Saturday, 21 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

นราธิวาส - โฆษก ศรชล.เผย กู้อวนใต้เกาะโลซินสำเร็จ พบความเสียหายบางส่วน เร่งปลูกชดเชย เตรียมลงดาบเรือตัดอวน

วันนี้ ( 21 มิ.ย.64 ) เวลา 08.30 น. พลเรือตรี ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เปิดเผยถึงการปฏิบัติภารกิจแก้ปัญหาอวนขนาดใหญ่ปกคลุมปะการังบริเวณเกาะโลซิน จว.นราธิวาสในวันสุดท้าย (20 มิ.ย.64) ว่า การปฏิบัติภารกิจยังคงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สภาพอากาศท้องฟ้าแจ่มใส โดยทีมนักดำน้ำได้ทำการดำในช่วงเช้า 2 เที่ยว เพื่อทำการตัดอวนที่เหลือ ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถเก็บอวนขึ้นมาได้ทั้งหมดมีน้ำหนักถึง 800 กิโลกรัม ส่วนในช่วงบ่ายได้ทำการดำอีก 1 เที่ยวเพื่อประเมินความเสียหายของปะการังและปลูกซ่อมแซม

จากการสำรวจพบว่า พื้นที่อวนทั้งหมด 2,750 ตารางเมตร พื้นที่ที่อวนปกคลุมปะการัง 550 ตารางเมตร ผลการประเมินความเสียหายของปะการัง พบลักษณะความเสียหายหลักคือปะการังมีสีซีดจางร้อยละ 10 ของพื้นที่ปกคลุมทั้งหมด รองลงมาคือแตกหัก ร้อยละ 5 ของพื้นที่ปกคลุมทั้งหมด และรอยถลอกเสียดสี บางส่วนบาดจนปะการังเคลือบติดกับเนื้ออวน ร้อยละ 5 ของพื้นที่ปกคลุมทั้งหมด

นอกจากนั้นยังมี ผลกระทบอื่นที่ไม่ใช่ปะการัง ประกอบด้วยดอกไม้ทะเลและสัตว์หน้าดิน เสียหายเล็กน้อย

สำหรับแผนการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ได้ปลูกปะการังทดแทนในพื้นที่เสียหายประมาณ 500 เข่งและติดตามผลการดำเนินการในอีก 3 เดือนโดยนักดำน้ำทั้งหมดที่มาจากกองทัพเรือ 16 นายนักดำน้ำของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และอาสาสมัครดำน้ำจำนวน 26 นายรวมทั้งนักข่าวใต้น้ำจำนวน 6 นายปลอดภัย การปฏิบัติการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีอุปสรรคใดๆ โดย พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค 2 / ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 (ผบ.ทรภ.2) ได้ขอบคุณหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยเฉพาะนักดำน้ำและถ่ายภาพใต้น้ำทั้ง 38 นาย ที่เสียสละเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ จนทำให้ภารกิจได้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี

โฆษก ศรชล.กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้กระทำความผิด ทาง ศรชล.ร่วมกับ ทร./ทช./กรมประมง เพื่อดำเนินการร่วมกัน โดยเบื้องต้น ทช.จะนำของกลางเข้าแจ้งความเพื่อหาผู้กระทำผิด และศรชล.ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

1.ให้ศูนย์ยุทธการตรวจสอบ เรือประมงพานิชย์ ประเภทอวนล้อมจับ ที่มีประวัติเดินทางผ่าน เกาะโลซิน ตั้งแต่ 1 มิ.ย.64- ปัจจุบัน

2. ซากอวนทั้งหมดที่ตัดมาให้นำอวนมาส่งที่ ท่าเรือตรวจประมง ปัตตานี และให้ ศรชล.จังหวัดปัตตานีตั้งคณะทำงานร่วมกันกับสมาคมประมง และประมงจังหวัด เพื่อหาที่มาของอวน

3.ให้ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดต่าง ๆ ตรวจสอบเรือที่แจ้งเข้าว่า อวนบนเรือมีลักษณะตรงกับตัวอย่างที่เก็บมาได้ และอวนบนเรือได้หายไปเนื่องจากการประมงหรือไม่เพื่อตรวจสอบหาเรือที่กระทำความผิดต่อไป

