Saturday, 21 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

กระบี่ - เกษตรกระบี่ ลุยตรวจสวนทุเรียน ห้ามตัดทุเรียนอ่อนขาย คาดโทษหนัก จำ-ปรับ

วันที่ 15 มิ.ย.64 นายชูศักดิ์ วณิชวัฒนกุล หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบการตัดทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ของเกษตรกรในพื้นที่ ต.เขาเขน และปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง มากที่สุดของจังหวัด เพื่อแนะนำและให้ความรู้แก่ชาวสวนทุเรียน ในการตัดทุเรียนคุณภาพออกขาย หลังพบว่าชาวสวนทุเรียนเริ่มทะยอยตัดผลทุเรียนออกจำหน่าย เบื้องต้นยังไม่พบผู้กระทำผิด

นายชูศักดิ์ วณิชวัฒนกุล หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงนี้จนถึงเดือน ก.ย.จะเป็นช่วงที่ทุเรียนของ จ.กระบี่ ออกสู่ตลาด ประกอบกับกรมส่งเสริการเกษตร ได้สั่งคุมเข้มเรื่องคุณภาพมาตรฐานของทุเรียน ห้ามมีการนำทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายโดยเด็ดขาด เนื่องจากชาวสวนบางคน เร่งตัดทุเรียนอ่อนออกขาย เพื่อหวังทำกำไร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาทุเรียนทั้งในและต่างประเทศ เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อทุเรียนไทยในสายตาผู้บริโภค และอาจส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเมื่อถูกกดราคาจากผู้รับซื้อ

สำหรับในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ ต.เขาเขน และต.ปลายพระยา มีเนื้อที่ปลูกกว่า 1,600 กว่าไร่ ให้ผลผลิต แล้ว 816 ไร่ จำนวน 398 ตัน มูลค่า กว่า 50 ล้านบาทในส่วนผลผลิตทุเรียนทั้งจังหวัดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีไม่ต่ำกว่า 1,457 ตัน ให้ผลผลิตแล้ว 3,269ไร่ จากพื้นที่ปลูกทั้งหมด 4,978 ไร่ สำหรับราคาจำหน่ายคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2563 โดยราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 – 140 บาท ซึ่งประเทศจีนยังเป็นตลาดส่งออกหลัก มีปริมาณความต้องการมาก คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนราว 204 ล้านบาทเศษ

ขอฝากไปยังผู้บริโภคหากพบเห็นการซื้อขายทุเรียนอ่อนด้อยคุณภาพ สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีบทลงโทษผู้กระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่นายสมสมเกียรติ โกฎิกุล อ.58 ปี ประธานแปลงทุเรียน อ.ปลายพระยา กล่าวว่า การตัดทุเรียนอ่อนไปขายเหมือนกับตัดไปทิ้ง เชื่อว่าชาวสวนไม่ทำอย่างแน่นอน แต่ปัญหาที่พบทุเรียนอ่อนขายอยู่ตามท้องตลาด เกิดจากพ่อค้าคนกลางมารับซื้อแล้วฝืนตัดทุเรียนไป เพื่อให้ได้ตามใบสั่ง โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ เมื่อมีการเข้มงวดทำให้ทุเรียนอ่อนไม่สามารถส่งออกได้ ถูกคัดแยกออกมาจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด และเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ แต่เชื่อว่าจากมาตรการที่เข้มงวดของรัฐก็จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง

จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 11 คน ไอซ์ 500 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 4,200,000 เม็ด

วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 10.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ

ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและพื้นที่ล่อแหลม

​ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป), พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 6), พล.อ.วรเกียรต รัตนานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน., พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการนำสู่การปฏิบัติ

​กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส., พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.หญิง วนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส.

สำนักงาน ป.ป.ส. โดย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.,พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ท.ไพศิษฎ์  สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภ.5,นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด,นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ปป.6 ปปส., นายนพดล นุใหม่ นักสืบสวนฯ ชำนาญการพิเศษ, นางทิพย์ชนก โชติกเสถียร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายเชาวลิต ชูเลื่อน นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายปทาน ช่วยเพชร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายศักดิ์วุฒิ ใจสมุทร นักสืบสวนฯชำนาญการ

​กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย พล.ท.ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.ต.ศุรพงษ์ ชำนิยันต์ รอง ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.อ.ต.สมยศ  จุลเสน รอง ผอ.ศปป.2, พ.อ.เสกสรร โพทิพยวงศ์ ผช.ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.

ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.ท.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และ พ.อ.อภิชาติ ชูเกียรติตกุล ผอ.กอง 12

คดีที่ 1

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ร่วมกับเจ้าที่ตำรวจ บก.ขส., ชุดวิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปส.2, ปป.3 สปป.ป.ป.ส., เจ้าหน้าที่ ศรภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายพีรพัฒน์ หรือติมอร์ พิรักษา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/102 ม.7 ต.บางจาก อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

2. นายสามารถ หรือแก๊ป คุ้มสมุทร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

3. นายพุฒิพงศ์ หรือปอนด์ พวงสมบัติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.4 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

4. นายศุภฤกษ์ หรือแครอท  แรงกสิวิทย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/9 ม.11 ต.บางครุ อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

พร้อมของกลาง จำนวน 5 รายการ

​1. ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 516 กิโลกรัม

​2. รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน

​4. อาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 12 นัด

​5. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 8 เครื่อง

​โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใจครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม

​พิสมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น.พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจับกุมเครือข่าย  ยาเสพติดรายสำคัญในห้วงที่ผ่านมารวม 7 คดี สามารถตรวจยึดยาบ้ารวม จำนวนประมาณ 20,000,000 เม็ด, ตรวจยึดไอซ์ รวมจำนวนประมาณ 2,000 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกจำนวนมาก ทำให้พบข้อมูลว่ายังมีเครือข่าย ยาเสพติดที่พยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วนำไปซุกซ่อนอำพรางในสินค้าต่าง ๆ เพื่อลักลอบส่งออกไปยังต่างประเทศจึงได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 พบข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะขึ้นไปดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุดจับกุมจึงร่วมบูรณาการออกสืบสวนติดตาม จนพบว่าในเวลาช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 มิถุนายน 2564 กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้รถยนต์จำนวน 2 คัน ขับขี่ตามกันเข้าไปในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วขับขี่กลับออกมามุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนในและเข้าพักที่ พิศมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จึงเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง  4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 12 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 516 กก. และสืบสวนขยายผลยึดทรัพย์ เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวต่อไป 

คดีที่ 2

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 00.10 น. ต่อเนื่องวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 23.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายกมลชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 21 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 120 ม. 3 ต. มงคลธรรมนิมิต อ. สามโก้ จว.อ่างทอง

2. น.ส.นภิศ พิกุลขาว อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.อบทม อ.สามโก้ จว.อ่างทอง

3. นายสาทร  อาหลี อายุ 26 ปี   บ้านเลขที่ 48 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา

4. นายฮารง  ยามา อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 2/9 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา 

พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด

2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิซูบิชิ จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

​สถานที่เกิดเหตุและจับกุม บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ต่อเนื่อง โรงแรม มิรา รีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง

​พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคล มีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากกลุ่มผู้ว่าจ้าง จากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปยัง จว.แพร่ และใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 มุ่งหน้าจาก อ.เด่นชัย จว.แพร่ มุ่งหน้าไปยังภาคกลาง จนกระทั่ง วันที่ 10 มิถุนายน 2564 สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ บริเวณโรงแรมมิรารีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง และ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณบนถนนเพชรเกษม ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

คดีที่ 3

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 3 คน

ผู้ต้องหา

1. นายศุภโชค สุขสุด อายุ 35 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 55 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จว. พิษณุโลก

2. นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 86 ม. 1 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จว. สุพรรณบุรี                             

3. นายประมวล ขันแก้ว. อายุ 36 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 115 ม.1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จว.เพชรบูรณ์

พร้อมของกลาง จำนวน 4 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด

2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน  ยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ MG จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda จำนวน 1 คัน

6. ทองคำแท่ง น้ำหนักประมาณ 5 บาท

7. ทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 3 บาท

8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

สถานที่เกิดเหตุ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 หมู่ 4 ต. ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ ต่อเนื่อง บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

สถานที่เกิดเหตุและจับกุม 

​สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายศุภโชค สุขสุด ซึ่งมีประวัติเกี่ยวกับ ยาเสพติดให้โทษ ร่วมกับ นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ ทั้งสองมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ และจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ทางกลางและปริมณฑล ตามสั่งการของผู้ว่าจ้าง โดยใช้เส้นทาง จว.เชียงราย - พะเยา – ลำปาง - แพร่ - อุตรดิตถ์ - พิษณุโลก - พิจิตร - นครสวรรค์ จนกระทั่งวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 08.30 น.สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 และ 2 ได้ที่บริเวณ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 ม. 4 ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด และจับผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

