Saturday, 27 April 2024
สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี - ‘ตม.สุราษฎร์ธานี’ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน

“ตม.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.-ผบก.ตม.6” บูรณาการ “ตม.สมุทรสาคร-สืบ ตม.6-สืบภาค 8” ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน สารภาพรับขนเมียนมาจาก “หาดใหญ่” ส่งสมุทรสาคร แลกค่าหัว

19 เมษายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวัง รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี , ด.ต.พงษ์ศักดิ์ พัฒน์คง และ ด.ต.รังสรรค์ ศรีเมือง ผบ.หมู่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันสืบสวนขยายผล กรณีจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จนกระทั่งสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดไชยาออกหมายจับ Mr.Kyaw Thet OO หรือนายจอเท็ทอู ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ จ.24/2564 ลงวันที่ 16 เมษายน 2564

ต่อมาจากการสืบสวนทราบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จึงได้สนธิกำลังร่วมกับ ตม.จว.สมุทรสาคร, กก.สส.บก.ตม.6 และ บก.สส.ภ.8 ร่วมกันจับกุมตัวนายจอเท็ทอู อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา ได้ภายในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 พร้อมทั้งตรวจยึดโทรศัพท์ 2 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจอเท็ทอู รับสารภาพว่า เมื่อประมาณวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีนายโทน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง สัญชาติเมียนมา มาหาตนเพื่อว่าจ้างให้ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปส่งยังพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จำนวน 6 คน โดยตกลงค่าจ้างรายละ 5,000 บาท ตนจึงโทร.ไปหานายเดชา หรืออ๋า ให้ไปรับคนต่างด้าวจำนวน 6 คนดังกล่าว โดยตกลงให้ค่าจ้าง รายละ 5,000 บาท จนกระทั่งมาทราบว่านายเดชา พร้อมพวก และคนต่างด้าวถูกจับกุม

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจับกุมกรณีดังกล่าวในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหา เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการให้ที่พักพิง ช่วยเหลือคนต่างด้าวในการกระทำความผิด และแรงงานงานต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นภัยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยจะต้องเร่งตรวจตราจับกุมเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป หากประชนพบเห็นหรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งได้ที่สายด่วน 1178 หรือที่ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ทุกจุดทันที

สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ชื่นชมภาคเอกชน จิตอาสานำสิ่งของช่วยผู้เดือดร้อนโควิด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 เมษายน ที่ลานหน้าโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสุธี สุขานนท์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมไดมอนด์พลาซ่า พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ได้นำไข่ไก่ 10,000 ฟองมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด- 19 ระลอกใหม่ ตลอดทั้งวันประมาณ 1,000 ชุด ภายใต้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดให้จองคิวล่วงหน้าผ่านอินบ็อกเฟซบุ๊กโรงแรมเข้ารับได้รอบละ 5 คนต้องผ่านตรวจวัดอุณหูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รักษาระยะห่าง และไม่มีการสัมผัสระหว่างผู้ที่มารับของกับพนักงาน 

นายสุธี กล่าวว่า โรงแรมได้จัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวสุราษฎร์ที่ได้รับผลกระทบ และคิดว่าหากผู้ประกอบการหรือประชาชนที่ยังพอมีแรงเหลือลุกขึ้นมาช่วยเหลือซึ่งกัน และกันจะสามารถช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถฝ่าฟันวิกฤติการแพร่ระบาดระลอกใหม่ไปได้แน่นอน                                  

ด้านพระธรรมวิมลโมลี ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 16 เจ้าอาวาสวัดไตรธรรมาราม พระอารามหลวง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้มอบให้ตัวแทนนำสิ่งของ และข้าวสาร อาหารแห้งที่ได้รับถวายออกบิณฑบาตจากญาติโยม นำไปเติมที่ตู้ปันสุขข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ตั้งมากว่า 1 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนนำข้าวสาร ไข่ไก่มาร่วมเติมด้วย               

                                           

