Saturday, 21 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

อุทัยธานี – นักเรียนเฮ !! เปิดเทอมวันแรก พบไอเดียเจ๋ง ด่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน เสริมความรู้กับโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนลานสักวิทยา ต.ลานสัก อ.ลานสัก ไปพบกับไอเดียเจ๋งของคุณครู ด้วยตู้เครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน ด้วยการล้างมือเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยมือถือเพื่อเสริมความรู้ด้านโรคโควิด ได้ทั้งหมดในตัวเดียวกัน และยังช่วยตรวจได้อย่างรวดเร็ด โดยไม่ต้องมีคนมายืนเฝ้าที่เครื่อง โดยโรงเรียนลานสักวิทยา ได้ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน เพื่อนักเรียน และคณะครู และผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอยากจะเข้าพบปะติดต่อกับราชการทางโรงเรียน

โดยนายภาณุพงศ์ มั่นพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนลานสักวิทยา พร้อมครูและบุคลากรจำนวน 54 คน รวมนักเรียนจำนวน 779 คน ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียน ได้มีการเปิดภาคเรียนเป็นวันแรก โรงเรียนลานสักวิทยา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยให้กับนักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียน ผู้ปกครอง ก่อนเปิดภาคเรียนทางโรงเรียนก็ได้เตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองเพื่อความมั่นใจกับทางโรงเรียน ทั้งนี้ทางโรงเรียนลานสักได้มีรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน 2 รูปแบบ คือการเรียนแบบออนไซต์ และออนไลน์ ในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกโรงเรียนที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน โดยผ่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิแบบอัตโนมัติ รวมถึงล้างมือเจล และสแกนมือถือยิงคิวอาร์โค้ดแสดงวิธีการปฏิบัติและเพิ่มความรู้ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยผ่านเครื่องการ์ด ไม่ตก ชกตลอด เครื่องเดียวได้ครบขั้นตอน


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์

ชลบุรี - กระทบหนัก ร้านเสริมความงาม ร้านสัก ร้านอินเทอร์เน็ต กว่า 50 คน พบ ผวจ.ชลบุรี ขอผ่อนผันเปิดกิจการ หลังหนี้สินล้น จากพิษโควิด

เจ้าของกิจการสถานเสริมความงาม ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านสักผิวหนัง ประมาณ 50 คน ทนไม่ไหว หลังโดนปิดมานานกว่า 7 เดือน ในการระบาดแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 3 ครั้ง โดนทวงหนี้ค่าเช่าและหนี้สินล้น เดินทางเข้าขอพบผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี ขอผ่อนผันให้เปิดกิจการ โดยยอมทำตามมาตรการของ ศคบ.ทุกอย่าง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี น.ส.ณัฐวรันทร์ ศรีประไหม อายุ 34 ปี เจ้าของสถานเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พร้อมเจ้าของร้านอื่น มีทั้งเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตและร้านรับสักผิวหนัง ในภาคตะวันออก ประมาณ 50 คน ได้นัดรวมตัวกันเดินทางเข้าพบนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนผันให้เปิดบริการ หลังโดนสั่งปิดกิจการ 3 ครั้ง รวมกว่า 7 เดือน

ต่อมานายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางลงมารับมอบหนังสือจากตัวแทน และให้ตัวแทนรวม 6 คน เข้าพูดคุยในห้องประชุมศาลากลาง จ.ชลบุรี โดยในหนังสือมีข้อความว่า “เรียน ท่านผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัดชลบุรี สิ่งที่แนบมาด้วยมาตรการแนวทางในการ ปฏิบัติตามเงื่อนไข การป้องกันโรคระบาด เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสไคโรน่า 2019 จึงส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ต้องหยุดกิจการลง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส รวมไปถึงกิจการคลินิกเสริมความงาม ที่หยุดกิจการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ซึ่งรวม 3 ครั้ง ปิดไปประมาณ 7 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการคลินิกได้รับผลกระทบ จากรายจ่ายของกิจการที่ยังคงดำเนินอยู่ อาทิ ค่าเช่าสถานที่เปิดร้าน ด่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าจ้างพนักงานเฝ้าร้านที่ให้ช่วยสอดส่องคูแลทรัพย์สินภายในร้าน ในช่วงที่ปิดกิจการ ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการเล็งเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศดีขึ้น

โดยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงงานและแคมป์แรงงานต่างด้าว ไม่มีการระบาดเป็นวงกว้างในชุมชนปกติทั่วไป รวมถึงห้างสรรพสินค้า ดังนั้น ข้าพเจ้ากลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม) จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่าน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ร้านเปิดคำเนินกิจการ โดยกลุ่มผู้ประกอบการได้จัดทำมาตรการ ในการให้บริการภายในร้านดังนี้

ผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม)

1.พนักงานประจำร้านสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shicd ตลอดเวลาที่ทำงานภายในร้าน และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน

2.จัดทำ QR Code ของไทยชนะ เพื่อให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าใช้บริการ

3.มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ ภายในร้าน

4.จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เพื่อให้มีระยะห่างอย่างเหมาะสม (Social distancing) อย่างน้อย 3 ตารางเมตรเมตรต่อ 1 คนและผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 1 เครื่องเท่านั้น

5.จัดเก็บข้อมูลถูกค้าที่เข้าใช้บริการ ชื่อ-นามสุกล / วัน-เวลาเข้าใช้บริการ และเบอร์โทรศัพท์

6.ทำความสะอาดเครื่องมือทันที และทุกครั้งหลังถูกค้าใช้บริการเสร็จสิ้น หรือทุก 2 ชั่วโมง โดยทำความสะอาดตามจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในร้าน เช่น อุปกรณ์ต่าง ๆ เดียง โต๊ะ เก้าอี้ ที่มีการสัมผัส มือจับประตู ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและดวบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ในสถานประกอบการ ร้านเกม/อินเทอร์เน็ต

1.การเว้นระยะห่างเปิดให้บริการแบบเครื่องเว้นเครื่องและทำฉากกั้นที่มั่นคงแข็งแรงโดยมีความสูงไม่น้อยกว่า 50 ซม.และให้บริการลูกไม่เกิน 50% ของจำนวนเครื่องที่ให้บริการ (ร้านขนาดเล็กให้บริการได้ไม่เกิน 10 คน ,ขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้บริการได้ไม่เกิน 25 คน)

2.พนักงานและผู้เข้าใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ตลอดเวลาที่ใช้บริการ งดการมีปฏิสัมพันธ์ งดผู้ชม ใช้บริการได้เฉพาะผู้เข้าใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น

3.มีการตรวจวัดอุณหภูมิตัดกรอง สแกนไทยชนะ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าใช้บริการ งดให้บริการผู้ที่มีอาการไข้ไอจาม หอบเหนื่อย หรือเป็นหวัด และในระหว่างให้บริการ พนักงานต้องคอยหมั่นสังเกตและสอดส่องอย่างเคร่งครัด หากพบลูกค้ามีอาการไองามสามารถแจ้งให้หยุดใช้บริการได้ทันที

4.ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เพียงพอ

5.มีแบบฟอร์มบันทึกการเข้าใช้บริการและแบบสอบถามการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง (โดยทางร้านมีการติดตามข้อมูลรายละเอียดพื้นที่เสี่ยงจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีทุกวัน)

6.ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อประตูทางเข้าออก ประตูห้องน้ำ ทำความสะอาดทุก 1 ชั่วโมง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดรวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง และทุกครั้งหลังลูกค้าเลิกใช้บริการ ถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อวันละ 2-3 ครั้งทำความสะอาดห้องน้ำด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำทุก 1 ชั่วโมง

7.เปิดประตูเพื่อระบายอากาศทุก 2 ชั่วโมง (เป็นเวลา 10-15 นาที) และทำความสะอาด เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศให้ได้อย่างสม่ำเสมอ

8.หลีกลี่ยงการสัมผัสเงินโดยตรงโดยใช้ภาชนะเพื่อรับเงินหรือการใช้ e-payment

9.หากผู้ประกอบการ หรือพนักงานให้บริการ หรือผู้เกี่ยวข้องมีอาการไข้หรือเป็นหวัด ให้หยุดงานและ ไปพบแพทย์โดยทันที และ

10.กำชับบุคคลที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการค้านสาธารณสุข D-M-H-T-T