ตำรวจ PCT โชว์ผลงานจับกุม 4 คดีสำคัญในรอบ 2 เดือน

วันนี้ (15 มิ.ย.64) เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ. PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. แถลงผลการปฏิบัติของศูนย์ PCT ในรอบเดือน พ.ค.- มิ.ย.64 พร้อมเรียกประชุมตำรวจ PCT ทั่วประเทศ กำชับแนวทางการปฏิบัติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ตำรวจทุกหน่วยเร่งปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการทายผลฟุตบอลยูโร (Euro 2021)​ ซึ่งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ศูนย์ PCT มีผลการจับกุมคดีสำคัญทั้งสิ้น 17 คดี ผู้ต้องหา 46 คน  ผู้เสียหาย 2,000 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เช่น จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร Betclic89 บางเขน, เครือข่าย UFA168SURE นนทบุรี, เครือข่าย Superslot ขอนแก่น, เครือข่าย imi9bet.com นครศรีธรรมราช, เครือข่าย ALLSLOT777.com สมุทรปราการ, เครือข่าย PGSLOT889.com บางยี่ขัน และ ล่าสุด "สำนักใบ้หวยแม่น้ำหนึ่ง" ซึ่งเป็นการแนะนำให้เล่นหวยผ่านเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนในบัญชีรวมหลายพันล้านบาท

สำหรับในวันนี้เป็นการแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก 4 คดี คือ

>> คดีแรก จับกุมผู้ต้องหา Romance Scam และเงินดำ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 ชุดสอบสวนเฉพาะทาง PCT ได้ร่วมกับ สน.ปทุมวัน และตรวจคนเข้าเมือง จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ Miss NATALYA TERESA SILVA (ลูกสาว) สัญชาติอเมริกัน และ นางโรชินีเปรม เดียลดาส (มารดา) สัญชาติไทย ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย เป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท

ก่อนหน้าผู้เสียหายได้รู้จักกับ นายจิมมี่ จาง (Jimmi Zhang)​ ทาง Facebook ซึ่งใช้ชื่อว่า "MD Wasin"  และได้มีการสนทนากันมาเป็นระยะโดยอ้างว่า เป็นวิศวกรอยู่กลางทะเล ประเทศอิตาลี ระยะหลังเริ่มอ้างว่าอุปกรณ์ทำงานเสีย ต้องสั่งซื้อ แต่กลับไปถอนเงินบนฝั่งไม่ได้ จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชี หลังจากนั้นก็อ้างว่าตนป่วย และต้องใช้เงินวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อโอนเงินคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อ และให้ยืมเงินเรื่อยมา รวม 55 ครั้ง เป็นเงิน 14.5 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะคืนเป็นเงิน 4 ล้านดอลล่าห์ คิดเป็นมูลค่า 21 ล้านบาท

ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาวางแผนอ้างเป็นบริษัทพัสดุ ติดต่อให้ผู้เสียหายมารับกระเป๋าที่ส่งมาจากดูไบ แต่ต้องนำเงินมาชำระ 1,500,000 บาท โดยนัดรับส่งกันที่จามจุรีสแควร์ ชั้น 24 จนผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินมาแลกกับกระเป๋า ทราบภายหลังว่าเป็นเงินปลอม จึงได้มาแจ้งความต่อศูนย์ PCT ทำการสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ พร้อมเงินของกลาง 1,500,000 บาท คืนให้กับผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะได้ติดตามมาดำเนินคดีต่อไป

 >> คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาแชร์ออนไลน์ “บ้านปีใหม่”

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ น.ส.กชมน (สงวนนามสกุล)และนาย วศิน (สงวนนามสกุล) ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1589/39 หมู่บ้าน เดอะ มิราเคิล พลัส โครงการ 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

 ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, ผู้นั้นจ่ายหรือ โฆษณา ประกาศ แพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ย สูงสุด ที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่าย” นําส่ง กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

พฤติการณ์ในคดี เมื่อประมาณต้นปี 2563 เป็นต้นมา กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ข้อความ โฆษณาทางแอพพลิเคชเทนเฟชบุ๊ค ชักชวน ให้ประชาชนทั่วไป ร่วมเล่นแชร์ และออมเงินการันตี ผลตอบแทนสูง ตามรูปแบบและระยะเวลาที่ผู้ต้องหากําหนด เมื่อมีผู้สนใจผู้ต้องหาจะให้เข้าร่วมเล่นแชร์ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม ชื่อ "แชร์บ้านปีใหม่" จากนั้นผู้ต้องหาจะชักชวนให้ลงทุนออมเงินระยะ สั้นต่อ มีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการประกาศในกลุ่มไลน์ว่า ส่งยอดไว ฟรีดูแล ไม่ต้องรอเก็บยอด ครบ มีแจกมีแถมเงินทอง ท้าวมีธุรกิจมั่นคงมีเงินเย็นสํารองไม่มีท้าวหักรับกันตาย ซึ่งจะมีนายวศินฯ สามี ของ น.ส.กชมนฯ เป็นผู้ดูแลกลุ่มไลน์ดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้โอนเงินไปที่บัญชีของผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย

รูปแบบของการลงทุนเป็นการออมระยะสั้น ราย 30 วัน ราย 20 วัน หรือตามที่ท้าวกําหนด รับ ผลตอบแทนร้อยละ 20 ต่อรอบ โดยกําหนด 1 วงให้ผู้เล่นจะลงทุนกี่มือก็ได้ ซึ่งในช่วงแรกได้รับ ผลตอบแทนจริง ต่อมาภายหลังผู้ต้องหาอ้างว่าบ้านแชร์ล้ม เมื่อผู้เสียหายทวงถามเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง จึงทําให้มีผู้เสียหายมากกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท

>> คดีที่ 3  จับกุมผู้ต้องหา แอบอ้างใช้รูปดาราไปสร้างโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ เพื่อการค้าประเวณี

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 64 จับกุม นายศรีสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ที่บ้านพัก chill pool villa ต.หมูสี อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคล นั้น กระทําการด้วยวิธีใด ค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ,โฆษณาชักชวน หรือแนะนําด้วย เอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทําให้แพร่หลายไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อ เพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น ,เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น” นําส่งสน.ลาดพร้าว และแจ้ง ข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”

พฤติการณ์ในคดี ผู้ต้องหานํารูปในอินสตราแกรมของ น.ส.เพียววรินทร์ กอศิริวลานนท์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ชื่อบัญชี purewr.g มา ใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในทวิสเตอร์ชื่อบัญชี “นางฟ้า SL” เพื่อชักจูงลูกค้า ในการค้าประเวณี จากนั้นใช้ แอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “น้องไอติม” ติดต่อลูกค้า แจ้งราคา และนัดหมายสถานที่ แล้วแจ้งผู้ค้าประเวณีให้ ทราบ โดยการค้าประเวณีครั้งละ 1,500 บาท ผู้ต้องหาได้ส่วนแบ่งจากการค้าประเวณีเป็นจํานวนเงินครั้ง ละ 500 บาท

>> คดีที่ 4 จับกุมพนันออนไลน์ ฟุตบอลยูโร 4 จุด

จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 50/42 หมู่บ้านไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 บางเขน จับกุมนายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com/ และไลน์กอด Berclic89

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 99/185 ซ.บงกช 42 หมู่บ้านเดอะนอร์ธเทิร์นโนวายาซิมลียา ถ.เลียบคลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุม นายสุทธิศักดิ์ หรือ ต้อม (สงวนนามสกุล) และ นายพงศวัชร หรือ พัด (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ SBOUFABET

จุดที่ 3 บ้านไม่มีเลขที่ บึงหนองโครต ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายอิทธิพล และ น.ส.พรพรรณ (สงวนนามสกุล ) เครือข่าย Superslot

จุดที่ 4 บ้านไม่มีเลขที่ หมู่บ้าน the flex ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา "ประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์" ยึดของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 430i coupe m sport สีขาว 1 คัน และ รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด 1 คัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม ซิมการ์ด 194 ชิ้น บัตร ATM 14 ใบ ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจพบทั้งหมดจะทำรายงาน ปปง. มีคำสั่งยึดและอายัดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป

ก่อนหน้าสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการเปิดเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร, หวย และการพนันประเภทอื่น ๆ โดยใช้บ้านเลขที่ 50/ 42 หมู่บ้านไลฟ์บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 เขตบางบอน กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งเซิฟเวอร์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ย้ำว่า ช่วงนี้มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (EURO 2020) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและกำชับมิให้มีการเล่นการพนัน โดยเฉพาะการทายผลการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการทายผลทางออนไลน์ด้วย ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้กวดขันจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ศูนย์ PCT ได้พยายามสร้างภูมิกันให้กับประชาชนโดยการผลิตคลิป เตือนภัยในรูปแบบต่าง ๆ ของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่น คลิป "รู้ทัน แชร์ลูกโซ่", "รู้ลึก พนันออนไลน์ ภัยใกล้ตัว กับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์", "ลงทุนแค่ 100 ได้เงินเป็น 1,000,000" , "3 กระบวนยุทธ์ สกัดหยุด การโจรกรรมข้อมูลออนไลน์", "ภัยใกล้ตัว ระวัง เงินหายหมดบัญชี" และล่าสุดคลิป "รักแท้ ใครว่าแพ้ระยะทาง" ซึ่งเป็นคลิปเตือนภัยเรื่อง Romance Scam โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook Page และ Youtube @PCTPOLICE  และจะมีการผลิตคลิปเตือนภัยทุกเดือน  เพื่อให้ทันต่อรูปแบบของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากพบพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถโทรแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน ตร. 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง ศูนย์ PCT 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ

สตูล - มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค - บริโภค ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลัง กว่า 600 ครัวเรือน