ขณะที่ น.ส.อภิชญาฎา เพชรรัตน์ จิตอาสาและผู้สื่อข่าว ร่วมกับเพื่อนและบุคคลที่รู้จักได้ตั้งกลุ่มไลน์ช่วยโควิด19 สฎ นำเงินส่วนตัวและที่มีผู้ร่วมสมทบจัดทำอาหารกล่อง และข้าวสาร อาหารแห้งเป็นชุด พร้อมสิ่งของอุปโภคไปส่งมอบให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด -19 และต้องกักตัวเอง 14 วันตามบ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้โดยขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนไว้แล้วกว่า 100 คน               

                                                                                                                                              

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กราบขอบพระคุณผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 16 ขอขอบคุณผู้ประกอบการ จิตอาสาและประชาชน พร้อมขอแสดงความชื่นชมในความมีน้ำใจที่มีความห่วงใยร่วมกันช่วยเหลือประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยความมีวินัยสวมใส่หน้ากากอนามัย 100เปอร์เซ็นต์ก่อนออกจากบ้านและความมีน้ำใจในการช่วยเหลือกัน

สุราษฎร์ธานี - จับจริง ปรับจริงแล้ว ไม่สวมหน้ากากอนามัย ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี พิพากษาปรับ 4,000 บาทผู้ประกอบการ สนับสนุนช่วยจิตอาสา ทำข้าวกล่องและซื้อเครื่องอุปโภค ส่งตามบ้านช่วยผู้กักตัวและกลุ่มหยุดงาน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศข่าวศาล จับจริง ปรับจริง โดยวันนี้ พนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ได้ยื่นฟ้องผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย (1 รายในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี) ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 2323/2564 เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักของตนในฐานความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราช บัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558โดยศาลมีคำพิพากษาปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท

ส่วนที่อาคารเอนกประสงค์รินทอง วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ได้มีประชาชน ประมาณ 300 คนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิง 8 แห่งใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานีและนักศึกษาที่ไปร่วมงานรับประกาศนียบัตร ได้ทยอยเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ ได้พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 41 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่พบจากการตรวจหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงสูงด้วยรถตรวจหาเชื้อชีววิทยาพระราชทาน จำนวน 326 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 273 ราย รักษาหายแล้ว 8 ราย เหลือยังรักษาที่โรงพยาบาล 265 ราย โดยล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีประกาศด่วนให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดในครัวเรือน ที่อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนและบุคคลที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโดยรถพระราชทานเคลื่อนที่ ที่วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ภายในวันที่ 22 เมษายนนี้

นายแพทย์ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยายาลสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้คัดกรองผู้ป่วยในกลุ่มที่ไม่มีอาการไปพักตัวเพื่อควบคุมโรคในโรงพยาบาลสนามท่าโรงช้าง อ.พุนพิน 96 ราย และโรงพยาบาลสนามราชภัฏสุราษฎร์ธานี 40 ราย รวม 136 ราย และภายใน 2 สัปดาห์นี้ถ้าสามารถค้นหาผู้ป่วย และนำตัวไปควบคุมโรคได้ สถานการณ์แพร่ระบาดคลัสเตอร์สถานบันเทิงจะลดลง ซึ่งได้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 400 เตียง จะเพียงพอต่อการองรับผู้ป่วย

วันเดียวกัน จิตอาสากลุ่มไลน์ช่วยโควิด-19 สฎ.นำโดย น.ส.อภิชญาฎา เพชรรัตน์ และคณะที่นำเงินส่วนตัวและที่มีผู้ร่วมสมทบจัดทำอาหารกล่อง และข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมสิ่งของอุปโภคไปส่งตามบ้าน 2 กลุ่ม ผู้กักตัวเอง 14วันที่ได้รับผลกระทบโควิด -19 และกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพได้กว่า 50 รายแล้ว ซึ่งมีเอกชนผู้ประกอบการร่วมนำวัตถุดิบปรุงอาหารและสิ่งของมาร่วมสมทบ ล่าสุด ศปก.ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมสินค้าทางน้ำและป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมมอบเครื่องบริโภค อาหารแห้ง จำพวก ข้าวสาร ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน ปลากระป๋อง


ภาพ/ข่าว สรเดช ส้มเกลี้ยง สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี - ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์เต็มลำ เฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำไปส่งต่อ สนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคของทางจังหวัด

วันที่ 3 พฤษภาคม 2564  พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการด่วน ให้เจ้าหน้าที่ทหารลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำไปส่งต่อให้กับจังหวัด ที่มีความต้องการอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกันและควบคุมโรค และนำไปแจกจ่ายให้กับบุคลากรเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ยังโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงได้ใช้ในการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19

ที่โถงชั้นล่างศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ส่งมอบอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กับ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบไปด้วยหน้ากากอนามัย N 95 จำนวน 100 ชิ้น ชุด PPE จำนวน 100 ชุด แว่นตาป้องกันโรค จำนวน 100 อัน เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ และถุงมือยาง อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 และโรงพยาบาลสนามที่ยังคงขาดแคลนอุปกรณ์ในการใช้ป้องกันตนเอง เนื่องจากเล็งเห็นว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อแพร่กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีผู้ป่วยสะสม 822 ราย อุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมโรคไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในปัจจุบัน รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมไปถึง พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เล็งเห็นความสำคัญในการให้กองทัพบก เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุน อำนวยความสะดวกให้แก่ หน่วยงานและส่วนราชการต่าง ๆ รองรับภารกิจในการควบคุมโรค รวมไปถึงการรักษา ขณะนี้กองทัพบกเองได้เข้าไปสนับสนุนทั้งบุคลากรและยุทโธปกรณ์ในการสร้างโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ทางจังหวัดร้องขอให้ดำเนินการในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีมณฑลทหารบกที่ 45 ที่ได้จัดโรงพยาบาลสนามสำรองไว้ ยังพื้นที่กองพันเสนารักษ์ มณฑลทหารบกที่ 45 รองรับผู้ป่วยหากมีการแพร่กระจายของโรค และเตียงในการรักษาไม่เพียงพอ พร้อมจะเปิดทำการในทันที ซึ่งที่ผ่านมาส่วนราชการได้ดำเนินการตามมาตรการการควบคุมโรค ตามที่ สบค. กำหนดอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ทำความเข้าใจและตระหนักรับรู้ผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐยึดปฏิบัติตามประกาศของแต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ เชื่อว่าเราก็จะก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน"

ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวขอบคุณ กองทัพภาคที่ 4  ที่มีความห่วงใยและสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัด และจะจัดมอบอุปกรณ์ที่ได้รับให้เกิดประโยชน์ต่อไป โดยจะจัดมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจต่าง ๆ ของจังหวัด เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์  และ อสม.ที่ยังคงปฏิบัติงานควบคุมและเฝ้าระวังโรคในพื้นที่อยู่ สำหรับสถานการณ์โรคขณะนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยกันป้องกันตัวเองโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม หากมีอาการหรือสุ่มเสี่ยง อย่าปิดบังข้อมูลกับแพทย์ เพราะจะทำให้ปัญหาต่างๆ บานปลาย ส่วนในเรื่องของการปลดล็อก คงต้องดูสถานการณ์ต่อไปอีกสักระยะ


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์  หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

สุราษฎร์ธานี – ชาวประมงพื้นบ้านนับพันคน ออกเก็บลูกหอยแครง ในอ่าวบ้านดอนคึกคัก

ขณะที่ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี หวั่นเป็นแหล่งแพร่ระบาดโควิด-19 เตือนให้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่บนเรือ

