Saturday, 21 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

สลด !! ตายรายวัน “วัดหนามแดง” เปิดเมรุเผาศพเหยื่อโควิด เผย เพราะวัดเป็นของญาติโยม

ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง ต.บางแก้ว  อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้เมตตาฌาปณกิจศพ  เหยื่อโควิด-19 และนับเป็นรายที่ 4 ที่ทางวัดหนามแดงได้รับฌาปณกิจศพ นับว่ายังคงมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19  อย่างต่อเนื่องและมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอีกเป็นจำนวนมาก

ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง เปิดเผยว่า ทางวัดหนามแดง มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงพักรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อีกทั้งยังมีความเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ ที่ยังคงทำงานหนักอย่างต่อเนื่องและมีความเสี่ยงสูงในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ

ซึ่งทางวัดหนามแดงได้รับฌาปณกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 4 โดยทางวัดหนามแดงมีมาตรการในการป้องกันดูแล และคุมเข้มในการเผาศพผู้เสียชีวิต ด้วยโรคโควิด-19 โดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณพื้นที่โดยรอบ ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตใส่ภายในเมรุเผาศพ และหลังจากเผาศพร่างผู้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจตามมาตรการในการดูแลป้องกันตามกฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ประชาชนไม่ต้องกังวลและไม่ต้องกลัวติดเชื้อ

ซึ่งในการเผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 นั้น  ทางวัดหนามแดง จะดำเนินการประสานทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บางแก้ว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางแก้ว เจ้าหน้าที่ อสม.ต.บางแก้ว เพื่อตรวจคัดกรองตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง

อีกทั้งทางวัดหนามแดง มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงขอฝากไปยังประชาชนทุกคนให้ดูแลสุขภาพตนเอง และดูแลบุคคลในครอบครัว ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และขอให้ประชาชนทุกคนลงทะเบียนฉีดวัคซีน  เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและสวมใส่ผ้าปิดจมูกทุกครั้ง เว้นระยะห่าง อดทน เพื่อที่เราจะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ

โฆษกพรรคเพื่อไทย สงสัยนัดฉีดวัคซีนโควิดเข็มสองทิ้งช่วงห่าง เหตุเพราะวัคซีนไม่พอ ใช่หรือไม่?

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนก้าเข็มที่ 1 และได้รับนัดหมายฉีดเข็มที่ 2 ในระยะเวลา 2-3 เดือน บางรายระบบแจ้งเลื่อนการฉีดวัคซีนที่จองไว้ออกไปอีก ว่าเรื่องนี้อยากเรียกร้องให้ ศบค. ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชนโดยเร็ว รวมทั้งแสดงข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการเว้นระยะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่ถูกต้องปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ขณะนี้สังคมมีการตั้งคำถามว่าสิ่งเกิดขึ้นเป็นเพราะวัคซีนมีไม่เพียงพอหรือไม่ จากการรายงานของ Our world in data ซึ่งรวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนทั่วโลก ณ 6 มิ.ย. 64 พบว่า คนไทยได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเพียง 1.35 ล้านคน หรือ 1.9% ของประชากรเท่านั้น น้อยกว่าเมียนมา ที่ฉีดไปแล้ว 2.3% และอินโดนีเซีย ที่ฉีดไปแล้ว 4.6% ของประชากรทั้งหมด และยังห่างไกลจากการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ 70% ซึ่งไม่มีการตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เมื่อไหร่อีกด้วย

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องเร่งเดินหน้าจัดหา วัคซีนหลักเพิ่มเติม ที่มีคุณภาพสูง นอกเหนือจาก 2 ยี่ห้อ ที่ทยอยส่งนำเข้ามาให้ได้มากกว่า 150 ล้านโดสตามที่พลเอกประยุทธ์ ได้เคยประกาศเอาไว้ ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ประชาชนบางส่วนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปก่อนหน้านี้มีความเป็นไปได้ที่จะรับวัคซีนยี่ห้ออื่นที่มีคุณภาพดีกว่าอีกครั้ง