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายก อบจ.สตูล นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอเมืองสตูล พันจ่าเอกสาคร สิทธิศักดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดสตูล นายชัยนันท์ หลงสาม๊ะ นายก อบต.ตำมะลัง ร่วมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค - บริโภค เพื่อการดำรงชีพต่อครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบจากมาตรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มัสยิดบ้านตำมะลังใต้ และบ้านตำมะลังเหนือ ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล รวม 673 ครัวเรือน โดยบรรยากาศมีประชาชนมารอรับถุงยังชีพจำนวนมาก ซึ่งด้านหน้ามีการตรวจวัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ มีการจัดให้ประชาชนมารอรับถุงยังชีพนั่งกันอย่างเป็นระเบียบตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวพบปะประชาชนที่เข้ารับมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ ว่า การมอบถุงยังชีพฯในครั้งนี้เป็นความห่วงใยประชาชนในสถานการณ์โควิด -19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศและจังหวัดสตูล พบจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสตูลโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่และห้ามดำเนินกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคติดต่อ ส่งผลให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้รับความเดือดร้อน และประสบภาวะยากลำบากในการดำรงชีพ

โดยมติของ ศบค.จังหวัดสตูล ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลัง ได้ประสานคณะกรรมการชุมชน จัดเก็บข้อมูลและรับรองรายชื่อผู้ประสบปัญหาที่ได้รับผลกระทบรวม 673 ครอบครัว ซึ่งแบ่งเป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จำนวน 336 ชุด และองค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลังสนันสนุนอีกจำนวน 337 ชุด ภายในถุงยังชีพประกอบด้วย ข้าวสาร ขนาด 5 กก. จำนวน 1 ถุง , ปลากระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง , น้ำปลา ขนาด 700 ซีซี จำนวน 2 ขวด , น้ำมัน ขนาด 1,000 ซีซี จำนวน 2 ขวด , น้ำตาลทราย ขนาด 1 กก. จำนวน 1 ถุง , และมาม่าอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในเบื้องต้น


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล / ปชส.สตูล

พังงา – เกิน 100 แล้ว !! คลัสเตอร์แพปลาคุระบุรียังน่าห่วง เตรียมย้ายผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนาม และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มยอดผู้ป่วยรวม 102 ราย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน 2564 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย น.อ.อภิชาติ วรรณอมร รอง ผอ.กอ.รมน.พังงา นายชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก ซึ่งได้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ที่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยจะย้ายผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเล็กน้อย เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะทำการย้ายผู้ป่วยชุดแรกเป็นแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงรวม 18 ราย ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก แบบ Rapid Antigen Test ให้กับประชาชนทุกคนในเขตพื้นที่บ้านหินลาด หมู่ 3 ตำบลคุระ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้เข้าดูสถานที่เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมที่โรงเรียนโชคอำนวยและโรงเรียนบ้านกลางประชาสรรค์ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ถุกยุบแล้วไม่มีการใช้ประโยชน์

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ได้ส่งสัญญานที่ไม่ดี ในการแพร่ระบาดที่มีเป็นจำนวนมากทั้งกลุ่มลูกเรือและกลุ่มแรงงานบนแพปลา ซึ่งจากการตรวจเชิงรุกยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทางจังหวัดพังงาจึงต้องจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับกับจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่พบทุกวัน ทำให้ทางโรงพยาบาลปกติไม่สามารถรองรับได้ เพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้โรงพยาบาลสนามก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีระบบการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมกันนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดพังงาก็ได้วางระบบการจัดการป้องกันเชื้อโควิด-19 ไว้เป็นอย่างดี

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 5 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 4 ราย ชายไทย 1 ราย อยู่ในคลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในคลัสเตอร์นี้รวม 33 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวในกิจการประมง ส่วนยอดผู้ป่วยสะสมในระลอกใหม่ของจังหวัดพังงารวม 102 ราย  


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลเจ้าไต้ฮงกงแห่งที่ 2 “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” เนื่องในโอกาสครบรอบ การก่อตั้ง 110 ปี ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิฯ ด้านกิจกรรมทางศาสนา และกิจกรรมเพื่อสังคม

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 64 เวลา 11.10 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ และนายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ เป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิ

ป่อเต็กตึ๊ง แห่งที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในการจัดกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม อีกทั้งสามารถรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการกราบไหว้บูชาองค์ไต้ฮงกงซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมี คณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธี ณ สถานที่ก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ถนนเจริญราษฎร์ เขตสาทร กรุงเทพฯ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ไม่แสวงหากำไร ดำเนินงานบรรเทาสาธารณภัยและงานสาธารณสงเคราะห์ตามแนวจริยวัตรขององค์ไต้ฮงกง พระนักพัฒนาและนักสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่เพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ยากไร้ ทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เลือกเพศและวัย เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปีของการก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้มีมติ ให้สร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ 4 ไร่ 17 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของมูลนิธิฯ ติดกับด้านหลังของสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อเป็นถาวรวัตถุอนุสรณ์และเป็นพุทธสถานไต้ฮงกงอีกแห่งหนึ่ง ที่มีพื้นที่กว้างขวางในการทำกิจกรรมทางศาสนาและงานสังคมสงเคราะห์ เนื่องจากสถานที่เดิมเป็นสถานที่เช่า มีพื้นที่ไม่ถึง 300 ตารางวา และไม่สามารถขยายพื้นที่เพื่อรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากได้

