Wednesday, 2 July 2025
THE STATES TIMES TEAM

เปิดตัวแปรพลิกเกม 'ท่องเที่ยวไทย'​ 'รุ่ง-รอด' ตลอดปี​ 65 | MEET THE STATES TIMES EP.57

📌เปิดตัวแปรพลิกเกม 'ท่องเที่ยวไทย'​ 'รุ่ง-รอด' ตลอดปี​ 65 !!
📌พลิกหน้าการท่องเที่ยวฝ่า ‘ยุคโควิด-19’!

ไปกับ ‘นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช' ประธานกรรมการบริหารบริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

เชียงใหม่ - บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก เปิดให้บริการแล้ว ผู้ป่วยและญาติสองรายแรก จาก จ.น่าน!

ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  กล่าวว่า“จากนโยบายของคณะแพทยศาสตร์ มช. ในการเปิดให้บริการอาคารบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างอำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ และต่างจังหวัด ที่ประสบปัญหาเรื่องที่พักอาศัยในระหว่างเข้ามารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยและญาติที่ฐานะยากจนไม่มีกำลังทรัพย์ในการชำระค่าที่พักอาศัยได้

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลักคณะแพทยศาสตร์ มช. ที่จะรองรับนโยบายด้านการดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มรูปแบบ จากเดิมทางคณะฯได้กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไป กระทั้งวันนี้ 25 มกราคม 2565 บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก ได้รับผู้ป่วยและญาติสูงอายุสองรายแรกที่ เดินทางมาจากจังหวัดน่าน เพื่อมารักษาโรคตาในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และไม่สามารถเดินทางกลับจ.น่านและหาที่พักได้ในเชียงใหม่ อาคารบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกจึงได้รับผู้ป่วยและญาติ 2 ท่านนี้เข้าพักอาศัยเป็นกลุ่มแรก”

อาคารพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ จะเปิดให้บริการ 200 เตียง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ห่างจากโรงพยาบาลระยะทาง 300 เมตร มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ให้บริการที่พักพร้อมเครื่องนอน บริการน้ำ – ไฟฟ้า พัดลม และห้องน้ำสะอาด แยกชาย-หญิง มีห้องพักผ่อน ห้องสมุด ห้องรับประทานอาหาร เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ในด้านการดูแลความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง มีการประสานงานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่กรณีฉุกเฉิน

นายเสวียน เสนนะ อายุ 84 ปี ผู้ป่วยของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเดินทางโดยรถโดยสารมาจาก อ.นาน้อย จ.น่าน กับภรรยา อายุ 76 ปี เพื่อมารับการรักษาโรคตาอักเสบตามใบนัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมอได้แจ้งว่าวันนี้รักษาเรียบร้อยแล้วและสามารถกลับบ้านได้ แต่ผมยังไม่สามารถกลับจ.น่านได้ เพราะไม่มีตั๋วรถโดยสารและเย็นมากแล้ว จึงพยายามหาที่พักใกล้ ๆ โรงพยาบาลเพื่อรอกลับบ้านวันพรุ่งนี้ แต่ราคาที่พักรอบๆโรงพยาบาลสูงมากทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ น้องสาวภรรยาทราบข่าวว่ารพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้มีอาคารพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและได้แนะนำให้สอบถาม ผมดีใจมากที่ได้เข้ามาพักเป็นคนแรก ที่พักที่นี้สะอาดมากตั้งแต่ประตูทางเข้า มาตรฐานเทียบเท่าระดับโรงแรม เงียบสงบ เย็นสบาย ขอขอบคุณทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ผู้สร้าง ผู้ดูแลทุกท่าน ถือเป็นกุศลบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ทางโรงพยาบาลฯได้ดูแลผู้ป่วยทุก ๆ คนโดยเฉพาะ คนรากหญ้าคนยากคนจน”

คณบดีคณะแพทยศาสตร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันมีการเก็บค่าบริการเพียงวันละ 50 บาท ซึ่งผู้ที่จะเข้าพักได้ต้องเป็นผู้ป่วยและญาติของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และมีใบนัดของทางโรงพยาบาลฯ โดยติดต่อผ่านงานสังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทั้งนี้อยากให้ทุกท่านมั่นใจในการบริหารจัดการบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ และพักที่บ้านพักอย่างมีความสุข ตามคำขวัญที่ว่าเราจะเป็น “โรงพยาบาลในดวงใจ”

จันทบุรี - สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า ป้องปราม!ไม่ให้มีการฉวยโอกาส ขึ้นราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน!!