"การบริหารจัดการผิดพลาดเอาแต่ชี้หน้าด่าประชาชนว่าการ์ดตก มาวันนี้พลเอกประยุทธ์ยอมรับผิดทำได้แค่ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจเรื่องวัคซีน ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง เวลานี้ประชาชนจะรับคำขอโทษเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น" น.ส.อรุณีกล่าว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพชรบุรี – สมาคมคนตาบอดไทย ห่วงใยผู้พิการทางสายตาชาวเพชรบุรีช่วงโควิด มอบเงินและถุงยังชีพช่วยเหลือ

วันที่ 9 มิถุนายน ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี นายพัฒน์ธนชัย สระกวี นายกสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมรับมอบเงินสดและถุงยังชีพ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้พิการทางสายตาที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน จ.เพชรบุรี

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี ได้กล่าวแสดงความขอบคุณแทนเจ้าหน้าที่ ส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนชาวเพชรบุรี ที่ทางสมาคมฯ มีน้ำใจในการมาช่วยเหลือพี่น้องคนตาบอดในพื้นที่ของ จ.เพชรบุรี จำนวนถึง 84 ราย ซึ่งจะได้นำถุงยังชีพและเงินสดที่ได้รับมอบส่งต่อให้ผู้แทนของแต่ละอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ได้ส่งตรงถึงมือผู้พิการทางสายตาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างทั่วถึงตามเจตนารมณ์ ต้องขอขอบคุณสมาคมประชาคมคนตาบอดไทยเป็นอย่างสูงที่มีน้ำใจไมตรีในสถานการณ์แบบนี้คนไทยไม่ทิ้งกัน

นายพัฒน์ธนชัย สระกวี นายกสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย กล่าวว่า ได้นำถุงยังชีพมามอบให้กับทางจังหวัดเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้กับคนตาบอดที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และหากมีท้องถิ่นใดมีคนตาบอดที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถแจ้งไปได้ทางสมาคมฯ จะพิจารณาเพิ่มเติมมาให้

และที่โรงสีทวีรวมมิตร ตำบลสำมะโรง อำเภอเมืองเพชรบุรี นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี นายอำเภอเมือง หัวหน้าส่วนราชการ อสม.และประชาชนร่วมรับมอบข้าวสารจาก นายบุญรวม เจริญผล ผู้บริหารโรงสีทวีรวมมิตร อดีตกำนันตำบลสำมะโรง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด โดยนายบุญรวม กล่าวว่าจากสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่หลายตำบลได้ผลกระทบ โดยเฉพาะในตำบลสำมะโรงมีผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณ 9 ราย และมีผู้ที่ต้องกักตัวอีก 34 รายแล้ว มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวบ้านจึงต้องการอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ ไม่เพียงผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงเท่านั้นแต่อยากช่วยเหลือรวมไปถึง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ที่ยากไร้ ไม่มีบ้าน ที่ได้มีการสำรวจผู้เดือดร้อนไว้ทั้งหมด

ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี ได้กล่าวขอบคุณทางโรงสีทวีรวมมิตร ที่นอกจากมอบให้ชาวบ้านตำบลสำมะโรงแล้ว ยังส่งมอบข้าวสารช่วยเหลือโรงครัวเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงให้กับพี่น้องประชาชนใน 6 ตำบลเขตอำเภอเขาย้อย ด้วยซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมอบให้ อสม.และเจ้าหน้าที่นำส่งต่อให้ถึงมือชาวบ้านที่เดือดร้อน 700 กว่าครัวเรือน เพราะชาวบ้านไม่สามารถมารับได้ทั้งหมดเนื่องจากอยู่ในมาตรการการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

สำหรับสถานการณ์ โรคโควิด-19 จ.เพชรบุรี ล่าสุด(8 มิ.ย.64) มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 49 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 7,579 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,999 คน รักษาหายดีกลับบ้านแล้ว 3,572 ราย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ

ลพบุรี – ภัยแล้งส่อเค้าวิกฤตหนัก ผู้ว่าฯลพบุรี รุดลงพื้นที่หาแนวทางจัดการ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี  ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งลพบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามวิกฤตน้ำแล้ง คลองชัยนาท-ป่าสัก เน้นแต่ละอำเภอ เร่งสร้างความเข้าใจเกษตรกรสูบน้ำตามรอบเวร และชะลอการเพราะปลูก หลังฝนยังไม่ตกตามคาดการณ์ พร้อมทั้งหาแนวทางในการวางแผนการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน สำนักงานชลประทานที่ 10 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างวิกฤต ในคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก ตั้งแต่ ประตูระบายน้ำบ้านโคกกระเทียม อ.เมือง จ.ลพบุรี ต่อเนื่องขึ้นไปจนถึง ประตูระบายน้ำมโนรมย์ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ระยะทาง 86 กิโลเมตรซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหลายอำเภอของจังหวัดลพบุรี

