2025
NEWS FEED

‘บิว อรจิรา’ ทายาทหมื่นล้านธุรกิจอสังหาฯ สุดรันทด เล่าประสบการณ์อยู่ต่างประเทศ ไม่ต่างผู้ลี้ภัย

เมื่อไม่นานนี้ ไฮโซสาวตระกูลดัง ‘บิว อรจิรา บัณฑูรจินดา’ ทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน ลูกสาว ‘คุณจรูญศักดิ์ บัณฑูรจินดา’ หุ้นส่วนใหญ่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในเครือ AP สุดรันทด เล่าประสบการณ์ใช้ชีวิตในประเทศแคนาดา ผ่าน tiktok ‘บิวจินดา Beaujonda35’ ขนาดเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนผ่านการคัดเลือกจากรัฐบาล ยังถูกบูลลี่เหมือนเราไม่ใช่คน โดยเฉพาะคนไทย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า…

“เรื่องของบิว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว บิวไปอยู่แคนาดาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน มีการสอบชิงทุนผ่านโดยกระทรวงและผ่านรัฐบาลของประเทศแคนาดาอย่างถูกต้อง ต้องบอกว่าตอนนั้นบิวสอบข้อเขียน พูด อ่านเขียนผ่าน แต่เราไม่สามารถสื่อสารเป็นประโยคภาษาอังกฤษกับต่างชาติได้

แน่นอนว่า การไปครั้งนั้นเราจะมีปัญหาเรื่องภาษากับเขา ตอนที่เราสอบชิงทุนได้ตอนนั่นเรียน ม.ปลาย ก่อนไป เราดีใจมาก ได้ไปเรียนต่างประเทศ ชีวิตคงสวยหรู คงได้ไปเที่ยวในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่พอไปถึงเราต้องไปอาศัยอยู่กับโฮสแฟมิลี่ ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ทางรัฐบาลเขาจัดให้เรา ต้องบอกก่อนว่า การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เราจะไปอยู่อาศัย 2 แบบ คือแบบ ‘โฮสแฟมิลี่’ และแบบ ‘พักอาศัยกับองค์กร’

ตัวบิวเองอยู่กับโฮสแฟมิลี่ คิดว่าจะเป็นอิสระ เขาคงใจดีกับเรา แต่เปล่าเลย เราไปอยู่ในฐานะคนรับใช้ แม่บ้าน ง่ายๆ นางทาสนั่นแหละ ทำงานบ้านทุกอย่างแม้แต่เลี้ยงลูกให้เขา พอเรากลับจากโรงเรียน เราก็ต้องทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง ทำอาหาร เรียกง่ายๆ ว่าเป็นแม่บ้านแหละ หากเราทำไม่ถูกใจ เขาก็ใช้ความรุนแรง ถ้าเราพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง เขาก็จะตบหน้าเรา ตบคือตบนะคะ ไม่ใช่ตบแบบสั่งสอน ตบแบบใช้อารมณ์ แล้วก็ด่าเรา

เหมือนตามข่าวที่เราเห็นชาวพม่า ลาว เขมร มาทำงานเป็นแม่บ้านในบ้านเรา บางคนถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกดขี่ บางคนถูกข่มขืน ไม่ต่างจากบ้านเราเลย พวกฝรั่ง พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาจะมองว่าเรายากจน เป็นพวกลี้ภัย มาอาศัยบ้านเขากิน เป็นตัวถ่วงความเจริญ เมืองไทยขี่ช้างออกจากป่า ส่วนนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยกันที่มาจากทวีปยุโรป เขาก็มองว่าผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ขายตัว

บอกตามตรงโคตรเจ็บใจ มาดูถูกกันแบบนี้ คนไทยจะไม่ได้รับการยอมรับที่นั่น เขาจะมองว่าคนเอเชียยากจน มองเราเหมือนไม่ใช่คน เวลาไปเรียนก็จะไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ คนเอเซียต้องคบกันเอง เพราะแต่ละคนจะโดนทำร้ายเหมือนๆ กัน แต่บิวโดนหนักสุด ถูกทำร้ายร่างกายตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม ไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ไม่กล้าฟ้องครู เพราะสุดท้ายเราก็ต้องอยู่ที่นั่นจนครบสัญญา 1 ปี