นายวุฒิพงษ์ หมื่นจำนงค์ อายุ 44 ปี กิจการร้านอินเตอร์เน็ต เผยว่า วอนท่านผู้ว่าได้ทบทวนคำสั่งเพื่อช่วยเหลือพวกเราด้วย เราพร้อมที่จะทำตามคำสั่งขอให้เปิดบริการได้ เพราะเราไม่ไหวแล้วจริง ๆ

น.ส.ศุภนิจ ก๊กรัมย์ อายุ 40 ปี เจ้าของสถานเสริมความงาม เผยว่า อยากให้ท่านผู้ว่าทบทวนคำสั่งใหม่ ขนาดท่านนายกฯยังยอมผ่อนผันในบางแห่งเลย ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป เรามาครั้งนี้เพราะทนไม่ไหวแล้ว ปิดนานแต่เรามีรายจ่าย ทุกวันทุกเดือน เพราะต้องจ้างคนดูแลร้าน ส่วนลูกน้องนั้นก็จะโดนยึดหมดแล้วทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เขาปิดเราแต่ไม่มีการเยียวยาใด ๆ เลย เจ้าของธุรกิจเขาก็ต้องดูแลน้อง ๆ เขา แต่ว่ามาถึงจุดตอแนนี้ก็ดูแลไม่ไหวแล้วเหมือนกันจึงมาของอนุเคราะห์ผ่อนผันให้เปิดได้ด้วยนายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ก็จะนำหนังสือไปมอบให้ท่านผู้ว่าฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ในวันพฤหัสนี้ เพื่อขอผ่อนผันให้เปิดต่อไป ซึ่งก็เห็นใจทุกฝ่าย คาดว่าทางคณะที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ก็คงพิจารณาอีกครั้ง    


ภาพ/ข่าว  นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองยังไม่กล้าส่งลูกมาเรียน !! เปิดเทอมวันแรก เข้มมาตรการโควิด-19

บรรยากาศเปิดเทอมวันแรก หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศดีเดย์พร้อมกัน 14 มิถุนายน ทั่วประเทศ หลายโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ยังคงเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยตั้งจุดคัดกรอง แบ่งเลขที่คู่-เลขคี่ สลับวันมาเรียน ขณะที่ยังมีผู้ปกครองบางส่วน ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาโรงเรียน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลายโรงเรียนยังคงยึดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งจุดคัดกรอง ให้ครูตรวจวัดอุณหภูมิเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งให้สวมหน้ากากทุกคน ทั้งนี้หลายโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ชุด โดยแยกเลขที่คี่และเลขที่คู่อย่างละครึ่ง สลับวันกันมาเรียน เพื่อลดความแออัด

ทั้งนี้ ในภาพรวมยังมีผู้ปกครองบางส่วน ที่ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากยังห่วงเรื่องการติดโรคโควิด-19 เพราะยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ และเด็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกนี้ มีนักเรียนค่อนข้างบางตา ส่วนผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนนั้น หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมาเรียน แต่ก็ได้มีการป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยง โดยห่อข้าว ห่อน้ำเป็นส่วนตัวมาเป็นอาหารกลางวัน ส่วนการเดินทางทั้งรถตู้และรถโดยสารนั้น บางคันยังพบว่ามีการนั่งเบียดกันมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในการคัดกรองหลังรถรับส่งนักเรียนและผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานนั้น มีคณะครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกเท่านั้น

ด้านนายสมพงษ์ หมายเทียนกลาง อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านท่าอุดม ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดเทอมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยนัก เนื่องจากในพื้นที่และจังหวัดต่าง ๆ ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน ทั้งรายบุคคลและกลุ่มก้อน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาของทางจังหวัดอย่างเข้มข้นตลอดมา ซึ่งค่อนข้างเป็นที่พอใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายไปได้ ส่วนที่เป็นกังวลบ้างก็ตรงที่เปิดภาคเรียนให้เด็กมาโรงเรียน เนื่องจากจะเกิดความแออัดและมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19

นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ตนให้หลานขึ้นรถตู้ซึ่งเหมารายเดือนมาโรงเรียน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจให้หลานนั่งรถตู้มาโรงเรียนดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประวัติรถตู้คันดังกล่าวแล้วว่าอยู่ในพื้นที่  ไม่ได้เดินทางมาจากจุดเสี่ยง มีอุปกรณ์ป้องกันโควิดอย่างครบถ้วน และเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถไม่แออัด เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ตามมาตรการรักษาระยะห่าง เพื่อความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางโรงเรียน ตนจึงเดินทางมาสังเกตการณ์  และอยากสอบถามทางโรงเรียนว่าจะให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากได้เห็นมีการคัดกรองเด็ก และผู้ปกครองอย่างเข้มข้นแล้วก็อุ่นใจ ว่าบุตรหลานและเด็กนักเรียนจะปลอดภัยจากโควิด-19 ในช่วงเปิดเทอมนี้


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

พิจิตร – กรมชลประทาน ทุ่มงบ 580 ล้านบาท สร้างประตูระบายน้ำ ในแม่น้ำยมพื้นที่พิจิตร

กรมชลประทานให้สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่3 นำงบ 580 ล้านบาท ลงมือสร้างประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างในแม่น้ำยมเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร เริ่มลงมือแล้วคาดแล้วเสร็จปี67มั่นใจช่วยชาวนาลุ่มน้ำยมเกือบ 3 หมื่นไร่ ให้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ โครงการนี้มีการจ้างแรงงานชาวบ้านนับร้อยคนในท้องถิ่นทำให้มีรายได้มีงานทำในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิดอีกด้วย

วันที่ 14 มิ.ย. 2564 นายเสกโสม เสริมศรี ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายพิรัฐภัช พานทอง หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความคืบหน้าของการก่อสร้างประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 580 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่ในแผนปี64-67 ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยม พิกัด  ต.ไผ่ท่าโพ  อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างแห่งนี้ จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ในแม่น้ำยมได้ประมาณ 5.10 ล้านลูกบาสก์เมตร  (ห้าล้านหนึ่งแสนลูกบาศก์เมตร) ระยะกักเก็บน้ำ 19.20 กิโลเมตร พื้นที่รับประโยชน์ครอบคลุม 3 ตำบล 2 อำเภอ ได้แก่ ต.วังจิก  ต. ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง , ต.บางลาย อ. บึงนานาง ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 28,863  ไร่

สำหรับการก่อสร้างที่เห็นในภาพเป็นการก่อสร้างเขื่อนกันแนวตลิ่งบริเวณหน้าวัดประดาทอง ซึ่งอยู่ตอนท้ายของ ปตร.โพธิ์ประทับช้าง โดยการก่อสร้างครั้งนี้มีการแจ้งงานที่เป็นชาวบ้านและคนในท้องถิ่น จำนวนนับร้อยคนที่สลับสับเปลี่ยนกันมาทำงานวันละ 40-50 คน ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้มีงานทำในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิด รวมถึงช่วงนี้นาข้าวของเกษตรกรก็ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงอีกทั้งน้ำในแม่น้ำยมก็ยังแห้งขอดทำให้เกษตรกรต้องหาอาชีพเสริมด้วยการมาเป็นคนงานก่อสร้างของโครงการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านที่มาเป็นคนงานก่อสร้างภายในโครงการก็มีมาตรการป้องกันโควิดโดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยรวมถึงต้องเอากระติกน้ำหรือน้ำดื่มมาดื่มกินเป็นของส่วนตัวห้ามใช้ภาชนะหรือแก้วน้ำร่วมกัน จึงทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

การก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมขณะนี้กรมชลประทานก็กำลังสร้างพร้อม ๆ กันถึง 4 แห่ง คือที่ ปตร.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถัดลงมาก็คือ ปตร.ท่าแห ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม , ปตร.วังจิก ต.โพธิ์ประทับช้าง และ ปตร.โพธิ์ประทับช้าง ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งคาดว่าทั้ง 4 แห่ง จะแล้วเสร็จตามแผนในราวปี 2567 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำยมของ จ.พิษณุโลก – จ.พิจิตร จะมีน้ำให้นาข้าวนับแสนไร่ได้มีน้ำทำนาอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกษตรกรต่างขอบคุณรัฐบาลและกรมชลประทานที่ดำเนินการสร้างประตูระบายน้ำทั้ง 4 แห่งดังกล่าว

 


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

 