วันนี้(5 พ.ค.64)  นาวาเอก วศากร  สุนทรนันท์  รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายศุภพงษ์  เชาวน์แล่น  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ผู้แทนประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสื่อมวลชน ลงพื้นที่บริเวณอ่าวบ้านดอน  เขตท้องที่อำเภอท่าฉาง  จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยและสังเกตการณ์การเก็บลูกหอยแครงในพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอนเพื่อนำไปขาย โดยวันนี้พบเรือประมงพื้นบ้านจำนวนหลายร้อยลำ  กลุ่มชาวประมงชายหญิงนับพันคน  กำลังดำน้ำเก็บลูกหอยแครงด้วยวิธีธรรมชาติของชาวประมงพื้นบ้าน โดยไม่พบมีการใช้เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมาย  เบื้องต้นได้ตักเตือนและขอความร่วมมือคนบนเรือไม่ให้มีจำนวนแออัดจนเกินไป  และขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่บนเรือ  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ด้าน นายวิชวุทย์  จินโต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านนับพันคน  ทั้งจากพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและต่างถิ่น  ใช้เรือประมง เรือหางยาว ประมาณ 500 ลำ ออกจับลูกหอยแครงบริเวณอ่าวบ้านดอน ในท้องที่ อ.ท่าฉาง  ซึ่งมีการรวมกลุ่มจำนวนมาก และหลายรายไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19 กลุ่มใหญ่ หากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น จะนำไปสู่หมู่บ้านและครอบครัว ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้  เห็นควรให้มีการควบคุมจำนวนคนในเรือแต่ละลำไม่ให้แออัด และขณะอยู่บนเรือทุกคนต้องสวมหน้าอนามัย หรือหน้ากากผ้า สอดคล้องกับคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ผู้ที่ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ก่อนนี้แล้ว 

นอกจากนี้จะให้มีการตรวจสอบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือไม่  และได้แจ้งการเข้าพื้นที่ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคตามประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือไม่


ภาพ/ข่าว  สรเดช ส้มเกลี้ยง

สุราษฎร์ธานี - เที่ยวบินปฐมฤกษ์เกาะสมุยพลัสโมเดลกลุ่มแรก 8 คนจาก 5 ประเทศถึงแล้ว ‘พิพัฒน์’ เตรียมเปิดเชื่อมโยงท่องเที่ยว 4 จังหวัดภูเก็ต-เกาะสมุย-กระบี่-พังงา

เมื่อเวลา 11.35 น.วันที่ 15 กรกฎาคม ที่ท่าอากาศยานสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ร่วมต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กรุงเทพฯ-สมุย เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกจำนวน 8 คน จากประเทศฝรั่งเศส เยอรมัน สิงคโปร์ อังกฤษ และฮ่องกง ซึ่งหลังเสร็จพิธีการตรวจสอบเอกสารแล้ว ทั้งหมดได้เดินทางโดยรถตู้เฉพาะเดินทางไปยังโรงแรมที่พักที่กำหนดไว้ โดยในวันที่ 16 ก.ค.64 จะเข้ามาอีก 4 คน จากไต้หวันและญี่ปุ่น เป็นนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า วันนี้เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ได้มีความพร้อมเปิดบ้านรอรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา หลังเว้นว่างจากการท่องเที่ยวมาปีกว่าธรรมชาติได้คืนความสมดุลได้พบโลมา เต่าทะเล และชายหาดต่างๆมีความสมบูรณ์ เช่น ขณะนี้หาดเฉวงมีความสวยงามมากและคลื่นลมสงบ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเป็นกลุ่มที่มีความปลอดภัยได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เมื่อมาถึงจะมีการตรวจหาเชื้อซ้ำอีก 3 ครั้งและการเดินทางไปจะมีรถตู้เฉพาะ ส่วนโรงแรมที่พักเป็นพื้นที่เฉพาะเช่นกัน

“คนไทยที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว หรือมีผลตรวจโควิดเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ จึงเชื่อมั่นได้การเปิดท่องเที่ยวจะไม่มีการนำเชื้อเข้าสู่เกาะสมุย ซึ่งประชากรบนเกาะสมุยได้รับการฉีควัคซีนเข็มที่ 1 กว่า 94 เปอร์เซ็นต์ และเกาะพะงัน เกาะเต่ามีการฉีดกว่า 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ให้ความมั่นใจได้ประชาชนทั้ง 3 เกาะมีภูมิคุ้มกันพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว ” นายวิชวุทย์ กล่าว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นโยบายเปิดประเทศ 120 วัน จุดแรกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 ซึ่งการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อก หรือสมุยพลัสโมเดลในอนาคตจะมีที่กระบี่ เกาะพีพี ไร่เล เกาะไหง ที่พังงา เขาหลัก ตรงนี้นโยบายของนายกรัฐมนตรี คิดว่า วันนี้ในพื้นที่ต่าง ๆ หลายจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19แบบควบคุมได้เช่นเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ควรจะทำเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ไหนบ้าง