บิวอาจเป็นคนที่อดทนเก่ง แต่เพื่อนเอเชียบางคนร้องไห้ทุกวัน โดนใช้แรงงานเยี่ยงทาสเหมือนกัน จะบอกว่าฝรั่งส่วนมากที่มีเมียคนไทย ก็เพราะเขาต้องการหาคนดูแลยามแก่ยามเฒ่า เห็นหญิงไทยหน้าเงิน ซื้อได้ด้วยเงิน เขาจะไม่ค่อยมองหญิงไทยเป็นเมียหรอก มองเป็นนางทาสมากกว่า

และนี่คือประสบการณ์ในการใช้ชีวิตเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดา พอจบ 1 ปีกลับบ้าน สัญญากับตัวเองไม่ขอกลับไปอยู่ต่างแดนอีกเลย อยู่เมืองไทยนี่แหละสบายที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่า นี่คือประสบการณ์ส่วนตัวที่บิวเจอ บางคนอาจจะโชคดีหรือโชคร้ายกว่าบิวก็ได้นะคะ”

‘รฟม.’ ปลดล็อก ‘สายสีส้ม’ เดินหน้าคืนประโยชน์ให้ ปชช. หลังศาลฯ ยกฟ้องปมจัดประมูล ชี้!! ดำเนินการโดยชอบตาม กม.

(18 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘บีทีเอสซี’ ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 2 และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 โดยศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ชี้ดำเนินการชอบโดยกฎหมาย

จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้ากว่าแผนไปแล้วประมาณ 2 ปีเศษ และยังส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังแผนการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ‘ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)’ ไปพร้อมๆ ด้วย เนื่องจากรฟม.ยังไม่สามารถหาผู้ประกอบการเดินรถได้ เพราะการหาผู้ประกอบการเดินรถทั้งเส้นทางถูกผูกรวมอยู่กับการหาผู้ร่วมลงทุนที่จะมาก่อสร้างโครงการฯ ส่วนตะวันตก

ทั้งนี้ รฟม.ได้ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกล่าช้าว่า ประเทศอาจจะเสียหายสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาท/ปี ประกอบด้วย

1.) ค่าดูแลรักษา (Care of Works) โครงสร้างงานโยธาส่วนตะวันออก 495 ล้านบาท/ปี
2.) ค่าเสียโอกาสเก็บค่าโดยสารจากรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก 1,764 ล้านบาท/ปี
3.) ค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจ 40,644 ล้านบาท/ปี

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 พบว่าโครงการรถไฟฟ้าสีส้มส่วนตะวันออก ดำเนินการก่อสร้างงานงานโยธาแล้วเสร็จ 100% เหลือแต่เพียงการทดลองวิ่งและการประกาศเปิดใช้ที่ รฟม. จะประกาศในอนาคตนี้

ส่วนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก หากไม่มีเอกชนรายใดยื่นคัดค้านคำพิพากษา เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าและการเสียโอกาสของประชาชนในการใช้ประโยชน์ รวมถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในการดูแลโครงสร้างงานโยธาโครงการฯ ส่วนตะวันออก รฟม. จะเร่งรัดและผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ตามขั้นตอนเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘บีทีเอสซี’ ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 (ครั้งที่ 2) และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน กรกฎาคม 2563 ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้บีทีเอสซีเสียหาย

‘พลอย’ พนง.โรงแรม คู่กรณี ‘พี่กบ’ ขอบคุณกำลังใจจากชาวเน็ต หลังร่วมส่งพวงหรีด แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณแม่

สืบเนื่องจากกรณีที่เดือดไปทั่วโลกโซเชียล กับกรณีของ พี่กบ และ คุณพลอย หลังจากที่คุณพลอยได้ออกมาเผยแพร่ภาพแชท ที่ตนเองได้ขออนุญาต พี่กบ ลางานเพื่อไปดูแลคุณแม่ที่ป่วยหนัก โดยมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและถือเป็นข่าวร้ายที่แม่ของคุณพลอยนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งคุณพลอยก็ได้ทักไลน์ ไปขอลางานแต่ทาง พี่กบ นั้นไม่อนุญาตและตอบว่า “จะลาออกใช่ไหมคะ ถ้าลาออกมาเซ็นใบลาออกด้วย” จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดไปทั่วโลกโซเชียล และชาวเน็ตต่างขุดพาทัวร์ไปลงสถานที่ทำงานของ พี่กบ อีกทั้งยังขุดเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พี่กบ อีกด้วย