ขอนแก่น - ส.ส.อีสาน พปชร. พร้อมรับ “ลุงป้อม” ประชุมใหญ่ พปชร.ที่ขอนแก่น “เอกราช” ระบุยังไม่มีวาระใดสอดแทรกทุกอย่างยังเป็นปกติ ปมขัดแย้งภายในไม่มี และใครที่ไม่ได้รับหนังสือเชิญประชุมไม่มีสิทธิ์นับองค์ประชุมและเข้าห้องประชุมเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยจากสถานกา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.2564  ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งตั้งอยู่ ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมด้วย นายวัฒนา  ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และนายเจริญ แซ่เต็ง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมคณะทำงานพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ในการเตรียมการตามขั้นตอนต่าง ๆ และความพร้อมในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้กำหนดจัดการประชุมในวันที่ 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือ ไคซ์ โดยจะมีคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมการในระดับพื้นที่ทั้งสถานที่การประชุม สถานที่รองรับสมาชิกพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.นั้นในภาพรวมเรียบร้อยแล้ว ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งคณะทำงานได้ประสานงานร่วมกันกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และ สำนักงานสาธารณสุข ในการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยจำกัดผู้เข้าร่วมประชุม350 คน ดังนั้นสมาชิกพรรคท่านใด ที่ไม่ได้หนังสือเชิญประชุมจากหัวหน้าพรรคฯโดยตรง จะไม่มีสิทธิ์และสามารถเข้าห้องปรดชุมที่กำหนดไว้ได้ ตามมาตรฐานคามปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และที่สำคัญคือจะไม่มีสิทธิ์นับองค์ประชุมหรือลงมติใดๆได้ แต่ก็ได้มีการจัดสถานที่รับรองและพักคอยไว้ในจุดที่กำหนด โดยจะมีการถ่ายทอดสดมาให้กับผู้ที่มาในสถานที่ประชุมแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้ติดตามการประชุมของพรรคตามวาระในภาพรวมทั้งหมด

“ ในการประชุมดังกล่าวนี้นั้นสมาชิกพรรค ทั้ง 350 ท่านที่ได้รับหนังสือเชิญประชุม จะลงทะเบียนตามรายชื่อที่กำหนดในการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐประจำปีครั้งที่ 1/2564 ตั้งแต่เวลา 08.00-10.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดคอยตรวจคัดกรองและดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ขณะที่การประชุมจะดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. จากนั้นทุกคนจะเดินทางกลับทันที โดยไม่มีการลงพื้นที่หรือปฎิบัติภารกิจใดๆในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งขณะนี้การประชุมนั้นยังคงเป็นไปตามระเบียบวาระที่กำหนด โดยเฉพาะกับการแถลงนโยบายในภาพรวมของพรรค และวาระต่าง ๆ ที่จะเสนอจากสมาชิกที่จะเข้าร่วมประชุม”

นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า สำหรับวาระที่จะนำเสนอที่ประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายในกรรมการบริหารพรรคนั้นขณะนี้ยังคงไม่มี โดยวาระการประชุมวันนี้ยังคงเป็นไปตามวาระเดิมที่พรรคกำหนด แต่หากจะมีสมาชิกท่านใดเสนอเรื่องเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมได้รับทราบและดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับนั้นสามารถที่จะกระทำได้ขึ้นอยู่กับกรมการบริหารพรรค ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นไม่ได้เป็นกรรมกีบริหารพรรคไม่สามารถที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจใด ๆ ได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ภายในพรรคเท่านั้น และขอยืนยันว่าพรรคไม่มีปัญหาขัดแย้งใด ๆ ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศและประชาชน และหากมีการเสนอเปลี่ยนเลขาธิการพรรค บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าและมากว่าเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน ซึ่ง กลุ่ม ส.ส.อีสานของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะเข้าร่วมประชุมพรรคในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงและครบทุกคน

ขอนแก่น - นักท่องเที่ยวแห่ชม "เจ้าทองคำ" จระเข้แสนซน สุดแสนน่ารักตะมุตะมิ ที่เลี้ยงไว้ภายในวัดดังขอนแก่น ขณะที่ทางวัดติดป้ายเตือนระวังนักท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยในการเที่ยวชมอย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดอุดมคงคาคีรีเขต ดอนแก่นเท้า ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากราบไหว้และทำบุญที่วัดแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งไฮไลท์และจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมากคือ "เจ้าทองคำ” จระเข้แสนซนสุดเชื่อที่พระในวัดเลี้ยงไว้ภายในสระของวัด โดยมีคณะกรรมการวัดและพระสงฆ์ยืนอยู่ริมสระ เพื่อให้อาหารและกำชับให้นักท่องเที่ยวชมความซนของเจ้าทองคำในจุดที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและทำบุญที่วัดต่างพากันให้อาหารเจ้ทองคำ ด้วยการใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตร พร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อให้มากินอาหาร ซึ่งไม่นานเจ้าทองคำก็จะมุดน้ำโผล่ขึ้นกินไก่สด ที่เสียบติดกับปลายไม้ไว้  สร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

พระลุน กันตะธัมโม พระลูกวัดวัดอุดมคงคาคีรีเขต กล่าวว่า เจ้าทองคำอาศัยอยู่ภายในสระของวัดมานานกว่า 10 ปี โดยมีญาติโยมนำมาถวาย ภายหลังจากจระเข้ตัวเก่าชื่อเจ้าบอดที่หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต พระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เลี้ยงไว้ได้ตายลง ซึ่งเจ้าทองคำนั้น สามารถสื่อสาร กับพระลูกวัดซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยง ที่สามารถสัมผัสตัวและลูบที่หัวเจ้าทองคำได้อย่างคุ้นเคย สร้างความประหลาดแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญและเข้ามาสักการะรูปเหมือนหลวงปู่ผาง อย่างมาก

"มาช่วงสถานการณ์โควิดพบว่ามีพุทธศาสนิกชนเข้ามาน้อยลงมาก แต่ยังคงมีแวะเวียนมาไม่ขาดสาย แม้ว่าเมื่อ 2 -3 ปีก่อนพระลูกวัดที่คุ้นเคยและคอยให้อาหารเจ้าทองคำจะย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น แต่ทางวัดทั้งพระและญาติโดยมยังคงเลี้ยงและดูแลโดยนำอาหารโยนให้จระเข้ทุกวัน พร้อมกับคอยเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังอย่าเข้าใกล้สระน้ำมากเพื่อความปลอดภัย"

สืบสวน ภ.จว.นครพนม ไล่ล่าขบวนการ ค้ากัญชาข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 03.00 - 09.00 น. กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตำรวจน้ำนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันขยายผลการจับกุม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง ซึ่งลักลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งในพื้นที่ จ.นครพนม  โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ผู้ต้องหา 2 คน ที่บริเวณสามแยกไฟแดงหน้าโลตัสสาขาธาตุพนม จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ พบหีบห่อถุงพลาสติกสีดำ ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 13 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 520 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน บต 4339 มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เวลาต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้สอบสวนขยายผลจากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยได้ติดตามจับกุม ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติกลุ่มเดียวกัน ได้ในขณะจอดพักที่บริเวณรีสอร์ท คุณเพียร รีสอร์ท ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร พิกัด 48Q VD 691256 ได้ผู้ต้องหา 3 ราย 1.นายสุวัชชัย แจ้งแสง อายุ 36 ปี 187 หมู่ 19 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา 2.นายสมชาติ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ที่อยู่ 628 ซ.บางบอน 3 ข.บางบอน เขตบางขุนเทียน กทม. และ 3.นายสุพัฒน์ โพธิ์ร่มขิง อายุ 32 ปี ที่อยู่ เลขที่ 4 ซอยบางกระดี่ 1 แยก 14 ข.แสมดำ ข.บางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 25 กระสอบ คาดว่าน้ำหนักประมาณ 1,150 กก. บรรทุกในกระบะหลังคาทึบของรถยนต์เชฟโรเล็ต โคโรลาโด สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒน 4730 กทม. และรถร่วมขบวนการอีก 2 คัน เป็นรถตู้ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 8712 ภูเก็ต และรถยนต์กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีบรอนด์เทา ติดสัญญาณไซเรน หมายเลขทะเบียน ถข 7545 กทม. พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถืออีก จำนวน 5 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางกลับไปสอบสวนขยายผล และแถลงข่าว จากนั้นจะนำส่งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

อช.แก่งกระจาน เปิดแผน “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ป้องปรามผู้บุกรุกป่าและล่าสัตว์