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในพื้นที่ 4 จังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ในปี 2562 มีรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปคิดว่าควรจะเปิดการท่องเที่ยวที่ไหนก่อน จึงเริ่มที่ภูเก็ตก่อน เพราะมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 4.7 แสนล้านบาทจากรายได้การท่องเที่ยวทั้งประเทศ 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2562 แต่ถ้าหากรวมเป็น 4 จังหวัดจะเพิ่มถึง 8 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ถือเป็นรายได้ที่มาก จึงเป็นที่มาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล ซึ่งตนเองได้ลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้ 3 เดือนโดยเฉพาะที่เกาะสมุยมาดูแล้วหลายรอบมาเก็บข้อมูลและทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเกาะสมุยนำวัคซีนมาฉีด 70 เปอร์เซ็นต์ชาวบ้านก็ยินดี

“ ที่ภูเก็ตก่อนจะเปิดแซนด์บ็อกซ์ ได้เปิดโครงการ SPV (สเปเชี่ยลทัวร์ริสต์)ในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 10,000 -12,000 คน ในขณะที่ 14 วันภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเกือบ 6,000 คน ตรงนี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือว่าประสบความสำเร็จดีมาก และการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อโควิด-19เพียง 7 คนเท่านั้นเองไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูแลตัวเองอย่างดี จึงเป็นความท้าทายของจังหวัดภูเก็ต เมื่อภูเก็ตและเกาะสมุยเดินได้ในอนาคตเราจะไปที่กระบี่และพังงาต่อ ” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า การริเริ่มเปิดเกาะสมุยพลัสโมเดล เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรมที่นำเสนอมาตรการ SOP ต่อศบค.เป็นความตั้งใจของผู้ประกอบการเกาะสมุยที่สามารถนำเสนอได้ครั้งเดียวผ่านการพิจารณาได้ ส่วนการประชาสัมพันธ์ออกไปอยู่ที่การเดินทางหรือไฟลท์บินไปลงที่สุวรรณภูมิหรือภูเก็ตก่อนมาเกาะสมุย ซึ่งเป็นข้อดีที่นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาไม่ต้องแห่เข้ามามาก เราจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งสายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้หารือทางประเทศสิงคโปร์ถ้าหากมีนักท่องเที่ยวที่เข้าไปสิงคโปร์ให้บางกอกแอร์เวย์ไปรับเข้าเกาะสมุยมาได้จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น

“ที่สำคัญการที่จะผนวกพื้นที่ 4 จังหวัดเข้าด้วยกันน่าจะเป็นไปได้ ภูเก็ตมีพร้อมสนามบินไปภูเก็ต 1 สัปดาห์ทำเส้นทางซีลรูทมาต่อที่เกาะสมุยอีก 7 วันครบ 14 วันก็จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อจังหวัดอื่นๆในประเทศไทย ซึ่งจะหาหารือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพิจารณาว่าจังหวัดไหนที่นักท่องเที่ยวควรไปเที่ยวต่อได้ กรณีชั่วโมงนี้ เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑลยังไม่ควรไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวปลอดภัย ซึ่งโครงการนี้จะเกิดในอนาคต” 

 ด้านนายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า วันนี้เกาะสมุยเริ่มต้นด้วย 3 เที่ยวบินต่อวันเป็นเที่ยวบินจากต่างประเทศโดยไม่ต้องกักตัวที่กรุงเทพฯ ในช่วงแรกเข้ามา 12 คนและเดือนแรกนี้มีการจองอยู่ที่ 33 คนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากระบบหนังสือการให้เข้าประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นเมื่อ 2 วันที่แล้ว ฉะนั้นหลังจากนี้จะเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์การขายให้ทั่วโลกทราบว่า เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ได้เปิดการท่องเที่ยวแล้ว