ทั้งนี้ สำหรับการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ในวันนี้ มูลนิธิฯ ได้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ พร้อมจัดพิธีภายใต้มาตรการการควบคุมโรคที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

สำหรับศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) แห่งนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานขององค์ไต้ฮงกงหยกขาวแกะสลักน้ำหนัก 50 ตัน ความสูง 3 เมตร ฐานหน้า ตักกว้าง 2.60 เมตร ตั้งบนฐานหยกขาวซึ่งสลักจากหินหยกขาวก้อนเดียวกันจากประเทศจีน ฐานหยกขาวสูงจากพื้น 1.20 เมตร รวมองค์ไต้ฮงกงและฐานตั้ง มีความสูงรวม 4.20 เมตร นับเป็นองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  โดยคุณอุทิศ ชัยลือกิจ (ฉั่วเตาะเม้ง) เป็นผู้จัดสร้างและบริจาคให้แก่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนท่านสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญก่อสร้าง “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ตามแต่กําลังศรัทธา เพื่อร่วมกันจรรโลงศาลเจ้าไต้ฮงกงแห่งใหม่นี้ ให้เป็นพุทธสถานของชาวพุทธเราอีกแห่งหนึ่ง ท่านสามารถร่วมทำบุญ โดยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-225-0020 ต่อ 366 ข้อมูลศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

พลังศรัทธาองค์หลวงปู่ไต้ฮงในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นจากเมื่อปี พ.ศ.2439 นายเบ๊ยุ่น ได้อัญเชิญรูปจำลองหลวงปู่ไต้ฮงจากอำเภอเตี้ยเอี้ย มายังประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ที่ร้านกระจกย่านวัดเลียบ ผู้คนเมื่อทราบต่างก็พากันมาสักการบูชาที่จำนวนมาก จนต้องย้ายไปประดิษฐานที่ซอยดอนกุศล ถนนเจริญกรุง  ช่วงนั้นเกิดโรคระบาดประชาชนต่างมากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อช่วยให้คุ้มครองปลอดภัยและหายจากโรค ทำให้เกิดความศรัทธา บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและจัดการเก็บศพอนาถาไปฝัง ต่อมาในปี 2452-2453 พระอนุวัตร์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) ได้ร่วมกับพ่อค้าคหบดี รวม 12 ท่าน ได้เห็นความสำคัญและประโยชน์แห่งกุศลเจตนาของผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ไต้ฮง จึงจัดตั้งคณะเก็บศพไต้ฮงกงขึ้น พร้อมสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงขึ้นที่บริเวณถนนพลับพลาไชย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เพื่อประดิษฐานองค์หลวงปู่ไต้ฮง  เมื่อศาลเจ้าไต้ฮงกงสร้างเสร็จสมบูรณ์ ได้อัญเชิญรูปจำลองของหลวงปู่ที่นายเบ๊ยุ่น คหบดีนำมาจากประเทศจีนมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกงเป็นการถาวร  โดยศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งอยู่ที่ 326 ถนนเจ้าคำรพ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ 10100

ติดต่อสอบถามหรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung

#ถึ ง จ ะ ต้ อ ง อ ยู่ ห่ า ง ...แต่เราพร้อมเคียงข้างคุณเสมอ

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

 

"คนพิการ" ป่วยติดเตียง จาก "ผู้รับ"เป็น "ผู้ให้" แบ่งปันรถวีลแชร์ให้ผู้อื่นนำไปใช้งาน

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ณ บ้านเลขที่ 10/4 ม.17 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และ ตำแหน่ง คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน  ได้รับการประสานจาก "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) แจ้งว่า นายชิดชัย สมสนิท (คนพิการ) ขาทั้ง 2 ข้างลีบ สายตาทั้ง 2 ข้าง มองเห็นแบบเลือนลาง เนื่องจาก "ติดเชื้อราในสมอง" จึงทำให้ต้องเป็นคนพิการติดเตียง และอาศัยอยู่กับ "แม่" ก็เป็นคนพิการ นิ้วมือหัวแม่โป้งขาด อาศัยอยู่ภายในบ้านไม้ที่มีสภาพทรุดโทรม ผุพัง และอยู่กันแบบตามมีตามเกิด