สำหรับโทษที่กำหนดไว้เกาะโลซินเป็นพื้นที่ห้ามทำประมงชอบ/อวน ตาม พรบ. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาตรา 17 โทษปรับ 100,000 บาท จำคุก 1 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงโทษตาม พรบ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ฐานทำให้ปะการังเสียหายหรือถูกทำลายจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นครนายก – พิธีเปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร

สถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก จัดพิธีเปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ

ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ บ้านคลองเหมือง พลตำรวจตรี อิทธิพร โพธิ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีพันตำรวจเอกทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ โดยมีหน่วยงานราชการ ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ผู้นำชุมชน ,ราษฎรบ้านคลองเหมือง เข้าร่วมในพิธีเปิดงานพร้อมรูปเป็นที่ระลึก

ด้วยสถานีตำรวจเมืองนครนายก ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรับรู้ปัญหา พิษภัยแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เข้าใจและรับรู้ปัญหา พิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด การบำบัดรักษาและการให้ความช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ย่อมต้องพิจารณาหลายมิติแบบองค์รวม หาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อการแก้ไขปัญหาได้รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติด้านสังคม การบำบัดโดยชุมชนมีส่วนร่วม และนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งแบบยั่งยืนและครบวงจร โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ที่สามารถดูแลผู้ใช้ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก จึงได้จัดทำโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไข และบำบัดยาเสพติด โดยมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข้ง ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่ / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

แม่ฮ่องสอน - ททท.แม่ฮ่องสอน จัดส่วนลดโรงแรม 7 อำเภอ เพิ่มกิจกรรม ‘เดินป่าหน้าฝน’ เตรียมพร้อมการท่องเที่ยว” สามหมอก...หยอกฝน”

นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ททท.แม่ฮ่องสอน ได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ไว้แล้ว โดยเป็นแผนเตรียมพร้อมหลังจากเปิดจังหวัด ซึ่งในเรื่องนี้ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดหาหลวง  ได้มีการเตรียมนโนบายและแนวทางในการดำเนินการไว้เบื้องต้นแล้ว ทาง ททท.จึงได้เตรียมแผนรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในไตรมาส 4 ที่อยู่ในระหว่างฤดูฝน หรือกรีนซีซั่น

ในฤดูท่องเที่ยวกรีนซีซั่นของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หากนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในระยะนี้ จะพบเจอกับบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงาม จากหุบเขาสีเขียวทั้งจังหวัด รวมถึงความของแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ  ซึ่งนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะพบว่าการท่องเที่ยวที่นี่ มีจุดเด่นคือไม่แออัด คนไม่พลุกพล่าน ส่วนผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดกิจการร้านค้า ปฏิบัติตามมาตรการภายใต้สถานการณ์โควิด อย่างไรก็ตาม ทาง ททท. ได้วางแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไป และเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตนเอง สำหรับแผนในระยะสั้น ได้วางแผนร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมทั้ง 7 อำเภอ จัดโปรโมชั่น มอบส่วนลด โดยใช้ชื่อว่า แฮปปี้ เรนนี่ ซีซั่น (HAPPY RAINNIE SEASON) และอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับสายลุย คือการ “เดินป่าหน้าฝน” โดยจะจัดนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ท่องเที่ยวชมป่า

ทั้งนี้ ททท.คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในภาคเหนือในระยะอันใกล้นี้ มีความสำคัญมาก เนื่องจากข้อมูลสถิติที่เก็บในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 40 เดินทางมาจากภาคเหนือด้วยกัน จึงได้วางแผนประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเจาะกลุ่มภาคเหนือก่อน ถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวในระยะใกล้ อาจร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ เสนอขายทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ที่สำคัญต้องเน้นย้ำมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / รุจิรา

191 บุกทลายเครือข่ายการพนันออนไลน์เย้ย พรก.ฉุกเฉิน !!

ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท สืบเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 และตรวจสอบแหล่งมั่วสุมอบายมุขต่าง ๆ

ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น, พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น.  เป็นผู้ควบคุมสั่งการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล, พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ, พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์, พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัครพล โทยะ, พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์, พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร, พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ รอง ผกก.สายตรวจฯ, พ.ต.ต.เชษฐพร บัวจันทร์ สว.งานสายตรวจ 2 สถานที่ตรวจค้น/ตรวจยึด บ้านเลขที่ 170/114 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 11 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลาง ชุดคอมพิวเตอร์จำนวน 4 ชุด เครื่องปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตจำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 33 เล่ม สถานที่ตรวจค้น/ตรวจยึด บ้านเลขที่ 170/59 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย ๗ ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางชุดคอมพิวเตอร์จำนวน 4 ชุด เครื่องปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตจำนวน 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร รวมจำนวน 17 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง พร้อมด้วยผู้ต้องหาจำนวน 12 คน พฤติการณ์กล่าวคือ กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ ได้รับร้องเรียนในช่วงเทศกาลฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2020 ว่ามีการลักลอบทำเว็บไซด์สำหรับการเล่นพนันฟุตบอลทางออนไลน์ จึงได้รายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจฯ ได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าบ้านเลขที่ 170/114 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 11 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และ บ้านเลขที่ 170/59 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 7 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ มีการลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ผ่านทางเว็บไซด์ออนไลน์จริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ต่อมา วันที่ 18 มิ.ย. 2564 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ กก.สายตรวจ งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 170/114 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 11 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และ บ้านเลขที่ 170/59 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย ๗ ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวและแสดงหมายค้น จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพัก เมื่อเข้าไปที่บริเวณชั้นหนึ่งพบกลุ่มผู้ถูกจับกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าจอคอยดูแลระบบคอมพิวเตอร์ในการพนันออนไลน์ และคอยตรวจสอบระบบการฝากและถอนเงินของลูกค้าที่เล่นการพนันออนไลน์ดังกล่าว และ ดูแลลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ออฟฟิเชียล และสอนวิธีการเล่นการพนันและเป็นคนทำหน้าที่ตอบลูกค้าที่เล่นการพนันเกี่ยวกับปัญหาต่างๆและสอนวิธีการเล่นการพนันออนไลน์

โดยมีนายเอ (นามสมมุติ) เป็นผู้ดูแลบ้านเลขที่ 170/114 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 11 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และนายบี (นามสมมุติ) เป็นผู้ดูแลบ้านเลขที่ 170/59 ม.เกษราคลาสสิคโฮม ซอย 7 ถ.เสรีไทย ซ.เสรีไทย 81/2 แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม เจ้าพนักงานตำรวจจึงแสดงตัวและแสดงหมายค้นให้นายเอ(นามสมมุติ) และ นายบี(นามสมมุติ) ดูและอ่านเองอีกครั้งจนเป็นที่เข้าใจใน หมายค้นดีแล้ว จากกนั้นนายเอ(นามสมมุติ) และนายบี(นามสมมุติ) นำเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นภายในบ้านพักของแต่ละหลัง พบของกลางตามรายการ ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ว่า “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน หรือทําอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478, และร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ที่กระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” สอบถามนายเอ (นามสมมุติ) และนายบีฯ (นามสมมุติ) รับว่าสถานที่ทั้งสองเป็นสำนักงานที่ย้ายมาจากฝั่งปอยเปรต โดยได้ย้ายมาตั้งสำนักงานที่ประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีหน้าที่ดูแล และบริการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ ลูกค้าที่เล่นการพนันทางออนไลน์ทางฝั่งปอยเปรต เขมร และ ดูแลลูกค้าทั้งเอเซีย ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าพนักงานจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คนที่ถูกดำเนินคดีและของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นพนันออนไลน์และการพนันประเภทต่าง ๆ หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191


ภาพ/ข่าว  กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)

"ผู้ใหญ่ใจบุญ" รวบรวมอุปกรณ์ช่วยคนพิการ ส่งต่อ "ผู้นำคนพิการ" เพื่อนำไปซ่อมแซมและนำไปมอบให้คนพิการ ผู้สูงอายุ คนยากไร้

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2564 "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน  พร้อมด้วย "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ ( หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) เดินทางไปยัง ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เข้าพบคุณตาประสาร อยู่เมือง และ คุณมานพ-คุณสุธาทิพย์ อยู่เมือง  ซึ่งได้รวบรวมอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ "รถวีลแชร์  " ที่ได้รับซื้อเศษของเก่ามาจากโรงพยาบาล แต่ได้เล็งคุณค่า คุณประโยชน์ ที่สามารถ เป็นอะไหล่ นำไปส่งมอบต่อให้กับ "นายสายันต์ ดีเลิศ" นายกสมาคม ส่งเสริมอาชีพและช่วยเหลือรถเข็นเพื่อคนพิการ (ปทุมธานี) นำไปแยกชิ้นส่วน ถอดเก็บเป็นอะไหล่ใช้ทดแทน ซ่อมบำรุง รถวีลแชร์มือ 2 ที่ได้รับบริจาคมาจากประเทศญี่ปุ่น และ เมื่อสามารถใช้งานได้ตามปกติทางสมาคมฯก็จะส่งมอบต่อให้กับคนพิการ คนชรา คนเจ็บไข้ได้ป่วย ที่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ อย่างสมบูรณ์ต่อไป