นายรัชชพร กล่าวว่า การที่มีสมุยพลัสโมเดลเป็นที่แรกถ้าใช้ได้ผลจะนำไปใช้ที่อื่นๆด้วย เนื่องจากการที่อยู่ในโรงแรมบนเกาะสมุย 7 วันจะทำให้ปลอดภัยต่อประชาชนที่อยู่บนเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และนักท่องเที่ยวชาวไทยยังเที่ยวได้เหมือนเดิมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ จุดนี้จะเป็นโมเดลก่อนซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้น ศปก.เกาะสมุยจะให้ภาคส่วนอื่นมีส่วนร่วมทั้งท่องเที่ยวชุมชน สภาเกษตรกรนำสินค้าผักผลไม้นำมาให้ผู้ประกอบการช่วยเหลือต่อ และหลัง 7 วันเมื่อนักท่องเที่ยวปลอดภัยอยากเสนอให้ลงไปยังเที่ยวชุมชน มีระบบติดตามโควิดแอพริเคชั่นระบบไฮบริด ทั้งระบบและบุคคลติดตาม มั่นใจได้ว่าการฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันหมู่ทั้ง 3 เกาะเกิน 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว และปัจจัยความสำเร็จสำคัญอยู่ที่ผู้ประกอบการช่วยเคร่งครัดทางสาธารณสุขเป็นหลัก

“ เราคาดหวังอยากให้สมุยพลัสโมเดลเป็นต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจจะเข้าใจได้ว่าช่วงแรกนักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่มาก แต่เมื่อได้ทำการตลาดมากขึ้นด้วยเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า มีชื่อเสียงอันดับโลกอยู่แล้วและภูเก็ตกับเกาะสมุยเป็นที่แรก ๆ ในเอเชียที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวได้มาพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโครงการสุขสมุยทำต่อจากนี้ ” นายรัชชพร กล่าว

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เที่ยวบินปฐมฤกษ์เปิดการท่องเที่ยวสมุยพลัสโมเดลวันนี้ (15 ก.ค.64)เป็นกลุ่มสื่อมวลชนที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชิญมาติดตามความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากนี้จะเน้นเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วหรือกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง เป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของทั้ง 3 เกาะ เช่นกลุ่มยุโรป กลุ่มตะวันออกกลาง และกลุ่มครอบครัว

“ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในห้วงระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคมถึง 15 สิงหาคมนี้ จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 คน อาจจะเป็นจำนวนที่ไม่มากนัก แต่เพื่อให้เกาะสมุยดำเนินการท่องเที่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วค่อยเร่งมาตรการด้านการท่องเที่ยว ขณะที่จะมีการเชื่อมโยงท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดโดยเปิดเส้นทางการบินระหว่างเกาะสมุยกับเกาะภูเก็ตแบบวันเว้นวัน และมีแผนเปิดทำการบินระหว่าง 2 เกาะทุกวันในเดือนสิงหาคมนี้ ”นายฉัททันต์ กล่าว

รายงานเพิ่มเติมว่า โรงแรมบนเกาะสมุย ปัจจุบันเปิดให้บริการ 177 แห่ง จำนวน 8,629 ห้องจากจำนวนทั้งหมด 671 แห่ง 25,000 ห้อง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในพื้นที่ 3 เกาะอย่างน้อย 14 วัน จึงจะออกไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นในประเทศไทยได้ ใน 7 วันแรกต้องเข้าพักโรงแรม Area Quarantine (AQ) ที่มี 19 แห่ง ประมาณ 400 ห้อง เมื่อ ครบ 3 วันแรกจึงจะสามารถออกท่องเที่ยวตามเส้นทางที่กำหนด (Sealed Routes) ได้ โดยมีบริษัททัวร์และเรือที่มีมาตรฐาน Samui Plus และวันที่ 8-14 จะเข้าพักโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมาย SHA Plus(มาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย) ที่มี 320 แห่ง หรือไปเที่ยวพักบนเกาะพะงันกับเกาะเต่าได้