โดย "นายชิดชัย สมสนิท" (คนพิการ) ติดต่อ ประสานไปยัง "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" ว่า "ผมมีรถวีลแชร์อยู่ 2 คัน" คันหนึ่งเป็นคันเก่า ส่วนอีกคันหนึ่งเป็นคันที่มีสภาพใหม่ ซึ่งได้รับบริจาคมาจาก "ผู้ใจบุญ" ตนเองคิดว่า รถวีลแชร์คันเก่าก็ยังสามารถใช้งานที่เหมาะสมกับสภาพความพิการของตนเองอยู่ จึงอยากจะนำรถวิลแชร์คันใหม่ที่ได้รับบริจาคมานั้น นำไปบริจาคต่อให้กับคนพิการหรือผู้สูงอายุ ที่มีความจำเป็นใช้รถวิลแชร์ ตนเองมองว่าน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า และเข้าใจถึงความลำบากในหัวอกคนพิการด้วยกัน ที่บางคนไม่มีรถวีลแชร์ และบางคนต้องนอนป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ และที่สำคัญอยากพบหน้า "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมฯ เพราะทราบว่า นายกฯเป็นคนชอบช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ จึงอยากจะพบเพื่อส่งต่อมอบรถวีลแชร์ให้ด้วยตนเอง

ในการนี้ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมฯ ได้ให้คำปรึกษา เกี่ยวกับ "สิทธิของคนพิการ" เช่น เบี้ยความพิการ / การกู้ยืมเงินจากกองทุนฯ / การศึกษา / การจ้างงานคนพิการ / การปรับสภาพที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเสมือนสิทธิและสวัสดิการ ที่ทางภาครัฐมีไว้ช่วยเหลือคนพิการตามกฎหมาย และท้ายสุด นายกสมาคมฯ กล่าวให้กำลังใจ "คนพิการทั้ง 2 คนนี้ ขอให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง อย่าย่อท้อต่อชะตาชีวิต ถึงเราจะเป็น "คนพิการ" แต่เราก็สามารถช่วยเหลือสังคม และประเทศชาติ ได้เช่นเดียวกับคนปกติ นั่นคือ "การทำความดี ด้วยใจบริสุทธิ์" และขอขอบพระคุณในน้ำใจไมตรี ที่มีจิตใจคิดเพื่อเผื่อแผ่ "รถวีลแชร์ มอบให้กับผู้อื่นโดยรู้จักความพอเพียงและเพียงพอ สิ่งที่ท่านทั้ง 2 คน กระทำในวันนี้จะนำพาให้ท่านทั้งสองมีความสุข มีความเจริญ มีสุขภาพจิตใจที่ดี และขอให้คงคุณงามความดีอย่างนี้ไปตลอด และหากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทางข้าพเจ้าจะช่วยเหลือได้ก็มีความยินดีที่จะรับใช้ และะติดต่อมาได้ตลอดเวลา

เชียงราย – นักรบบนหลังม้า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 นำม้าลาดตระเวนสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพร้อมสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

เมื่อวันที่14 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ตามที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้มีนโยบายให้กำลังพล ที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามแนวชายแดน ได้มีการผ่อนคลายจากการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว

ดังนั้น พลตรี นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง จึงได้สั่งการให้ พันเอก สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 นำม้า เพื่อใช้เป็นพาหนะเพิ่มระยะทางและระยะเวลา ในการปฏิบัติภารกิจการลาดตระเวน ตามแนวชายแดน แทนการเดินเท้า เพื่อให้กำลังพลลดความเหนื่อยล้า และได้ผ่อนคลาย จากการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงและ ให้มีการผลัดเปลี่ยนกำลังพล ในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตามแนวชายแดนพร้อม การสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ในพื้นที่ตามแนวชายแดน ของ จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังได้สร้างความสัมพันธ์กับประชาชน ในพื้นที่ ด้วยการแจกหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด – 19)

ทั้งนี้ ในห้วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือน มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่3กองกำลังผาเมืองสามารถสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 4 ครั้ง ผู้ต้องหา จำนวน 14 คน การผลักดัน จำนวน 7 ครั้ง ผู้ต้องหา จำนวน 16 คน และจะยังคงเพิ่มความเข้มข้น ในการปฏิบัติการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดต่อไป


ภาพ/ข่าว  สันติ วงศ์สุนันท์ / ผู้สื่อข่าวเชียงราย

สงขลา - แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดกิจกรรม "น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)" ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ คืนความอุดมสมบูรณ์ อีกครั้ง