วันที่ 11 มิ.ย. นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เปิดแผนปฏิบัติการ “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ระหว่างวันที่ 7-10 มิถุนายน 64 โดยสนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจฯพญาเสือ กองร้อย ตชด.ที่ 144 ศพฐ.7 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สภ.แก่งกระจาน กองการบิน สป.ทส. สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ออกปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมายในเขตอุทยาน ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการดูแลรักษาป่าและป้องกันกระทำความผิดเกี่ยวป่าไม้ มี นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

จัดตั้งกองบัญชาการเหตุการณ์ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยส่งกำลังพลทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์รวม 15 นายลงสนาม ฮ.ชั่วคราว เพื่อเดินเท้าเข้าพื้นที่เป้าหมายระยะทางเดินเท้า 7 กม.ใช้เวลาเดินประมาณ 3 วัน 2 คืน ขณะที่ น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผช.หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำกำลังพลเดินลาดตระเวนตามพื้นที่เป้าหมายในห้วงเวลาดังกล่าว

ผลการปฏิบัติสามารถยึดเพิงพักรวม 3 หลัง หลังแรกพบเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องกระสุนปืนไทยประดิษฐ์ ดินปืนจำนวนมาก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง ซากสัตว์ป่าไม่สามารถระบุชนิดได้ซุกซ่อนอยู่ หลังที่ 2 และ 3 อยู่ห่างจากเพิงพักแรกที่ตรวจพบประมาณ 4 กม. ไม่พบบุคคลใดในเพิงพัก พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง ผ้าห่ม เสื้อผ้าที่มีสภาพใหม่ ขวานที่ใช้สำหรับตัดไม้ ขวดน้ำ สลิงที่ใช้สำหรับทำแร้วดักสัตว์ จึงทำบันทึกตรวจยึดก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ฐานความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ผู้ว่าฯนราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายติดตามจับคุมยาเสพติด หลังสายข่าวแจ้งมียาเสพติดจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ชายแดน เตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น.ภายใต้อำนวยการของ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก และนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี ดำเนินการบูรณาการ กำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เข้าตรวจยึดยาเสพติด สืบเนื่องจากชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

นำโดยนายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอ ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จึงขยายผลไปอำเภอสุไหงปาดี โดยสามารถตรวจยึดยาเสพติดยาบ้าได้จำนวน 102,800 เม็ด ณ หลังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 บ้านบือเจาะบือซา ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัดนราธิวาส 


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ตำรวจเพชรฯ จับแก๊งขนบุหรี่เถื่อนมูลค่า 6 ล้านบาท ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้จดทะเบียน มาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิง

วันที่ 11 มิ.ย. ที่หน้าทำการ ภ.จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายกฤติเดช จิตรโอฬาร ฝ่ายบริหารการจัดเก็บภาษี สรรพสามิตพื้นที่เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมาย พร้อมของกลางบุหรี่ปลอมยี่ห้อ SMS จำนวน 25,619 ซอง และบุหรี่เถื่อนยี่ห้อ Mond/John จำนวน 20,000 ซอง รวม 45, 619 ซอง คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ชะอำได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าบริเวณบ้านสระ ซอย 3 ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ อ.ชะอำ จึงรุดไปตรวจสอบพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน สีขาว ป้ายทะเบียน ยข 8030 ชลบุรี ชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางก่อนเสียหลักแฉลบพุ่งชนกำแพงร้านอาหารเจ้กุ้งพ่นไฟได้รับความเสียหายด้วย ในที่เกิดเหตุพบบุหรี่เถื่อนบรรจุใส่ลังกระดาษจำนวนมากตกอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนในรถหนีไปได้

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่าภายหลังเกิดเหตุได้สืบหาตัวคนร้ายจนทราบชื่อว่า นายนฤพงศ์ ชุ่มสวัสดิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 810/5 ถ.เพชรเกษม(บ่อแขม) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงนำหมายศาล จ.เพชรบุรี ที่ 154/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.64 เข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านบางควาย-บางไทรย้อย อ.ชะอำ นำมาดำเนินคดีในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย จำหน่ายและเสนอจำหน่ายยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต ตรา SMS ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการเนื่องจากสืบทราบว่าเป็นแก๊งรายใหญ่ที่นำบุหรี่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ในเขต อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน ซึ่งจะได้ดำเนินการจับกุมต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top