ซึ่งทางด้านรีสอร์ตต้นสังกัดของทั้งคู่ก็ได้ออกมาแถลงการณ์แล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่า ทางรีสอร์ตได้มีคำสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าวออกจากรีสอร์ต ในขณะเดียวกันได้ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของผู้จัดการคนนี้ต่อไป และให้ คุณพลอย ทำธุระของตนเองให้เสร็จสิ้น แล้วค่อยกลับมาทำงานโดยไม่มีการไล่ออกใดๆ

ซึ่งทางด้าน คุณพลอย หลังได้เปิดใจต่อกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับ พี่กบ ตลอดว่าขณะนี้คุณแม่ป่วย อาจจะมีการขอลากระทันหันหากเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ไม่ใช่ไม่เคยบอก ไม่ใช่ไม่เคยขอ ช่วงที่รู้ข่าวจากแม่ ยอมรับว่าไม่มีคนมาหน้าที่แทน ตนพยายามแจ้งมาโดยตลอด และที่โพสต์รูปออกไปก็เพราะความน้อยใจนั้นเอง

ล่าสุด คุณพลอย ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเป็นการขอบคุณทุกกำลังใจของชาวเน็ตที่ส่งมาให้ ทั้งพวงหรีด และข้อความให้กำลังใจต่างๆ ผ่านโลกโซเชียล โดยคุณพลอยระบุข้อความว่า “พลอยขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ”

ผบ.ตร.รวมเหล่าดารา นักแสดงศิษย์เก่าลูกบดินทร ออกเตือนภัยไซเบอร์ให้กับนักเรียนรุ่นน้อง รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) หวั่นตกเป็นเหยื่อ

วันนี้ (18 ส.ค.66) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี : เยาวชนรุ่นใหม่ รู้เท่าทันภัยไซเบอร์” ณ หอประชุมอาคารบดินทรพัฒน์ โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งเป็นโครงการของ บก.น.4 โดย สน.วังทองหลาง ได้นำร่องอบรมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 3 รุ่น โดยวันนี้ได้อบรมรุ่นแรกเป็นนักเรียนชั้น ม.6 เข้ารับการอบรมจำนวน 600 คน โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.น./ผอ.ศปอส.บช.น. ,พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง พร้อมด้วยคณะวิทยากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งยังมีศิษย์เก่าบดินทรเดชาร่วมให้ความรู้แก่คณะครู บุคคลากร และนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ อาทิ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ศิษย์เก่ารุ่น 9 ,พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ. ศิษย์เก่ารุ่น 11 ,พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร./โฆษก ตร. ศิษย์เก่ารุ่น 16 พร้อมด้วยดารานักแสดงศิษย์เก่า บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี ศิษย์เก่ารุ่น 22 ,เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ และอีฟ พุทธธิดา ศิระฉายา ศิษย์เก่ารุ่น 29 

ผบ.ตร. กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ถือเป็นอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ส่งผล กระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งรูปแบบการประทุษกรรมของ คนร้ายนั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้เสียหาย เช่น การหลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าไปดูดเงินในบัญชี หรือแอปพลิเคชั่นดูดเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาโดยตลอด และร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและ เอกชนมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปราม และติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามพบว่ายังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวง อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน

ซึ่งมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันอยู่เสมอจึงมีความเสี่ยงที่จะเจอกลลวงของคนร้ายได้ การป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ได้ดีที่สุดนั้น คือ การสร้างความรู้ การประชาสัมพันธ์ให้เยาวชนและประชาชนได้รู้เท่าทันอย่างทั่วถึง ไม่ตกเป็นเหยื่อ กลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการ เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในครั้งนี้ โดยการให้ความรู้กับกลุ่มนักเรียน ซึ่งเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทัน และสามารถถ่ายทอดส่งต่อความรู้ หรือภูมิคุ้มกันนี้ไปยังคนในครอบครัว ญาติมิตร และคนใกล้ชิด เพื่อให้ขยายเครือข่ายของภูมิคุ้มกันเป็นวงกว้าง เพื่อป้องกันการหลอกหลวงจากกลุ่มคนร้ายทุกรูปแบบ

นอกจากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้จัดทำข้อสอบวัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ สำหรับภาคประชาชน เป็นลักษณะข้อสอบความรู้ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาทำข้อสอบได้รู้เท่าทันกลโกงคนร้าย และทราบถึงวิธีการปฏิบัติตนหากถูกหลอกลวง และมีรางวัลให้กับผู้ที่สอบได้คะแนนตั้งแต่ 35 คะแนนขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเป็น Iphone 14 จำนวน 60 เครื่อง เดือนละ 20 รางวัล ซึ่งมีการมอบรางวัลไปขอบเดือน ก.ค. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมทำแบบทดสอบเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัว และคนรอบตัวต่อไป

ศาลยกฟ้อง 2 คดีอาญา 'ธนาธร' ฟ้อง 'อ.อานนท์' ลุยลากไส้ 'แม่ธนาธร' คดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติต่อ

เมื่อไม่นานมานี้ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า...

