Wednesday, 2 July 2025
THE STATES TIMES TEAM

สตูล - ตำรวจน้ำสตูล ร่วมโครงการส่งเสริม ‘การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ’ กับ อบต.ตำมะลัง

วันนี้ 1 ก.พ. 2565 พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน. พร้อมข้าราชการตำรวจน้ำสตูลรวม 4 นาย ร่วมกับ อบต.ตำมะลัง ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล และคุณมานิต กวีรัตน์, ครู กศน.ตำมะลัง , ตัวแทนกลุ่มประมงเรือเล็ก, องค์การสะพานปลา จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ประจำปี 2565 ได้ทำการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ จำนวน 15,000 ตัว ณ บริเวณคลองตำมะลัง 

เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยมี นายมะหมัด หลงกูนัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตำมะลัง เป็นประธานในโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ

ทั้งนี้ การปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำในครั้งนี้ทำให้มีการขยายพันธุ์กุ้งเพิ่มขึ้นอีกด้วย

'ผบ.สอ.รฝ.' เยี่ยมให้กำลังใจ!กำลังพล ในการขจัดคราบน้ำมัน ที่ชายหาดแม่รำพึง

พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่มาสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งได้รับประสานจากศูนย์ควบคุมปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) ซึ่งหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้สนับสนุนกำลังพลในการเข้าขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.65 เป็นต้นมา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการให้ทุกหน่วยของกองทัพเรือ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีน้ำมันรั่วไหล ในจังหวัดระยอง อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ซึ่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้นำความห่วงใย และกำลังใจ จากผู้บัญชาการทหารเรือ มามอบให้กับกำลังพลทุกนาย ได้รับทราบว่า ผู้บังคับบัญชามีความห่วงใย และเป็นกำลังใจให้เสมอ พร้อมทั้งขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามแนวทางของการเข้าขจัดคราบน้ำมันที่ได้รับการอบรมโดยเคร่งครัด ซึ่งการทำงานดังกล่าวนี้ ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง

 

กาฬสินธุ์ - ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ ชี้!มูลความผิดวินัย และอาญา นายก อบต.

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ [ป.ป.ช.] ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 4 เดือน ชี้มูลความผิดวินัยและอาญา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กับพวก รวม 8 ราย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ [ป.ป.ช.] ประจำ จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565  สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้แถลงผลการดำเนินงานในรอบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 - 31 มกราคม 2565 ทั้งด้านการป้องกันการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และด้านการปราบปรามการทุจริตหลายรายการ

ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ นั้น แบ่งออกเป็นทางด้านการป้องกันการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และด้านการปราบปรามการทุจริต  ดังนี้ ด้านการป้องกันการทุจริตและการป้องกันการทุจริตเชิงรุก 1. ดำเนินการเปิดศูนย์เรียนรู้ชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมคุณธรรมและการป้องกันการทุจริตของ จ.กาฬสินธุ์, 2. การตรวจติดตามการใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบโควิด-19 กรณี โคก หนอง นา โมเดล, 3. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์ กรณีมีการก่อสร้างถนน โดยไม่มีการรื้อถอนเสาไฟฟ้า ทำให้ปรากฏว่ามีเสาไฟฟ้าปรากฏอยู่กลางถนนที่ใช้ในการสัญจร, 4. ตรวจสอบกรณีการก่อสร้างตลาดสดของเทศบาลตำบลดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ตามที่เป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ Watchdogth Act ซึ่งได้ก่อสร้างเมื่อปี 2561 ใช้เงินกว่า 4.8 ล้านบาท สร้างไม่เสร็จปล่อยทิ้งร้าง ไม่สามารถใช้งานได้

ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน มีการตรวจสอบและเปิดบัญชีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีพ้นจากตำแหน่งจำนวน 49 ราย, ด้านการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหาอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ กับพวก รวม 8 ราย ว่าทุจริตโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายบ้านโคกสำราญ หมู่ 2 งบประมาณ 76,000 บาท และทุจริตโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายบ้านโนนเสียว หมู่ 6,14 งบประมาณ 100,000 บาท  เมื่อปีงบประมาณ 2559

‘วัชระ’ ร้อง ‘ลุงตู่’ ค้าน! ทรูควบรวมดีแทค ผูกขาดการค้าลิดรอนสิทธิ์ ปชช.!!