ทั้งนี้ เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงวิกฤตของการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงไม่สามารถไหลเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก โดยแรงโน้มถ่วงได้ โดยกรมชลประทานได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม จากเดิมที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาดใหญ่ ขนาด 5 ลบ.ม. จำนวน 4 เครื่อง และขนาด 3 ลบ.ม. จำนวน 4 เครื่อง ไว้แล้วนั้น ซึ่งขณะนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม. อีกจำนวน 2 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า (Jica) ขนาด 0.5 ลบ.ม. อีก จำนวน 4 เครื่อง เพื่อเติมน้ำให้คลองชัยนาท-ป่าสักมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่า...สถานการณ์น้ำน่าจะดีขึ้นได้ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้ว กว่า 3 แสนไร่ จาก 8 แสนไร่ ให้สูบน้ำตามรอบเวร ที่ หน่วยงานราชการกำหนดไว้ และชะลอการเพราะปลูกออกไปก่อน จนกว่าปริมาณฝนที่มากพอและสม่ำเสมอ เพื่อจัดสรรน้ำให้เพียงพอทั้งด้านการอุปโภค และบริโภค รวมถึงภาคการเกษตรไม่ให้ได้รับความเสียหาย

สำหรับการแก้ไขในระยาว ได้มอบหมายให้ สำนักงานประปาส่วนภูมิภาค ทั้งสาขาบ้านหมี่ และ สาขาลพบุรี ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง สำหรับเป็นต้นทุนในการผลิตน้ำประปา ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลัก ของการอุปโภค บริโภค เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ เหมือนทุกปี ที่ผ่านมา


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์ สนใจ

บุรีรัมย์ - ชาวบ้านสุดช้ำ กล่าวทั้งน้ำตา หวังพึ่งบารมี “ย่าโม” ใช้หนี้แล้ว แต่ไม่ได้ที่นาคืน

สุนีนากร พนิรัมย์ อายุ 35 ปี และพี่สาว ภัทรพร พนิรัมย์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านแซว หมู่ที่ 6 ตำบลลำดวน อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ หมดที่พึ่ง หลังศาลฏีกา จังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินให้แพ้คดี เสียพื้นที่นา นส. 3 ก. 33 ไร่ให้กับนายทุน เดินทางมากราบไหว้ทั้งน้ำตา ขอบารมีคุณย่าโม ช่วยเหลือ

นางสาวสุนีนากร พนิรัมย์ อายุ 35 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า พ่อเคยเอาที่ไปขายฝากกับนายทุน 2 หมื่นบาท เมื่อปี 2520 และได้ไปไถ่ถอนมาเมื่อปี 2553 ด้วยวงเงินถึง 2 แสนบาท แต่นายทุนยังไม่ยอมคืนเอกสารที่นา อ้างแต่ว่ายังไม่ว่าง ต่อมาคุณพ่อได้มาเสียชีวิต เมื่อปี 2555 นายทุนรายนี้กัลับมาเดินเรื่องออกโฉนดเป็นของตัวเอง พวกเราจึงมาทำเรื่องคัดค้าน จึงเกิดเป็นคดีความ โดยในศาลชั้นต้น ให้เราชนะ แต่ในศาลอุทธรณ์ และศาลฏีกา กับให้นายทุนชนะ โดยอ้างแต่เพียงว่า ฝ่ายเราไม่มีมูล

ทุกวันนี้เลยหมดหนทางจะไป ไม่รู้จะเดินหน้าไปพึ่งใคร จึงเดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมา หวังพึ่งบารมีคุณย่าโม ช่วยเหลือ เพราะไม่เข้าใจว่า เงินก็ได้ไปแล้ว ทำไมยังมายึดที่นากันด้วย ที่นาต้อง 33 ไร่ ทำไมมายึดไปหมด ไม่เหลือที่ทำกินไว้ให้เขาบ้าง