ที่ หาดปากบางภูมี ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  บินสำรวจตรวจคลองภูมี พร้อมเป็นประธานเปิดกิจกรรม “น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)” ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของคลองภูมี ภายหลังถูกขบวนการดูดทรายเถื่อนลักลอบทำลายอย่างหนักในห้วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ร่วมปล่อยกุ้ง ปล่อยปลาลงสู่คลองภูมี พร้อมกับ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวชื่นชมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ และอื่น ๆ ซึ่งความเสื่อมโทรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยคลองภูมีเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักในการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค แหล่งอาศัย และที่ทำกิน แต่ในปัจจุบันปัญหาการรุกล้ำพื้นที่คลองภูมี ส่งผลให้ทรัพยากรน้ำเกิดปัญหามากมาย  ขอขอบคุณภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่ได้ร่วมรณรงค์ ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์คลองภูมี สร้างเสริมองค์ความรู้ และจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของแม่น้ำลำคลอง ให้เกิดความรัก และหวงแหนมากยิ่งขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เอาชนะปัญหาต่าง ๆ ไปได้ ซึ่งหากเราร่วมมือสมัครสมาน สามัคคีกันก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้คลองภูมีแห่งนี้ที่เป็นเส้นเลือดหลักในการดำรงชีวิตของประชาชนพื้นที่ต่อไป ทางกองทัพบกพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล และช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ กองทัพบกเป็นของพี่น้องประชาชน เป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นกำลังใจให้ประชาชนจังหวัดสงขลา เพื่อให้คลองภูมีกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีภารกิจในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวทางการพัฒนา เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งด้าน ทรัพยากรป่าไม้ ด้านทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรทางทะเล พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ตลอดจนเฝ้าระวังการทำลาย สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้ปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำ กุ้งก้ามกราม จำนวน 3 ล้านตัว ลงสู่คลองภูมี เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและเป็นการ เพิ่มขยายพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่คลองภูมี และทะเลสาบสงขลาต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์  

ปทุมธานี – บิ๊กแจ๊ส เข้าคิวลงทะเบียนจองวัคซีนซีโนฟาร์ม เพื่อคนปทุมธานี

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 07:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาจองวัคซีนตัวเลือกซีโนฟาร์มที่สถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังจากที่สถาบันเปิดให้หน่วยงานต่างได้เปิดจองในวันนี้เป็นวันแรก โดยมีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี หลังจากที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของสถานับราชวิทยาลัยฯเรียบร้อยแล้ว แต่ที่เดินทางมาด้วยตนเองเพื่อปรึกษา ท่านพลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อนำข้อมูลกลับไปเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ฉีดวัคซีนให้ชาวปทุมธานี ส่วนบรรยากาศที่สถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีประชาชนมารอเข้าคิวรับการฉีดวัคซีนแอสตราฯเข็มที่สอง

โดยมีคุณบรู๊ค ดนุพร และคุณกบ สุวนันท์ สองดารานักแสดงชื่อดัง ได้มารอคิวรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองจากสถาบันฯด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้เปิดให้หน่วยงานต่างได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับจัดสรรวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ผ่านระบบออนไลน์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผมจึงได้เดินทางมาพร้อมกับท่านรองปลัดของ อบจ.ปทุมธานี และท่านชาตรี ศรีสันต์ หัวหน้าสำนักงานสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย โดยสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยมีท่านสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราได้เดินทางมาจองในภาพรวมของจังหวัดปทุมธานี โดยอบจ.ปทุมธานีได้จองวัคซีนจำนวน 500,000 โดส พร้อมกับ อบต. เทศบาลต่าง ๆ ที่รวมจองเข้ามาด้วย ในส่วนจอง อบจ.ในจังหวัดอื่น จะมีประธานนายก อบจ. เผยแพร่ข้อมมูลทางไลน์ให้จองพร้อมกัน

เบื้องต้นทราบว่ามีจำนวน 20 จังหวัดแล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ให้รีบเข้าไลน์จองได้เลยตอนนี้ โดยมีท่านชาตรี ศรีสันต์ หัวหน้าสำนักงานสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เป็นผู้ประสานงานทั้งหมด ในวันนี้ได้รับความสะดวกจาก พลอากาศตรี นายแพทย์ สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ในส่วนของอบจ.ปทุมธานีจะต้องกลับไปเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ซึ่งโรงพยาบาลที่จะรับการฉีดวัคซีนต้องเป็นโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานียังไม่ปลอดภัย เป็นพื้นที่สีแดงอยู่ และมีผู้ติดเชื้ออยู่ 1 ใน 7 ของประเทศ รวมถึงมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อง ส่วนยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศมีจำนวนมากถึง 2,000-3,000 คน รวมถึงก็ยังมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ แต่ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนประมาท ได้ฉีดวัคซีนทั้งจากภาครัฐและวัคซีนทางเลือก คาดว่าจะประชาชนจะได้ฉีดอย่างทั่วถึงที่สุด และเราจะผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน ในส่วนของการจัดสรรในการฉีดวัคซีนนั้น ผมคงจะเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ว่าในเน้นไปที่บุคคลากรทางการศึกษาก่อน จากนั้นเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ผู้ที่ขับรถโดยสารส่งนักเรียน คนขับรถรับส่งสาธารณะ รวมถึงพี่น้อง อสม. ที่เป็นด่านหน้าต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็ว


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top