ศาลพิพากษายกฟ้องสองคดีอาญาที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจฟ้องผมมาว่าหมิ่นประมาทโดยเรียกค่าเสียหายมา 24,062,475 และ 5,000,000 โดยศาลวินิจฉัยว่าเป็นการติชมบุคคลสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและปกป้องประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 วรรค 2 และ 8 จากการครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ผมจึงขอทำหน้าที่ต่อไปและขอทวงถามว่าคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติของสมาชิกครอบครัวนี้ไปถึงไหนแล้วครับ

โซเชียลแห่แชร์คลิปรีวิวโรงแรมดังที่เขาใหญ่ พร้อมขอบคุณ 'เกรซ กาญจน์เกล้า' ที่เปิดวาร์ป ‘พี่กบ’

พลังแห่งโซเชียลมันน่ากลัว! เมื่อเรื่องนี้ยังเป็นที่สนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก กรณีหัวหน้างาน ‘พี่กบ’ โรงแรมหรูย่านเขาใหญ่ สั่งให้พนักงานกลับมาเขียนใบลาออก เมื่อเสร็จธุระจากการจัดงานศพคุณแม่ เรื่องนี้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักรวมถึงทางเพจเฟซบุ๊กของโรงแรมหรู ถูกถามถึงศักยภาพพนักงานและความเห็นใจเพื่อนมนุษย์

ขณะที่ชาวเน็ตพากันตามหา ‘พี่กบ’ หัวหน้างานที่กำลังเป็นประเด็น ซึ่งเรื่องนี้ถูกพุ่งเป้าไปถึงดาราสาว ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ หลังจากมีคลิปที่สาวเกรซเคยไปรีวิวโรงแรมหรูแห่งนี้โดยมี ‘พี่กบ’ พาชมบางส่วนของสถานที่ด้วย

ล่าสุด ‘เกรซ กาญจน์เกล้า’ ได้เคลื่อนไหวโดยการโพสต์สตอรี่ ที่มีคอมเมนต์ในคลิป พร้อมระบุข้อความขำ ๆ ว่า "แต่ละวันที่ฉันต้องเจอ ไม่เกี่ยวกับฉันนะคะ" และสตอรี่ที่ ‘หญิง รฐา’ แท็กหาเธอ หลังจากมีคนเข้ามาขอบคุณเธอที่เปิดวาร์ปให้ โดยเกรซ ยังได้ระบุข้อความสั้นๆ ว่า "จะบ้าตายรายวัน" พร้อมกับอิโมจิขำจนน้ำตาไหล

โซเชียลชม!! ‘ครูหนุ่ม’ จ.เชียงใหม่ ขี่รถส่ง นร.หญิงกลับบ้าน ฝ่าดินโคลนขึ้น-ลงเขา คาดใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 66 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ ‘Kan mail’ ซึ่งเป็นคุณครูจากโรงเรียนบ้านห้วยไม้หก ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมกับคลิปวิดีโอ เผยให้เห็น ‘ครู’ และ ‘นักเรียน’ กำลังขี่รถ จูงรถ ท่ามกลางถนนที่เป็นดินโคลน พร้อมด้วยข้อความว่า…

“ขี่รถ 4 ชั่วโมง เดินเท้า 4 ชั่วโมง คิดถึงบ้านเหรอ ‘ครู’ ไปส่งเอง ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน”

ทั้งนี้ การเดินทางของนักเรียนหญิงรายนี้ค่อนข้างลำบาก ต้องเดินขึ้นเขา ประกอบกับอยู่ในช่วงหน้าฝนการเดินทางจึงยิ่งลำบากมากขึ้น คาดว่าการเดินทางแต่ละครั้งคงต้องใช้เวลาในการเดินทางหลายชั่วโมง

ชาวเน็ตเปิดวาร์ป!! ตำแหน่งงาน ‘พี่กบ’ หัวหน้าใจดำ ไม่ยอมให้ลูกน้องลาไปดูแม่สิ้นใจ ที่แท้เป็น HR ของ รร.