วันนี้ ( 28 ม.ค.65 ) นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตลาดสดสวนมะม่วง และตลาดน้ำพุ อำเภอเมืองจันทบุรี เพื่อติดตาม ตรวจสอบราคาสินค้าและบริการให้เกิดความเป็นธรรม ป้องกันมิให้ผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบ ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน

โดยจะต้องมีการติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายทุกชนิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน สามารถเลือกซื้อ เปรียบเทียบคุณภาพ ชนิด ปริมาณและราคาสินค้าได้สะดวก เครื่องชั่ง วัด ตวง ต้องมีมาตรฐาน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ปฏิบัติตามประกาศที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด ไม่พบการเอารัดเอาเปรียบประชาชนแต่อย่างใด

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส เปิดกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 พร้อมมอบรางวัลผู้ผ่านการประกวด 8 ราย เพื่อเป็นตัวแทนจ.นราธิวาส เข้าประกวดในระดับภาคใต้ ณ จังหวัดภูเก็ต

ณ ลานรวมพล อาคาร 5 โรงเรียนจังหวัดนราธิวาส นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 โดยมีนายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส / นายนิรัตน์ นราฤทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส ตลอดจนน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL จำนวน 31 คน จากพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประกวดฯ

จังหวัดนราธิวาส ได้น้อมนำโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด : TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาดำเนินการด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แนวคิด "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตอบสนองยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตแก่เยาวชน การสร้างและพัฒนาเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

สำหรับกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 จังหวัดนราธิวาสประจำปี 2565 เพื่อดำเนินการ คัดเลือกเยาวชนชาย หญิง อายุ 15-18 ปี เป็นตัวแทนจังหวัดฯ เข้าสู่การประกวดฯ ระดับภาคใต้ ณ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 8 คน และมุ่งหวังสู่ระดับประเทศ รับรางวัลพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ โดยกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นภายในเดือน มกราคม 2565 นี้

ศรีลังกา - ชาวบ้านศรีลังกา โวย!! โครงการถนนใน Higurakgoda สร้างผลกระทบในชีวิตประจำวัน หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อสร้างไม่มาตรฐานและไม่มีการมาเก็บงานซ่อมแซม!!

(Higurakgoda / ศรีลังกา) ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ Higurakgoda กำลังเจอผลกระทบจากสภาพทรุดโทรมของถนนสายหลักที่เชื่อมต่อไปสู่หมู่บ้านจากโครงการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

โดยประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าวประสบปัญหาในการเดินทางไปทำงานในเมือง หรือแม้แต่การไปทำธุระต่างๆ จากเหตุปัญหาถนนทรุดโทรมทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก โดยเด็กนักเรียนในพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด บางคนไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนได้ เพราะถนนดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน

แม้จะมีการแจ้งตัวแทนทางสายการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อมาดูแล แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเป็นจริงเป็นจัง พร้อมทั้งปล่อยให้ถนนสายดังกล่าว ซึ่งมีการซ่อมแซมแบบขอไปทีตลอดช่วง 2-3 ปีมานี้ค้างคา และบรรดาชาวบ้านต้องทนทำใจใช้ถนนที่ไม่ได้มาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น บางส่วนของพื้นถนนก็เริ่มผุกร่อนพังทลาย กลายเป็นแอ่งหลุมบ่อ กลายเป็นแหล่งเพาะยุงและไข้เลือดออก แพร่กระจายกระทบสุขภาพชาวบ้านหลายคนให้เจ็บป่วย

แม้จะมีผู้อยู่อาศัยและชาวบ้านโดยละแวกร้องขอให้มีการเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง แต่คำขอเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะถูกละเลยจากผู้เกี่ยวข้อง

ตำรวจคมนาคม กทม. ปภ. จับมือลุย!สำรวจทางม้าลาย เตรียมปรับปรุงทั่วประเทศ พร้อมมอบรางวัลให้ประชาชนส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎหมายไม่จอดให้คนข้าม

วันนี้ (28 ม.ค.65) เวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.โสภณ  พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่า กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. นายประพาส เหลืองศิรินภา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ศ.ดร.พิชัย ธานีรณานนท์ ประธานอนุกรรมการความปลอดภัยทางถนนและจราจร สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นายสุจิณ มั่งนิมิต ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติความปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม นายวิทยา จันทน์เสนะ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน  ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองถิ่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมหารือแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า ได้นำ “มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 มอบหมายให้ ตร.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความตระหนัก มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