อีกทั้ง "คุณตาประสาร อยู่เมือง" นำพา "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" และ "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" เข้ากราบนมัสการ "หลวงพ่อคุ้ม" แห่ง "วัดอินทาราม" ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เป็นพระพุทธรูป คู่บ้าน คู่เมือง มีความศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร ในเรื่องของการประทานพร โชคลาภ บารมี และสร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้กับคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และกราบขอพร จาก "หลวงพ่อคุ้ม" ให้ท่านโปรดประทานพร ความสุขสวัสดี มีโชค มีลาภ และผ่านพ้นจากโรคภัย ไข้เจ็บ สถานการณ์โควิค19 ให้ประชาชนคนไทย ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดีด้วยเถิด สาธุ

สุดท้ายนี้ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทยได้กล่าวขอบพระคุณ  คุณตาประสาร คุณมานพ คุณสุธาทิพย์ ครอบครัว "อยู่เมือง" ที่ได้มอบโอกาสแบ่งปันช่วยเหลือสังคม "คนพิการ" ให้น่าอยู่สืบไป 
#คนละไม้_คนละมือ
#คนพิการยุคใหม่_หัวใจเดียวกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยกรณีมิจฉาชีพ แอบแฝงมากับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยถึงกรณีที่มีหลายหน่วยงานออกมาสนับสนุน แนะนำการลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ

เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 หรือ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ฯลฯ ว่า

ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จึงมีหลายหน่วยงานพยายามคิดโปรโมชั่นรวมถึงให้ส่วนลดต่าง ๆ ให้สอดรับกับโครงการของภาครัฐ เพื่อดึงดูดให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีเหล่ามิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างจากความต้องการของพี่น้องประชาชนนี้ในการกระทำความผิด ซึ่งในบางกรณีอาจมีการสร้างเว็บไซต์ปลอม หรือการส่ง SMS ทางโทรศัพท์มือถือ หรือลิงค์ต่าง ๆ

ที่มีลักษณะให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือให้ใส่รหัส OTP เป็นต้น เมื่อได้ใส่ข้อมูลลักษณะดังกล่าวไปแล้ว เหล่ามิจฉาชีพก็อาจจะนำข้อมูลที่ได้ไปหาประโยชน์ในทางมิชอบ และทำให้ได้รับความเสียหายในอนาคต

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยดูจากพฤติการณ์แต่ละกรณีมาประกอบ

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อดังนี้ อย่าหลงเชื่อข้อมูลการโพสต์ หรือลิงค์ที่แนบมาพร้อมกับอีเมลที่ไม่แน่ใจแหล่งที่มา ห้ามเปิดลิงค์ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด, ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ ผ่านระบบออนไลน์ ให้กับผู้อื่นหากยังไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน, หากพบ เพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไลน์ หรืออีเมลที่น่าสงสัย ให้ติดต่อสอบถามกับหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องให้แน่ใจเสียก่อน, ในกรณีหลงเชื่อไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน เป็นต้น นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คุยกับหมอเพื่อดูแลหมา | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.40

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ตำรวจ PCT' จับกุมเครือข่ายลักลอบเปิดเว็บพนันฟุตบอลยูโร 2020

วันนี้ (18 มิ.ย.2564) ที่ศูนย์ PCT ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผอ.PCT เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. หัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวน PCT นำหมายค้นศาลพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวม 4 จุด จับกุมเครือข่ายเว็บไซต์พนันบอลยูโร 2020 www.UFABET.COM พบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เร่งปราบปรามการพนันทายผลฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (EURO 2020) เนื่องจากมีผู้ปกครองร้องเรียนเข้ามาว่ามีเด็กนักเรียนเข้าไปแทงบอลผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ชุดเทคนิคและสืบสวน PCT ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเครือข่าย​ www.UFABET.COM ผ่าน Line Official UFA777, UFA368, UFAR1, UBET777 จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาล เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวน 4 จุด ได้แก่...