ส่วนเที่ยวบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กรุงเทพฯ-สมุย ไป-กลับ วันละ 3 เที่ยวบิน จะรับผู้โดยสารต่อเครื่องจากต่างประเทศเป็นการเฉพาะ ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม-ตุลาคม 2564 มีผู้โดยสารจองตั๋วไว้แล้วเบื้องต้น 80 คน ประกอบด้วยเดือน กรกฎาคม 33 คน สิงหาคม 20 คน กันยายน 10 คน และตุลาคม อีก 17 คน 

สำหรับวันแรกของการเปิดโครงการฯ มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจำนวนรวม 11 คน จากเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของบางกอกแอร์เวย์ส กรุงเทพฯถึงสมุยเวลา 11.35 น. จำนวน 6 คน จากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี, เที่ยวบินที่ 2 ถึงสมุยเวลา 16.05 น. 1 คนจากสิงคโปร์ และเที่ยวบินที่ 3 ถึงสมุยเวลา 18.40 น. 4 คนจากฮ่องกง ส่วนวันที่ 2 (16 ก.ค.) มีผู้โดยสาร 4 คน จากไต้หวัน 3 คน เป็นเจ้าของธุรกิจ 2 คน และมาทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย 1 คน และจากญี่ปุ่นอีก 1 คน เป็นนักธุรกิจ


ภาพ/ข่าว  สรเดช ส้มเกลี้ยง สุราษฎร์ธานี

“ตม.จว.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย ผบ.ตร.- ผบช.สตม. นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) ออกตรวจเข้ม!! จับกุมชาวอังกฤษอยู่เกินวีซ่าหลบในไทย ถูกดำเนินคดีและผลักดันส่งกลับ ติดแบล็คลิสยาว 5 ปี

วันนี้ 16 ต.ค.2564 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี แถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย โดย ผกก.ตม.จว. สุราษฎร์ธานี สั่งการการให้ พ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รองผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อํานาจเจริญยิ่ง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวัง รองสว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, ร.ต.ท.ประมุข กองกุล รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, ด.ต.ภรภัทร เมืองชู, ด.ต.ธเนศพล สำลี, ด.ต.สิทธิชัย รอดเอียด และ ส.ต.อ.พนมกร สากุลา ผบ.หมู่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW ออกตรวจพื้นที่ตามมาตรการป้องกันปราบปรามการกระทำผิด เพื่อป้องกันผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

โดยเมื่อวันที่ผ่านมาได้ร่วมกันจับกุมตัว Mr.Craig Campbell อายุ 43 ปี สัญชาติ บริติช ได้ที่บริเวณ ริมถนนโฉลกรัฐ10/2 หมู่ 2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จว.สุราษฎร์ธานี โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนดอนุญาต 349 วัน)” และในชั้นจับกุม ผู้ถูกจับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ถูกจับนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเมื่อคดีสิ้นสุดจะถูกผลักดันส่งกลับประเทศ และถูกห้ามกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี 

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและมาตรการในการป้องกันปราบปรามของพล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ประพันศักดิ์ประสานสุข ผบก.ตม.6 ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการสืบสวน ปราบปราม และเข้มงวดกวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้วกระทำผิดกฎหมาย  ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่เชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศได้ 

'พล.อ.ประวิตร’ ลงชุมพร สุราษฎร์ธานี เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมและแสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ห่วงสถานการณ์อุทกภัยหลายพื้นที่ สั่งจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าภาคใต้

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อ 1145 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จว.ชุมพรและสุราษฎร์ธานี เป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยได้สั่งการให้ สทนช.จัดต้ัง “ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้” พร้อมลงรับทราบติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาพรวม จากส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จว.ชุมพร

โดยสรุปสถานการณ์ภาพรวม จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่ 10 พ.ย.64 ส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งใน 8 จว.ภาคใต้หลายพื้นที่  ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขัง 3 จว.คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานีและสงขลา รวม 10 อำเภอ 315 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครอบครัว โดยคาดการณ์ว่ายังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลต่อระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลางของภาคใต้ มีปริมาณน้ำมากกว่า 80%และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลายแห่ง เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ 