ในที่ประชุมวันนี้ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบทางม้าลายร่วมกับ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขวงการทาง หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของถนน เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเส้นทางข้ามให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการทาสี ตีเส้น ทำแถบชะลอความเร็ว ทำป้ายเตือน  ปรับทัศนวิสัย  ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมทางข้าม การติดตั้งกล้อง CCTV

นอกจากนี้ ตำรวจจะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พิจารณากำหนดอัตราความเร็วในเขตชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่น หรือบริเวณสถานศึกษาหรือโรงพยาบาลตั้งอยู่ รวมถึงความเร็วขั้นต่ำก่อนถึงทางม้าลาย จัดทำป้ายจำกัดความเร็ว ซึ่งในเขตชุมชนอาจจำกัดความเร็ว 30 – 40 กม./ชม.  นอกเขตชุมชน จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แต่ละสถานีตำรวจจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และอาสาจราจรดูแลความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมในช่วงที่มีประชาชนเดินสัญจรไปมาจำนวนมาก และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับทางม้าลาย เช่น ไม่จอดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แซงบริเวณทางข้าม ปรับ 400- 1,000 บาท  จอดรถในทางม้าลายปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก เช่น ฝ่าไฟแดง ย้อนศร ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ อย่างต่อเนื่อง

เปิดตัว!! ‘สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล’ ได้ 5 สมาคมวิชาชีพสื่อหนุน “เป๊ะ บ้านเมือง” นำทัพ! ยกระดับคุณภาพชีวิตสมาชิกสื่อฯ

แกนนำ 5 สมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย มูลนิธิช่างภาพสื่อมวลชน, สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชน (ประเทศไทย) , สมาคมสมาพันธ์นักข่าว(ประเทศไทย) ,ชมรมช่างภาพสื่อมวลชนอาวุโส และชมรมช่างภาพการเมือง  จัดแถลงข่าวเปิดตัว “สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล” ภายใต้การนำของ นายทิวากร วิจิตรพงศกร หรือ “เป๊ะ บ้านเมือง” อดีตช่างภาพ นักข่าวและนักเขียนวิจารณ์สังคมชื่อดัง ที่รอบนี้กลับมารับตำแหน่งใหญ่ “นายกสมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล”  สำหรับการเปิดตัว “สมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัล” ในครั้งนี้ ได้จัดให้มีขึ้น ณ ร้านอาหาร-กาแฟบ้านบางอ้อ ถนนจรัญสนิทวงศ์ 84 กรุงเทพฯ

โดยนายทิวากร กล่าวว่า "ตนรู้สึกดีใจอย่างมากที่บรรดาผู้บริหารองค์กรสื่ออาวุโสทั้งจาก 5 องค์กรสื่อฯ ได้ให้ความเมตตา ส่งเสริมและสนับสนุนในการจัดตั้งสมาคมฯนี้ขึ้น ส่วนตัวจะอาศัยประสบการณ์การทำงานในวงการสื่อฯมากว่า 40 ปี เพื่อประสานความร่วมมือและให้การช่วยเหลือแก่บรรดาสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล ทั้งนี้ ตนพร้อมจะประสานความร่วมมือกับ 5 องค์กรสื่อฯข้างต้น เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของบรรดาสมาชิกฯที่มีบางส่วนสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมช่างภาพสื่อดิจิทัลไปบ้างแล้ว

เชียงใหม่ - ‘นิพนธ์’ กำชับทุกหน่วยงาน! บูรณาการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะ! ให้ทำความเข้าใจ กับประชาชน ในการเลิกพฤติกรรมการเผา เชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นอย่างมาก โดยได้ออกข้อกำหนด มาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา และกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ก็จะต้องบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการแก้ปัญหา สั่งการ ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ และให้กำหนดรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะบูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

พร้อมเน้นย้ำนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ให้มีการเฝ้าระวัง ออกลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมในการเข้าไปดับไฟ หากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นในพื้นที่ เพื่อลดจุดความร้อน และแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และที่สำคัญจะต้องทำความเข้าใจและขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ในการ งด หรือ เลิก การเผา ถ้าพี่น้องประชาชนเข้าใจและเลิกพฤติกรรมดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้การการแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

 

กรุงเทพฯ - ‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ สนับสนุน 2 หน่วยงาน! อบรมสร้างอาชีพ ตามพันธกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน!!