(17 ส.ค. 66) จากกรณีดรามา พนักงานสาวขอลางานไปดูใจแม่ก่อนเสียชีวิต หัวหน้าไม่อนุญาต สุดท้ายแม่เสียชีวิต หัวหน้าบอกถ้าเสร็จธุระเรื่องแม่ ให้มาเขียนใบลาออกด้วย กลายเป็นกระแสแรงจนชาวโซเชียลต่างก็ถามหาหัวหน้าที่ชื่อกบว่าเป็นใครทำไมใจดำได้ขนาดนี้

และต่อมาพบว่าชาวโซเชียลต่างก็ไปตามหาวาร์ปหัวหน้ากบ โดยเพจ ‘แหม่มโพธิ์ดำ’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “กบ ณ เขาใหญ่กำลังดัง ถ้าจะใจดำขนาดนี้ หางานใหม่สบายใจกว่า ถ้ามีหัวหน้าแบบนี้ วาร์ปกบในคอมเมนต์”

และต่อมาเพจ ‘อีข้อขยี้ข่าว2’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“กบเอง… กบเป็นเจ้าหน้าที่ HR ของโรงแรมในแชตที่บอกให้น้องพนักงานมาเขียนใบลาออกเพราะว่าแม่เสียค่ะ…”

อย่างไรก็ตามรอฟังทั้ง 2 ฝั่งออกมาพูดอีกครั้ง

‘ดร.เอ้’ ย้อนคลิป เคยเตือนเรื่องความปลอดภัยการก่อสร้าง ปมแผ่นเหล็กสะพานหล่นทับคนงานดับ บริเวณแยกลำสาลี

(17 ส.ค. 66) จากกรณี แผ่นเหล็กร่วงใส่คนงาน ที่บริเวณสะพานข้ามแยกลำสาลี ตัดเสรีไทย โดยเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย เมื่อเวลา 01.50 น. ของวันที่ 17 ส.ค. 66

ล่าสุด นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้แชร์ข่าวดังกล่าว และให้ความเห็นว่า…

“ขนลุก!!! ผมเคยบอกไปแล้วว่า สะพานของ กทม. ข้ามแยกบางกะปิ การก่อสร้างอันตรายมาก ระวังของร่วงลงมาทับคน วันนี้มีคนตายจนได้ ไม่น่าเกิดเลยครับ ผมเสียใจมากจริงๆ”

ทั้งนี้ ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ได้โพสต์เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่พาไปดูการก่อสร้างสะพานที่หน้าตลาดบางกะปิ ว่าคอนกรีตร่อนลงมา และสามารถตกใส่หัวคนได้เลย ขณะที่ที่กันของ และบอกว่า เซฟตี้ไม่เคยมาก่อนเลย หล่นใส่ใครถึงตายได้

ทั้งยังได้โพสต์ข้อความว่า “ผมเคยเตือนเมื่อเดือนเมษายน งานก่อสร้างสะพานข้ามแยกบางกะปิ หวาดเสียว ไม่ใส่ใจคน ไม่ได้มาตรฐาน วันนี้คนตายจนได้ นี่คือเรื่องใหญ่ในสังคมไทย เราไม่ควรเพิกเฉย อันตรายใกล้ตัวกว่าที่ท่านคิด อาจเกิดกับใครก็ได้ #สะพานบางกะปิ #แผ่นเหล็กหล่น #องค์กรเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ”

‘เสี่ยเฮ้ง’ สั่งตรวจสอบ-ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กรณีลูกจ้างถูกหัวหน้าไล่ออก หลังขอลาไปงานศพแม่ 

(17 ส.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง กรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวลูกจ้างสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก โดยนำภาพแชตคุยกับหัวหน้าที่ทำงาน กรณีขอลางานเนื่องจากแม่ป่วยหนักและใกล้จะเสียชีวิต แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลางาน ว่า ผมได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ในเบื้องต้น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 34 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลากิจเพื่อกิจธุระอันจำเป็น เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกิน 3 วันทำงาน เนื่องจากการลากิจธุระอันจำเป็น เป็นสิทธิพื้นฐานที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดสิทธิให้ลูกจ้างทุกประเภทมีสิทธิลากิจได้ แม้จะเป็นลูกจ้างทดลองงาน ลูกจ้างรายวัน และลูกจ้างประเภทอื่น ย่อมได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ผมได้กำชับให้พนักงานตรวจแรงงานเร่งสอบข้อเท็จจริงจากนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยกระทรวงแรงงานจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา (สสค.นครราชสีมา) ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย หากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำงาน สามารถปรึกษา ร้องทุกข์ ร้องเรียน ได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top