(31 ม.ค.65) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้กำกับดูแลให้คณะกรรมการ กสทช. และคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทุกฉบับโดยเคร่งครัด โดยไม่ให้มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการเลือกใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐาน จากกรณีกลุ่มบริษัทในเครือซีพี (กลุ่มบริษัททรู) จะควบรวมกิจการกับกลุ่มบริษัทในเครือเทเลนอร์ (กลุ่มบริษัทดีแทค) ซึ่งปรากฏว่ามีนักวิชาการ นักคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้แสดงความกังวลถึงสิทธิของผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานที่จะถูกลิดรอนไปอันเป็นผลจากการควบรวมกิจการดังกล่าว เนื่องจากตามข้อมูลของ กสทช.

ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 141 ล้านเลขหมาย ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายใหญ่ (ไอไอเอส ทรู และดีแทค) 132 ล้านเลขหมาย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดรวมกันสูงถึงร้อยละ 93 และทั้ง 3 รายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือตลาดทั้งสิ้น แต่เมื่อมีการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มทรูและกลุ่มดีแทคแล้วจะเป็นรายที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 57 ซึ่งถือว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือตลาดเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญกว่านั้นการควบรวมนี้จะทำให้กลุ่มบริษัทใหม่หลังการควบรวมจะกลายเป็นผู้ถือครองคลื่นความถี่จำนวนมากที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย คือจำนวน1,260 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย “มาตรา 60 ...คลื่นความถี่เป็นสมบัติของชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ... องค์กรดังกล่าว (กสทช.) ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้มีการแสวงหาประโยชน์จากผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรมหรือสร้างภาระแก่ผู้บริโภคเกินความจำเป็น ... ป้องกันการ กระทำที่มีผลเป็นการขัดขวางเสรีภาพในการรับรู้หรือปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลหรือข่าวสารที่ถูกต้อง ... และป้องกันมิให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของประชาชนทั่วไป...” 

การควบรวมกิจการดังกล่าว อันเป็นการจำกัดลิดรอนสิทธิ์ของผู้บริโภค จึงถูกบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 “มาตรา 27 (11) กำหนดมาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผู้ขาดหรือก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน...” “มาตรา 27 (13) คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบกิจการและคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่...” และ “มาตรา 31... ตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบกิจการฯ มิให้มีการดำเนินการใดๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ...” ซึ่ง กสทช. (กทช. ในขณะนั้น) ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติข้างต้นโดยออก ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2559 โดยเฉพาะใน “ข้อ 8 ... การเข้าซื้อหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้รับใบอนุญาตรายอื่นจำกระทำมิได้ เว้นแต่ กสทช.จะอนุญาต และหากการดำเนินการนั้นส่งผลให้เกิดการผูกขาดหรือลดหรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการ กสทช. อาจจะสั่งห้ามการถือครองกิจการ หรือกำหนดมาตรการเฉพาะ ...” 

นอกจากนั้น พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 21 บัญญัติให้ กสทช.ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการผูกขาด ทำให้กลุ่มทรูและกลุ่มดีแทค ต้องรายงานรายละเอียดการควบรวมกิจการต่อเลขาธิการ กสทช. ก่อนการดำเนินการใด ๆ โดยต้องมีรายละเอียดเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 ข้อ 5-11ซึ่งเลขาธิการ กสทช. ต้องเสนอรายงานดังกล่าว กสทช. พิจารณาภายใน60 วัน เพื่อให้กำหนดเงื่อนไขป้องกันความเสียหายในทันทีให้เป็นไปตามมาตรา 22 ของกฎหมายฉบับดังกล่าวโดยมีมาตรการป้องกันการผูกขาดหรือการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมให้เป็นไปตามประกาศข้างต้นในข้อ 12 

อีกทั้งกลุ่มทรูและกลุ่มดีแทค ประกอบธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือไปจากกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. จึงต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 “มาตรา 51 ...แจ้งผลการควบรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าภายใน 7 วัน เว้นแต่การควบรวมจะทำให้ผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการก่อนการดำเนินการ...” โดยมีรายละเอียดตามประกาศคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะในข้อ 10 แต่กลับปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนว่าหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าได้ปฏิเสธการดำเนินการ และอ้างว่าไม่ใช่อำนาจของตน แต่เป็นอำนาจของ กสทช. แต่เพียงผู้เดียว เพราะเป็นข้อยกเว้นในมาตรา 4 (4) ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงของกฎหมายตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เนื่องจากทั้งสองกลุ่มบริษัทล้วนประกอบธุรกิจอย่างหลากหลายนอกเหนือจากโทรคมนาคม

ไทย - ซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์ 32 ปี ส่งผลดีต่อแรงงานและการท่องเที่ยว | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.38

ข่าวดีรับปีใหม่!! เมื่อไทย-ซาอุฯ ฟื้นสัมพันธ์รอบ 32 ปี ส่งผลดีต่อภาคแรงงาน และการท่องเที่ยว ที่มีมูลค่าร่วมนับหมื่นล้าน