มูลนิธิมาดามแป้ง โดย “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ สนับสนุนกิจกรรมฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่ 2 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การอบรมงานช่างพื้นฐาน และการผลิตรถเข็นครัวมาดาม โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และการอบรมงานฝีมือแก่กลุ่มสตรีและแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยมี นางพัชราภรณ์  อินทรียงค์ รองประธานกรรมการ นางสาวทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยผู้แทนจาก 2 หน่วยงาน เข้าร่วมรับมอบเงินสนับสนุน เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงแล้ว ยังส่งผลต่อสภาวะทางเศรษฐกิจ เกิดผู้ว่างงานจำนวนมาก โดยจากการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากร สำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบตัวเลขน่าหดหู่ใจที่มีผู้ว่างงานทั้งสิ้น 8.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.25 ซึ่งสูงสุดในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผนวกกับมูลนิธิฯ ของเรา พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังตามพันธกิจหลักที่มีไว้ในการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านการสร้างอาชีพ ซึ่งสอดคล้องและต่อเนื่อง”

“ความร่วมมือกับทั้งสองหน่วยงานรัฐ นอกจากจะช่วยให้มูลนิธิฯ เดินหน้าสานต่องานที่ตั้งใจได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยประสบการณ์ในการทำงานเพื่อพัฒนาอาชีพโดยตรงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเข้าถึงความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ มากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการให้อาชีพจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยความสามารถในการดูแลตัวเองและครอบครัวในระยะยาว”

นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า “เราได้ร่วมงานกับมูลนิธิมาดามแป้งมาแล้ว ในการสนับสนุนทุนประกอบอาชีพแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา จึงมองว่าจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ดีต่อเนื่อง ในการเปลี่ยนชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยวหลาย ๆ คน ที่ประสบความยากลำบาก ในการครองชีพ การดูแลตนเองและครอบครัว ซึ่งการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุนอย่างเดียว แต่การให้ในทุกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่เสริมสร้างกำลังใจ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ด้วยการส่งต่อความปรารถนาดี ให้แก่ครอบครัวของแม่เลี้ยงเดี่ยว สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวของเขาเอง”

นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า “ขอบคุณมูลนิธิมาดามแป้ง ที่เห็นความสำคัญของการให้ การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาส ซึ่งจะมีคุณค่ายิ่งกว่าถ้าเราให้แก่คนที่ขาดโอกาส การส่งเสริมฝึกฝนอาชีพแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ให้มีประสบการณ์ ทักษะทางปัญญา พร้อมกับปลูกฝังความมีจิตอาสานั้นสำคัญมาก โดยทุกคนยังจะนำเอาความรู้ ความสามารถที่ได้รับมาปรับใช้ และให้บริการกับสังคมได้อย่างยั่งยืน และเขาจะเป็นพลเมืองที่ดีต่อไปอีกด้วย”

การดำเนินงานของ ‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ภายใต้กิจกรรมการสนับสนุนการสร้างอาชีพแก่ 2 หน่วยงาน ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้แก่ การฝึกอบรมอาชีพงานช่างขั้นพื้นฐานวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี จำนวน 500,000 บาท, กิจกรรมผลิตรถเข็นครัวมาดาม เพื่อมอบให้แก่ประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพ จำนวน 1,000,000 บาท และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่ออบรมงานฝีมือให้แก่กลุ่มสตรีและแม่เลี้ยงเดี่ยว ในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 500,000 บาท โดยจะเริ่มต้นในระยะที่ 1 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือนมีนาคม โดยวางแผนระยะยาวด้วยการขยายผลความช่วยเหลือ เพื่อส่งเสริมอาชีพไปทั่วประเทศ ตลอดทั้งปี 2565 นี้ ตามพันธกิจของมูลนิธิมาดามแป้ง

สมุทรปราการ - ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือเป็นประธานในพิธีเปิด ‘ร้านค้าสวัสดิการโรงเรียนนายเรือ’ พร้อมให้กำลังพลและครอบครัวมีความสะดวก สุขใจ และปลอดภัย!!

พลเรือโทชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือเป็นประธานในพิธี เปิดร้านค้าสวัสดิการโรงเรียนนายเรือ โดยมี รศ.​ ดร.วัชรีวรรณ​ ทองสะอาด ภริยา พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือ ร่วมพิธีฯ ณ สโมสรโรงเรียนนายเรือ บริเวณบ้านพักข้าราชการ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับร้านค้าสวัสดิการ โรงเรียนนายเรือ เป็นหนึ่งในนโยบายของผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 ด้านสวัสดิการและสุขภาพ โดยกำหนดให้มีการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดในพื้นที่ของโรงเรียน เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมและสินค้าเพื่อสุขภาพ 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top