จุดที่ 1 หมายค้นศาลแขวงนนทบุรี บ้านเลขที่ 107/112 ม.4 หมู่บ้านปริญญดาไลท์ พระราม 5 ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี

จุดที่ 2 หมายค้นศาลแขวงนนทบุรี บ้านเลขที่ 51/3 ม.4 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

จุดที่ 3 หมายค้นศาลแขวงธนบุรี ห้องเลขที่ 18/219 ชั้น 19 คอนโด ลุมพินีวิวทาวน์บางแค ถ. สุขาภิบาล1 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพ

จุดที่ 4 หมายค้นศาลจังหวัดหัวหิน บ้านเลขที่ 391 ต. ทับใต้ อ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 คน คือ...

1. นายสุรสิทธิ์ หรือเก่ง คงเจริญ​ อายุ 27 ปี

2. นายสิทธิพงษ์ หรือแบ้งค์ ทับทอง อายุ 28 ปี

3. นายชัยสิทธิ์ หรือบีม ศรประสิทธิ์​ อายุ 27 ปี

4. นายชิภาณุพงศ์ หรือเบียร์ โรจนรุ่งเรืองพร​ อายุ 26 ปี

5. นายพิพัฒน์ หรือแอล เล็กผลา อายุ 27 ปี

6. น.ส.สิริพรรณ หรือแตงโม จันทรวิสูตร อายุ 39 ปี

7. น.ส.วิภาวรรณ หรือกิ๊ก ธานี​ อายุ 26 ปี

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน​ (ออนไลน์) ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” พร้อมด้วยของกลาง...

1. สมุดบัญชี 91 เล่ม

2. บัตรกดเงินสด 51 ใบ

3. โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง

4. แท็ปเล็ต 2 เครื่อง

5. โน๊ตบุ๊ค 5 เครื่อง

6. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง

7. จอมอนิเตอร์ 2 เครื่อง

8. อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก

9. พระเครื่อง/เครื่องราง 424 องค์  (ประมาณ 5 ล้านบาท)

10. สร้อยคอ เครื่องประดับเพชร ฯลฯ 4 ชิ้น   (ประมาณ 1 ล้านบาท)

11. รถยนต์ 4 คัน   (ประมาณ 11 ล้านบาท)

12. เงินสด 595,000 บาท

มูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 18 ล้านบาท​ เงินสดค้างอยู่ในบัญชีของผู้ต้องหา จำนวน 1.6 ล้านบาท​ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี,​ พงส.สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี และ พงส.สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ย้ำว่า ช่วงนี้มีการแข่งขันฟุตบอล EURO 2020 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและกำชับมิให้มีการเล่นการพนัน โดยเฉพาะการทายผลการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการทายผลทางออนไลน์ด้วย ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้กวดขันจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด

 

ทลายแก๊ง App เงินกู้ดอกเบี้ยโหด!! จังหวัดนนทบุรี พบเบื้องหลังเป็นนายทุนจีน ตะลึงยอดลูกหนี้กว่า 70,000 ราย!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร. มอบหมายให้สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร

ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. โดยมอบหมายให้พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.​ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ ศปชก.สตม. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จํานวน 2 ราย ข้อหา “ร่วมกันประกอบกิจการทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต” กรณีในช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้กู้เงินนอกระบบจากแอปพลิเคชัน ที่โฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เบื้องต้นพบมี 6 แอปพลิเคชั่น ดังนี้

1.แมวกวัก

2.Tiktak

3.Ubaht

4.Cashdaddy

5.เต่ามงคล

6.ถุงเงิน

พฤติการณ์​ คือ เมื่อประชาชนตกลงกู้เงิน จะต้องทำการส่งข้อมูลส่วนตัวพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้กับทางแอปฯ​ ดังกล่าว ยอดเงินกู้ เริ่มตั้งแต่ 2,500-10,000 บาท ซึ่งจะคิดหักค่าธรรมเนียมประมาณ 30-42% ให้เวลาคืน 7 วัน

หากเกินวันแรกดอกเบี้ย+ค่าปรับ 12% วันถัดไปวันละ 5% หากไม่ชำระตามที่กำหนด จะถูกเจ้าหน้าที่โทรตามทวงหนี้ หรือโทรหาญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก เพื่อให้เกิดความอับอาย

ปัจจุบันมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งมีบางรายถูกโทรข่มขู่ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งต่อมาศาลได้ออกหมายจับชาวไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน

และต่อมาในวันนี้​ (18 มิ.ย.64) จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้น 2 จุด คือ...

จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 30 ซอยหมู่บ้านจันทิมา ธานี 2 แขวงบางรักพัฒนา เขตบางบัวทอง จ.นนทบุรี ทำการจับกุม Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน ตามหมายจับ ที่ 516/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจค้น พบสมุดบัญชี 15 เล่ม , บัตรกดเงิน 10 ใบ และโทรศัพมือถือ 13 เครื่อง

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 13 ซอยรัตนาธิเบศร์ 30 ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรีทำการจับกุม น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ตามหมายจับ ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ที่ จ 299/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจ

ค้นพบ คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก, โทรศัพท์ อย่างละประมาณกว่า 100 เครื่อง ซึ่งภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มบุคคล​ ซึ่งยอมรับว่าเป็นพนักงานโทรทวงหนี้ รวมจำนวน 66 คน (บริเวณชั้นสอง จำนวน 16 คน , ชั้นสาม จำนวน 27 คน และชั้น

สี่จำนวน 23 คน)

ทั้งนี้สตม. จะได้ประสานกับศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องในความผิด ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นตามการค้าปกติ และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนดไว้ต่อไป

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ มหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโท รศัพ ท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

สงขลา – คลัสเตอร์ชุมชนบาลาเซ๊าะเก้าเส้ง ติดโควิด-19 เพิ่มเป็น 60 คน

นายกอบจ.สงขลา และนายอำเภอเมืองสงขลารวมทั้งชาวบ้านในชุมชนเก้าเส้ง เร่งให้การช่วยเหลือด้านอาหารการกินกับชาวบ้าน 782 คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน 14 วัน

สถานการณ์โควิด-19 ที่ จ.สงขลา ยังคงพบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 เพิ่มขึ้นในหลายชุมชน โดยเฉพาะที่ชุมชนบาลาเซาะ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนเก้าเส้ง ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในเขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น60คนแล้ว จากจำนวนผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนบาลาเซ๊าะ 184 ครัวเรือนจำนวน 880 คน และมีการตรวจเชิงรุกไปแล้ว 351 คน และได้มีการล๊อคดาวน์ชุมชนบาลาเซ๊าะ 14 วันตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึง 28 มิถุนายน คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า และมีชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านจำนวน 782 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

และในวันนี้ (18มิ.ย.) นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายอริย์ธัช ทองเพชร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อม รองประธานสภาฯ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ร่วมกับนายนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา ยกทีมลงไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนเก้าเส้งที่ถูกกักตัวอยู่บ้านโดยนำถุงยังชีพของกินของใช้ไปแจกให้กับชาวบ้านในชุมชนบาลาเซ๊าะเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของอาหารการกินระหว่างที่กักตัว 14 วันและออกไปไหนไม่ได้

นายไพเจน มากสวุรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ทาง อบจ.สงขลา จะให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเต็มที่และต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเฉพาะชุมชนที่มีการล๊อคดาวน์ซึ่งชาวบ้านเดือดร้อนทั้งชุมชนบาลาเซ๊าะที่เก้าเส้งและพื้นที่อื่น ๆ ใน จ.สงขลา เพื่อให้ชาวบ้านมีอาหารการกินระหว่างที่มีการกักตัว

ด้านนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา เปิดเผยว่า ภาพรวมของสถานการณ์โควิด19ในชุมชนบาลาเซ๊าะเก้าเส้งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อจำนวน 60 คน แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดภายในชุมชนโดยไม่แพร่กระจายไปในพื้นที่อื่น ๆ  นอกจากนี้ทางฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสงขลาจะเริ่มใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยจับจริงปรับจริงทุกคนตามคำสั่งของทางจังหวัดซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.สงขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของความช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบาลาเซ๊าะเก้าเส้ง นอกเหนือจากทาง อบจ.สงขลา ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงมาช่วยเหลือแล้ว ในแต่ละวันก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเก้าเส้งเองก็ช่วยกันทำอาหารปรุงสดเช่นข้าวแกง ข้าวหมกไก่ และอื่น ๆ มาช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบาลาเซ๊าะเช่นกัน เพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนเก้าเส้งด้วยกันและไม่มีการตำหนิหรือรังเกียรติคนที่ติดโควิดทุกคนในเก้าเส้งต้องผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top