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

‘สวนนงนุชพัทยา’ จัดน้องช้างเชิดสิงโต ต้อนรับ ‘เทศกาลตรุษจีน’ พร้อมขยายเวลา ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม เที่ยวชมสวนฟรี!! ตลอดเดือน ก.พ.นี้

วันที่ 30 ม.ค. สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดขบวนแห่ช้างเชิดสิงโต ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2565 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยา โดยจะมีการจัดขบวนเชิดสิงโต นำช้างแสนรู้ทั้งหมด 8 เชือก และยังเหล่าบรรดานางฟ้า นางสวรรค์ที่มาร่ายรำอำนวยอวยพร มีอาม่า แปะยิ้ม ร่วมเฉลิมฉลองกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน โดยกิจกรรมดังกล่าว จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-  2 ก.พ. 65 ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่มีขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

สวนนงนุชพัทยา ยังได้ขยายเวลาต่อโปรโมชั่น ให้กับ ผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 3 เข็ม ชมสวนนงนุชพัทยา  ฟรี!! บัตรผ่านประตู ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมหมดอายุโปรโมชั่นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ขยายเวลาเพิ่มจนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 

สำหรับโปรโมชั่น ซื้อบัตรผ่านประตู 1 ท่านฟรี 1 ท่าน ยังคงใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เช่นกัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนและมอบความสุขให้กับพี่น้องชาวไทย และยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยให้มากยิ่งขึ้นไป  

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่นนี้ เพียงท่านแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ที่จุดบริการก่อนผ่านประตูเข้าชมสวนนงนุชพัทยา 

สำหรับเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย  สวนนงนุชพัทยาได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA Plus  พนักงานของสวนนงนุชพัทยา  และพนักงานหน้าด่าน (Frontline) ที่ต้องพบเจอแขกทุกวัน ได้รับการฉีดกระตุ้น เข็ม 3 ครบ 100 %

‘คุณสมบัติ - ดร.ชลิดา’ ขอบคุณลูกค้าคนพิเศษ!! จัดงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022 ตอบแทนทุกการสนับสนุน!!

คุณสมบัติ - ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ประธานกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ และประธานมูลนิธิ อินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ ต้อนรับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษในงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022" เพื่อตอบแทนที่ให้การสนับสนุน เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์ LINK ในบรรยากาศริมทะเลหัวหิน ฟังดนตรีสบาย ๆ ริมชายหาด และพูดคุยเทรนด์เทคโนโลยียอดฮิต  

พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัลมากมาย โดยเฉพาะยังได้นิมนต์พระมาให้ทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรริมหาดหัวหิน


🔴 ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน

สมุทรปราการ - สุดปัง!! ‘ดร.ยงยุทธ’ สส.พลังประชารัฐ ประธานตัดริบบิ้น เปิด ตรอ.สาขา 8 ร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวจิตต์สงวน

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานตัดริบบิ้นร่วมแสดงความยินดีกับทางด้าน พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน และครอบครัวจิตต์สงวน เนื่องในโอกาสทำบุญเปิดร้านตรวจสภาพรถ มังกร-หนามแดง (สาขา 8) ตั้งอยู่ติดริมถนนเทพารักษ์ เยื้องกับ รพ.สินแพทย์  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพิธีเปิดในครั้งนี้มีเพื่อนข้าราชการ รวมทั้งผู้ประกอบการร่วมในพิธีและร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก แบบ New Normal

โดย พิธีในช่วงเช้าวันนี้ทางครอบครัว พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน พร้อมด้วย ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน ถือฤกษ์ดีประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. โดยมี ดร.ยงยุทธสุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้ง แขกผู้มีเกียรติร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับทางร้านและทางครอบครัวจิตต์สงวน อีกด้วย

คำพูดเป็นดาบชนิดหนึ่ง บางคนใช้ทิ่มตนและแทงคน บางกลุ่มทิ่มแทงกันเอง ทั้งๆ ที่รู้ ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไร

คำพูดเป็นดาบชนิดหนึ่ง
บางคนใช้ทิ่มตนและแทงคน

บางกลุ่มทิ่มแทงกันเอง
ทั้งๆที่รู้ ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไร

- พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) -
 

‘เรื่องเพชรเท็จรายปี’ สีสันอันซ้ำซาก! จากปากพวก ‘คลับเห่า’!!! | MEET THE STATES TIMES EP.58

📌 ‘เรื่องเพชรเท็จรายปี’ สีสันอันซ้ำซาก! จากปากพวก ‘คลับเห่า’!!!
📌 เรื่องจริงที่ทุกคนรู้ ?? ยกเว้นพวก....คิดล้มเจ้า!!! 

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top