ภาพ/ข่าว  นันทวัฒน์ อุ่มพิมาย นครราชสีมา

กรุงเทพฯ - ประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย ฮีโร่ทหารเรือ ที่ช่วยเหลือหญิงถูกปล้นบนสะพานลอย

กองเรือทุ่นระเบิดกองเรือยุทธการ ประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย ฮีโร่ทหารเรือ ที่ช่วยเหลือหญิงเคราะห์ร้ายถูกปล้นทรัพย์บนสะพานลอย

วันที่ 8 มิ.ย. 64 พล.ร.ต.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ได้ประกาศเกียรติคุณ แก่ จ.อ.อริย น้อยมี จ่าพยาบาลเรือหลวงท่าดินแดง ที่ได้ให้การช่วยเหลือหญิงเคราะห์ร้ายถูกชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บบนสะพานลอย หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จนได้รับความปลอดภัยทั้งร่างกายและทรัพย์สิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา

โดยผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กล่าวแสดงความชื่นชมว่า จ.อ.อริย น้อยมี ถือเป็นความภาคภูมิใจของ กองทัพเรือ กองเรือยุทธการ และกองเรือทุ่นระเบิดเป็นอย่างยิ่ง ที่ จ.อ.อริย ได้เสียสละแสดงถึงความกล้าหาญ ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งได้มอบเหรียญพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา เขาชีจรรย์ วัดญาณสังวราราม พ.ศ.2538

ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2538 เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการทำความดี การแสดงความจงรักภักดี และเป็นสิริมงคลแก่ จ่าเอก อริย น้อยมี และครอบครัวต่อไป

สำหรับ จ.อ.อริย เป็นจ่าพยาบาล โดยก่อนหน้านี้เคยประจำการอยู่ที่ ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ก่อนจะย้ายไปสังกัด กองร้อยพยาบาล กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน โดยปัจจุบันเป็นจ่าพยาบาล สังกัด เรือหลวงท่าดินแดง กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ


ภาพ/ข่าว สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

เชียงราย - โรงพยาบาลเม็งรายฯ ฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่ลงทะเบียนกับหมอพร้อม ทั้งวัคซีน Sinovac และ Astrazeneca ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะฉีดให้ตามความเหมาะสมของผู้รับวัคซีน

เวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิ.ย.64 ที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.มทบ.37 พร้อมคณะได้เดินทางมา เพื่อตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส โควิด - 19 ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนนแอพพิเคชั่นหมอพร้อม ผู้ที่สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี และผู้ป่วยเรื้อรังที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช โดย พ.​อ.นพ.กิติพันธ์ เฮงสนั่นกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายฯ ให้การต้องรับ ซึ่งวันนี้มีประชาชนเดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งวัคซีน sinovac และ astrazeneca ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะฉีดให้ตามความเหมาะสมของผู้รับวัคซีน

โดยที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายฯ เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการหมอพร้อม ที่ให้บริการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่น โดยเปิดให้ฉีดวัคซีนในวัน อังคาร พฤหัส และวันศุกร์  โดยในวันนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนจำนวน 130 ราย  โดยในจำนวนนี้มี พล.อ.แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช เข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ประจวบคีรีขันธ์ - คิกออฟแห่ฉีดวัคซีนแน่นหัวหิน ร้องเพลงเบิร์ดให้กำลังใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

วันที่ 8 มิถุนายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึง สถานการณ์โควิด-19 จ.ประจวบฯ วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 คน คน เป็นคนไทย 12 คน ชาวพม่า 33 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสม 1,811 คน มีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาล 225 คน สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมากถึง 45 ราย ส่วนหนึ่ง17 ราย เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่มีอาการป่วย 4 รายก่อนหน้านี้ ในโรงงานสับปะรดกระป๋องของบริษัทโดล ไทยแลนด์ จำกัดที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมในโรงงานฯ 136 คน นอกจากนั้นพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ที่โรงงานชำแหละไก่ บริษัทสุรชัย โพลทรี่ ฟู้ดส์ จำกัด ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน มีผู้ป่วยใหม่ที่พักร่วมกัน 23 ราย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อสะสมในโรงงานรวม 73 ราย ขณะที่โรงงานทั้ง 2 แห่งยังเปิดสายการผลิตตามปกติ โดยมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด

ขณะที่ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีประชาชนได้รับคิวฉีดจำนวน 1,773 คนทยอยเดินทางมาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยบางรายต้องนั่งรถเข็นโดยให้บุตรหลานและญาติช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบฯ โรงพยาบาลกองบิน 5 และประชาชนจิตอาสาได้ร่วมกันอำนวยความสะดวก มีการจัดระเบียบไม่ให้มีปัญหาความแออัด

นพ.พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าการให้บริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ได้จัดจุดฉีด 15 โต๊ะฉีด หลังจากประชาชนได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วจะมีการนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในอีก 16 สัปดาห์ หรือวันที่ 27 กันยายน 2564 ขณะเดียวกันในวันที่ 8 มิถุนายน นี้ จะฉีดวัคซีนเก็บตกในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเพราะเป็นกลุ่มที่มักมีปัญหาเรื่องของความดัน ส่วนผู้ป่วยติดเตียงที่มีปัญหาในการเดินทาง ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีบัญชีรายชื่อแล้วและจะวางแผนการให้บริการเพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากที่สุด ทั้งนี้ จ.ประจวบฯ ได้จัดจุดบริการฉีดวัคซีนรวม 10 จุดใน 8 อำเภอ คาดว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้จำนวนกว่า 13,000 คน เน้นการฉีดให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 1 จะดำเนินการทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ตลอดเดือนมิถุนายน

ส่วนบรรยากาศวันแรกฉีดวัคซีนที่ห้องประชุม ชั้น 10 อาคารจอดรถ (ตึกส้ม) โรงพยาบาลหัวหิน มีประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไว้จำนวนมากเข้ารับการฉัดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนเริ่ม นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.โรงพยาบาลหัวหิน คณะแพทย์ พยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมร้องเพลง "จับมือกันไว้" ของศิลปิน "เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย" เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มารับวัคซีนได้ก้าวผ่านภาวะวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า การบริการฉีควัคซีนในวันนี้เหตุการณ์ปกติ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทาง รพ.จะฉีดวัคซีนได้ประมาณชั่วโมงละ 500 คน ยอดทั้งหมด 2,514 คน น่าจะใช้เวลา 5-6 ชม.ก็เสร็จ คิดว่าไม่เป็นปัญหา สิ่งที่เราห่วงมากกว่าคือความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งชุดนี้เป็นชุดผู้สูงอายุกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะฉะนั้นเราจะต้องดูภาวะฉุกเฉินและเรื่องของอาการ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนฝากว่าให้รีบมาลงทะเบียนได้เลย ไม่ว่าจะลงทางอินเตอร์เน็ต หรือที่โรงพยาบาลทั้ง 5 แห่ง ที่ห้างบลูพอร์ต ห้างมาร์เก็ตวิลเลจ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้คิว ไม่มีเส้นสายอะไรทั้งนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหมด เข้าถึงบริการรับวัคซีนได้หมด เพียงแค่ท่านเสียเวลานิดหนึ่งในการมาลงทะเบียน ขอเน้นย้ำว่าทุกคนเข้าถึงวัคซีนได้เหมือนกันทุกคน

นายวรรธนะ ยอดอุส่าห์ อายุ 66 ปี ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนคนแรกที่ รพ.หัวหิน กล่าวว่า ตนเดินทางจากปราณบุรีมาตั้งแต่ตี 3 ถึงโรงพยาบาลหัวหินประมาณตี 4 ก่อนจะมาฉีดวัคซีนนั้น ตนไม่มีความกังวล เพราะปกติจะออกกำลังกายทุกวัน วิ่งทุกวัน และนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ อีกอย่างคือตนไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่เป็นโรคไตและกำลังฟอกไตรักษาอยู่ อยากฝากถึงคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้รีบมาฉีดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว

นายแพทย์สุริยะ กล่าวว่า สำหรับการคิกออฟฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า กว่า 13,000 โดส ในวันแรกยอมรับว่ามีปัญหาอุปสรรคที่โรงพยาบาลหัวหิน และโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอพพ์หมอพร้อมที่มีคิวฉีดเดิมกำหนดไว้วันที่ 9 มิถุนายน 2564 แต่ภายหลังมีการแจ้งเลื่อน แต่ผู้ลงทะเบียนบางรายได้เดินทางมากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องอธิบายทำความเข้าใจ นอกจากนั้นมีบางรายอ้างว่ารายชื่อที่ลงทะเบียนหลุดหาย เจ้าหน้าที่ต้องขอให้แสดงหลักฐาน และค้นหาในระบบเพื่อป้องกันการแอบอ้าง สำหรับการกำหนดคิวฉีดตามลำดับหมายเลขพบว่าบางโรงพยาบาลมีผู้ที่มีคิวฉีดลำดับที่ 300 ขึ้นไปมารอคิวล่วงหน้าก่อนผู้ที่มีรายชื่อ 1-250 จะฉีดครบ โดยอ้างเหตุผลขอฉีดก่อน หากคิวที่กำหนดยังเดินทางมาไม่ถึง และพบว่ามีผู้ลงทะเบียนจำนวนมากมารอที่โรงพยาบาลทั้งที่ไม่อยู่ในคิวฉีดวันแรก เนื่องจากมีความหวังว่าจะมีผู้ลงทะเบียนไว้แล้วไม่สะดวกเดินทางไปฉีดวัคซีนตามที่นัดหมาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กกล.สุรศักดิ์มนตรี ยึดกัญชาข้ามโขงกว่า 400 กก. พร้อมเคตามีน 1 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นาเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอหว้านใหญ่ พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุม ที่.1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังตรวจยึดกัญชานำเข้าจากประเทศ สปป.ลาว จำนวน 400.50 กก.

โดยสืบเนื่องจากระหว่างเวลา 18.00 - 23.30 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน เจ้าหน้าที่หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด มาในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณ บ้านป่งขาม หมู่ที่ 1 ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้จัดกำลังออกลาดตระเวนตามพื้นที่ได้รับแจ้งจนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่อยู่ได้ทำการสังเกตพบเรือกีบปิดไฟแล่นเข้ามาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงจึงใช้กล้องส่องกลางคืน (Night Vision) พบเห็นกลุ่มคนกำลังดำเนินการขนสิ่งของบางอย่างจากเรือขึ้นมาบนฝั่งคาดว่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และตะโกนส่งเสียงออกไปให้หยุด แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้แยกย้ายกันวิ่งหนีบางส่วนกระโดดขึ้นเรือกีบขับหลบหนีไปกลับทาง สปป.ลาว และอีก 2 คน บนฝั่งอาศัยความมืด และชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีเข้าไปบริเวณท้ายหมู่บ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) น้ำหนักประมาณ 400.50 กิโลกรัม ทั้งหมดบรรจุอยู่ในกระสอบสีดำ จำนวน 11 กระสอบ และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2(เคตามีนชนิดเกล็ด) จำนวน 1 กิโลกรัม ห่อหุ้มด้วยพลาสติกลายการ์ตูนสีขาวบรรจุอยู่ในถุงชาจีนสีเขียวอีกชั้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบกัญชา จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย

พิจิตร – ฝนทิ้งช่วง นาข้าวนับหมื่นไร่จ่อเข้าขั้นวิกฤต ชาวนาวิงวอนชลประทานหาทางช่วยด่วน

ชาวนาพิจิตรถามหาคนพูดที่บอกว่าปีนี้จะมีฝนและมีปริมาณน้ำมากสุดในรอบ30 ปีชาวนาเชื่อกระแสข่าวแห่ลงมือทำนา ไถหว่านปลูกข้าว แต่ถึงวันนี้มีประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแต่ยังไม่มีฝนตก ล่าสุดพบนาข้าวในพื้นที่ส่งน้ำชลประทานพิจิตร นาข้าวนับหมื่นไร่กำลังจ่อเข้าขั้นวิกฤต ชาวนารวมตัวเรียกร้องวิงวอนชลประทานหาทางช่วยด่วน