พล.อ.ประวิตร’ ย้ำว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่จังหวัด  ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบหลายครัวเรือน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอเป็นกำลังใจกับผู้ประสบภัยทุกครอบครัว พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลและทุกส่วนราชการจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการช่วยเหลือดูแลจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ เร่งระบายน้ำลงทะเล โดยเฉพาะ  อ.สวี อ.ท่าแซะ อ.เมือง จว.ชุมพร ที่เป็นที่ต่ำและยังคงมีน้ำท่วมขัง  พร้อมทั้งให้กระจายช่วยเหลือเร่งด่วนให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  เร่งสำรวจความเสียหายและเยียวยาผู้ประสบภัยให้ทั่วถึง  ขณะเดียวกันให้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์และพื้นที่เสี่ยง โดยต้องมีการแจ้งเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง 

 

สุราษฎร์ธานี - “นิพนธ์” ล่องใต้!! อ.กาญจนดิษฐ์ - ดอนสัก ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำชับทุกฝ่ายดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดฤดูมรสุมและเร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาโดยเร็ว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ และตำบลชลคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย จำนวน 200 ชุด ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 6 - 19 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ 14 อำเภอ และสถานการณ์คลี่คลายแล้วทั้งหมด แต่ยังมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ความเสียหายในภาพรวมประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 14 อำเภอ 52 ตำบล 268 หมู่บ้าน 3,147 ครัวเรือน 10,087 คน  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 86 ล้านบาท

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยกระทรวงมหาดไทยนั้นมีภารกิจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลกรมปภ. มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนโดยตรงเมื่อเกิดทั้งภัยน้ำท่วมและน้ำแล้ง สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำคือการสร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล จะเป็นการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากน้ำได้อย่างครบวงจร สามารถบรรเทาความรุนแรงของภัยได้ รวมทั้งการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้รับทราบข้อมูลข่าวสารก่อนเกิดภัยก็จะมีส่วนช่วยให้ลดความรุนแรง ความสูญเสียได้อย่างมาก

 

ตำรวจท่องเที่ยว ‘เกาะพะงัน’ ช่วยนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี 5 คน หลังหลงป่าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ

(1 มี..65) สายตรวจ TPB (เกาะพะงัน)ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จเกาะพะงัน ประสานมายังเจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี จำนวน 5 คน หลงป่า ทราบชื่อ 1. Mr.Meinhardt Tom Yannickอายุ 26 ปี สัญชาติ เยอรมนี 2. Mrs.Konig Laura Louiseอายุ 24 ปี สัญชาติ เยอรมนี 3. Mrs.Sapani Vivien Deniece อายุ 25 ปี สัญชาติ เยอรมนี / 4. Mrs.Scheub Lena สัญชาติ เยอรมนี และ 5. Mrs.Fuchs Tani Katharina สัญชาติ เยอรมนี ซึ่งทั้งหมดเดินหลงป่าอยู่บนเขาหรา

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยมี พล...กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3, ...เอกกฤต วิริยะภาพ รอง ผบก.ทท.3, ...พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.2 บก.ทท.3 จากนั้นผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ พ...อธิวัฒน์ มารุดเกล้า สว..ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้มอบหมาย สั่งการให้ ด..สายัณห์ สุทธิมาศ หัวหน้าชุด ตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะพะงัน เพื่อจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเตรียมอุปกรณ์ ทำการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเกาะพะงัน, ร่วมบูรณาการทำงานร่วมกันวางแผนการเดินทางขึ้นไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

จากนั้นได้เดินทางไปยังทางขึ้นจุดชมวิวเขาหรา บ้านมะเดื่อหวาน ม.3 .เกาะพะงัน และเริ่มต้นเดินทางขึ้นเขาหราไปค้นหานักท่องเที่ยวตามโลเคชั่นที่นักท่องเที่ยวส่งมา ในขณะเดินค้นหาอยู่ในป่าเจ้าหน้าที่ได้ร้องตะโกนเรียกนักทั้งเที่ยวทั้ง 5 คนในป่า จนได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ตะโกนกลับมาและเดินทางไปตามเสียงของนักท่องเที่ยวใช้เวลาค้นหาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง จนพบตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ติดอยู่ตรงทางใกล้ธารน้ำตก ทั้ง 5 คนปลอดภัย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top