วันที่ 9 มิ.ย. 2564  นายสุบิน  ศรีบุศกร  รองนายกอบจ.พิจิตร ได้รับมอบจาก พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ให้ลงพื้นที่เนื่องจากมีชาวนาในเขต ต.ดงป่าคำ อ.เมืองพิจิตร และในเขต ต.วังหว้า อ.ตะพานหิน ซึ่งเป็นเกษตรกรและนาข้าวในเขตส่งน้ำชลประทานที่รับน้ำจากคลอง C78 รวมนาข้าวนับหมื่นไร่ร้องทุกข์ว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงทำให้นาข้าวขาดน้ำส่อเค้าว่าจะได้รับความเสียหาย จึงลงพื้นที่และได้พบกับ นางเหลา บุญประเสริฐ อายุ 72 ปี เป็นชาวนาอยู่บ้านเลขที่ 78/3 หมู่ 3 ต.ดงกลาง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร เล่าว่า นาข้าวของตนจำนวนหลายสิบไร่ ขณะนี้กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง เหตุจากฝนทิ้งช่วงนาข้าวส่อเค้าว่าจะแห้งตาย ตนจึงต้องไปกู้เงินมา 5 หมื่นบาท เพื่อเตรียมที่จะเจาะบ่อน้ำบาดาลเนื่องจากน้ำในคลองชลประทานที่เคยส่งมาให้ปีนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำมีน้อยจึงไม่สามารถส่งน้ำมาช่วยชาวนาได้ ดังนั้นชาวนาจึงต้องพึ่งตนเอง

จากนั้น นายสุบิน  ศรีบุศกร  รองนายกอบจ.พิจิตร ได้ไปพบกับ นางสาวนงลักษณ์ วิบูลย์ญาณ  รอง ปธ.อบจ.พิจิตร ซึ่งเป็น สจ.ในพื้นที่ ต.ดงป่าคำ ที่กำลังประชุมร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และชาวนากลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวนกว่าร้อยคน ซึ่งประชุมกันที่ ศาลาประชาคม หมู่ 8ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรโดยมี  นายภะกิต ไม้ตะเภา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 1 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองชลประทานตอนบนในเขต อ.เมือง อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.ตะพานหิน  , นายจิรโรจน์ สมบัติใหม่ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 2 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองชลประทานตอนกลาง อ.ตะพานหิน อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก , นายวิทยา วังวิเศษ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 3 ท่าบัว ดูแลน้ำและคลองตอนล่าง อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก  จ.พิจิตร และ อ.ชุมแสง จ.นคนสวรรค์ มาร่วมชี้แจงถึงสถานการณ์น้ำและนโยบายส่งน้ำ

สรุปได้ว่าจังหวัดพิจิตรรับน้ำมาจากโครงการส่งน้ำเขื่อนนเรศวรในปริมาตรน้ำ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นก็กระจายน้ำไปยังโครงการส่งน้ำพลายชุมพล 5 ลูกบาศก์เมตร  โครงการส่งน้ำดงเศรษฐี 5 ลูกบาศก์เมตร  โครงการส่งน้ำท่าบัว 5 ลูกบาศก์เมตร ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 3 โครงการ  พื้นที่ประมาณ 5 แสนไร่ แต่เนื่องจากมวลน้ำมีอยู่แค่ก้อนเดียว เจ้าหน้าที่ชลประทานต้องใช้หลักการบริหารจัดการดูแลนาข้าวในพื้นที่รับน้ำเฉพาะโซนนี้คือคลอง C 1 C40  C78  จำนวนนับแสนไร่ จึงทำให้เกิดการแย่งน้ำกันทำนา ซึ่งขณะนี้ก็ได้ออกหลักเกณฑ์ให้ชาวนาสลับแบ่งรอบเวรกันสูบน้ำเข้านา สลับกันเป็นรอบกลางวันและรอบกลางคืน แต่ก็มีชาวนาบางคนไม่เคารพกฏกติกา จึงทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปด้วยความยุ่งยาก ส่วนที่ชาวนาร้องขอให้กรมชลประทานเพิ่มปริมาณการจ่ายน้ำให้มากขึ้นนั้นพวกตนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานก็จะได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาต่อไป

นายสุบิน ศรีบุศกร รองนายกอบจ.พิจิตรกล่าวชี้แจงกับชาวนากลุ่มนี้ว่า อบจ.พิจิตร พร้อมให้การสนับสนุนในทุกภารกิจที่จะทำให้ชาวนามีน้ำทำนาแต่ขอเพียงอยู่ในข้อที่กรอบระเบียบที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้นและจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการบริการจัดการน้ำให้ทั่วถึงเป็นธรรมอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top